ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN

 สเปรย์ล้างสารเคมีสิ้นสุดการอรอ สีทรีทเม้นท์แฟชั่นเข้ามาครบทุกเฉดสีแล้วค่ะ สีย้อมผมผสมทรีทเม้นท์ บำรุงดูแลรักษาผม 
เนื้อสีแน่น ติดทน ไม่ต้องผสมไฮโดรเจน ไม่มีแอมโมเนีย สามารถลงได้เลย มีให้เลือกถึง 11 เฉดสีกันเลย
โดย บริษัท โมเดิร์น แฟนตาซี จำกัด ผู้นำเข้า-ส่งออก 
 สเปรย์ล้างสารเคมีเครื่องมือ
 อุปกรณ์ไฟฟ้า 
 สเปรย์ล้างสารเคมี แล้วก็สินค้าต่างๆเกี่ยวกับเส้นผม 
ภายใต้แบรนด์ ENIE(เอนี่)


https://bit.ly/3LspIIP

S&P ชี้เศรษฐกิจยูโรโซนเสี่ยงชะลอตัว เหตุเงินเฟ้อพุ่งหลังรัสเซียบุกยูเครน

ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยเอสแอนด์พี โกล. (S&P Global) ระบุว่า เศรษฐกิจยูโรโซนกำลังถูกกระทบ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและปัญหาห่วงโซ่อุปทานรอบใหม่ หลังจากการที่รัสเซียบุกโจมตียูเครนทำให้ต้นทุนพลังงานพุ่งขึ้น และส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลก โดยเอสแอนด์พี โกล.ทำการสำรวจดังกล่าวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามรัสเซีย-ยูเครนได้เริ่มส่งผลกระทบต่อยูโรโซน

ผลสำรวจบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตในยูโรโซนกำลังเผชิญกับต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่งต้นทุนเหล่านี้จะปรากฏให้เห็นในดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

"ข้อมูลที่ได้จากการสำรวจถือเป็นการตอกย้ำว่า สงครามรัสเซีย-ยูเครนกำลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจยูโรโซนอย่างเป็นรูปธรรมในทันที และยังสะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงที่เศรษฐกิจยูโรโซนจะชะลอตัวลงในไตรมาส 2 นี้" คริส วิลเลียมสัน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ด้านธุรกิจของเอสแอนด์พี โกล.กล่าว

ที่ผ่านมานั้น กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมของยูโรโซนได้รับแรงหนุนจากภาคบริการ อันเนื่องมาจากอุปสงค์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาคึกคักอีกครั้ง

อย่างไรก็ดี เอสแอนด์พี โกล.ระบุว่า ความคึกคักดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว เนื่องจากขณะนี้ภาคธุรกิจต่างพากันวิตกกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจที่อ่อนลง ดังจะเห็นได้จากดัชนีความเชื่อมั่นที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 ปีครึ่ง

แต่ถึงกระนั้นก็ตาม นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ออกมาปฏิเสธความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจยูโรโซนจะเผชิญกับภาวะ Stagflation หรือภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแรงลงท่ามกลางเงินเฟ้อที่สูงขึ้น โดยเธอเชื่อว่า แม้ยูโรโซนเผชิญกับสถานการณ์ที่ย่ำแย่ที่สุด แต่เศรษฐกิจก็จะยังสามารถขยายตัวได้ 2.3% ในปีนี้

รับโพสเว็บบอร์ด ราคาถูก พร้อม report
รับลงประกาศขายหรือให้เช่า บ้าน, ที่ดิน, คอนโด, อาคารพาณิชย์, ทาวน์เฮ้าส์ หรืออสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ

ตลท.ให้ MAX เข้าขั้นตอน Resume Stage แก้ไขคุณสมบัติภายใน 27 ก.พ.66

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตามที่ ตลท.ประกาศให้บมจ. แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น (MAX) เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนกรณีไม่นำส่งงบการเงินประจำปี 2563 และงบการเงินไตรมาสที่ 1-2 ปี 2564 ภายในระยะเวลาที่กำหนดนั้น

ขณะนี้ MAX ได้นำส่งงบการเงินประจำปี 2563 ต่อ ตลท. แล้ว จึงประกาศให้ MAX เข้าสู่ช่วงดำเนินการให้มีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขาย (Resume Stage) ซึ่ง MAX จะต้องดำเนินการให้มีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขายได้ภายในวันที่ 27 ก.พ.66 หากเมื่อครบกำหนดเวลาและ MAX ไม่สามารถดำเนินการได้ ตลท.อาจพิจารณาดำเนินการเพิกถอนหลักทรัพย์ต่อไป

อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก MAX อยู่ระหว่างแก้ไขเหตุเพิกถอนกรณีไม่นำส่งงบการเงินไตรมาสที่ 1-2 ปี 2564 ภายในระยะเวลาที่กำหนดซึ่งบริษัทยังคงมีหน้าที่ที่จะต้องแก้ไขเหตุเพิกถอนทั้งหมดให้หมดไปและดำเนินการให้มีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขายตามกำหนดระยะเวลาของเหตุเพิกถอนแต่ละเหตุ

ทั้งนี้ มีกำหนดระยะเวลาดำเนินการ ดังนี้

กรณีไม่นำส่งงบการเงินไตรมาสที่ 1 ปี 2564 : ครบกำหนดเวลาแก้ไขเหตุเพิกถอนภายในวันที่ 17 พ.ย.65
กรณีไม่นำส่งงบการเงินไตรมาสที่ 2 ปี 2564 : ครบกำหนดเวลาแก้ไขเหตุเพิกถอนภายในวันที่ 17 ก.พ.66
การดำเนินการให้มีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขาย (Resume Stage) : ครบกำหนดเวลาดำเนินการภายในวันที่ 27 ก.พ.66

