• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Hanako5

#4561
ผู้นำฮ่องกงวอนปชช.อย่าตื่นตระหนก หลังแห่ตุนสินค้าจากข่าวลือล็อกดาวน์

นางแคร์รี ลัม ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงเรียกร้องให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก หลังจากพากันแห่กักตุนสินค้าขณะที่มีรายงานข่าวว่าฮ่องกงจะดำเนินการบังคับตรวจหาเชื้อโควิด-19 รวมถึงข่าวลือเรื่องการล็อกดาวน์

หนังสือพิมพ์ชิงเต่ารายงานว่า ฮ่องกงอาจเริ่มดำเนินการบังคับตรวจหาเชื้อโควิด-19 หลังจากวันที่ 17 มี.ค. ซึ่งสร้างความกังวลว่าหลายคนจะถูกบังคับให้กักตัว โดยครอบครัวที่มีสมาชิกที่ติดโควิดจะต้องถูกแยกออกจากกัน

แถลงการณ์ของนางลัมระบุว่า นางลัมวอนให้ประชาชนอย่าตกเป็นเหยื่อของข่าวลือเพื่อหลีกเลี่ยงความหวาดกลัวที่ถูกปลุกปั่นโดยไม่จำเป็น ขณะที่อุปทานของอาหารและสินค้าก็ยังคงปกติ

นางลัมกล่าวว่า "ประชาชนไม่จำเป็นต้องเป็นกังวล พวกเขาควรระมัดระวังและให้ความสำคัญกับข้อมูลที่เผยแพร่โดยรัฐบาล เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดที่เกิดจากข่าวลือ"

รายงานข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่ฮ่องกงกำลังวางแผนที่จะตรวจหาเชื้อโควิดแก่ประชาชน 7.4 ล้านรายจำนวน 3 ครั้งภายในระยะเวลา 9 วัน โดยรัฐบาลแนะนำให้ประชาชนอยู่บ้านในช่วงเวลาดังกล่าว

มาตรการดังกล่าวจะยกเว้นสำหรับผู้ที่เดินทางออกไปซื้ออาหาร, เข้ารับการรักษาทางการแพทย์ และดูแลการดำเนินงานทางสังคม ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกงก็จะยังคงเปิดดำเนินการ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ฮ่องกงรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น 34 เท่า แตะ 34,000 รายเมื่อวันจันทร์ (28 ก.พ.) จากเพียง 100 รายเมื่อต้นเดือนก.พ. ขณะที่ผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นด้วย ส่งผลให้สถานที่เก็บศพในโรงพยาบาลและสุสานเต็มหมด

 
#4562
ทริสฯ คงอันดับเครดิตองค์กร GUNKUL ที่ BBB+ แนวโน้ม Stable

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) ที่ระดับ "BBB+" ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่"

อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงความมั่นคงของกำไรจากธุรกิจผลิตไฟฟ้า ความสามารถในการแข่งขันที่แข็งแกร่งในธุรกิจอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้า ตลอดจนประโยชน์ที่ได้รับจากการดำเนินธุรกิจแบบครบวงจรหรือบูรณาการในแนวดิ่ง (Vertical Integration) อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตถูกลดทอนจากสภาวะแวดล้อมของอุตสาหกรรมไฟฟ้าที่มีความท้าทายมากขึ้นรวมถึงความเสี่ยงต่าง ๆ จากธุรกิจอื่นที่ไม่ใช่การผลิตไฟฟ้า อันดับเครดิตยังพิจารณาถึงความเสี่ยงในการดำเนินการของธุรกิจกัญชงและกัญชาซึ่งเป็นการลงทุนใหม่ของบริษัทอีกด้วย

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

ความมั่นคงของกำไรจากธุรกิจผลิตไฟฟ้า อันดับเครดิตสะท้อนถึงความมั่นคงของกระแสเงินสดจากธุรกิจผลิตไฟฟ้าที่เป็นศูนย์กลางกำไรและการลงทุนของบริษัทเป็นสำคัญ ทั้งนี้ บริษัทเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมมากกว่า 100 แห่งในหลายพื้นที่ซึ่งช่วยลดการพึ่งพิงผลการดำเนินงานของโครงการใดโครงการหนึ่งหรือเพียงไม่กี่โครงการลงได้ ปัจจุบันกำลังการผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเมื่อคิดตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 640 เมกะวัตต์
พลังงานแสงอาทิตย์ยังคงเป็นองค์ประกอบหลักของสินทรัพย์ที่ผลิตไฟฟ้าของบริษัทโดยมีสัดส่วนเกือบ 75% ของกำลังการผลิตรวม ด้วยความเสี่ยงในการดำเนินงานที่อยู่ในระดับต่ำ พลังงานแสงอาทิตย์ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นพลังงานที่ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ตามที่คาดการณ์และสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคง นอกจากนี้ ธุรกิจผลิตไฟฟ้าของบริษัทยังมีความเสี่ยงในการชำระเงินในระดับต่ำ โดยโรงไฟฟ้าของบริษัทส่วนใหญ่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับผู้ผลิตและผู้จ่ายกระแสไฟฟ้าที่เป็นหน่วยงานภาครัฐ

นอกจากนี้ บริษัทยังทำการขยายการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาโดยจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ภาคเอกชนอีกด้วย ซึ่งผู้ซื้อไฟฟ้าภาคเอกชนส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่มีสถานะด้านเครดิตในระดับที่ยอมรับได้ ณ เดือนธันวาคม 2564 บริษัทมีกำลังการผลิตภายใต้รูปแบบดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 15% ของกำลังการผลิตรวมของบริษัท

