• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Prichas

#7744


ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันจันทร์ (30 ส.ค.)ปรับตัวร่วงลงในกรอบแคบ 55 จุด ขณะที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทพักฐาน หลังจากพุ่งขึ้นอย่างมากเมื่อวันศุกร์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 55.96 จุด หรือ 0.16% ปิดที่ 35,399.84 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 19.42 จุด หรือ 0.43% ปิดที่ 4,528.79 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 136.39 จุด หรือ 0.90% ปิดที่ 15,265.89 จุด

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อวันศุกร์(27สค.) ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 และแนสแด็กปิดทำนิวไฮเป็นวันที่ 4 ขานรับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ยืนยันว่า เฟดจะไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้จะมีการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ก่อนสิ้นปีนี้ก็ตาม

หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงในวันนี้ หลังจากพุ่งขึ้นเมื่อวันศกุร์ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะน้ำมันตึงตัวจากการที่บริษัทน้ำมันหลายแห่งพากันยุติการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก ก่อนที่พายุเฮอริเคนไอดาจะพัดถล่มในช่วงสุดสัปดาห์

การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในสัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลให้ขณะนี้ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้น 1.5% นับตั้งแต่ต้นเดือนนี้ ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 และแนสแด็กทะยานขึ้น 2.6% และ 3.1% ตามลำดับ

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า หลังจากการประชุมประจำปีของเฟดได้ผ่านพ้นไปแล้ว ขณะนี้นักลงทุนกำลังจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้


นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 750,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 5.2%

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานก่อนหน้านี้ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 943,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 845,000 ตำแหน่ง จากระดับ 938,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย.

ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 5.4% ในเดือนก.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.7% หลังจากแตะระดับ 5.9% ในเดือนมิ.ย.
#7745
ต้องการถมดิน ถมที่ นึกถึงเรา เริ่มที่เราจบที่เรา ไม่ใช่นายหน้า ติดต่อ 080-022-3804
รับทุกขนาดพื้นที่ ฟรีตรวจสอบพื้นที่ประมาณ ราคา
#7746
คิดจะ ถมดิน ขุดท่อ ทำถนน ขุดสระ ถางป่า เครียร์พื้นที่ ติดต่อ 080-022-3804
#7748


เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ จากห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยในช่วงหนึ่ง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ผอ.ศปก.ศบค.) รายงานมาตรการผ่อนคลายกิจการและกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 1 ก.ย. และมาตรการในส่วนร้านเสริมสวย ร้านตัดผม หรือแต่งผม เปิดได้เฉพาะตัดผมเท่านั้น ไม่เกิน 1 ชั่วโมง โดยอาจจะต้องมีการนัดหมายและจองคิวไว้ก่อน

จึงทำให้ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวทักท้วงและเสนอแนะ ว่า ร้านเสริมสวย 1 ชั่วโมงคงทำไม่พอ สระผมก็ครึ่งชั่วโมงแล้ว จะทำอย่างอื่นได้อย่างไร อยากขอเวลาเพิ่มเป็น 2 ชั่วโมง เพราะถึงอย่างไรก็นัดเวลากับร้านล่วงหน้าอยู่แล้ว

ด้วย นายกฯ กล่าวสอบถามว่า "หมอว่าอย่างไร กระทรวงสาธารณสุขว่าอย่างไร ผมไม่ทราบว่าสุภาพสตรีใช้เวลาทำผมนานเท่าไหร่" ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กล่าวตอบว่า ไม่ขัดข้องอะไร เพียงแต่หมอเป็นห่วงว่าจะอยู่นานเกินไป จากนั้น พล.อ.ณัฐพล กล่าวรับไปพิจารณาปรับแก้เป็น 2 ชั่วโมง
#7750
สนใจติดต่อคุณเป้ง 087-347-6299