BAY เปิดกลยุทธ์ 3R หนุน SME โตยั่งยืน-ดิจิทัลขับเคลื่อน เป้าสินเชื่อโต 2.5%
 
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เปิดกลยุทธ์กลุ่มงานลูกค้าธุรกิจ SME ปี 65 เดินหน้าสู่การเป็นธนาคารหลักสำหรับลูกค้าธุรกิจ SME มุ่งสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของลูกค้าในทุกการก้าวผ่านสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยแผนกลยุทธ์ในการดูแลลูกค้า SME ผ่าน 3R ได้แก่ Resilient, Respond และ Rebuild for the Future โดยเน้นพัฒนาด้านดิจิทัลและนวัตกรรม อีกทั้งเดินหน้าเชื่อมต่ออาเซียนสร้างโอกาสธุรกิจเพื่อลูกค้า พร้อมเป็นพันธมิตรที่ลูกค้า SME ไว้วางใจ

นางสาวดวงกมล ลิมป์พวงทิพย์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอี BAY กล่าวว่า แผนกลยุทธ์ในการดูแลลูกค้า SME ผ่าน 3R ได้แก่

Resilient: มุ่งช่วยให้ธุรกิจลูกค้าฟื้นตัว โดยแบ่งการดูแลลูกค้าออกตามกลุ่มที่ได้รับผลกระทบต่างๆ ซึ่งในกลุ่มที่ยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 จะมีผู้จัดการลูกค้าสัมพันธ์ของธนาคาร (Relationship Manager) ดูแลอย่างใกล้ชิด และมีมาตรการต่าง ๆ ในการช่วยสนับสนุนฟื้นฟูธุรกิจของลูกค้า และสำหรับกลุ่มที่พร้อมจะเติบโต ในวันที่เศรษฐกิจของไทยเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น กรุงศรีก็พร้อมสนับสนุนสินเชื่อหรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินด้านอื่น ๆ ที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ยังมีการจัดการดูแลลูกค้าตามกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละธุรกิจอีกด้วย
Respond: มุ่งตอบสนองความต้องการลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ โดยผู้จัดการลูกค้าสัมพันธ์ของธนาคารจะเป็นที่ปรึกษาให้กับลูกค้า สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งในด้านการเงิน แนะนำโซลูชั่นที่เหมาะสมให้กับลูกค้า และเพิ่มมูลค่าแก่ลูกค้าด้วยการแบ่งปันข้อมูล ความรู้ ทักษะใหม่ ๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจให้กับลูกค้า
Rebuild for the Future: มุ่งช่วยให้ธุรกิจลูกค้าเติบโตในอนาคต โดยกรุงศรีร่วมสนับสนุนธุรกิจของลูกค้าให้เติบโตไปด้วยกัน โดยแบ่งเป็น 3 แนวทางหลักที่สอดคล้องไปกับทิศทางของกรุงศรีในการดูแลลูกค้าของธนาคาร อันได้แก่ ASEAN Connectivity หรือการเชื่อมโยงอาเซียน โดยประสานความร่วมมือกับ MUFG และเครือข่ายมาเสริมความแข็งแกร่งในการช่วยลูกค้าขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ทั้งในด้านการขยายบริการธุรกรรมการโอนเงินระหว่างประเทศ และสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับลูกค้าผ่านทางกิจกรรมต่างๆ ทั้งงานสัมมนา หรือการจับคู่ธุรกิจ, Trusted Partner หรือการเป็นพันธมิตรที่ลูกค้าไว้วางใจ พัฒนา Ecosystem ให้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของลูกค้าอย่างครบวงจร พร้อมพัฒนานวัตกรรมทางการเงินด้าน ESG อาทิ สินเชื่อโซลาร์รูฟสำหรับผู้ประกอบการ และ Digital & Innovation หรือการเป็นผู้นำด้านดิจิทัลและนวัตกรรม
ในส่วนของ Digital & Innovation ถือเป็นไฮไลท์สำคัญของกลุ่มธุรกิจ SME ในปีนี้ โดยมี 4 ผลิตภัณฑ์และบริการหลักที่เรามุ่งเน้น คือ 1. Krungsri Digital Supply Chain Solution คือ โซลูชั่นเพื่อช่วยสนับสนุนธุรกิจในกลุ่ม Supply Chain และช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการ 2. Krungsri Biz Online หรือที่รู้จักกันในชื่อ KBOL ดิจิทัลแบงก์กิ้งเพื่อการทำธุรกรรมออนไลน์ของธุรกิจ โดยในปีนี้ KBOL ยังจะพัฒนาฟีเจอร์และบริการใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างประสบการณ์ดิจิทัลให้กับลูกค้าธุรกิจของธนาคารกรุงศรี

3. "Krungsri iPro" นวัตกรรมทางการเงินเพื่อการเปิดบัญชีนิติบุคคลในยุคดิจิทัล ให้ลูกค้า SME ก้าวข้ามความยุ่งยากแบบเดิมๆ ด้วยเทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวกลูกค้า ลดขั้นตอนด้านเอกสาร สามารถนัดหมายวันเวลาเพื่อเปิดบัญชีได้ที่ออฟฟิศของลูกค้า พร้อมเปิดใช้งานบัญชีได้ทันที และ 4. "Krungsri Business Link" แพลตฟอร์มจับคู่ธุรกิจออนไลน์ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าธุรกิจในการขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ สะดวกและน่าเชื่อถือด้วยการคัดกรองคู่ค้าจากกรุงศรีและพันธมิตร"

"ปีนี้ยังคงเป็นปีแห่งความท้าทายอย่างยิ่ง ธุรกิจต้องปรับตัวรับสถานการณ์ความเสี่ยงต่างๆ และมีความ Resilience พร้อมลุกขึ้นเพื่อก้าวผ่านในทุกวิกฤต อีกทั้งหาหนทางเพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกิจโดยเฉพาะยุคดิจิทัลนี้ ธนาคารพร้อมสนับสนุนธุรกิจของลูกค้า ด้วยผลิตภัณฑ์ บริการ ความรู้ และโอกาสธุรกิจ โดยนำดิจิทัลและเทคโนโลยีมาเป็นตัวขับเคลื่อน เพื่อให้ลูกค้า SME สามารถก้าวผ่านและเติบโตได้อย่างยั่งยืน ขณะเดียวกัน ในปี 65 เรายังคงตั้งเป้าสินเชื่อของ SME ให้สอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยเราตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อกลุ่มธุรกิจ SME ในปีนี้ อยู่ที่ 2.5%" นางสาวดวงกมล กล่าว

