• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - kaidee20

#3141


แดเนียล จาง ประธานกรรมการและซีอีโอของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าวว่า อาลีบาบาเริ่มต้นปีงบประมาณนี้ด้วยไตรมาสแรกที่ดี โดยในไตรมาสเดือนมิถุนายน 2564 อีโคซิสเต็มทั้งหมดของอาลีบาบามีจำนวนลูกค้าประจำทั่วโลกแตะ 1,180 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้น 45 ล้านคนจากไตรมาสเดือนมีนาคม ในจำนวนนี้เป็นผู้บริโภคในจีน 912 ล้านคน ตลอดการดำเนินงานมามากกว่า 20 ปี อาลีบาบาได้พัฒนาธุรกิจออนไลน์ จนปัจจุบันครอบคลุมทั้งฝั่งผู้บริโภคและอุตสาหกรรม และมีกลไกมากมายที่ขับเคลื่อนการเติบโตในระยะยาว

"เราเชื่อมั่นในการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน และการสร้างคุณค่าในระยะยาวของอาลีบาบา เราจะเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมประสบการณ์ให้ผู้บริโภค และช่วยให้ลูกค้าองค์กรของเราประสบความสำเร็จในการปรับเปลี่ยนธุรกิจไปสู่ดิจิทัล"

แม็กกี้ วู ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าวว่า รายได้ของบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 34% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อย่างที่บริษัทเคยประกาศไว้ในการรายงานผลประกอบการไตรมาสที่แล้วว่ากำลังนำกำไรส่วนเกินและเงินทุนมาลงทุนเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนผู้ขาย และลงทุนในธุรกิจเชิงกลยุทธ์ของบริษัทเพื่อเจาะตลาดใหม่และให้บริการผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น

"เรากำลังเพิ่มวงเงินให้โครงการซื้อหุ้นคืน (Share repurchase) จากเดิม 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือเป็นโครงการซื้อหุ้นคืนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท เพราะเราเชื่อมั่นว่าอาลีบาบามีศักยภาพในการสร้างการเติบโตระยะยาว เรามีเงินสดสุทธิที่แข็งแกร่ง และตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 เราซื้อหุ้นคืนจากใบรับฝากหุ้นที่ออกโดยสถาบันการเงินในสหรัฐ (ADS) แล้วราว 3,700 ล้านเหรียญสหรัฐ"

ผลประกอบการประจำไตรมาส (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564) ชี้ว่าอาลีบาบาทำรายได้รวม 205,740 ล้านหยวน (ราว 1,053,311 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แต่หากไม่นับการรวมธุรกิจของ Sun Art แล้ว รายได้ของบริษัทเติบโตที่ 22% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อยู่ที่ 187,306 ล้านหยวน (ราว 958,936 ล้านบาท)

จำนวนลูกค้าประจำต่อปี (Annual active consumers) ในอีโคซิสเต็มของอาลีบาบาทั่วโลกในรอบ 12 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 อยู่ที่ประมาณ 1,180 ล้านคน เพิ่มขึ้น 45 ล้านคนเมื่อเทียบกับตัวเลขในรอบ 12 เดือน ในจำนวนนี้เป็นผู้บริโภคในจีน 912 ล้านคน และ 265 ล้านคนในต่างประเทศซึ่งให้บริการโดยลาซาด้า อาลีเอ็กซเพรส Trendyol และ Daraz

กำไรจากการดำเนินงาน (Income from operations) อยู่ที่ 30,847 ล้านหยวน (ราว 157,925 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีที่ปรับปรุงแล้ว (Adjusted EBITDA) และคำนวณแบบ non-GAAP เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อยู่ที่ 48,628 ล้านหยวน (ราว 248,957 ล้านบาท) กระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงาน (Net cash provided by operating activities) อยู่ที่ 33,603 ล้านหยวน (ราว 172,034 ล้านบาท)

อย่างไรก็ตาม กระแสเงินสดสุทธิที่คำนวณแบบ Non-GAAP (Non-GAAP free cash flow) อยู่ที่ 20,683 ล้านหยวน (ประมาณ 105,889 ล้านบาท) ลดลงเมื่อเทียบกับ 36,570 ล้านหยวนในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว โดยสาเหตุหลักมาจากการจ่ายค่าปรับบางส่วนเป็นจำนวนเงิน 9,114 ล้านหยวน (ราว 46,660 ล้านบาท) จากค่าปรับทั้งหมด 18,228 ล้านหยวน ตามคำสั่งของสำนักงานบริหารจัดการกฎระเบียบตลาดแห่งรัฐของจีน (ค่าปรับเพื่อต่อต้านการผูกขาดตลาด) และกำไรที่ลดลงเนื่องจากบริษัทนำเงินไปลงทุนในธุรกิจหลักเชิงกลยุทธ์
#3142












ขายที่ดินริมแม่น้ำ ติดแม่น้ำน่าน  ขนาดเนื้อที่ 1 ไร่ 5 ตร.ว มีพื้นที่ส่วนงอก 2 ไร่เศษ  ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา จ.น่าน ขายรวม 1 ล้านบาท  เอกสารสิทธิ์โฉนดครุฑแดง วิวภูเขาล้อมรอบติดแม่น้ำบรรยากาศดีธรรมชาติสมบูรณ์สุดๆ น้ำใสไกลรินชุ่มฉ่ำเย็นสบายตลอดปี   ติดทางสาธารณประโยชน์ รถยนต์ขับเข้าถึงที่ดิน ปลูกสวนพริก Super HoT เต็มพื้นที่  วิถีชาวบ้านชุมขน ไทลื้อ บ้านดอนมูล

โทร   083-712-4115
Line id : 0837124115
ปักหมุด
ใกล้ ตำบล ศรีภูมิ อำเภอ ท่าวังผา น่าน 55140
https://maps.app.goo.gl/GdSL12NMjDxiSGyr8

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=110400531057490&id=100062626307647
#3143
บริการให้เช่ารถไม่ใช้บัตรเครดิต
รถดี สะอาด ง่าย ถูก คุ้มค่า
 
700-1200 บาทต่อวัน

วีออส ยาริส  ซิตี้  อัลเมร่า แคมรี่  อัลติส ซีวิค กระบะมิตซูไททั้น  ตู้Volkswagen
รับรถจุดบริการ แยกแคราย ใกล้สถาบันโรคทรวงอก  
ส่งถึงที่ ค่าส่งเริ่มที่ 500 แล้วแต่ระยะทาง 
ราคาขึ้นอยู่กับรุ่นและจำนวนวันที่เช่า 
เช่าหลายวันยิ่งได้ส่วนลด 
รถเล็กทั่วไปเช่นวีออส ยาริส อัลเมร่า ซิตี้ 

Deposit เงินประกัน 5,000 ได้คืนตอนคืนรถ 4,000  เก็บตรวจสอบค่าจราจร 1,000  ครบ 30 วัน คืนหากมีใบสั่งปรับตามจริง

ประกัน ‭4000‬ บาท 
จอง/แจ้งเช่า 087-048-6085‬ 
สำเนาเอกสารที่ใช้
ทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน
ใบขับขี่ สลิปอื่นๆ
โทร 087-048-6085 คนคุมรถ , 
0837124115  ,  
086-521-3573 

Line id : 0837124115
www.รถเช่าดี.com
#3144


เกาะติดธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค คุมเข้มบริหารซัพพลายเชน หวั่นโควิด ทำธุรกิจสะดุด พร้อมงัดแผนงานต่อเนื่อง รองรับวิกฤติ 'ไอ.ซี.ซี.ฯ' เครือสหพัฒน์ เผยโรคระบาดลากยาวฉุดยอดขาย ไร้วี่แววจุดต่ำสุดอยู่ตรงไหน ต้องปรับกำลังการผลิตให้สอดคล้องดีมานด์ ห่วงกลางน้ำ กระเทือนขนส่งกระจายสินค้า 'เบทาโกร' ตั้งวอร์รูม ดูแลสุขอนามัยพนักงานใกล้ชิด 'ส.ขอนแก่นฟู้ดส์' วาง 6 แผนงานต่อเนื่อง รับมือวิกฤติ 

นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ และประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(มหาชน)ในเครือสหพัฒน์ เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้รัฐต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด ปัจจัยเหล่านี้กระทบต่อห่วงโซ่การผลิตสินค้าหรือซัพพลายเชนอย่างมาก แต่สิ่งที่ต่างกันคือปีนี้ผู้ติดเชื้อตัวเลขพุ่งสูงขึ้น ผลกระทบเกิดยาวนาน เทียบปีก่อนล็อกดาวน์ 3 เดือน ตัวเลขติดเชื้อน้อย ทำให้การผลิตและจำหน่ายสินค้ามีช่วงฟื้นตัวเดือนสิงหาคมและปลายปี

ทั้งนี้ ตราบที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสสูงขึ้น การบริหารจัดการซัพพลายเชนของบริษัทต้องเข้มข้นอย่างมาก เนื่องจากเครือสหพัฒน์มีบริษัทที่ทำงานภายใต้ห่วงโซ่การผลิตจำนวนมาก เฉพาะบริษัท ไอ.ซี.ซี.ฯ มี 7 กลุ่มบริษัทที่ผลิตสินค้าให้ เช่น บริษัท ธนูลักษ์, บริษัท ประชาอาภรณ์, บริษัท ไลอ้อนฯ, บริษัท ไทยวาโก้ เป็นต้น ซึ่งครอบคลุมทั้งเสื้อผ้าแฟชั่น สินค้าอุปโภค แบรนด์ เอสเซ้นส์ ฯ

สำหรับทั้ง 7 กลุ่มบริษัทเกี่ยวข้องพนักงานหลัก "หมื่นราย" เช่น ไทยวาโก้ พนักงานกว่า 4,000 คน, ไอ.ซี.ซี.ฯ พนักงานทุกส่วนรวมถึงหน้าร้านกว่า 5,000 คน ส่วนโรงงานอื่นมีพนักงาน 1,000 คน และ 800 คนบ้าง ดังนั้นจึงต้องมีมาตรการดูแลด้านสุขอนามัยตามที่หน่วยงานสาธารณสุขให้คำแนะนำอย่างเข้มข้น

ด้านผลกระทบห่วงโซ่การผลิตเกิดขึ้แตกต่างกัน โดยปลายน้ำ หรือหน้าร้านขายสินค้า การล็อกดาวน์ทำให้ยอดขายหดตัวอย่างรุนแรง ปัจจุบันยังคาดการณ์ยากว่า "จุดต่ำสุด" อยู่ตรงไหน ทำให้บริษัทต้องปรับใช้กำลังการผลิตซึ่งเป็นต้นน้ำให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค เพื่อไม่ให้กระทบปริมาณสินค้าคงเหลือหรือสต๊อกมากจนเกินไป

"หน้าร้านกระทบ เพราะยอดขายดิ่ง จะไปถึงไหนมองไม่ออกจริงๆ ไม่เห็นก้นเหว แต่หน้าที่เราต้องหาทางทำให้ธุรกิจรอด มีเงินจ่ายพนักงาน เมื่อยอดขายตก บริษัทจึงปรับตัวด้านการใช้กำลังการผลิต ผลิตสินค้าให้เหมาะสมกับการขาย เบรกต้นน้ำ ซึ่งทำมาระยะหนึ่งแล้วในการบริหารจัดการซัพพลายเชนได้ค่อนข้างทันเวลา ทำให้ปริมาณสต๊อกมีเพียงเล็กน้อย เมื่อคลายล็อกดาวน์ เปิดร้านได้เชื่อว่าจะกระจายสินค้าได้หมดใน 1-2 สัปดาห์"

ทั้งนี้ สิ่งที่น่าเป็นห่วงสุดคือการขนส่งและกระจายสินค้า เพราะหากเกิดมีผู้ติดเชื้อ อาจส่งผลกระทบสินค้าถึงมือผู้บริโภคต้องชะงักลง เหมือนกับผู้ประกอบการโลจิสติกส์บางรายเผชิญ และสร้างความเสียหายมูลค่ามหาศาล โดยซัพพลายเชนด้านกลางน้ำของไอ.ซี.ซี.ฯ มีการใช้บริการคลังสินค้าของไทเกอร์ ดิสทริบิวชั่น แอนด์ โลจิสติคส์ ของเครือสหพัฒน์ ซึ่งมีพนักงานราว 200 คน และเพิ่มมาตรการดูแลด้านสุขอนามัยให้พนักงานอย่างเข้มข้น ขณะเดียวกันบริษัทยังใช้การส่งสินค้าจากพันธมิตรอื่นๆด้วย

นอกจากนี้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านธุรกิจ บริษัทจึงทำแผนความต่อเนื่องของธุรกิจ(Business Continuity Plan:BCP)หากเกิดกรณีไม่มีผู้ติดเชื้อ พนักงานออฟฟิศต้องทำงานที่บ้าน ทีมงานสินค้า ทีมงานขาย ทีมหลังบ้าน เช่น บัญชีต่างๆ มีกระบวนการทำงานรองรับแตกต่างกันไป ส่วนคลังสินค้าหากต้องปิดให้บริการ จะต้องย้ายสินค้าออก แล้วทำการฉีดยาฆ่าเชื้อไวรัส แล้วย้ายสินค้ากลับมา หรือต้องย้ายสินค้าไปยังคลังสินค้าของโรงงานในห่วงโซ่การผลิตแต่ละแห่ง ซึ่งคลังเดิมยังไม่มีระบบ เทคโนโลยี ฟังก์ชั่นการหยิบจับสินค้าให้สอดคล้องกับอีคอมเมิร์ซ