สำนักงานบัญชีนนทบุรี  สำนักงานบัญชีบางกรวย  สำนักงานบัญชีบางใหญ่  สำนักงานบัญชีบางบัวทอง  สำนักงานบัญชีไทรน้อย  สำนักงานบัญชีปากเกร็ด  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีพิมลราช  สำนักงานบัญชีบางคูรัด  สำนักงานบัญชีบางรักพัฒนา  สำนักงานบัญชีบางแม่นาง  สำนักงานบัญชีบางกร่าง  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีตลาดขวัญ  สำนักงานบัญชีบางตะไนย์  สำนักงานบัญชีบางพลับ  สำนักงานบัญชีบางรักน้อย  สำนักงานบัญชีมหาสวัสดิ์  สำนักงานบัญชีศาลากลางนนทบุรี  สำนักงานบัญชีอ้อมเกร็ด  สำนักงานบัญชีแจ้งวัฒนะ  สำนักงานบัญชีถนนกาญจนาภิเษกนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนจงถนอม-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีถนนชัยพฤกษ์  สำนักงานบัญชีถนนติวานนท์  สำนักงานบัญชีถนนทวีวัฒนา  สำนักงานบัญชีถนนเทศบาลจังหวัดนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนเทิดพระเกียรติ  สำนักงานบัญชีท่าอิฐ  สำนักงานบัญชีถนนนครอินทร์  สำนักงานบัญชีบางม่วง  สำนักงานบัญชีบางกรวย-จงถนอม  สำนักงานบัญชีถนนบางไกรใน  สำนักงานบัญชีบางกรวย-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีบางคูเวียง  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีถนนพิบูลสงคราม  สำนักงานบัญชีถนนราชพฤกษ์  สำนักงานบัญชีตลิ่งชัน  สำนักงานบัญชีถนนเรวดี  สำนักงานบัญชีถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนศรีสมาน  รับทำบัญชี
#7751
ขายถูกบ้านเดี่ยวลาดพร้าว69,  เนื้อที่ 27 ตรว. ราคา 4.9 ล้านบาท กู้ได้เต็ม ตามเครดิต  ขายถูกกู้ได้สูงบ้านเดี่ยวลาดพร้าว69

 ขายบ้านเดี่ยวลาดพร้าว69กู้ได้เต็ม ขายบ้านเดี่ยว 3 ชั้น  ขายถูกกู้ได้สูงบ้านเดี่ยวลาดพร้าว69  ขายบ้านเดี่ยวซอยนาคนิวาส20   ลาดพร้าว69 เลียบทางด่วนรามอินทรา อาจณรงค์ เนื้อที่ 27 ตรว. ขายถูกกว่าใกล้เคียงเพียง 4.9 ล้านบาท กู้ได้เต็ม ตามเครดิต
ขายถูกบ้านเดี่ยวลาดพร้าว69,  ขายถูกบ้านเดี่ยวลาดพร้าว69 กู้ได้สูง  ขายถูกกว่าใกล้เคียงบ้านเดี่ยวลาดพร้าว69 ขายบ้านเดี่ยว 3 ชั้น 4.9 ล้านบาท พื้นที่ 27 ตรว. 4นอน 2น้ำ ขายบ้านเดี่ยวซอยนาคนิวาส20  ลาดพร้าว 69 แอร์ 4  ตกแต่งใหม่ทั้งหลัง Renovate ใหม่

Sell Detached House 3 FL 4.9 MB 27 Sqwa 4Bed 2 Toliet Ladprow 69 Nakniwat 20 Air 4
ขายบ้านดี่ยวลาดพร้าว เลียบด่วนรามอินทรา

ขายบ้านสวย น่าอยู่ สภาพดี
เข้าออกได้หลายทาง หาของกินง่าย
เดินทางไปไหนมาไหนสะดวก นัดดูบ้านได้เลย
ขายถูกมากเพียง 4.9 ล้านบาท
ขายราคาคุ้มมาก ต่อรองได้

ตกแต่งใหม่ทั้งหลัง
-แอร์ 4 เครื่อง
-ห้องโถงกว้าง เล่นระดับ มีส่วนห้องนั่งเล่น
-ห้องครัวใหญ่ ห้องน้ำสวยพร้อมอ่างอาบน้ำ
-ระเบียงกว้าง ที่จอดรถ 2 คัน สำหรับอยู่อาศัย หรือ
-จดเป็นบริษัท
-เข้าซอยไม่ลึก

ทำเลที่ตั้ง บ้านเดี่ยวแขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310
ขายบ้านเดี่ยวลาดพร้าว69