มีความเสี่ยงประเทศเพิ่มขึ้นจากการลงทุนในต่างประเทศ บริษัทขยายธุรกิจในต่างประเทศโดยลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จำนวน 4 แห่งในประเทศเวียดนามซึ่งมีกำลังผลิตไฟฟ้าคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 4 ของกำลังการผลิตรวมของบริษัทหรือ 160 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ การลงทุนในประเทศเวียดนามคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของสินทรัพย์รวมของบริษัท
แม้ว่าความต้องการไฟฟ้าในประเทศเวียดนามจะมีอัตราการเติบโตสูง แต่การลงทุนในเวียดนามก็มีความเสี่ยงจากประเทศที่ค่อนข้างสูงเช่นกัน โดยทริสเรทติ้งมองว่าสถานะเครดิตของการไฟฟ้าเวียดนาม (Vietnam Electricity - EVN) นั้นไม่แข็งแกร่งเท่ากับสถานะเครดิตของผู้รับซื้อไฟฟ้าภาครัฐในประเทศไทย

โรงไฟฟ้าจะยังมีผลการดำเนินงานเป็นไปตามคาด ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของบริษัทสามารถผลิตไฟฟ้าในแต่ละปีได้ในระดับปริมาณที่คาดว่าจะผลิตได้ตามความน่าจะเป็นที่ 50% (ระดับ P50) ในขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานลมอยู่ที่ระดับ P75
ทริสเรทติ้งเชื่อว่าโรงไฟฟ้าที่จ่ายไฟแล้วของบริษัทจะยังคงมีผลการดำเนินงานเป็นไปตามคาดอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ของทั้งโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมของบริษัทนั้นน่าจะทรงตัวอยู่ในระดับที่น่าพอใจเกินกว่า 80% ตลอดในช่วง 3 ปีข้างหน้า

สภาวะแวดล้อมทางธุรกิจมีความท้าทายมากยิ่งขึ้น ในมุมองของทริสเรทติ้ง ธุรกิจผลิตไฟฟ้าในประเทศไทยมีความท้าทายมากยิ่งขึ้น โดยการแข่งขันมีความรุนแรงสูงขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจากนโยบายเปิดเสรีของภาครัฐเพื่อจำกัดต้นทุนค่าไฟฟ้า บริษัทเอกชนต่าง ๆ ตั้งแต่ผู้ประกอบการขนาดเล็กมากไปจนถึงผู้ประกอบการขนาดใหญ่ต่างก็ขยายกิจการเข้าสู่ธุรกิจผลิตไฟฟ้า
ในขณะที่อุปสงค์ในการใช้ไฟฟ้ามีแนวโน้มเติบโตเพียงเล็กน้อยจากผลของการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ ประเทศไทยก็กำลังประสบกับปัญหากำลังการผลิตไฟฟ้าสำรองส่วนเกินจำนวนมาก ขณะที่บริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าในไทยเองก็หันไปลงทุนในต่างประเทศกันมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การขยายธุรกิจไปในต่างประเทศก็มีความเสี่ยงที่สูงกว่าอันเนื่องมาจากความโปร่งใสและความต่อเนื่องของกฎระเบียบของประเทศที่ไปลงทุน รวมถึงสถานะเครดิตของผู้รับซื้อไฟฟ้า และความท้าทายด้านสภาวะแวดล้อมอีกด้วย นอกจากนี้ บริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าก็กำลังกระจายความเสี่ยงไปยังธุรกิจอื่นที่ไม่ใช่การผลิตไฟฟ้าซึ่งทำให้บริษัทเหล่านี้เผชิญกับความเสี่ยงที่สูงขึ้น

มีความสามารถในการแข่งขันที่แข็งแกร่งในธุรกิจอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้า สำหรับธุรกิจจัดหาและผลิตอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้านั้น ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะยังคงรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันเอาไว้ได้แม้การแข่งขันจะมีความรุนแรงมากขึ้นจนส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทลดลงในช่วงที่ผ่านมาก็ตาม ทั้งนี้ ความสามารถในการแข่งขันของบริษัทนั้นเกิดจากการที่บริษัทมีสินค้าที่มีความหลากหลายครอบคลุมทุกขั้นตอนของระบบการส่งและจำหน่ายไฟฟ้า บริษัทจำหน่ายสินค้าให้แก่ลูกค้าทั้งภาครัฐและภาคเอกชนมายาวนานกว่า 3 ทศวรรษ โดยทริสเรทติ้งคาดว่าธุรกิจอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้าจะสร้างรายได้ปีละประมาณ 1.5 พันล้านบาทในช่วงปี 2565-2567
บูรณาการในแนวดิ่งช่วยสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจ ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะยังคงได้ประโยชน์จากการดำเนินธุรกิจแบบครบวงจรเนื่องจากธุรกิจทั้ง 3 กลุ่มของบริษัทในปัจจุบันซึ่งประกอบไปด้วยธุรกิจอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้า ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และธุรกิจผลิตไฟฟ้านั้นมีส่วนส่งเสริมซึ่งกันและกันโดยธรรมชาติ ในฐานะผู้รับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้าและผู้จัดหาอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้า บริษัทสามารถให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (One-stop Service) แก่เจ้าของโครงการซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มยอดขายอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้า อีกทั้งยังทำให้บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนการก่อสร้างได้ดียิ่งขึ้นด้วย
การขยายธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ทริสเรทติ้งเชื่อว่าบริษัทจะยังคงสร้างผลงานก่อสร้างอย่างต่อเนื่องจากแผนของบริษัทในการนำบริษัทย่อยที่ทำธุรกิจก่อสร้างเข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน โดยทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างของบริษัทจะมีแนวโน้มเติบโตได้จากโครงการโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ของภาครัฐ เช่น สถานีไฟฟ้าย่อยและการนำสายสื่อสารและสายเคเบิลลงดิน
ณ เดือนธันวาคม 2564 งานในมือของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 3.2 พันล้านบาท ซึ่งทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมีรายได้จากงานก่อสร้างปีละ 2-3 พันล้านบาทในช่วงปี 2565-2567 เพิ่มขึ้นจากประมาณ 2 พันล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2563-2564 อย่างไรก็ตาม กำไรจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างก็มีความผันผวนจากความเสี่ยงหลายประการ เช่น การแข่งขันที่รุนแรง ความล่าช้าในการประมูลงานและว่าจ้าง รวมถึงการชะลอโครงการที่ไม่คาดคิดและต้นทุนโครงการที่สูงกว่าคาด นอกจากนี้ สัญญาก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ขึ้นก็จะสร้างความท้าท้ายต่อการควบคุมต้นทุนและการจัดการด้านทุนหมุนเวียนของบริษัทอีกด้วย ทั้งนี้ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมักจะให้อัตรากำไรที่ต่ำกว่าธุรกิจผลิตไฟฟ้า