ที่ผ่านมา บริษัทมีอุปสรรคในการส่งสินค้าถึงผู้บริโภคล่าช้าบ้าง จากเดิมส่งภายใน 1 วัน ขยายเป็น 2-3 วัน อย่างไรก็ตาม หากเกิดกรณีเช่นบางบริษัทที่คลังหรือศูนย์กระจายสินค้ามีผู้ติดเชื้อโควิด จนเกิดวิกฤติส่งสินค้า มองว่าการแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้นเร็วภายใน 1-3 วันได้

"หากเกิดวิกฤติการส่งสินค้า คาดว่าใช้เวลาไม่นานก็แก้ไขได้ อาจจะ 3 วัน หรือบางกรณี 1 วัน ยุติปัญหาได้"

นายธรรมรัตน์ กล่าวอีกว่า ห่วงโซ่การผลิตส่วนปลายน้ำหรือหน้าร้านถูกปิด แต่บริษัทปรับตัวลุยทำตลาดออนไลน์ ซึ่งปีนี้คาดว่ายังสร้างยอดขายเติบโตกว่า 100% ต่อเนื่อง แต่ยอมรับว่าพฤติกรรมผู้บริโภคในการช้อปออนไลน์ไม่หวือหวา คึกคักเหมือนโควิดระบาดครั้งแรก ประกอบกับปัจจุบันกำลังซื้อกลุ่มเป้าหมายลดลงอย่างมาก

นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ เครือเบทาโกร กล่าวว่า ธุรกิจอาหารจะไปต่อได้ต้องดูแลบริหารจัดการซัพพลายเชนไม่ให้ได้รับผลกระทบจากโรคระบาด แต่ตลอดระยะเวลา 14 เดือนที่เกิดวิกฤติโควิด-19 การระบาดเกิดขึ้น 3-4 ระลอกแล้ว ทำให้โรงงานอาหารขนาดใหญ่หลายประเภทมีผู้ติดเชื้อ เช่น โรงงานผลิตสับปะรดกะป๋อง โรงงานผลิตไก่ ฯ ซึ่งแต่ละแห่งมีพนักงานหลายพันคน บางแห่ง 5,000-6,000 คน

ทั้งนี้ ในระบบซัพพลายเชนการผลิตอาหารหมวดโปรตีน มีการใช้ระบบการส่งมอบวัตถุดิบ ส่งสินค้าให้ทันเวลา( Just-in-time) ในระบบการผลิตทั้งหมู ไก่ หลายแสนตัวต่อโรงงาน หากสะดุด จะกระทบต้นน้ำถึงปลายน้ำอย่างมาก โดยวิธีการป้องกันของบริษัทคือการตั้งห้องประชุมเชิงยุทธศาสตร์(War room) สำรวจสุขภาพพนักงานตลอดเวลา ทำงานร่วมกับรัฐอย่างใกล้ชิด และต้องมีแผนงานต่อเนื่องหรือBCP ไว้สำคัญมาก

"แม้ดูแลป้องกันอย่างดี สุดท้ายก็ประสบปัญหาโรงงานผลิตไก่ที่มีพนักงานเกือบหมื่นคนมีผู้ติดเชื้อ สถานการณ์เหมือนกรุงแตก เพราะเอาไม่อยู่ ใน 3 สัปดาห์ เราทำงานร่วมกับรัฐ เพื่อให้ฟื้นตัว นี่เป็นบทเรียนสำคัญ ระยะสั้นองค์ความรู้สามารถนำไปดูแลหากเกิดกรณีเดียวกันในจังหวัดอื่น"

นายจรัญพจน์ รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ในห่วงโซการผลิตสินค้า ต้นน้ำคือโรงงานบริษัทมีการดูแลสุขอนามัยพนักงานอย่างใกล้ชิด และตนเป็นคนรับรายงานตัวเลขระบบสุขภาพของทุกคนโดยตรงทุกวันเพื่อให้รู้ว่ามีใครป่วยหรือไม่ป่วยบ้าง

นอกจากนี้ เพื่อป้องกันการติดเชื้อมีการสั่งให้พนักงานพักอาศัยที่ฟาร์ม เพราะนอกจากโรคโควิด-19 ยังมีโรคระบาดของหมูเกิดขึ้นด้วย ส่วนฝ่ายอื่นๆทั้งการผลิต ฝ่ายขาย รวมถึงธุรกิจร้านอาหาร ต้องมีการทำแผนงานต่อเนื่องรองรับ ซึ่งปัจจุบันทำถึง 6 แผน เช่น ฝ่ายผลิตหากบรรจุสินค้าไม่ได้ ฝ่ายขายพร้อมไปช่วย มีการหาแหล่งวัตถุดิบผลิตอาหารจากทั่วโลก ไม่แค่ไทย เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น ส่วนการขายเมื่อช่องทางห้างค้าปลีกปิด ได้ปรับตัวไปรุกร้านค้าทั่วไป โดยเฉพาะร้านธงฟ้า ซึ่งมีอยู่นับแสนแห่งทั่วประเทศ
#3145


นาย ประศาสน์ ตั้งมติธรรม กรรมการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) และผู้ดูแลโครงการในประเทศออสเตรเลีย เปิดเผยว่า ในภาวะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงสั่นสะเทือนเศรษฐกิจทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทยและส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภาพรวม  แต่ผลประกอบการจากการลงทุนในประเทศออสเตรเลียกลับมีผลประกอบการดี โดยครึ่งปีแรกของปี 2564 ตัวเลขยอดสัญญาและยอดโอนกรรมสิทธิ์ของโครงการศุภาลัยในออสเตรเลียเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563


โดยยอดสัญญาครึ่งปีแรกของปี 2564 คิดเป็น 3,525.9 ล้านบาท เทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2563 อยู่ที่ 561.5 ล้านบาท โดยศุภาลัยมีโครงการที่สร้างรายได้ให้บริษัทฯ อย่างสูงถึง 3 โครงการจากทั้งหมด 11 โครงการ คือ Balmoral Quay, New Haven และ Katalia และคาดหวังว่าทั้ง 3 โครงการนี้จะเป็นแรงผลักดันที่สำคัญต่อกิจการของบริษัทฯในประเทศออสเตรเลียต่อไปในช่วงครึ่งปีหลัง 2564 และปี 2565

โครงการ Katalia เป็นโครงการร่วมทุนระหว่าง บมจ.ศุภาลัย กับบริษัท Stockland ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศออสเตรเลีย โครงการนี้มีทุนเรือนหุ้นประมาณ 2,500 ล้านบาท เพิ่งเปิดขายไปเมื่อไตรมาส 4 ของปี 2563 และสามารถทำยอดขายในอัตราต่อเดือนที่สูงมากเมื่อเทียบกับมาตรฐานของออสเตรเลีย  


นาย ประศาสน์  กล่าววว่า ขณะที่ยอดโอนกรรมสิทธิ์ในครึ่งปีแรกของปี 2564 มีมูลค่า 1,726.4 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 อยู่ที่ 767.6 ล้านบาท โดยโครงการ Gen Fyansford ซึ่งจัดสรรที่ดินบนทำเลเหมืองหินปูนเดิม ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของเมือง Geelong ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของ Melbourne มียอดโอนกรรมสิทธิ์มากที่สุด บมจ.ศุภาลัยเชื่อมั่นว่าโครงการต่างๆในประเทศออสเตรเลียจะเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญในด้านรายได้ที่จะทำให้บริษัทฯบรรลุเป้าหมายด้านผลประกอบการที่ตั้งเอาไว้ในปี 2564 นี้
#3146


เลือดนักสู้เกินร้อยไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ สำหรับสาวหมวยอารมณ์ดี ลี่-พรชนัน พัฒนาปัญญาสัตย์ กับลุคฟรุ้งฟริ้ง "ผ้าโพกหัว" หลากสีสัน งัดไม้เด็ดกับคอนเซปต์ "รัก 3 ระยะ" จนถูกใจกรรมการคว้าแชมป์ "มาสเตอร์เชฟ ไทยแลนด์ ซีซัน 4" มาครอง

สาว ลี่ เล่าความในใจหลังได้แชมป์ด้วยว่า "ตื่นเต้นมากค่ะ ตอนแรกไม่คิดว่าตัวเองชนะ เพราะดูจากคำติชมจานแรก ลี่โดนเยอะมาก ตอนแรกลี่ก็คิดแหละน้องเตอร์น่าได้แชมป์ พอได้จริงๆ ก็ตื่นเต้นจนพูดอะไรไม่ออก"

ข่าวแนะนำ

ก่อนการแข่งขันรอบไฟนอลลี่มีความกดดันมากน้อยขนาดไหน

"ไม่กดดันค่ะ เพราะเป็นเมนูที่ลี่เตรียมเอาไว้นานแล้วก่อนลี่เข้ามาแข่งขันมาสเตอร์เชฟ ถ้าเข้ารอบจะทำเมนูนี้ คอนเซปต์ความรัก อาหาร 3 จานเหมือนความรัก 3 ระยะ อยากสื่อว่า...ลี่คบใครก็ต้องใช้หัวใจมองเหมือนกัน เหมือนการทำอาหารต้องใส่ใจและให้หัวใจทำอาหารทุกขั้นตอน อยากสื่อคอนเซปต์นี้ให้กรรมการทั้ง 3 ท่าน ให้รู้ว่าเรารักการทำอาหารจริงๆ แต่จานแรกโดนติเยอะก็เสียใจ รสชาติที่วางมาไม่ถูกปากเค้าเหรอ แต่เราเสียใจได้ไม่นานต้องทำต่อ"

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากแข่งขันในครั้งนี้

"ที่จริงมาสเตอร์เชฟให้อะไรกับลี่เยอะมาก กว่าลี่มาถึงจุดนี้ไม่ใช่ง่ายๆ ต้องรู้จักจัดการกับความรู้สึกของตัวเอง แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้ดีที่สุดเวลาเจอโจทย์หรือความตื่นเต้น บางทีเจอโจทย์บางทีเราสติหลุด พยายามหาทางควบคุมสติ ไม่งั้นสิ่งที่เราฝึกฝนมาตั้งนานสูญเปล่า มาสเตอร์เชฟทำให้เราโตขึ้น"


ได้ฉายาเจ้าหญิงขนมหวาน กลายเป็นพลังบวกต่อการแข่งขันกับตัวเราขนาดไหน

"จะฉายาเจ้าหญิงขนมหวานหรืออะไรก็แล้วแต่เป็นกำลังใจที่ดี ลี่รู้สึกเป็นกำลังใจสำคัญเหมือนกัน พูดถึงแง่ดี แง่ไม่ดีค่อนข้างเยอะ เราก็น้อมรับนำมาปรับปรุง"

คอมเมนต์แรงบั่นทอนเราขนาดไหน

"จากคอมเมนต์ เราไม่สมควรได้มาอยู่ในตำแหน่งนี้ ไม่เก่งจริง เป็นคนบ้าๆเป็นคนพูด อะไรไม่รู้เรื่อง มีคำพูดว่าไม่สมประกอบหรือเปล่า? เวลาพูดต้องหัวเราะตลอดเวลา ลี่รู้สึกว่าลี่จะแคร์คำวิจารณ์มากไม่ได้ บางทีเรานิ่งๆ คนไม่ชอบเรายังไงก็ไม่ชอบ ลี่คิดเสมอเราทำดีที่สุดไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็ทำไปเหอะ คนรักลี่ก็รักในความเป็นลี่"

แล้วตัวตนจริงๆลี่เป็นคนแบบไหน

"เป็นคนตลกโก๊ะๆ บ้าๆ (หัวเราะ) ถ้าลี่ไม่สนิทจะนิ่งๆ แต่ถ้าสนิทลี่จะเป็นคนพูดเยอะ เป็นคนงงๆ (ยิ้ม)"


ตอนนี้กลายเป็นที่รู้จัก กับชีวิตเปลี่ยนแปลงมากน้อยขนาดไหน

"ก็เปลี่ยนนะคะ มองง่ายๆ ออกไปข้างนอกมีคนจำได้ก็จะเข้ามาทักเรา รู้สึกแปลกดี ยังไม่ค่อยคุ้น ปกติไม่มีคนรู้จัก พอออกรายการไปมีคนรู้จักมากขึ้น ทักทาย ชีวิตส่วนตัวหายไปนิดนึง คนตามไอจีเยอะขึ้น ก็ขอบคุณมากๆ หน้าที่การงานก็มีคนสั่งขนมเรามากขึ้น อีกไม่นานความฝันเปิดร้านขนมของเราก็คงจะเป็นจริง ตอนนี้พยายามเก็บสตางค์ให้มากที่สุด ต้องไปให้ถึงฝันที่เราอยากได้ และเป็นแรงบันดาลใจให้น้องๆที่ชอบทำอาหารกับคนรักในเส้นทางนี้ได้ทำตามลี่ในแบบอย่างที่ดี"

ก้าวมาถึงจุดนี้เหมือนชนะใจตัวเองเหมือนกันนะ

"พิสูจน์อะไรหลายๆ อย่าง การแข่งขันลี่ก็แข่งมาบางรายการ บางรายการไม่สำเร็จ เมื่อ 2 ปีที่แล้วตกรอบในเรื่องของหวานด้วย มาที่นี่ รายการนี้อยากมาตั้งแต่ซีซันแรกแต่ลี่ยังไม่พร้อม"

