ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN

ฉีดฟิลเลอร์ นวลจันทร์อาเซียนบิวตี้คลีนิคศัลยกรรมต้นๆของประเทศดูแลทุกปัญหาความสวยงาม  
ผิวพรรณ ศัลยกรรมตกแต่ง รวมทั้งเวชศาสตร์ชะลอวัย พร้อมการดูแลความสวยสดงดงาม
ฉีดฟิลเลอร์ นวลจันทร์แบบองค์รวม ตั้งแต่หัวถึงปลายเท้า โดยหมอผู้เชี่ยวชาญ  
และก็ ทีมงานมือโปร 
ฉีดฟิลเลอร์ นวลจันทร์อีกทั้งไทยแล้วก็ต่างชาติ 


https://bit.ly/3JQuhfq

ไทยคม ลุยธุรกิจดาวเทียม LEO จับมือ โกล.สตาร์ ผู้ให้บริการดาวเทียมระดับโลก

ร่วมพัฒนาสถานีภาคพื้นดินไทยคมในประเทศไทย เพื่อรองรับการให้บริการดาวเทียมวงโคจรระดับต่ำ (LEO Satellite)
จับมือกันให้บริการสื่อสารผ่านดาวเทียม LEO มุ่งเน้นโซลูชั่นด้านความปลอดภัยเพื่อการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมทางทะเล
บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจดาวเทียมแห่งเอเชีย ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับบริษัท โกล.สตาร์ (Globalstar, Inc.) ผู้ให้บริการระดับโลกด้านสื่อสารผ่านดาวเทียมและโซลูชั่น IoT จากประเทศสหรัฐอเมริกา ไทยคมและโกล.สตาร์ จะร่วมกันพัฒนาและบริหารจัดการสถานีภาคพื้นดินไทยคม ซึ่งตั้งอยู่ใน จ.ปทุมธานี เพื่อเป็นโครงข่ายในการให้บริการสื่อสารผ่านดาวเทียมในภูมิภาค จากกลุ่มดาวเทียมวงโคจรระดับต่ำ หรือ LEO (Low Earth Orbit Satellite) ของโกล.สตาร์ นอกจากนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายจะใช้ความรู้และความเชี่ยวชาญ เพื่อร่วมกันพัฒนาโซลูชั่นและบริการ ที่มุ่งเน้นและส่งเสริมการจัดการด้านความปลอดภัยสำหรับธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทย รวมถึงอุตสาหกรรมทางทะเลในภูมิภาค

นายปฐมภพ สุวรรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ไทยคม กล่าวว่า "ไทยคมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับโกล.สตาร์ ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีระบบดาวเทียมวงโคจรต่ำ หรือ LEO Satellite ระดับโลก สอดคล้องกับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของไทยคม ที่มุ่งเน้นการพัฒนาและขยายบริการร่วมกับพันธมิตร เพื่อช่วยเสริมศักยภาพและการบริการของไทยคมให้เพิ่มมากขึ้น โซลูชั่นด้านความปลอดภัยทางทะเลที่ร่วมกันพัฒนาขึ้นนี้ เกิดจากการนำความรู้และประสบการณ์อันยาวนานในอุตสาหกรรมดาวเทียมของไทยคม มาผนวกกับความเชี่ยวชาญและมาตรฐานการจัดการความปลอดภัยของโกล.สตาร์ เราจึงเชื่อมั่นว่า โซลูชั่นที่เกิดขึ้นจะสามารถตอบโจทย์และรองรับการใช้งานให้แก่ลูกค้า และต่อยอดการใช้งานไปสู่อุตสาหกรรมอื่นๆ ได้อย่างแพร่หลายในโลกยุคดิจิทัล เรามุ่งหวังให้ความร่วมมือที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ยั่งยืนระหว่างไทยคมและโกล.สตาร์ รวมทั้งเสริมสร้างความสำเร็จให้แก่อุตสาหกรรมดาวเทียมต่อไปในอนาคต"

สติกเกอร์ไลน์ รูปสัตว์ สุดน่ารัก
สติกเกอร์ไลน์ที่ได้รับความนิยมตลอดกาล เป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจาก "สัตว์น้อยสุดน่ารัก" ใครยังนึกไม่ออกว่าอยากได้มาสคอตเป็นอะไร ลองเป็นสัตว์ที่ชอบได้นะ อย่างแบรนด์ใหญ่ ๆ ยังเลือกใช้เลย ตัดสินใจได้แล้ว อย่าลืม ChatStick นะคะ บอกเลยว่าเรื่องสัตว์นี่เราถนัดมาก ออกแบบมาสคอตแบรนด์ สุดปังโดยทีมงานมืออาชีพไม่มีวันหมดอายุออกแบบใหม่ทุกชุด สำหรับลูกค้าทุกท่าน การันตีด้วยผลงานมากกว่า 5,000 ชุด อยากมีมาสคอตแบรนด์เก๋ๆ ปรึกษาทีมเราได้ค่าาาาา ------------------------------------------------------------------------------------สนใจบริการ รับออกแบบการ์ตูน คาแรคเตอร์ โลโก้ วาดตัวมาสคอต โดยมืออาชีพ | บริการรับออกแบบมาสคอต ออกแบบตัวการ์ตูน Character รับทำสติ๊กเกอร์ไลน์ภาพวาด | รับทำสติ๊กเกอร์ไลน์ภาพถ่าย | รับทำสติ๊กเกอร์ไลน์ดารา | รับทำสติ๊กเกอร์ไลน์ศิลปิน | รับทำสติ๊กเกอร์ไลน์นักร้อง | รับทำสติ๊กเกอร์ไลน์บริษัท | รับทำสติ๊กเกอร์ไลน์องค์กร| รับออกแบบสติ๊กเกอร์ไลน์อนิเมชั่น | รับทำสติ๊กเกอร์ไลน์อนิเมชั่น | รับออกแบบสติ๊กเกอร์ไลน์เคลื่อนไหวได้ | รับออกแบบสติ๊กเกอร์ไลน์ดุ๊กดิ๊ก | รับทำAnimated Sticker Line | Animated Stickers"StickerLine สติ๊กเกอร์ไลน์รูปถ่าย สติ๊กเกอร์ไลน์รูปภาพ สามารถติดต่อเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตัวอย่าง ผลงานออกแบบสติ๊กเกอร์ไลน์ บริษัท แบรนด์ และ องค์กร>> https://www.chatstickmarket.com/stickerportตัวอย่าง ผลงานออกแบบสติ๊กเกอร์ไลน์ ศิลปิน ดารา และ ผู้มีชื่อเสียง>> https://www.chatstickmarket.com/celebportตัวอย่าง ตัวอย่างผลงานมาสคอต (Mascot) ธุรกิจ องค์กร และ ศิลปิน>> https://www.chatstickmarket.com/mascotport-----------------------------------------------------------------------------------