การลงทุนใหม่ในธุรกิจกัญชงและกัญชา บริษัทกำลังลงทุนในธุรกิจใหม่ในการปลูกและผลิตกัญชงและกัญชา โดยบริษัททำการปลูกกัญชงเพื่อจะผลิตสินค้าต้นน้ำและกลางน้ำ เช่น ช่อดอกแห้ง น้ำมันซีบีดีแบบเต็มสเป็คตรัม และสารสกัดซีบีดี บริษัทใช้พื้นที่ว่างของโครงการพลังงานลมแห่งหนึ่งสำหรับเป็นพื้นที่เพาะปลูกกัญชงและโรงสกัด และบริษัทคาดว่าจะเก็บเกี่ยวช่อดอกแห้งได้ประมาณ 1,100 กิโลกรัมต่อวันในปี 2565 ซึ่งเป็นปีแรกของการดำเนินงาน
นอกจากนี้ บริษัทเพิ่งซื้อหุ้นในสัดส่วน 50% ใน บริษัท ทีเอชซีจี กรุ๊ป จำกัด (THCG) โดย THCG มีประสบการณ์ประมาณ 2 ปีในการผลิตกัญชงและกัญชา และมีสัญญาซื้อขายช่อดอกแห้งกับองค์การเภสัชกรรม THCG ยังกำลังพัฒนาสินค้าที่มีส่วนประกอบของซีบีดีเป็นพื้นฐานในหลายรูปแบบอีกด้วย

ความเสี่ยงจากธุรกิจใหม่ บริษัทมองว่าสินค้ากัญชงและกัญชามีโอกาสเติบโตสูงจากอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ธุรกิจใหม่ดังกล่าวยังคงต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการดำเนินการต่าง ๆ โดยธุรกิจใหม่นี้ยังอยู่ในช่วงแรกของการพัฒนาและยังคงอยู่ระหว่างขอใบอนุญาตที่เกี่ยวข้อง รวมถึงต้องใช้เทคนิคในการปลูกที่เฉพาะเจาะจงเพื่อให้ได้ผลผลิตที่น่าพอใจ บริษัทวางแผนจะเน้นสินค้าเกรดพรีเมี่ยมซึ่งจำเป็นต้องใช้กระบวนการผลิตที่มีความซับซ้อนแม้ว่าบริษัทเองจะยังไม่มีฐานการตลาดมาก่อนก็ตาม
แม้จะต้องเผชิญกับความเสี่ยงต่าง ๆ แต่เงินลงทุนของบริษัทในธุรกิจกัญชงและกัญชาก็น่าจะอยู่ที่เพียงประมาณ 2 พันล้านบาทซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 4%-5% ของสินทรัพย์รวมเท่านั้น เงินลงทุนรวมจึงไม่น่าจะกดดันสถานะทางการเงินของบริษัทในช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยผลการดำเนินงานของธุรกิจใหม่ดังกล่าวยังจำเป็นต้องได้รับการพิสูจน์ในระยะยาว ทั้งนี้ จากการไม่มีประวัติการดำเนินงานมาก่อนทริสเรทติ้งจึงคาดการณ์อย่างระมัดระวังว่าธุรกิจใหม่นี้จะสร้างรายได้ปีละ 0.4-2 พันล้านบาทในช่วงปี 2565-2567

รายได้และกำไรน่าจะยังเพิ่มสูงขึ้น ทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งนี้ ธุรกิจผลิตไฟฟ้าจะยังสร้างรายได้หลักให้แก่บริษัทจำนวนปีละ 5-5.5 พันล้านบาทในช่วงปี 2565-2567 โดยการเติบโตน่าจะมาจากโครงการพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาภายใต้สัญญาซื้อขายกับภาคเอกชนในประเทศไทย ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมีกำลังการผลิตใหม่จากโครงการดังกล่าวจำนวน 150 เมกะวัตต์ในช่วงปี 2565-2567 ซึ่งจะช่วยให้กำลังการผลิตรวมของโครงการโรงไฟฟ้าของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 800 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งยังไม่ได้รวมโอกาสในการเข้าซื้อโครงการต่าง ๆ ที่จ่ายไฟแล้วเนื่องจากยังมีความไม่แน่นอน เมื่อรวมรายได้จากธุรกิจอื่น ๆ เข้าไปด้วยจะทำให้รายได้จากการดำเนินงานรวมและกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 1.2 หมื่นล้านบาทและ 5.5 พันล้านบาทตามลำดับในปี 2567 ขณะที่อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ของบริษัทน่าจะทรงตัวอยู่ในระดับ 40%-50% ในช่วงปี 2565-2567