ก้าวหลังจากนี้ล่ะ

"ตอนเด็กๆอยากแพลน 10-20 ปี ทำโน่นทำนี่แต่ตอนนี้ทำทุกวันให้ดีก่อน การประคองชีวิตในแต่ ละวันมันยากแล้ว แค่เราทำชีวิตเราให้ดี มีเงินใช้ มีงานทำมันเป็นอะไรที่สำคัญ ลี่ตั้งใจเก็บสตางค์ มีร้านมีครอบครัว อยากมีชีวิตที่ดีไม่อยากไปลำบากเหมือนเก่า อยากทำทุกวันให้ดีเพื่อจะได้ส่งผลถึงอนาคต"


ลี่มาเทรนด์โพกผมโดนแซวเยอะรู้ใช่มั้ย

"ใช่ค่ะ ทำไมต้องโพกหัวตลอดเวลา จะบอกว่าลี่ผมบาง เป็นคนโพกอยู่แล้วเวลาทำอาหารเพราะเป็นคนผมร่วงเยอะ หัวล้านค่ะ"

เกิดจากอะไรถึงผมบาง

"อาจจะเป็นเพราะว่าตอนเด็กๆ เรียนรำนาฏศิลป์ ต้องเกล้าผมเยอะ บวกกับรากผมไม่แข็งแรง จุดนี้มากกว่าทำให้ผมร่วงไปเรื่อยๆ เลยผมบาง และเป็นคนหน้าจืดๆ ถ้าใส่อะไรบนหัวจะทำให้หน้าเราสว่างยิ่งขึ้น ผ้าเด่นกล้าหน้า"

เบ็ดเสร็จผ้าโพกหัวมีทั้งหมดกี่ผืน

"ประมาณ 150 ผืนค่ะ มีบางผืนไม่ชอบใส่ บางผืนผ้าผืนเก่ง รอบไฟนอลเป็นผ้าผืนที่ใส่ตั้งแต่รอบออดิชัน เหมือนเป็นเครื่องราง เราใส่สีนี้นะจะพาเราไปถึงชัยชนะได้"

สายมูกับเค้าด้วยเหรอเนี่ย

"มูตลอดค่ะ (หัวเราะ) เดี๋ยวต้องไปแก้บนเพราะบนไว้เยอะมาก บนเพราะไม่คิดว่าชนะก็เลยบนเหนือ ใต้ ออก ตกเลยค่ะไปนครศรีธรรมราช, เชียงใหม่ พิษณุโลกและนครปฐม ดวงก็สำคัญกับการแข่งขันวันไหนสติไม่อยู่ก็ทำไม่ได้ มันต้องมาประกอบกันเป็น ความเชื่อของลี่ค่ะ"


กับความรักล่ะเป็นยังไงบ้าง

"ดีค่ะ จริงๆก็เปิดเผยแค่ไม่ได้เปิดเผยออกสื่อมากนักเพราะลี่อยากให้มีชีวิตส่วนตัว แฟนลี่เป็นคนนอกวงการ ไม่ได้ทำอาหาร รู้จักกันเพราะเป็นเพื่อนของรุ่นพี่เป็นคนแนะนำให้รู้จัก และรุ่นพี่ลี่คนนี้เค้าเสียชีวิตไปนานแล้ว อยากพูดถึงเค้านิดนึงชื่อพี่เบิร์ด เพราะเค้าเป็นคนอยากให้ลี่มาแข่งรายการนี้ หนึ่งแรงบันดาลใจของลี่เหมือนกัน เค้าบอกว่าทำไมไม่ลองไปแข่งดู รู้สึกเราสำเร็จได้เพราะเค้าเชียร์ให้เรามาแข่งเหมือนกัน ฝ่ายซัพพอร์ต ก็มีรูปเค้าในไอจีแค่ลี่อยากไปไหนกับเค้าโดยไม่ได้เป็นจุดสนใจมากนัก อยากให้เค้ามีชีวิตส่วนตัวของเค้า"

คบกันนานหรือยัง "4 ปีแล้วค่ะ" มั่นคงพร้อมแต่งแล้วหรือยัง

"ก็พร้อมค่ะ รอเค้าขออยู่แต่ไม่มา (หัวเราะ) สงสัยต้องไปขอเองแล้วมั้ง"

จริงๆมีการพูดคุยเรื่องแต่งงานบ้างมั้ย

"มีค่ะ บางทีแท็กไปหาเลยเมื่อไหร่จะมาขอ เค้าก็บอกรอไปก่อน (หัวเราะ)"

แท็กไปหาแบบนี้เป็นการกดดันแฟนให้มาขอเร็วๆเหรอ

"กดดันค่ะ ตั้งใจ (หัวเราะ) ก็แท็กขำๆไป ให้มีคนไปกดดันเค้าด้วยจะได้รีบๆ มาขอแต่ไม่มีผล รอต่อไป แต่จริงๆ ตอนนี้ก็ยังไม่พร้อมขนาดนั้นเพราะเรายังสนุกกับงาน อยากให้งานมั่นคง เงินมั่นคง ความรู้มั่นคงก่อนที่ลี่จะมีครอบครัวค่ะ".
#3147
ทำไม. ?.. ZOOM CLOUD MEETING สามารถเรียน และ ทำงาน ออนไลน์ ได้ทุกที่

หลายๆ ท่านคงได้ยินคำว่า work from home หรือ เรียนออนไลน์ กันจนบ่อยแล้วใช่ไหมครับ ช่วงนี้ บางคนถึงกับต้องซื้อหา     วัสดุอุปกรณ์เพื่อรองรับสิ่งเหล่านี้กันเชียว เช่น กล้อง webcam , ไมโครโฟน แต่น่าจะมีหลายท่านที่อาจมีปัญหาเรื่องโปรแกรมสำหรับใช้งานด้านนี้  ในตลาดมีหลายรายการครับ แต่วันนี้ ผมจะแชร์รายการฟรี ตัวนึงที่ดำเนินงานได้ดีเยี่ยม คนใช้ทั่วโลก


คือ ZOOM CLOUD MEETING ซึ่งเรียกกันสั้นๆ ว่าโปรแกรม ZOOM  ซึ่งในตัวรายการนี้มีหลักๆ อยู่ 2 แบบครับคือ       
1.    ZOOM CLOUD MEETING  
2.    ZOOM ROOM   

ในที่นี้เรากล่าวขวัญเกี่ยวกับการประชุม และ เรียนออนไลน์ ที่บ้าน ซึ่งนั่นต้องใช้ ZOOM CLOUD MEETING ครับ ซึ่ง โปรแกรมนี้รับฟังก์ชั่นและสนับสนุนเกี่ยวกับการประชุม และ เรียน ออนไลน์ ได้ดี เช่น ฟังก์ชั่นการแชร์สกรีนของ ผู้บรรยาย หรือ การมีส่วนร่วม ในการประชุม เช่น Whiteboard ฯลฯ ซึ่งขอสรุปเกี่ยวกับคุณประโยชน์ที่ผู้ใช้งานจะได้รับ      
สำหรับใช้งานด้านการเรียนและการทำงานออนไลน์ ดังนี้ครับ        
1.    เข้าร่วมประชุมหรือเรียนได้ทุกที่ ทุกอุปกรณ์ (เครื่องเดสก์ท็อปและมือถือ)       
2.    แชร์หน้าจอได้โดยพร้อมเพรียงหลายคน ทุกคนมีส่วนร่วมในการเขียนบนหน้าจอที่แชร์ได้       
3.    ระบบความปลอดภัยสูง มีการเข้ารหัส (Encryption) และฟังก์ชั่น Waiting Room       
4.    นัดการประชุมผ่าน Outlook , Gmail หรือ iCal ได้     
5.    ใช้ Internet (Bandwidth) ต่ำ ประหยัดได้ถึง 40%    
6.    เปลี่ยนฉากหลังด้วย Vitual Background
7.    นำเสนองานแบบมือโปรด้วย Keynote Presentation   
8.    สร้างบรรยากาศเหมือนอยู่ในที่เดียวกันด้วย Immersive Scene   
9.    อัดเสียงบนระบบ Cloud และเปลี่ยนเสียงพูดเป็นตัวอักษร Cloud Recording & Speech to text  
10.    แชร์หน้าจอของผู้ประชุม ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ Powerpoint ได้ทุกอุปกรณ์
11.    มีระบบซักถาม ทำแบบทดสอบ Survey , Polling and Q&A)
12.    สามารถร่วมระดมความคิด (Brainstorm) ผ่าน Vitual Whiteboard เหมือนอยู่ในห้องเดียวกัน
13.    มีระบบ ห้องประชุมแยก (Breakout Room) เพื่อแยกประชุมเป็นกลุ่มย่อยๆ

แม้จะไม่ใช่ฟังก์ชั่นทั้งหมดที่ ZOOM CLOUD MEETING ทำได้ แต่ที่กล่าวมา ก็เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้ในการเรียนการสอน และ ประชุมออนไลน์ ที่สามารถช่วยได้เกือบทุกบริษัทฯ ให้สามารถ เรียน และ ทำงาน ออนไลน์ จากที่บ้านได้ง่ายยิ่งขึ้น




Tag : ZOOM | Zoom Cloud Meeting

 
#3148
Program Zoom เป็นโปรแกรมสำหรับการประชุมออนไลน์ และเป็นเครื่องมือสุดปัง ในยามวิกฤตโควิท 19 ในตอนนี้ โดย Zoom ที่เป็นที่นิยมใช้กันในตอนนี้คือ โปรแกรม Zoom Meeting ซึ่งมีให้เลือกติดตั้งได้หลายแบบ ทั้งโปรแกรมลงในPersonal Computer หรือ  APP  ในโทรศัพท์เคลื่อนที่ จากการใช้งานจริง แล้วลองผิดลองถูกหลายโปรแกรมมาแล้วในช่วงนี้ พอสรุปได้ว่า มันใช้งานแล้วดียังไง ตรงไหนที่น่าสนใจ

1.ใช้งานง่ายมาก  ไม่จำเป็นต้องเก่งโปรแกรมมากมาย
2.การแชร์ภาพ แชร์วิดีโอ หรือ แม้แต่หน้าจอการสอน การประชุมทำง่ายมาก
3.ใช้งานได้หลายอุปกรณ์
4.คุณภาพภาพและเสียง คมชัด ไม่กระตุก
5.การเชื่อมต่อกล้อง ไมค์ และอุปกรณ์ภายนอก ทำได้ง่าย

แต่ก่อนจะใช้งานได้นั้น ทุกท่านจะต้องสมัครการใช้งานก่อน แนะนำสมัครด้วยเมล์จะดีกว่าครับ 
โดยไปสมัครที่  zoom.us  จากนั้นก็ดาวน์โหลดโปรแกรม หรือ APP Zoom Meeting มาลงในเครื่องเราได้เลย ส่วนวิธีการติดตั้ง และ ดาวน์โหลดโปรแกรม ผมไม่ได้กล่าวถึงนะครับ สามารถหาอ่านได้เลยในกระทู้ต่างๆซึ่งมีอยู่มากมาย 


Tag :  Zoom / Zoom Meeting
#3149


ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ที่รุนแรง ทำให้มีความกังวลว่าโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน อาจจะต้องเลื่อนเปิดให้บริการจากวันที่ 2 ส.ค. 2564 ออกไปก่อนหรือไม่ ซึ่ง "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รีบยืนยันว่ารถไฟสายสีแดงปักหมุดเปิดให้บริการ (Soft Opening) วันที่ 2 ส.ค. 2564 แน่นอน...ไม่เลื่อน โดยตามกำหนดการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานในพิธีเปิดผ่านระบบออนไลน์ จากตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล โดยจะให้ประชาชนทดลองใช้บริการฟรีเป็นเวลา 3 เดือน (ส.ค.-ต.ค. 2564)

สำหรับรถไฟสายสีแดงถือเป็นตำนานโครงการรถไฟฟ้าที่ใช้ระยะเวลาก่อสร้างยาวนานมากที่สุดเส้นทางหนึ่ง และเป็นรถไฟฟ้าสายที่ประชาชนคนกรุงเทพฯ และปริมณฑลจับตา และรอคอยสายหนึ่ง

โดยช่วงบางซื่อ-รังสิต หากนับจากวันที่เริ่มต้นสัญญาก่อสร้างงานโยธาเมื่อ 10 ก.พ. 2556 จนถึง 2 ส.ค. 2564 ที่รถไฟสายสีแดงขบวนแรกจะเปิดหวูดให้ประชาชนได้ทดลองนั่งฟรี ใช้ระยะเวลากว่า 8 ปี โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาโครงการมีปัญหาอุปสรรคมากมาย จนทำให้ต้องมีการขยายระยะเวลาสัญญาก่อสร้าง และปรับเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างมาแล้ว 5 ครั้ง จากกรอบเริ่มต้น 52,220 ล้านบาท เป็น 93,950 ล้านบาท ซึ่งยังเหลือครั้งล่าสุดที่จะเสนอขอปรับอีก 10,345 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าก่อสร้างเพิ่มเติม (Variation Order : VO) โดยจะทำให้กรอบวงเงินโครงการสายสีแดงรวมช่วงบางซื่อ-รังสิต เพิ่มเป็น 104,295 ล้านบาท