ห้องสุวรรณภูมิในจังหวัดกรุงเทพ เมืองไทย
​สุวรรณภูมิสวีทตั้งอยู่ห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิในกรุงเทพฯ
 เพียงแค่ 5 นาที เป็นอพาร์เม้นท์ที่สมบูรณ์แบบ SkyBar สุวรรณภูมิ
สำหรับนักเดินทางที่คอยต่อเครื่อง ที่นี่ คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์การเข้าพักที่ยอดเยี่ยม
พร้อมเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับช่วยในด้านสำหรับอำนวยความสะดวกแบบบริการเต็ม
รูปแบบในทำเลที่เป็นต่อและราคาที่สมเหตุสมผล 
โฮเต็ลของเรามีมากยิ่งกว่าที่พักที่เงียบสงบ
ก่อนหรือหลังเที่ยวบิน เราภูมิใจที่เกินความคาดหมาย
ของแขกของพวกเราด้วยการนำเสนอห้องพักและ SkyBar สุวรรณภูมิ
เครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับช่วยในด้านสำหรับอำนวยความสะดวก
ที่ดูแลอย่างพิถีพิถัน และก็บริการที่มีประสิทธิภาพแล้วก็
ดีจาก
บุคลากรที่อ่อนโยนของพวกเรา SkyBar สุวรรณภูมิ
 พวกเราได้ดีไซน์ทุกแง่ทุกมุมโดยนึกถึงความสะดวกสบายของคุณ
 ชักชวนเข้ามาได้ตลอดเวลา และรับการต้อนรับจากแผนกต้อนรับที่เปิดตลอด 
1 วันของพวกเรา พวกเราได้ทำให้แน่ใจว่าห้องพักพร้อมเสมอที่จะช่วยให้คุณนอน
สบายเพื่อเตรียมตัวสำหรับวันหยุดที่น่าตื่นเต้นของคุณ  SkyBar สุวรรณภูมิ


https://bit.ly/3wvgbw1

up up

จัดไป

AP ดันยอดขาย 2 เดือนแรกโต 47% เปิดตัวทาวน์โฮมโมเดลใหม่ 7 MORE บุกทุกเซกเมนต์
 
นายเมธา รักธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าทาวน์โฮม บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) เปิดเผยว่าแนวโน้มความต้องการที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะสินค้าแนวราบ มีทิศทาง การเติบโตที่ดี สะท้อนจากยอดขายโครงการเครือเอพีที่ได้รับการตอบรับอย่างต่อเนื่อง จนสามารถทำยอดขายสินค้าแนวราบได้แล้วกว่า 7,800 ล้านบาท (28 ก.พ. 65) หรือเติบโต 47% ซึ่งนับเป็นการเติบโตที่แข็งแกร่ง

และล่าสุด เพื่อเป็นการติดอาวุธเสริมความโดดเด่นในการแข่งขัน กลุ่มธุรกิจทาวน์โฮมพร้อมเดินหน้าตอกย้ำเป้าหมายผู้นำตลาดทาวน์โฮม สู่การมุ่งส่งมอบชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้ ผ่านการนำเสนอแคมเปญใหญ่ "7 MORE" ขนทัพบ้านทาวน์โฮมดีไซน์ใหม่ บุกทุกเซกเมนต์ ครอบคลุมทุกแบรนด์ อาทิ บ้านกลางเมือง - แกรนด์ พลีโน่ - พลีโน่ และแบรนด์ใหม่ล่าสุด พลีโน่ ทาวน์ เตรียมรุก 7 ทำเลเมือง พร้อมข้อเสนอที่ให้มากที่สุด ผ่อนเพียง 777 บาท/เดือน นาน 7 เดือน ราคาพิเศษเริ่ม 1.99 - 12 ล้านบาท ลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท เฉพาะลูกค้าที่จองในวันที่ 26 - 27 มีนาคมนี้เท่านั้น

"ในปีนี้ กลุ่มธุรกิจทาวน์โฮมเอพีกับความพร้อมพุ่งทะยานสร้างความแตกต่างที่เหนือกว่า ตอกย้ำเป้าหมายผู้นำตลาดทาวน์โฮม โดยมีกลยุทธ์สำคัญในการพัฒนาโปรดักต์ทาวน์โฮมใหม่ ภายใต้แนวคิด "Unlock ชีวิตคนเมืองกับทาวน์โฮมเอพี พื้นที่ชีวิตแนวตั้งที่เลือกได้" ตอบโจทย์ลูกค้าทุกเซกเมนต์ สำหรับ Big Surprise แรกพร้อมเปิดตัวแบบบ้านทาวน์โฮมโมเดลใหม่ล่าสุด ภายใต้แคมเปญ 7 MORE พลิกโฉมใหม่หมด ทั้งมิติงานสถาปัตยกรรมและสเปซภายใน เพื่อเดินหน้าปลดล็อกประสบการณ์ของการอยู่อาศัยสู่การใช้ชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้ ภายใต้จุดเด่นทั้ง 4 แบรนด์ทาวน์โฮมเอพีที่ชัดเจนและแตกต่างเหนือคู่แข่ง" นายเมธา กล่าว
ไฮไลต์แรกแบรนด์ "บ้านกลางเมือง" เจาะลูกค้าครอบครัวระดับบนที่มองหาความสงบใจกลางเมือง ผ่าน 2 โมเดลใหม่ล่าสุด ได้แก่ LAPIS ความเป็นส่วนตัวนิยามใหม่ในทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร ขนาดที่ดินเริ่มต้น 17 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 143 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ครั้งแรกของการดีไซน์พื้นที่ในบ้าน โดดเด่นด้วยการออกแบบที่เป็นส่วนตัว และสเปซฟังก์ชันขนาดใหญ่ที่สมบูรณ์ พร้อมด้วยงานสถาปัตยกรรมที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายกลมกลืนไปกับธรรมชาติ ขยายพื้นที่ส่วนนั่งเล่น รับประทานอาหาร และครัวขนาดใหญ่ พร้อมห้องอเนกประสงค์ที่ชั้นสองรองรับเป็นพื้นที่พักผ่อน ห้องนอน หรือปรับเป็นห้องทำงานติดระเบียงรับวิวแสงธรรมชาติ และห้องนอนใหญ่แบบ Penthouse ที่ชั้นสาม โดยมีการบริหารผังภายในให้ไม่ชนกับพื้นที่ใช้งานของหลังข้างเคียง

