• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Cindy700

#6241
น้ำมันว่านเศรษฐีเรียกลาภ  ขวดละ 299 บาท


หุงจากว่านด้านเมตตา โชคลาภ 4 ชนิด ว่านรวยไม่เลิก ว่านเศรษฐีเรือนนอก ว่านเศรษฐีเรือนใน ว่านรางเงิน

พร้อมใส่ตะกรุดหัวใจพระสีวลีให้ทุกขวด ส่งเสริม เรื่องเมตตา โชคลาภ ค้าขาย

ว่านเศรษฐีเรือนใน

เป็นว่านที่มีคุณทางเมตตามหานิยม มีโชคลาภและวาสนาทรัพย์สินเงินทองมากมาย

ว่านเศรษฐีเรือนนอก 

เป็นว่านให้ผลในทางคุ้มครองป้องกันภัย มีโชคลาภและฐานะเจริญรุ่งเรือง

ว่านรวยไม่เลิก

เป็นว่านให้ผล ในเรื่องความร่ำรวยตลอดไปเหมือนชื่อต้น มีโชคลาภ

ว่านรางเงิน 

เป็นว่านะดีเด่นในเรื่องของเมตตามหานิยม และโชคลาภ 

คาถาบูชา

ตั้ง นะโม 3 จบ

สีวะลี จะ มหาเถโร เทวะตานะระปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทา

สีวะลี จะ มหาเถโร ยักขาเทวาภิปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทา

สีวะลี เถระคุณัง เอตัง โสตถิ ลาภัง ภะวันตุ เมฯ

(ท่องคาถาแล้วอธิษฐาน)

ใช้เจิมตามซอกคอ ตามตัว ทาที่คิ้ว เจิมที่หน้าผาก พกติดตัว

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่

โทร. 0846623662

id line : teerapat999

ลาซาด้า

https://www.lazada.co.th/products/-i792070635-s1584866736.html?search=store?spm=a2o4m.10453683.0.0.10b96d16q6OJEJ&search=store

#6243


โฮมโปร ในฐานะผู้นำเรื่องบ้านครบวงจร TOTAL HOME SOLUTION รับมือกับภาวะวิกฤติ COVID-19 ปรับสินค้าตอบโจทย์ ในช่วงมาตรการล็อกดาวน์ รองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเรื่องบ้านที่ตอบสนองเรื่องความสะอาดภายในบ้านครบวงจร ตลอด 24 ชม. เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส เหมือนยกโฮมโปรมาไว้ที่บ้านคุณ

น.ส.เสาวณีย์ สิราริยกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มการตลาด บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ "โฮมโปร" เผยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันที่ทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการช่วยกันหยุดการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 และสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้โดยเร็วที่สุด จึงทำให้ต้องงดการเดินทางที่ไม่จำเป็น และอาจไม่สะดวกในการใช้ชีวิต โฮมโปรเข้าใจถึงปัญหาของลูกค้าทุกคน เห็นความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเราได้วางแผนตั้งรับสถานการณ์ดังกล่าวเอาไว้แล้ว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าเตรียมสินค้า เพื่อให้มีเพียงพอ เข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าที่เป็นกลุ่มผู้ประกอบการSME และลูกค้าทั่วไป จากการที่ เกิดความกังวลเรื่องการแพร่ระบาด ส่งผลให้ คนส่วนใหญ่ไม่ออกนอกบ้าน คนทำงานก็ทำงานที่บ้านมากขึ้น เราจึงคัดสรรสินค้าที่สนองตอบไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป สามารถช้อปเรื่องบ้าน ผ่านทุกช่องทางออนไลน์ของโฮมโปร เพื่อเอื้ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าตลอด 24 ชม.



"โฮมโปร ในฐานะผู้นำเรื่องบ้านครบวงจร TOTAL HOME SOLUTION ได้เตรียมรับมือกับปัญหาวิกฤติไวรัสโควิด 19 ( COVID-19 ) จึงได้เตรียมสต็อกสินค้าไว้รองรับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น โดยแบ่งกลุ่มสินค้าเป็น Stay Safe Stay Home อยู่บ้านให้ปลอดภัย กลุ่มสินค้าเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID -19 ของใช้ส่วนตัวที่ทุกคนต้องมี กระดาษอเนกประสงค์ , หน้ากากอนามัยการแพทย์ , เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ , ถุงมือยาง , สบู่เหลวล้างมือ, สเปรย์ทำความสะอาดฆ่าเชื้ออเนกประสงค์ , ตะกร้าผ้า , ผ้าขนหนู,อุปกรณ์จำเป็น ตู้ลิ้นชัก 4 ชั้น ,โต๊ะอเนกประสงค์เหลี่ยม , เก้าอี้พลาสติก , มุ้งชุดผ้าปูที่นอนหมอนข้าง, หมอนหนุน , ราวพาดผ้าสแตนเลสและเครื่องใช้ไฟฟ้า รางปลั๊กไฟ , พัดลมตั้งโต๊ะ , ตู้เย็น 1 ประตู , กาต้มน้ำไฟฟ้า , ไมโครเวฟ หม้อหุงข้าว , เครื่องซักผ้าฝาบน , เครื่องปิ้งขนมปัง