"ศักดิ์สยาม" ปักหมุดเปิดให้บริการ จี้ รฟท.เร่งแก้ปัญหาติดขัดทุกมิติ

ก่อนหน้านี้ รฟท.กำหนดเปิดให้บริการรถไฟสายสีแดงอย่างไม่เป็นทางการในเดือน ม.ค. 2564 "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" ประกาศนโยบายปักหมุดเปิดให้บริการรถไฟสายสีแดงภายในปี 2564 หลังจากตรวจเช็กการก่อสร้างงานโยธา 2 สัญญา และความก้าวหน้าสัญญา 3 งานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล วางไทม์ไลน์ ปิดจ็อบ และเมื่อรถไฟฟ้า 2 ขบวนแรกเดินทางมาถึง ณ ท่าเรือแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2562 และเข้าประจำการ ณ โรงซ่อมบำรุงสถานีกลางบางซื่อ ในเดือนพ.ย. 2562 รฟท.เดินหน้าเข้าสู่โหมดการทดสอบระบบตามขั้นตอน

นอกจากนี้ "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" รมว.คมนาคม ยังได้มีการติดตามการดำเนินการในทุกๆ ด้านอย่างใกล้ชิด โดยตั้งคณะอนุกรรมการเตรียมการเปิดให้บริการและการบริหารโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) และสถานีกลางบางซื่อจำนวน 5 คณะ ประกอบด้วย

1. ด้านการเดินรถของการรถไฟแห่งประเทศไทยทั้งระบบ รวมทั้งการเชื่อมต่อการให้บริการระบบขนส่ง 2. ด้านสถานี 3. ด้านราคาค่าโดยสารและบัตรโดยสาร 4. ด้านการสื่อสารสาธารณะ 5. ด้านการกำหนดจุดเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสารและสินค้า (Gateway/Hub)

นอกจากนี้ ยังมีคณะอนุกรรมการด้านการพัฒนาสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) และพื้นที่ช่วงสถานีกลางบางซื่อ และคณะอนุกรรมการด้านการพิจารณาดำเนินการขอพระราชทานชื่อโครงการ 2 สายทาง สายทางละ 3 ชื่อ ซึ่ง รฟท.ได้จัดทำหนังสือถึงสำนักงานราชบัณฑิตยสภาและกรมศิลปากรเพื่อพิจารณาชื่อที่จะขอพระราชทาน

โครงการสายสีแดงเข้ม (บางซื่อ-รังสิต) เสนอ 3 ชื่อ ได้แก่ เฉลิมมหามงคล อาทรวัฒนวิถี และสวัสดิลีลาศ

โครงการสายสีแดงอ่อน (บางซื่อ-ตลิ่งชัน) เสนอ 3 ชื่อ ได้แก่ ฉลองมหานคร สิทธิรังสีรัถยา และ ประพาสภิรมย์



ช่วงทดลองให้บริการฟรี วิ่งความถี่ 15-30 นาที

รถไฟสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 กม. มี 10 สถานี ได้แก่ สถานีกลางบางซื่อ, สถานีจตุจักร, สถานีวัดเสมียนนารี, สถานีบางเขน, สถานีทุ่งสองห้อง, สถานีหลักสี่, สถานีการเคหะ, สถานีดอนเมือง, สถานีหลักหก และสถานีรังสิต ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 25 นาที ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ระยะทาง 15 กม. มี 3 สถานี ได้แก่ สถานีบางซ่อน สถานีบางบำหรุ และสถานีตลิ่งชัน ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 15 นาที

แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า ที่ผ่านมา รฟท.โดยบริษัท รฟฟท. จำกัด ได้มีการทดลองระบบการเดินรถ มีการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุต่างๆ ตามมาตรฐานความปลอดภัย โดยวิศวกรที่ปรึกษาอิสระ (Independent Certification Engineer : ICE) ของโครงการได้เข้าตรวจสอบและออกใบรับรองให้แล้ว พร้อมที่จะเปิดให้ประชาชนร่วมใช้บริการโดยไม่เก็บค่าโดยสารตามแผนงาน

ในช่วงทดลองตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค.นี้จะกำหนดความถี่ในการให้บริการเวลาเร่งด่วน 15 นาที นอกเวลาเร่งด่วน 30 นาที วิ่งเฉลี่ย 78 เที่ยว/วัน ใช้รถประมาณ 12 ขบวน โดยสายบางซื่อ-รังสิตจะใช้รถแบบ 6 ตู้/ขบวน จำนวน 8 ขบวน สายบางซื่อ-ตลิ่งชันใช้รถแบบ 4 ตู้/ขบวน จำนวน 4 ขบวน

ตารางการเดินรถสายบางซื่อ-รังสิต เที่ยวแรกออกจากบางซื่อ เวลา 06.00 น. ส่วนเที่ยวแรกออกจากรังสิต เวลา 06.00 น. เที่ยวสุดท้ายออกจากบางซื่อ เวลา 19.30 น. เที่ยวสุดท้ายออกจากรังสิต เวลา 19.30 น.

สายบางซื่อ-ตลิ่งชัน เที่ยวแรกออกจากบางซื่อ เวลา 06.00 น. ส่วนเที่ยวแรกออกจากตลิ่งชัน เวลา 06.06 น. เที่ยวสุดท้ายออกจากบางซื่อ เวลา 19.30 น. เที่ยวสุดท้ายออกจากตลิ่งชัน เวลา 19.36 น.



ระบบฟีดเดอร์เชื่อมเข้าสถานียังไม่สมบูรณ์

สำหรับการเดินทางเข้าสู่สถานีกลางบางซื่อและสถานีรายทางนั้น ต้องยอมรับว่าการจัดระบบฟีดเดอร์และโครงสร้างพื้นฐานยังไม่สมบูรณ์ 100% ซึ่งคาดว่าก่อนจะถึงกำหนดเปิดเดินรถเชิงพาณิชย์เดือน พ.ย.จะมีความพร้อมมากขึ้น

โดยองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้จัดรถเมล์ 4 สาย ได้แก่ สาย 49 สาย 67 สาย 79 และ สาย 522 ปรับปรุงเส้นทางเดินรถให้เชื่อมเข้าสถานีสายสีแดง

ขณะที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ก่อสร้างทางเดินเชื่อมต่อกับบริเวณทางเดินชั้นใต้ดินของสถานีกลางบางซื่อ จำนวน 2 จุด คือ บริเวณทางเดินผู้โดยสารของสถานีรถไฟฟ้า MRT บางซื่อ และทางเดินเชื่อมต่อบริเวณชั้นจำหน่ายบัตรโดยสารของสถานีรถไฟฟ้า MRT บางซื่อ

"ขณะที่สถานีกลางบางซื่อนั้นมีลานจอดรถใต้ดินรองรับได้ถึง 1,600 คัน คาดว่าจะเพียงพอต่อจำนวนผู้โดยสารในช่วงแรกที่คาดว่ายังมีไม่มากนัก"



เร่งปรับปรุงถนนเชื่อมเข้าสถานีรังสิต เกตเวย์ด้านเหนือ

สำหรับสถานีรังสิต ซึ่งเป็นเกตเวย์จุดเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสารและสินค้า ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการดำเนินการพัฒนาโครงข่ายจุดเชื่อมต่อผู้โดยสารเสร็จแล้ว คือ ปรับปรุงถนนหน้าสถานี (ฝั่งตะวันตก) รฟท.ดำเนินการ และการปรับปรุงทางเข้าสถานีจาก ทล.346 (ทิศทางจากรังสิต) วงเงิน 4 แสนบาท (กรมทางหลวง ดำเนินการ)

ส่วนที่จะต้องดำเนินการเพิ่มเติมอีกคือ ก่อสร้างสะพานกลับรถด้านทิศใต้ วงเงินรวม 206 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 12 เดือน คาดแล้วเสร็จเดือน มี.ค. 2566, ปรับปรุงจุดกลับรถใต้สะพานข้ามทางรถไฟ ทางเท้า และระบบระบายน้ำ (ทิศทางจากปทุมธานี) วงเงิน 4.6 ล้านบาท ดำเนินการช่วงปี 2565 โดยกรมทางหลวง (ทล.)

ในส่วนของการจ้างบริการเพื่อเตรียมความพร้อมการเปิดใช้สถานีกลางบางซื่อและสถานีรถไฟฟ้า 12 สถานี ประกอบด้วย 1. จ้างงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) และจราจร 2. จ้างบริการทำความสะอาดอาคารและบริเวณสถานี 3. งานบริหารจัดการงานอาคารและสถานที่บริเวณสถานี 4. จ้างบริการรักษาความปลอดภัยและทำความสะอาดภายในอาคารและพื้นที่โดยรอบของโรงซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าสายสีแดง (CT Depot) และทำความสะอาดขบวนรถไฟฟ้าสายสีแดง 5. จ้างติดตั้งระบบจัดการจราจรภายในบริเวณลานจอดรถสถานีกลางบางซื่อ และจัดเก็บค่าบริการจอดรถ ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดหาตามขั้นตอน

ด้านการจัดประโยชน์พื้นที่เชิงพาณิชย์ อยู่ระหว่างจัดทำร่างประกาศเชิญชวนเพื่อคัดเลือกเอกชนดำเนินการบริหารจัดการพื้นที่เชิงพาณิชย์และป้ายโฆษณาบริเวณอาคารสถานีกลางบางซื่อและสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง 12 สถานี คาดว่าจะเสนอบอร์ด รฟท.พิจารณาอนุมัติร่างทีโออาร์ในเดือน ส.ค.นี้ คาดว่าจะได้เซ็นสัญญาและเริ่มดำเนินการในเดือน พ.ย. 64 โดยจะแบ่งเป็นเฟสเพื่อเปิดให้บริการได้รวดเร็วขึ้น

โดยมี 4 ฉบับ คือ 1. ประกาศเชิญชวน เสนอผลตอบแทนการใช้ประโยชน์พื้นที่เชิงพาณิชย์ บริเวณอาคารสถานีกลางบางซื่อ

2. ประกาศเชิญชวน เสนอผลตอบแทนการเช่าสิทธิติดตั้งป้ายโฆษณาบริเวณอาคารสถานีกลางบางซื่อ

3. ประกาศเชิญชวน เสนอผลตอบแทนการใช้ประโยชน์พื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณสถานีรถไฟฟ้า 12 สถานี

4. ประกาศเชิญชวน เสนอผลตอบแทนการเช่าสิทธิติดตั้งป้ายโฆษณาบริเวณสถานีรถไฟฟ้า 12 สถานี



โจทย์สุดหิน...ห้ามขาดทุน

การให้บริการโครงการรถไฟฟ้ารายได้มาจาก 2 ส่วน คือ จากค่าโดยสาร และจากการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ซึ่งรายได้จากค่าโดยสารจะมากหรือน้อยขึ้นกับปริมาณผู้โดยสาร แต่... สถานการณ์ในปัจจุบัน ปริมาณการเดินทางลดลงไปอย่างมาก โดยล่าสุดพบว่าผู้โดยสารระบบรางทั้งระบบเหลือเพียง 98,453 คน/วันเท่านั้น หรือลดลงถึง 91.82% เมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณผู้โดยสารช่วงปี 2562 ก่อนที่จะเกิดโรคโควิด-19 ที่ระบบรางมีผู้โดยสารรวมถึงกว่า 1.2 ล้านคน/วัน

ขณะที่ปริมาณผู้โดยสารและอัตราค่าโดยสารจะผันแปรโดยตรงกับรายได้ ซึ่งรถไฟสายสีแดงมี 13 สถานี ระยะทาง 41.56 กม. กำหนดอัตราเริ่มต้นที่ 12 บาท สูงสุด 42 เฉลี่ย 1.01 บาท/กม.

