ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN

บุหรี่ paradox ราคาถูก นุ่มๆ แน่นๆ ส่งด่วน เก็บเงินปลายทาง นุ่มๆ แน่นๆ ใบยาดีมวนใหญ่ กล่องแข็ง มี 20 มวน รสดี นุ่มสบายคอ

• สีเหลือง สายร้อน
  
• สีเขียว สายเย็น
  

บุหรี่ paradox ราคา1 คอทตอน ราคา 290 บาทติดต่อสั่งซื้อLine :: @pra777บุหรี่ paradoxParadox : รสดี นุ่มสบายคอ20 มวน/ซอง*** หมายเหตุ : สินค้าบางล็อตอาจจะมีรูปคำเตือน
ทางร้านขออนุญาตจัดไปให้ลูกค้า โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ***
Tags :: บุหรี่ paradox ราคา

ประธานคณะมนตรียุโรปชี้ EU ต้องแบนน้ำมัน-ก๊าซรัสเซียไม่ช้าก็เร็ว

นายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป กล่าวต่อรัฐสภายุโรปว่า ไม่ช้าก็เร็วสหภาพยุโรป (EU) ต้องใช้มาตรการแบนนำเข้าน้ำมันหรือแม้กระทั่งก๊าซจากรัสเซีย นอกเหนือไปจากการแบนนำเข้าถ่านหินที่กำลังหารือกันอยู่ในขณะนี้

มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ของ EU จะต้องได้รับความเห็นชอบจากประเทศสมาชิกทั้งหมด 27 ประเทศ โดยการคว่ำบาตรรอบนี้จะเป็นรอบที่ 5 นับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.

บรรดานักวิจารณ์ระบุว่า EU จำเป็นต้องแบนการนำเข้าน้ำมันและก๊าซจากรัสเซีย เพราะรัสเซียกวาดรายได้จากส่วนนี้หลายพันล้านดอลลาร์ต่อสัปดาห์ อย่างไรก็ดี EU ต้องพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียอย่างมาก โดยข้อมูลในปี 2563 ระบุว่า EU นำเข้าก๊าซราว 40% และน้ำมันราว 37% ของทั้งหมดจากรัสเซีย

คิง เพาเวอร์ ชวนช้อปฉ่ำใจ รับโปรคุ้ม สนุกทุกโปรร้อน ฉลองสงกรานต์นี้ ตั้งแต่วันที่ 6 - 17 เมษายน 2565

ฉลองเทศกาลสงกรานต์ คิง เพาเวอร์ ชวนช้อปฉ่ำใจคลายร้อนกับโปรโมชั่นที่จัดกระหน่ำให้ทุกคนเตรียมพร้อมต้อนรับการเดินทางที่กลับมาอีกครั้ง กับแคมเปญ READY GO SUMMER ช้อปฉ่ำใจ รีบรับโปรคุ้ม สนุกทุกโปรร้อน กับสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำ โดยลูกค้าที่มีแผนการเดินทางสามารถซื้อสินค้าดิวตี้ ฟรี ได้ หรือลูกค้าที่ยังไม่มี แผนเดินทางไปต่างประเทศก็สามารถเลือกช้อปสินค้าแบบไม่มีไฟลต์บินได้ในรูปแบบ โฮม เดลิเวอรี่ พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ,พัทยา , ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 6 - 17 เมษายน 2565 และศรีวารี ระหว่างวันที่ 9 - 10 และ 13 - 17 เมษายน 2565

สมาชิกคิง เพาเวอร์ และลูกค้าคนไทย เพียงลงทะเบียนก่อนช้อป รับฟรีทันที คูปองส่วนลดมูลค่า 1,200 บาท สำหรับช้อปสินค้าตั้งแต่ 6,000 บาท ขึ้นไป / ใบเสร็จ และคูปองส่วนลดมูลค่า 2,000 บาท สำหรับช้อปสินค้าตั้งแต่ 8,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ (เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ)
พิเศษ !! ลุ้นเพิ่มช้อปฟรีกับคิง เพาเวอร์ ช้อปครบทุก 10,000 บาท รับสิทธิ์ร่วมลุ้นรางวัล GIFT CARD มูลค่า 10,000 บาท โดยในช่วงระหว่างวันที่ 13 - 17 เมษายน รับคูปองลุ้นรางวัล x2 และ เมื่อช้อปครบ 40,000 บาท ขึ้นไป รับทันทีกระเป๋าเดินทาง 1 ใบ (สินค้ามีจำนวนจำกัด)
ช้อปคุ้มค่า ท้าลมร้อน เพียง ซื้อ CASH CARD 10,000 บาท รับฟรี GIFT CARD 3,000 บาท , ซื้อ CASH CARD 25,000 บาท รับฟรี GIFT CARD 10,000 บาท
ต้อนรับสมาชิกใหม่ King Power รับ E-Purse เพิ่มเติมสูงสุด 18,000 บาท พร้อมส่วนลดสูงสุด 30% จากพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว อาทิ การบินไทย / The Standard Bangkok Mahanakhon / Firster / King Power Click & Collect และพิเศษสำหรับสมาชิกรอยัล ออร์คิด พลัส เดิม หรือ ผู้ถือบัตรโดยสารการบินไทย เพียงแสดงหลักฐานที่จุดบริการสมาชิกรับสิทธิพิเศษส่วนสูงสุด 20% สำหรับสินค้าโฮมเดลิเวอรี และ ดิวตี้ ฟรี ชิ้นแรก พร้อมสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย ตั้งแต่วันที่ 6 - 17 เมษายน 2565 (สิทธิ์มีจำนวนจำกัด)

เตรียมตัวให้พร้อมกับการเดินทางครั้งใหม่ สนุกกับการช้อปไปกับแคมเปญ READY GO SUMMER ช้อปฉ่ำใจ รีบรับโปรคุ้ม สนุกทุกโปรร้อน ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ,พัทยา , ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 6 - 17 เมษายน 2565 และศรีวารี ระหว่างวันที่ 9 -10 และ 13 - 17 เมษายน 2565

ดัชนี PMI ภาคการบริการอังกฤษเดือนมี.ค. ขยายตัว แม้เผชิญแรงกดดันเงินเฟ้อ

เอสแอนด์พี โกล. เปิดเผยว่า บริษัทด้านบริการของอังกฤษมีการเติบโตที่แข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ แม้ว่าจะเผชิญแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่รุนแรง โดยขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบ 10 เดือน

รายงานระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการของอังกฤษเดือนมี.ค. ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 62.6 จาก 60.5 ในเดือนก.พ. ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์เบื้องต้นก่อนหน้านี้ที่ 61.0

ดัชนี PMI ยังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคบริการของอังกฤษยังคงมีการขยายตัว

ทั้งนี้ การขยายตัวดังกล่าวเป็นผลมาจากการยกเลิกข้อจำกัดด้านโควิด-19 และประชาชนออกมาจับจ่ายในกิจกรรมสันทนาการและความบันเทิงเพิ่มขึ้น

ยูเครนเผยเหยื่อในเมืองโบโรเดียนกาอาจมากกว่าเหตุสังหารหมู่ในเมืองบูชา

ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เปิดเผยว่า รายงานเหตุทารุณกรรมอันโหดเ.้ยมในเมืองโบโรเดียนกา ใกล้กับกรุงเคียฟ อาจเลวร้ายยิ่งกว่าความหายนะที่เกิดขึ้นในเมืองบูชา (Bucha)

ผู้นำยูเครนกล่าวในการแถลงข่าวช่วงค่ำต่อประชาชนว่า มีพลเรือนกว่า 300 รายที่ถูกสังหารและทารุณในเมืองบูชา อย่างไรก็ตาม ตัวเลขของเหยื่อที่รัสเซียสังหารในเมืองโบโรเดียนกาอาจมากกว่านั้น

"เราได้รับข้อมูลมาว่าในเมืองโบโรเดียนกาและเมืองอื่น ๆ ที่รัสเซียถอนกำลังออกไปแล้วนั้น อาจมีจำนวนเหยื่อสูงมากกว่านี้" ปธน.เซเลนสกีเผยทางแอปเทเลแกรม

"รัสเซียจะต้องรับผิดชอบ เรากำลังทำทุกอย่างให้รวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อล่าตัวทหารรัสเซียทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมเหล่านี้" ปธน.เซเลนสกีกล่าวเสริม

'เซเลนสกี' เรียกร้อง UN สอบสวนการสังหารหมู่ในยูเครน

ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวเรียกร้องให้สหประชาชาติและประชาคมโลกเข้าแทรกแซงเหตุการณ์ความรุนแรงที่กำลังเกิดขึ้นในยูเครน และสอบสวนการสังหารหมู่พลเรือนโดยกองทัพรัสเซีย ซึ่งถือเป็นการก่ออาชญากรรมสงครามที่โหดร้ายที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2

'สหประชาชาติควรต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว และต้องมีการปรับโครงสร้างเพื่อให้ภูมิภาคต่างๆสามารถเป็นตัวแทนในคณะมนตรีความมั่นคงได้อย่างเท่าเทียมกัน และจะต้องมีการนำเจ้าหน้าที่กองทัพรัสเซียเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม' ปธน.เซเลนสกีกล่าวต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ผ่านระบบออนไลน์ในวันนี้