ทั้งนี้โฮมโปรพร้อมมอบประสบการณ์การซื้อของที่สะดวกสบาย และไร้รอยต่อให้แก่ลูกค้า ตอบโจทย์ทุกความต้องการ และทุกไลฟ์สไตล์จากที่บ้านตลอด 24 ชม. เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส เหมือนยกโฮมโปรมาไว้ที่บ้านคุณ บริการ CHAT SHOP4YOU เพียงทักมาเราช่วยช้อปแทนลูกค้า เหมือนมีผู้ช่วยส่วนตัว ทั้งยังช่วยเอื้ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า เพียง สั่ง > จ่าย > ส่ง แค่ 3 ขั้นตอนง่ายๆ สั่งได้ที่ช่องทาง Line @HomePro,Facebook HomePro Thailand, จ่ายง่ายสะดวกหลากหลายช่องทางการชำระเงิน ผ่านเงินโอน / โอนเงิน / พร้อมเพย์ / อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง / คิวอาร์เครดิต / บัตรเครดิต /
เดบิตกับธนาคารชั้นนำ ช้อปออนไลน์สะดวก24 ชั่วโมงที่ www.homepro.co.th หรือดาวน์โหลด Mobile Application HomePro APP แอปเดียวครบ จบทุกเรื่องบ้าน โดยลูกค้าสามารถเลือก
ดูสินค้าเรื่องบ้านมากมาย ครบทุกหมวดหมู่ พร้อมโปรโมชั่นสุดคุ้ม จะเลือกรับด้วยตนเองที่สาขากับบริการ Click &Collect หรือบริการส่งถึงหน้าบ้าน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบัน เราพร้อมให้บริการด้วยมาตรฐานความปลอดภัยอย่างเต็มกำลัง
#6245



อีกหนึ่งโครงการของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิเพื่อชุมชน โดยพัฒนาผลิตผลในพื้นที่ช่วยเกษตรกรแก้ปัญหาเรื่องผลผลิตราคาตกต่ำ

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิจิตรา เหลียวตระกูล อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหารคณะเทคโนโลยีการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ (มทร.สุวรรณภูมิ) หัวหน้าโครงการหมู่บ้านต้นแบบการสร้างมูลค่าเพิ่มกล้วยหอมเขียวคาเวนดิช เปิดเผยว่า ตนพร้อมคณะทำงาน ได้ลงพื้นที่สำรวจบริบทกลุ่มเกษตรกรพื้นที่ตำบลโพประจักษ์ และตำบลถอนสมอ อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี มีการเพาะปลูกกล้วยหอมเขียวคาเวนดิช พบปัญหาผลผลิตเกินความต้องการของผู้บริโภคภายในประเทศ มีกล้วยตกเกรดจำนวนมาก อีกทั้งราคาของกล้วยหอมสดยังตกต่ำ ทำให้เกษตรกรมีภาวะหนี้สินครัวเรือน นั้น



ทำให้ทีมงานวิจัยเกิดแผนงานภายใต้โครงการบ่มเพาะหมู่บ้านวิทยาศาสตร์ (ชื่อเดิม) ในการสร้างมูลค่าเพิ่มกล้วยหอมเขียวคาเวนดิชตกเกรด ด้วยการแปรรูป ที่มุ่งเน้นการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านนวัตกรรมอาหารเข้ามาประยุกต์ใช้ ส่งผลให้ มีการรวมกลุ่มกันแปรรูปกล้วยหอมเขียว เพื่อจำหน่าย ถนอมอาหาร เพิ่มมูลค่าให้แก่ผลผลิตทางการเกษตร  และ นำไปสู่การสร้างงาน สร้างรายได้ ลดอัตราการว่างงานในชุนชน กระตุ้นเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชน



ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิจิตรา กล่าวว่า ปกติเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยหอมเขียวเดิมขายกล้วยหอมเขียวตกเกรด ในราคา 3 บาท/กิโลกรัม ปัจจุบันมีราคากลาง 9 บาท/กิโลกรัม เพิ่มขึ้น 3 เท่าโดยมีกลุ่มแปรรูปมารับซื้อ  และมียอดจำหน่ายแป้งกล้วยหอมเขียวเพิ่มขึ้นประมาณ 30-50 กิโลกรัม/เดือน ส่วนผลิตภัณฑ์แปรรูปอื่น ๆ จากกล้วยหอมเขียว ในปี พ.ศ. 2563 เกษตรกรมีรายได้ของกลุ่มเพิ่มขึ้น มูลค่าประมาณ 15,000 บาท/เดือน
#6246



นายอุทัย  อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฎิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาฯ เมืองท่องเที่ยวยังมีดีมานต์ความต้องการในโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้จริง พิสูจน์จากความสำเร็จในการ Sold out ปิดการขายโครงการ "1517 NIMMAN" (1517 นิมมาน) เชียงใหม่ จากความโดดเด่นของโครงการ ดีไซน์การออกแบบ สุดยอดทำเลที่ตั้งไข่แดงใจกลางย่านนิมมานฯ ราคาและศักยภาพโครงการที่ลูกค้าเชื่อมั่น ให้การตอบรับเพื่อลงทุนในอนาคต โดยโครงการ 1517 นิมมาน เป็น Co - Business I Living Space พื้นที่ที่รวมธุรกิจ และการอยู่อาศัยเป็นหนึ่งเดียว ราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท บนพื้นที่ขนาด 2 ไร่ จำนวน 23 ยูนิต