สนใจ บ้านดี่ยวลาดพร้าว69 สอบถามได้
ขายถูกกู้ได้สูง เพียง 4.9 ล้านบาท
**ราคานี้รวมภาษี,ค่าธรรมเนียมการโอนแล้ว **

ติดต่อชื่อ ศุภแมน จิรธนาโสภณ โทร.096-7915589


รายละเอียดเพิ่มเติมที่
https://postasungha.com/?p=4074


คำค้น
ขายบ้านเดี่ยวลาดพร้าว69, ขายถูกกู้ได้สูงบ้านเดี่ยวลาดพร้าว69, ขายบ้านเดี่ยวลาดพร้าว69กู้ได้เต็ม,
ขายถูกบ้านเดี่ยวซอยนาคนิวาส20,   ขายบ้านเดี่ย ลาดพร้าว69เลียบทางด่วนรามอินทรา,ขายถูกกว่าใกล้เคียงบ้านเดี่ยวลาดพร้าว69
#7752


นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ โบรกเกอร์สำนักต่างๆ คงเตรียมประเมินทิศทางตลาดหุ้นกันใหม่ เพราะก่อนหน้ามองว่า ดัชนีหุ้นจะไม่สามารถตีฝ่าแนวต้าน 1,600 จุดได้ แต่หุ้นทะลุ 1,600 จุดขึ้นมาแล้ว และยังเดินหน้า โดยมีแนวโน้มสร้างจุดสูงใหม่ต่อไป

เป้าหมายดัชนีหุ้นปลายปี โบรกเกอร์คาดหมายว่าจะอยู่ที่ระดับ 1,600 จุด แต่วันนี้ชนเป้าหมายปลายปีแล้ว เพราะแรงหนุนจากนักลงทุนต่างชาติ สมทบด้วยกองทุนในประเทศ ซึ่งกลับมาไล่ช้อนซื้อหุ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา

การจัดงานไทยแลนด์โฟกัสของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประจำปี 2564 ระหว่างวันที่ 25-27 สิงหาคมที่ผ่านมา เป็นจุดที่กระตุ้นให้นักลงทุนต่างชาติกลับมาลุยตลาดหุ้นไทย

สัปดาห์ที่ผ่านมา ต่างชาติซื้อหุ้นสุทธิ 4 วันทำการ โดยวันจันทร์ที่ 23 สิงหาคมซื้อสุทธิ 2,781.56 ล้านบาท ผลักดันดัชนีหุ้นพุ่งขึ้น 28.89 จุด วันอังคารที่ 24 สิงหาคม ซื้อสุทธิอีก 1,358.19 ล้านบาท ดึงดัชนีขยับขึ้นอีก 4.91 จุด วันพุธที่ 25 สิงหาคม ซื้อสุทธิอีก 3,606.64 ล้านบาท ลากดัชนีขึ้น 13.51 จุด

และแม้วันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคมจะขายสุทธิ 343.54 ล้านบาท แต่ดัชนียังปรับตัวขึ้น 1.42 จุด ก่อนวันศุกร์ที่ 27 สิงหาคมจะโหมซื้อส่งท้ายงานไทยแลนด์โฟกัสอีก 6,002.23 ล้านบาท ทำให้ดัชนีทะยานขึ้น 9.29 จุด

รวม 5 วันทำการต่างชาติซื้อหุ้นสุทธิทั้งสิ้น 13,405.08 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นรวม 58.02 จุด โดยปิดเมื่อวันศุกร์ที่ระดับ 1611.20 จุด

สำหรับกองทุน ซื้อหุ้นรวม 5 วันทำการ 8,060.16 ล้านบาท

จากสถิติการจัดงานไทยแลนด์โฟกัส ในระหว่างการจัดงานหุ้นมักจะขึ้น และปรับตัวลงหลังงานไทยแลนด์โฟกัสปิดฉากลง ซึ่งต้องรอดูว่า สัปดาห์นี้หุ้นจะลงหรือไม่

แต่สำหรับนักลงทุนเริ่มมีความฮึกเหิม และมองตลาดหุ้นในแง่ดี โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ลดลงต่ำกว่าระดับ 20,000 คนติดต่อกัน นอกจากนั้น รัฐบาลยังผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้หลายธุรกิจเปิดให้บริการได้