'สิ่งที่กองทัพรัสเซียกระทำในเมืองบูชาคือความทารุณ โดยมีการละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติ' ปธน.เซเลนสกีกล่าว
ทางด้านนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวว่า สงครามรัสเซีย-ยูเครนได้สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโลก และเขาเรียกร้องให้มีการสอบสวนการสังหารหมู่ที่เกิดขึ้นในเมืองบูชา

ทั้งนี้ สหประชาชาติประเมินว่านับตั้งแต่ที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครนในวันที่ 24 ก.พ. พลเรือนยูเครนได้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1,232 ราย ขณะที่ตัวเลขจริงอาจมากกว่านั้น

NEX-BYD-EA ปรับขึ้นรับออเดอร์รถบัสไฟฟ้า Ecosystem เริ่มชัดหนุน Turnaround

ราคาหุ้น NEX และ BYD จากการส่งมอบรถ E-bus และการได้รับสัปทานในการเดินรถประจำทางไฟฟ้า โดยเมื่อเวลา 10.27 น. ราคาหุ้น NEX ปรับขึ้น 3.50% หรือ 0.70 บาท มาที่ 20.70 บาท มูลค่าซื้อขาย 340.25 ล้านบาท

BYD ปรับขึ้น 5.67% มาที่ 14.90 บาท หรือเพิ่มขึ้น 0.80 บาท มูลค่าซื้อขาย 334.78 ล้านบาท

EA ปรับขึ้น 0.50% มาที่ 100.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 248.30 ล้านบาท

บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดกำไรปี 65 ของ บมจ.เน็กซ์พอยท์ (NEX) มีโอกาส Turn around ประเมิน Oder ผลิตรถบัสไฟฟ้าทะลุเป้า คาดทั้งปีมีโอกาสแตะ 1.5-2 พัน คัน ดัน U-Rate โรงงานเต็มกำลัง นอกจากนี้ บริษัทได้รับเงินมัดจำจาก บมจ.บียอนด์ (BYD) เพื่อผลิตและทยอยส่งมอบ คาดจะมี Order รถบัสไฟฟ้าอีกมากกว่า 1 พันคันระหว่างปี ทำให้ Ecosystem เริ่มชัด

ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประเมินกำไรสุทธิปี 65-66 เฉลี่ยที่ 1.6 พันล้านบาท และ 2.3 พันล้านบาท พลิกจากขาดทุนในปี 64 และเติบโตต่อ +40%YoY ในปี 66 ตามลำดับ

ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดบวก 1.62 จุดแรงซื้อกลุ่มเปิดประเทศ-หุ้นเล็กหนุน พรุ่งนี้ตลาดอาจซึมก่อนหยุด

ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,702.93 จุด เพิ่มขึ้น 1.62 จุด (+0.10%) มูลค่าการซื้อขาย 65,889.88 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งกว่าภูมิภาค โดยทำระดับสูงสุด 1,706.77 จุด และลงไประดับ ต่ำสุดที่ 1,699.82 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 629 หลักทรัพย์ ลดลง 1,106 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 572 หลัก ทรัพย์

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้น ไทยวันนี้แกว่งตัวไซด์เวย์ เป็นบวกได้เล็กน้อย แต่ปริมาณการซื้อขายในวันนี้ถือว่าค่อนข้างเบาบาง โดยที่หุ้นในกลุ่มที่ เข้ามาช่วยหนุนดัชนีให้ยังเป็นบวกได้มาจากหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศ โดยเฉพาะ AOT ที่มีแรงซื้อเข้ามา มาก รวมถึงหุ้นขนาดเล็กในกลุ่ม sSET ที่เข้ามาช่วยหนุนดัชนีได้บ้าง ทำให้ดัชนีบวกได้เล็กน้อย และตลาดหุ้นเอเชียใน วันนี้ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นเช่นเดียวกัน แม้ว่าจะยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุนก็ตาม

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันพรุ่งนี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ หรืออาจจะซึมลงบ้าง ก่อนที่ตลาดหุ้นไทยจะหยุดทำการใน วันพุธที่ 6 เม.ย. 65 รวมถึงตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาคเอเชียเช่นเดียวกัน ซึ่งคาดว่าการซื้อขายอาจจะไม่คึกคักมาก และยัง มีความกังวลเกี่ยวกับ Inverted yield curve ที่สะท้อนภาพเศรษฐกิจสหรัฐที่อาจชะลอตัว และทำให้อัพไซด์การปรับตัวขึ้นของ ตลาดหุ้นมีค่อนข้างจำกัด อีกทั้งยังต้องติดตามการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนต่อเนื่อง เพราะสถานการณ์เริ่มยืดเยื้อ มามาก และอาจเป็นประเด็นเข้ามากดดันตลาดหุ้นได้อีก โดยให้แนวต้าน 1,710 จุด แนวรับ 1,690 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,813.05 ล้านบาท ปิดที่ 67.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,797.88 ล้านบาท ปิดที่ 161.00 บาท ลดลง 2.00 บาท

EA มูลค่าการซื้อขาย 2,403.88 ล้านบาท ปิดที่ 100.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท

SVOA มูลค่าการซื้อขาย 2,294.85 ล้านบาท ปิดที่ 4.16 บาท เพิ่มขึ้น 0.36 บาท

JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,441.07 ล้านบาท ปิดที่ 4.00 บาท ลดลง 0.08 บาท

CPF ลบ 1.23% โบรกฯคาด Q1/65 ขาดทุนจากต้นทุนอาหารสัตว์เพิ่มแต่ราคาขายขึ้นช้า

CPF ปรับลง 1.23% หรือ 0.30 บาท มาที่ 24.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 338.42 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.44 น.จากราคาเปิด 24.30 บาท ราคาสูงสุด 24.30 บาท และราคาต่ำสุด 23.90 บาท

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า มีมุมมองเชิงลบต่อ Preview ของ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) ในไตรมาส 1/65 ที่คาดขาดทุนปกติ -1,695 ล้านบาท เทียบกับ +7,003 ในไตรมาส 1/64 และ -3,546 ล้านบาทในไตรมาส 4/64 เพราะ 1)ต้นทุนอาหารสัตว์เพิ่ม +30%y-y +10%q-q 2) ราคาไก่-หมูทุกประเทศมีทั้งลดลงและเพิ่มช้ากว่าต้นทุน 3) มีเพียงราคาหมู-ไก่ในประเทศที่เพิ่มเร็วกว่าต้นทุน แต่กำไรไม่เพียงพอชดเชยธุรกิจในต่างประเทศที่ขาดทุน 4) บริษัทย่อยได้แก่ CTI (ธุรกิจหมูจีน) และ Hylife ขาดทุนเพิ่มขึ้น

ส่วน CPALL/MAKRO คาดกำไรเพิ่ม y-y แต่ลด q-q

สำหรับทิศทางไตรมาส 2/65 คาดราคาหมู-ไก่ไทยเพิ่มขึ้นได้ แต่ราคาหมูต่างประเทศยังลำบาก ขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์ของ CPF ไทยล็อกแล้วถึงไตรมาส 2/65 แต่ยังทรงตัวในระดับสูง ส่วนการส่งออกไปซาอุดิอาราเบีย CPF ส่งล็อดแรก 600 ตันไปเมื่อปลายเดือน มี.ค.65 เป็นไก่ปรุงสุก ปัจจุบัน CPF มี Utilization rate ไก่ปรุงสุกเพียง 60-70% จึงสามารถรองรับคำสั่งซื้อซาอุฯได้แน่นอน

แนะนำเพียง"ถือ"CPF ราคาเป้าหมาย 26 บาท เพราะแรงกดดันต้นทุนอาหารสัตว์และราคาหมูยังอ่อนตัวในเวียดนาม/จีนกดดันผลการดำเนินงาน นอกจากนี้ราคาหมูจีนที่อ่อนตัวอาจทำให้แผนการเข้าตลาดหุ้นของ CTI (ธุรกิจหมูจีน) ล่าช้า

'หม่อมอุ๋ย' เร่ง ธปท.พัฒนาดิจิทัลเคอร์เรนซี่คุมเกม-เตือนอย่ามองแบงก์พาณิชย์เป็นศัตรู

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในงาน 'เหลียวหลัง และหน้า อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย'ชื่นชมทัศนคติของ ธปท.ในปัจจุบันเกี่ยวกับการดูแลเรื่องคริปโทเคอร์เรนซี ที่ห้ามไม่ให้นำคริปโทฯ ไปใช้ในการซื้อ-ขายสินค้า แต่ในขณะเดียวกัน ธปท.ได้พัฒนาเกี่ยวกับดิจิทัลเคอร์เรนซี่ขึ้นมา ซึ่งอยากให้ ธปท.พัฒนาให้เร็วกว่าแผนที่วางไว้ เพราะช่วยป้องกันไม่ให้คริปโทเคอร์เรนซี่ขยายเข้าไปในวงการค้าได้

ส่วนมุมมองต่อนโยบายการคลังในปัจจุบันนั้น ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เห็นว่า นโยบายการคลังในปัจจุบันเหมือนไม่มีนโยบายการคลัง เพราะเป็นการใช้เงินงบประมาณไปเรื่อยๆ โดยไม่คำนึงว่าจะมีการขาดดุลงบประมาณเท่าไรถึงจะเพียงพอ ทั้งนี้ มองว่าตอนนี้ประเทศควรจะเน้นการมีนโยบายการคลังที่จริงจัง ขณะที่นโยบายการเงินก็ยังคงต้องทำหน้าที่สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจต่อไป เพราะหากเศรษฐกิจของประเทศไม่เติบโต การเก็บภาษีเพื่อนำมาพัฒนาประเทศก็จะทำได้ยาก