ทั้งนี้ ตามผลการศึกษาเดิม คาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารในปีแรกที่เปิดให้บริการเฉลี่ยที่ 86,620 คน/วัน โดยคาดว่าจะมีรายได้ในปีแรกรวมประมาณ 1,153 ล้านบาท โดยมาจากค่าโดยสารราว 673 ล้านบาท และมีรายได้เชิงพาณิชย์ 480 ล้านบาท

ส่วนรายจ่ายรวมอยู่ที่ 1,267 ล้านบาท หลักๆ จะเป็นค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรประมาณ 376.6 ล้านบาท ค่าไฟฟ้าประมาณ 327 ล้านบาท ค่าประปา 7.5 ล้านบา ค่ารักษาความปลอดภัยและรักษาความสะอาดอีกราว 284.1 ล้านบาท ค่าซ่อมแซมบำรุงรักษา 90.3 ล้านบาท

ภายใต้สมมติฐานรายรับ รายจ่ายนี้ เท่ากับในปีแรกสายสีแดงจะยังขาดทุนประมาณ 113 ล้านบาท โดยยังไม่หักค่าดอกเบี้ย เงินกู้งานไฟฟ้าและเครื่องกลอีกกว่า 317 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้มีผลขาดทุนสุทธิ 431 ล้านบาท

สำหรับประมาณการผู้โดยสารนั้น ในข้อเท็จจริงมีการปรับลดลงมากกว่าครึ่ง ประกอบกับในช่วงสถานการณ์โควิด-19 รุนแรงหนักหน่วงเช่นนี้ คงไม่สามารถคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารได้เลย ...คงได้แต่รอลุ้นว่าในเดือน พ.ย. 2564 ที่จะมีการเปิดเดินรถเชิงพาณิชย์ และเริ่มเก็บค่าโดยสารสถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลายลงแล้วหรือไม่

อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์กลับคืนปกติ รฟท.คาดหวังว่าจะสามารถใช้โปรโมชันการปรับลดอัตราค่าโดยสาร การจัดทำตั๋วเดือน เข้ามาใช้เพื่อจูงใจให้เพิ่มผู้ใช้บริการรถไฟสายสีแดง

หากมีการเปิดประเทศ การเดินทางกลับสู่ปกติ สนามบินดอนเมืองเปิด สายการบินให้บริการนักท่องเที่ยวกลับมา คาดหมายว่าสนามบินดอนเมืองจะป้อนผู้โดยสารเข้าสายสีแดงอย่างน้อย 10,000 คน/วัน ขณะที่ "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" รมว.คมนาคม ทุบโต๊ะห้ามสีแดงขาดทุน...โจทย์สุดหิน! ที่ รฟท.ต้องหาคำตอบให้เจอ...

https:// m.mgronline.com/business/detail/9640000075315
#3150


โรงพยาบาลบุษราคัม Big Cleaning ทำความสะอาดจุดแรกรับผู้ป่วย พร้อมปรับระบบจัดทางด่วนสำหรับกลุ่มเปราะบาง เด็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยติดเตียง พิการ ให้เข้ารับการประเมินก่อน และจัดโซนผู้ป่วยเพื่อง่ายต่อการดูแล

เมื่อวันที่ 1 ส.ค. นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบุษราคัม ให้สัมภาษณ์ว่า โรงพยาบาลบุษราคัม ได้จัดตั้งขึ้นมาเพื่อรับรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ตั้งวันที่ 14 พฤษภาคม 2564 ข้อมูลถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 ให้การดูแลผู้ป่วยแล้วจำนวน 13,275 ราย โดยในเช้าวันนี้ได้จัด Big cleaning ทำความสะอาดครั้งใหญ่ในบริเวณจุดแรกรับผู้ป่วย ทั้ง 2 จุด พร้อมปรับระบบประเมินผู้ป่วยแรกรับ โดยเพิ่มทางด่วน Fast Track สำหรับผู้ป่วยกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้ป่วยที่ต้องให้ออกซิเจน เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ เป็นต้น ให้ได้รับการประเมินอาการก่อน และจัดโซนผู้ป่วยให้ง่ายต่อการดูแลรักษา เนื่องจากระยะหลังพบผู้ป่วยที่เป็นกลุ่มเปราะบางเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้เตรียมนำเก้าอี้รถเข็นเข้าไปยังหอผู้ป่วยจำนวน 231 ตัว และเก้าอี้นั่งสำหรับขับถ่ายข้างเตียงผู้ป่วย จำนวน 62 ตัว เก้าอี้อาบน้ำ จำนวน 5 ตัว เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ป่วย และกำลังจัดหาเตียงลมสำหรับผู้ป่วยติดเตียงและผู้ป่วยวิกฤติเพิ่มเติม ต้องขอขอบคุณทหารจิตอาสาที่ให้ความร่วมมือ สนับสนุนในการเข้าไปอำนวยความสะดวกเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและเปลี่ยนเตียงที่ชำรุด รวมทั้งได้รับความร่วมมือจากผู้ป่วยที่ไม่มีอาการเป็นจิตอาสา วัดความดันโลหิต วัดค่าออกซิเจนในเลือด ประสานงานเจ้าหน้าที่กับผู้ป่วย ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ช่วยลดภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นอย่างดี

สำหรับสถานการณ์เตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาลบุษราคัมวันนี้ มีผู้ป่วยที่นอนรักษาอยู่ 3,233 ราย เป็นกลุ่มสีเหลืองอ่อน 2,771 ราย สีเหลือง 287 ราย สีแดง 175 ราย โดยมีมาตรฐานการรักษาตามแนวทางของกรมการแพทย์ ซึ่งผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการน้อย ที่รักษาหายแล้วครบ 7 - 10 วัน สามารถให้กลับไปกักตัวที่บ้านต่อได้เพื่อที่จะมีเตียงไว้สำหรับผู้ป่วยรายอื่นๆ ต่อไป
#3151


กระทรวงสาธารณสุข เผยการทำ Home Isolation , Community Isolation ในผู้ติดเชื้อโควิด 19 กลุ่มสีเขียว ไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย ซึ่งพบร้อยละ 85 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด ช่วยลดการใช้เตียงในโรงพยาบาล ช่วยผู้ติดเชื้อที่มีอาการปานกลางและรุนแรง หรือกลุ่มสีเหลือง สีแดงได้รับการดูแลเต็มที่

เมื่อวันที่ 1 ส.ค. นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ปรับมาตรการดูแลผู้ติดเชื้อโควิดให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค จากสายพันธุ์เดลต้าที่ระบาดได้รวดเร็ว ทำให้พบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ความต้องการเตียงจึงมีมากขึ้น อย่างไรก็ตาม พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด มีประมาณร้อยละ 15 ที่มีอาการปานกลางหรืออาการรุนแรง ต้องรับไว้ในโรงพยาบาลและต้องการใช้เครื่องมือแพทย์ ซึ่งส่วนมากอยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง รวมถึงคนอ้วน ซึ่งส่วนใหญ่อีกร้อยละ 85 จะมีอาการเล็กน้อยหรือไม่มีอาการเลย ไม่จำเป็นต้องอยู่โรงพยาบาล ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกัน ทำลายเชื้อโรคได้ดี สามารถทำ Home Isolation อยู่ที่บ้านได้ และต้องทำการกันป้องกันไม่ให้มีการติดเชื้อสู่คนในครอบครัวรวมทั้งพี่น้องที่อยู่ด้วย แต่หากไม่สามารถอยู่ที่บ้านได้ จะนำมาอยู่รวมกันเป็น Community Isolation โดยให้ชุมชนช่วยกันดูแล เพื่อจะได้มีเตียงเพียงพอสำหรับให้ผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเหลือง สีแดงได้รับการดูแลอย่างเต็มที่

นายแพทย์ธงชัยกล่าวต่อว่า หลังทราบผลการติดเชื้อ ให้ตรวจสอบอาการตนเอง หากไม่มีไข้ หรือมีไข้ต่ำๆ ไม่มีอาการหายใจเร็ว หายใจลำบาก เหนื่อยหอบ สามารถอยู่ที่บ้านได้ ให้โทรไปได้ที่สายด่วน สปสช. 1330 กด 14 จะได้รับการติดต่อกลับพร้อมนำชุดเซ็ตในการดูแลตัวเองที่บ้านไปให้ เช่น ปรอท ที่วัดออกซิเจน ยาฟ้าทะลายโจร หรือยาฟาวิพิราเวียร์ทานที่บ้านได้เลย และจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อประสานติดตามอาการวันละ 2 ครั้ง หากเริ่มมีอาการที่หนักขึ้น เช่น หายใจติดขัด ไอ แน่นหน้าอก ออกซิเจนต่ำ ก็จะมีรถไปรับ มารักษาที่โรงพยาบาล
#3152



นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า อคส.เตรียมวางจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ในเดือนส.ค.นี้ โดยอคส.ได้ซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิลพบุรีฤดูกาลผลิตปี 63/64 จากวิสาหกิจชุมชนโรงสีข้าวชุมชนบ้านคลอง ต.มหาโพธิ์ อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี จำนวน 40 ตันมาบรรจุเป็นข้าวสารบรรจุถุงแบรนด์ "อคส." หรือ "PWO" ขนาด 2 กิโลกรัม (กก.) วางจำหน่าย เพื่อสร้างรายได้ให้กับองค์กร และเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับเกษตรกร 

"ข้าวหอมมะลิลพบุรี มาจากแหล่งเพาะปลูกข้าวหอมมะลิกลุ่มเดียวกับแปลงสาธิต ที่ได้กระจายเมล็ดพันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ 105 ไปทั่วประเทศ และเป็นข้าวที่อคส.เสาะหาจนพบแหล่งเพาะปลูก ที่ปลูกด้วยนาดินขาว ทำให้ได้ข้าวหอมมะลิ ที่มีอัตลักษณ์เฉพาะถิ่น เมล็ดเรียวยาว เหนียวนุ่ม มีกลิ่นหอมโดยธรรมชาติ หากเป็นข้าวต้นฤดู จะมียางมาก ทำให้ข้าวเหนียวนุ่ม และมีความอร่อยเหมือนข้าวหอมมะลิภาคอีสาน" 


สำหรับช่องทางการตลาด จะเริ่มต้นวางขายที่ร้านค้าของอคส.ภายในกระทรวงพาณิชย์ จ.นนทบุรี ก่อน และจะขยายไปยังช่องทางอื่นๆ ล่าสุดอยู่ระหว่างการเจรจากับห้างสรรพสินค้า และห้างค้าปลีกหลายแห่ง เช่น เดอะมอลล์, เทสโกโลตัส, และซีเจ คาดว่า จะวางขายได้เร็วๆ นี้ ส่วนราคาขาย เบื้องต้นจะขายราคาโปรโมชัน เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 

นอกจากนี้ อคส. ยังใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมการสื่อสารโดยใช้ QR Code เพียงผู้บริโภคสแกน QR Code  ที่ถุง ก็จะทราบเรื่องราวที่มาของข้าว ถือเป็น "ข้าวพูดได้" ถุงแรกของไทย และในระยะต่อไป จะพัฒนาให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของข้าวได้ ขณะเดียวกัน อคส. ยังจะประสานงานกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา ดำเนินกระบวนการยื่นคำขอจดทะเบียนข้าวหอมมะลิลพบุรี เป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) ของไทยด้วย 

 นายเกรียงศักดิ์ กล่าวต่อว่า อคส.ยังมีแผนจะซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิภูเขาไฟบุรีรัมย์ มาบรรจุถุงและทำตลาดเช่นกัน เพื่อเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ข้าวถุงของอคส. รวมถึงประสานกรมทรัพย์สินทางปัญญา นำข้าวที่เป็นสินค้าจีไอรายการอื่นๆ มาบรรจุถุงขายด้วยเช่นกัน และยังมีสินค้าอื่นๆ อีก เช่น พริกจากเพชรบูรณ์, ลำไยจันทบุรี  

ส่วนข้าวสารบรรจุถุงของอคส. ที่ทำตลาดอยู่แล้วในปัจจุบัน ทั้งข้าวขาว และข้าวหอมมะลิ ซึ่งเป็นข้าวพรีเมียม ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค และวางขายในร้านธงฟ้าทั่วประเทศ และห้างค้าปลีกสมัยใหม่บางแห่งนั้น ขณะนี้ ยอดจำหน่ายลดลงบ้าง เพราะผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19  

"ตอนนี้ อคส.ต้องเร่งสร้างรายได้ให้กับองค์กร โดยการขายข้าว และสินค้าเกษตรอื่นๆ ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่ง  แต่ก็ยังน่าจะขาดทุนอยู่ ซึ่งปีนี้ ประมาณการขาดทุนไม่ต่ำกว่า 350 ล้านบาท เพราะมีหนี้สงสัยจะสูญร่วม 200 ล้านบาท จากการขายสินค้าบางโครงการ ที่รักษาการผู้อำนวยการอคส.คนก่อนได้ดำเนินการไว้" 

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/952125
#3153



เยลลี่ "ปีโป้" เป็นหนึ่งในสินค้าและแบรนด์เรือธวของ บริษัท ยูโรเปี้ยนฟู้ด จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้เล่นรายสำคัญของตลาดขนม โดย "ปีโป้" มีฐานผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายเป็นวัยเด็ก วัยทีนหรือวัยรุ่น เป็นหลัก จะเห็นว่าในการสื่อสารการตลาด ช่วงเวลาที่แบรนด์จะยึดเพื่อสร้างแบรนด์ให้ผู้บริโภครับรู้จะเป็นช่วงเวลาเช้า ที่มีรายการเด็ก โดยเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ ที่มีการ์ตูนเอาใจคุณหนูๆน้องๆเป็นส่วนใหญ่ 

ทว่า ปัจจุบันการดื่มด่ำตัวเลขเติบโตทางธุรกิจอยู่ในขอบเขตกลุ่มเป้าหมายหลักเดิมๆที่มี ไม่เพียงพอ และการทำตลาดโดยอาศัยจุดแข็งของแบรนด์ตนเองฝ่ายเดียวคงไม่ได้ หมดยุคโชว์เดี่ยวหรือ One Man Show อีกต่อไป ยิ่งในยุคโรคโควิด-19 ระบาด หลายธุรกิจ สินค้ายอดขายหดตัว ต้องหันมาประหยัดงบประมาณ ดูแลบริหารจัดการต้นทุนให้ดี หาก "ผนึกพันธมิตร" เพื่อแชร์ทรัพยากร สินทรัพย์ที่มี ต่อยอดธุรกิจ เกิด Win-win strategy ย่อมเป็นเรื่องดี 

"ปีโป้" เป็นอีกแบรนด์ที่เดินหน้าใช้กลยุทธ์ความร่วมมือ(Collaboration)กับแบรนด์สินค้าอื่นที่มีความแข็งแรง มีโจทย์และเป้าหมายธุรกิจเดียวกัน มาร่วมสร้างสีสันให้เกิดขึ้นในตลาด ล่าสุดกับการจับมือเครื่องดื่มชูกำลัง "M-150" ของค่าย "โอสถสภา" ออกเยลลี่ "ปีโป้กลิ่น M-150" เข้าทำตลาดแบบลิมิเต็ด เอดิชั่น 