หุ้นกลุ่มที่ได้รับอานิสงส์จากมาตรการผ่อนคลายปรับตัวขึ้นอย่างคึกคัก ส่วนหุ้นขนาดใหญ่มีแรงซื้อจากต่างชาติและกองทุนเข้ามาหนุน ทำให้ราคาเดินหน้าต่อ และขับเคลื่อนดัชนีผ่านพ้น 1,600 จุดอย่างง่ายดาย

แนวโน้มตลาดหุ้นเปลี่ยนเป็นขาขึ้นแล้วหรือไม่ อาจเร็วเกินไปที่จะตอบ เพราะสถานการณ์โควิด-19 ยังไม่นิ่ง วัคซีนล็อตใหญ่ยังไม่มา และไม่มั่นใจว่าหลังปิดฉากงานไทยแลนด์โฟกัสแล้ว ต่างชาติยังจะซื้อต่อหรือไม่

เพราะหากต่างชาติหยุดซื้อและกลับมาขาย ดัชนี 1,600 จุดอาจยืนไม่อยู่

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนในประเทศมีความมั่นใจในแนวโน้มตลาดหุ้นมากขึ้น มีความคาดหวังว่า วิกฤตโควิด-19 จะคลี่คลาย และไตรมาสที่ 4 จะเป็นช่วงเวลาดีของตลาดหุ้น

เป้าดัชนีที่มองกันต่อไปคือ 1,650 จุด แม้อาจจะไกลสุดเอื้อม แต่ก็เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ เช่นเดียวกับการฝ่าแนวต้าน 1,600 จุด ถ้าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลงอย่างต่อเนื่อง และต่างชาติไม่ตลบหลังเทขายหุ้น

แต่ไม่ว่าหุ้นจะเดินหน้าต่อสู่เป้าหมาย 1,650 จุด หรือพักปรับฐานหลุด 1,600 จุดลงมาอีกครั้ง นักลงทุนรายย่อยไม่มีอะไรต้องกังวล เพราะสัปดาห์ที่ผ่านมาเทขายหุ้นทำกำไรกว่า 2 หมื่นล้านบาท

ถ้าหุ้นปรับฐานลงคงทยอยช้อนซื้อคืน แต่ถ้าหุ้นทะยานขึ้นคงขายทำกำไรต่อไป

หุ้นรอบนี้ขึ้นมาเร็วจริงๆ เร็วจนไม่รู้ว่าควรจะขายทำกำไรออกไปหรือถือไว้ก่อน
#7753


รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสภาการศึกษาแห่งชาติ และ อดีตรองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการทางวิชาการ ม.รังสิต เปิดเผยว่า การคลายล็อกดาวน์ทำให้เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้นในช่วง 4เดือนสุดท้ายของปีนี้ แต่ไม่ได้ทำให้สถานการณ์การว่างงานของนักศึกษาจบใหม่ดีขึ้น จึงขอเสนอให้มีการลดหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ลง 10-30% สำหรับนักศึกษาจบใหม่ในปี พ.ศ. 2563-2565ทั้งนี้ จำนวนผู้ว่างงานโดยเฉพาะบรรดาแรงงานนักศึกษาจบใหม่ที่เข้าสู่ตลาดแรงงานในช่วงวิกฤตการณ์โควิดสะสมอยู่ที่ 3-3.5 แสนคนเป็นอย่างน้อย ขณะที่ผู้ว่างงานและว่างงานแฝงโดยรวมไม่ต่ำกว่า 1.2 ล้านคน ส่วนอัตราการว่างงานโดยรวมดีขึ้นเล็กน้อยในไตรมาสสองเมื่อเทียบกับไตมาสสองปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ว่างงานบวกว่างงานแฝงและทำงานต่ำระดับสะสมยังเพิ่มต่อเนื่อง แต่เราต้องเข้าใจว่าคำนิยามของการว่างงาน คือ ทำงานน้อยกว่าสัปดาห์ละหนึ่งชั่วโมง และมีคนจำนวนมากทำงานไม่ถึง 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งหากพิจารณาตามคำนิยามคือไม่ถือเป็นคนว่างงานแต่เป็นผู้ว่างงานแฝงเท่านั้น แต่สภาวะความเป็นจริงแห่งการดำรงชีพ คนเหล่านี้เป็นผู้มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพและดูแลครอบครัวแล้วจึงไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมหนี้ครัวเรือนขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 90.5% ต่อจีดีพี และหนี้เหล่านี้ยังไม่นับรวมหนี้นอกระบบสถาบันการเงิน