'มันอยู่ตรงนี้ ตรงที่คนที่ดำเนินนโยบายการคลัง เขาไม่ดำเนินนโยบายการคลังในสิ่งที่ควรจะทำ ถ้าทำในสิ่งที่ควรทำ นโยบายการเงินก็ช่วยสนับสนุน ก็หมดปัญหาไป อยู่ที่ผู้นำรัฐบาลว่าจะคิดหรือไม่คิด' ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ระบุ
พร้อมฝากให้ ธปท. ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ไม่ต้องคำนึงว่าจะถูกใจนักการเมืองหรือไม่ แต่ไม่ได้หมายความว่าทำตัวเป็นอิสระโดยไม่ฟังใคร แต่ทั้งนี้ต้องฟังความเห็นจากผู้ที่ทำงานด้านเศรษฐกิจ โดยนำความคิดเห็นมาประกอบกัน นโยบายการเงินต้องประสานกับนโยบายการคลังเพื่อให้เกิดผลดีต่อเศรษฐกิจ ผู้ว่าฯ ธปท.จะต้องประสานงานกับ รมว.คลัง ให้เข้าใจกันอย่างดี ไม่ทำตัวเหนือกระทรวงการคลัง แต่ไม่ใช่ทำตามไปหมด และสุดท้าย ธปท. ต้องถือว่าธนาคารพาณิชย์เป็นลูก ไม่ใช่เป็นศัตรู หากทำผิดก็ลงโทษได้ ให้ปรับปรุงแก้ไขให้ดี แต่ไม่ใช่ลงโทษเพื่อทำลาย เพราะธนาคารพาณิชย์เป็นกำลังสำคัญในการเติบโตของเศรษฐกิจ ธปท.ช่วยเศรษฐกิจไม่ได้ถ้าไม่มีธนาคารพาณิชย์

นายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ อดีตผู้ว่าการ ธปท. กล่าวในงานเดียวกันวา ความท้าทายของ ธปท.ที่เห็นได้ชัดเจนในขณะนี้ คือความท้าทายที่มาจากด้านเทคโนโลยี ซึ่งทำให้เกิดเครื่องมือทางการเงินใหม่ๆ อยู่เสมอ แม้จะมีข้อดีที่สามารถตอบสนองความต้องการของคนในยุคปัจจุบันและเป็นทางเลือกที่ดี แต่ในฐานะ ธปท.ต้องมองไปข้างหน้าว่าจะทำให้เกิดอะไรขึ้นบ้าง และจะมีผลกระทบมากน้อยเพียงใด เช่น ทำให้ Landscape ของสถาบันการเงินเปลี่ยนแปลงแค่ไหน การตอบสนองต่อผู้บริโภคจะเปลี่ยนแปลงแค่ไหน ซึ่ง ธปท.ต้องทันต่อเหตุการณ์นั้น หลายเรื่องเปรียบเหมือนต้องไล่ตามสิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา แต่เชื่อในพื้นฐานที่วางไว้ดี

'ในเรื่องคริปโทฯ เราใช้ความเป็นผู้กำกับดูแลที่จะบอกว่าเราไม่สนับสนุนให้ทำ เป็นการออกแรงอย่างทันสมัย การทำงานของธปท.อาจยากขึ้น เพราะมีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมากขึ้นกว่าในอดีต' นายชัยวัฒน์ กล่าว
พร้อมกันนี้ นายชัยวัฒน์ ยังให้ความเห็นต่อนโยบายการคลังในปัจจุบันว่า ในส่วนของภาครัฐค่อนข้างมีความน่าเป็นห่วง เพราะภาระหนี้สูง และยังมีการขาดดุลงบประมาณต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน ซึ่งภาระทางการคลังได้ซ่อนปัญหาไว้ในระยะยาว นอกจากนี้ ยังทำให้ประชาชนมองว่าการทำนโยบายประชานิยมกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดา ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่นโยบายการคลังไม่สามารถดูแลตัวเองได้ดีกว่านี้ ภาระจะตกมาอยู่ที่นโยบายการเงิน

'ปัญหาเศรษฐกิจหลายเรื่องที่เกิดขึ้นมักมาจากภาคของ real sector ซึ่งสุดท้ายมาส่งผลให้การเงินไม่มีเสถียรภาพ ทั้งที่การเงินอยู่ปลายเหตุ ทำให้เป็นภาระของนโยบายการเงินที่จะต้องเข้ามาแก้ไข ดังนั้นต้องพยายามออกแรงพูดุคุยกับรัฐบาล ที่ส่วนมากเขาก็ไม่ค่อยฟัง เพราะเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ผมว่าเราจะเหนื่อยมาก แต่ก็ต้องพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และเมื่อไรที่มีความจำเป็นชัดเจนว่าเราต้องทำนโยบายที่คนไม่ชอบ เราก็ต้องใจแข็งที่จะทำ เพราะถ้าไม่มีเรา (ธปท.) เป็นด่านสุดท้าย ก็ไม่รู้ว่าเศรษฐกิจจะตกเหวไปอยู่ที่ไหน' นายชัยวัฒน์ระบุ

ยืน 1 เพื่อชาว NCTzen! ช้อปปี้ และ เอสเอ็ม ทรู จัดให้ กับกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ NCT DREAM VIDEO CALL EVENT

ยังคงเดินหน้าตอกย้ำความเป็นอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มยืน 1 ในใจนักช้อปชาวไทยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ช้อปปี้ ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน ได้สร้างปรากฏการณ์ความน่าตื่นตาตื่นใจให้กับวงการอีคอมเมิร์ซอีกครั้ง จับมือ เอสเอ็ม ทรู ปล่อยเซอร์ไพรส์กับกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ NCT DREAM VIDEO CALL EVENT เอาใจสาวก NCTzen ที่ยังอยู่ในโหมดติดเพลงกับอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 'Glitch Mode' (กลิตช์ โหมด) ที่ถูกปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ พร้อมเฉลิมฉลองวันดีเดย์ของแคมเปญ Shopee 4.4 Shocking Sale วันช้อป โปรช็อก โดยผู้โชคดีจะได้รับสิทธิ์มีทแอนด์กรี๊ดสุดพิเศษกับเมนคนโปรดในวง NCT DREAM แบบตัวต่อตัวในรูปแบบของวิดีโอคอล

NCTzen ชาวไทยจะพลาดได้ไง มาร่วมลุ้นเป็น 1 ใน 105 ผู้โชคดีที่จะได้เข้าร่วมกิจกรรม NCT DREAM VIDEO CALL EVENT ในรูปแบบวิดีโอคอลตัวต่อตัวสุดเอ็กซ์คลูซีฟกับเมนคนโปรดจากวง NCT DREAM (เอ็นซีที ดรีม) ไม่ว่าจะเป็น MARK (มาร์ค), RENJUN (เหรินจวิ้น), JENO (เจโน่), HAECHAN (แฮชาน), JAEMIN (แจมิน), CHENLE (เฉินเล่อ) และ JISUNG (จีซอง) ได้นานแบบจุใจถึง 2 นาทีเต็ม! พร้อมรับอัลบั้มที่มีลายเซ็นของศิลปินที่เลือก และชื่อผู้โชคดีบนปก โดยมีกติกาง่าย ๆ เพียงซื้ออัลบั้ม NCT DREAM The 2nd Album 'Glitch Mode' (Photobook Ver.) จากร้าน SM True Store บน Shopee Mall ระหว่างวันที่ 4 เมษายน 2565 (เวลา 11.00 น.) ถึง วันที่ 11 เมษายน 2565 (เวลา 23.59 น.) พร้อมเลือกศิลปินที่อยากจะคอลด้วย ซึ่งช้อปปี้จะทำการสุ่มและประกาศรายชื่อผู้โชคดีผ่านทางหน้ากิจกรรม และผ่านการแจ้งเตือนในแอปพลิเคชันช้อปปี้ ในวันที่ 12 เมษายน 2565 ภายในเวลา 18.00 น. เพื่อยืนยันการรับสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรมต่อไป โดยกิจกรรม NCT DREAM VIDEO CALL EVENT จะจัดขึ้นภายในเดือนพฤษภาคม 2565 ซึ่งทางค่ายต้นสังกัดจะทำการยืนยันวันร่วมกิจกรรมโดยตรงกับผู้โชคดี หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนของการยืนยันสิทธิ์

นอกจากนี้ ทุก ๆ การซื้ออัลบั้ม NCT DREAM The 2nd Album 'Glitch Mode' (Photobook Ver.) จากร้าน SM True Store บน Shopee Mall ยังจะได้รับสินค้าที่ระลึกเป็น Exclusive Photo Card 1 ใบ ต่อ 1 อัลบั้ม ที่มีเฉพาะที่ช้อปปี้เท่านั้น นอกจากนี้ ชาว NCTzen ยังสามารถเพลิดเพลินกับสิทธิพิเศษอื่น ๆ จากช้อปปี้ อาทิ โค้ดส่งฟรี โค้ดรับเงินคืน และสิทธิประโยชน์อีกมากมายเมื่อชำระเงินผ่าน ShopeePay ตลอดจนโค้ดส่วนลด สำหรับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี และโค้ดส่งฟรี สำหรับสมาชิกบัตรเครดิตกสิกรไทย-ช้อปปี้

ความพิเศษยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะนอกจากกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟกับหนุ่ม ๆ วง NCT DREAM แล้ว ช้อปปี้ยังพาศิลปินสุดฮ็อตจากค่าย SM มามอบความฟินให้กับแฟน ๆ และนักช้อป ฉลองแคมเปญสุดร้อนแรงรับซัมเมอร์ Shopee 4.4 Shocking Sale วันช้อป โปรช็อก ที่มาพร้อมกับกิจกรรมแจกอัลบั้ม พร้อมลายเซ็นของ SUHO จากวง EXO บนทวิตเตอร์ของช้อปปี้ @ShopeeTH ในวันที่ 4 เมษายน 2565 ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป นอกจากนี้แฟน ๆ ยังสามารถรับชมคลิปสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก SUHO ที่พิเศษสำหรับแฟน ๆ ชาวไทย ได้ทางทวิตเตอร์ @ShopeeTH และยูทูบ Shopee Thailand ในวันที่ 4 เมษายน 2565 เวลา 16.00 น.