บนสุดยอดทำเลไข่แดงใจกลางย่านนิมมานเหมินท์ จังหวัดเชียงใหม่ ที่นับเป็นย่านศูนย์รวมธุรกิจและไลฟ์สไตล์ ที่มีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ คาเฟ่ บูทีคโฮเทล รวมถึงยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับโลกและแหล่งเศรษฐกิจที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจในแง่การลงทุนและการมองหาบ้านหลังที่สองในไทยที่มีความปลอดภัยและมีระบบสาธารณสุขที่ดี โดยเฉพาะชาวจีน และตอบโจทย์ผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอี ที่มองหาโลเคชั่นศักยภาพในราคาที่เข้าถึงได้เพื่อประกอบธุรกิจและ ผู้ที่ต้องการอยู่อาศัยเองในย่านชั้นนำของเชียงใหม่ ตลอดจนกลุ่มผู้ลงทุนทั้งภาคเหนือ และกรุงเทพฯ ที่มีความมั่นใจในเรื่องทำเลและผลตอบแทนการลงทุนที่คุ้มค่าและมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี โดยมีอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า หรือ Yield สูงถึง 6 - 7% ต่อปี เทียบจากอัตราค่าเช่าอาคารพาณิชย์ในย่านนิมมานฯ ในปี 2564 ซึ่งมาจากความเชื่อมั่นจากสัญญาณการฟื้นตัวของตลาดเมืองท่องเที่ยวและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจังหวัดเชียงใหม่ ที่คาดว่าจะกลับมาในเร็วๆ นี้ ส่งผลให้ทำเลย่านถนนนิมมานฯ มีแนวโน้มราคาอสังหาฯ เติบโตพุ่งสูงขึ้นในทุกๆ ปี และส่งผลให้โครงการ 1517 นิมมาน Sold out ปิดการขายอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เปิดตัวโครงการได้เพียง 3 สัปดาห์เท่านั้น ตอกย้ำผู้นำอสังหาฯ รายใหญ่ในตลาดเชียงใหม่ หลังจากประสบความสำเร็จในปีที่ผ่านมาจากการปิดการขาย Sold out รวดทั้งดีคอนโด ริน และ ดีคอนโด พิงค์ รวมถึงการพัฒนาทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยวมาแล้วกว่า 10 โครงการในจังหวัดเชียงใหม่ สร้างยอดขายแนวราบล่าสุดเป็น 13,300 ล้านบาท หรือคิดเป็นเกือบ 70% จากเป้ายอดขายแนวราบ 20,000 ล้านบาท พร้อมแผนการรุกตลาดเชียงใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ในปี 2565


ขณะที่ตลาดท่องเที่ยวในภูเก็ต มีทิศทางที่ดีจากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในโมเดล "ภูเก็ต แซนด์บ๊อกซ์" ทำให้ตลาดเริ่มกลับมาคึกคัก โดยล่าสุดมีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมรวม 9,358 คน สร้างรายได้ 534 ล้านบาท ขณะที่ภาคเอกชนในธุรกิจต่างๆ ก็เร่งพลิกฟื้นธุรกิจภายหลังจากที่ประเทศต้องฝ่าวิกฤตโควิด–19 มามากกว่า 1 ปี ภาคธุรกิจโรงแรมเดินหน้าต่อ พนักงานเอกชนเริ่มมีรายได้กลับมา 100% และความต้องการที่อยู่อาศัยเริ่มฟื้นตัว ยังรวมถึงสัญญาณที่ดีจากเมืองท่องเที่ยวในจังหวัดอื่นๆ อาทิ พัทยา ที่เริ่มเดินหน้าโครงการ "พัทยา มูฟ ออน" เปิดรับนักท่องเที่ยวจากประเทศพื้นที่สีเขียว 61 ประเทศ วันที่ 1 กันยายนนี้ และ "หัวหิน แซนด์บ็อกซ์" ที่ดีเดย์เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติวันที่ 1 ตุลาคมนี้

แสนสิริมองถึงทิศทางข้างหน้า ที่ต้องปรับตัวให้เร็ว รองรับความต้องการลูกค้าและการกลับมาของตลาดก่อนการเปิดประเทศและเศรษฐกิจเริ่มฟื้น เพื่อพร้อมวิ่งก่อนใคร ภายใต้ "ความพร้อมในการปรับแผนรองรับในทุกสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา" โดยบริษัทมีแผนรองรับดีมานต์ที่อยู่อาศัยในตลาดต่างจังหวัด อาทิ  

ช่วงเวลาที่ดีในการซื้อที่อยู่อาศัย  #โปรSAVEทั้งเกาะ

ขณะที่กลยุทธ์ในการรุกตลาดภูเก็ต รองรับ "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ หมดห่วงเรื่องผ่อน สบายใจเรื่องกู้ เข้าอยู่แบบมีเงินติดกระเป๋า กับ แพ็คเกจโปรโมชันพิเศษ ที่พร้อมเซฟคนภูเก็ตทุกทาง   #โปรSAVEทั้งเกาะ  2 โครงการบ้านและทาวน์โฮมภูเก็ต อณาสิริ ป่าคลอก โครงการใหม่ล่าสุดจากแสนสิริ ในทำเลศักยภาพใหม่และแบบบ้านใหม่ สไตล์ European Cottage ฟังก์ชันครบ 4 ห้องนอน 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 5 - 8 ล้านบาท และ สิริ เพลส แอร์พอร์ต ทาวน์โฮม สไตล์ LOFT ใกล้สนามบินและหาดไม้ขาว ราคาเริ่มต้น 1.99 - 3 ล้านบาท ไม่ต้องผ่อนสูงสุดถึง 12 เดือน พร้อมเงินติดกระเป๋าสำหรับการแต่งบ้านให้อีกสูงสุด 300,000 บาท* แถมโปรพิเศษ อีก 3 ต่อ* รับแพ็คเกจช่วยโอน* ค่าส่วนกลาง* ค่าจดจำนอง*

ขณะที่เดอะ เบส เซ็นทรัล – ภูเก็ต คอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมโอน ที่มียอดโอนไปแล้วกว่า 80% สวยงามด้วยกลิ่นอายการออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมเพอรานากันแห่งภูเก็ต จองเพียง 999 บาท* ไม่ต้องผ่อน อยู่ฟรี 1 ปี ได้คืนสูงสุดถึง 350,000 บาท* มีเงินนำไปแต่งห้อง ทำธุรกิจ หรือเก็บเป็นเงินสำรอง ได้ตามใจคุณ เป็นเจ้าของห้องวิวดี ยูนิตสวยได้ง่ายๆ ในราคาเริ่มเพียง 2.09 ล้าน* ฟรีเฟอร์นิเจอร์ครบเซ็ตและเครื่องใช้ไฟฟ้า*