C.M.S. Korea Trade จัดงาน Online B2B Meeting วันที่ 27 เมษายน 2565 สินค้า Raw Material (Cosmetic Peptide), Skin Care, Packaging และด้านอุตสาหกรรม
 
C.M.S. Business Consulting Co., Ltd. ได้รับการแต่งตั้งโดยสมาคมการค้าต่างๆ ของประเทศเกาหลีใต้ เพื่อร่วมมือกันในการดำเนินงาน "International Network of  Korean  Entrepreneurs"  หน่วยงานนี้เป็นองค์กรอิสระกึ่งราชการของประเทศเกาหลีใต้ เพื่อร่วมมือกันในการดำเนินงาน ปัจจุบันนี้เรามีเครือข่ายที่ครอบคลุมอย่างน้อย 70 ประเทศทั่วโลก มีหน้าที่รับผิดชอบ ด้านการ ส่งเสริม การค้า และการลงทุน การส่งออกของประเทศเกาหลี ตลอดจนพัฒนาตลาด ต่างประเทศให้แก่บริษัทเกาหลี  ซึ่งดำเนินงานการให้ความช่วยเหลือในการดำเนินธุรกิจแก่  ผู้ประกอบการเกาหลีใต้และได้ จัดโครงการแนะนำสินค้าเกาหลี มีบทบาทและหน้าที่ในการกระชับความสัมพันธ์ทางการค้า และการร่วมทุนระหว่างประเทศไทยและเกาหลีใต้ ได้จัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ Online Business Matching 2022 ในวันที่ 27 เมษายน 2565 ระหว่างผู้ประกอบการของประเทศไทย และเกาหลีใต้ เป็นโครงการที่จัดขึ้นเพื่อสร้างประสบการณ์ด้านการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ส่งเสริมผู้ประกอบการไทยในการขยายตลาด ตลอดจนแนะนำเครือข่ายทางธุรกิจ จัดหาสินค้าให้เพื่อต่อยอดทางธุรกิจที่มีความเหมาะสมกับศักยภาพธุรกิจและสถานการณ์ปัจจุบัน

กลุ่มสินค้าของทางบริษัทเกาหลีใต้ที่มานำเสนอจะเป็น Peptide Raw Material (Cosmetic), ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า, สินค้าบรรจุภัณฑ์ สเปรย์ - น้ำหอม และสินค้าเครื่องทำความสะอาดด้านอุตสาหกรรม (Dry Ice Blaster)

โดยเป้าหมายการจับคู่ธุรกิจผู้ประกอบการไทย  พบคู่ค้าผู้ประกอบการเกาหลีใต้ 1:1 ผ่าน  Zoom Meeting ผู้ประกอบการไทยที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของ B2B เช่น ผู้นำเข้าสินค้า ตัวแทนจำหน่าย ผู้กระจายสินค้า ห้างร้าน ผู้ค้าปลีกค้าส่ง แพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ เป็นต้น ทั้งนี้การจัดงานเจรจาธุรกิจผ่านช่องทางการนัดหมายออนไลน์  Zoom Meeting โดยผู้ประกอบการไทยที่สนใจเข้าร่วมงานสามารถติดต่อลงทะเบียนหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางการติดต่อด้านล่าง

ก.ล.ต. ร่วมประชุมหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนอาเซียน (ACMF) ระดับเลขาธิการ ครั้งที่ 36

ก.ล.ต. ร่วมประชุม (ASEAN Capital Markets Forum : ACMF) ระดับเลขาธิการ ครั้งที่ 36 ซึ่งมีผู้บริหารระดับสูงสุดของหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนในอาเซียน ผู้แทนจากธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) และสำนักเลขาธิการอาเซียน เข้าร่วมประชุม เพื่อหารือทิศทางเชิงนโยบายและผลักดันการดำเนินงานของ ACMF ภายใต้แผนการดำเนินงานระยะ 5 ปี นำไปสู่การพัฒนาตลาดทุนที่ยั่งยืน เอื้อให้เกิดการเข้าถึงอย่างเท่าเทียมและช่วยฟื้นฟูจากผลกระทบของ covid-19 เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2565