เบลล่า-ราณี ขึ้นแท่นพรีเซนเตอร์ล่าสุดปลากระป๋องตรามหาชัย ควงเฟิร์น-พัสกร Celebrity Chef หน้าใหม่ โชว์ทำอาหาร แจกรางวัลกว่า 500,000 บาท

ปลากระป๋องตรามหาชัยแบรนด์ผลิตภัณฑ์ปลาซาร์ดีน และปลาแมคเคอเรลในซอสมะเขือเทศ "อร่อย ชิ้นใหญ่ ซอสเข้มข้น" ควงเบลล่า-ราณี แคมเปน สาวมหาชัย หรือพรีเซนเตอร์คนล่าสุดที่รับหน้าที่เป็นสาวมหาชัยมาต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 มาแจกของรางวัลในงาน เบลล่าชวนชิม ปลากระป๋องตรามหาชัยชวน

ช้อป ภายใต้แคมเปญมอบโชคลุ้นทอง มูลค่ารวมกว่า 500,000 บาท ร่วมกับบิ๊กซี และ มินิบิ๊กซี โดยภายในงานนอกจากที่สาวเบลล่าจะได้มาแจกทองแล้ว ยังได้ร้องเพลงชุดใหญ่จัดเต็มเอาใจแฟนคลับ พร้อมชวน เฟิร์น-พัสกร พลบูรณ์ Celebrity Chef โชว์ทำอาหารในเมนู "สปาเก็ตตี้มหาชัย" เพื่อเป็นเมนูตัวอย่างสำหรับคนชื่นชอบปลากระป๋อง ณ บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า สาขาลาดพร้าว เมื่อวันที่ 2 เมษายน 65 ที่ผ่านมา

เบลล่า-ราณี พูดถึงงานในวันนี้ว่า "เข้าปีที่ 3 แล้วนะคะ สำหรับการที่เบลได้มาเป็นสาวมหาชัย หรือพรีเซนเตอร์ของปลากระป๋องตรามหาชัย ต้องขอบอกก่อนเลยว่าจริงๆ แล้วเบลเป็นแฟนคลับตัวยงของปลากระป๋องตรามหาชัยเลยค่ะ ชอบทั้งสองชนิด ทั้งที่เป็นปลาซาร์ดีนและปลาแมคเคอเรล เรียกได้ว่ามีติดบ้านอยู่ตลอดเวลา วันนี้เลยดีใจมากที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งที่จะประชาสัมพันธ์ให้กับสิ่งที่เราเองก็ชื่นชอบเหมือนกัน และอีกอย่างคือได้มาแจกของรางวัลที่บอกเลยว่างานนี้ ปลากระป๋อง
ตรามหาชัยเค้าแจกหนักมากรวมๆ แล้วกว่า 500,000 บาทเลยค่ะ แล้วก็วันนี้ยังได้มีโอกาสร่วมกับน้องเฟิร์น-พัสกร ช่วยกันทำเมนูจากปลากระป๋องตรามหาชัยให้ทุกคนได้ชม แล้วกลับไปทำเองที่บ้านได้ง่ายๆ อีกด้วยค่ะ"

ส่วน เฟิร์น-พัสกร กล่าวว่า "วันนี้ตื่นเต้นมากค่ะ ที่ได้มาร่วมกับคุณเบลล่าทำเมนู "สปาเก็ตตี้มหาชัย" นี้ขึ้นมาขอบอกเลยว่าเฟิร์นตั้งใจเป็นอย่างมากที่จะคิดเมนูนี้ขึ้นมา เพราะได้รับโจทย์มาว่าเมนูที่เราจะทำ จะต้องอร่อย ทำง่ายๆ ได้ที่บ้านเพราะเรามีวัตถุดิบหลักอย่าง ปลากระป๋องตรามหาชัย ที่มีรสชาติอร่อยอยู่แล้ว และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ให้คนที่ชอบปลากระป๋อง สามารถรังสรรค์วิธีกินใหม่ๆ ได้ง่ายๆ ไม่จำเจค่ะ "

BAY คาดกรอบบาทสัปดาห์นี้ 33.20-33.80 จับตารายงานประชุมเฟด-บอนด์ยิลด์สหรัฐ

กลุ่มงานโกล.มาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เผยมุมมองค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 33.20-33.80 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 33.46 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในกรอบ 33.19-33.80 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ในเดือน มี.ค. เงินบาทอ่อนค่าลง 1.9% แต่แข็งค่าเล็กน้อยราว 0.1% ในไตรมาส 1/65 ทางด้านคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0.5% ตามคาด เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรแต่แข็งค่าเทียบกับเงินเยนในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยยูโรได้แรงหนุนจากสัญญาณเชิงบวก หลังการเจรจาสันติภาพรอบล่าสุดระหว่างรัสเซียกับยูเครน ขณะที่เงินเยนแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 6 ปีครั้งใหม่ ท่ามกลางทิศทางการดำเนินนโยบายที่แตกต่างกันมากขึ้นระหว่างธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) โดยบีโอเจประกาศเข้าแทรกแซงตลาดบอนด์เพื่อรักษาเพดานและสกัดการพุ่งขึ้นของยิลด์พันธบัตรญี่ปุ่น ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 10,563 ล้านบาท แต่มียอดซื้อพันธบัตรสุทธิ 294 ล้านบาท โดยมีตราสารที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติครบอายุ 4,258 ล้านบาท

กลุ่มงานโกล.มาร์เก็ตส์ฯ คาดนักลงทุนจะให้ความสนใจกับการเปิดเผยรายงานจากการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 15-16 มี.ค. ซึ่งเฟดเริ่มต้นวัฏจักรการปรับขึ้นดอกเบี้ย นอกจากนี้ตลาดจะติดตามบอนด์ยิลด์สหรัฐฯ หลังยิลด์ระยะ 2 ปีสูงเกินยิลด์ระยะ 10 ปี ข้อมูลค่าจ้างเดือน มี.ค.สูงเกินคาด ส่งผลให้ตลาดคาดการณ์มากขึ้นเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งจะชะลอการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะกลางถึงยาว ส่วนสถานการณ์การสู้รบในยูเครน และการดำเนินมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อรัสเซีย รวมถึงการแพร่ระบาดในจีน อาจส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนได้เช่นกัน

สำหรับปัจจัยในประเทศ ตลาดจะติดตามข้อมูลเงินเฟ้อเดือนมีนาคม ซึ่งคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก ทางด้าน กนง.คงดอกเบี้ยด้วยเสียงเอกฉันท์ เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดย ธปท.ให้ความเห็นว่าดอกเบี้ยเป็นเครื่องมือที่ค่อนข้างมีผลกระทบในวงกว้าง ซึ่งแม้จะเป็นเครื่องมือที่ใช้ดูแลเงินเฟ้อได้ แต่ กนง.ยังไม่ต้องการนำมาใช้ในเวลานี้ โดยอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงขึ้นเกิน 5% ในไตรมาสที่ 2 และ 3 ก่อนที่จะลดลงเข้าสู่กรอบเป้าหมายในปี 2566 โดยผู้ดำเนินนโยบายจะติดตามปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อต่อไป

อนึ่ง ท่าทีดังกล่าว สนับสนุนมุมมองหลักของกรุงศรีที่ว่า กนง.จะตรึงดอกเบี้ยไว้ตลอดปีนี้ท่ามกลางการฟื้นตัวที่เปราะบางของอุปสงค์ในประเทศ อย่างไรก็ดี หากเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงนานกว่าที่คาด การตัดสินใจด้านนโยบายจะเผชิญความท้าทายมากยิ่งขึ้น

'บิวกิ้น-พีพี' ทำแฟนๆ กรี๊ดสนั่น ร่วมโหวตย้ำความอร่อยเลย์สแตคส์ ในแคมเปญ Lay's Stax Taste Challenge Season 2