และ TOPAZ บ้านแฝดฟังก์ชันบ้านเดี่ยว 3 ชั้น หน้ากว้าง 9.8 เมตร ขนาดที่ดิน 35.5 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 218 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 พื้นที่อเนกประสงค์ 3 ที่จอดรถ ดีไซน์พื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ ให้ทุกตารางนิ้วในบ้านเต็มไปด้วยสเปซที่ปรับเปลี่ยนได้ ตอบโจทย์รองรับทุกเจเนอเรชั่น ทั้งห้องนอนล่าง และห้องนอนขนาดใหญ่ที่ชั้นสองและสาม เต็มอิ่มด้วยห้องนอนมาสเตอร์แบบ Penthouse เต็มพื้นที่ พร้อมด้วยสวนสีเขียวรอบตัวบ้าน เปิดตัวใน 2 โครงการใหม่ 1) บ้านกลางเมือง สาทร-กัลปพฤกษ์ เอกสิทธิ์พิเศษ 70 ยูนิต ราคา 4.99 - 9 ล้านบาท 2) บ้านกลางเมือง สุขสวัสดิ์-พระราม 3 เอกสิทธิ์พิเศษ 46 ยูนิต ราคาเริ่ม 4.79 ล้านบาท

ขณะที่แบรนด์ "แกรนด์ พลีโน่" ตีโจทย์บ้านยุคใหม่ เน้นฟังก์ชันครบจบตอบอินไซต์การใช้ชีวิตร่วมกันของลูกค้าครอบครัวยุคใหม่ ผ่านการเปิดตัว 2 แบบบ้านใหม่ล่าสุด SHANE บ้านแฝดหรูหลังใหญ่ 2 ชั้น หน้ากว้าง 11.4 เมตร ขนาดที่ดินเริ่ม 35.25 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 142 ตารางเมตร 3 ห้องนอนใหญ่ 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ และ JANETTE บ้านแฝดแนวคิดใหม่ 2 ชั้น หน้ากว้าง 9.4 เมตร ขนาดที่ดินเริ่ม 35.35 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 145 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ดีไซน์เพื่อให้บ้านแต่ละหลังมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน พร้อมฟังก์ชันบ้านแนวคิดใหม่ สร้างพื้นที่พิเศษเพิ่มขนาดการใช้งานได้จริงในทุกพื้นที่ ตอบการใช้ชีวิตของครอบครัวรุ่นใหม่ ที่โหยหาการใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ ผ่านการเชื่อมโยงธรรมชาติเข้าสู่ภายในบ้าน พร้อมพื้นที่สวนรอบบ้าน ส่งมอบประสบการณ์อยู่อาศัยตอบการใช้งานในทุกช่วงวัย เปิดตัวที่โครงการ แกรนด์ พลีโน่ บางนา ? อ่อนนุช จำนวน 82 ยูนิต ราคาเริ่ม 4.89 ล้านบาท

นอกจากนี้ พร้อมต่อยอดความสำเร็จแบรนด์ "พลีโน่" บ้านหลังแรกที่ดีที่สุดครองใจลูกค้าคนรุ่นใหม่ นำเสนอ 3 แบบบ้านใหม่ตรงไลฟ์สไตล์ ได้แก่ แบบบ้านใหม่ DAVIN ทาวน์โฮมดีไซน์ใหม่ 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ขนาดที่ดิน 17.5 ตารางวาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 104 ตารางเมตร โดดเด่นด้วยการดีไซน์พื้นที่ชีวิตที่กว้างกว่าเดิม ฟังก์ชันตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ แบบบ้านใหม่ VIVID ทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่ 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ขนาดที่ดิน 17.5 ตารางวาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 106 ตารางเมตร เต็มอิ่มสเปซฟังก์ชันเติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์แห่งความสุขได้ไม่จำกัด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ และแบบบ้านใหม่ BEAMING ครั้งแรกของการดีไซน์ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 7 เมตร บนขนาดที่ดิน 25 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 132 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ สะท้อนตัวตนลูกค้าอย่างมีสไตล์ ด้วยดีไซน์หน้ากากบ้านที่แตกต่างกัน พร้อมขยายสเปซฟังก์ชันภายในใช้งานได้อย่างเต็มที่ ขยายหน้าต่างที่เน้นเปิดช่องแสงธรรมชาติ เพิ่มความโปร่งการหมุนเวียนระบบอากาศธรรมชาติเข้าสู่ตัวบ้าน แบ่งโซนการใช้งานบนชั้นสองเป็นสัดส่วนพื้นที่กว้างขวาง พร้อมพื้นที่สวนส่วนตัวทุกหลัง ซึ่งจะเปิดตัว 3 โครงการ 1) พลีโน่ ราชพฤกษ์-สาทร จำนวน 158 ยูนิต ราคาเริ่ม 3.19 ล้านบาท 2) พลีโน่ วิภาวดี - ดอนเมือง จำนวน 235 ยูนิต ราคา 2.99 - 5.59 ล้านบาท และ 3) พลีโน่ บางนา - อ่อนนุช 2 เพียง 44 ยูนิต เริ่ม 3.79 ล้านบาท