นอกจากนี้สถานการณ์การว่างงานยังทำให้กองทุนประกันสังคมมีเงินไหลออกมากกว่าปกติจากกองทุนประกันการว่างงาน มีการใช้ประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานด้วยเหตุสุดวิสัยมากกว่าสถานการณ์ปกติมาก ความมั่นคงทางการเงินของกองทุนประกันสังคมในระยะยาวจึงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่รัฐบาลต้องเอาใจใส่

อดีตกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสภาการศึกษา ยังกล่าวอีกว่า การออกจากระบบการศึกษาของนักเรียนและนักศึกษาจำนวนมากสร้างความอ่อนแอทางเศรษฐกิจ สังคมไทยในระยะยาว ความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจจะถดถอยลงอย่างชัดเจนในระยะต่อไป นอกจากนี้ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมจะเพิ่มสูงขึ้น การจัดอันดับความสามารถทางการแข่งขันโดย IMD ปี 2564 แสดงให้เห็นว่า การศึกษาไม่มีคุณภาพและการลงทุนทางด้านทรัพยากรมนุษย์ต่ำเป็นปัจจัยฉุดรั้งประเทศชาติมากที่สุดในทุกด้าน การขาดระบบคุณธรรม (Merit System) ในระบบราชการและระบบการเมืองทำให้กิจการภาครัฐ เต็มไปด้วยการเล่นพรรคเล่นพวก การฉ้อฉล การซื้อขายตำแหน่ง คนมีความรู้ความสามารถไม่สามารถเข้าไปดำรงตำแหน่งสำคัญได้ทำให้ประเทศอ่อนลงเรื่อยๆในระยะยาว

ผู้เรียนที่มีศักยภาพและความสามารถในการเรียน แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ขาดแคลนรายได้อันเป็นผลจากการล็อกดาวน์  รัฐต้องจัด "ทุนการศึกษา" ช่วยเหลือให้ได้ 100% โดยต้องไม่ให้ "เด็กคนไหน" ต้องตกออกจากปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจโควิด ช่วยเหลือผ่านกองทุนเงินให้เปล่า ไม่ต้องกู้ยืม ทุนการศึกษาเหล่านี้ต้องครอบคลุมค่าเล่าเรียน ค่าธรรมเนียมการเรียน ค่าบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกรวมทั้งค่าใช้จ่ายในการครองชีพระหว่างเรียน

การเสียชีวิตของคนจำนวนไม่น้อยจากติดเชื้อไวรัสโควิดทำให้มีเด็กกำพร้าเพิ่มขึ้นจำนวนมาก จึงอยากเสนอให้จัดสรรงบเพิ่มเติมไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าทั้งของหน่วยราชการ มูลนิธิและเอกชนทั้งหลายเพิ่มเติม เนื่องจากมีเด็กกำพร้าจำนวนไม่น้อยไม่มีญาติเลี้ยงดูหลังบิดามารดาเสียชีวิตกะทันหัน ในหลายกรณีเป็นการเสียชีวิตทั้งครอบครัว นอกจากนี้การช่วยเหลือควรครอบคลุมไปถึงแรงงานต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยด้วย

ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการล็อกดาวน์ การปิดสถานศึกษา การแพร่ระบาดของโควิดในหมู่บุคลากรทางการศึกษา รัฐมีหน้าที่แก้ไขปัญหาและรัฐบาลต้องจัดการให้พลเมืองทุกคนให้รับการศึกษาที่มีคุณภาพและมาตรฐาน สามารถพัฒนาขีดความสามารถที่มีอยู่ในตัวตนของแต่ละบุคคลให้เต็มศักยภาพ จากการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในสังคม เพื่อยกฐานะและชนชั้นในสังคมให้ทุกๆครอบครัวมีโอกาสที่ดีขึ้นผ่านการศึกษา อันนำไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำในการกระจายรายได้ซึ่งเป็นปัญหารุนแรงมากขึ้นในช่วงวิกฤตการณ์โควิด

