• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Prichas

#3121


'สี จิ้นผิง'ตั้งเป้าส่งวัคซีนโควิดช่วยทั่วโลก 2 พันล้านโดสในปีนี้ พร้อมบริจาคเงิน 100 ล้านดอลลาร์ให้แก่โครงการโคแวกซ์

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี (5 ส.ค.) ว่า จีนจะจัดส่งวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 2,000 ล้านโดสให้แก่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกภายในปี 2564 นี้

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีสียังระบุว่าจีนจะบริจาคเงิน 100 ล้านดอลลาร์ให้แก่โครงการโคแวกซ์ซึ่งเป็นโครงการกระจายวัคซีนให้แก่ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลาย หลังจากที่ผ่านมา จีน ได้จัดส่งวัคซีนจพนวนกว่า 770 ล้านโดสไปให้ประเทศอื่นๆ

ทั้งนี้ เมื่อเดือนก.ค.ในการประชุมฉุกเฉินในระดับประมุขแห่งรัฐและรัฐบาลกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก (เอเปก)ทางออนไลน์ ประธานาธิบดีสี สัญญาว่าจะให้ความช่วยเหลือทางการเงิน 3,000 ล้านดอลลาร์ แก่ประเทศกำลังพัฒนาเพื่อนำไปต่อสู้กับโควิด-19 ให้ฟื้นตัวจากผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจ
#3122
 


Kato Academy [Marketing Media Prodction]
สอนการตลาดออนไลน์ สอนยิงโฆษณา Facebook Ads ตัวต่อตัว, Line OA, Chatbot, Website Salepage, Pixel Code, ยิงแอด Conversion
สอนผลิตสื่อโฆษณา สอนถ่ายรูป ตกแต่งรูป สอน Photoshopตัวต่อตัว , Lightroom, Illustrator, โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ PremiereKato Academy [Marketing Media Prodction]
สอนการตลาดออนไลน์ สอนยิงโฆษณา Facebook Ads ตัวต่อตัว, Line OA, Chatbot, Website Salepage, Pixel Code, ยิงแอด Conversion
สอนผลิตสื่อโฆษณา สอนถ่ายรูป ตกแต่งรูป สอน Photoshopตัวต่อตัว , Lightroom, Illustrator, โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ Premiere

หลักสูตร สอนเฟสบุ๊ค ตัวต่อตัว/กลุ่ม [พื้นฐาน-ขั้นสูง] [10.00-16.00น.] ไม่เป็นไม่กลับ
- สอนพื้นฐานของเฟสบุ๊ค และการตั้งค่าต่างๆที่ควรรู้ ก่อนทำธุรกิจ
- สอนสร้างเพจเฟสบุ๊คยังไงให้น่าโดนใจกลุ่มเป้าหมาย
- สอนเช็คข้อความและรูปภาพใน Facebook ลดปัญหาการทำงานที่เสียเวลา
- รู้ทันกับกฎระเบียบต่างๆในการสร้างโฆษณาเฟสบุ๊ค 
-  วิธีการนำเพื่อนหรือ พนักงานเข้ามาช่วยบริหารในเพจเฟสบุ๊ค ลดความเสี่ยงจากการโดยยึดเพจ
- สอนการสร้างบัญชีธุรกิจ โดยไม่ต้องใช้บัญชีส่วนตัวในการยิง เลี่ยงการถูกปิดบัญชี
- สอนวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายด้วยสถิติ [ผู้สอนจบโทด้านงานวิจัยสถิติโฆษณาโดยตรง]
 - สอนดูคู่แข่งเพื่อมาวิเคราะห์ และพัฒนาสินค้าของตัวเองอย่างมืออาชีพ
- สอนสร้างกลุ่มเป่าหมาย แบบตีวง ล้อมคอก เพื่อเผด็จศึก
- สอนสร้างกลุ่มเป้าหมายในต่างประเทศ
- สอนการยิงแอดเฟสบุ๊คแบบ การมีส่วนร่วม, การเพิ่มยอดไลค์, วีดีโอและข้อความ เชิงลึกแบบเป็นระบบ วิเคราะห์เห็นภาพ
- สอนยิงแอดแบบไม่ให้คู่แข่งดึงข้อมูลของเราได้
- สอนการสร้างกลุ่มเป้าหมาย การตั้งค่ายิงแอดบน Instagram
- A/B Testing (การทดสอบเปรียบเทียบคุณภาพการเข้าถึงของโฆษณา)
- สอนสร้าง Lookalike Audience เพื่อหาลูกค้าที่มีพฤติกรรมคล้ายคลึงกัน เชิงสถิติ
- การวางแผน สร้างระบบข้อความตอบกลับอัตโนมัติ(Chatbot) ในกล่องข้อความเฟสบุ๊ค
- วิธีใช้ เครื่องมือสร้างข้อความตอบกลับอัตโนมัติ(Chatbot)เพื่อปิดการขาย
- วิธีการตั้งค่าการชำระเงิน /การออกใบเสร็จรับเงิน จากเฟสบุ๊ค
- สอนให้วิเคราะห์เพจของผู้เรียนแบบมืออาชีพ แบบยั่งยืนไม่โดนหลอก
- Workshop เพื่อศึกษาสินค้าหรือ วิเคราะห์สินค้าว่ามีส่วนไหนที่ควรพัฒนา

หมายเหตุ :การสอนอาจจะเลยเวลาที่กำหนด เพื่อประโยชน์ของผู้ลงเรียน

Facebook :https://www.facebook.com/katostock
- สอนตัวต่อตัว / กลุ่ม / ออนไลน์
- หลังจบ สามารถโทรปรึกษาได้ตลอด
ประวัติผู้สอน
ตรี-ออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
โท-จิตวิทยาการสื่อสาร & โฆษณา
ประสบการณ์ด้านการตลาด-โฆษณา-ผลิต 20 ปี
ผลงานผู้สอนคลิก : https://katoacademy.com/profile_kato

วัตถุประสงค์ของผู้สอนในการเปิดสอน ?
1. ต้องการผลัดดันผู้ที่เรียน หรือผู้ประกอบการ นำเครื่องมือต่างๆมา สร้างผลงานใหม่ๆ หรือสินค้าใหม่ๆ
2. เพื่อต้องการให้ผู้เรียนในแต่ละคอส ได้คิดนอกกรอบ มากกว่าสิ่งที่มีอยู่ในโปรแกรมที่สอน
3. เพื่อนำความรู้ไปพัฒนาองค์กร ด้วยระบบความคิดที่เป็นกระบวนการ

#สอนเฟสบุ๊ค #สอนเฟสบุ๊คตัวต่อตัว #สอนการตลาดออนไลน์ #สอนถ่ายรูป #สอนโฟโต้ช๊อป


 

 

 
 
#3123


ครั้นยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูงขึ้นทะลุหลัก "หมื่นราย" นโยบายล็อกดาวน์ถูกใช้ในพื้นที่สีแดงเข้ม ปลายเดือนกรกฎาคมร้านอาหารในห้างเจอมาตรการห้ามซื้อกลับบ้าน และเดลิเวอรี่ เป็นครั้งแรกที่หน้าร้านถูก "ปิดประตู" ค้าขายแบบ 100% ทว่า ล่าสุด ร้านอาหารในห้างกลับมาให้บริการได้ แต่มีเงื่อนไขให้ "เดลิเวอรี่" เท่านั้น กลายเป็น "ตัวแปร" ต่อการ "ปรับตัว" และการดำเนินธุริจร้านอาหารอย่างมาก

ค่าย "สิงห์" เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่จัดทัพลุยธุรกิจอาหาร มี "ฟู้ด แฟคเตอร์" เป็นหัวหอก หนึ่งในแบรนด์ของเครือที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดคือ "ซานตาเฟ่ สเต๊ก" เพราะร้านเกือบทั้งหมดมีสาขาอยู่ในห้างค้าปลีก

ปิติ ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด (Food Factors) ฉายภาพว่า ธุรกิจร้านอาหารค่อนข้างได้รับผลกระทบสูงจากการ "ล็อกดาวน์" นับตั้งแต่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกแรกเมื่อปลายไตรมาส 1 ของปี 2563 ขณะที่ปัจจุบันการระบาดไวรัสเข้าสู่ระลอก 4 ประเทศไทยเผชิญสายพันธุ์เดลต้า ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวนสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ภาครัฐต้องยกระดับการควบคุมโรคระบาดด้วยการล็อกดาวน์อีกครั้งในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด

ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวส่งผลกระทบต่อ "ร้านซานตาเฟ่ สเต๊ก" อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะบริษัทมีร้านทั้งสิ้น 125 สาขา และให้บริการในห้างค้าปลีก 124 สาขา มีร้านอยู่นอกห้างเพียง 1 สาขาเท่านั้น ทำให้ด้านสถานการณ์ยอดขายของร้านจึงหดตัวลง

ขณะที่การปรับตัวในการทำธุรกิจอาหาร บริษัทให้ความสำคัญตั้งแต่การปรับวิธีการทำงาน นำแนวคิด "Agile" มาปรับใช้ เพื่อให้กระบวนการทำงานมีความคล่องตัว ยืดหยุ่น อย่างรวดเร็ว เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ผกผันตลอดเวลา

"ทุกวันนี้สถานการณ์ต่างๆเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ฟู้ด แฟคเตอร์ ในฐานะผู้ประกอบต้องปรับวิธีการทำงานให้มีความคล่องตัว ยืดหยุ่นมากขึ้น การปรับกลยุทธ์ต่างๆต้องมีความมรวดเร็ว อย่างช่วงล็อกดาวน์พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ร้านซานตาเฟ่ สเต๊ก ได้พลิกกระบวนท่าทันทีเพื่อมุ่งบริการเดลิเวอรี่ เสิร์ฟอาหารตอบสนองผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย และจัดเมนู ทำโปรโมชั่นเฉพาะกิจให้เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา อย่างไรก้ตาม ความท้าทายของบริษัทฯในเวลานี้คือการประเมิณยอดขายเพื่อบริหารจัดการสั่งซื้อวัตถุดิบให้มีประสิทธิภาพ เพราะของสดมีอายุข้างสั้น"

อย่างไรก็ตาม หากคลายล็อกดาวน์ ร้านอาหารเปิดให้บริการได้ ธุรกิจอาหารมีการฟื้นตัวกลับมาเร็ว เช่นเดียวกับร้านซานตาเฟ่ สเต๊ก เนื่องจากมีฐานลูกค้าค่อนข้างมาก แต่ภาพรวมการฟื้นตัวจะไม่เหมือนเดิม 100% เพราะมีหลายปัจจัยส่งผลต่อธุรกิจ ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว กำลังซื้อของผู้บริโภคหายไปค่อนข้างมาก


นอกจากนี้ ความไม่ชัดเจนของการฉีดวัคซีนให้ประชาชน ทำให้ไม่สามารถคาดการณ์การสิ้นสุดได้ของโรคระบาดได้ ส่งผลให้ผู้บริโภคระมัดระวังและไม่กล้าใช้จ่าย รวมถึงมาตรฐานการคลายล็อกดาวน์ยังไม่ชัดเจน เพราะยอดผู้ติดเชื้อสูงขึ้น ทำให้การใช้มาตรการคุมโรคระบาดเข้มงวดและอาจจะไม่สามารถกลับมาคลายล็อกได้ง่ายเหมือนที่เคยเป็นมา