สำหรับโครงการ "ลา ฮาบานา" (La Habana) หัวหิน คอนโดมิเนียมตากอากาศสุดชิค พร้อมเข้าอยู่ สีสันใหม่ใจกลางหัวหิน ที่ประสบความสำเร็จด้วยยอดขายโครงการไปแล้วถึง 80% จากความเชื่อมั่นในแบรนด์แสนสิริในทำเลหัวหิน มีโปรโมชั่นที่ช่วยให้ลูกค้าเป็นเจ้าของโครงการได้ง่ายขึ้น ในราคาเริ่มต้นเพียง 2.39 ล้านบาท ฟรีโอนและค่าส่วนกลาง 10 ปี ฟรีเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า นอกจากนี้แสนสิริยังเตรียมโอน EDGE Central Pattaya (เอดจ์ เซ็นทรัล – พัทยา) คอนโดไลฟ์สไตล์สุดพีคใจกลางพัทยา ดีไซน์โดดเด่นในธีม ดิน น้ำ ลม ไฟ แต่งให้ครบ ฟรีเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า เริ่ม 3.99 ล้านบาท* ในวันที่ 4 - 5 กันยายนนี้ ตอกย้ำความมั่นใจถึงดีมานต์การเปิดตัวโครงการใหม่ในอนาคตอีกด้วย


"แสนสิริมองว่าตลาดอสังหาฯ เมืองท่องเที่ยวยังมีดีมานต์ในที่อยู่อาศัยคุณภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการได้จริง ทั้งนี้จากแบรนด์ที่แข็งแกร่งของแสนสิริในตลาดต่างจังหวัดและความเชื่อมั่นของลูกค้า ทั้งในด้านทำเลที่ตั้งโครงการ ดีไซน์ที่โดดเด่น ราคาที่เข้าถึงง่าย สะท้อนความเชื่อมั่นในการเป็น "แบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน" ด้วยมาตรฐานการออกแบบและคุณภาพโครงการ ตลอดจนบริการหลังการขายหรือ Sansiri Service ที่สามารถครองใจผู้บริโภค จากการเป็นผู้นำด้านการบริการในที่อยู่อาศัยและความมั่นใจสูงสุดด้านความปลอดภัย จึงเชื่อมั่นว่ากลุ่มลูกค้าเมืองท่องเที่ยวยังคงให้ความเชื่อมั่นแสนสิริในการเปิดโครงการในอนาคต

นอกจากนี้ แสนสิริยังให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้าสูงสุด ทั้งความมั่นใจ ปลอดภัย และอุ่นใจในการเข้าเยี่ยมชมโครงการภายใต้มาตรการดูแลความสะอาดและนวัตกรรมความปลอดภัยสูงสุดในทุกสำนักงานขายคอนโดฯ บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม หรือเลือกซื้อและจองโครงการแบบออนไลน์ได้ทุกช่องทางกับ Sansiri Multi-Channel ครบทุกช่องทาง


ตั้งแต่การเลือกซื้อและเยี่ยมชมโครงการง่ายแค่ปลายนิ้ว ด้วย "Sansiri Virtual Sales Gallery" เยี่ยมชมโครงการเสมือนจริงแบบ Online บน www.sansiri.com ได้ทุกที่ ทุกเวลาที่สะดวก ในรูปแบบ PRIVATE TOUR ชมบรรยากาศแบบ 360 องศา พร้อมพนักงานที่คอยแนะนำโครงการและตอบทุกคำถามเหมือนมาเยี่ยมชมโครงการจริงด้วยตัวคุณเอง ชมโครงการได้ทั้งบนมือถือ, คอมพิวเตอร์, แท็บเล็ต ทุกที่ทุกเวลาที่สะดวก พร้อมแชร์ VIRTUAL TOUR ชมโครงการไปพร้อมกับครอบครัวหรือเพื่อนได้แบบ REAL TIME แม้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน นอกจากนี้ยังสามารถจองคอนโดออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน 24 Hrs. Online Booking  

เกาะติดทุกข่าวสารที่ www.sansiri.com สนใจโครงการไหน แชทคุยได้ตลอดที่ แสนสิริ ไลน์ ออฟฟิเชียล @Sansiriplc, หรือ Inbox ผ่านเฟซบุค Sansiri PLC. รวมถึง อยากรู้เรื่องไหน แสนสิริพร้อมดูแล ที่โทร. 1685 หรือเลือกนัดหมายเยี่ยมชมโครงการแบบ "Private Tour" เฉพาะครอบครัวคุณได้ที่โครงการที่ให้ความเชื่อมั่นด้วย "WE ARE VACCINATED" ทีมงานแสนสิริทุกคน รวมทั้งพนักงานขาย แม่บ้าน พนักงานรักษาความปลอดภัย ฯลฯ ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว พร้อมการเดินหน้าช่วยประเทศไทยฝ่าวิกฤติ COVID-19 ก้าวไปพร้อมกันด้วย "แสนสิริและสังคม..คนละครึ่ง" ภายใต้ "Sansiri Care...เพราะเราห่วงใย" ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญ ภายใต้ความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือสังคมของแสนสิริในปีนี้" นายอุทัย กล่าว
#6247
ราคาดีมากกก!!!!!!!!
#6249



ทีมเงือกสาว จีน ทำลายสถิติโลก การแข่งขันผลัดฟรีสไตล์ 4x200 เมตร คว้าเหรียญทอง โอลิมปิก 2020 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม

สมาชิกทีมว่ายผลัด 4x200 เมตรของ จีน ได้แก่ หยาง จุน ซวน, จาง ยู่ เฟย, หลี่ ปิงเจี๋ย และ ตัง มู่หาน แตะขอบสระทีมแรก เวลา 7 นาที 40.33 วินาที ตามด้วยอันดับ 2 สหรัฐอเมริกา 7 นาที 40.73 วินาที และอันดับ 3 ออสเตรเลีย 7 นาที 41.29 วินาที

ทั้ง 3 ทีม ต่างทำเวลาต่ำกว่าสถิติโลกเดิม 7 นาที 41.50 วินาที ของ ออสเตรเลีย ซึ่งสร้างไว้ในการแข่งขันชิงแชมป์โลก เมื่อปี 2019
#6251
สนใจเชิญให้เข้าร่วมกลุ่ม Line "บ้านที่ดิน HouseLand" เพื่อรับการอัพเดทที่ดิน
https://bit.ly/3xFTxOS

โปรดติดต่อทีมงาน 88
ติดต่อคุณชัย 88
โทร. 0918849203
LINE ID : @614skoug
เว็บบ้านที่ดิน  www.housetheland.com ที่ดินบ้านสวนคลอง14 ชุดพิเศษ 10แปลง ที่ดินองครักษ์ นครนายก ที่สวยติดธรรมชาติ EP1

กดไลค์กดแชร์ กดติดตาม คือ Property บ้านที่ดิน HouseLand
https://www.youtube.com/channel/UCIz5DVj6igFVHKPUqY-Z4RA

บ้านที่ดิน HouseLand อสังหาครบวงจร
https://www.facebook.com/HouseTheLand
#6252


หลักสูตรออนไลน์ Quick MBA For SMEs โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชวนหาทางแก้วิกฤติพิชิต COVID-19 ถอดบทเรียนการฝ่าความยากลำบากของผู้ประกอบการ โดย จรัญพจน์ รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด(มหาชน) ที่เข้ามารับตำแหน่งแม่ทัพองค์กรเพียง 1 เดือน ต้องเจอกับการรับน้องเผชิญโรคระบาดรุนแรงรอบร้อยปีทันที การแพร่กระจายของเชื้อโรคเป็นวงกว้าง ทำให้รัฐต้อง "ล็อกดาวน์" ระยะหนึ่ง กระทบการขายสินค้าของบริษัทอย่างมาก เพราะธุรกิจหลักทั้งอาหาร ร้านอาหาร 10 สาขา ล้วนพึ่งพาหน้าร้านผ่านห้างค้าปลีก

บททดสอบผู้นำ ยังถาโถมเข้ามา เมื่อเกิดโรครบาดในหมู 2 โรคเข้ามาพร้อมกันทำให้บริษัทต้องงัดมาตการดูแลพนักงานอย่างเข้มข้น ให้กินอยู่ที่โรงงาน ฟาร์มทันที เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อโรค

 นอกจากนี้ มาตรการรัฐทั้งโครงการคนละครึ่ง เราชนะ ที่ผันเงินเข้าระบบเศรษฐกิจผ่านร้านธงฟ้า ร้านค้าทั่วไป แม้ภาพรวมเห็นด้วยและเป็นกลไกกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่กระทบยอดขายร้านอาหาร และยอดขายในห้าง ทำให้ธุรกิจหลักของบริษัทต้องประสบปัญหา "ขาดทุน" เป็นบางเดือน กระเทือน "วิกฤติศรัทธา" ของคนในองค์กรต่อตนเอง

ล่าสุด โรงงานสารเคมีระเบิด ที่ห่างโรงงานของบริษัทเพียง 1.8 กิโลเมตร(กม.) ล้วนส่งผลกระทบต่อการทำงานทั้งสิ้น กลายเป็นสิ่งที่จะพิสูจน์การนำทัพองค์กร จะฝ่าภารกิจสุดหินให้ผ่านไปได้โดยเร็ว

"นอกจากโรคระบาดที่เกิดรุนแรงสุดรอบร้อยปี ซึ่งไม่เคยเจอมาก่อน โรงงานสารเคมีระเบิด เป็นสิ่งที่กดดันมาก รวมถึงสิ่งที่คนของ ส.ขอนแก่นไม่คุ้นหูคือคำว่า ขาดทุน เพราะเราอยู่ในธุรกิจที่ทำกำไรมาตลอด ธุรกิจหลักๆไม่เคยขาดทุน แต่พอเจอวิกฤติเราประสบปัญหาขาดทุน 1-2 เดือน จึงไม่ใช่แค่เจอวิกฤติธุรกิจแต่ส่วนตัวเจอวิกฤติศรัทธา ทุกคนห่วงจะรอดไหม เพราะสถานการณ์หนักมาก"

ทั้งนี้ ส.ขอนแก่น มีฟาร์ม 1 แห่ง โรงงาน 4 แห่ง ร้านอาหาร 10 สาขา และอสังหาริมทรัพย์ รวมมีพนักงานร่วม 2,000 ชีวิต ในการฝ่าวิกฤติ "ทีมงาน" เป็นหัวใจสำคัญมาก โดยทุกฝ่ายทำแผนการดำเนินงานต่อเนื่อง (BCP) 6 แผน รองรับการทำงานภายใต้สถานการณ์ต่างๆ ทีมการตลาดระดมสมองจัดแคมเปญที่จะพลิกกำไรให้บริษัท ฝ่ายผลิตหากไม่สามารถบรรจุสินค้าได้ ทีมงานต่างๆพร้อมไปเป็นกำลังเสริมช่วยเต็มที่ ทีมงานร้านอาหารหาซัพพลายเออร์จากทั่วโลก รองรับความเสี่ยงกรณีซัพพลายเออร์ในประเทศส่งวัตถุดิบให้ไม่ได้ เป็นต้น

