• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Press Release

#1
[img=http://][/img]

มอร์โฟซิส โฮลดิ้ง ดิจิทัลเอเจนซี่ชั้นนำของไทย เผย 5 เทรนด์ดิจิทัลมาแรงในปี 2021 ที่สามารถช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคสนใจซื้อสินค้าและบริการจากแพลตฟอร์มดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับการที่บริษัทต่างๆ เริ่มให้ความสำคัญกับแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ดิจิทัลเพื่อตอบสนองผู้บริโภคทั้งในปัจจุบันและอนาคต

นายเจเรมี่ ทิสโซ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มอร์โฟซิส โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า "ปัจจุบันบริษัทของเราได้ให้คำปรึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ดิจิทัลให้กับลูกค้าที่ดำเนินธุรกิจในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ การขนส่งพัสดุ คริปโตเคอร์เรนซี ฯลฯ ซึ่งมีแนวโน้มการเจริญเติบโตสูงมากแม้ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็ตาม"

สอดคล้องกับการที่คณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ได้เปิดเผยถึงข้อมูลภาพรวมของเทคโนโลยีดิจิทัล 3 อันดับแรกที่ผู้ประกอบการเอกชนไทยมีการนำมาประยุกต์ใช้สูงสุด ได้แก่ Cloud 70.3%, Data Analytics 61.5% และ AI 41% แสดงให้เห็นว่าบริษัทต่างๆ ในไทยได้เริ่มปรับเปลี่ยนสู่การเป็นธุรกิจดิจิทัลมากขึ้น

โดยต่อไปนี้คือเทรนด์ดิจิทัล 5 อันดับสูงสุดที่กำลังได้รับความนิยมทั้งในไทยและต่างประเทศ

[img=http://][/img]

1. AI-Powered Optimization - เพิ่มประสิทธิภาพการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย AI

ปัจจุบันหลายบริษัทได้นำ AI มาช่วยในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค เช่น การใช้โซเชียลมีเดียของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย โดยทำการรวบรวมข้อมูลที่ได้เพื่อใช้วางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุด อีกทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจ้างบุคลากรไปพร้อมกัน ถือได้ว่าช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและยังสามารถสร้างความได้เปรียบต่อคู่แข่งอื่นๆ ในตลาดที่ไม่ได้ใช้เทคโนโลยี AI อย่างเห็นได้ชัด

2. Programmatic Advertising - สั่งซื้อและจัดการเคมเปญโฆษณาด้วย AI

ปกติแล้วการลงโฆษณาออนไลน์จะต้องมีคนคอยตรวจสอบและแก้ไขเคมเปญเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด แต่ตอนนี้มีการใช้ AI มาทำหน้าที่ตั้งแต่เริ่มต้นตั้งค่าการยิงโฆษณาให้อยู่ในกรอบงบประมาณที่ตั้งไว้ รวมถึงเลือกรูปแบบโฆษณาที่เหมาะสมในขณะนั้น และยังสามารถเลือกช่องทางโฆษณาที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เยอะที่สุดอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าคนปกติไม่อาจปรับเปลี่ยนการเผยแพร่โฆษณาได้เร็วเท่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์แน่นอน

[img=http://][/img]

3. Conversational Marketing - วิเคราะห์คำถามและสร้างบทสนทนาด้วย AI


ผู้บริโภคยุคนี้ล้วนอยากได้การตอบสนองที่รวดเร็ว โดยเฉพาะการสอบถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการ เช่น "สินค้านี้มีให้เลือกกี่สี?" หรือ "มีแพ็กเกจรับทำ SEO อะไรบ้าง?" แน่นอนว่าคำตอบหรือการแก้ไขปัญหาที่ฉับไวทันทีสามารถเกิดขึ้นได้ด้วยการใช้ AI ที่สามารถวิเคราะห์คำถามและสร้างบทสนทนาโต้ตอบได้อย่างเป็นธรรมชาติคล้ายกับมนุษย์ และยังมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้อีกด้วย โดยเฉพาะในด้านการตอบสนองที่แม่นยำและรวดเร็ว

4. Progressive Web Apps - เปลี่ยนเว็บแอปพลิเคชันให้ทำงานเร็วเหมือนแอปฯ ในมือถือ

มอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ยอดเยี่ยมให้กับผู้บริโภคได้ด้วย Progressive Web Apps (PWA) ที่ทำงานได้อย่างรวดเร็วและกินทรัพยากรน้อยกว่าเว็บแอปปกติ โดยไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดแอปฯ เพื่อเข้าใช้งานให้เปลืองพื้นที่ อีกทั้งบางฟีเจอร์ก็สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งปัจจุบันบรรดาบริษัทต่างๆ เริ่มที่จะพัฒนาเว็บไซต์ของตนให้เป็น PWA เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