กลับมาอีกครั้งจากเสียงตอบรับที่ล้นหลามจาก Season ที่ 1 ในการยืนยันความอร่อยของ Lay' s Stax และปีนี้ได้เดินทางมาถึง Season ที่ 2 แล้ว 'เลย์สแตคส์' โดย บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด จึงได้ตอกย้ำภาพลักษณ์ #LaysStax #อร่อยยืนหนึ่ง #LaysStaxใครลองก็เลิฟเลย นำแคมเปญ Lay's Stax Taste Challenge Season 2 ที่หลายๆ คนรอคอยกลับมาอีกครั้ง ด้วยการทายรสชาติความอร่อย พร้อมได้ใกล้ชิดกับ พรีเซนเตอร์สองหนุ่มสุดฮอตแห่งยุค บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล และ พีพี-กฤษฎ์ อำนวยเดชกร โดยจัดขึ้นต่อเนื่อง วันที่ 2-3 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ณ ลานสยามสแควร์วัน ติด BTS สยาม แฟนๆ สามารถร่วมเล่นเกม กับโรงงานจำลองการผลิตเลย์ ลุ้นรับรางวัลมากมายทุกชั่วโมง

บรรยากาศงานเปิด คึกคักตั้งแต่เริ่มต้นงาน พิธีกร ป๋อมแป๋ม นิติ ชัยชิตาทร กล่าวทักทายแฟนๆ พร้อมพูดถึงที่มาที่ไปของกิจกรรม ซึ่งใครๆ ก็รู้ว่าเกิดจากผลพวงความน่ารักไม่ไหว! ตั้งแต่ บิวกิ้น-พีพี จับคู่เป็นพรีเซนเตอร์ เลย์ สแตคส์ มันฝรั่งทอดกรอบ อร่อยเต็มคำ คัดสรรพิเศษให้คุณ หลังจากนั้นเสียงเพลงก็ดังกระหึ่ม เปิดตัวคาราวาน Flash mob นำสองหนุ่มพรีเซนเตอร์ บิวกิ้น - พีพี ขวัญใจแฟนๆ ออกมา ชวนยิ้มไปตามๆ กัน ทั้งคู่ทักทายและพูดคุยกับแฟนๆ ว่าไม่ได้เจอทุกคนมา 2 ปีแล้ว ปีที่แล้ว เราจัดเป็น Live ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม ปีนี้ จัดเป็นอีเว้นท์ ทำให้เห็นว่าทุกคนให้การตอบรับเป็นอย่างดี รู้สึกตื่นเต้นมาก หลังจากนั้นทั้งสองก็ร่วม Taste Challenge พีพี รับหน้าที่โหวตเลือกรสออริจินัล เพราะเป็นแฟนตัวยง กินเพลินมาก รสชาติในดวงใจ ทานกี่ครั้งก็ใช่แน่นอน ส่วน บิวกิ้น ขอรับหน้าที่โหวตให้รสซาวครีมและหัวหอม เหตุผลจะได้ไม่แย่งกัน! และเพราะว่ามันกรอบ รสชาติกลมกล่อม หอมซาวครีมและหัวหอม กินตอนดูซีรีย์เพลินมากๆ

หลังจากนั้นเป็นการประกาศผลโหวต จากการสำรวจผู้บริโภค 580 คน ผลโหวตจากผู้บริโภคที่ชิม Lay's Stax รสออริจินอลกว่า 71% ชื่นชอบผลิตภัณฑ์ และ ผลโหวตจากผู้บริโภคที่ชิม Lay's Stax รสซาวครีมและหัวหอมกว่า 62% ชื่นชอบผลิตภัณฑ์ (ผลสำรวจเดือน เมษายน 2565) ซึ่งผลสรุปการโหวต เลย์สแตคส์ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกปากและชื่นชอบ #อร่อยจริงลองเองแล้วจะรู้

ภายในงาน สองหนุ่มยังได้พูดคุยกับแฟนๆ อย่างอบอุ่น พีพี : ดีใจมากกก ยิ่งเห็นเพื่อนๆ ชอบ Lay' s Stax แบบเรา ก็แฮปปี้มากๆ เลยครับ บิวกิ้น : เหมือนกันเลยครับ ครั้งที่แล้วเจอเพื่อนๆ ในจอ LIVE วันนี้ดีใจมากๆ ที่ได้ออกมาข้างนอกกันบ้างนะ แล้วยิ่งเห็นเพื่อนๆ มาร่วมโหวต Taste Challenge แบบ Real Time แบบนี้อีก ก็รู้สึกสนุกมากครับ แถมตื่นเต้นผลที่จะออกมาด้วยว่าทุกคนจะจำรสชาติอร่อยๆ ของเลย์สแตคส์ได้มั้ย' หลังจากนั้นเป็นการเล่นเกมสนุกๆ ร่วมกัน และยินดีกับผู้โชคดีที่ร่วมสนุก ซึ่งคว้ารางวัลที่นั่งริงไซด์ เข้ามาเป็นแขกในงานอย่างใกล้ชิด เพราะความฟินยังมีกันต่อเนื่องกับมินิคอนเสิร์ต บิวกิ้น - พีพี ทำเอาแฟนๆ เขินมาก ยิ้มแก้มแตก ต่อด้วยศิลปิน Three Man Down ส่งท้ายความมัน

ท้ายสุดสองพรีเซ็นเตอร์ บิวกิ้น - พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล และ พีพี-กฤษฎ์ อำนวยเดชกร ย้ำแฟนๆ ว่า 'ได้ลองแล้วอร่อยคอนเฟิร์ม ก่อนจากกันในวันนี้อย่าลืมกดติดตามความสนุกที่เราจะมาเจอเพื่อนๆ เป็นประจำได้ที่ Facebook : Lays Thailand นะครับ ย้ำอีกครั้งนะครับ ใครที่ยังไม่ได้ลองเลย์สแตคส์ไปลองกันนะครับ หาซื้อได้แล้ววันนี้ตามซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อและร้านค้าทั่วประเทศ หรือจะซื้อทาง Shoppe, Lazada Lay' s Stax ใครลองก็เลิฟเลย'

LPN ดันธุรกิจบริหารจัดการอาคารครบวงจรเข้าตลาดหุ้นปี 67 วางเป้า 5 ปี รายได้แตะ 2.3 พันลบ.

นายอภิชาติ เกษมกุลศิริ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) และกรรมการบริษัท บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด (LPP) เปิดเผยว่า LPN ได้เล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจของ LPP ซึ่งเป็นธุรกิจบริหารจัดกาโครงการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร จึงปลดล็อกศักยภาพทางธุรกิจโดยการปรับโครงสร้างทางธุรกิจของ LPP ให้ครอบคลุมทุกงานบริการ และวางแผนส่งบริษัท LPP เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในปี 67

ทั้งนี้ LPN คาดว่าเมื่อ LPP เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) อยู่ที่ราว 3 พันล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นเป็น 4 พันล้านบาทในอีก 3 ปีข้างหน้าหลังจากนั้น ซึ่งจากการเข้าตลาดหลักทรัพย์ดังกล่าวจะช่วยหนุน Market Cap ของ LPN ในฐานะผู้ถือหุ้น โดยคาดว่าจะส่งทำให้ Market Cap ของ LPN เพิ่มขึ้นจาก 7 พันล้านบาท ณ สิ้นปี 64 เป็น 1 หมื่นล้านบาท

นายสุรวุฒิ สุขเจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LPP กล่าวว่า แผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ของ LPP ตั้งเป้าหมายสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจให้บริการบริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร (Property & Facility Management Service Provider) โดยตั้งเป้ารายได้รวมที่ 2.3 พันล้านบาทในปี 69 โดยเติบโตจาก 857 ล้านบาทในปี 64 ซึ่งถือเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดที่สูงกว่า 200% คิดเป็นเติบโตเฉลี่ย 22% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของตลาดธุรกิจบริการที่เติบโตเฉลี่ยกว่า 10% ต่อปี

จากผลการศึกษาของบริษัทพบว่าตลาดการให้บริการบริหารจัดการอาคารทั่วประเทศจะมีมูลค่าตลาดรวมไม่น้อยกว่า 4 หมื่นล้านบาทในปี 65 รวมถึงมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการลงทุนของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในการพัฒนาโครงการอาคารชุดพักอาศัย อาคารสำนักงานและอาคารในเชิงพาณิชย์ เฉลี่ยปีละ 3-4 แสนล้านบาท/ปี ซึ่งจะขับเคลื่อนให้ความต้องการผู้เชี่ยวชาญในการบริหารจัดการอาคารมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วย

ภายใต้การเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่ก้าวเข้าสู่ New S-Curve จึงเป็นโอกาสของ LPP ในฐานะผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในธุรกิจการบริหารจัดการอาคารมาถึง 30 ปี จะสามารถเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ โดยการเติบโตนี้จะมาจากการรุกและขยายตลาด การขยายธุรกิจและขอบเขตการให้บริการที่ครบวงจร พร้อมทั้งสร้างธุรกิจใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภค ทั้งงานด้านวิศวกรรม งานซ่อมบำรุงอาคาร บริการงานสวน บริการกำจัดแมลง การบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ รวมไปถึงการวางโครงสร้างบริหารโครงการในรูปแบบของ Franchise เป็นต้น