นบเกล้า ตระกูลปาน กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจอาหาร บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด กล่าวว่า การล็อกดาวน์หลายครั้งทำให้บริษัทต้องปรับเปลี่นยโมเดลธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับบริการ "ซื้อกลับบ้าน"หรือ Takeaway และ "เดลิเวอรี่" เสิร์ฟอาหารอร่อยถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย

นอกจากนี้ ยังปรับกลยุทธ์การขยายสาขาโดยโฟกัส "ทำเลใหม่" นอกห้างงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นย่านชุมชน สถานีบริการน้ำมัน(ปั๊ม) โรงพยาบาล เป็นต้น เพื่อกระจายความเสี่ยงให้ธุรกิจรวมถึงการบริการลูกค้าได้ต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ยังเน้นโมเดล "ร้านซานตาเฟ่ อีซี่"(Santa Fe Easy)เพื่อให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการอย่างรวดเร็ว ลดการสัมผัส อีกทั้งยังตอบไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุควิถีใหม่จากนี้ไปหรือ Next Normal

"การปรับตัวลุยบริการซานตาเฟ่ เดลิเวอรี่ ส่งผลให้มีการเติบโตสูงมาก แต่แนวโน้มจากนี้ไปเดลิเวอรี่อาจไม่หวือหวา เพราะการอยู่บ้าน ผู้บริโภคมีเวลามากขึ้น และปรับพฤติกรรมเริ่มทำอาหารทานเอง ที่สำคัญการตระหนักเรื่องความปลอดภัยของอาหาร ปัจจัยเหล่านี้ทำให้การแข่งขันเดลิเวอรี่รุนแรง แบรนด์ต่างๆงัดกลยุทธ์ราคาและโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้า"

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มธุรกิจร้านอาหารระยะยาวหลังโควิดคลี่คลาย คาดการณ์จะใช้เวลา 2 ปี จึงจะฟื้นตัว เนื่องากพฤติกรรมผู้บริโภคที่นั่งทานในร้าน(Dine in)เปลี่ยนไป และอาจต้องใช้เวลา 1 ปี พฤติกรรมดังกล่าวจะกลับมาใกล้เคียงปกติ

"พฤติกรรมผู้บริโภคบางส่วนยังคุ้นชินกับความปลอดภัย และคุ้นเคยกับการรักษาระยะห่าง มีความกังวลกับการไปในแหล่งชุมชน รวมถึงการรับประทานอาหารในร้าน"
#3124


อลิสซอน เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูทีมชาติบราซิล ตัดสินใจจรดปากกาต่อสัญญาระยะยาวกับ ลิเวอร์พูล ถึง 6 ปีเต็ม โดยจะอยู่ค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์จนถึงปี 2027 เลยทีเดียว

นายด่านวัย 28 ปี ย้ายจาก โรม่า ยอดทีมแห่งศึกกัลโช เซเรีย อา อิตาลี มาอยู่กับ "หงส์แดง" ตั้งแต่ปี 2018 เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก, ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก และสโมสรโลก และยังได้รางวัลส่วนตัวอีกมากมายนับตั้งแต่ย้ายมาค้าแข้งในเมืองผู้ดี

"ผมคิดว่าผมตัดสินใจไม่ผิดที่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเราร่วมสร้างมันขึ้นมาในช่วงเวลา 3 ปีหลังสุด ความมั่นใจ ความไว้วางใจที่ผมมีให้สโมสร และสโมสรก็เชื่อมั่นใจตัวผม" อลิสซอน เริ่มกล่าวผ่านเว็บไซต์สโมสร

"ผม และครอบครัว มีความสุขมากที่นี่ ลูกๆ ของผมตอนนี้กำลังแฮปปี้กับชีวิตในอังกฤษ ซึ่งมันแตกต่างออกไปในประเทศอื่นๆ ผมมีความสุขมาก"

"ผมดีใจมากๆ ที่ได้อยู่ทำงานต่อที่นี่ ผมคิดไม่ผิดเลยที่ตัดสินใจเรื่องนี้ มันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผมเลย" นายทวารชาวบราซิเลียน ทิ้งท้าย
#3125


กรวัฒน์ เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมิตี้ จำกัด เปิดมุมมองว่า การระบาดของโควิด-19 เป็นเสมือนตัวเร่งให้หลายองค์กรมองหาการสร้างชุมชนดิจิทัลและการมีส่วนร่วมของผู้ใช้เพิ่มมากขึ้น อมิตี้จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถรวมฟีเจอร์โซเชียลเข้าไปในแอพฯ และเว็บไซต์ขององค์กรได้โดยการเขียนโค้ดเพียงไม่กี่บรรทัด ทำให้ลูกค้าและผู้ใช้งานรายเดือนสามารถส่งข้อความและมีปฏิสัมพันธ์ผ่านหลายพันล้านข้อความในแต่ละเดือนได้โดยง่าย

"ในปีแรกของการระบาดของโควิด-19 อมิตี้เห็นความต้องการที่เพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า จากองค์กรต่าง ๆ ที่ต้องการรวมฟีเจอร์โซเชียลต่าง ๆ เช่น ฟีด โปรไฟล์ กลุ่ม แชท และวิดีโอสตรีม เข้าไปในแอพฯและเว็บไซต์ขององค์กร เพื่อดึงดูดลูกค้า ผู้ใช้ และพนักงาน ซึ่งอมิตี้สามารถพลิกกลยุทธ์ทางธุรกิจของบริษัทตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นด้วยบริการที่ครอบคลุม ทั้งในด้านฟีเจอร์โซเชียล การมีส่วนร่วมของพนักงาน และแชทบอทที่ขับเคลื่อนด้วยแมชชีนเลิร์นนิ่งที่ดึงดูดผู้ใช้งานผ่านช่องทางที่หลากหลายได้อย่างชาญฉลาด"

ตั้งเป้าเบอร์ 1 ระดับโลก

ในปี 2563 อมิตี้ได้เข้าซื้อกิจการของ ConvoLab ซึ่งเป็นบริษัทแชทของไทย และย้ายบริการทั้งหมดไปยังคลาวด์ชั้นนำของโลกเพื่อเร่งพัฒนานวัตกรรมและปรับขนาดแพลตฟอร์มโซเชียลใหม่อย่างรวดเร็ว ให้มีความโดดเด่นในด้านบริการ ได้แก่ คอนเทนเนอร์ ฐานข้อมูล และแมชชีนเลิร์นนิ่ง โดยเสนอประสบการณ์การใช้โซเชียลและสร้างชุมชนดิจิทัลที่ไม่เหมือนใคร เพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้า และเปิดโอกาสในการสร้างรายได้ใหม่ 

นอกจากนี้ยังใช้สถาปัตยกรรมแบบ Serverless ช่วยให้บริษัทสามารถปรับขยายตามจำนวนลูกค้าได้เร็วขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลอัตโนมัติรองรับลูกค้าในกรณีที่มีการปล่อยแคมเปญบนโซเชียลมีเดียหรือทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย นอกจากนั้นการใช้ Amazon Personalize ซึ่งเป็นบริการแมชชีนเลิร์นนิ่ง ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถสร้างประสบการณ์ผู้ใช้แบบเฉพาะเจาะจงสำหรับบุคคลแบบเรียลไทม์จำนวนมากที่มีความแม่นยำสูงได้รวดเร็วขึ้น

ในด้านขององค์กร อมิตี้ให้ความสำคัญในเรื่องของนวัตกรรมและการเติบโตระดับโลกได้เร็ว เนื่องจากอมิตี้เป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีซอฟต์แวร์แห่งเดียวในประเทศและอาเซียน ที่โปรดักท์กำลังเติบโตในตลาดที่ใหญ่ที่สุดของโลกด้านซอฟต์แวร์ใน 3 ตลาด ได้แก่ จีน ยุโรป สหรัฐ รวมทั้งมีลูกค้าทั้งองค์กรระดับเอสเอ็มอี ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่หลายร้อยแห่ง และบริษัทที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วทั้งในเอเชียอย่างจีน ยุโรปและอเมริกาเหนือ


สร้างทีมงานระดับนานาชาติ

ส่วนมุมมององค์กรธุรกิจเทคโนโลยีในอาเซียนและไทย กรวัฒน์ มองว่า ยังมีขนาดเล็กทิ้งช่วงห่างยุโรป อเมริกาและจีน พอสมควร ทั้งในแง่ของการใช้จ่ายและขนาด ซึ่งยังไม่มีผู้เล่นรายใดที่พัฒนา B2B SaaS ที่ก้าวสู่ระดับยูนิคอร์น หรือบริษัทที่สำเร็จ ซึ่งอมิตี้เน้นการเป็นบริษัทระดับโลกตั้งแต่แรก โดยบริษัทมีพนักงานมากกว่า 30 ชาติ และมีสำนักงานในไมอามี่ ลอนดอน มิลาน และไทย ซึ่งในไทยมีพนักงานมากกว่า 20-25 ชาติ โดยจุดสำคัญคือพยายามสร้างทีมระดับนานาชาติที่มีความแข็งแกร่ง

"ทั้งนี้การสร้าง B2B SaaS ต่างจากการสร้างธุรกิจเทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภคทั่วไป ซึ่ง B2B SaaS เป็น ธุรกิจที่ยั่งยืน เพราะเป็นธุรกิจที่มีสัดส่วนกำไรสูงมาก หากดูมูลค่าตลาดของบริษัทที่ทำคลาวด์ เทคโนโลยี จะเห็นได้ว่าบริษัท B2B SaaS ทำกำไร และมูลค่าตลาดมากที่สุดในโลก แต่ธุรกิจเทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภคยังยากที่จะเห็นกำไร และสร้างให้เสถียรทำให้การเติบโตในต่างประเทศค่อนข้างยาก"

ส่วนคำแนะนำสำหรับตลาด B2B SaaS หากสตาร์ทอัพรายอื่นต้องการจะเข้าสู่ตลาดนี้ กรวัฒน์ กล่าวว่า B2B SaaS เป็นเนเจอร์ที่ค่อนข้างต่าง หากชนะในไทยได้ ก็ชนะตลาดยุโรป อเมริกา จีน ได้เช่นกัน แต่อย่างแรกคือ ต้องหาโฟกัส ตลาดที่เฉพาะเจาะจง ที่คนอื่นอาจจะยังไม่ได้ทำได้ดีมาก จากนั้นพยายามพัฒนาให้ตอบโจทย์ภูมิภาคและระดับโลก

อย่างไรก็ตามความได้เปรียบของลูกค้าไทยและอาเซียน คือมีการใช้สมาร์ทโฟนค่อนข้างเร็ว ทำให้เห็นว่าในอนาคตคนจะต้องการซอฟต์แวร์มากขึ้น อีกทั้งเรื่องของค่าใช้จ่าย ภาษี ทำให้ไทยมีความก้าวหน้ากว่าในอเมริกา ยุโรป จึงค่อนข้างง่ายที่จะเซ็ตอัพ 