"ปีโป้ X M-150" จะเกิด Win-win อะไรบ้าง กรุงเทพธุรกิจ ชวนวิเคราะห์จุดแข็งของทั้ง 2 แบรนด์ คือการเป็น "ผู้นำตลาด" ในเซ็กเมนต์ที่ตัวเองอยู่นั่นคือ เยลลี่และเครื่องดื่มชูกำลัง และมีฐานผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายใหญ่ที่ "แตกต่างกัน" 

ผู้บริโภคเยลลี่ คือวัยเด็ก วัยรุ่น ส่วนเครื่องดื่มชูกำลัง M-150 เป็นวัยทำงาน โดยเฉพาะชนชั้นแรงงาน แต่หลายปีที่ผ่านมา แบรนด์เลือกพี่ตูน บอดี้สแลม เป็นพรีเซ็นเตอร์ ใช้กลยุทธ์การตลาดทางดนตรี(Music Marketing) รวมถึงการตลาดเชิงกีฬา(Sport Marketing) สร้างการรับรู้ ชูภาพลักษณ์แบรนด์สู่คนรุ่นใหม่ เป็นการขยายฐานที่กว้างขึ้น เมื่อ 2 แบรนด์โคจรมา Collaboration กัน จึงทำให้ช่วยขยายฐานกลุ่มเป้าหมายให้กว้างขึ้น โดยเฉพาะกับ "ปีโป้" สอดคล้องกับภารกิจแบรนด์ที่ย้ำว่าเป็นสินค้าไม่ว่าเจนเนอเรชั่นไหนก็อร่อยได้


แม้ทุกคนจะเคยผ่านวัยเด็ก วัยรุ่น และรับประทานเยลลี่ปีโป้มาก่อน แต่เมื่อเติบโตจนถึงวัยผู้ใหญ่ การบริโภคสินค้าดังกล่าวจะลดลง หันไปบริโภคสินค้าอื่นๆที่มีความหลากหลาย ตอบไลฟ์สไตล์ตามแต่ละช่วงอายุแตกต่างกันไป 


เมื่อทุกคนต่างรู้จัก รับรู้แบรนด์เยลลี่ ปีโป้ อย่างดี แต่การจะบริโภคทุกวัน ถี่เหมือนวันเด็ก วัยรุ่นคงไม่ได้ หากแบรนด์ต้องการกระตุ้นให้ผู้บริโภคกลับมาทานเยลลี่เหมือนวันวานต้องออกสินค้าใหม่สร้างความตื่นเต้น หนุนให้เกิดการ "ทดลอง" สินค้า ซึ่ง "ปีโป้ กลิ่น M-150" เป็นคำตอบที่แบรนด์เลือกทำตลาด เพราะวัยทำงาน วัยผู้ใหญ่ อาจต้องการย้อนสู่วัยใส 14 อีกครั้ง และไม่ต้องทานแค่ "ปีโป้" กลิ่น รสชาติทั่วไปที่มีในตลาด แต่ต้องเป็นสิ่งที่แบรนด์สร้างสรรค์เพื่อตอบโจทย์คนกลุ่มนี้โดยเฉพาะ 

ส่วน M-150 ได้สร้างโอกาสใหม่ ในการขยายตลาดต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆที่ไม่ใช่เครื่องดื่มชูกำลัง แต่สามารถผสานในหมวดขนม หรืออาจเป็นหมวดอื่นๆได้ด้วย ซึ่งเป็นโจทย์ที่ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์จะหา "ช่องว่างและโอกาส" ทางการตลาดให้เจอ เพื่อเพิ่มการขายสินค้าให้หลากหลาย ผลักดันการเติบโตต่อไป  

อย่างไรก็ตาม ก่อนสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด ยูโรเปี้ยนฟู้ด ได้ปลุกกระแสนำร่องผ่านโลกออนไลน์ ถึงการ Collaboration กับพันธมิตรใหม่ เพื่อหยั่งเสียงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งหลายคนตั้งตารอ ทันทีที่ปล่อยสินค้าออกมา ผลตอบรับถือว่าเป็นไปในทิศทางที่ดี 

สำหรับ "ปีโป้ กลิ่น M-150" ผลิตจำหน่ายแบบลิมิเต็ดเอดิชั่น ขนาดบรรจุ 50 ถ้วย ในราคา 99 บาท  จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ช้อปปี้ ลาซาด้า, เจดี, โรบินฮู้ด, ไลน์และเฟซบุ๊กของ ยูโรเปี้ยนฟู้ด เป็นต้น 

กระแสของ "ปีโป้" ไม่เคยจางหายไปจากตลาด เพราะผู้บริโภคที่เคยซื้อสินค้าจะรู้ดีว่า "ปีโป้" มี 5 สี ได้แก่ สีแดง (สตรอว์เบอร์รี) และสีส้ม (ส้ม) สีเขียว (แอปเปิ้ล), สีขาว (ลิ้นจี่), สีม่วง (องุ่น) แต่บางครั้งผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าผสมกับเครื่องดื่มปั่นอื่นๆ มักจะอดทาน ปีโป้สีม่วง จนเกิดการทวีตบนทวิตเตอร์ เกิดไวรัส #saveปีโป้ม่วง ทำให้แบรนด์ยังอยู่ในสายตา การรับรู้ของกลุ่มเป้าหมายเสมอ

 นอกจากการ Callaboration กับ M-150  ที่ผ่านมายังมี ปีโป้โยเกิร์ต สร้างสีสัน ความตื่นเต้นให้ตลาดเยลลี่ ยิ่งกว่านั้นกลยุทธ์ความร่วมมือยังปูทางสู่การผลักดันยอดขายให้เติบโตแก่ทั้ง 2 แบรนด์ด้วย 


นอกจากยูโรเปี้ยนฟู้ด จะมีปีโป้ เป็นแบรนด์เรือธง แต่พอร์ตโฟลิโอสินค้าที่บุกตลาดขนมมีมากมาย เช่น ลูกอม Hitto, เวเฟอร์ปักกิ่ง, เค้กเอลเซ่ และเวเฟอร์ชนิดแท่งสอดไส้ครีม โจโจ้ เป็นต้น 
#3154
รวมไลน์สติกเกอร์แจกฟรี! ประจำวันที่ 14 กรกฎาคม 2021 รีบดาว์นโหลดก่อนหมดเวลาhttps://www.chatstickmarket.com/single-post/linestickersforfreeonjuly14-2021

#3155



น้ำตาล เป็นสารให้ความหวานที่มีประโยชน์ต่อร่างกายด้านการให้พลังงาน โดยเฉพาะน้ำตาลกลูโคสที่มีหน้าที่สำคัญในการให้พลังงานแก่สมอง ช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเคมีในสมองทำให้รู้สึกสดชื่นและช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น จึงนิยมผสมน้ำตาลในเครื่องดื่ม น้ำผลไม้แทบทุกชนิด

เครื่องดื่มชูกำลัง เครื่องดื่มอีกชนิดที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนที่ใช้พลังงานมากๆ เช่น นักกีฬา หรือผู้มีอาชีพที่ต้องใช้พลังในการทำงาน เครื่องดื่มชูกำลังมีส่วนผสมหลักๆ คือ คาเฟอีน ที่ทำหน้าที่ให้ความรู้สึกสดชื่น เพิ่มเรี่ยวแรงให้กับผู้ดื่ม และน้ำตาลที่ให้พลังงาน และความสดชื่นแก่สมอง

องค์การอนามัยโลก (WHO) ให้คำแนะนำว่าใน 1 วัน เด็กและผู้ใหญ่ควรได้รับน้ำตาลไม่เกิน 25 กรัม หรือประมาณ 6 ช้อนชา ปริมาณเพียงเท่านี้ร่างกายจะนำไปใช้ประโยชน์ได้เพียงพอ และไม่ทำให้เกิดโทษ

ท่านที่ชื่นชอบการดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง วันนี้สถาบันอาหารทำการสุ่มตัวอย่างเครื่องดื่มชูกำลังจำนวน 5 ตัวอย่าง จาก 5 ยี่ห้อ เพื่อนำมาวิเคราะห์หาปริมาณน้ำตาลทั้งหมด ผลการวิเคราะห์พบว่า


ตัวอย่างเครื่องดื่มชูกำลังมีปริมาณน้ำตาลทั้งหมดอยู่ในช่วง 7.74-14.04 กรัม ต่อเครื่องดื่ม 100 มิลลิลิตร

หรือหากคิดต่อเครื่องดื่มชูกำลัง 1 ขวด พบมีปริมาณน้ำตาลทั้งหมดอยู่ในช่วง 7.74-23.87 กรัมต่อขวด

ก็สูงอยู่นะ อย่าลืมว่าใน 1 วัน เราทานอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายชนิด ที่อาจมีส่วนผสมของน้ำตาล ในปริมาณมากน้อยต่างกันอยู่แล้ว ทำให้ใน 1 วัน เราอาจได้รับน้ำตาลเกินปริมาณที่ WHO แนะนำ หากร่างกายขับออกไม่หมดจะเกิดการสะสมในร่างกาย หากสะสมมากๆ เป็นเวลานานจะส่งผลเสียในระยะยาว และอาจทำให้เกิดโรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคที่เกี่ยวกับเมตา.ิกอื่นๆได้

หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ควรลดการเติมน้ำตาลที่ใช้ปรุงอาหารที่ทำทานเอง การเลือกซื้อ เลือกทานอาหาร หรือเครื่องดื่มสำเร็จรูปให้ดูปริมาณน้ำตาลที่ระบุไว้บนฉลากโภชนาการเป็นหลักว่ามีเท่าใด หรือเลือกซื้อสูตรที่ระบุว่าหวานน้อย เพื่อให้ร่างกายปลอดภัยจากโรคภัยต่างๆ จะดีกว่า.

ไทยรัฐ+สถาบันอาหารโครงการอาหารปลอดภัย
https:// www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2135845
#3156


ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวหรือผื่นจากการใส่มาสก์ เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การเสียดสีกับผิวหน้าขณะใส่ ความสกปรกภายในหน้ากากที่สะสมระหว่างวัน ความเครียด วัสดุจากหน้ากากมีการปนเปื้อน และโรคผิวหนังเดิมที่เคยเป็นอยู่
การเสียดสีของของหน้ากากอนามัยกับผิวหน้า ส่งผลให้เกิดการแพ้ ระคายเคืองได้ โดยเฉพาะผู้ที่ใส่หน้ากากหลายชั้น
หากพบว่ามีสิวขึ้นหรือมีผื่นแพ้ ในเบื้องต้นควรหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร แล้วแก้ตามสาเหตุนั้น หากทำตามทุกวิธีแล้วยังมีสิวขึ้นหรือผื่นภูมิแพ้ ควรรีบมาปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนที่สิวหรือผื่นนั้นจะลุกลาม
ไลฟ์สไตล์ติดตาม

วิถีชีวิตใหม่แบบ New Normal ที่เกิดขึ้นในยุคที่มีการระบาดของไวรัสก่อโรค Covid-19 นั้น การสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการติดเชื้อคือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องทำเสมอเวลาออกจากบ้าน แต่เมื่อต้องใส่เป็นประจำทุกวัน หลายคนมักเกิดปัญหาสิว ผดผื่นคัน บริเวณที่ใส่หน้ากากอนามัยตามมา จนเกิดอาการไม่อยากใส่ แต่ยังไงก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อต้องใส่ทุกวันและเกือบจะตลอดเวลาแล้วนั้นก็ทำให้เกิดปัญหาเรื้อรังตามมาได้

ใส่หน้ากากอนามัยแล้วเป็นสิว หรือผิวแพ้มาสก์ เกิดจากอะไร

การเสียดสีของของหน้ากากอนามัยกับผิวหน้า ส่งผลให้เกิดการแพ้ ระคายเคืองได้ โดยเฉพาะผู้ที่ใส่หน้ากากหลายชั้นหรือสวมหมวกกันน็อกทับเวลาขับขี่รถมอเตอร์ไซค์

ความสกปรกภายในมาสก์ เช่น ละอองน้ำลาย เหงื่อ น้ำมันจากผิวหน้า ร่องรอยเครื่องสำอาง ผสมกับความชื้นภายในหน้ากากโดยเฉพาะเวลาอากาศร้อนอบอ้าว แบคทีเรียก็จะมีการเพิ่มจำนวนและเติบโตขึ้นที่รูขุมขนมากขึ้น ทำให้เกิดสิวทั้งอุดตันและอักเสบตามมาได้ง่ายขึ้น

ปัจจัยภายใน เช่น ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งเสริมกับปัจจัยเรื่องการเสียดสี หรือความสกปรกภายในหน้ากาก

เกิดจากมลภาวะหรือ PM2.5 เนื่องจากสารตั้งต้นของ PM2.5 ก่อนจะรวมตัวกับไอน้ำ และฝุ่นควัน คือ ก๊าซพิษ ซึ่งทำตัวเสมือนสารก่อระคายเคืองผิว กระตุ้นการเกิดสิว และทำให้ผิวแพ้ง่าย เป็นที่ทราบกันดีว่า หน้ากากทั่วไปที่เราใส่ ไม่สามารถป้องกัน PM2.5 ได้ และมลภาวะสามารถเข้าทางด้านข้างของหน้ากากได้ด้วยเช่นกัน

หน้ากากอนามัยชนิดใช้แล้วทิ้งบางยี่ห้อที่ผสมสารป้องกันแบคทีเรียบางชนิดที่อาจระคายเคืองผิวได้ หรือเป็นที่ตัววัสดุเอง เช่น ผ้าสปันบอนด์ (spunbond) ซึ่งเป็นผ้าที่เกิดจากการอัดขึ้นรูปจากเส้นใยพลาสติกพวกพอลีโพรพิลีน (Polypropylene) มาประกอบเป็นหน้ากากชั้นนอกและชั้นในเพื่อป้องกันการซึมผ่านของน้ำและละอองฝอยต่างๆ