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พร้อมด้วยผู้บริหาร ก.ล.ต. ร่วมประชุมหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนอาเซียน (ACMF) ระดับเลขาธิการ ครั้งที่ 36 ซึ่งมีหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนของราชอาณาจักรกัมพูชาเป็นเจ้าภาพ โดยในการประชุมครั้งนี้ที่ประชุมได้ร่วมแสดงความยินดีต่อความสำเร็จในการจัดทำมาตรฐานและเกณฑ์การจัดหมวดหมู่ด้านการเงินที่ยั่งยืนของอาเซียน (ASEAN Taxonomy) ฉบับที่ 1 โดยคณะทำงาน ASEAN Taxonomy Board ซึ่งมีผู้แทนจากหน่วยงานภาคการเงินต่าง ๆ รวมถึงผู้แทนจาก ACMF ด้วย และได้เผยแพร่ ASEAN Taxonomy ฉบับดังกล่าว เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา และจะรวบรวมความเห็นจากผู้เกี่ยวข้องในตลาดทุนอาเซียนมาใช้เป็นข้อมูลและแนวทางประกอบการพัฒนา ASEAN Taxonomy ในระยะต่อไป นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบต่อแนวทางการดำเนินงานสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุนเพื่อความยั่งยืน ผ่านการจัดทำมาตรฐานตราสารหนี้ส่งเสริมความยั่งยืนอาเซียน (ASEAN sustainability-linked bond) ให้แล้วเสร็จภายในปี 2565 และการพัฒนาแนวทางการจัดทำมาตรฐานกองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน (ASEAN sustainable and responsible fund standard : SRFS) ซึ่งเป็นการดำเนินงานร่วมกันระหว่างคณะทำงาน ASEAN Collective Investment Schemes ที่มี ก.ล.ต ไทยเป็นประธาน และคณะทำงาน Sustainable Finance Working Group โดยคาดว่ามาตรฐาน SRFS จะแล้วเสร็จภายในปี 2565 เช่นกัน

ในด้านการส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลของตลาดทุนอาเซียน ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าในการพัฒนา ACMF website เพิ่มเติม ได้แก่ การจัดทำศูนย์ความรู้ครบวงจรในเรื่องการเงินที่ยั่งยืน (knowledge hub) และการจัดทำแหล่งรวบรวม จัดเก็บ และเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการจัดการลงทุนต่างประเทศของกลุ่มประเทศอาเซียน (ASEAN Collective Investment Schemes) เพื่อส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การเสนอขายกองทุนข้ามพรมแดน

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบความสำเร็จการจัดโครงการเพื่อส่งเสริมศักยภาพของบุคลากรในหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุน รวมทั้งรับทราบกำหนดการในการประกาศผล ASEAN Corporate Governance Awarding Ceremony ซึ่งคาดว่าจะจัดขึ้นในเดือนกันยายน 2565 นี้ รวมทั้งแนวทางการปรับปรุงเกณฑ์การประเมินในระยะต่อไป

การประชุมครั้งนี้ ก.ล.ต. ไทยได้เสนอให้มีการแลกเปลี่ยนมุมมองต่อประเด็นสำคัญและพัฒนาการเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลในอาเซียน โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบและจะเริ่มดำเนินการในการประชุมครั้งต่อไป

อีกทั้ง สมาชิกยังได้แสดงความขอบคุณต่อ ADB ที่ได้ให้การสนับสนุนและความช่วยเหลือทางด้านเทคนิคเพื่อส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุนทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียน รวมถึงหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในการร่วมดำเนินการเพื่อสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนอาเซียนเพื่อความยั่งยืน

ฟิทช์ให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวแก่หุ้นกู้ ไม่ด้อยสิทธิ ของธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน)ที่ 'AAA(tha)'

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ 'AAA(tha)' แก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันที่จะออกโดย ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) (UOBT; 'AAA(tha)'/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) โดยหุ้นกู้ดังกล่าวมีอายุ 3 ปี

- ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

อันดับเครดิตของหุ้นกู้อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ UOBT เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของธนาคาร

อันดับเครดิตของ UOBT พิจารณาจากการที่ฟิทช์เชื่อว่า UOBT เป็นธนาคารลูกที่มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ต่อธนาคารแม่ ซึ่งคือ United Overseas Bank Limited ("UOB"; อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ AA-/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) ในประเทศสิงคโปร์ UOBT มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการขยายธุรกิจของกลุ่มในประเทศไทย ที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยธนาคารแม่มีสัดส่วนการถือหุ้นใน UOBT ที่ 99.7% มีอำนาจควบคุมการบริหารงานและมีการเชื่อมโยงการดำเนินงานอย่างใกล้ชิดกันระหว่างธนาคารแม่และธนาคารลูก

รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิตและปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคตของ UOBT สามารถดูได้จากประกาศอันดับเครดิตล่าสุด หัวข้อ 'ฟิทช์คงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของธนาคารยูโอบี (ไทย)ที่ 'A-' และอันดับเครดิตภายในประเทศที่ 'AAA(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ' ลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 (www.fitchratings. com/site/pr/10160853)

- ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

การปรับลดอันดับเครดิตของอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคาร จะส่งผลให้อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิปรับลดอันดับเครดิตด้วยเช่นกัน

การปรับลดอันดับเครดิตของธนาคารอาจเกิดขึ้นได้ หากความสามารถในการให้การสนับสนุนของ UOB แก่ UOBT ปรับตัวลดลง ตัวอย่างเช่น การปรับลดอันดับเครดิตลงหลายอันดับของอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของธนาคารแม่จะส่งผลให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ UOBT ถูกปรับลดอันดับเช่นกัน