และการเปิดตัวแบรนด์น้องใหม่ "พลีโน่ ทาวน์" ภายใต้แนวคิดพื้นที่ความสุขทั้งชีวิต เจาะกลุ่ม Gen Z บุกตลาดโซนปริมณฑลให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าได้มีตัวเลือกใหม่ๆ ที่ตรงใจในราคาที่เข้าถึงได้จริง โดยนำร่องครั้งแรกที่โครงการ "พลีโน่ ทาวน์ บางนา" จำนวน 351 ยูนิต ราคาเริ่มเพียง 1.99 ล้านบาท พร้อมด้วยแบบบ้านดีไซน์ใหม่ GROSSO ทาวน์โฮมรูปแบบล่าสุด 2 ชั้น ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายคน รุ่นใหม่ หน้ากว้าง 5 เมตร ขนาดที่ดิน 16.4 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 91 ตารางเมตร 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ห้องอเนกประสงค์ และที่จอดรถ โดดเด่นด้วยฟังก์ชันที่คุ้มค่า เพิ่มความสุขที่มากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะห้องอเนกประสงค์ที่ชั้นหนึ่งรองรับการปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ ซึ่ง "พลีโน่ ทาวน์ บางนา" ได้รับการตอบรับช่วงพรีวิวรอบพิเศษที่ดีมาก ซึ่งเอพีมั่นใจว่าด้วยจุดต่างการนำเสนอพื้นที่ใช้สอยที่คุ้มค่า ให้มากกว่าโครงการทั่วไป ในราคาที่เข้าถึงได้จริง จะเป็นจุดเริ่มต้นชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้ ครอบคลุมทุกความ ต้องการของลูกค้าอย่างแน่นอน

     "คุณครูชมพู่" หรือ "รศ. ดร.ชุติกาญจน์ ศรีวิบูลย์[/i]"กับความตั้งใจจริงในทางสู่ตำแหน่งอธิการบดีคุณครูชมพู่สมัครเข้ารับการสรรหาในตำแหน่งอธิการบดีด้วยประณิธานอันแน่วแน่ป้ายประกาศให้กับชุมชนรับทราบตั้งแต่วันแรกที่ตกลงใจที่จะเดินหน้าสู่ตำแหน่งสูงสุดในองค์กรแห่งนี้KEEP & SWITCH



คลิ๊กหาพวกเราได้ตามเว็บไซต์ ชุติกาญจน์ ศรีวิบูลย์ https://gooduniversity.net/suansunandha-5/

"KEEP"เป็นธำรงรักษาไว้ซึ่ง "เรื่องดีงาม" ที่สมัยก่อนอธิการบดี รศ. ดร.ฤๅเดช กำเนิดวิชัย แล้วก็คณะผู้บริหารได้ทุ่มเทการทำงานและรังสฤษฏ์ให้สวนสุนันทาก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ ๑ ของมหาวิทยาลัยราชภัฏ แล้วก็นับว่าเป็นมหาวิทยาลัยระดับแนวหน้าแห่งหนึ่งของประเทศไทย ณ วันนี้.. ๗ ปีเศษที่เราอยู่ร่วมกันอย่างผาสุก อยู่กันอย่างองอาจในความโหฬารของสวนสุนันทา โน่นคือระยะเวลาอันสวยที่พวกเราจะต้องร่วมกันรักษาเอาไว้จ้ะ
ในเวลาเดียวกัน พวกเราจำเป็นต้อง "SWITCH" ก็เนื่องจากเมื่อเหตุการณ์แปลง พวกเราก็จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจสำหรับการชิงชัยและก็ทันต่อโลกอนาคตคุณครูชมพู่แน่ใจว่าด้วยประสบการณ์ ความสามารถ รวมทั้งกำลังกายพลังใจที่มีอยู่จะสามารถนำพาหน่วยงานผ่าวิกฤตก้าวไปถึงจุดหมายปลายทางที่ "ไกลกว่าแล้วก็สูงยิ่งกว่า" เวลานี้ได้ขอขอบพระคุณสำหรับทุกแรงใจที่เป็นคะแนนบริสุทธิ์ ที่ช่วยสนับสนุนให้อาจารย์ชมพู่ก้าวเดินสู่ตำแหน่งอธิการบดี โดยเฉพาะนับถึงวันวานนี้ มีการเสนอชื่อจากพนักงานในมหาวิทยาลัย และหน่วยงานระดับคณะ/วิทยาลัย/ศูนย์/สำนักอีกเยอะๆ เพื่อส่งเสริมให้อาจารย์ชมพู่เป็นอธิการบดีคนใหม่ของสวนสุนันทา

ท่านคณบดี ผู้อำนวยการศูนย์ สำนัก ทุกคนที่เสนอชื่อนั้น คุณครูชมพู่ ไม่อาจจะใช้อิทธิพลอิทธิพลไปกดดันผู้ใดได้ ตำแหน่งตอนนี้เป็นเพียงแค่รักษาราชการแทนอธิการบดี ที่สภามหาวิทยาลัยมอบหมายให้ทำงานในระยะเวลาวิกฤตนี้แค่นั้น
การไปกดดัน ขู่เข็ญ ให้ถ่ายภาพเป็นหลักฐานหรือตรวจเช็คใบเสนอชื่อเป็นรายวันว่าผู้ใดกันแน่ไม่สนับสนุน จะไม่ต่อสัญญาจ้างและไล่เก็บเงินตอนหลังนั้น ไม่ใช่วิสัยและไม่เคยเป็นสิ่งที่คุณครูชมพู่ปฏิบัติปฏิบัติมาก่อนอาจารย์ชมพู่ มีเป้าหมายแน่วแน่ที่จะสร้างธรรมาภิบาลในอนาคตให้เกิดขึ้นในสังคมเล็กๆของเรา ยืนหยัดอยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้ด้วยตัวผู้เดียว ไม่มีญาติหรือญาติใดๆก็ตามมาร่วมทำงานด้วยแม้แต่คนเดียว