เกิดจากน้ำหอมจากผลิตภัณฑ์ซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ใช้ซักหน้ากากผ้า ทางที่ดี ควรซักล้างด้วยน้ำสบู่อ่อนๆ หรือผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ไม่มีน้ำหอม

โรคผิวหนังเดิมที่เป็นอยู่ แต่ถูกกระตุ้นให้เป็นมากขึ้นในช่วงที่ใส่หน้ากาก เพราะความอบอ้าว ความชื้น โดย 2 โรคที่พบได้บ่อย เช่น

- โรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย (Rosacea) ซึ่งเป็นภาวะทางผิวหนังที่พบบ่อย โดยจะเกิดรอยแดงและมองเห็นเส้นเลือดบนใบหน้าได้ชัดเจน อาจเกิดตุ่มหนองคล้ายสิวหรือตุ่มสีแดงขนาดเล็ก และอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ตาแห้ง ตาบวมแดงและระคายเคือง เปลือกตาแดง รู้สึกแสบหรือชาที่ผิวหนัง ผิวแห้ง ผิวหยาบ และรูขุมขนกว้าง

- โรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ (Atopic Dermatitis) เป็นอาการของผิวหนังอักเสบเรื้อรังจากปฏิกิริยาภูมิแพ้ ทำให้ผิวแห้ง แดง มีผื่นตามบริเวณต่างๆ และมีอาการคันอย่างต่อเนื่อง บางรายมีตุ่มพอง ซึ่งอาจแตกและมีของเหลวไหลออกมาได้เมื่อถูกเกา
8 วิธี ป้องกันสิวผิวแพ้มาสก์

1. ป้องกันการเสียดสีกับหน้ากาก โดยสามารถสอดแผ่นทิชชู่ที่นุ่มและสะอาดรองบริเวณที่มีการเสียดสีบ่อยๆ

2. หากอากาศร้อนมากๆ ร่างกายจะมีการสร้างเหงื่อและน้ำมันออกมาจากผิวมากขึ้น ความอับชื้นจึงตามมา เราสามารถซับเหงื่อและความมันระหว่างวันได้ก่อนใส่หน้ากากกลับไปที่เดิม

3. ขณะที่ใส่หน้ากากอนามัย หากจำเป็นต้องพูดคุย สามารถรองกระดาษทิชชู่ไว้ที่ปาก หากพูดเสร็จให้ทิ้งทิชชู่นั้น

4. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียดจนเกินไป เพราะปัจจัยเหล่านี้ส่งเสริมการเกิดสิวได้

5. เมื่อกลับถึงบ้าน ควรรีบถอดหน้ากากแล้วล้างหน้าให้สะอาดทันที เพื่อลดการสะสมของสิ่งสกปรกตกค้าง รวมทั้งมลภาวะทางอากาศที่ผ่านเข้าหน้ากากจากด้านข้าง

6. หากมีอาการแพ้หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากชนิดที่ใช้ในการผ่าตัด (กรณีที่ไม่ใช่แพทย์และบุคลากรที่ผ่าตัด) สามารถเปลี่ยนมาใช้หน้ากากผ้า หรือหน้ากากชนิดอื่นๆ แทนได้

7. หากใช้หน้ากากผ้า ควรซักด้วยน้ำยาซักผ้าเด็กหรือน้ำสบู่อ่อน หรือซักด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ซักล้างและปรับผ้านุ่มที่ผสมน้ำหอม

8. หากทำตามทุกวิธีแล้วยังมีสิวขึ้นหรือผื่นภูมิแพ้ อาจเกิดจากโรคผิวหนังเดิมที่เป็นอยู่ ให้หยุดครีมบำรุงผิวทุกชนิดในช่วงแรก งดแต่งหน้า และรีบมาปรึกษาแพทย์ผิวหนังโดยเร็วที่สุด

บทความโดย : พญ. พีรธิดา รัตตกุล แพทย์ผู้ชำนาญสาขาตจวิทยา โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท
#3157


CYANIDE กลับมาทวงบัลลังก์ แร็พเปอร์สาวเดือดจัด ชวน SUNNYBONE และ KHUN OC แร็พทะลุปรอทในเพลง MAI CHOP

คงต้องบอกเลยว่าหลายคนรู้จัก CYANIDE จากบทบาทแร็พเปอร์สาวที่มาพร้อมกับสไตล์การแร็พที่ดุดัน ล่าสุดสาว ไนซ์ หรือไซยาไนด์ ขอกลับมาทวงบัลลังก์ในเพลง MAI CHOP feat. SUNNYBONE & KHUN OC

โดยเพลงนี้ได้ Underground Rapper ที่กำลังมาแรงอย่าง "SUNNYBONE" จากลุ่ม UDT BOY$ และแร๊พเปอร์หนุ่มจากแอตแลนตาที่สายแร็พและฮิปฮอปไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี "KHUN OC" มาร่วมสร้างความความเดือดดาลให้กับเพลงนี้ โปรดิวซ์โดย SPATCHIES โปรดิวเซอร์รุ่นใหม่ ที่เคยฝากผลงานเพลงดังให้กับ YOUNG OHM และ MILLI มาแล้ว การันตีได้เลยว่างานนี้เข้มข้นลงตัวแน่นอน


"การกลับมาครั้งนี้ เราค่อนข้างหายจากการแร็พแบบ Underground ไปนาน อยากได้ฟิลสมัยก่อนที่ทำกันเองชิลชิล เลยได้ออกมาเป็นเพลงนี้ค่ะ บอกตรงๆ เลยว่าเพลงนี้ ไม่คาดหวังอะไรเลยค่ะ แค่อยากปล่อยเพลงในการเป็นตัวของตัวเองและได้ทำงานร่วมกับศิลปินที่ตัวเองชอบ จริงๆ ตอนแรกกะว่าทำเดี่ยว แต่เราอยากได้คนมาแจมเพื่อเพิ่มสีสันให้กับเพลง ก็เลยเป็น "SUNNYBONE" กับ "KHUN OC" ค่ะ อย่าง "SUNNYBONE" เพราะชอบการแร็พและติดตามพี่เค้ามานานแล้วที่สำคัญบ้านเกิดบ้านเดียวกันด้วย ส่วน "KHUN OC" เป็นเพื่อนที่มหา'ลัยเลยอยากเอามาแจมเพิ่มสีสันให้กับเพลงค่ะ"
#3158



"กมลภัทร แสวงกิจ" ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย ดีดี พร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า วิกฤติโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงขึ้นเป็นอุปสรรคสำคัญของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและกระทบภาพรวมการเติบโตของทุกธุรกิจอย่างเลี่ยงไม่ได้

ข้อมูลจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% ต่อปี เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอนสูงและมีแนวโน้มเผชิญความเสี่ยงจากความยืดเยื้อของการแพร่ระบาด อุปสงค์ในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดระลอกล่าสุดส่งผลให้ครัวเรือนจำนวนมากมีปัญหาในการชำระหนี้ เห็นได้จากระดับหนี้ครัวเรือนปัจจุบันสูงถึง 90.5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)

ภาคตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไทย ได้รับผลกระทบไม่น้อย! ทั้งทางตรงจากมาตรการปิดแคมป์คนงานก่อสร้าง และทางอ้อมจากกำลังซื้อผู้บริโภคที่ลดลง แม้ผู้พัฒนาอสังหาฯ จะผลักดันโปรโมชัน สงครามราคา และ ใช้ช่องทางออนไลน์มาลดช่องว่างในการซื้อขาย แต่สภาพคล่องทางการเงินและผลกระทบด้านอาชีพของผู้บริโภคยังเป็นอุปสรรคใหญ่ที่ทำให้จำเป็นต้องชะลอการตัดสินใจซื้อบ้าน คอนโดมิเนียม ออกไปก่อน แม้จะยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยก็ตาม

"แม้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวมเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 42.7 จาก 41.6 ในเดือนก่อนหน้า แต่ผู้บริโภคก็ยังไม่เชื่อมั่นภาวะเศรษฐกิจ จึงวางแผนการเงินอย่างรัดกุมและใช้เวลาในการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยนานขึ้น แนวโน้มดัชนีราคาที่อยู่อาศัยทุกประเภทลดลงต่อเนื่อง และคาดว่าจะไม่ปรับเพิ่มขึ้นในปีนี้ ขณะที่ดัชนีอุปทานเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนถึง 7% สะท้อนว่ายังคงมีสินค้าคงค้างอยู่ในตลาดอีกพอสมควร"

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันผู้ประกอบการได้ปรับแผนเลื่อนการเปิดโครงการใหม่ นักลงทุน และผู้บริโภคที่มีสินค้าอยู่ในมือต่าง "ชะลอการขาย" เพื่อรอผลตอบแทนที่ดีกว่าในช่วงอื่นแทน คาดว่าจำนวนที่อยู่อาศัยในช่วงที่เหลือของปีจะไม่สูงไปกว่านี้ และจะไม่เกิดภาวะล้นตลาด!!


"กุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ตลาดอสังหาฯ ฟื้นตัวเร็วขึ้น คือ การจัดหาและกระจายวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ครอบคลุมประชากรทั่วประเทศเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดไม่ให้รุนแรงมากไปกว่านี้ และภาครัฐควรมีมาตรการเพิ่มเติมช่วยเหลือเยียวยาและพักหนี้ให้ผู้บริโภคที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยในขณะนี้ เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายและขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้กลับมาเติบโตอีกครั้ง"

รายงาน DDproperty Thailand Property Market Index ระบุ ข้อมูลเชิงลึกและวิเคราะห์ทิศทางตลาดอสังหาฯ ไทยไตรมาสล่าสุด พบว่า จากสภาพเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบางต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นปี ส่งผลให้ผู้บริโภคประสบปัญหาทางการเงินและว่างงานมากขึ้น ทำให้ต้องชะลอการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นเร่งด่วนออกไปรวมถึงการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย แม้จะมีสงครามราคาที่อัดความคุ้มค่าเพื่อเปิดโอกาสทองให้ผู้ซื้อมากเพียงใด แต่ด้วยกำลังซื้อที่ค่อนข้างจำกัดจึงไม่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อเท่าที่ควร

จะเห็นได้จากจำนวนที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในไตรมาสล่าสุด ดัชนีอุปทานปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 428 จุด จาก 399 จุด หรือเพิ่มขึ้นถึง 7% จากไตรมาสก่อน และมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 37% จากปีก่อนหน้า ถือเป็นดัชนีอุปทานที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ปี 2558

หากพิจารณาในแต่ละทำเล กรุงเทพฯ ที่มีจำนวนที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบไตรมาส ได้แก่ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา เพิ่มขึ้นถึง 34% ตามมาด้วย แขวงดินแดง เขตดินแดง และแขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง เพิ่มขึ้นในสัดส่วน 11% เท่ากัน

อย่างไรก็ดี สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดระลอกนี้ ส่งผลต่อทิศทางการเติบโตในตลาด ผู้พัฒนาอสังหาฯ ตัดสินใจชะลอการเปิดโครงการใหม่ออกไป เพื่อเร่งระบายสต็อกคงค้าง รวมถึงผู้บริโภคที่มีสินค้าอยู่ในมือก็ชะลอการขายออกไปเพื่อรอจังหวะที่จะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่านี้

"ผลกระทบจากโควิดทำให้มุมมองของผู้บริโภคที่มีต่อบทบาทของที่อยู่อาศัยเปลี่ยนแปลงไป หลายคนต้องใช้เวลาในแต่ละวันที่บ้านมากขึ้น ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคนี้ซึ่งต้องมีพื้นที่ใช้สอยที่เพียงพอและตอบโจทย์การใช้ชีวิตหลากหลายรูปแบบ ทั้งรองรับการเรียนออนไลน์ ทำงานออนไลน์ ทำให้ที่อยู่อาศัยแนวราบยังคงได้รับความสนใจในกลุ่มผู้บริโภคที่กำลังมองหาบ้านอย่างต่อเนื่อง"

แม้ว่า คอนโดจะมีการจัดโปรโมชันออกมากระตุ้นยอดขายจำนวนมาก แต่ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร เห็นได้ชัดจากดัชนีอุปทานล่าสุดที่คอนโดมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนถึง 7% โดยปัจจุบัน คอนโด มีสัดส่วนสูงถึง 87% ของจำนวนอุปทานทั้งหมดในกรุงเทพฯ ขณะที่โครงการที่อยู่อาศัยแนวราบอย่างบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์มีสัดส่วนเพียง 7% และ 5% ตามลำดับ ทั้งนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลให้หลายครอบครัวยังคงเลือกซื้อที่อยู่อาศัยแนวราบมากกว่าเช่นกัน

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/951819
#3159



เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 64 รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยว่า การประเมินตำแหน่ง และ วิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ไม่ได้รับผลกระทบ แม้จะอยู่ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ส่งผลให้ครูต้องปรับรูปแบบจัดการเรียนการสอนออนไลน์ ดังนั้น ก.ค.ศ. ได้ปรับหลักเกณฑ์การประเมิน และทำหนังสือแจ้งแนวปฏิบัติไปยังผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ผู้อำนวยการโรงเรียน รวมถึง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ยืดหยุ่นหลักเกณฑ์การประเมินต่างๆ โดยครูที่เป็นจิตอาสาในช่วงวิกฤตโควิด-19 สามารถนำมาใช้เป็นผลงานในการประเมินได้ ทั้งนี้ ให้สถานศึกษายืดหยุ่นตามสถานการณ์ที่เหมาะสม ส่วนการประเมินผู้อำนวยการสถานศึกษา ให้ใช้การประเมินในแนวทางเดียวกัน