ความสามารถในการชำระหนี้จะยังคงแข็งแรง ทริสเรทติ้งคาดว่าความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทจะยังคงแข็งแรงในช่วง 3 ปีข้างหน้า เนื่องจากบริษัทมีแนวโน้มจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการที่ใช้ระยะเวลาพัฒนาไม่นาน เช่น โครงการพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาภายใต้สัญญาซื้อขายกับภาคเอกชน และการซื้อโครงการที่จ่ายไฟแล้วหรือกำลังจะจ่ายไฟ ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการลงทุนได้ทันที นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังเห็นว่าฐานกำไรในปัจจุบันของบริษัทจะช่วยสนับสนุนการขยายการลงทุนใหม่ได้ในกรณีที่ต้องลงทุนตั้งแต่เริ่มแรก
ทริสเรทติ้งคาดว่าเงินลงทุนรวมจะอยู่ในช่วง 1.5-3 พันล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2565-2567 ขณะที่หนี้สินทางการเงินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายจะอยู่ที่ประมาณ 5 เท่าและอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนจะอยู่ในช่วง 60-70% ในช่วงประมาณการ

โครงสร้างหนี้ ณ เดือนธันวาคม 2564 หนี้เงินกู้รวมของบริษัทมีจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาทซึ่งจำนวน 1.7 หมื่นล้านบาทถือเป็นหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อน (Priority Debt) ประกอบด้วยหนี้เงินกู้ที่มีหลักประกันของบริษัทและหนี้เงินกู้ทั้งหมดของบริษัทย่อย ทำให้อัตราส่วนหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อนต่อหนี้สินรวมของบริษัทอยู่ที่ระดับ 69% ส่งผลให้เจ้าหนี้ที่ไม่มีหลักประกันของบริษัทมีความด้อยสิทธิกว่าเจ้าหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อนอย่างมีนัยสำคัญเมื่อพิจารณาจากลำดับสิทธิเรียกร้องในสินทรัพย์ของบริษัท
สภาพคล่องยังคงบริหารจัดการได้ ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะจัดการกับสภาพคล่องได้อย่างเหมาะสม โดยหนี้ของบริษัทประมาณ 6.2 พันล้านบาทจะครบกำหนดในปี 2565 นี้ ในขณะที่ ณ เดือนธันวาคม 2564 บริษัทยังมีวงเงินกู้ที่ยังไม่ได้เบิกใช้รวมกับเงินสดและหลักทรัพย์ในความต้องการของตลาดอีกเกือบ 9 พันล้านบาทซึ่งน่าจะเพียงพอรองรับภาระหนี้ที่จะครบกำหนดได้ทั้งจำนวน ทั้งนี้ บริษัทวางแผนจะออกหุ้นกู้ชุดใหม่และ/หรือจัดหาวงเงินจากธนาคารเพิ่มเติมเพื่อทดแทนหุ้นกู้จำนวนประมาณ 2.8 พันล้านบาทที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนกรกฎาคม 2565 นี้
ข้อกำหนดทางการเงินที่สำคัญของหุ้นกู้ระบุให้บริษัทต้องดำรงอัตราส่วนเงินกู้ที่มีดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนทุนไม่ให้เกิน 3 เท่า ซึ่ง ณ เดือนธันวาคม 2564 บริษัทปฏิบัติได้ตามข้อกำหนดเนื่องจากอัตราส่วนดังกล่าวของบริษัทอยู่ที่ 1.8 เท่า ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งเชื่อว่าบริษัทจะยังคงสามารถปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อกำหนดทางการเงินดังกล่าวต่อไปได้ตลอดช่วงประมาณการ

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

กำลังการผลิตรวมตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 800 เมกะวัตต์ในอีก 3 ปีข้างหน้า
บริษัทจะได้รับสัญญาก่อสร้างใหม่จำนวน 2 พันล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2565-2567
รายได้จากการดำเนินงานรวมจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.2 หมื่นล้านบาทในปี 2567
อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้จะอยู่ระหว่าง 40%-50%
เงินลงทุนรวมจะอยู่ในช่วง 1.5-3 พันล้านบาทต่อปี
แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่าโรงไฟฟ้าของบริษัทซึ่งช่วยหนุนการเติบโตให้กับผลกำไรจะมีผลการดำเนินงานที่น่าพอใจและสร้างกระแสเงินสดจำนวนมากและมั่นคงได้ตามที่วางแผนไว้ ในขณะที่ธุรกิจอื่น ๆ ของบริษัทจะยังคงมีผลการดำเนินงานที่น่าพอใจในช่วงประมาณการ นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดด้วยว่ากำไรและความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทจะยังคงสอดคล้องกับประมาณการของทริสเรทติ้ง

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง การปรับเพิ่มอันดับเครดิตอาจเกิดขึ้นได้หากกำไร กระแสเงินสดเมื่อเทียบกับภาระหนี้ และโครงสร้างเงินทุนของบริษัทปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยธุรกิจผลิตไฟฟ้ายังคงเป็นธุรกิจหลักในการสร้างกระแสเงินสดให้แก่บริษัท ในทางตรงกันข้าม อันดับเครดิตอาจได้รับการปรับลดลงได้หากสถานะทางการเงินของบริษัทถดถอยลงอย่างมีสาระสำคัญ ซึ่งเหตุดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้หากผลการดำเนินงานของโครงการโรงไฟฟ้าต่าง ๆ ต่ำกว่าการคาดการณ์หรือเป้าหมายที่วางไว้อย่างมาก หรือบริษัทมีการลงทุนขนาดใหญ่โดยการก่อหนี้จำนวนมาก
#4564
ดัชนี SET ต้นภาคเช้าร่วงกว่า 10 จุด วิตกรัสเซียโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยูเครน

ตลาดหุ้นไทยต้นภาคเช้าร่วงไปกว่า 10 จุด วิตกสถานการณ์ความขัดแย้งของรัสเซียและยูเครนทวีความรุนแรงมากขึ้น จากล่าสุดรัสเซียได้รุกเข้าโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของยูเครน ส่งผลเป็นลบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก

เมื่อเวลา 10.00 น.ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,683.87 จุด ลดลง 12.21 จุด (-0.72%)

เมื่อเวลา 10.10 น. ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,684.05 จุด ลดลง 12.03 จุด (-0.71%)

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงมาจากความวิตกรายงานข่าวโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในยูเครนเกิดเพลิงไหม้หลังทหารของรัสเซียได้เข้าโจมตีในพื้นที่ดังกล่าว โดยตลาดเอเชียรับ Sentiment เชิงลบ เพราะปัจจัยนี้กลายเป็นเงื่อนไขใหม่ ขณะที่วันนี้เป็นวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์นี้นักลงทุนเลือกขายออกไปก่อนเพื่อลดความเสี่ยง เนื่องจากยังไม่ชัดเจนว่าองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) จะมีท่าทีตอบโต้รัสเซียอย่างไร

ในช่วงต่อไปคาดตลาดหุ้นไทยก็ยังลบ แต่ก็อาจมีลุ้นช่วงบ่ายฟื้นตัวได้บ้างจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่จะเข้ามาช่วยพยุงดัชนี โดยให้แนวรับที่ 1,670 และ 1,680 จุด แนวต้านที่ 1,700 จุด
#4565
ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 3 มี.ค. 2565-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (3 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน รวมทั้งผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการที่รัสเซียถูกนานาประเทศคว่ำบาตรฐานใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,794.66 จุด ลดลง 96.69 จุด หรือ -0.29%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,363.49 จุด ลดลง 23.05 จุด หรือ -0.53% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,537.94 จุด ลดลง 214.08 จุด หรือ -1.56%-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี (3 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียกดดันบรรยากาศการซื้อขายหุ้น แม้การทะยานขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ก็ตามดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 437.36 จุด ลดลง 8.97 จุด หรือ -2.01%ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,378.37 จุด ลดลง 119.65 จุด หรือ -1.84%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,698.40 จุด ลดลง 301.71 จุด หรือ -2.16% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,238.85 จุด ลดลง 190.71 จุด หรือ -2.57%-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี (3 มี.ค.) โดยราคาน้ำมันดิบที่ผันผวนถ่วงหุ้นกลุ่มน้ำมันร่วงลงอย่างหนัก ขณะที่นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับผลกระทบของวิกฤตการณ์ในยูเครนดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,238.85 จุด ลดลง 190.71 จุด หรือ -2.57%-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (3 มี.ค.) หลังมีสัญญาณบ่งชี้ถึงความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งอาจปูทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันสู่ตลาดโลกทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 2.93 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 107.67 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 2.47 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 110.46 ดอลลาร์/บาร์เรล-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (3 มี.ค.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ยูเครนและภาวะเงินเฟ้อเป็นปัจจัยผลักดันให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่สัญญาพัลลาเดียมพุ่งขึ้นเกือบ 2.5% ท่ามกลางความกังวลที่ว่า อุปทานพัลลาเดียมจะได้รับผลกระทบจากการที่นานาประเทศประกาศคว่ำบาตรรัสเซียซึ่งเป็นผู้ผลิตพัลลาเดียมรายใหญ่ของโลกสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 13.6 ดอลลาร์ หรือ 0.71% ปิดที่ 1,935.9 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 2.2 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 25.212 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 12.8 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 1,080.8 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 65.90 ดอลลาร์ หรือ 2.47% ปิดที่ 2730.80 ดอลลาร์/ออนซ์-- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (3 มี.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงยอดคำสั่งซื้อภาคโรงงานที่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนม.ค. ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.41% แตะที่ 97.7860ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2681 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2651 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 115.42 เยน จากระดับ 115.55 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9190 ฟรังก์ จากระดับ 0.9204 ฟรังก์ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1062 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1123 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3337 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3372 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7326 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7298 ดอลลาร์สหรัฐดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 33,794.66 จุด ลดลง 96.69 จุด, -0.29%ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,363.49 จุด ลดลง 23.05 จุด, -0.53%ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 13,537.94 จุด ลดลง 214.08 จุด, -1.56%ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,238.85 จุด ลดลง 190.71 จุด, -2.57%ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,378.37 จุด ลดลง 119.65 จุด, -1.84%ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,698.40 จุด ลดลง 301.71 จุด, -2.16%ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 55,102.68 จุด ลดลง 366.22 จุด, -0.66%ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,618.54 จุด เพิ่มขึ้น 20.44 จุด, +1.28%ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,388.09 จุด เพิ่มขึ้น 84.07 จุด, +1.15%ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,253.65 จุด เพิ่มขึ้น 9.25 จุด, +0.29%ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 22,467.34 จุด เพิ่มขึ้น 123.42 จุด, +0.55%ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,481.11 จุด ลดลง 3.08 จุด, -0.09%ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 17,934.40 จุด เพิ่มขึ้น 66.80 จุด, +0.37%ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,747.08 จุด เพิ่มขึ้น 43.56 จุด, +1.61%ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 26,577.27 จุด เพิ่มขึ้น 184.24 จุด, +0.70%ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,151.40 จุด เพิ่มขึ้น 34.70 จุด, +0.49%ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,446.80 จุด เพิ่มขึ้น 40.50 จุด, +0.55%ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดทำการวานนี้ (3 มี.ค.) เนื่องในวันปีใหม่บาหลี (Saka New Year)
#4566
DPAINT แจงบิ๊กล็อต 10 ล้านหุ้น นายอาจณรงค์ ตั้งคารวคุณ โอนให้ทายาท นายอรรถพล ตั้งคารวคุณ เข้าสู่ยุคเจนฯใหม่