การมีทีมงานแกร่ง พร้อมร่วมหัวจมท้าย และลุยแก้ไขปัญหา ทำให้สถานการณ์ยอดขายฟื้นตัวกลับมาในทิศทางที่ดีในระยะสั้น ส่วนระยะยาว จรัญพจน์ ตีโจทย์ธุรกิจอาหารกำลังอยู่ในสถานการณ์โกลาหล เพราะคู่แข่งทางตรงมีมาก ส่วนคู่แข่งหน้าใหม่ตบเท้าเข้ามาแบ่งเค้กมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เดาทางอนาคตลำยาก แต่ธุรกิจต้องอยู่รอด การปรับตัวเพื่อให้ยืนหยัดในวงการได้ บริษัทให้ความสำคัญกับการเป็นเจ้าของสินทรัพย์น้อยลง(Asset Light)มุ่งจับมือพันธมิตรเพื่อให้เกิดซีนเนอร์ยี โมเดลธุรกิจใหม่ เพื่อบุกตลาด และตัดตัวกลางในธุรกิจมากขึ้น

"อนาคตธุรกิจอาหารเดาทางยากจะแข่งกับใคร เพราะมีสตาร์ทอัพหน้าใหม่ พร้อมตัดตัวกลาง มีแอ๊พพลิเคชั่นต่างๆ คลาวด์คิทเช่น เกิดขึ้น สถานีบริการน้ำมันอยากทำอาหาร กลายเป็นสมรภูมิที่ผู้ประกอบการทุกคนมาบรรจบกันทำตลาดจริง"

อีกตัวแปรที่กระทบผู้ประกอบการ คือ "กำลังซื้อผู้บริโภคลดลง" แต่ความต้องการสินค้าดีมีคุณภาพมาเป็นอันดับแรก ทำให้บริษัทต้องหันกลับมามองสมรรถนะของตัวเอง ปรับกระบวนการภายใน หาทางผลิตสินค้าที่มีคุณภาพดี ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นแต่ "ราคาต่ำลง" ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายให้ได้

นอกจากนี้ เพื่อลดความเสี่ยง เพิ่มโอกาสขาย บริษัทจะบุกช่องทางจำหน่ายร้านธงฟ้า ที่มีราว 1-4 แสนราย เพื่อกระจายสินค้าถึงกลุ่มเป้าหมาย การจับมือพันธมิตรปั๊มน้ำมัน เพื่อขายสินค้า ส่วนการช่องทางออนไลน์จะเน้นขยายพาร์ทเนอร์ ด้านร้านอาหารจะทำคลาวด์คิทเช่น ลดต้นทุน

 "เป็นความท้าทายของผู้ประกอบการ ทุกคนกำลังหนีตาย ยอมลดกำไรตัวเอง เพื่อให้แข่งขันได้ แต่หากต้องการอยู่รอด ต้องกลับมาดูสมรรถนะตัวเอง ทำของดีราคาถูกลง หาจุดแข็งสร้างความโดดเด่น ทำสินค้าให้ผู้บริโภคว้าว!ให้ได้"
#6253
ราคาดีมากกก!!!!!!!!
#6254
น้ำมันว่านเศรษฐีเรียกลาภ  ขวดละ 299 บาท


หุงจากว่านด้านเมตตา โชคลาภ 4 ชนิด ว่านรวยไม่เลิก ว่านเศรษฐีเรือนนอก ว่านเศรษฐีเรือนใน ว่านรางเงิน

พร้อมใส่ตะกรุดหัวใจพระสีวลีให้ทุกขวด ส่งเสริม เรื่องเมตตา โชคลาภ ค้าขาย

ว่านเศรษฐีเรือนใน

เป็นว่านที่มีคุณทางเมตตามหานิยม มีโชคลาภและวาสนาทรัพย์สินเงินทองมากมาย

ว่านเศรษฐีเรือนนอก 

เป็นว่านให้ผลในทางคุ้มครองป้องกันภัย มีโชคลาภและฐานะเจริญรุ่งเรือง

ว่านรวยไม่เลิก

เป็นว่านให้ผล ในเรื่องความร่ำรวยตลอดไปเหมือนชื่อต้น มีโชคลาภ

ว่านรางเงิน 

เป็นว่านะดีเด่นในเรื่องของเมตตามหานิยม และโชคลาภ 

คาถาบูชา

ตั้ง นะโม 3 จบ

สีวะลี จะ มหาเถโร เทวะตานะระปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทา

สีวะลี จะ มหาเถโร ยักขาเทวาภิปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทา

สีวะลี เถระคุณัง เอตัง โสตถิ ลาภัง ภะวันตุ เมฯ

(ท่องคาถาแล้วอธิษฐาน)

ใช้เจิมตามซอกคอ ตามตัว ทาที่คิ้ว เจิมที่หน้าผาก พกติดตัว

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่

โทร. 0846623662

id line : teerapat999

ลาซาด้า

https://www.lazada.co.th/products/-i792070635-s1584866736.html?search=store?spm=a2o4m.10453683.0.0.10b96d16q6OJEJ&search=store

#6255



ความไม่แน่นอนของดิน ฟ้า อากาศ ส่งผลให้เกษตรกรของไทยเสียโอกาสที่จะได้ผลผลิตแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย  รวมถึงผลตอบแทนที่ไม่คุ้มค่าจากแรงงานที่ลงทุน และยังส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมการเกษตรของไทยติดกับดักอยู่กับการทำเกษตรกรรมแบบดั้งเดิม ซึ่งการแก้ปัญหาความไม่แน่นอนหลาย ๆ ด้านที่เกษตรกรต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านฤดูกาล ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน หรือการใช้สารเคมีในภาคการเกษตรจะทำให้เกษตรกรมีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น