ขณะเดียวกันภาพรวมการแข่งขัน กรวัฒน์ เผยว่า ยังไม่มีคู่แข่งที่สามารถสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นโซเชียลองค์กร บริการหรือฟีเจอร์สำเร็จรูป คู่แข่งส่วนใหญ่ตั้งเป้าไปที่บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีตลอดจนผู้บริหารด้านเทคนิค เป็นการซื้อโมดูลแชทและ plug-in เข้าไป ฉะนั้น จึงต้องพยายามเติบโตให้เร็ว เพราะอีกไม่นานจะมีคู่แข่งมากขึ้น และอีกหนึ่งจุดประสงค์ที่ทำให้อมิตี้แข่งในต่างประเทศได้ ต้องบอกว่าในไทยยังไม่ค่อยมีบริษัทที่ทำ IaaS ทั้งตลาดอาเซียน เอเชีย

เน้นเทคโนโลยีสร้างจุดแข็ง

ส่วนจุดแข็งของอมิตี้คือ การลงทุนด้านเทคโนโลยี โดยปีที่ผ่านมางบการวิจัยและพัฒนาของบริษัทประมาณ 7-8 ล้านดอลลาร์และใช้วิศวกรประมาณ 60-70 คน แน่นอนว่าเมื่อพัฒนาเทคโนโลยีมาตลาด 8-9 ปี งบการวิจัยและพัฒนาทั้งสิ้นประมาณ 20 ล้านดอลลาร์

เนื่องจากอมิตี้ต้องพัฒนาและจำหน่ายเทคโนโลยีให้กับลูกค้าวิศวกร ดังนั้น คุณภาพโปรดักท์ ความสามารถของกระบวนการ ระบบปฏิบัติการจะต้องดี ซึ่งต้องทำงานร่วมกับ AgriTech ของ AWS เพื่อดีไซน์ ทั้งลงทุนเพื่อที่จะทำสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์รองรับปริมาณการใช้งานจำนวนมาก ทุกเดือนอมิตี้ให้บริการ 3 พันล้านข้อความ นี่คืออุปสรรคในการเข้าสู่ตลาดที่สูง

ทั้งนี้ เป้าหมายและทิศทางอมิตี้หลังจากนี้ จะมุ่งให้เกิดการเติบโตที่สุด และยึดหมวดหมู่ และ IaaS จึงต้องพยายามก้าวสู่ผู้นำในตลาดโลก โดยทุ่มทางการตลาดเพื่อให้เป็นที่รู้จักนำเสนอชุดผลิตภัณฑ์พร้อมฟีเจอร์สำเร็จรูป คาดว่า 3-4 ปี อมิตี้จะเป็นบริษัทที่ทำซอฟต์แวร์ใหญ่ระดับสากลได้
#3126


99.99% ของเคสฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ครบแล้วแต่ยังติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (breakthrough case)ในสหรัฐฯ อาการไม่รุนแรงถึงขั้นต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิต จากคำยืนยันของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น โดยอ้างข้อมูลล่าสุดของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (ซีดีซี)

ข้อมูลดังกล่าวชี้ไปในทิศทางเดียวกับที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขทั่วสหรัฐฯ เน้นย้ำมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาว่า วัคซีนโควิด-19 มีประสิทธิภาพสูงมากในการป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตจากโควิด-19 และเป็นอาวุธที่ดีที่สุดของประเทศในการชะลอการแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่และหลีกเลี่ยงความทุกข์ทรมานไปมากกว่านี้

ซีดีซีรายงานว่า มีเคสฉีดวัคซีนครบแล้วแต่ยังติดเชื้อ 6,587 รายจนถึงวันที่ 26 กรกฎาคม โดยมี 6,239 คนป่วยหนักถึงขั้นเข้ารักษาตัวในโรงพงพยาบาล และในนั้นเสียชีวิต 1,263 ราย แต่ซีเอ็นเอ็นระบุว่า ในช่วงเวลาเดียวกันมีประชาชนมากกว่า 163 ล้านคนในสหรัฐฯ ที่ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ครบแล้ว

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เมื่อแยกตามอาการของเคสฉีดวัคซีนครบแล้วแต่ยังติดเชื้อ พบว่ามีไม่ถึง 0.004% ที่ป่วยหนักถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลและไม่ถึง 0.001% ที่เสียชีวิต ยิ่งไปกว่านั้นราว 74% ของเคสฉีดวัคซีนครบแล้วแต่ยังติดเชื้อทั้งหมด ยังเกิดขึ้นในกลุ่มคนที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป

อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวของซีเอ็นเอ็นระบุว่า นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา ทางซีดีซีมุ่งเน้นตรวจสอบเฉพาะเคสป่วยหนักและเสียชีวิตจากโควิด-19 ในกลุ่มคนที่ฉีดวัคซีนครบแล้วเท่านั้น ไม่รวมถึงเคสอาการป่วยเล็กๆ น้อยๆ

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานฉบับหนึ่งเมื่อช่วงต้นสัปดาหฺ์ว่า ตัวกลายพันธุ์เดลตาก่อปริมาณไวรัสพอๆ กับในคนที่ฉีดวัคซีนแล้วกับคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนหากพวกเขาติดเชื้อ และพวกผู้เชี่ยวชาญบอกต่อว่า แม้วัคซีนทำให้ผู้ฉีดมีความเป็นไปได้น้อยลงที่จะติดเชื้อ แต่หากคนเหล่านั้นติดเชื้อ พบว่าพวกเขามีแนวโน้มแพร่กระจายเชื้อได้แบบเดียวกับคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน

ผลการศึกษาดังกล่าวโน้มน้าวให้บรรดาผู้เชี่ยวชาญของซีดีซีอัปเดตคำแนะนำด้านการสวมหน้ากากในวันอังคาร (3 ส.ค.) แนะนำให้คนฉีดวัคซีนครบแล้วกลับมาสวมหน้ากากยามอยู่ในร่ม ตามพื้นที่ต่างๆ ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในระดับสูง เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อตัวกลายพันธุ์เดลตา ส่วนคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนนั้นยังคงแนะนำให้สวมหน้ากากต่อไปจนกว่าจะฉีดวัคซีนครบแล้ว

ซีเอ็นเอ็นรายงานต่อว่า นอกเหนือจากเคสอาการรุนแรงแล้ว ผลการวิเคราะห์ข้อมูลของทางการโดยมูลนิธิ Kaiser Family Foundation ยังพบว่าเคสฉีดวัคซีนแล้วติดเชื้อในทุกกรณี ทั้งป่วยเล็กน้อย ป่วยหนัก และเสียชีวิตถือว่าเกิดขึ้นน้อยมากๆ

มีราวๆ ครึ่งหนึ่งของรัฐต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ ที่รายงานเกี่ยวกับเคสฉีดวัคซีนแล้วติดเชื้อโควิด-19 และในแต่ละรัฐดังกล่าวมีไม่ถึง 1% ที่เกิดเคสฉีดวัคซีนครบแล้วแต่ยังติดเชื้อ ไล่ตั้งแแต่ระดับ 0.01% ในคอนเนตทิคัต ไปจนถึง 0.9% ในโอคลาโฮมา

มูลนิธิ Kaiser Family Foundation ยังพบด้วยว่ามากกว่า 90% ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ และมากกว่า 95% ของผู้ป่วยหนักถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลและเสียชีวิต เป็นกลุ่มคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน ในนั้นหลายรัฐมีเคสผู้ติดเชื้อใหม่ที่เป็นคนยังไม่ฉีดวัคซีนคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 98% เลยทีเดียว

ผู้เชี่ยวชาญเน้นว่าแม้คนฉีดวัคซีนครบแล้วยังสามารถแพร่กระจายเชื้อไวรัสได้ แต่วัคซีนยังคงปกป้องพวกเขาได้เป็นอย่างดีจากการติดเชื้ออาการหนัก ทั้งนี้ ท่ามกลางจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอันเนื่องจากตัวกลายพันธุ์เดลตา พวกผู้นำท้องถิ่นทั่วอเมริการายงานว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลส่วนใหญ่ คือกลุ่มคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน

ด้วยตัวกลายพันธุ์เดลตาแพร่เชื้อได้ง่ายมาก อดีตเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรัฐฯ รายหนึ่งจึงเตือนว่าประชาชนที่ไม่ได้รับการป้องกัน ทั้งจากวัคซีนและจากการเคยติดเชื้อมาแล้ว ดูเหมือนคงไม่รอดพ้นจากการติดเชื้อ

ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเคสผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นและความอันตรายของสายพันธุ์เดลตา อัตราการเข้าฉีดวัคซีนของประชาชนในสหรัฐฯ กลับมาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 สัปดาห์หลังสุด โดยรัฐต่างๆ ที่เคยล้าหลังในโครงการฉีดวัคซีน พบเห็นจำนวนประชาชนฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซีเอ็นเอ็นวิเคราะห์ข้อมูลของซีดีซี

เวลานี้ค่าเฉลี่ย 7 วัน ประชาชนรายใหม่เข้าฉีดวัคซีนในสหรัฐฯ อยู่ที่ 652,084 ราย เพิ่มขึ้นจาก 3 สัปดาห์ที่แล้ว 26%

(ที่มา : ซีเอ็นเอ็น)
#3127












โควิดลดกระหน่ำ ที่ดินติดถนนเอเซีย ติดถนนพหลโยธิน  AH1  เนื้อที่ 3-1-40 ไร่ ขาย 5ลบ. ต.ตากออก อ.บ้านตาก  จ.ตาก หน้ากว้างติดถนนเอเซียยาว แบ่งโฉนดขาย 1.5 ลบ./ไร่  

ทำเลยอดเยี่ยม ติดถนนAH1 หลักของไทย สายหลักขึ้นเหนือ ทำธุรกิจค้าขายดี เกร็งกำไรได้ ใกล้ตัวเมืองแหล่งชุมชนน้ำไฟเข้าถึง ผ่านจุดสำคัญมากมาย บรรยากาศวิวดี  สดชื่นอากาศดีน่าอยู่  ใกล้สถานที่ราชการสำคัญ ทำเลที่ตั้งดีหายาก เหมาะแก่การทำธุรกิจต่างๆ สร้างรีสอร์ท บ้านพัก ปั๊มน้ำมัน สนใจโทร

083-7124115
Line id : 0837124115

ปักหมุด
https://maps.app.goo.gl/fnyjh5h4krmYAWVB8

 
#3128


ห้างเซ็นทรัล และโรบินสัน ในเครือเซ็นทรัล รีเทล จัดโครงการ "Women Cancer" ชวนทำดี ช่วยผู้ป่วยมะเร็งสตรี โดยทุกการชอปในช่วงแคมเปญ "Central/Robinson Shop Shop, Central Luv Mom และ Robinson Hug Mom" วันที่ 4-19 ส.ค. 64 ห้างฯ จะนำรายได้ 1% จากยอดขายหลังหักค่าใช้จ่าย สมทบทุนจัดซื้อเครื่องอัลตร้าซาวด์เคลื่อนที่ มอบให้กับ มูลนิธิถันยรักษ์ฯ เพื่อตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมให้กับโรงพยาบาลในถิ่นทุรกันดาร

***



ขอเสียงปรบมือดังๆ ให้กับ บมจ.ไพโอเนียร์ มอเตอร์ (PIMO-ไพ่โม่) ที่ได้รับมอบเกียรติบัตรและโล่ประกาศเกียรติคุณสถานประกอบการสร้างเสริมสุขภาพระดับก้าวหน้า จาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสมาคมพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อม จากการเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการขยายฐานการสร้างเสริมสุขภาพในสถานประกอบการ