ในส่วนงานระบบรักษาความปลอดภัยนั้น LPP ได้เปิด บริษัท รักษาความปลอดภัย แอลเอสเอส โซลูชั่นส์ จำกัด (LSS) ซึ่งเป็นระบบรักษาความปลอดภัยที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาเสริมประสิทธิภาพนอกเหนือจากการใช้พนักงานรักษาความปลอดภัยเว้นมาเสริมการบริการเพิ่มเติมให้กับการบริหารจัดการอาคารครบวงจรของ LPP

ขณะที่โครงสร้างธุรกิจในส่วนของการบริหารจัดการโครงการใหม่จากที่เคยมุ่งเน้นบริหารโครงการให้กับ LPN เป็นหลัก และจะขยายไปสู่การบริหารจัดการอาคารให้กับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายอื่นๆให้มากขึ้นกว่าปัจจุบัน โดยขยายจากสัดส่วนเดิมที่ 28% เป็น 45%

นางสาวสมศรี เตชะไกรศรี กรรมการผู้จัดการ LPP กล่าวว่า จากประสบการณ์การบริหารจัดการอาคารมานานกว่า 30 ปี บริษัทได้สั่งสมประสบการณ์และพัฒนาต่อยอดการบริหารจัดการอาคารมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีลูกค้ากว่า 200 โครงการ 160,000 ครอบครัว และผู้พักอาศัยจำนวนกว่า 300,000 คน ไม่รวมงานบริการด้านอื่นๆที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน LPP ยังมอบบริการพิเศษในการเพิ่มความสะดวกสบายและช่วยลดภาระค่าครองชีพแก่ผู้อยู่อาศัยในโครงการภายใต้การบริหารจัดการของ LPP โดยขยายธุรกิจสู่บริการบนแพลตฟอร์มค้าออนไลน์ในชุมชน (Community Commerce) ภายใต้ชื่อ "Living24 Store" ให้เป็นช่องทางในการเลือกซื้อสินค้าและบริการในราคาต่ำกว่าท้องตลาด และสะดวกในการจับจ่ายตลอด 24 ชั่วโมง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนยุคปัจจุบันที่เน้นความสะดวกสบายคล่องตัว อันถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของการบริหารจัดการโครงการ โดยบริษัทได้ผนึกกำลังกับพันธมิตรทางธุรกิจหลายราย ในการนำเสนอสินค้าและมอบส่วนลดราคาพิเศษสำหรับจำหน่ายบน Living24 Store

ดอลลาร์แข็งค่า เก็งเฟดเดินหน้าเร่งขึ้นดอกเบี้ย แม้ตัวเลขจ้างงานต่ำคาด

ดอลลาร์แข็งค่าเทียบสกุลเงินหลักในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่ต่ำกว่าคาดในวันนี้

ณ เวลา 23.36 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.72% สู่ระดับ 122.53 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.5% สู่ระดับ 135.32 เยน และร่วงลง 0.19% สู่ระดับ 1.104 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.28% สู่ระดับ 98.59

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีดอลลาร์จะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 100 ในเวลาอีกเพียงไม่กี่สัปดาห์

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 431,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 490,000 ตำแหน่ง

ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 3.6% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.7%

ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 68.8% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 3-4 พ.ค. หลังจากที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนมี.ค.

นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยระบุก่อนหน้านี้ว่า อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงเกินไป ซึ่งหากจำเป็น เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% ในการประชุมหนึ่งครั้งหรือหลายครั้ง

 

BEV จีนรุกตลาดไทยดันยอดปี 65 ทะลุ 10,000 คัน...แม้ตลาดรวมทุก Segment ยังอ่อนแอจากแรงกดดันรอบด้าน

ค่ายรถจีนเร่งบุกตลาด BEV ชิงส่วนแบ่งก่อนซึ่งอาจได้ถึง 80% ของตลาดรวม เน้นจับกลุ่ม Mass สร้างการรับรู้ตลาด ขณะค่ายญี่ปุ่นและตะวันตกอาจพร้อมลุยช่วงปลายปี

หลังรัฐบาลออกมาตรการใหม่เพื่อส่งเสริมการสร้างตลาดรถยนต์ BEV ขึ้นในประเทศอย่างรวดเร็ว โดยให้การสนับสนุนทั้งในส่วนของผู้ซื้อรถยนต์ ผู้ผลิตรถยนต์ และธุรกิจให้บริการชาร์จรถไฟฟ้า ทำให้ตลาดรถยนต์ BEV ในประเทศปรับเข้าสู่โหมดการแข่งขันอย่างคึกคักขึ้นทันที ดังเห็นได้จากความสนใจในการจองรถยนต์ในงานมอเตอร์โชว์ 2565 นำโดยค่ายรถจีนที่แม้ในแง่ภาพแบรนด์จะยังใหม่และมีฐานตลาดน้อยกว่าเจ้าตลาดเก่า แต่เพราะมีความพร้อมในแง่ของเทคโนโลยีและมีสต๊อกสินค้ามากพอสำหรับนำเข้ามาจำหน่ายได้ทันที จึงอาศัยช่องว่างทางการตลาดในปัจจุบันสร้างฐานลูกค้าได้ก่อนค่ายรถกระแสหลักที่คาดว่าจะเริ่มทำตลาดได้ในช่วงปลายปี

ทั้งนี้ จุดแข็งสำคัญในการทำตลาดของค่ายรถจีนที่ดูเหมือนจะได้ผลดีมากในปัจจุบัน คือ การเลือกผลิตภัณฑ์บุกตลาดและการตั้งราคาที่ดึงดูดใจผู้ซื้อในวงกว้างมากขึ้น ซึ่งได้แรงหนุนของมาตรการทางด้านภาษีและเงินสนับสนุนของภาครัฐ 70,000 - 100,000 บาทมาช่วยกระตุ้น ทำให้รถยนต์ BEV สัญชาติจีนขยับราคาลงไปสูสีกับรถยนต์ใช้น้ำมันที่ไม่ได้รับการสนับสนุนของภาครัฐ ท่ามกลางสถานการณ์ราคาน้ำมันแพงที่ยังไม่มีทีท่าจะจบลง จึงยิ่งส่งให้รถยนต์ BEV สัญชาติจีนมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ทำให้ได้เปรียบในการสร้างความรับรู้และชิงส่วนแบ่งการตลาดได้ก่อนเลยในทันที ซึ่งนับจากนี้คาดว่าจะเริ่มเห็นสัญญาณการบุกตลาดและเข้ามาลงทุนของค่ายรถสัญชาติจีนรายใหม่ๆที่ชัดเจนขึ้น ทั้งที่เข้ามาลงทุนตั้งฐานการผลิตเองและที่ร่วมมือกับผู้ประกอบการไทยให้เป็นผู้ประกอบรถให้ โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของปีที่ผู้ซื้อรถยนต์ BEV อาจได้เห็นรถยนต์หลายรุ่นที่ลงมาแข่งขันกันในตลาดกลุ่ม Mass ยิ่งขึ้นกว่าปัจจุบัน

ส่งผลให้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่า ปี 2565 นี้ รถยนต์ BEV สัญชาติจีน จะมีโอกาสสร้างส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นจาก 58% ของยอดขายรถยนต์ BEV รวมในปีที่แล้วขึ้นเป็นกว่า 80% ในปีนี้ จากยอดขายรถยนต์ BEV รวมที่คาดว่าจะมีมากกว่า 10,000 คัน ขยายตัวมากกว่า 412.0%(YoY) หลังปีที่แล้วจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกที่ 1,954 คัน โดยกลุ่มผู้ซื้อหลักนอกจากเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อและได้รับผลกระทบน้อยจากภาวะเศรษฐกิจแล้ว อีกกลุ่มที่ช่วยดันยอดให้ขึ้นสู่ตัวเลขดังกล่าว น่าจะเป็นกลุ่มลูกค้า Fleet องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนซึ่งมีศักยภาพในช่วงที่ตลาดผู้บริโภคส่วนใหญ่กำลังเผชิญกับภาวะกำลังซื้อชะลอลง

ส่วนรถยนต์ BEV สัญชาติตะวันตกที่กลุ่มผู้ซื้อมีศักยภาพสูง แม้บางค่ายรถจะไม่ได้เข้าร่วมโครงการของภาครัฐแต่ก็จะได้แรงกระตุ้นจากอานิสงส์ของการเร่งขยายสถานีชาร์จเพิ่มความเชื่อมั่นของผู้บริโภคให้สูงขึ้น ขณะที่ค่ายญี่ปุ่นที่อาจเข้ามาทำตลาดได้ช้ากว่าค่ายอื่นจึงทำให้มีช่วงเวลาในการสร้างส่วนแบ่งในตลาดในปี 2565 นี้สั้นกว่า แต่หากทำราคาได้ดีและเหมาะสมเชื่อว่าในปี 2566 อาจมีโอกาสกลับมาทวงส่วนแบ่งการตลาดคืนได้

ส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ BEV ตามสัญชาติปี 2564 และคาดการณ์ปี 2565