รศ.ดร.ประวิต กล่าวต่อว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงาน ก.ค.ศ.ได้จัดประชุมคณะทำงานดำเนินการนำร่องการประเมินตำแหน่ง และวิทยฐานะ ผ่านระบบออนไลน์ มี น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เข้าร่วม โดยรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ห่วงใยเรื่องการเรียนการสอน และจากการรับฟังปัญหาของครูในพื้นที่ อยากให้มีงบประมาณเข้ามาช่วยเด็กในการเรียนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเด็กที่ขาดแคลน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการ ศธ.รับทราบปัญหา คาดว่าจะมีมาตรการต่างๆ ออกมาเร็วๆ นี้ ทั้งการปรับ และยืดหยุ่นระเบียบการใช้เงินอุดหนุนรายหัว การนับเวลาเรียน การประเมินผลการจัดการเรียน การบริหาร จัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตให้แก่นักเรียน และผู้ปกครอง

"ในส่วนของสำนักงาน ก.ค.ศ.เอง พยายามปรับระเบียบ และหลักเกณฑ์ต่างๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันให้มากที่สุด และเป็นไปตามนโยบาย โดยการประเมินต่างๆ ได้ปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตั้งแต่การแพร่ระบาดในช่วงแรก ถือเป็นการปลดล็อก ไม่ให้กระทบภาพรวมการจัดการเรียนการสอน"

ส่วนความคืบหน้ากรณีข้าราชการครูฯ จำนวน 1,933 ราย ยื่นทบทวนมติคณะกรรมการ ก.ค.ศ.กรณีระบุให้เป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการยื่นขอมีและเลื่อนวิทยฐานะตามเกณฑ์ ว13 เรื่องการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ มีวิทยฐานะ หรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ และวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ซึ่งกรณีนี้ยืดเยื้อ และมีการร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ปี 2561 และ ก.ค.ศ.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ อ.ก.ค.ศ.ได้พิจารณาแล้ว และจะประกาศรายชื่อผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนเร็วๆ นี้ แต่ยังไม่ครบทุกคน เนื่องจาก อ.ก.ค.ศ.ไม่สามารถจัดประชุมได้ เพราะสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด -19 ดังนั้น การทำงานจึงอาจต้องล่าช้าออกไป แต่ ก.ค.ศ.จะเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้เสียสิทธิจากกรณีดังกล่าว ได้รับการพิจารณาจากสำนักงาน ก.ค.ศ.ว่าเป็นผู้ไม่มีคุณสมบัติเข้ารับการประเมินเพื่อขอมี หรือเลื่อนวิทยฐานะ ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ.ที่ ศธ.0206.3/ว13 เรื่องการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ มีวิทยฐานะ หรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ และวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ซึ่งเปิดให้ยื่นตั้งแต่ปี 2559 และได้รับแจ้งผลการประเมินปี 2561 ขณะนั้นผู้ที่ยื่นขอทบทวน 16 ราย ได้เกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2561
#3160



ในขณะที่สายตานับล้านคู่จับจ้องไปที่ สุนิสา ลี นักกีฬายิมนาสติกหญิงดาวรุ่งวัย 18 ปี ซึ่งมีเชื้อสายม้งอเมริกัน ในการเเข่งขันโอลิมปิก2020 ที่กรุงโตเกียวของญี่ปุ่น ครอบครัวของเธอที่รัฐมินนิโซตา กำลังลุ้นอย่างเต็มที่เช่นกัน จนกระทั่งได้สมหวังในที่สุด

สุนิสา สร้างชื่อให้กับตัวเองและทีมสหรัฐ หลังคว้าเหรียญทองประเภทบุคคลรวมอุปกรณ์มาครองได้สำเร็จ ในฐานะตัวแทนของสหรัฐเมื่อวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา สร้างประวัติศาสตร์เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายม้งคนแรกที่คว้าเหรียญทองให้กับทีมสหรัฐ


นี่ถือเป็นฟอร์มร้อนแรงต่อเนื่องของนักยิมนาสติกสาวดาวรุ่ง โดยก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน สุนิสาคว้าเหรียญเงินกับให้กับทีมชาติสหรัฐในการแข่งขันยิมนาสติก ประเภททีมรวมอุปกรณ์

ก่อนเปิดฉากโอลิมปิกครั้งนี้ สุนิสาถือเป็นความหวังของครอบครัวและชุมชนชาวม้งในสหรัฐ ในฐานะนักยิมนาสติกหญิงอายุน้อยที่สุดที่เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกที่กรุงโตเกียว

- สุนิสากอดฉลองกับโค้ช หลังคว้าเหรียญทองเหรียญแรก (29 ก.ค.) -

เกิดและโตในมินนิโซตา

สำหรับประวัติของสุนิสาถือว่าโดดเด่นและน่าสนใจไม่น้อย เธอเกิดเมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2546 ในเมืองเซนต์พอล รัฐมินนิโซตา ซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนม้งขนาดใหญ่ในอเมริกาที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานตั้งแต่ยุคหลังสงครามเวียดนาม และสุนิสาก็ใช้ชีวิตเติบโตในเมืองเซนต์พอลมาจนถึงปัจจุบัน


นอกจากรัฐมินนิโซตาจะเป็นถิ่นฐานขนาดใหญ่ของชาวม้งในสหรัฐ ซึ่งคาดว่ามีประชากรถึง 80,000 คนแล้ว ยังเป็นที่ที่แม่ของสุนิสาได้พบรักกับพ่อบุญธรรมขณะสุนิสาอายุเพียง 2 ขวบในปี 2548 ด้วย


- ฮัว จอห์น ลี (ซ้าย) พ่อบุญธรรม และ ยีฟ ทอจ (กลาง) แม่บังเกิดเกล้าของสุนิสา -

แม่ของสุนิสาเป็นชาวม้งชื่อ ยีฟ ทอจ (Yeev Thoj) และพ่อบุญธรรมเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายม้งเช่นกัน ชื่อ ฮัว จอห์น ลี (Houa John Lee) ซึ่งคอยเลี้ยงดูสุนิสาตั้งแต่เด็ก ๆ และเมื่อโตขึ้น สุนิสาก็ตัดสินใจใช้นามสกุล ลี ตามพ่อบุญธรรม

แม้ว่าจอห์น ลี มีลูกติด 2 คนจากอดีตภรรยาชื่อว่า โจนาห์และไชเอนน์ แต่ลูก ๆ ทั้ง 3 คนรวมถึงสุนิสา ต่างรักใคร่กลมเกลียวกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะไชเอนน์ที่อายุห่างกับสุนิสาเพียง 12 วัน มีหน้าตาคล้ายกับสุนิสาจนเพื่อนร่วมชั้นเรียนเคยเข้าใจผิดว่าทั้งคู่เป็นฝาแฝด

ลี้ภัยสงครามข้ามแปซิฟิก

ทั้งพ่อบุญธรรมและแม่ของสุนิสาต่างเกิดในลาวในยุคสงครามเวียดนาม ซึ่งสมัยนั้น กลุ่มชาติพันธุ์ม้งร่วมรบเคียงไหล่กับทหารอเมริกันในลาว แต่นั่นก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่ต้องจ่าย

มีชาวม้งหลายหมื่นคนเสียชีวิตในสงครามเวียดนาม หรือถูกรัฐบาลลาวสังหาร หลังจากกองทัพสหรัฐถอนทัพกลับประเทศ

ครอบครัวชาวม้งของพ่อและแม่สุนิสาสมัยที่ทั้งคู่ยังเด็ก ได้เสี่ยงอันตรายหนีออกจากลาวข้ามแม่น้ำโขงมาอยู่ที่ค่ายผู้ลี้ภัยในประเทศไทยอยู่ช่วงหนึ่ง ก่อนลี้ภัยไปตั้งรกรากในในรัฐมินนิโซตาและเติบโตที่นั่น

"เมื่อสหรัฐถอนทัพออกจากลาว สงครามยังไม่จบลงในทันที" จอห์น ลี พ่อบุญธรรมสุนิสาเล่าถึงความทรงจำอันขมขื่น "ผู้คนจำต้องหนีไปประเทศไทยเพื่อความปลอดภัย และเพื่อโอกาสมีชีวิตที่ดีกว่า"

จนกระทั่ง จอห์น ลี ย้ายไปอยู่สหรัฐตอนอายุ 7 ปี เมื่อปี 2522 ส่วนแม่สุนิสาย้ายไปสหรัฐตอนอายุ 12 ปี เมื่อปี 2530

ปัจจุบัน ยีฟ เเม่ของสุนิสา ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยด้านการเเพทย์ ส่วนจอห์น ลี พ่อของสุนิสา ทำงานด้านวิศวกรรมที่บริษัท Cummins Power Generation 

เห็นแววยิมนาสติกตั้งแต่เล็ก

ทั้งพ่อบุญธรรมและเเม่ของสุนิสาชอบกีฬาเหมือนกัน ซึ่งความรักในกีฬาเป็นสิ่งที่ทั้งสองปลูกฝังให้ลูก ๆ แม้ปัจจุบัน พ่อของสุนิสาเป็นอัมพาตตั้งแต่ช่วงหน้าอกลงไป หลังประสบอุบัติเหตุตกบันไดเมื่อ 2 ปีก่อน ทำให้ต้องนั่งรถเข็นตั้งแต่นั้นมา


เเม่ของสุนิสา ให้สัมภาษณ์กับ VOA ภาคภาษาลาวว่า ในฐานะผู้ปกครอง เธอสอนให้สุนิสา หรือชื่อเล่นว่า สุนิ (Suni) มีวินัย เป็นเด็กดี และว่า สุนิชอบทำกิจกรรมหลายอย่าง


ยีฟ บอกด้วยว่า สุนิมีพรสวรรค์ตั้งเเต่เด็กในกีฬายิมนาสติกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เเละเมื่อได้เเรงกระตุ้นด้านวินัย จึงทำให้เก่งขึ้นในกีฬานี้ เเละมีความพร้อมในด้านอื่น ๆ เมื่อโตขึ้นมา

สำหรับที่มาของชื่อ สุนิสา ยีฟเปิดเผยกับ ESPN ว่า ตั้งชื่อลูกสาวตามนักแสดงละครไทยคนหนึ่งที่ตนชื่นชอบในยุคนั้น และจับลูกเรียนยิมนาสติกตั้งแต่เล็ก ๆ หลังเห็นแววจากการโชว์ท่าตีลังกากลับหลังบ่อยครั้ง ขณะเล่นซุกซนตามประสา

ตั้งเป้าสูงเพื่อให้พ่อภูมิใจ

แน่นอนว่า สิ่งหนึ่งที่สุนิสาทำตามเป้าหมายได้สำเร็จในฐานะนักยิมนาสติก คือ การร่วมแข่งขันและคว้าเหรียญโอลิมปิก2020 ซึ่งถึงแม้เธอจะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยกับการที่มีเหตุการณ์โควิด-19 ระบาด จนมหกรรมกีฬานี้ต้องเลื่อนมา 1 ปี แต่เธอประกาศเมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมาว่า "กำหนดการเปลี่ยน แต่เป้าหมายไม่เปลี่ยน"

คำพูดครั้งนั้นเป็นเครื่องยืนยันว่า เหรียญทองโอลิมปิก คือเป้าหมายต่อไปในชีวิตของสุนิสา เพราะความฝันนี้เป็นสิ่งที่พ่อและเธอตั้งเป้าหมายร่วมกันมาตลอด 10 ปี หรือนับตั้งแต่วันแรกที่เธอเริ่มเรียนยิมนาสติก


"มันไม่ใช่แค่ฝันของฉัน มันคือฝันที่พ่อกับฉันตั้งเอาไว้ร่วมกัน มันจึงมีความหมายมาก ฉันอยากทำมันให้สำเร็จอีก ฉันอยากให้พ่อภูมิใจ เพราะเขาคือคนที่สนับสนุนฉันมา ตั้งแต่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันจะทำได้ดีหรือไม่กับทางเดินนี้" สุนิสาพูดถึงเบื้องหลังการตั้งเป้าหมายก่อนเดินทางไปโตเกียว

ส่วน จอห์น ลี เปิดใจกับสื่อก่อนลูกสาวเข้าร่วมทีมชุดลุยโอลิมปิก2020 ว่า ไม่ว่าผลการเเข่งขันจะเป็นอย่างไร การที่สุนิเป็นชาวม้งอเมริกันคนเเรกในการเเข่งโอลิมปิกให้กับประเทศสหรัฐ ก็ถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ให้กับประเทศไปเรียบร้อยเเล้ว

หลังจากคว้า 1 เหรียญทองและ 1 เหรียญเงิน (ณ วันที่ 29 ก.ค.) สุนิสายังมีโอกาสเก็บเหรียญโอลิมปิกเพิ่มจากการแข่งขันช่วงวันที่ 1 ส.ค. และ 3 ส.ค.นี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ไม่น้อยที่เธอจะได้เหรียญรางวัลมาครองอีกครั้งก่อนกลับแผ่นดินสหรัฐ

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/951839