***



ธารินทร์ จงประเจิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บจก.วันม๊อบบี้ หรือ 1Moby ร่วมเป็นกำลังเสริมให้กับโรงพยาบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ด้วยการเพิ่มจำนวนเครดิตการส่งข้อความ SMS กับ 8 แพกเกจ "จ่ายเท่าเดิม รับ SMS มากขึ้น 50%" ตั้งแต่วันนี้-31 ส.ค. 64 สอบถามโทร. 0-2798-6000 หรือ FB : ThaiBulkSMS
#3129


ในช่วง Work From Home อย่างนี้ พอตกบ่ายก็อยากจะจิบกาแฟเรียกเอนเนอจี้กันหน่อย จะออกไปซื้อก็ลำบาก ฉะนั้นเครื่องทำกาแฟก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและสะดวกสุด น่าหาเครื่องทำกาแฟมาติดบ้านไว้สักเครื่อง ซึ่งตอนนี้ เนสเพรสโซ (Nespresso) ได้เปิดตัวคอลเล็กชั่น "Nespresso x Chiara Ferragni" ลิมิเต็ด อิดิชั่น คอลเล็กชันนี้เป็นผลงานคอลแลบล่าสุดที่เนสเพรสโซร่วมมือกับ เคียร่า เฟอร์รังงี (Chiara Ferragni) แฟชั่นไอคอนชาวอิตาเลียน ของวงการแฟชั่นโลกที่มีผู้ติดตามทางออนไลน์กว่า 24 ล้านคน มาร่วมรังสรรค์คอลเล็กชั่นพิเศษซึ่งประกอบไปด้วย เครื่องชงกาแฟ และแอคเซสเซอรี่เข้าชุดเพื่อต้อนรับซัมเมอร์ 2021 ให้แฟนๆ สายแฟของเนสเพรสโซและเคียร่าได้เก็บสะสมกัน



คอลเล็กชั่น Nespresso x Chiara Ferragni สุดพิเศษนี้ได้ผสานการออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจมาจากซัมเมอร์คอลเล็กชั่น เต็มเปี่ยมไปด้วยความสนุกสนานและสะท้อนผ่านตัวตนที่โดดเด่นของเคียร่า ผ่านการนำเอาไอคอนรูปดวงตาลายเซ็นที่เป็นเอกลักษณ์ของเคียร่าและการเลือกใช้โทนสีสันสดใสรับซัมเมอร์มาดีไซน์ให้คอลเล็กชันลิมิเต็ดอิดิชั่นนี้ให้ความรู้สึกทันสมัยและโดดเด่นสะดุดตาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่



สำหรับความพิเศษของลิมิเต็ด คอลเล็กชั่นนี้ เคียร่าได้คัดสรรไอเท็มชิ้นโปรดนำมาดีไซน์เพื่อนำเสนอความเอ็กซ์คลูซีฟให้แฟนๆ ทั่วโลกของทั้งเนสเพรสโซและเคียร่าได้ตามสะสมโดยเฉพาะ ประกอบไปด้วย เครื่องชงกาแฟรุ่นคลาสสิกอย่าง Essenza Mini ดีไซน์ล้ำ น้ำหนักเบา และมีขนาดกะทัดรัดที่สามารถรังสรรค์กาแฟรสชาติเยี่ยมได้อย่างง่ายดาย โดยเคียร่าเลือกใช้สีชมพูสดใสและลวดลายแพทเทิร์นไอคอนรูปดวงตาสลับโลโก้เนสเพรสโซมาสร้างความว้าวให้กับเครื่องชงกาแฟ นอกจากนี้ ยังมอบประสบการณ์อันสมบูรณ์แบบสำหรับคอกาแฟตัวจริงด้วยเครื่องทำฟองนมรุ่น Aeroccino 3 ที่มีลวดลายและสีสันเข้าชุดกัน ไม่เพียงเท่านั้นแฟนๆ ยังสามารถเลือกดื่มด่ำกับกาแฟแก้วโปรดได้กับแก้วมัคใส Coffee Mug ลายโมโนแกรม และแก้วมัคแบบพกพาได้ Nomad Travel Mug สีชมพูหวานกับไอคอนดวงตาซิกเนเจอร์สุดเก๋ สำหรับกาแฟในคอลเล็กชั่นนี้ มีทั้งหมด 3 รสชาติ ได้แก่ Roma, Freddo Intenso และ Scuro ซึ่งเป็นกาแฟรสโปรดของเคียร่าอีกด้วย



คอลเล็กชั่น Nespresso x Chiara Ferragni มีกำหนดวางจำหน่ายให้แฟน ๆ ในประเทศไทย ได้ตามสะสม ทางเว็บไซต์เนสเพรสโซ https://www.nespresso.com/th/ สนนราคาแต่ละไอเท็ม นั้นได้แก่
เครื่องชงกาแฟรุ่น Nespresso x Chiara Ferragni Essenza Mini วางจำหน่ายในราคา 5,500 บาท
เครื่องทำฟองนมรุ่น Nespresso x Chiara Ferragni Aeroccino 3 วางจำหน่ายในราคา 4,800 บาท
แก้วมัคใส Nespresso x Chiara Coffee Mug วางจำหน่ายในราคา 890 บาท
แก้วมัคแบบพกพาได้ Nespresso x Chiara Nomad Travel Mug วางจำหน่ายในราคา 1,190 บาท
เห็นแล้วบอกเลยว่าน่ามีตั้งในบ้านสวยๆ เก๋ๆ จริงๆ
#3130


หนึ่งในเทรดใหญ่ของโลกที่เห็นได้ชัดเจนคือ "พลังงานสะอาด" จนทำให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวของต่างหันมาลงทุนเปิดตัวธุรกิจให้สอดคล้อง   จนทำให้ธุรกิจเดิมจาก พลังงานฟอสซิล อย่าง "ถ่านหิน" หรือ  "น้ำมัน"  อาจจะกลายเป็นของล้าหลังในอีก 10 ปีข้างหน้า  

ทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องไร้เสน่ห์การลงทุนแต่ทำไหมยังเห็นตัวเลขราคาน้ำมันหรือถ่านหินกลับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง  เฉพาะราคาน้ำมันหลังจุดต่ำสุดปี 2563 สามารถปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องอยู่ที่ระดับ 70 ดอลลาร์บาร์เรล อานิสงค์การลดมาตรการล็อกดาวน์ ในต่างประเทศ ทำให้เกิดความต้องการที่ถูกอั้นเอาไว้ดึงราคาเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลดีต่อธุรกิจหุ้นน้ำมัน และ ปิโตรเคมี


อีกด้านราคาถ่านหินที่ถือว่าหลายประเทศไม่สนับสนุนให้เกิดธุรกิจดังกล่าว มีการกีดกันด้วยซ้ำจาก ภาษีคาร์บอนเครดิต ไม่ปล่อยสินเชื่อลงทุน ไม่เปิดสัมปทานเหมืองถ่านหินใหม่ๆ  เพื่อหันไปใช้พลังงานสะอาดแทนแต่กลับทำให้ราคาถ่านหินครึ่งปีแรก2564  ทะลุหลักร้อย ที่ 152.37 ดอลลาร์ต่อตัน ( 30 ก.ค.64)

เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงปลายปี 2563 ราคาถ่านหินอยู่ที่ระดับ 70 ดอลลาร์ต่อตัน ส่งผลทำให้ 6 เดือนแรก ราคาขยับขึ้นมาถึง 117 %  วึ่งระหว่างทางราคายังขึ้นไปทำสูงสุดที่ 146 ดอลลาร์ต่อตัน สูงสุดในรอบ 12 ปี ท่ามกลางความต้องการใช้ที่สูงขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและสถานการณ์โควิด-19 ในหลายประเทศเริ่มคลี่คลาย

โดยยังมีความต้องการจากผู้บริโภครายใหญ่จีน อินเดีย เวียดนาม ไต้หวัน เกาหลี เข้ามาเพิ่มเติมยิ่งจีนที่ใช้มาตรการเข้มในธุรกินี้จนห้ามนำเข้าถ่านหินจากออสเตรเลียเลยออกผลไปที่จีนต้องนำเข้าจากแหล่งอื่นทดทแน เช่น อินโดนีเซีย

ดังนั้นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับราคาถ่านหินโดยตรงจึงปรับตัวขึ้นเนื่องต่อเนื่อง รายเล็กใตลาด บริษัท ลานนารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) หรือ LANNA  ราคาหุ้นขยับจากระดับ 5 บาท (พ.ค. 64) จนไปยืนที่ 15-16 บาท (มิ.ย.64 ) จนเกือบไปแตะที่ 20 บาท ซึ่งวานนี้ (3 ส.ค.) ราคาหุ้นปิดที่ 18.60 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) คิงส์ฟอร์ด ให้ราคาเป้าหมายที่  24.50 บาท ในฐานผู้ที่มีแหล่งผลิตถ่านหินในอินโดนีเซียที่ได้รับประโยชน์จากราคาถ่านหินในตลาด Seaborne ที่ยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง เป็นผลความต้องการใช้ที่สูงขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและสถานการณ์ โควิด-19 ในหลายประเทศเริ่มคลี่คลาย

ถัดมาหุ้น บริษัท บ้านปู จำกัด  (มหาชน) หรือ BANPU เป็นรายใหญ่ในตลาด ที่กำลังเข้าสู่พลังงานสะอาดมากขึ้นผ่านการลงทุนของบนิษัทลูก บริษัท บ้านปูเพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP   ทำให้มีการเปิดแผนการเพิ่มทุนเป็นเท่าตัวจนราคาหุ้นสะดุดลงหลังขึ้นมาถึง 16 บาท กลางมิ.ย. ที่ผ่านมา

ด้วยแผนเพิ่มทุนออกมากว่า 30000 ล้านบาท ก่อนจะมีการปรับตัวเลขใหม่เป็นเพิ่มทุน 2.96 หมื่นล้านบาท  (ลดลงจากแผนเดิม 7%) ด้วยการออกหหุ้นเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิม 1,692 ล้านหุ้น สัดส่วน 3 หุ้นเดิมต่อ1 หุ้นใหม่  และใบสำคัญแสดงสิทธิหรือวอร์แรนต์ ( BANPU-W4 แจกฟรีราคาใช้สิทธิ 5 บาท และ BANPU-W5 แจกฟรี ที่ราคาใช้สิทธิ 7.50 บาท )  พร้อมยกเลิกแผนออก BANPU-W6   ซึ่งจะมีการประชุมขออนุมัติผู้ถือหุ้น 9 ส.ค. นี้

ส่งผลทำให้ราคาหุ้นกลับมารีบาวด์ภายใต้การแผนเพิ่มทุนมุ่งเน้นไปที่การเข้าซื้อกิจการและขยายธุรกิจพลังงานสะอาด   ขณะที่ธุรกิจหลัก บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) คาดไตรมาส 2 ปี 2564 กำไร 1.4 พันล้านบาท  (จากขาดทุนสุทธิ 2.5 พันล้านบาท ใน 2Q63, -10% QoQ) จากราคาถ่านหินเพิ่มขึ้นถึง 98% ( YoY )และ 21% ( QoQ)  มีราคาขายถ่านหินเฉลี่ย (ASP) จะเพิ่มขึ้น 18% (QoQ) เป็น 78 ดอลลาร์ต่อตัน  
#3131