ทั้งยัง ไม่ส่งเสริมระบบค้ำชู ไม่สนับสนุนการบริหารงานแบบครอบครัวและวงศ์วาน และก็ให้คำมั่นคำสัญญาว่าสิ่งเหล่านี้จึงควรหมดไปจากสังคมสวนสุนันทาในอนาคตอันใกล้นี้ รองศาสตราจารย์ ดร.ชุติกาญจน์ ศรีวิบูลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา พูดถึงจุดหมายของการจัดงานในครั้งนี้ว่า แผนการ "ไทยทะยาน" ทะยานให้สร้างสรรค์ ปั้นไทยด้วยมือ GEN Z ในครั้งนี้ มีสาเหตุมาจากความร่วมมือของ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา วิทยสถานที่สังคมศาสตร์รวมทั้งศิลปกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย (TASSHA) และก็ฝ่ายภาคเอกชน ที่ต่างมองเห็นถึงจุดสำคัญในการรักษามรดกทางวัฒนธรรมของชาติไทย เพื่อความก้าวหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจในชุมชน แคว้น สร้างมูลค่าเพิ่มทางด้านเศรษฐกิจ สังคม แล้วก็ชี้ให้เห็นถึงมรดกทางวัฒนธรรมที่มีค่ายิ่งของไทย พร้อมเอามาต่อยอดให้เกิดโมเดลเศรษฐกิจประดิษฐ์ ที่สามารถนำไปเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างแท้จริง
"มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เห็นถึงความสำคัญดังที่กล่าวมาแล้ว และก็เอาจริงเอาจังที่จะต่อยอดสำหรับเพื่อการจัดกิจกรรมอบรมเพิ่มองค์ความรู้ สร้างแรงผลักดันผ่านการเล่าเรียนแบบปฏิบัติจริง (Experiential Learning) เพื่อเป็นการผลักดันให้สังคมได้เห็นถึงจุดสำคัญของมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศไทย รวมทั้งเป็นการติดอาวุธทางความคิดอย่างประดิษฐ์ให้กับนิสิต อีกทั้งจากมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วราชอาณาจักร มหาวิทยาลัยของรัฐและก็เอกชนทั้งประเทศ รวมถึงผู้ร่วมแผนการ U2T ได้แสดงศักยภาพในการวางแบบ สร้างนวัตกรรมและผลงานทางศิลปะอย่างประดิษฐ์ ซึ่งสามารถเพิ่มค่าทุนทางวัฒนธรรมไทย เพิ่มสมรรถนะ และก็ยกฐานะเศรษฐกิจแล้วก็สังคมรายตำบล รวมทั้งการสร้างรายได้ สร้างช่องทางให้กับพลเมืองและก็นักศึกษา"

"ทั้งยังยังเป็นการหล่อหลอมเยาวชนคนสมัยใหม่ให้สามารถเชื่อมสมัยก่อนแล้วก็สืบต่ออนาคต คิดและก็ลงมือกระทำเพื่อรักษามรดกของชาติให้ดำรงอยู่ต่อไปได้อีกด้วย โดยโครงการทะยานไทย ถือเป็นการสนองตอบแผนการของรัฐบาลในการพัฒนาเศรษฐกิจรากฐาน และก็สอดคล้องกับพันธกิจหลักและยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาได้อย่างแจ่มแจ้ง สำหรับการผลิตรวมทั้งพัฒนาบัณฑิตที่มีความชำนิชำนาญเฉพาะทางตามสิ่งที่จำเป็นของประเทศในแต่ละคณะ ควบคู่ไปกับการพัฒนาวิชาความรู้รวมทั้งสิ่งใหม่ รวมทั้งถ่ายทอดองค์วิชาความรู้เชิงทฤษฎีสู่การกระทำจริง" รศ.ดร.ชุติกาญจน์ ศรีวิบูลย์ กล่าวด้าน รศ.พิเศษ ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยเจริญรุ่งเรือง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการแล้วก็พิธีกรกระทรวง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ ศึกษาค้นคว้าแล้วก็สิ่งใหม่ พูดว่า กระทรวงฯ ให้ความเอาใจใส่อย่างยิ่งกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่เป็นส่วนสำคัญสำคัญของการพัฒนาประเทศ โดยได้วางทิศทางในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากเชิงสร้างสรรค์และก็การเพิ่มระดับความสามารถของคนไทย ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นการสร้างคนรุ่นหลัง และก็นิสิตและนักศึกษา ให้มีความสามารถทางสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และก็ศิลปกรรมศาสตร์ ที่สามารถเชื่อมโยงองค์ความเข้าใจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องภูมิปัญญา ศิลปวัฒนธรรม รวมทั้งประวัติศาสตร์ของชาติ ให้เข้ากับการใช้สื่อและเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มราคาให้กับฐานทุนทางด้านวัฒนธรรมที่พวกเรามีอยู่ให้สูงมากขึ้น โดยผสานอดีตกาลกับกระแสโลกาภิวัตน์ไปสู่อนาคต พร้อมมุ่งหน้าสู่การผลิตคุณประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจรวมทั้งสังคม โดยเฉพาะเศรษฐกิจที่ใช้มรดกทางวัฒนธรรมของไทยเป็นรากฐาน กระทั่งสามารถนำพาประเทศไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ถัดไป



ที่มา บทความ ชุติกาญจน์ ศรีวิบูลย์ [/i]https://gooduniversity.net/suansunandha-5/

รมว.พาณิชย์ เร่งแก้ปัญหาอุปสรรคส่งออกผลไม้ หวังดันทั้งปีโต 15%

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้ามาตรการแก้ไขปัญหาผลไม้ ปี 2565 และการแก้ไขปัญหาการส่งออกผลไม้ ซึ่งเป็นการประชุมร่วมกับผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้แทนเกษตรกร ห้างค้าปลีก-ค้าส่ง สถานีบริการน้ำมัน แพลตฟอร์ม โลจิสติกส์ สายการบิน ตลอดจนผู้แทนสถาบันการเงิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยระบุว่า วันนี้เป็นการประชุมร่วมกันเต็มรูปแบบ เพื่อช่วยสนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ในทั่วทุกภาคของประเทศเป็นการล่วงหน้า สำหรับฤดูกาลผลิตปี 65 ซึ่งจะมีผลผลิตเพิ่มขึ้น 13% คิดเป็นปริมาณรวมทั้งหมด 5.4 ล้านตัน

โดยสิ่งที่ดำเนินการไปก่อนหน้านี้ คือ ประชุมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และกำหนดมาตรการเชิงรุกล่วงหน้า ตั้งแต่ครึ่งปีที่ผ่านมาคือมาตรการ 17+1 โดยเฉพาะจังหวัดชายแดนภาคใต้มีมาตรการเปิดด่านเพิ่มขึ้นมาเป็นมาตรการที่ 18 ซึ่งการเตรียมตลาดล่วงหน้ารองรับ ขณะนี้การใช้มาตรการ 17+1 ที่ผ่านมา มีการเตรียมตลาดรองรับไว้แล้ว 450,000 ตัน ส่วนที่เหลือจะเป็นไปตามกลไกตลาด ที่เกษตรกรผลิตผลไม้ที่ได้คุณภาพ ล้งรับซื้อตามมาตรฐานและราคาที่เป็นธรรม ผู้ประกอบการและผู้ส่งออกดำเนินการเตรียมการส่งออกต่อไป