สำหรับปัจจัยสำคัญที่หนุนให้ตลาดรถยนต์ BEV ในปีนี้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดดมาจากแนวทางการส่งเสริมการสร้างตลาดและระบบนิเวศที่เอื้อต่อการใช้งานรถยนต์ BEV ในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นจากทางภาครัฐ อย่างการใช้มาตรการด้านภาษีรวมถึงการให้เงินสนับสนุนที่ช่วยทำให้ระดับราคาปรับลดลงมาก รวมถึงการสนับสนุนให้เกิดสถานีชาร์จไฟฟ้า และที่อาจจะได้เห็นตามมาในอนาคต เช่น การช่วยติดตั้งตู้ชาร์จไฟฟ้าให้ที่บ้าน รวมถึงการขอมิเตอร์พิเศษแยกออกจากมิเตอร์ไฟบ้าน เป็นต้น ซึ่งจะช่วยทำให้รถยนต์ BEV ที่ขายในประเทศตั้งราคาได้ถูกลง โดยเฉพาะรถยนต์ BEV ระดับ Mass เนื่องจากไม่ต้องมีการคำนวณเงินค่าตู้ชาร์จไฟฟ้าเข้าไปในราคารถยนต์ที่ขาย

ขณะเดียวกัน ภาคเอกชนเองก็เล็งเห็นถึงโอกาสเติบโตจึงเร่งเครื่องกระตุ้นตลาด BEV ด้วยอีกทางเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการให้สินเชื่อพิเศษสำหรับรถยนต์กลุ่ม BEV และการเริ่มหาช่องทางขยายจุดชาร์จไฟฟ้าไปตามสถานที่หลากหลายเพิ่มขึ้น เช่น อาคารที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน โรงเรียน โรงพยาบาล ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ เป็นต้น รวมถึงขยายไปทั่วประเทศ ทำให้ผู้ใช้รถยนต์ BEV สามารถหาสถานที่ชาร์จไฟฟ้าได้สะดวกรวดเร็วขึ้นกว่าในอดีต

อย่างไรก็ตาม ปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่กำลังปะทุอยู่ในปัจจุบัน อันนำมาซึ่งวิกฤติราคาพลังงานที่ยังไม่รู้ว่าอนาคตจะจบเมื่อไหร่ ทำให้ต้องมีการปรับขึ้นค่าเอฟทีซึ่งมีผลให้ค่าไฟเพิ่มสูงขึ้นและอีกด้านก็ยังนำมาสู่ปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนรถยนต์รวมถึงต้นทุนสินแร่ที่ใช้ในการผลิตแบตเตอรี่และชิ้นส่วนอื่นที่เพิ่มสูงขึ้นด้วย ทำให้มีโอกาสที่ราคารถยนต์ BEV ของค่ายที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจะปรับเพิ่มขึ้น รวมถึงโอกาสที่ความสามารถในการผลิตรถยนต์เพื่อนำเข้ามาขายในไทยอาจจะไม่เพียงพอรองรับคำสั่งซื้อที่เกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยไทยเป็นตลาดรถที่มีระดับราคาขายปลีกสูงกว่าประเทศผู้ผลิตต้นทาง ประกอบกับการแข่งขันเพื่อสร้างการรับรู้ของแบรนด์ในตลาดปัจจุบันมีสูงเนื่องจากกำลังได้รับการสนับสนุนด้านราคาจากทางภาครัฐ จึงมีโอกาสที่ค่ายรถอาจดึงรถยนต์ BEV บางส่วนมาเร่งทำตลาดที่ไทยก่อน

ยอดขายรถในประเทศรวมปี 65 ยังเผชิญแรงกดดันจากปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วนและกำลังซื้อที่ชะลอลงจากปัญหาราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น ดันยอดขายปิดที่ราว 825,000 คัน

แม้ปัญหาการระบาดของโควิดในปัจจุบันจะไม่นำไปสู่แนวทางการล็อกดาวน์และทำให้เศรษฐกิจไม่หยุดชะงักดังเช่น 1-2 ปีก่อน แต่ผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนดังกล่าวซึ่งส่งผลให้ปัญหาชิ้นส่วนรถยนต์อย่างชิปอิเล็กทรอนิกส์ขาดแคลนทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น และมีผลทำให้ปริมาณการผลิตรถยนต์โลกมีทิศทางชะลอตัวลงไม่เว้นแม้ในไทย โดยเฉพาะรถยนต์นั่งซึ่งมีการใช้ชิ้นส่วนชิปอิเล็กทรอนิกส์มากกว่ารถปิกอัพ นอกจากนี้ ปัญหาราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจากวิกฤติเดียวกันก็ยิ่งส่งผลทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคชะลอลงด้วย จึงมีโอกาสที่รถยนต์ซึ่งเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูงจะได้รับผลกระทบก่อน

โดยรวมแล้วศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงคาดการณ์ว่า ยอดขายรถยนต์ในประเทศของไทยปี 2565 นี้อาจทำได้ราว 825,000 คัน หรือขยายตัวราว 8.7% (YoY) จากฐานที่ต่ำมากในปี 2564 ที่ขายได้เพียง 759,119 คัน (ต่ำสุดในรอบ 13 ปี) อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ความตึงเครียดของสงครามรัสเซีย-ยูเครนทวีความรุนแรงขึ้นมากจนกระทบต่อการผลิตชิ้นส่วนและราคาน้ำมันมากขึ้น ยอดขายรถยนต์ในประเทศอาจปรับลดลงไปได้ถึงระดับ 800,000 คัน เหลือขยายตัวเพียง 5.4% (YoY) แต่หากสถานการณ์การขาดแคลนชิ้นส่วนคลี่คลายได้เร็วก็อาจจะทำให้ยอดขายสูงเกินกว่า 825,000 คัน เปรียบเทียบในกรณีไม่มีสงครามที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเคยมองไว้ว่าน่าจะทำได้ 860,000 คัน ขยายตัว 13.3% (YoY)

โดยรถปิกอัพเป็นกลุ่มที่มีโอกาสขยายตัวได้ดีกว่ารถยนต์นั่งในปี 2565 นี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากระดับราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นน้อยกว่าเพราะภาครัฐมีนโยบายช่วยเหลือด้านราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศ เพื่อลดผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม นอกจากนี้ การลงทุนภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐาน ระบบขนส่งและโลจิสติกส์ที่ยังคงเดินหน้าก็เป็นอีกปัจจัยสนับสนุน

ประมาณการยอดขายรถยนต์ในประเทศของไทยปี 2565

ปี    2564    2565f
ยอดจดทะเบียนรถยนต์ BEV (คัน) (อัตราการขยายตัว %YoY)    1,954 (+51.7%)    มากกว่า 10,000 (มากกว่า+412.0%)
ยอดขายรถยนต์รวม (คัน) (อัตราการขยายตัว %YoY)    759,119 (-4.2%)    825,000 (+8.7%)
 

VGI ฮอต! นักลงทุนเชื่อมั่น เพิ่มทุน RO ผู้ถือหุ้นแห่จองใช้สิทธิล้นหลาม รับเงินทะลุเกินเป้า 12.9 พันล้าน ใจป้ำแถมวอแรนท์ ทุนหนา พร้อมผลักดัน O2O Marketing โซลูชั่นส์

บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ วีจีไอ ("VGI") ผู้นำการตลาด Offline-to-Online ("O2O") Marketing โซลูชั่นส์ บนแพลตฟอร์มธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจบริการชำระเงิน และธุรกิจการจัดจำหน่าย เผยว่า ภายหลังออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ผู้ถือหุ้นสามัญเดิม (Rights Offering) พบว่ากระแสตอบรับดีเยี่ยม โดยมียอดจองพุ่งทะลุเกินกว่า 12,917 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทฯ ยังใจดีแจกวอแรนท์ให้แก่ผู้ถือหุ้นที่จองใช้สิทธิเพิ่มทุน RO ในครั้งอีกด้วย

คุณเนลสัน เหลียง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ วางแผนนำเงินที่ได้รับเงินจากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ไปชำระหนี้คืนมูลค่ากว่า 8,200 ล้านบาท ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯ มีฐานะทางการเงินที่มั่นคง ปราศจากหนี้ เกิดสภาพคล่อง และพร้อมนำเงินสดที่เหลือ เดินหน้าเสริมสร้างความแข็งแกร่งของอีโคซิสเต็ม (ecosystem) โดยเฉพาะแพลตฟอร์มการจัดจำหน่ายของบริษัทฯ พร้อมเร่งดำเนินการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ให้ทันสมัยและตอบโจทย์ผู้บริโภค (Commercial Spaces Transformation) ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง นำไปสู่การสร้างผลตอบแทนให้มีศักยภาพสูงสุด  ทั้งนี้การลงทุนในปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นลงทุนในบริษัท แฟนสลิ้งค์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด เพื่อต่อยอดเทรนด์การค้าขายแบบ Omni-channel และการผนึกกำลังกับบริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) เพื่อสร้างสรรค์ความร่วมมือทางธุรกิจร่วมกันภายใต้ธุรกิจการจำหน่าย รวมถึงการรุกธุรกิจสินเชื่อดิจิทัลผ่านบริษัท แรบบิท แคช จำกัด ซึ่งธุรกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นจิ๊กซอว์สำคัญของ กลยุทธ์ O2O Marketing โซลูชั่นส์ของ VGI  การันตีจากผลการดำเนินงานที่ผ่านมามีทิศทางการเติบโตที่ดี ทั้งยังสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการของกลุ่มบริษัทฯ  ผ่านการสร้าง Synergy ระหว่างกลุ่มธุรกิจไปจนถึงการต่อยอดเป็นโปรเจคใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างสรรค์