ดร.แพทย์หญิงสายพิณ โขติวิเชียร ผู้อำนวยการสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะนี้ ประชาชนส่วนใหญ่อยู่กับบ้าน หรือทำงานที่บ้านกันมากขึ้น จึงนิยมสั่งซื้ออาหารออนไลน์เพิ่มขึ้น ซึ่งในปี 2563 ที่ผ่านมา จากข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้สำรวจพฤติกรรมทางออนไลน์ เรื่อง "การใช้บริการ Online Food Delivery ของคนไทย" ระหว่างวันที่ 5 – 15 มีนาคม 2563 พบว่า มีผู้ใช้บริการสั่งอาหารออนไลน์ ถึงร้อยละ 85 และอาหารที่นิยมสั่งทางออนไลน์คืออาหารจำพวกฟาสต์ฟู้ดต่าง ๆ เช่น ไก่ทอด เบอร์เกอร์ พิซซ่า ร้อยละ 61 รองลงมาเป็นอาหารตามสั่งร้อยละ 47 และก๋วยเตี๋ยวหรืออาหารประเภทเส้น ร้อยละ 41 ส่วนอาหารสำเร็จรูปมีการสำรองกักตุนไว้ ร้อยละ 69 โดยอาหารแห้งที่ซื้อมากักตุนคือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เนื้อสัตว์แปรรูป เช่น หมูหยอง หมูแผ่น หมูทุบ ปลากระป๋อง ขนมหวาน เช่น ช็อคโกแลต เค้กคุกกี้ และ อาหารสำเร็จรูปแช่แข็งตามลำดับ โดยอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดที่นิยมสั่งกันนั้น มักจะมีสารอาหารประเภทไขมันและโซเดียมสูง กินมากอาจสะสมเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วนและเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด ตามมาได้

1) เพิ่มคุณค่าทางโภชนาการของอาหารสำเร็จรูปให้มากขึ้น เช่น นำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มาเพิ่มวัตถุดิบอาหารที่เสริมสร้างภูมิต้านทาน ผัก และสมุนไพร เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปผัดกระเพรา หรือ ต้มยำทรงเครื่อง ปลากระป๋องห่อไข่ 

2) ลดการกินจุบ กินจิบ กินอาหารให้เป็นเวลา 

3) งดการกินอาหารมื้อดึก เพราะจะสะสมเป็นไขมันแทน ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้ 

4) เคี้ยวอาหารช้า ๆ จะทำให้รู้สึกอิ่มเร็วกว่า เพราะร่างกายคนเราจะเริ่มรู้สึกอิ่มเมื่อกินอาหารไปประมาณ 20 นาที และ 

5) ไม่กินทิ้งขว้าง มีวินัยในการซื้อและการกินที่ดี

"สำหรับการบริโภคอาหารของประชาชนในบางพื้นที่ที่ได้รับการช่วยเหลือจากการบริจาคขององค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน หากเป็นอาหารปรุงสำเร็จ ขอให้ผู้บริจาคเน้นย้ำสุขอนามัยในการปรุงประกอบอาหาร โดยให้เป็นอาหารที่ปรุงสุกอย่างทั่วถึง ส่วนในกรณีที่ผู้บริโภคที่ได้รับการช่วยเหลือเป็นอาหารแห้ง เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ควรนำมาปรุงให้สุกก่อนกิน โดยเทอาหารใส่จานของตนเอง และไม่กินอาหารร่วมกับผู้อื่น" ผู้อำนวยการสำนักโภชนาการ กล่าว
 
#3132


นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก เปิดเผยว่า สรท.คงคาดการณ์การส่งออกไทยในปี 2564 เติบโต 10% ซึ่งหากจะให้ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ ในช่วงครึ่งปีหลังจะต้องมียอดส่งออกให้ได้มากกว่าเดือนละ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่หากควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดในภาคการผลิตไม่ได้จนเกิดผลกระทบรุนแรง จะทำให้การส่งออกขยายตัวลดลงเหลือเพียง 7%

โดยสถานการณ์การส่งออกในช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมายังขยายตัวได้ดี เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของตลาดส่งออก เช่น จีน สหรัฐ สหภาพยุโรป ประกอบกับทิศทางการอ่อนค่าของเงินบาทที่ช่วยให้แข่งขันได้ดีขึ้น ซึ่งเชื่อว่าแนวโน้มการส่งออกสินค้าทุกกลุ่มในปีนี้ยังคงสดใส ยกเว้นข้าว และน้ำตาล

ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสถานประกอบการมีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิต ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกอบการได้รับผลกระทบแล้วกว่า 1,500 แห่ง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น เช่น อาหาร ยานยนต์ สิ่งทอ ทำให้กำลังการผลิตลดลงราว 20% ซึ่งเกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจราวเดือนละ 6 หมื่นล้านบาท ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องเร่งควบคุมการแพร่ระบาดให้ได้ ช่วงล็อคดาวน์ ต้องเร่งฉีดวัคซีนเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดด้วย ไม่เช่นนั้นการขยายพื้นที่และขยายเวลาล็อคดาวน์ออกไปอีกเท่าไรก็จะไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย

ขณะที่ปัจจัยบวกที่ส่งผลดีต่อการส่งออกได้แก่ 1.การฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของเศรษฐกิจโลก การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญ อาทิ สหรัฐ จีน สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น จากการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ และความคืบหน้าในการฉีดวัคซีน ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการใช้จ่ายตามปกติ,ดัชนีผู้จัดการฝ่ายการผลิตโลก (World PMI index) ที่อยู่ระดับมากกว่า 50 อย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงการฟื้นตัวของกิจกรรมการผลิตสอดคล้องกับทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกอย่างแข็งแกร่ง

2.ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในทิศทางอ่อนค่าใกล้เคียง 33 บาท/ดอลลาร์ จากปัจจัยความกังวลต่อสถานการณ์ระบาดของโควิดในประเทศไทยที่มีความรุนแรง ซึ่งส่งผลลบต่อเศรษฐกิจไทยปี 2564 ประกอบกับการแข็งค่าของดอลลาร์จากการเผชิญแรงกดดัน หลังประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณไม่รีบคุมเข้มนโยบายการเงิน แม้ว่าเงินเฟ้อสหรัฐจะขยับสูงขึ้น

3.ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงอย่างต่อเนื่องถึงระดับ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล จากแรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั่วโลกโดยเฉพาะยุโรปและสหรัฐ ที่เริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ในหลายพื้นที่ รวมถึงจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่ทั่วโลกปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง

ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่เป็นอุปสรรคต่อการส่งออก ได้แก่ 1.สถานการณ์การระบาดโควิด-19 ที่มีความรุนแรงในประเทศ จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด–19 ภายในประเทศยังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากไม่สามารถควบคุมและลดการแพร่ระบาดได้อาจจะกระทบเศรษฐกิจไทยอย่างรุนแรง โดยเฉพาะภาคการส่งออกซึ่งถือเป็นเครื่องจักรตัวสุดท้ายที่ยังขับเคลื่อนได้ กรณีการติดเชื้อในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมเริ่มแพร่กระจายมากขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อกำลังการผลิต และการส่งมอบสินค้า ทำให้การส่งออกเติบโตได้เพียง 10% จากที่คาดว่ามีโอกาสเติบโตได้ถึง 15% ประกอบกับมาตรการ Bubble & Seal ซึ่งโรงงานขนาด SMEs ส่วนใหญ่ อาจไม่สามารถดำเนินการได้และมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ขณะเดียวกันภาครัฐไม่สามารถอำนวยความสะดวกและสนับสนุนได้ทั้งหมด

2.ปริมาณความต้องการตู้สินค้ายังไม่เข้าสู่ภาวะสมดุล ปริมาณการหมุนเวียนของตู้สินค้ายังไม่เพียงพอ ประกอบกับค่าระวางเรือยังคงปรับตัวอยู่ในทิศทางขาขึ้น ค่าระวางการขนส่งสินค้าทางทะเลยังมีการปรับขึ้นในเกือบทุกเส้นทาง โดยเฉพาะเส้นทางยุโรป และสหรัฐ เนื่องด้วยปริมาณการขนส่งทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่สายเรือใช้โอกาสเรียกเก็บค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มมากขึ้น อาทิ Peak Season Surcharge (PSS) ซึ่งแม้บางบริษัทยอมจ่ายอัตราพิเศษแต่ก็ยังไม่ได้ตู้สินค้า รวมถึงผู้ส่งออกที่ได้รับการยืนยันตู้แล้ว ก็อาจถูกยกเลิกก่อนกำหนด ทำให้ผู้ส่งออกไทยไม่สามารถส่งออกได้ตามเป้า การบริหารจัดการภายในท่าเทียบเรือที่ขาดประสิทธิภาพ และปัญหาจากการล่าช้าของเรือ ทำให้ตู้สินค้าไม่สามารถหมุนเวียนในระบบได้ดีเพียงพอ

3.แรงงานขาดแคลน เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจทำให้ความต้องการแรงงานในกระบวนการผลิตเพิ่มขึ้น แต่แรงงานต่างด้าวเดินทางกลับประเทศและยังไม่ได้เดินทางกลับเข้ามา ประกอบกับยังไม่สามารถจัดสรรวัคซีนโควิด-19 ให้เพียงพอกับจำนวนแรงงานในภาคการผลิต ซ้ำเติมปัญหาการขาดแคลนแรงงานให้ทวีความรุนแรงมากขึ้น ขณะที่ยังมีข้อจำกัดในการจ้างแรงงานแบบ part-time ให้สอดคล้องกับกฎหมายในปัจจุบัน

4.ปัจจัยการผลิตมีปริมาณไม่เพียงพอ ส่งผลให้ต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น อาทิ Semiconductor Chip / Steel โดยเฉพาะต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น และไม่สามารถผลิตได้ตามกำลังการผลิตหรือความต้องการของตลาดโลก

ทั้งนี้ สรท.มีข้อเสนอแนะดังนี้ 1.ไม่เห็นด้วยกับมาตรการ Fully Lockdown โดยขอยกเว้นให้ภาคการผลิตและกิจกรรมโลจิสติกส์ที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกและนำเข้า อาทิ การปฏิบัติงานของท่าเรือ การขนส่งสินค้าเข้าสู่ท่าเรือ ยังสามารถดำเนินการได้ต่อเนื่อง เพราะมีผลต่อสัญญาการค้าระหว่างประเทศ และหลายธุรกิจมีสัดส่วนการผลิตเพื่อป้อนตลาดในประเทศ หากมีการหยุดประกอบการ จะส่งผลให้เกิดปัญหาการขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภคภายในประเทศตามมาในที่สุด

2.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งบริหารจัดการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมทุกภาคส่วน โดยเฉพาะแรงงานภาคอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกให้เร็วที่สุด 3.ขอเรียกร้องให้มีการปรับใช้มาตรการทางสาธารณสุขที่เป็นมาตรฐานเดียวจากส่วนกลาง เพื่อให้สามารถดำเนินการเหมือนกันในแต่ละพื้นที่จังหวัด โดยเฉพาะกรณีโรงงานที่มีพนักงานอยู่ในกลุ่มเสี่ยง 4.ขอเรียกร้องให้หน่วยงานราชการเร่งปรับปรุงการทำงานในการจัดการด้านเอกสารออนไลน์ (e-Document) และการขออนุญาต/ใบรับรองเพื่อการส่งออกนำเข้าผ่านระบบ National Single Window (NSW) เพื่อลดการสัมผัสจากการเข้าไปติดต่อราชการ
#3133


คาร์สเทน วอร์โฮล์ม นักกรีฑา นอร์เวย์ ทุบสถิติโลกของตัวเอง คว้าเหรียญทองการแข่งขันวิ่งข้ามรั้ว 400 เมตรชาย โอลิมปิก 2020 เมื่อวันอังคารที่ 3 สิงหาคม

วอร์โฮล์ม เข้าเส้นชัยคนแรก เวลา 45.94 วินาที เร็วกว่าของเดิม ซึ่งทำไว้ 46.70 วินาที ที่กรุงออสโล เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

ขณะที่ ไร เบนจามิน นักวิ่ง สหรัฐอเมริกา ทำเวลาดีกว่าสถิติโลกเดิมเช่นกัน 46.17 วินาที และ อลิสัน ดอส ซาน โตส จาก บราซิล ทำเวลา 46.72 ซิวเหรียญเงิน และทองแดง ตามลำดับ

วอร์โฮล์ม วัย 25 ปี กล่าว "บางครั้งขณะฝึกซ้อม โค้ชของผมย้ำเสมอว่า นี่อาจเป็นการแข่งขันที่สมบูรณ์แบบมากสุด แต่มันยากเหลือเกินที่คาดหวัง มันเป็นบางสิ่งที่คุณไม่เคยคิดเอาไว้เลย"

วอร์โฮล์ม ฉีกเสื้อหลังเข้าเส้นชัย พร้อมอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง เหมือนตอนพิสูจน์ตัวเองแก่วงการกรีฑาระดับโลก ในรายการ เวิลด์ แชมเปียนชิป เมื่อปี 2017
 
#3134


วันที่ 3 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ลงนามประกาศ กทม. เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 39) เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ตามประกาศใช้ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 30) ลงวันที่ 1 ส.ค. 2564 โดยมีคำสั่งปิดสถานที่ในกรุงเทพฯ และให้ดำเนินการตามที่ระบุไว้ในประกาศ กทม. เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่  32) ลงวันที่14 มิถุนายน 2564 (ฉบับที่ 34) ลงวันที่ 27 มิถุนายน2564 (ฉบับที่ 35) ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 (ฉบับที่ 36) ลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2564 (ฉบับที่ 37) ลงวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 และ(ฉบับที่ 38) ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2564

ทั้งนี้ สำหรับประกาศ กทม.ฉบับที่ 37 ลงวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 ได้กำหนดสถานที่ที่เปิดได้ตามความจำเป็น ดังนี้

1.โรงพยาบาล สถานพยาบาล คลินิกแพทย์รักษาโรค ร้านขายยา ร้านขายยาและเวชภัณฑ์

2.ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกรรมการเงิน ธนาคาร ตู้เอทีเอ็ม

3.ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ไปรษณีย์และพัสดุภัณฑ์ ร้านจำหน่ายอาหารสัตว์

4.โรงงาน ร้านจำหน่ายเครื่องมือช่างและอุปกรณ์ก่อสร้าง

5.ร้านค้าทั่วไป ร้านจำหน่ายสินค้าเน็ดเตล็ดอันจำเป็น

6.สถานที่จำหน่ายแก๊สหุงต้ม เชื้อเพลิง ปั๊มน้ำมัน ปั๊มแก๊ส

7.ตลาดนัด (เฉพาะส่วนที่จำหน่ายอาหารและวัตถุดิบเพื่อการบริโภค)

8.สถานรับเลี้ยงเด็ก (เฉพาะในโรงพยาบาลและที่รับตัวไว้พักค้างคืน)

9.สถานดูแลผู้สูงอายุ (เฉพาะที่มีการรับตัวไว้พักค้างคืน)

10.ธุรกิจประกันภัย หน่วยบริการงานช่วยเหลือกู้ภัย

11.ศูนย์บริการหรือร้านซ่อมแซมยานพาหนะ ร้านแบตเตอรี่

12.หน่วยบริการตรวจสอบหรือซ่อมบำรุงระบบสารารณูปโภค ระบบระบายน้ำ

13.ระบบท่อส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ผู้จัดเก็บและกำจัดขยะบริการส่งสินค้าและอาหารตามสั่ง (delivery online)

ขณะเดียวกันในประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 39) ล่าสุดนั้น มีคำสั่งให้ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบกิจการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน เปิดดำเนินการได้จนถึงเวลา 20.00 นาฬิกา โดยให้ดำเนินการ ได้เฉพาะการจำหน่ายในรูปแบบการสั่งอาหารหรือเครื่องดื่มผ่านการบริการขนส่งอาหาร (Food Delivery Service) เท่านั้น

รวมถึงให้พื้นที่หรือสถานที่ก่อสร้าง ดัดแปลงหรือรื้อถอนอาคาร สถานที่พักอาศัยชั่วคราวสำหรับแรงงาน งานก่อสร้าง และการเดินทางเคลื่อนย้ายแรงงาน ซึ่งได้เคยมีประกาศหรือคำสั่งให้ปิดสถานที่หรือหยุดการดำเนินการ ตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 34) ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2564 หรือเคยได้รับการผ่อนคลายแบบมีเงื่อนไข ตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 35) ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 แต่ต่อมาสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้ตามมาตรฐานทางสาธารณสุข หรือได้ดำเนินการแก้ไขเพื่อให้สถานที่มีสภาวะที่ถูกสุขลักษณะแล้ว เปิดหรือดำเนินการได้ภายใต้หลักเกณฑ์ มาตรการ และแนวทางกำกับติดตามประเมินผลที่กระทรวงสาธารณสุขหรือทางราชการกำหนด 

สำหรับสถานที่กิจการที่ถูกปิดทั้งหมด 33 กิจการ มีดังนี้

1.สถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะ คล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน

2.สถานประกอบกิจการอาบอบนวด

3.สถานประกอบกิจการอาบน้ำ สถานประกอบ กิจการอบไอน้ำ อบสมุนไพร

4.สนามชนไก่ และสนามซ้อมชนไก่

5.สนามชนโค สนามกัดปลา หรือสนามแข่งขันอื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน

6.สนามมวย โรงเรียนสอนมวย

7.สนามม้า

8.สนามแข่งขันทุกประเภท

9.โต๊ะสนุกเกอร์ บิลเลียด

10.สถานที่เล่นโบว์ลิ่งหรือตู้เกม

11.ร้านเกม และร้านอินเทอร์เน็ต

12.โรงมหรสพ โรงภาพยนตร์ โรงละคร

13.สถานที่แสดงมหรสพ หรือสถานที่ที่มีการแสดงหรือการละเล่นสาธารณะ

14.สวนน้ำ สวนสนุก

15.สนามเด็กเล่น เครื่องเล่นสำหรับเด็ก

16.สวนสัตว์ หรือสถานที่จัดแสดงสัตว์

17.สถานที่เล่นสเก็ตหรือโรลเลอร์เบลดหรือการเล่นอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน

18.สถานที่ออกกำลังกายฟิตเนส

19.โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ (ยิม)

20.สถาบันลีลาศหรือสอนลีลาศ

21.สถานที่ให้บริการห้องประชุม ห้องจัดเลี้ยงสถานที่จัดเลี้ยง รวมถึงสถานที่อื่นใดที่มีลักษณะเดียวกัน

22.ศูนย์พระเครื่อง พระบูชา และสนามพระเครื่องพระบูชา

23.สถานที่ให้บริการควบคุมน้ำหนัก สถานเสริมความงาม คลินิกเสริมความงาม (ไม่ได้รับอนุญาตให้เป็นคลินิกเวชกรรม) สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เช่น กิจการสปานวดเพื่อสุขภาพ นวดฝ่าเท้า

24.สนามกีฬาทุกประเภทในร่ม เช่น สนามแบดมินต้น สนามฟุตซอลสนามบาสเก็ต. สนามวอลเลย์.กลางแจ้ง เช่น สนามกอล์ฟ สนามซ้อมกอล์ฟ สนามฟุต. สนามเทนนิส

25.สวนสารารณะ สวนพฤกษศาสตร์ต่างๆ

26.ลานกีฬา

27.ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ

28.ศูนย์การเรียนรู้ หรือศูนย์วิทยาศาสตร์ เพื่อการศึกษา อุทยานวิทยาศาสตร์ศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม หรือหอศิลป์

29.ห้องสมุดสาธารณะ ห้องสมุดชุมชนห้องสมุดเอกชน และบ้านหนังสือ

30.พิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์สถาน พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น รวมถึงพิพิธภัณฑ์ในลักษณะเดียวกันแหล่งประวัติศาสตร์ หรือ โบราณสถาน

31.ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และเด็กก่อนวัยเรียน

32.ร้านเสริมสวย ร้านตัดผมหรือแต่งผมร้านทำเล็บ หรือร้านสัก

33.สระน้ำเพื่อการเล่นกีฬา หรือกิจกรรมทางน้ำเพื่อการสันทนาการ สระว่ายน้ำสาธารณะหรือกิจการอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน
#3135


"บิลด์" สื่อดังในประเทศเยอรมนี รายงานว่า โฮเซ มูรินโญ กุนซือใหม่ของ โรมา ทีมดังในศึกกัลโช เซเรีย อา อิตาลี เตรียมเบนเป้าหันไปล่าตัว โธมัส เดอลานีย์ มิดฟิลด์ทีมชาติเดนมาร์กของโบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ ยักษ์ใหญ่แห่งศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี ไปเสริมทัพ หลังแผนการคว้าตัว กรานิต ชากา กองกลางของ อาร์เซนอล ทีมในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ส่อแววคว้าน้ำเหลว

สื่อดังแห่งเมืองเบียร์ ระบุว่า เดิมที่ มูรินโญ พุ่งเป้าไปที่การคว้า ซากา มาเสริมทัพเป็นเป้าหมายแรก แต่มีอันต้องผิดหวังไม่อาจสู้ราคาค่าตัวที่ "ปืนใหญ่" ต้นสังกัดของดาวเตะทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ตั้งไว้ได้ ส่งผลให้นายใหญ่ "นางพญาหมาป่า" ต้องเบนเป้าหมายมาหา เดอลานีย์ โดยเวลานี้ ทีมดังจากแดนมะกะโรนี กำลังเฝ้าจับตาสถานการณ์เรื่องการต่อสัญญาใหม่ของมิดฟิลด์ทีมชาติเดนมาร์กกับ "เสือเหลือง" และพร้อมจะยื่นข้อเสนอทันที และคาดว่าทีมจากเมืองเบียร์ อาจจะพร้อมปล่อยดาวเตะรายนี้ออกไปด้วยค่าตัวราว 9 ล้านปอนด์เท่านั้น
#3136