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตลาดส่งออกผลไม้ไทยตลาดใหญ่ คือ ประเทศจีน โดยในปี 2564 ส่งออกผลไม้ไปจีนมีมูลค่า 163,000 ล้านบาท ปริมาณ 2.2 ล้านตัน เป็นการส่งออกไป 3 เส้นทางหลัก คือ ทางเรือ 51% ทางบก 48% และทางอากาศ 0.54% โดยการประชุมวันนี้ ภาคเอกชนได้นำเสนอทางออกร่วมกัน 8 ประเด็น โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการตลาด การส่งออกไปตลาดจีน

ประเด็นที่ 1 จะเจรจากับทางการจีนขอให้ช่วยเปิดด่าน ซึ่งเดิมเคยเปิด 4 ด่าน แต่ปิดไป 1 ด่าน คือ ด่านตงซิง จึงจะขอความร่วมมือจากจีนให้ช่วยเปิดด่านตงซิง เพื่อระบายผลไม้ออกไปได้ รวมทั้งขยายเวลาเปิดด่าน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับการส่งออกผลไม้ไทย ตนมอบให้ทูตพาณิชย์ ทูตเกษตรเจรจาต่อไป

ประเด็นที่ 2 ทางฝั่งลาวที่ไทยส่งผลไม้ผ่านเข้าไปในจีน โดยเฉพาะทางเชียงของไปโม่ฮานของจีน และผ่านด่านบ่อเต็น ขอให้ทูตพาณิชย์ ทูตเกษตร และกระทรวงการต่างประเทศช่วยเจรจาในการถ่ายรถ ซึ่งเดิมรถขนส่งจากไทยสามารถผ่านด่านไปเชียงของและถ่ายรถครั้งเดียวที่ด่านบ่อเต็นเพื่อเข้าจีนได้เลย แต่ช่วงหลังทางการลาวเปลี่ยนระบบให้ถ่ายรถที่ด่านเชียงของ อุปสรรค คือ รถลาวมีไม่เพียงพอ จะเจรจาขอให้กลับไปเหมือนถ่ายรถที่เดียวที่ด่านบ่อเต็น หรือให้ทางการลาวเพิ่มรถ

ประเด็นที่ 3 การขนส่งทางเรือ ขณะนี้ปัญหาตู้คอนเทนเนอร์คลี่คลายแล้ว และค่าระวางเรือยังทรงอยู่ จึงอยากให้เรือใหญ่เข้ามาเทียบท่าของไทยมากขึ้น ถ้ามีมาตรการอนุญาตให้มีการถ่ายลำจะจูงใจให้เรือใหญ่เข้ามา นำตู้เข้ามาได้มากขึ้น ช่วยให้มีตู้ส่งออกไปได้มากขึ้น ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศ ร่วมกับเอกชนและหน่วยงานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องจะร่วมเจรจากันให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว

ประเด็นที่ 4 การขนส่งทางอากาศ ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย สายการบินต่างๆ รวมทั้งผู้ส่งออกเร่งเจรจาร่วมกัน และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) ช่วยสินเชื่อเงื่อนไขผ่อนปรน ให้ต้นทุนการขนส่งทางอากาศลดลง เพื่อเพิ่มช่องทางการส่งออกผลไม้ไปยังจีน

ประเด็นที่ 5 เส้นทางการขนส่งผ่านรถไฟ โดยเฉพาะรถไฟลาว-จีน ซึ่งรถไฟลาว-จีน จะเริ่มต้นจากหนองคายไปเวียงจันทน์และเข้าจีนที่ด่านโม่ฮาน แต่ด่านโม่ฮาน ยังไม่แล้วเสร็จ ต้องรอเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป ดังนั้นจึงมอบให้ทูตพาณิชย์ และทูตเกษตร เจรจากับทางการลาว ว่าถ้าขนส่งผลไม้ผ่านรถไฟลาว-จีน เมื่อเข้าเวียงจันทน์ให้ผ่านด่านโม่ฮาน แล้วไปตรวจที่คุนหมิงทีเดียวที่เป็นจุดหมายปลายทาง หรือจะให้ตรวจที่ด่านบ่อเต็นก็ได้ เนื่องจากด่านโม่ฮานยังไม่เสร็จ ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มช่องทางการระบายผลไม้

ประเด็นที่ 6 การขนส่งผลไม้ผ่านนครพนม ผ่านลาว ผ่านเวียดนาม แล้วเข้าจีน ซึ่งต้องผ่านเวียดนามก่อน ดังนั้นจะมีการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee : JTC) ในวันที่ 20 เมษายน 2565 โดยจะหยิบยกประเด็นนี้ในระดับรัฐมนตรีมาเจรจากับทางการเวียดนาม เพื่อขออำนวยความสะดวก และช่วยลดการจราจรที่ติดขัดหน้าด่านฝั่งเวียดนาม

ประเด็นที่ 7 เอกชนขอให้ช่วยเจรจากับทางการจีน ประเด็นรถที่ตรวจพบโควิดที่ด่านก่อนเข้าจีน ซึ่งปกติจีนจะนำไปฉีดฆ่าเชื้อแล้วส่งกลับและปิดด่าน โดยเอกชนขอให้ช่วยเจรจาว่าให้พ่นฆ่าเชื้อ แล้วส่งกลับ โดยยินดีให้แบล็คลิสต์ แต่ขอว่าอย่าปิดด่าน

ประการที่ 8 เรื่องการเคลื่อนย้ายแรงงานช่วยเก็บเกี่ยวผลไม้ที่ภาคตะวันออก หรือจังหวัดอื่นๆ ที่จำเป็น ขอให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน ฝ่ายความมั่นคง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้ว่าราชการจังหวัด เข้ามามีบทบาทสำคัญ รวมทั้งการเคลื่อนย้ายล้งเมื่อหมดฤดูผลไม้ทางภาคตะวันออก และให้อำนวยความสะดวกการไปรับซื้อผลไม้ที่ภาคใต้ด้วย

ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) คาดว่าผลผลิตผลไม้ปี 65 จะมีปริมาณเพิ่มขึ้น 13% หรือประมาณ 5.42 ล้านตัน ซึ่งการบริโภคผลไม้ จะแบ่งเป็น ตลาดในประเทศ 30% และตลาดต่างประเทศ 70% โดยตลาดในประเทศ ประกอบด้วยห้าง ตลาด รถเร่ ร้านอาหารและแปรรูป และตลาดต่างประเทศ คือ จีน 65% สหรัฐอเมริกา 10% ฮ่องกง 4% เวียดนาม 3% และมาเลเซีย 1% ซึ่งในตลาดต่างประเทศนั้น กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จะขยายตลาดใหม่เพิ่มเติม รวมทั้งจะจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าผลไม้ตามด่านชายแดนด้วย

ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิปิดเช้าพุ่ง 723.15 จุด เยนอ่อนหนุนหุ้นส่งออก

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดเช้าพุ่งขึ้นมากกว่า 2% ในวันนี้ โดยหุ้นกลุ่มส่งออกปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อ หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 6 ปีเมื่อเทียบกับเยน

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 27,947.26 จุด เพิ่มขึ้น 723.15 จุด หรือ +2.66%

หุ้นที่ปรับตัวขึ้นในช่วงเช้านี้นำโดยกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า, กลุ่มเครื่องมือชั่งตวงวัด และกลุ่มอุปกรณ์การขนส่ง

เคทีซีร่วมกับแบล็คแคนยอน ชวนสมาชิกคลายร้อน ทั้งแลกรับฟรีและรับส่วนลดทันที 15%

นางประณยา นิถานานนท์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร - การตลาดบัตรเครดิต "เคทีซี" ร่วมกับ นางกรรณิการ์ ชินประสิทธิ์ชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสารตราสินค้า บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด ชวนสมาชิกคลายร้อนกับโปรโมชันจุใจ ที่ร้านแบล็คแคนยอนทุกสาขาที่ร่วมรายการ ดังนี้

รับส่วนลดทันที 15% เมื่อมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีครบ 650 บาทขึ้นไปต่อเซลส์สลิป (เฉพาะค่าอาหารและเครื่องดื่มราคาปกติ) ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 - วันที่ 31 มกราคม 2566
ใช้คะแนน KTC FOREVER 699 คะแนน แลกรับเครื่องดื่มที่ร่วมรายการมูลค่า 80 - 95 บาท
1 แก้ว (ผ่านแอป KTC Mobile เท่านั้น) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 - วันที่ 30 เมษายน 2565
แลกคะแนน MAAI 850 คะแนน ผ่านแอป MAAI by KTC เพื่อรับเครื่องดื่มแบล็คแคนยอน1 แก้ว มูลค่าสูงสุด 95 บาท ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2565 - วันที่ 31 ธันวาคม 2565
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC PHONE 02 123 5000 หรือติดตามโปรโมชันอื่นๆ ของเคทีซีได้ที่ www.ktc. co.th/promotion สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี สามารถคลิกดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์ https://ktc. today/apply-card หรือติดต่อศูนย์บริการสมาชิก "เคทีซี ทัช" ทุกสาขาทั่วประเทศ ทั้งนี้สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ MAAI by KTC ได้ที่ 02 123 5678 หรือศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมผ่าน www.ktc. co.th/maai

'DRT' มั่นใจไตรมาสแรก รักษาอัตรากำไรขั้นต้นตามแผน

แม้ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนพลังงานทั่วโลกเพิ่มขึ้น แต่ผู้บริหาร DRT 'สาธิต สุดบรรทัด' มั่นใจสามารถบริหารจัดการได้ โดยไตรมาสแรกปีนี้ยังคงรักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่ 27-29% ได้ตามแผน ตอกย้ำพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่งสมชื่อแบรนด์ 'ตราเพชร' และเป็นหุ้น Dividend Stock จ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ จึงทำให้ DRT เป็นหุ้นขวัญใจนักลงทุนในทุกสถานการณ์?

นันทพร ชลวณิช ขายหุ้น SOLAR เกลี้ยงพอร์ต 7.3512%
 Facebook 
 Twitter
 
 Line
ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 23, 2022 09:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับแบบรายงานการจำหน่าย หุ้นของบมจ.โซลาร์ตรอน (SOLAR) โดย นางนันทพร ชลวณิช ซึ่งเป็นการจำหน่าย เมื่อวันที่ 16 มี.ค.65 จำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่าย คิดเป็น 7.3512% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่าย คิดเป็น 0% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

พิมล ศรีวิกรม์ เก็บหุ้น TCMC เพิ่ม 0.0773% รวมถือ 15.0143%

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับแบบรายงานการได้มาหุ้นของ บมจ.ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น (TCMC) โดย นายพิมล ศรีวิกรม์ ซึ่งเป็นการได้มา เมื่อวันที่ 18 มี.ค.65 จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มา คิดเป็น 0.0773% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มา คิดเป็น 15.0143% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

อรพิน เลี่ยวไพรัตน์ เข้าซื้อ TPIPL เพิ่ม 1.9012% รวมถือ 5.1525%

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับแบบรายงานการได้มาหุ้นของ บมจ.ทีพีไอ โพลีน (TPIPL) โดยนางอรพิน เลี่ยวไพรัตน์ ซึ่งเป็นการได้มาเมื่อวันที่ 18 มี.ค.65 จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มา คิดเป็น 1.9012% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มา คิดเป็น 5.1525% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

ธนิกา ตั้งพูนผลวิวัฒน์ เข้าถือหุ้น B ที่ 6.7505%

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับแบบรายงานการได้มาหุ้นของ บมจ.บี จิสติกส์ (B) โดยนางสาวธนิกา ตั้งพูนผลวิวัฒน์ ซึ่งเป็นการได้มา เมื่อวันที่ 16 มี.ค.65 จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มา คิดเป็น 6.7505% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มา คิดเป็น 6.7505% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

up up

up up