พร้อมกันนี้บริษัทฯ ยังประกาศความตั้งใจเข้าลงทุนในบริษัท เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ("NINE") ซึ่งถือเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายของอีโคซิสเต็มของเรา โดยเราให้สิทธิการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์บนเครือข่าย BTS Skytrain ทั้งหมดแก่ NINE ซึ่งจะทำให้ VGI สามารถยกระดับการให้บริการแก่ลูกค้า หรือแบรนด์ได้อย่างพรีเมี่ยมมากยิ่งขึ้น

"ปัจจุบันสถานการณ์โรคระบาด COVID-19 เริ่มทยอยฟื้นตัวขึ้น ส่งสัญญาณที่ดีต่อผลการดำเนินงานของ VGI ประกอบกับการขยายการลงทุนในธุรกิจต่างๆ ในตลอดช่วงปีที่ผ่านมาของบริษัทฯ ได้เริ่มฟื้นตัวและสร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บริษัทฯ จึงมั่นใจได้ว่าผลประกอบการในปี 2565/66 ที่จะถึงนี้ มีแนวโน้มเป็นไปในทิศทางบวกอย่างแน่นอน" กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติม

ก.ล.ต. ออกหลักเกณฑ์รองรับกองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน (SRI Fund)

ก.ล.ต. ออกประกาศให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) มีแนวปฏิบัติในการเปิดเผยข้อมูลของกองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน (Sustainable and Responsible Investing Fund : SRI Fund) เพื่อส่งเสริมให้เกิดความโปร่งใส และทำให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลที่เพียงพอประกอบการตัดสินใจลงทุน

องค์การสหประชาชาติได้ประกาศความสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการมีธรรมาภิบาล (ESG) ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทบต่อคุณภาพชีวิตและสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนทั่วโลก ทั้งนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาตลาดทุนไปสู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติ รวมทั้งเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN SDGs) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จึงได้ออกประกาศเพื่อให้ บลจ. มีแนวปฏิบัติในการเปิดเผยข้อมูลของ SRI Fund เช่น วัตถุประสงค์การลงทุนที่เกี่ยวกับความยั่งยืน เป้าหมายด้านความยั่งยืนที่กองทุนรวมต้องการบรรลุ กลยุทธ์การลงทุน กระบวนการวิเคราะห์และคัดเลือกหลักทรัพย์ เป็นต้น ซึ่งช่วยให้เกิดความโปร่งใส ลดความเสี่ยงด้านการฟอกเขียว (greenwashing)* และสะท้อนการลงทุนอย่างยั่งยืนของกองทุนรวม อีกทั้งยังเป็นประโยชน์ในการประกอบการตัดสินใจลงทุนของผู้ลงทุน

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า "ความสนใจในประเด็นเรื่อง ESG มิได้เป็นเรื่องที่ผู้ลงทุนเฉพาะกลุ่มให้ความสนใจอีกต่อไป แต่กลายเป็นเรื่องปกติที่ผู้ลงทุนในวงกว้าง ให้ความสำคัญมากขึ้น ก.ล.ต. จึงมีความพยายามในการสร้างระบบนิเวศของตลาดทุนไทยให้พร้อมรองรับ เพื่อส่งเสริมให้ตลาดทุนเติบโตอย่างยั่งยืน โดยการออกประกาศรองรับ SRI Fund ในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในแผนการดำเนินการภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ของ ก.ล.ต. ที่มุ่งหมายให้ตลาดทุนไทยได้รับโอกาสจากกระแส ESG โดยมีระบบนิเวศในตลาดทุนที่พร้อมรองรับและเป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนให้ บลจ. ผนวก ESG เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินธุรกิจ และเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวตามมาตรฐาน เพื่อขับเคลื่อนการจัดสรรเงินทุนไปสู่กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่คำนึงถึง สิ่งแวดล้อม สังคม และหลักธรรมาภิบาลต่อไป"

ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 เป็นต้นไป

รับสมัครผู้ว่าฯกทม.-นายกพัทยาวันสุดท้าย/FETCO แถลงดัชนีเชื่อมั่น/6 อดีตผู้ว่าฯ ธปท.โชว์วิชั่น

ติดตามบรรยากาศการรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) สมาชิกสภาเมืองพัทยา (ส.ม.) และนายกเมืองพัทยาวันสุดท้าย ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 22 พ.ค.65

โดยในส่วนของ กทม. นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัด กทม.ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร จะมีการแถลงข่าวสรุปผลการรับสมัครในช่วงเย็นหลังพ้นกำหนดรับสมัครแล้ว

ขณะที่บรรดาผู้สมัครต่างลงพื้นที่หาเสียงอย่างคึกคัก อาทิ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ลงพื้นที่บางนาเพื่อหาเสียงเกี่ยวกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยา, แนวโน้มการพัฒนาเมืองโซนพระโขนง-บางนา และปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง

นายสกลธี ภัททิยกุล ลงพื้นที่สวนลุมพินีเพื่อหาเสียงเกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่สีเขียว
นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ลงพื้นที่หาเสียงในซอยอารีย์
น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ แถลงข่าวเปิดตัวและนโยบาย ภายใต้หัวข้อ "กรุงเทพฯ เมืองปลอดภัย"
ภารกิจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการ พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "New Normal : Digital Possibilities" และมอบรางวัลเกียรติยศ Prime Minister?s Digital Awards 2021 ผ่านระบบประชุมทางไกลจากห้อง PMOC ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
หลังจากนั้น นายตีแยรี มาตู (H.E. Mr.Thierry Mathou) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศสประจำประเทศไทย เข้าพบเพื่อส่งมอบวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ยี่ห้อไฟเซอร์ (Pfizer) ให้แก่รัฐบาลไทย ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

ช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2565 ณ ห้องประชุมวิจิตรวาทการ ชั้น 3 สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาล

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2565 ผ่านระบบประชุมทางไกล
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางไปตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก อุตรดิตถ์ และพิจิตร
สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 24,892 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อเข้าข่ายด้วยการตรวจ ATK 15,972 ราย และมีผู้เสียชีวิต 97 ราย โดยต้องติดตามการเฝ้าระวังสายพันธุ์ใหม่ XE ซึ่งเป็นลูกผสมระหว่างสายพันธุ์โอมิครอน BA.1 และ BA.2หลังตรวจตรวจพบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 19 ม.ค. และมีผู้ติดเชื้อ XE ที่ได้รับการยืนยันแล้วมากกว่า 600 ราย
นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานเปิดงานมหกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากงานวิจัย TRIUP Fair 2022 จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว.)
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จัดงานเสวนา "เหลียวหลัง แลหน้า กับผู้ว่าการ ธปท." มาเรียนรู้การทำหน้าที่ของธนาคารกลางผ่าน 6 อดีตผู้ว่าฯ ธปท. ท่ามกลางความท้าทายและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปเพื่อส่งต่อแนวคิดสู่อนาคต
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ แถลงข่าวเปิดตัวโครงการรางวัลสินค้าไทยที่มีการออกแบบดี ปี 2565 (Design Excellence Award : Demark Award 2022)
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มอบใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการกระจายเสียง สำหรับการให้บริการกระจายเสียง ประเภทกิจการทางธุรกิจ ณ หอประชุมฯ กสทช.
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และ การเคหะแห่งชาติ (กคช.) ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการดำเนินโครงการชุมชนยั่งยืนแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัดกิจกรรม Opportunity Day ผลการดำเนินงานงบปี 2564 ได้แก่ บมจ.เอทีพี 30 (ATP30) , บมจ.ที.เค.เอส. เทคโนโลยี (TKS) และ บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ (NER)
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ปรับปรุงมาตรการกำกับการซื้อขายหลักทรัพย์ใหม่ เพื่อยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์ให้เหมาะสมและเพื่อที่จะป้องกันความเสี่ยงให้กับผู้ลงทุนได้อย่างทันท่วงทีมากขึ้น ด้วยการยกระดับของมาตรการให้เข้มขึ้นจากเดิม และเพิ่มมาตรการการหยุดพักการซื้อขายชั่วคราว 1 วันทำการเป็นมาตรการในระดับสูงสุด โดยเริ่มมีผลวันนี้
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) และอัพเดทสถานการณ์การลงทุนประจำเดือนเมษายน 2565
ติดตามการประชุมผู้ถือหุ้นของ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) และ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) ที่มีวาระพิจารณาเกี่ยวกับการควบรวมกิจการ
บมจ.แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ (LPP) แถลงเปิดตัวบริษัทอย่างเป็นทางการ ตามนโยบายการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ของบริษัทในเครือ LPN พร้อมร่วมรับฟังวิสัยทัศน์ นโยบาย และทิศทางการดำเนินธุรกิจ รวมถึงแผนการเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
สายการบินไทยแอร์เอเชีย ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แถลงความร่วมมือบุกตลาดต่างประเทศ ดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทยกระตุ้นเศรษฐกิจฟื้นตัว
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย แถลงข่าวในหัวข้อ "นโยบายการขับเคลื่อนของหอการค้าไทย/มุมมองของหอการค้าไทยต่อสถานการณ์เศรษฐกิจ"
ศูนย์หนังสือจุฬาฯ จัดงานเสวนา "ปลดล็อค กัญชง กัญชา นำสาร CBD มาทำเครื่องสำอางโฮมเมด" ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 50