นายประกฤต ธัญวลัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) จีเอ็มโอ-แซด คอม (ประเทศไทย) จำกัด ("บล. Zcom") เปิดเผยว่า จากการสนับสนุนทางการเงินอย่างแข็งแกร่งจากบริษัทใหญ่ในประเทศญี่ปุ่นและสถาบันการเงินที่เป็นพันธมิตรทั้งหมดที่มีความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของตลาดมาร์จิ้นในไทย บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดของยอดลูกหนี้มาร์จิ้นได้อย่างต่อเนื่อง

 โดย ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2564 บริษัทมียอดมูลหนี้จากการให้บริการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์มากกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 70% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญตามที่บริษัทตั้งเป้าหมายไว้ ภายในระยะเวลาเพียง 3 ปีกว่านับตั้งแต่บริษัทเริ่มเปิดให้บริการนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ครั้งแรกในไทยเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเดินหน้าในการปรับกลยุทธ์ในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่ม และก้าวสู่อันดับหนึ่งในการเป็นผู้ให้บริการด้านบัญชีมาร์จิ้นในธุรกิจหลักทรัพย์ของประเทศไทย

บริการด้านบัญชีมาร์จิ้นหรือบัญชีเครดิตบาลานซ์ ของ บล. Zcom เปิดให้บริการแก่นักลงทุนที่ต้องการกู้ยืมเงิน เพื่อเพิ่มอำนาจซื้อหลักทรัพย์ โดยนักลงทุนจำเป็นต้องนำหลักประกันมาวางไว้กับบริษัทฯ ตามอัตรามาร์จิ้นเริ่มต้น (Initial Margin) ของหลักทรัพย์ที่ต้องการลงทุน ซึ่งมีให้เลือกมากกว่า 600 หลักทรัพย์ ในอัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำที่ 5.95% ต่อปี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ 02-088-8111
#3137


บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดโครงการ "พี่ไปรฯ ชวนแปลงร่าง ทางรอดในยุคโควิด ชวนคนไทยขายของออนไลน์" โครงการช่วยจำหน่ายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เว็บไซต์ Thailandpostmart ให้พ่อค้า แม่ค้ามือใหม่ รวมทั้งผู้ประกอบการที่อยากเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าในช่วง COVID-19 โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการสมัคร

ช่องทางดังกล่าวเป็น e-Marketplace ที่รวบรวมสุดยอด ของดีของเด่นจาก 77 จังหวัดทั่วไทย โดยร้านค้าที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่ www.thailandpostmart.com หรือติดต่อได้ที่ที่ทำการไปรษณีย์จังหวัดทั่วประเทศ

นอกจากนี้ เว็บไซต์ Thailandpostmart ยังเตรียมจำหน่ายสินค้าเพื่อป้องกัน COVID-19 สินค้าสำหรับผู้ป่วยที่ต้องรักษาตัวเองที่บ้าน หรือ Home – Isolation ในราคาผู้ผลิต พร้อมจัดส่งถึงบ้านด้วยบริการ EMS

นายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า จากมาตรการในการจำกัดและควบคุมสถานที่ต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ส่งผลให้ผู้ประกอบการ เกษตรกร ผู้ที่มีอาชีพค้าขายต้องประสบปัญหาในการจำหน่ายสินค้า

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น ไปรษณีย์ไทย จึงเชิญชวนคนไทย หรือ พ่อค้า แม่ค้า เกษตรกร รวมทั้งผู้ที่อยากหาช่องทางในการสร้างรายได้ แปลงร่างมาเป็นพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ ในโครงการ "พี่ไปรฯ ชวนแปลงร่าง ทางรอดในยุคโควิด ชวนคนไทยขายของออนไลน์"


ไปรษณีย์ไทยได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่านเว็บไซต์ Thailandpostmart.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ รวบรวมสินค้าเกษตรและวิสาหกิจชุมชนที่ใหญ่ที่สุด มีสินค้ามากกว่า 17,000 รายการจากทุกภูมิภาค มีผู้ประกอบการกว่า 6,500 รายเข้าร่วมขายสินค้า โดยผู้ประกอบการจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ สามารถเข้าร่วมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียน ตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป


โดยเข้าไปในเว็บไซต์ Thailandpostmart.com เลือกเมนู ติดต่อขายสินค้า อ่านข้อตกลงในการขายสินค้าอย่างละเอียดก่อนกดยืนยัน เพื่อให้ขั้นตอนการสมัครขายสินค้าเสร็จสมบูรณ์ หรือหากไม่สะดวกลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ สามารถไปลงทะเบียนได้ที่ไปรษณีย์จังหวัดใกล้บ้าน

โครงการดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยที่ประกอบธุรกิจค้าขาย เกษตรกร และประชาชนทั่วไปที่อยากมีช่องทางจำหน่ายสินค้าออนไลน์ เข้าถึงกลุ่มเข้าถึงผู้บริโภคได้ทุกกลุ่ม 


นอกจากการเปิดพื้นที่ในการช่วยจำหน่ายสินค้าแล้ว ไปรษณีย์ไทยยังพร้อมอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ต้องกักตัว สามารถสั่งซื้อสินค้าอุปโภค บริโภค ซึ่งเป็นสินค้าดีจากทั่วประเทศ ผลไม้สดส่งตรงจากสวน รวมทั้งสินค้าป้องกันโควิด เช่น เจล/สเปรย์แอลกอฮอล์ รวมถึงกลุ่มสินค้าเพื่อผู้ป่วย COVID-19 ที่ต้องรักษาตัวเองที่บ้าน หรือ Home – Isolation ที่ในขณะนี้ผู้ป่วยที่รับการรักษาแบบนี้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย"

ไปรษณีย์ไทยเชื่อว่าการขยายช่องทางการซื้อ/ขายสินค้าให้กับประชาชน ผู้ประกอบการ เกษตรกร ไปสู่ e-Marketplace ผ่านช่องทางของ Thailandpostmart.com จะทำให้เกิดการกระจายรายได้ไปสู่ผู้ประกอบการโดยตรง และส่งผลให้เกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจในระดับฐานรากต่อไป
#3138


เมื่อวันที่ 1 ส.ค.64 นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nithi Mahanonda  ระบุว่า เปิดไทม์ไลน์ "วัคซีนซิโนฟาร์ม" 10 ล้านโดสนำเข้าไทย และแผนการจัดสรรและกระจายวัคซีน "ซิโนฟาร์ม" ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์

1 สิงหาคม 2564: ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ สรุปแผนการจัดสรรและกระจาย "วัคซีนซิโนฟาร์ม" ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม 2564 พร้อมเปิดไทม์ไลน์วัคซีนซิโนฟาร์ม 10 ล้านโดสให้ประชาชนคนไทย ภายหลังจากวัคซีนซิโนฟาร์ม (SINOPHARM) ล็อตที่ 5 จำนวน 1 ล้านโดสเดินทางมาถึงประเทศไทยวันนี้ (1 สิงหาคม 2564)

ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ หนึ่งใน 5 หน่วยงานที่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าวัคซีนโควิด-19 ตามประกาศศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และได้รับความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรีที่มอบหมายให้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เป็นตัวแทนของรัฐบาลไทยในการดำเนินการประสานติดต่อและนำเข้าวัคซีน "ซิโนฟาร์ม" จากสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมทั้งติดตามกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดและในการขออนุมัติการขึ้นทะเบียนวัคซีนซิโนฟาร์มจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ซิโนฟาร์มเป็นวัคซีนโควิด-19 รายการที่ 5 ของประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2564

ทางราชวิทยาลัยได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีทั้งจากกระทรวงสาธารณสุขและกรุงเทพมหานครเพื่อให้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์สามารถกระจายวัคซีนช่วยเหลือประชาชนให้เข้าถึงและได้รับวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันได้เร็วที่สุด ทั้งนี้ วัคซีนจากบริษัทซิโนฟาร์มที่ใช้ในประเทศไทยผลิตโดยสถาบันชีววัตถุแห่งกรุงปักกิ่ง (BIBP) เป็นวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอนามัยโลก (WHO) โดยราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้ติดต่อนำเข้ามา จำนวน 10 ล้านโดส ระหว่างเดือนมิถุนายน - สิงหาคม 2564 โดยมีกำหนดถึงประเทศไทย ดังนี้


ไทม์ไลน์วัคซีนซิโนฟาร์ม 10 ล้านโดส

• 20 มิถุนายน 2564 จำนวน 1 ล้านโดส

• 4 กรกฎาคม 2564 จำนวน 1 ล้านโดส

• 18 กรกฎาคม 2564 จำนวน 1 ล้านโดส

• 25 กรกฎาคม 2564 จำนวน 1 ล้านโดส

• 1 สิงหาคม 2564 จำนวน 1 ล้านโดส

• 15 สิงหาคม 2564 จำนวน 1 ล้านโดส

• 22 สิงหาคม 2564 จำนวน 2 ล้านโดส

• 29 สิงหาคม 2564 จำนวน 2 ล้านโดส


แผนการจัดสรร และกระจายวัคซีน "ซิโนฟาร์ม"

โดยพิจารณาทยอยจัดสรรตามลำดับความสำคัญเร่งด่วนตามประเภทการดำเนินธุรกิจที่มีผลต่อการขับเคลื่อนประเทศ ระดับความเสี่ยงของโอกาสในการแพร่เชื้อให้กับสังคม และระดับความเสี่ยงบนพื้นที่ของทำเลที่ตั้งสถานประกอบการและที่พักอาศัย แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย

1) กลุ่มองค์กรนิติบุคคล เดือนมิถุนายน-กรกฎาคม จัดสรรไปแล้วให้กับประชากร จำนวน 2.26 ล้านคน ประมาณ 4.5 ล้านโดส เริ่มกระจายฉีดตั้งแต่ 25 มิถุนายน 2564

สำหรับภาคองค์กรนิติบุคคลที่ยื่นความประสงค์ขอรับการจัดสรรวัคซีนให้กับกลุ่มบุคคลต่างๆ ให้ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งองค์กรเป็นผู้สนับสนุนค่าวัคซีนให้ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้ประกาศจัดสรรให้กับองค์กรนิติบุคคลที่ยื่นขอรับการจัดสรรในระยะที่ 1 เข้ามาทั้งหมดแล้ว โดยทยอยจัดสรรไปทั้งหมด 5 ครั้ง รวมประชากรที่ได้รับจัดสรรวัคซีนไปทั้งหมด จำนวน 2,264,957 คน = 4,529,914 โดส และเริ่มกระจายฉีดในกลุ่มองค์กรนิติบุคคล ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป โดยมีรายละเอียดการจัดสรร ดังนี้

• ครั้งที่ 1 ประกาศจัดสรรเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2564 จำนวน 476,682 คน

• ครั้งที่ 2 ประกาศจัดสรรเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2564 จำนวน 302,618 คน

• ครั้งที่ 3 ประกาศจัดสรรเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2564 จำนวน 338,419 คน

• ครั้งที่ 4 ประกาศจัดสรรเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2564 จำนวน 993,330 คน

• ครั้งที่ 5 ประกาศจัดสรรเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2564 จำนวน 153,908 คน

2) กลุ่มองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เดือนกรกฎาคมได้จัดสรรไปแล้วให้กับประชากร จำนวน 1.9 ล้านคน ประมาณ 3.9 ล้านโดส เริ่มกระจายฉีดตั้งแต่ 28 กรกฎาคม 2564

สำหรับภาคองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานราชการ ที่ยื่นความประสงค์ขอรับการจัดสรรวัคซีนให้กับกลุ่มประชากรในพื้นที่ให้ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่ง อปท.เป็นผู้สนับสนุนค่าวัคซีนให้ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้ทยอยประกาศจัดสรรไปแล้ว จำนวน 4 ครั้ง รวมประชากรที่ได้รับจัดสรรวัคซีนทั้งหมด จำนวน 1,965,944 คน = 3,931,888 โดส และเริ่มกระจายฉีดประชาชนในกลุ่ม อปท. ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป โดยมีรายละเอียดการจัดสรร ดังนี้

• ครั้งที่ 1 ประกาศจัดสรรเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2564 จำนวน 392,789 คน

• ครั้งที่ 2 ประกาศจัดสรรเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2564 จำนวน 148,082 คน

• ครั้งที่ 3 ประกาศจัดสรรเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2564 จำนวน 145,772 คน

• ครั้งที่ 4 ประกาศจัดสรรเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 จำนวน 1,279,301 คน


3) กลุ่มบุคคลธรรมดา เดือนกรกฎาคมได้ลงทะเบียนเปิดจองและจัดสรรไปแล้ว 1 ครั้ง จำนวน 57,034 คน = 114,068 โดส เริ่มกระจายฉีดในกลุ่มบุคคลธรรมดา ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม 2564

4) กลุ่มประชาชนเปราะบางและผู้ด้อยโอกาส จำนวน 351,047 โดส = 175,523 คน

สำหรับวัคซีนที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้จัดสรรให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบางและผู้ด้อยโอกาส ส่วนหนึ่งมาจากองค์กรที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์มระยะที่ 1 ร่วมช่วยเหลือสังคมจัดสรรวัคซีนบริจาคให้อย่างน้อย 10% ของจำนวนวัคซีนซิโนฟาร์มที่ได้รับการจัดสรร และราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ร่วมสมทบ "ครึ่งโดส" ต่อ 1 สิทธิ์การจองวัคซีนซิโนฟาร์มในรอบบุคคลธรรมดา

ทั้งนี้ ได้กำหนดเป้าหมายสำหรับผู้ที่จะได้รับการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มบริจาคไว้ 5 กลุ่ม โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ได้แก่

• ผู้พิการ

• ผู้ด้อยโอกาส/ชุมชนแออัด

• ผู้สูงอายุ/ผู้ป่วยติดเตียง/ผู้ป่วยเรื้อรัง

• พระ/นักบวช

• กลุ่มอาชีพต่างๆที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบนัดของวัคซีนหลักได้และมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือแพร่เชื้อ

ทั้งนี้ โดยสรุป ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้จัดสรรและกระจายวัคซีนซิโนฟาร์มให้กลุ่มต่างๆไปแล้ว จำนวน 8.9 ล้านโดส ยังมีโควต้าวัคซีนซิโนฟาร์มที่รอการจัดสรรอีกจำนวนประมาณ 1.1 ล้านโดส โดยในเดือนสิงหาคมนี้ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จะเปิดลงทะเบียนจองวัคซีนสำหรับบุคคลธรรมดาในรอบที่ 2 และเปิดลงทะเบียนการขอรับการจัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์มสำหรับองค์กรนิติบุคคล ระยะที่ 2 โดยมีข้อกำหนดให้สำหรับองค์กรที่มีการยื่นขอรับจัดสรรให้กับพนักงานตั้งแต่ 100-2,000 คน เพื่อทยอยกระจายวัคซีนที่มีในโควต้าให้กับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ที่มีความต้องการเข้าถึงวัคซีนอย่างเร่งด่วนต่อไป พร้อมทั้งเตรียมแผนขยายอายุการให้วัคซีนซิโนฟาร์มในกลุ่มเด็กและวัยรุ่นอายุ 3-17 ปี หลังจากรัฐบาลจีนได้อนุมัติรับรองการใช้วัคซีนซิโนฟาร์มเพื่อการใช้แบบฉุกเฉินในกลุ่มคนอายุ 3-17 ปี ซึ่งคาดว่าจะมีความต้องการเพิ่มขึ้นจนกว่าวัคซีนหลักและวัคซีนทางเลือกในประเทศไทย จะมีเข้ามาเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 4 ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ก็จะค่อยๆ ลดบทบาทในการนำเข้าและจัดสรรปริมาณวัคซีนตัวเลือกซิโนฟาร์มนี้ลง

ข้อมูล ณ วันที่ 1 สิงหาคม 2564

นิธิ มหานนท์ 

เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และ 

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ 
#3139



นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการระบาดโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าที่ระบาดไปทั่วโลก ทำให้ตลาดโลกมีความต้องการสินค้าอาหารที่ปลอดภัย ได้คุณภาพ และมุ่งตอบโจทย์ข้อกังวลทางด้านสุขภาพมากยิ่งขึ้น เรื่องนี้นายจุรินทร์นทร์  ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เสนอการสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของอาหารไทยให้กับผู้ซื้อและผู้บริโภคทั่วโลก ในรูปแบบหนังสือรับรอง COVID-19 Prevention Best Practice สำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการส่งออกสินค้าอาหารซึ่งเมื่อเดือนก.ย.2563 ที่ผ่านมานายจุรินทร์เป็นประธานสักขีพยานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือของ 4 หน่วยงานหลัก ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย


ล่าสุดกรมประมงได้ออกหนังสือรับรองดังกล่าวให้แก่โรงงานอาหารทะเลแช่เย็นและแช่แข็ง และโรงงานผลิตอาหารทะเลกระป๋อง ให้กับโรงงานผู้ส่งออกแล้ว กว่า 237 โรงงานแล้ว สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการขอหนังสือรับรองดังกล่าวเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ สามารถติดต่อกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องก่อนส่งออกไปยังผู้นำเข้าในประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้


นอกจากนี้นายจุรินทร์ยังติดตามการสร้างการตระหนักรับรู้ และตอกย้ำให้เกิดความเชื่อมั่นว่าสินค้าอาหารไทยมีคุณภาพ และปลอดภัยในทุกๆ ขั้นการผลิตและการจัดส่งถือมือผู้บริโภคภายใต้แคมเปญ 'Thailand Delivers with Safety' ผ่านทูตพาณิชย์ที่เป็นเซลส์แมนประเทศ ซึ่งประจำการในประเทศต่างๆ ทั่วโลกอีกด้วย

สำหรับภาพรวมการส่งออกสินค้าอาหาร ไม่รวมน้ำตาล โดยในช่วงครึ่งปีแรกตั้งแต่ม.ค. – มิ.ย. 2564 มูลค่ากว่า 441,014 ล้านบาท  โดยมีสินค้าประเภทผัก ผลไม้สด แช่เย็น แช่เข็ง และแห้ง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง อาหารทะเลสด แช่เย็นแช่แข็ง กระป๋อง และแปรรูป ไก่สดแช่แข็ง และแปรรูป และเครื่องดื่มทุกชนิด ที่ส่งออกมากที่สุดตามลำดับ

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/952206
#3140



วันที่ 1 ส.ค. 64 นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามการเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์และสมุยพลัสโมเดลอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้ความมั่นใจว่า โครงการดังกล่าวยังคงเดินหน้าต่อ แม้ว่าจะมีตัวเลขของผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ในจังหวัดภูเก็ต เพิ่มขึ้น แต่พบว่า ส่วนใหญ่มาจากคนในพื้นที่ แคมป์ก่อสร้าง หรือผู้ที่เดินทางข้ามจังหวัด ซึ่งปัญหาดังกล่าวไม่ได้เกิดจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาตามโครงการนี้ เพราะจากตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมที่เดินทางเข้ามาภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์นั้น อยู่ที่ประมาณ 13,281 คน พบว่า ติดเชื้อใหม่เพียง 1 คน ส่วนผู้ติดเชื้อชาวต่างชาติสะสม มีจำนวน 30 คน และตรวจพบเชื้อตั้งแต่วันแรกที่เดินทางเข้ามา และถูกส่งเข้ารับการรักษาแล้ว อย่างไรก็ตาม จังหวัดภูเก็ตได้ยกระดับมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ควบคุมการเดินทาง เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 - 16 ส.ค. 2564 ยกเว้นบางกรณีที่สามารถเข้าพื้นของจังหวัดได้ เช่น รถฉุกเฉินทางการแพทย์ ขนส่งยา เวชภัณฑ์ สินค้าอุปโภคบริโภค แก๊สหุงต้ม น้ำมันเชื้อเพลิง ขนส่งเงินของธนาคาร หรือผู้ที่มีความจำเป็น เป็นต้น ถือเป็นการปิดการเดินทางเข้า-ออกจังหวัด แต่ไม่ได้ปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์แต่อย่างใด เพื่อให้การควบคุมโรคมีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ และเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและคนภูเก็ตทุกคน

นายธนกร กล่าวต่อว่า ในส่วนของสมุยพลัสโมเดล กรณีที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 บนเกาะสมุย จำนวน 54 รายนั้น เป็นคลัสเตอร์ร้านอาหาร ซึ่งทางจังหวัดก็สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ยืนยันว่าสมุยพลัสโมเดลยังดำเนินการต่อไปได้ เนื่องจากกลุ่มที่ติดเชื้อไม่ได้มาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติโครงการสมุยพลัสโมเดล และไม่ใช่นักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ที่ข้ามไปจากจังหวัดภูเก็ตด้วย ขอให้มั่นใจในโครงการดังกล่าวว่าสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติตามโครงการสมุยพลัสโมเดล และภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ที่เดินทางเข้าเกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่านั้น อยู่ที่ประมาณ 200 คน โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาต่างพอใจ รู้สึกผ่อนคลายกับทัศนียภาพรอบเกาะ และไม่ได้มีความกังวลใดๆ


นายธนกร กล่าวอีกว่า ท่านนายกฯ ขอให้เชื่อมั่นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวโดยเน้นพื้นที่ปลอดภัย และเตรียมขยายพื้นที่เดินหน้าต่อในการเปิดเกาะพีพี เกาะไหง และไร่เลย์ ของจังหวัดกระบี่ และเขาหลัก เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่ ของจังหวัดพังงา ตั้งเป้าภายในเดือนสิงหาคมนี้ ในส่วนของพื้นที่ของเกาะนั้นมีความพร้อม ประชาชนตามเกาะฉีดวัคซีนแล้ว 70 - 100% และเป็นพื้นที่ไม่พบผู้ติดเชื้อ โดยระยะแรกจะให้ประชาชนคนไทยที่ฉีดวัคซีนครบโดสและมีผลการตรวจ Swab ภายในระยะเวลาที่กำหนด ตลอดจนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาจะมาจากกลุ่มภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์และสมุยพลัสโมเดลก่อน เชื่อว่าจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มมากขึ้น โดยยึดแนวทางสร้างความสมดุลระหว่างการเฝ้าระวังความปลอดภัยสุขภาพอนามัย และการส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพื่อคนไทยทุกคน ตามเจตนารมณ์ของท่านนายกฯ ดังนั้น ขอให้ช่วยกันสร้างบรรยากาศที่ดีเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว และร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจเดินหน้าต่อไป.