วันนี้ "เอ็นไอเอ" ได้จุดประกายความว้าวจาก 3 สตาร์ทอัพ ผู้พัฒนา "ดีพเทค" ด้านเกษตรกรรมที่สามารถช่วยพี่น้องเกษตรกรให้รอดพ้นจากสภาพปัญหาความไม่แน่นอน พร้อมเปิดมิติใหม่ทางนวัตกรรมที่จะช่วยให้อุตสาหกรรมหลักของประเทศก้าวไปสู่ทิศทางที่ดียิ่งขึ้น โดยเริ่มกันที่ ดร.มหิศร ว่องผาติ ประธานกรรมการ บริษัท เอชจี โรโบติกส์ จำกัด ผู้ริเริ่มโครงการระบบวิเคราะห์การเจริญเติบโตของอ้อยด้วยโดรนแบบ TAILSITTER เล่าว่า จากปัญหาผลผลิตตกต่ำของเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่พบว่า ในแต่ละปีเกษตรกรได้ผลผลิตจากการปลูกอ้อยต่ำมาก ทำให้ผลตอบแทนที่ได้ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน ซึ่งจากการเก็บข้อมูลจากเกษตรกรชาวไร่อ้อยพบว่าปัญหาที่ส่งผลให้ผลผลิตในแต่ละปีต่ำกว่าที่ควรจะเป็น คือเกษตรกรวางแผนการตัดอ้อยในระยะเวลาที่ไม่เหมาะสมทำให้ค่าน้ำตาลในต้นอ้อยต่ำกว่าค่ามาตรฐาน

จนเกษตรกรขายอ้อยได้ในราคาที่ต่ำกว่าต้นทุน รวมไปถึงการที่เกษตรกรไม่สามารถตรวจสอบจุดที่อ้อยล้มและไม่เจริญเติบโตได้ เนื่องจากการปลูกอ้อยแต่ละครั้งจะปลูกเป็นจำนวนหลายไร่ การใช้แรงงานคนในการตรวจสอบไม่สามารถทำได้อย่างทั่วถึง ส่งผลให้แต่ละปีเกษตรกรไร่อ้อยได้รับผลผลิตไม่มากพอ ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาที่เกษตรกรกำลังเผชิญ ทางบริษัทจึงได้ทำระบบการวิเคราะห์การเจริญเติบโตของอ้อยด้วยอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน เพื่อตรวจสอบปัญหาที่เกษตรไม่สามารถทำได้ด้วยตาเปล่า

 โดยการทำงานของระบบจะใช้การวิเคราะห์ข้อมูลจากภาพถ่ายโดยโดรน ซึ่งมีความละเอียดสูงทำให้สามารถวิเคราะห์ปัญหาที่ส่งผลให้อ้อยเจริญเติบโตได้ไม่ดีพอ รวมไปถึงตรวจหาบริเวณที่อ้อยล้มหรือไม่เจริญเติบโตเพื่อทำการปลูกทดแทน โดยปกติเกษตรกรจะไม่สามารถมองได้จากระดับสายตา เนื่องจากอ้อยที่โตแล้วจะสูงถึง 2-3 เมตร ดังนั้นการใช้ภาพถ่ายมุมสูงจากโดรนจึงสามารถแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้อย่างดี ทั้งนี้ ในปัจจุบันได้มีการทดลองใช้ระบบนี้ในพื้นที่จ.อุทัยธานี และจ.ขอนแก่น โดยมีพื้นที่ที่ใช้บริการเฉลี่ยแล้วกว่า 50,000 ไร่ และพบว่าเกษตรกรสามารถส่งอ้อยไปขายได้ราคาดีมากยิ่งขึ้น  โดยบริษัทคาดหวังว่าระบบนี้จะช่วยให้เกษตรกรรมเพาะปลูกอ้อยมีความแม่นยำ สามารถช่วยเพิ่มปริมาณของผลผลิตต่อพื้นที่ รวมไปถึงสามารถกะระยะเวลาในการตัดอ้อยได้อย่างเหมาะสม เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรชาวไร่อ้อยในประเทศไทยได้ดีมากยิ่งขึ้น


ต่อกันที่ นางสาวรัสรินทร์ ชินโชติธีรนันท์ ประธานกรรมการบริษัท  บริษัท ลิสเซินฟิลด์ จำกัด ผู้ริเริ่มระบบบริหารจัดการการเพาะปลูกข้าวแบบรวมกลุ่มด้วยดิจิทัลเทคโนโลยีและภาพถ่ายจากดาวเทียม กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของโครงการมาจากปัญหาของเกษตรกรที่ปลูกข้าวและมักจะได้ผลผลิตต่ำกว่าความเป็นจริง ซึ่งจากการเก็บข้อมูลทำให้เราพบว่า สภาพดินเป็นตัวแปรหลักในการสร้างผลผลิตที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นทางบริษัทจึงได้มีการวางแผนตรวจสอบสภาพดินผ่านระบบฟาร์ม AI ให้แก่เกษตรกรที่ทำนาข้าว โดยการเก็บตัวอย่างดินและนำมาวิเคราะห์ด้วยเทคโนโลยีเชิงลึก เพื่อหาว่าดินในที่นาแต่ละแปลงของเกษตรกรจะต้องปรุงดินอย่างไรให้เหมาะสม นอกจากการตรวจสภาพดินแล้ว ทางบริษัทได้มีการเก็บบันทึกข้อมูลพร้อมทั้งจัดทำโมเดล เพื่อทำการวิเคราะห์และพยากรณ์สภาพอากาศ ประเมินประสิทธิภาพการเจริญเติบโตแบบอัตโนมัติ วิเคราะห์ข้อมูลกรณีฝนทิ้งช่วงและปริมาณน้ำในดินจากน้ำฝน รวมไปถึงมีระบบการเตือนอัตโนมัติในพื้นที่ที่การเจริญเติบโตต่ำด้วยระบบ AI ซึ่งเทคโนโลยีที่นำมาใช้นั้นช่วยให้เกษตรมีข้อมูลมากพอสำหรับนำไปวางแผนเพราะปลูกข้าวได้อย่างเหมาะสมมากกว่าการคาดคะเนจากประสบการณ์ของตัวเกษตรกรเอง   