โดยอยากเสนอให้เปลี่ยนวิธีการจัดการงบประมาณระบบการศึกษาโดยเฉพาะงบประมาณกระทรวงศึกษาธิการ จาก Supply-side Financing เป็น Demand-side Financing ด้วยการจัดสรรเงินทุนโดยตรงไปยังครอบครัวรายได้น้อยหรือครอบครัวยากจนเพื่อให้นักเรียนและนักศึกษาได้มีเงินทุนในการศึกษาต่อไปได้ (Demand-side Financing)  จากการที่ครอบครัวได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงจากวิกฤตการณ์เศรษฐกิจโควิด โดยลดการจัดสรรโดยตรงไปที่โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยให้น้อยลง (Supply-side Financing) จึงไม่จำเป็นต้องจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมในเบื้องแรก หากจำเป็นต้องจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อแก้ปัญหาการตกออกจากระบบการศึกษาจากปัญหาทางเศรษฐกิจให้จัดสรรผ่านกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาหรือจัดสรรผ่านกลไกอื่นๆที่ไม่ใช่หน่วยราชการแบบเดิมที่ไม่มีประสิทธิภาพและยังมีความไม่โปร่งใสในการใช้จ่ายเงินงบประมาณ 

รวมทั้ง ควรให้สถาบันการศึกษาในระดับอุดมศึกษาของรัฐสามารถเรียกเก็บค่าเล่าเรียนเพิ่มเติม ค่าธรรมเนียมการศึกษาเพิ่มเติม ค่าบริการหรือค่าอำนวยสะดวกเพิ่มเติมได้จากผู้เรียนในกรณีที่สามารถจัดบริการทางการศึกษาด้วยคุณภาพที่สูงกว่ามาตรฐานขั้นต่ำที่รัฐกำหนด เพื่อให้ผู้เรียนและผู้ปกครองที่มีฐานะทางเศรษฐกิจได้มีส่วนร่วมระดมทุนเพื่อการศึกษา ตามหลักประโยชน์ที่ได้รับ (Benefit Principle) และทำให้รัฐสามารถนำเงินเหลือไปอุดหนุนการศึกษาภาคบังคับ การศึกษาระดับมัธยมและหลักสูตรอาชีวศึกษาและวิชาชีพเพิ่มขึ้น 

นอกจากนี้รัฐควรจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อนำไปใช้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยีทางการศึกษาและอุปกรณ์การศึกษาออนไลน์สำหรับนักเรียนและโรงเรียนต่างๆให้เพียงพอ ทั่วถึงและมีคุณภาพ Education Technology เหล่านี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาทักษะกำลังคนในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลและในช่วงการแพร่ระบาดของโควิดซึ่งอาจจะดำรงอยู่อีก 1-2 ปี การเข้าถึงเทคโนโลยีทางการศึกษาพร้อมกับเนื้อหาสาระที่เสริมสร้างภูมิปัญญาและความรู้จะนำมาสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิตและลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาอันเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมไทยดีขึ้น และโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาที่รัฐจัดให้นั้น รัฐต้องประกันให้ได้มาตรฐานขั้นต่ำ และเป็นความเสมอภาคในแนวนอน (Horizontal Equity) สำหรับพลเมืองทุกคน
#7755


การระบาดของโรคโควิด-19 กระทบภาคธุรกิจทำให้ต้องปรับตัวแบบนาทีต่อนาที นับตั้งแต่พบติดเชื้อในไทยเมื่อเดือน ม.ค.2563 และระบาดต่อเนื่องมากกว่า 1 ปี ครึ่ง ซึ่งสถานการณ์ระบาดยังมีความไม่แน่นอนสูงทำให้ภาคธุรกิจต้องหาทางอยู่ร่วมโควิด-19

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ที่กระจายไปทั่วโลกทำให้ซีพีเอฟวางแผนบริหารจัดการครอบคลุมตลาดใน 47 ประเทศ โดย นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) กำหนดนโยบายการบริหารในช่วงการระบาดจะต้องทำให้พนักงานในฐานการผลิตทั่วโลกรู้สึกมีความปลอดภัยในการทำงานที่โรงงานมากกว่าการทำงานที่บ้าน

สำหรับการดูแลด้านสาธารณสุขจะมีการประสานงานกับภาครัฐของแต่ละประเทศและดำเนินการตามที่ทางการกำหนดในการดูแลพนักงานของซีพีเอฟ รวมทั้งดูแลคนไทยที่อยู่ในประเทศนั้นด้วย