การปรับลดอันดับเครดิตของธนาคารยังอาจเกิดขึ้นได้ ในกรณีที่โอกาสที่ธนาคารแม่จะให้การสนับสนุนแก่ UOBT มีการปรับตัวลดลง ซึ่งรวมไปถึงการลดสัดส่วนการถือหุ้นของ UOB ลงไปต่ำกว่า 75% ควบคู่ไปกับการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของอำนาจในการบริหารงานและความเชื่อมโยงในการดำเนินงาน แต่อย่างไรก็ตามฟิทช์มองว่าการเปลี่ยนแปลงในโอกาสในการให้การสนับสนุนดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะปานกลาง

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

ไม่มีโอกาสที่จะได้รับการปรับเพิ่มอันดับ เนื่องจากเป็นอันดับเครดิตที่อยู่ในระดับสูงสุดแล้ว

- อันดับเครดิตที่เชื่อมโยงกับอันดับเครดิตอื่น

อันดับเครดิตสากล อันดับเครดิตสนับสนุน และอันดับเครดิตภายในประเทศของ UOBT มีความเชื่อมโยงกับอันดับเครดิตของ ธนาคารแม่ซึ่งคือ UOB

- การพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)

ระดับคะแนนที่สูงที่สุดสำหรับความสัมพันธ์ของ ESG ต่ออันดับเครดิต (หากมีการเปิดเผย) แสดงว่าระดับคะแนนจะอยู่ที่ระดับ 3 ซึ่งหมายความว่าปัจจัยด้าน ESG จะไม่ส่งผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบในระดับที่น้อยมากต่ออันดับเครดิตของธนาคาร ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยจากลักษณะของธุรกิจหรือจากการบริหารจัดการของธนาคารก็ตาม

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 153.30 จุด หุ้นกลุ่มการเงินพุ่งตามบอนด์ยีลด์

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (25 มี.ค.) และดัชนี S&P500 ปิดเพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากหุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,861.24 จุด เพิ่มขึ้น 153.30 จุด หรือ +0.44% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,543.06 จุด เพิ่มขึ้น 22.90 จุด หรือ +0.51% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,169.30 จุด ลดลง 22.54 จุด หรือ -0.16%

ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์บวก 0.3%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 1.8% และดัชนี Nasdaq บวก 2%

หุ้นกลุ่มการเงินบวก 1.3% และหนุนดัชนี S&P500 ขึ้นมากที่สุดในวันศุกร์ ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยเป็นเพียง 2 กลุ่มที่ปิดตลาดปรับตัวลงในวันศุกร์

อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นตัวใหญ่ในกลุ่มเติบโตปรับตัวลง ส่งผลฉุดดัชนี Nasdaq ปิดลดลง

บรรดานักลงทุนกำลังประเมินแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ว่า เฟดจำเป็นต้องเร่งดำเนินการเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ และเพิ่มความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนพ.ค.

นักเศรษฐศาสตร์ของซิติแบงก์คาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% จำนวน 4 ครั้งในปีนี้

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้นในวันศุกร์ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี ขณะที่ตลาดวิตกเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่ระดับสูง และกังวลว่าการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีอยู่ที่ 2.492% หลังปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 2.50% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2562

หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค บวก 1.5% เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อหุ้นกลุ่มปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ดำเนินมากว่า 1 เดือนแล้ว

หุ้นกลุ่มพลังงานช่วยหนุนตลาดด้วย โดยปิดบวก 2.3% หลังราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างมาก

ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐที่เปิดเผยในวันศุกร์ได้แก่ ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนซึ่งระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 59.4 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 10 ปี จากระดับ 62.8 ในเดือนก.พ. และต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 59.7 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอาจจะทรงตัวที่ระดับ 62.8 ในเดือนมี.ค.

ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น หลังการทะยานขึ้นของราคาน้ำมัน

IIG ส่ง iCE จับมือ AOTGA ทรานสฟอร์มสู่ดิจิทัลด้วย Oracle E-Business Suite

นายสมชาย เมฆะสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอซีอี คอนซัลติ้ง จำกัด (iCE) ในเครือ บมจ.ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป (iiG) เปิดเผยว่า iCE ได้ลงนามทำสัญญากับบริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย จำกัด (AOTGA) เพื่อดำเนินการในโครงการออกแบบและพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรองค์กร (ERP) ด้วย Oracle E-Business Suite เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานทางบัญชีการเงินและจัดซื้อ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญขององค์กร

โดยนอกเหนือจากการออกแบบและพัฒนาระบบ "Oracle E-Business Suite"แล้ว iCE จะเข้าไปช่วยพัฒนาซอฟต์แวร์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย เช่น ซอฟต์แวร์สำหรับตรวจนับสินทรัพย์บนอุปกรณ์มือถือพกพา (Handheld) และงานด้านการเชื่อมโยงข้อมูลและบูรณาการระบบ (Interface / Integration) ซึ่งประกอบด้วย ระบบให้บริการภาคพื้น GA application (E-Work order) ระบบบริหารคลังสินค้าทางอากาศ (Warehouse WMS) ระบบขายหน้าร้าน (Point of Sale : POS) และระบบบริหารงานบุคคล