บมจ. สีเดลต้า หรือ DPAINT เปิดพื้นที่ทายาทรุ่น 2 ขึ้นมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เดินหน้านำสีนวัตกรรม ขยายความต้องการผู้บริโภคเซกเมนต์พรีเมียม เปลี่ยนภาพธุรกิจสีแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน แย้มปีนี้มีภาคต่อรออยู่ ชูพลังผู้บริหารคนรุ่นใหม่ เข้าสู่ยุคสีเดลต้า 5.0 ได้อย่างแข็งแกร่ง

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2565 บริษัท สีเดลต้า จำกัด (มหาชน) หรือ DPAINT เปิดเผยข้อมูลการซื้อขายผ่านกระดาน Biglot ระหว่างนายอาจณรงค์ ตั้งคารวคุณ ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ขายหุ้นให้แก่ นายอรรถพล ตั้งคารวคุณ ซึ่งเป็นทายาท รวมจำนวน 10 ล้านหุ้น คิดเป็น 4.34% ของทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้ว ในราคาตลาด 8.55 บาท/หุ้น ส่งผลให้โครงสร้างผู้ถือหุ้นของ DPAINT อันดับ 1 คือ บริษัท เดลต้า กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด สัดส่วน 26.09% นายอรรถพล ตั้งคารวคุณ ขึ้นมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 สัดส่วน 13.91% และ อันดับ 3 คือ นายรณฤทธิ์ ตั้งคารวคุณ สัดส่วน 9.56%

นายอรรถพล ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บัญชีและการเงิน กล่าวว่า การซื้อขายผ่านกระดาน Biglot ครั้งนี้ นับเป็นการฉายภาพ DPAINT ให้ชัดเจนยิ่งขึ้นในฐานะกลุ่มผู้บริหารคนรุ่นใหม่ เพื่อเข้าสู่ยุคสีเดลต้า 5.0 ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ด้วยความตั้งใจของทีมผู้บริหารทั้งตน และคุณรณฤทธิ์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมผลักดัน DPAINT ให้เติบโต ขยายตลาดสีทาอาคารภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ ให้เป็นที่รู้จัก และมีมาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ DPAINT ยังสร้างความแตกต่าง ยกระดับแบรนด์สู่ระดับสากล ด้วยการจับมือกับ "ดิสนีย์" ในการพัฒนาและเปิดตัว "สีเดลต้า เมจิก ชิลด์" เขย่าตลาดสีทาอาคารเป็นครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปีที่ผ่านมา และคาดจะเห็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อมอบคุณค่าที่มากกว่าให้ผู้บริโภคและสังคม เป็นอีก Key Success ในการขยายตลาดและเติบโตในฐานะหนึ่งในผู้นำนวัตกรรมสีทาอาคารที่ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้บริโภค

ในปี 2565 พร้อมเดินหน้าสานต่อภารกิจ ขับเคลื่อนองค์กรสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งในด้านการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่มีความโดดเด่นด้านนวัตกรรม การรุกตลาด Blue Ocean การขยายช่องทางการจำหน่าย และการจับมือกับพันธมิตร เพื่อการเติบโตทั้งในธุรกิจหลักและธุรกิจที่เป็นโอกาส สนับสนุนผลการดำเนินงานที่คาดว่าปีนี้จะสามารถทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยวางเป้าหมายรายได้เติบโตสม่ำเสมอในอัตราไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อนมีรายได้จากการขายและบริการ 749.4 ล้านบาท กำไรสุทธิ 52.9 ล้านบาท และความโดดเด่นของอัตรากำไรขั้นต้นระดับ 41.9%

นายอรรถพล กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า DPAINT ได้วางกลยุทธ์ และรากฐานการเติบโตสู่ความยั่งยืน โดยภายในครึ่งปีแรกคาดว่าจะได้เห็นการอัพเดทแผนของ DPAINT เพิ่มเติม ซึ่งถือเป็นการปรับทัพองค์กรสู่การเติบโตรับเทรนด์โลกอนาคต
#4567
ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกงฮั่งเส็งเปิดบวก 90.34 จุด ตามทิศทางดาวโจนส์

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดในแดนบวกเช้านี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 600 จุดในวันพุธ (2 มี.ค.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าที่นักลงทุนวิตกกังวล นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นมากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ดัชนีฮั่งเส็งเปิดที่ 22,434.26 จุด เพิ่มขึ้น 90.34 จุด หรือ +0.40%

นายพาวเวลได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ว่า เฟดจะยังคงทำตามแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แม้ว่าวิกฤตการณ์ในยูเครนได้สร้างความไม่แน่นอนอย่างมากต่อแนวโน้มในอนาคต โดยนายพาวเวลระบุว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.25%

ถ้อยแถลงของนายพาวเวลช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวล หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากการที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนซึ่งรวมถึงนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ได้ออกมาส่งสัญญาณสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค.