ในขณะที่การดูแลด้านสาธารณสุขของฐานการผลิตในประเทศไทยได้ดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับพนักงานในขณะนี้ได้ 90% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด และจะเร่งฉีดให้ครบ 100% โดยมีการสั่งซื้อวัคซีนจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์มา 35,000 โดส และกำลังจะซื้อเพิ่มอีก 9,000 โดส เพื่อฉีดให้พนักงาน และหลังจากนี้จะเริ่มฉีดเข็มที่ 2 และเข็มที่ 3 ซึ่งได้ดำเนินการสั่งซื้อวัคซีนจากหลายโรงพยาบาล และคาดว่าดำเนินการได้ในเดือน พ.ย.นี้

ส่วนการจัดการภายในโรงงานได้นำมาตรการบับเบิลแอนด์ซีล มาใช้หลายแห่ง เช่น นครราชสีมา สระบุรี พร้อมกับสร้างโรงพยาบาลสนามเพื่อดูแลผู้ติดเชื้อทั้งระดับสีเขียว สีเหลืองและสีแดง และวางระบบเชื่อมต่อกับสถานพยาบาลเมื่อมีผู้ป่วยระดับสีแดง


ทั้งนี้ โรงงานของซีพีเอฟในประเทศไทยมีประมาณ 80 แห่ง จะมีระดับความเสี่ยงแตกต่างกัน โดยโรงงานที่มีพนักงานมากจะอยู่ในกลุ่มโรงงานชำแหละไก่ สุกรและกุ้ง ที่มีอยู่ 6-7 แห่ง จะมีมาตรารบับเบิลแอนด์ซีลทุกแห่ง โดยจัดแพ็คเก็จเพื่อจูงใจพนักงานเพื่ออยู่ในระบบบับเบิ้ลแอนด์ซีล คือ เพิ่มรายได้ให้เดือนละ 2,000 บาท รวมทั้งมีการสร้างแรงจูงใจให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วเข้ามาทำงานกับซีพีเอฟ

นอกจากนี้ ในการบริหารธุรกิจในแต่ละประเทศเพื่อลดผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 จะใช้จุดแข็งของซีพีเอฟที่มีธุรกิจครอบคลุมใน 47 ประเทศ ทำให้สามารถกระจายความเสี่ยงได้ โดยธุรกิจในประเทศที่มีการระบาดมาจะถูกชดเชยด้วยการเร่งธุรกิจในประเทศที่มีการระบาดน้องลง ซึ่งจะเห็นว่าสถานการณ์การระบาดในแต่ละประเทศแตกต่างกัน ดังนี้


สถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้วแต่อาจมีความเสี่ยงการระบาดในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้

ประเทศจีน ที่มีธุรกิจอาหารสัตว์ สุกร สัตว์ปีก สัตว์น้ำและธุรกิจอาหาร มีสถานการณ์ที่ดีขึ้น

ประเทศรัสเซีย ที่มีธุรกิจธุรกิจอาหารสัตว์ สุกร สัตว์ปีก และธุรกิจอาหารก็มีสถานการณ์ที่ดีขึ้นเช่นกัน

สถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นทำให้ซีพีเอฟต้องปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจโดยมีการบริหารธุรกิจในช่วงที่มีการระบาดต้องมีการกระจายความเสี่ยงในแต่ละประเทศ ในขณะที่การขนส่งและกระจายสินค้าภายในประเทศมีการปรับเปลี่ยนจากเดิมที่ส่งสินค้าจากโรงงานเข้าศูนย์กระจายสินค้าเพื่อส่งต่อไปปลายทาง เช่น เซเว่นอีเลฟเว่น ห้าง แต่ในปัจจุบันมีการปรับเปลี่ยนจากการขนส่งสินค้าจากโรงงานไปที่ปลายเลย เพราะศูนย์กระจายสินค้ามีปัญหาขาดบุคลากรหรือมีการติดเชื้อ ซึ่งอาจทำให้มีปัญหาสินค้าขาดแคลนในระยะสั้น แต่หลังจากนี้สถานการณ์จะกลับเข้าสู่ปกติ