"ความร่วมมือในครั้งนี้ ทีมงานของเราพร้อมทุ่มเทอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้ AOTGA ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการติดตั้งระบบในครั้งนี้ เรายินดีที่ได้รับความไว้วางใจจาก AOTGA ให้เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนองค์กรไทยสู่การเป็นองค์กรดิจิทัล" นายสมชาย กล่าว
นางสาวอมรรัตน์ กริตโสภณ ตำแหน่ง ผู้จัดการใหญ่ AOTGA ผู้ให้บริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น งานบริการผู้โดยสารภาคพื้น และการให้บริการคลังสินค้าภายในท่าอากาศยาน กล่าวว่า หลังจากที่ AOTGA ได้ก่อตั้งขึ้นในปี 2561 บริษัทฯก็ให้ความสำคัญกับการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้งานในองค์กร เพื่อพัฒนาการบริหารจัดการองค์กรอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับเป้าหมายการดำเนินธุรกิจของ บพท. ที่มุ่งเน้นการให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้บุคลากรและเทคโนโลยีที่ดีที่สุด อีกทั้งยกระดับการให้บริการให้เป็นไปตามมาตรฐานที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (The Civil Aviation Authority of Thailand : CAAT) และองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization : ICAO) กำหนด และเพื่อก้าวสู่การเป็นองค์กรดิจิทัล (Digital Enterprise) รวมถึงรองรับการเติบโตในอนาคต

สำหรับโครงการนี้ AOTGA จะนำระบบ ERP "Oracle E-Business Suite" มาช่วยในการบริหารจัดการทางบัญชีการเงิน การบริหารจัดการงบประมาณ การจัดซื้อ งานครุภัณฑ์ และการพัสดุ รวมถึงการเชื่อมโยงข้อมูลรายได้จากส่วนงานให้บริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น งานบริการผู้โดยสารภาคพื้น การให้บริการคลังสินค้า และรายได้อื่น ๆ เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนกระบวนงานเชิงธุรกิจขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยบริษัทฯได้คัดเลือกและไว้ใจให้ iCE เป็นผู้ดำเนินการออกแบบและพัฒนาระบบในครั้งนี้ และเชื่อมั่นว่า โครงการนี้จะสำเร็จลุล่วงด้วยดี ตามเป้าหมายที่วางไว้

ญี่ปุ่นเล็งห้ามส่งออกรถหรูไปรัสเซีย ตอบโต้กรณีรุกรานยูเครน

สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนที่จะสั่งห้ามส่งออกรถหรูไปยังรัสเซีย โดยคาดว่าจะห้ามส่งออกได้อย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า เพื่อตอบโต้ต่อการที่รัสเซียบุกโจมตียูเครน
รายงานข่าวระบุว่า ญี่ปุ่นได้ยกระดับมาตรการกดดันรัสเซียร่วมกับสหรัฐและประเทศต่าง ๆ ในยุโรป เมื่อสงครามในยูเครนยังไม่ยุติลง แม้ทั่วโลกเรียกร้องให้หยุด

ด้านนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น เปิดเผยในการประชุมชาติสมาชิกกลุ่ม G7 เมื่อวานนี้ว่า ญี่ปุ่นจะเพิ่มจำนวนบุคคลและกลุ่มบุคคลรัสเซียที่จะถูกคว่ำบาตร และจะห้ามส่งออกสินค้าหรูด้วย

ญี่ปุ่นเปิดเผยมาตรการลงโทษรัสเซียจำนวนมากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงการคว่ำบาตรที่มุ่งเน้นไปที่รองหัวหน้าคณะทำงานของคณะบริหารของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย, ผู้นำสาธารณรัฐเชเชน และผู้บริหารบริษัทต่าง ๆ ที่มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัฐบาลรัสเซีย

นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังมุ่งเป้าหมายไปที่ธนาคารกลางรัสเซีย จำกัดการเข้าถึงระบบการชำระเงินระหว่างประเทศหรือ SWIFT และสั่งห้ามส่งออกอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการกลั่นน้ำมันให้กับรัสเซีย

อาหารเสริมขาวใสด้วยมิสเอไฟเบอร์ เพียงแค่ 1 แก้วต่อวัน ช่วยควบคุมน้ำหนัก ลดระดับคลอเรสเตอรอล
ลดปริมาณน้ำตาลซึ่งอยู่ภายใน
เลือด กำจัดพิษในไส้ 
อาหารเสริมขาวใสเติมความละมุนเนียนนุ่ม และกระจ่างขาวสวยใสให้กับผิว กระตุ้นสุขภาพผิวให้แข็งแรง 
อาหารเสริมขาวใสดูกระปรี้กระเปร่า ผิวเรีบบเนียนไม่มีสะดุด หยุดทุกสายตา สร้างเสริมองค์ประกอบของผิวให้มองอ่อนโยนละมุนละมัย ไม่
อาหารเสริมขาวใสแข็งกระด้าง


https://bit.ly/3wUYR47

คอลลาเจนผิวสวยด้วยมิสเอไฟเบอร์ เพียงแค่ 1 แก้วต่อวัน ช่วยควบคุมน้ำหนัก ลดระดับคลอเรสเตอรอล
ลดปริมาณของน้ำตาลที่อยู่ภายใน
เลือด กำจัดสารพิษในไส้ 
คอลลาเจนผิวสวยเพิ่มเติมความละมุนเนียนนุ่ม แล้วก็กระจ่างขาวสวยใสให้กับผิว กระตุ้นสุขภาพผิวให้แข็งแรง 
คอลลาเจนผิวสวยมองมีชีวิตชีวา ผิวเรีบบเนียนไม่มีสะดุด หยุดทุกสายตา สร้างเสริมองค์ประกอบของผิวให้มองอ่อนโยนละมุนละมัย ไม่
คอลลาเจนผิวสวย{หยาบกร้าน|
กระด้าhttps://bit.ly/3LbADGk



https://bit.ly/3IAxZsc

ดาวโจนส์บวกเกือบ 100 จุด ขานรับราคาน้ำมันร่วงต่อเนื่อง

ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวเกือบ 100 จุดในวันนี้ โดยนักลงทุนยังคงส่งแรงซื้อเข้าตลาด ขานรับราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง

ณ เวลา 20.37 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 34,802.36 จุด บวก 94.42 จุด หรือ 0.27%

อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ร่วงลง 0.31% โดยถูกกดดันจากการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีทะลุ 2.4% ในวันนี้

หุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้นนำตลาด ขณะที่กลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นเช่นกัน แม้ราคาน้ำมันยังคงปรับตัวลง

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 300 จุดวานนี้ ขานรับราคาน้ำมันที่ชะลอตัวลง ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ และการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 50 ปี

ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวลงในวันนี้ โดยล่าสุด สัญญาล่วงหน้า WTI หลุดระดับ 109 ดอลลาร์ และราคาน้ำมันดิบเบรนท์หลุด 116 ดอลลาร์

สหรัฐและสหภาพยุโรป (EU) สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เพื่อให้ยุโรปลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซีย โดยสหรัฐจะส่งมอบก๊าซธรรมชาติเหลวแก่ EU อย่างน้อย 1.5 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตรภายในสิ้นปีนี้

นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนพ.ค. หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมทั้งการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดในช่วงที่ผ่านมา

ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 76.8% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 3-4 พ.ค. เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ระดับ 32.9% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

 

FAA เตือนเครื่องบิน 737 MAX 10 ของโบอิ้งอาจไม่ผ่านการรับรองภายในปีนี้

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดว่า สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ (FAA) ของสหรัฐได้เตือนบริษัทโบอิ้ง โคเมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้ว่า เครื่องบินรุ่น 737 MAX อาจไม่ผ่านการรับรองความปลอดภัยก่อนเส้นตายที่สภาคองเกรสกำหนดไว้

ในจดหมายลงวันที่ 21 มี.ค. นายเอียน วอน รักษาการผู้จัดการสำนักงานความปลอดภัยการบินของ FAA ได้ขอให้โบอิ้งจัดเตรียมตารางการรับรองความปลอดภัยที่มีการปรับปรุงใหม่ และนายวอนยังได้ขอให้โบอิ้งส่งมอบข้อมูลเกี่ยวกับความคืบหน้าของเครื่องบินทั้งรุ่น 737 MAX 10 และ 777-9 ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาด้วย โดยเครื่องบินทั้งสองรุ่นจะต้องผ่านการรับรองความปลอดภัยก่อน จึงจะสามารถนำไปใช้ในการให้บริการได้

"สำหรับโครงการพัฒนาโบอิ้งรุ่น 737-10 ในปัจจุบันนั้น FAA ยังคงมีความวิตกกังวลว่า อาจยังมีความท้าทายเกี่ยวกับการดำเนินการตามคำสั่งของสภาคองเกรสในปี 2563" นายวอนกล่าว
อนึ่ง จดหมายของนายวอนระบุถึงกฎหมายปี 2563 ซึ่งได้แก่กฎหมายรับรองความปลอดภัยและความรับผิดชอบด้านอากาศยาน (Aircraft Certification, Safety, and Accountability Act) ซึ่งจะมีผลต่อเกณฑ์ของ FAA ในการรับรองเครื่องบินใหม่ ๆ

ทั้งนี้ มีเพียงสภาคองเกรสเท่านั้นที่จะสามารถขยายกำหนดเส้นตายได้ หาก FAA ไม่สามารถให้การรับรองเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 737 MAX 10 ได้ทันก่อนสิ้นปี

เดอะคลาสสถานพยาบาล เป็นสถานพยาบาลเวชศาสตร์เฉพาะทางด้านศัลยศาสตร์ตกแต่ง ที่ได้รับ ตัดไขมันหน้าท้อง รีวิว
การยืนยันคุณภาพให้เป็นคลินิกที่ได้มาตรฐานด้านการแพทย์  ตัดไขมันหน้าท้อง รีวิว
ที่มีห้องผ่าตัดขนาดใหญ่เทียบเท่าโรงหมอโดยกระทรวงสาธารณสุข เปิดให้บริการด้านศัลยกรรมตกแต่งโดยแพทย์  ตัดไขมันหน้าท้อง รีวิว
จบกระดานเฉพาะทาง รวมทั้ง เสริมความงาม
ด้านผิวพรรณ ภายใต้การดูแลโดย พันตรีหมอ ธีรภัทร์ หัวใจประสาท อาจารย์แพทย์  ตัดไขมันหน้าท้อง รีวิว
เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง มีความมุ่งมั่นให้บริการทุกท่านภายใต้หลักความคิดที่ว่า

"คนป่วยทุกคนจำต้องได้ผลดีที่สุดในแบบที่เป็นคุณ"


https://bit.ly/3wEUauL

ก.ล.ต.โดดขวาง ใช้ Cryptocurrency เป็น Means of Payment ไม่ได้นะ !!
 