[img=http://][/img]

5. Visual search & Voice search - การค้นหาด้วยภาพและเสียง

เพิ่มโอกาสการขายสินค้าและบริการให้กับธุรกิจด้วยการทำให้ทุกสิ่งสามารถค้นหาได้ด้วยภาพ เช่น การค้นหาด้วยภาพจาก Google search หรือ Google lens ที่กำลังได้รับความนิยมสูงขึ้น รวมถึงพัฒนาแพลตฟอร์มให้รองรับการค้นหาด้วยเสียงที่ทำให้การสั่งอาหารผ่านแอปฯ หรือการค้นหาเสื้อผ้าสไตล์ที่ใช่ในตลาดออนไลน์ให้เป็นไปได้อย่างง่ายดายด้วยการพูดเพียงหนึ่งคำสั้นๆ

มอร์โฟซิส โฮลดิ้ง ยินดีให้คำปรึกษาและช่วยคุณสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ดิจิทัลที่จะช่วยมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าของคุณ เพราะเราเป็นดิจิทัลเอเจนซี่ที่มีทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทีมออกแบบ UX / UI ทีมวิจัยประสบการณ์ผู้ใช้ และทีมการตลาดดิจิทัล พร้อมประสบการณ์การทำงานมากกว่า 15 ปี ร่วมกับแบรนด์ชั้นนำทั้งในไทยและต่างประเทศ

เยี่ยมชมเว็บไซต์และดูผลงานของเราได้ที่ https://www.morphos.is/th/
#2
[img=http://][/img]

พบกับของขวัญแสนล้ำค่าที่ผสานความงามสุดเปล่งประกายจากธรรมชาติ เฉพาะที่ Matara Studio เท่านั้น


Matara Studio แบรนด์เครื่องประดับหรูที่เชี่ยวชาญด้านไข่มุกจากธรรมชาติและมุกเลี้ยง พร้อมเผยโฉมเครื่องประดับมุกคอลเล็กชันล่าสุด 'Matara High Jewelry'

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย - Matara Studio มีความภูมิใจที่ได้เปิดตัวเครื่องประดับคอลเล็กชันแรก 'Matara High Jewelry' ที่โดดเด่นด้วยสไตล์การออกแบบที่ผสมผสานวัสดุอันล้ำค่า ทั้งไข่มุกแท้ เปลืองหอยมุก เพชร พร้อมลวดลายแปลกใหม่เฉพาะของแบรนด์เข้าด้วยกันอย่างลงตัว สะท้อนดีไซน์ที่เหนือจินตนาการของมธรา และตอบโจทย์สำหรับหญิงสาวที่มีความชื่นชอบคอลเล็กชัน Matara Signature X

เพราะธรรมชาติเปรียบเหมือนตัวแทนของการเริ่มต้นใหม่ Matara Studio จึงเชื่อว่าคอลเล็กชันใหม่ล่าสุด Matara High Jewelry นี้ได้ถ่ายทอดความงามอันไร้ที่ติของธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาการเริ่มต้นที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา

เครื่องประดับทุกชิ้นตั้งแต่สร้อยข้อมือมุก แหวนมุก ต่างหูมุก และสร้อยคอมุก ล้วนมาจากมุกและเพชรระดับไฮเอนด์ รวมไปถึงเปลือกหอยมุก เพื่อสร้างสรรค์เครื่องประดับมุกที่มีความแพรวพราวและน่าสนใจจนใครก็ไม่อาจละสายตาได้

เครื่องประดับไข่มุกแต่ละชิ้นนั้นมีเอกลักษณ์ที่ไม่ซ้ำใคร และยังเป็นผลงานจากช่างฝีมือที่มีชื่อเสียงที่สุดของไทย ที่ทำให้คุณสามารถสวมใส่เครื่องประดับมุกได้ทุกโอกาส เหนือกาลเวลา

"เราฉีกกรอบความคิดแบบเดิมๆ เกี่ยวกับเครื่องประดับมุกดีไซน์คลาสสิก ด้วยการนำเสนอความคิดสร้างสรรค์จากการผสมผสานความงามและความสมบูรณ์แบบของไข่มุกเข้ากับการออกแบบสไตล์ดั้งเดิม และร่วมสมัย"
จงจินต์ จึงสุระ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด Matara Studio