ทางด้านออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง (ADP) รายงานว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 475,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 400,000 ตำแหน่ง นอกจากนี้ ADP ได้ปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนม.ค.เป็นเพิ่มขึ้น 509,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าลดลง 301,000 ตำแหน่ง
#4568
ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าบวกตามหุ้นสหรัฐ ขณะราคาน้ำมันพุ่งไม่หยุด

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าในแดนบวกตามตลาดหุ้นสหรัฐ หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าที่นักลงทุนวิตกกังวล ขณะที่ราคาน้ำมันโลกยังปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องจากแรงกดดันของสงครามในยูเครน

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 26,608.21 จุด เพิ่มขึ้น 215.18 จุด หรือ +0.82%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 22,453.50 จุด เพิ่มขึ้น 109.58 จุด หรือ +0.49% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,487.54 จุด เพิ่มขึ้น 3.34 จุด หรือ +0.10%

นายพาวเวลได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ว่า เฟดจะยังคงทำตามแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แม้ว่าวิกฤตการณ์ในยูเครนได้สร้างความไม่แน่นอนอย่างมากต่อแนวโน้มในอนาคต โดยนายพาวเวลระบุว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.25%

ถ้อยแถลงของนายพาวเวลช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวล หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากการที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนซึ่งรวมถึงนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ได้ออกมาส่งสัญญาณสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค.

ขณะเดียวกัน วิกฤตการณ์ในยูเครนยังคงสร้างแรงกดดันต่อราคาน้ำมันโลก โดยราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นทะลุระดับ 113 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) พุ่งขึ้นเหนือระดับ 116 ดอลลาร์/บาร์เรล ในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาดเอเชียช่วงเช้านี้ เนื่องจากภาวะชะงักงันทางการค้าและปัญหาด้านการขนส่งหลังจากนานาประเทศประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียโทษฐานรุกรานยูเครน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดความหวั่นวิตกเรื่องอุปทานน้ำมัน

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจภูมิภาคที่รายงานไปแล้ว ธนาคารกลางเกาหลีใต้เผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเกาหลีใต้ขยายตัว 1.2% ในไตรมาส 4/2564 ซึ่งส่งผลให้ตัวเลข GDP ตลอดปี 2564 ขยายตัวที่ระดับ 4% โดยได้แรงหนุนจากการส่งออกที่แข็งแกร่งเกินคาด

ทั้งนี้ ตัวเลข GDP ปี 2564 ไม่เปลี่ยนแปลงจากการประมาณการเบื้องต้น แต่ตัวเลข GDP ในไตรมาส 4 ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากตัวเลขประมาณการเบื้องต้นซึ่งอยู่ที่ 1.1%
#4569
SCB Thailand คว้ารางวัล Thailand Zocial Awards เป็นปีที่ 7 ชูการสร้างสรรค์คอนเทนต์การเงินหลากหลายรูปแบบ เข้าถึงผู้ใช้ในทุกแพลตฟอร์ม

SCB Thailand โซเชียลมีเดียของธนาคารไทยพาณิชย์ สร้างผลงานโดดเด่นคว้ารางวัล Best Brand Performance On Social Media สาขากลุ่มธนาคารในงาน Thailand Zocial Awards 2022 นับเป็นรางวัลครั้งที่ 7 ที่ SCB Thailand ได้รับจากเวทีงานประกาศรางวัลโซเชียลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ จัดโดยบริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) เพื่อยกระดับวงการโซเชียลและส่งเสริมการใช้โซเชียลมีเดียอย่างสร้างสรรค์

นายสุธีรพันธุ์ สักรวัตร รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานการตลาด ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า "จากที่โซเชียลมีเดียเป็นส่วนสำคัญของไลฟ์สไตล์ผู้คนในสังคมในทุกมิติ ธนาคารได้เล็งเห็นและเพิ่มความสำคัญกับช่องทาง Official Social Media ของธนาคารภายใต้ชื่อ "SCB Thailand" ประกอบด้วย Facebook มีผู้ติดตามกว่า 4 ล้านคน, LINE มีผู้ติดตามกว่า 37 ล้านคน, Twitter มีผู้ติดตามกว่า 6 แสนคน, Youtube มีผู้ติดตามกว่า 2 แสนคน, Instagram มีผู้ติดตามกว่า 5 หมื่นคน ล่าสุดได้เพิ่มช่องทาง TikTok ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 4 แสนคน และกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั้งหมดของธนาคารได้รับการจัดการดูแลให้มีความแข็งแรงทั้งในเชิงคุณภาพและปริมาณเพื่อเป็นช่องทางในการเข้าถึงและสร้างปฏิสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดกับลูกค้าทุกกลุ่มที่นิยมติดตามแพลตฟอร์มที่แตกต่างกันออกไป

นอกเหนือจากการดูแลบริหารแพลตฟอร์มแล้วเรายังมุ่งเน้นในเรื่องของการทำคอนเทนต์ที่ตอบรับกับความสนใจของลูกค้า สร้างคุณค่าให้กับผู้คนในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) ทั้งการบริหารจัดการด้านการเงินในชีวิตประจำวัน ไลฟ์สไตล์ การทำธุรกิจ การลงทุน เตือนภัยมิจฉาชีพ ฯลฯ เพื่อมุ่งสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องการเงินให้เข้าถึงผู้คนในวงกว้าง โดยเป็นเนื้อหาที่เข้าใจง่าย สนุก มีทั้งรูปแบบ บทความ ภาพนิ่ง อินโฟกราฟิก คลิปวิดีโอทั้งสั้นและยาว เหมาะสมกับธรรมชาติของแต่ละแพลตฟอร์ม ทีมงาน SCB Thailand จะไม่หยุดพัฒนาสร้างสรรค์คอนเทนต์การเงินดีๆ มีประโยชน์ให้กับสังคมไทยตลอดไป ขอขอบคุณทุกท่านที่เกี่ยวข้อง ที่เห็นถึงความตั้งใจ และมอบรางวัลอันทรงเกียรตินี้ให้กับธนาคารอีกครั้ง"