โดยปัจจุบันได้มีการทดลองใช้ระบบนี้กับเกษตรกรที่ปลูกข้าวในจังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีที่นาเข้าร่วมการทดสอบประมาณ 200 ไร่ มีทั้งเกษตรกรที่ทำนาข้าวแบบดั้งเดิม และเกษตรกรที่ทำนาข้าวแบบอินทรีย์  เป้าหมายหลักในการทำโครงการครั้งนี้ทางบริษัทคาดหวังว่าจะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการกระบวนการทำนาข้าวให้แก่เกษตรกร ตั้งแต่การเริ่มต้นปลูกข้าวไปจนถึงการหาช่องทางการจำหน่ายใหม่ ๆ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ รวมไปถึงการลดค่าใช้จ่ายในกระบวนการเกษตรกรรมไม่ว่าจะเป็นการซื้อปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ข้าว สารเคมี ให้ได้ประมาณ 20 % จากรายจ่ายเดิมที่เกษตรกรต้องจ่าย สำหรับช่องทางในการเข้าถึงข้อมูลนั้น ผู้เพาะปลูกสามารถเข้าถึงได้ทางแอปพลิเคชันฟาร์มเอไอ-เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ นอกจากนี้ระบบยังมีการเก็บและรายงานข้อมูลผ่านบน Web Dashboard สำหรับให้วิสาหกิจชุมชน กลุ่มสหกรณ์ เกษตรจังหวัดได้เข้าไปไปใช้ข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับการปลูกข้าวเพื่อนำไปวางแผนในการเพิ่มผลผลิตและมูลค่าให้แก่เกษตรกรผู้ทำนาข้าวต่อไป


ปิดท้ายกันที่บริษัทสตาร์ทอัพ ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน ใบไม้-รีคัลท์ แอปพลิเคชันที่จะช่วยเกษตรกรจัดการกระบวนการเพาะปลูกอย่างครบวงจร โดยนายอุกฤษ อุณหเลขกะ กรรมการผู้จัดการบริษัท รีคัลท์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ตนเองและทีมต้องการเห็นเกษตรกรไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะจากการหาข้อมูลก่อนที่จะเริ่มทำสตาร์ทอัพ พบว่ามูลค่าการเกษตรในประเทศไทยสูงมาก และประเทศไทยมีคนประกอบอาชีพเกษตรกรรมมากกว่า 40% ของจำนวนประชากรทั้งหมด แต่ทำไมเกษตรกรยังคงมีรายได้ต่ำกว่าอาชีพอื่น ๆ ดังนั้นตนจึงอยากยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรด้วยเทคโนโลยีเหมือนในต่างประเทศ

โดยทางบริษัทจึงเริ่มต้นเก็บข้อมูล และศึกษาปัญหาที่เกษตรกรไทยจะต้องเผชิญทุกปี ซึ่งแน่นอนว่าปัญหาสภาพอากาศเป็นตัวแปรสำคัญในการทำเกษตรกรรม รวมไปถึงช่องทางในการเข้าถึงข้อมูลด้านการเกษตรที่มีอยู่อย่างจำกัด ดังนั้นจึงได้พัฒนาแอปพลิเคชัน ใบไม้-รีคัลท์ ขึ้นมา เพื่อช่วยเกษตรกรวางแผนการเพาะปลูกตั้งแต่ต้นทาง โดยเริ่มจากการเช็คปริมาณฝนซึ่งแอปฯสามารถคำนวณได้ล่วงหน้านานกว่า 9 เดือน  การวิเคราะห์ปัญหาที่เกษตรกรจะต้องเผชิญในแต่ละช่วงฤดู ไปจนถึงกระบวนการเก็บเกี่ยวและขายสินค้าทางการเกษตร โดยเกษตรกรสามารถบริหารจัดการกระบวนการทำการเกษตรผ่านแอปพลิคชันโดยไม่มีค่าใช้จ่าย  


นายอุกฤษ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันมีเกษตรกรเข้ามาใช้บริการแอปพลิคชันมากกว่า 4 แสนราย ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรที่ทำพืชไร่ เช่น นาข้าว ไร่อ้อย มันสำปะหลัง และจากการติดตามผลพบว่าระบบสามารถช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรได้มากขึ้นกว่า 30 % นอกจากนี้ระบบยังมีการเก็บข้อมูลของเกษตรกร และเชื่อมโยงข้อมูลกับโรงงานอุตสาหกรรม หรือธนาคาร เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้อย่างถูกกฎหมาย เกษตรกรไม่ต้องอาศัยการกู้เงินนอกระบบเพื่อมาลงทุน นอกจากนี้ ในอนาคตยังจะมีการขยายบริการด้านการเกษตรให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นการสั่งซื้อปุ๋ยผ่านแอปพลิเคชัน การเรียกใช้งานโดรนฉีดพ่น และช่องทางการจำหน่ายสินค้าในรูปแบบอีคอมเมิร์ซได้ด้วย