เกี่ยวกับ MATARA STUDIO
Matara Studio ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2557 โดยกลุ่มเพื่อนสนิท 3 คน นำโดยจงจินต์ จึงสุระ, สาลิล อันธพันธ์ และพัชชาพลอย เมธารุ่งสมบัติ ที่ร่วมกันสร้างแบรนด์ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงขยายช่องทางการขายไปสู่ร้านค้ามัลติแบรนด์ทั่วโลก ทั้งในลอนดอน ปารีส นิวยอร์ก รวมถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการรังสรรค์เครื่องประดับมุกที่แสดงถึงงานฝีมือชั้นยอดของแบรนด์ จึงเป็นเหตุผลที่มธราสามารถเนรมิตเครื่องประดับสุดหรูให้กลายเป็นผลงานศิลปะชิ้นเอกได้อย่างน่าอัศจรรย์
#3
[img=http://][/img]

ชินเพาเวอร์ ผู้นำด้านอุปกรณ์แสงสว่าง โคมไฟ หลอดไฟ LED สำหรับภาคอุตสาหกรรมครบวงจร นำเสนอโคมไฟไฮเบย์ LED ที่เหมาะสำหรับการใช้ในโรงงานหรือโกดังสินค้า

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย - ชินเพาเวอร์ ภูมิใจที่ได้ส่งมอบโคมไฟ LED คุณภาพสูงมาตรฐานระดับสากลให้กับโรงงานอุตสาหกรรมชั้นนำ บริษัท และหน่วยงานราชการ ตลอดระยะเวลากว่า 18 ปี ซึ่งโคมไฟทุกชนิดของชินเพาเวอร์มีข้อดีครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพความสว่างสูง ทนทานใช้งานได้ยาวนาน ราคาที่สมเหตุสมผล และบริการหลังการขายที่ดูแลอย่างใกล้ชิด

โดยเฉพาะโคมไฟไฮเบย์ LED ของชินเพาเวอร์ที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหมาะสำหรับใช้เป็นโคมไฟโรงงาน ไฟโกดัง และคลังสินค้า เพราะออกแบบพิเศษด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ที่เลือกใช้ LED Chip และ Driver จากผู้ผลิตชั้นนำระดับโลก มอบประสิทธิภาพการส่องสว่างได้ยาวนาน ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ รองรับการใช้งานหนัก ช่วยประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดี และผ่านการรองรับตามมาตรฐานในประเทศและต่างประเทศ

ชินเพาเวอร์ยังมีโคมไฟสปอร์ตไลท์สำหรับส่องสว่างสนามกีฬา เช่น สนามฟุตบอล สนามเทสนิส หรือสนามกอล์ฟ สร้างความสว่างสูงสุดถึง 192,000 ลูเมน พร้อมมุมกระจายแสงแบบพิเศษที่มีให้เลือกใช้มากกว่า 8 มุม สามารถให้ความสว่างกับสนามฟุตบอลระดับ FIFA ที่ความสว่างระดับ 1200 lux ได้ ตัวโคมไฟสปอร์ตไลท์มาพร้อมกับระบบป้องกันต่างๆ ที่ช่วยยืดอายุการทำงาน เช่น Short Circuit Protection, Over Power Protection, Over Temperature Protection และ Surge Protection

โคมไฮเบย์และโคมไฟสปอร์ตไลท์ของชินเพาเวอร์รับประกันสินค้าสูงสุด 7 ปี การันตีคุณภาพด้วยกลุ่มลูกค้าชั้นนำทั่วประเทศไทย และสามารถเพิ่มระบบควบคุมและสั่งงานโคมไฟแบบไร้สาย Smart IoT Lighting ที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้แก่โรงงานได้ในระยะยาว

"โคมไฟไฮเบย์กับโคมไฟสปอร์ตไลท์เป็นสินค้าขายดีของชินเพาเวอร์มาโดยตลอด เนื่องจากให้ประสิทธิภาพความสว่างสูง มีระบบป้องกันต่างๆ ทั้งยังสามารถใช้งานได้ยาวนานและมีราคาที่เหมาะสม นอกจากนี้ เรายังมีทีมงานมืออาชีพคอยให้คำปรึกษาและแนะนำสินค้าได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า"
ณัฐดนัย ลิขิตกิจบวร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชินเพาเวอร์ จำกัด

หากคุณมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับโคมไฟไฮเบย์ โคมสปอร์ตไลท์ หรือโคมไฟอุตสาหกรรมชนิดอื่นๆ ชินเพาเวอร์มีทีมผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำแนะนำในเรื่องสินค้าและการติดตั้งไฟในสถานที่ต่างๆ แบบมืออาชีพ ติดต่อเราได้ที่ https://chinpower.net/contact-us/ หรือ LINE @chinpower