รางวัล Best Brand Performance On Social Media ในปีนี้ ตัดสินโดยใช้ดัชนีชี้วัด "WISESIGHT METRIC" พิจารณาความสามารถของแบรนด์ผ่านการสื่อสารผ่านช่องทางหลักของแบรนด์ (Official Channel) 4 ช่องทาง คือ Facebook, Instagram, Twitter และ Youtube รวมถึงการได้รับการกล่าวถึงจากสื่อถึงผู้บริโภค ประกอบด้วย 2 มุมมอง ได้แก่ 1) การวัดประสิทธิภาพเชิงปริมาณ (Quantity Performance) จากจำนวน Follower การเติบโตของผู้ติดตาม Interaction จำนวนความสนใจที่บุคคลมีต่อเนื้อหาของแบรนด์ และ Social Mention จำนวนการพูดถึง แบรนด์บนโซเชียลมีเดีย 2) การวัดประสิทธิภาพเชิงคุณภาพ (Quality Performance) พิจารณาจาก Comment & Share Ratio สัดส่วนของการแสดงความคิดเห็น และการส่งต่อเนื้อหาของแบรนด์ Advocacy การสนับสนุนเนื้อหาของแบรนด์โดยการแนะนำให้กับบุคคลอื่น Intention จำนวนเนื้อหาที่แสดงความสนใจซื้อที่มีต่อแบรนด์ Sentiment กระแสตอบรับและความคิดเห็นลูกค้าต่อแบรนด์ และ Brand Love ความชื่นชอบในเนื้อหาของแบรนด์
#4570
สนใจสินค้า ปรึกษา สอบถามได้ที่
Tel: 02-024-9152-3 Mobile: 061-2780-780
ไลน์ไอดี: valaiporn25


#4571
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก กลุ่มพลังงานพุ่งหนุนตลาด

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพุธ (2 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซที่พุ่งขึ้นกว่า 4% ตามราคาน้ำมันดิบ ขณะที่นักลงทุนจับตาวิกฤตการเมืองระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังคงดำเนินต่อไป

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 446.33 จุด เพิ่มขึ้น 3.96 จุด หรือ +0.90%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,498.02 จุด เพิ่มขึ้น 101.53 จุด หรือ +1.59%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,000.11 จุด เพิ่มขึ้น 95.26 จุด หรือ +0.69% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,429.56 จุด เพิ่มขึ้น 99.36 จุด หรือ +1.36%

การซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างผันผวนตามภาวะตลาดหุ้นเอเชียที่ปิดไร้ทิศทาง โดยได้รับแรงกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน

การทำสงครามของสองประเทศดังกล่าวทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น โดยสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ทะยานขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี และสัญญาน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้นราว 3% สู่ระดับ 106.63 ดอลลาร์/บาร์เรล

หุ้นรายตัวที่ช่วยหนุนตลาดได้แก่ หุ้นเนสเต (Neste) บริษัทด้านวิศวกรรมของฟินแลนด์ พุ่งขึ้นมากกว่า 14% หลังประกาศร่วมทุนกับมาราธอน (Marathon) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของสหรัฐเพื่อผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงทดแทนทั่วโลก
#4572
 รับถมที่ ถมดิน ขุดสระ วางท่อ จัดสวน
#4574
ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนค่าเล็กน้อย ตลาดจับตาสถานการณ์ยูเครน

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (2 มี.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ซบเซา ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาสถานการณ์ยูเครน รวมทั้งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์นี้

ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.02% แตะที่ 97.3850

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2651 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2739 ดอลลาร์แคนาดา อย่างไรก็ดี ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 115.55 เยน จากระดับ 114.87 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9204 ฟรังก์ จากระดับ 0.9189 ฟรังก์

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1123 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1131 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3372 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3314 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7298 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7251 ดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนอย่างใกล้ชิด โดยล่าสุดนายดมิโทร คูเลบา รมว.ต่างประเทศยูเครน กล่าวว่า ยูเครนต้องการให้มีการพิจารณาทบทวนสิทธิของรัสเซียในการเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC)

ทางด้านสมัชชาใหญ่แห่งองค์การสหประชาชาติ (UN) มีมติเรียกร้องให้รัสเซียถอนกำลังทหารออกจากยูเครนโดยทันที โดยมติดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากสมาชิก 141 ประเทศ จากทั้งหมด 193 ประเทศ

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.พ.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 415,000 ตำแหน่ง

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดซึ่งมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันนี้ (3 มี.ค.) โดยการแถลงจะเริ่มขึ้นในเวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 22.00 น.ตามเวลาไทย

ส่วนเมื่อวานนี้ (2 มี.ค.) นายพาวเวลได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรว่า เฟดจะยังคงทำตามแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แม้ว่าวิกฤตการณ์ในยูเครนได้สร้างความไม่แน่นอนอย่างมากต่อแนวโน้มในอนาคต โดยนายพาวเวลระบุว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.25%

FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 15-16 มี.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 5 ครั้งในปีนี้ หลังจากที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน
#4575

ตกแต่งปากช่องคลอดอาเซียนบิวตี้คลีนิคศัลยกรรมต้นๆของประเทศดูแลทุกปัญหาความสวยสดงดงาม  
ผิวพรรณ ศัลยกรรมตกแต่ง และเวชศาสตร์ชะลอวัย พร้อมการดูแลความสวย
ตกแต่งปากช่องคลอดแบบองค์รวม ตั้งแต่หัวถึงปลายเท้า โดยหมอผู้ชำนาญ  
แล้วก็ คณะทำงานมืออาชีพ 
ตกแต่งปากช่องคลอดทั้งยังไทยแล้วก็ต่างถิ่น 


https://bit.ly/3trAckh