แม้ว่าช่วงก่อนหน้านี้ที่เรามักจะเห็นว่ามีร้านค้าและบริษัทมากมายประกาศรับชำระค่าสินค้าและบริการ ด้วย Cryptocurrency ไม่ว่าจะเป็นทั้งร้านกาแฟ ร้านชาบู หรือแม้แต่คอนโดฯ ต่าง ๆ ที่ยอมให้ลูกค้าชำระค่าส่วนกลางด้วย Cryptocurrency ได้ด้วย

แต่ล่าสุดทาง ก.ล.ต. ก็ได้มีการฟันธงออกมาแล้วว่าจะไม่สนับสนุนในการนำ Cryptocurrency มาชำระค่าสินค้าหรือบริการ หรือที่เรามักเรียกว่า "Means of Payment" ด้วยการออกกฎเกณฑ์มาขัดขวางการทำธุรกรรมดังกล่าว โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ทำให้เกิดคำถามตามมามากมายว่าห้างร้านที่เคยเปิดรับชำระค่าสินค้าด้วย Cryptocurrency แล้ว ต้องทำอย่างไร และถ้าห้างร้านตั้งราคาเป็นหน่วย Cryptocurrency แล้วลูกค้าจะยังจ่ายเป็นคริปโทฯได้หรือไม่ แล้วมีเหรียญไหน หรือบริษัทใด องค์กรใดที่เข้าข่ายต้องเปลี่ยนแปลงบ้าง

ทั้งนี้ คาดว่าสำนักงาน ก.ล.ต.จะออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป ซึ่งสายคริปโทฯอย่างเรา ๆ คงต้องรอติดตามกัน

*แบงก์ชาติปรับเกณฑ์เอื้อ Fintech แต่จำกัด Cryptocurrency

หลังจากที่ ก.ล.ต. ประกาศเรื่อง Means of Payment ไปแล้ว ตามมาติด ๆ กันทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ประกาศปรับเกณฑ์ยกเลิกเพดานการลงทุนของสถาบันการเงินในธุรกิจ "FinTech" จากเดิมที่เคยกำหนดไว้ไม่เกิน 3% แต่ในขณะเดียวกันก็ได้เพิ่มเกณฑ์ห้ามไม่ให้สถาบันการเงินลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency มากกว่า 3% ของเงินกองทุน

ทั้งนี้ เงินกองทุนของสถาบันการเงิน ก็คือส่วนที่แสดงถึงความแข็งแกร่งของสถาบันการเงินนั้น ๆ ซึ่งตามเกณฑ์ของ ธปท.กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ต้องมีเงินกองทุนไม่ต่ำกว่า 8.5% ของสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง หากคำนวณจาก 29 ธนาคารที่ให้บริการในประเทศไทยจะพบว่ามีเงินกองทุนทั้งสิ้น 3 ล้านล้านบาท คิดโดยเฉลี่ยกลม ๆ ตกธนาคารละ 100,000 ล้านบาท หากลงทุนใน Cryptocurrency ได้ไม่เกิน 3% ธนาคารแต่ละแห่งอาจลงทุนใน Cryptocurrency ได้ไม่เกิน 3,000 ล้านบาท นับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับขนาดของตลาดคริปโทฯ ที่ขณะนี้กำลังเติบโตอย่างมาก เพราะอย่าง "บิทคับ" เอง ซึ่งกลายเป็นยูนิคอนที่มีมูลค่าธุรกิจเกิน 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 33,000 ล้านบาทไปแล้ว

ครั้งนี้หากธนาคารไม่ได้ทำการเข้าไปลงทุนเอง แต่ใช้บริษัทลูก หรือ Holding ในการเข้าซื้อธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล อย่างกรณี SCB ที่จะทำการซื้อหุ้น Bitkub ที่กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการเข้าลงทุน 51% เช่นนี้แล้วจะถือว่าเข้าเกณฑ์ที่ ธปท.ประกาศหรือไม่ ต้องรอติดตามกัน

*Time Magazine ประกาศรับ Ape Coin อะไรจะมาแรงขนาดนี้!!

ล่าสุด Vitalik Buterin ที่เป็นผู้ก่อตั้ง Ethereum ได้ขึ้นปกนิตยสาร Times ที่เป็นนิตยสารระดับโลก หลังจากนั้นไม่นาน Times ที่เคยประกาศรับชำระค่าสมาชิกด้วยเหรียญ Crypto อยู่แล้วก่อนหน้านี้ ก็ได้ประกาศรับเหรียญ Ape Coin ซึ่งเป็นเหรียญของ Bored Ape Yacht Club เพื่อชำระค่าสมาชิกได้

เหรียญ Ape Coin คือเหรียญที่ได้จากกด Claim เหรียญเมื่อซื้อ NFT ของ Bored Ape Yacht Club นั่นเอง ล่าสุดก็แอบเห็น Kim DeFi Daddy ของเราแอบกดซื้อไปเหมือนกันเบา ๆ กว่า 10 ล้านบาท งานนี้ Kim DeFi Daddy น่าจะได้สมัครนิตยสาร Times อ่านไปอีกนาน

ทั้งนี้ เหรียญ Ape Coin สามารถเทรดได้ที่ Bitazza

และในขณะที่บ้านเรามีการแบนคริปโทฯ ไม่ให้นำมาใช้เป็น Means of Payment แต่นิตยสาร Times ก็เปิดรับใช้คริปโทฯจ่ายค่าสมาชิก

มาเลเซียปฏิเสธใช้คริปโทฯชำระหนี้ตามกฎหมาย ชี้ยังมีข้อจำกัดมาก

นายโมฮัด ชาฮาร์ อับดุลเลาะห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังของมาเลเซียได้เข้าชี้แจงต่อรัฐสภาเมื่อวานนี้ (24 มี.ค.) ว่า มาเลเซียไม่มีความตั้งใจที่จะยอมรับคริปโทเคอร์เรนซีเป็นสกุลเงินที่สามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย

"คริปโทเคอร์เรนซี เช่น บิตคอยน์ ไม่เหมาะสมที่จะใช้เป็นเครื่องมือในการชำระหนี้ตามกฎหมาย เนื่องจากมีข้อจำกัดต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงราคาที่ผันผวน และมีความเสี่ยงที่จะถูกโจมตีทางไซเบอร์" นายโมฮัด ชาฮาร์กล่าว
คำชี้แจงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากรัฐมนตรีคนหนึ่งของมาเลเซียได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลอนุญาตให้บิตคอยน์และคริปโทเคอร์เรนซีอื่น ๆ สามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย เพื่อให้คนรุ่นใหม่เข้าไปมีส่วนร่วมในธุรกิจคริปโทฯ

ทั้งนี้ นายโมฮัด ชาฮาร์กล่าวว่า "ภูมิทัศน์ด้านเทคโนโลยีและการชำระเงินที่ขยายตัวขึ้นนั้น ได้ผลักดันให้ธนาคารกลางมาเลเซียต้องเร่งประเมินแนวโน้มสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC)"

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นายซาฮิดี ไซนุล อาบิดิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการสื่อสารและมัลติมีเดียของมาเลเซียได้กล่าวในรัฐสภาว่า มาเลเซียควรอนุญาตให้นำบิตคอยน์และคริปโทฯ สกุลอื่น ๆ มาใช้ในการชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย

ที่ผ่านมานั้น ธนาคารกลางมาเลเซียยังไม่เคยประกาศว่าจะอนุญาตให้นำบิตคอยน์มาใช้เพื่อการชำระหนี้ตามกฎหมาย โดยธนาคารกลางได้เปิดเผยกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมาว่า ธนาคารกลางกำลังประเมินว่าสมควรที่จะออกสกุลเงิน CBDC หรือไม่ นอกจากนี้ ธนาคารกลางมาเลเซียไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใด ๆ เกี่ยวกับคำกล่าวของนายซาฮิดี

นับจนถึงขณะนี้ มีเพียงเอลซัลวาดอร์เพียงประเทศเดียวเท่านั้นที่อนุญาตให้ใช้บิตคอยน์เป็นสกุลเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย อย่างไรก็ดี ผลสำรวจความเห็นของบริษัทเอกชนซึ่งจัดทำโดยหอการค้าเอลซัลวาดอร์ในเดือนนี้พบว่า มีการทำธุรกรรมด้วยบิตคอยน์เพียง 14% เท่านั้นนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2564 ซึ่งเป็นเดือนที่รัฐบาลเอลซัลวาดอร์อนุญาตให้ใช้บิตคอยน์ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย

การใช้โทรศัพท์ในลักษณะของการเติมเงิน จำเป็นมากที่คุณต้องรอเช็คยอดเงิน ais รวมทั้งเช็ควัน aisอยู่ตลอด เพื่อไม่ให้อีกทั้งจำนวนเงินรวมทั้งวันคงเหลือหมดไปเวลาที่คุณอาจจะจึงควรใช้งานมัน ซึ่งถ้าหากคุณไม่หมั่นที่จะตรวจตราสิ่งต่างๆกลุ่มนี้ อาจจะไม่มีเวลาที่มากพอเพียงสำหรับในการเติมเงินหรือเพิ่มวัน แล้วก็อาจส่งผลให้คลาดโอกาสสำหรับเพื่อการติดต่อครั้งสำคัญได้

หรืออีกในกรณีหนึ่งที่คุณเผลอไปสมัครใช้งานบริการใดบริการหนึ่งโดยที่ไม่รู้ตัว รวมทั้งถูกคิดค่าใช้จ่ายสำหรับบริการจากความเลินเล่อ ถ้าไม่เคยเคยยอดยังเหลือของโทรศัพท์ ก็จะไม่มีวันทราบเลยกระทั่งยอดเงินที่มีในโทรศัพท์จะถูกตัดจนหมด แต่ว่าถ้าหากคุณมีโอกาสที่ได้วิเคราะห์ยอดเงินหลงเหลืออยู่ของตนเองอยู่เสมอ ตรวจตราเป็นช่วงๆก็จะก่อให้สามารถตรวจความแตกต่างจากปกติกลุ่มนี้ได้ทัน และก็จะได้ยกเลิกบริการที่ตนเองไม่ต้องการใช้งาน เพื่อไม่ให้มีการสิ้นเปลืองกระทั่งเกินเหตุ

ฉะนั้น การทราบถึงวิธีการสำหรับการเช็คยอดเงินในโทรศัพท์ จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนจำเป็นที่จะเข้าใจกันดี แม้กระนั้นปัญหาอาจจะเกิดขึ้นในกรณีที่คุณทราบวิธีในการเช็คยอดเงิน แต่ว่าไม่สามารถเช็คยอดเงินได้ โดยถ้าหากคุณเป็นคนที่ใช้งานของโครงข่าย AIS และก็เจอปัญหาไม่สามารถที่จะเช็คยอดเงินที่คงเหลือในระบบได้ วันนี้พวกเรามีวิธีการที่จะมาเสนอแนะให้คุณได้รู้ว่าควรที่จะทำเช่นไร ถึงจะก่อให้สามารถรู้ได้ว่า ณ ปัจจุบันมียอดเงินหลงเหลืออยู่ในมือถือเท่าไร เพื่อให้สามารถที่จะเพิ่มเติมเงินเพิ่มเข้าไปได้ในกรณีที่เงินเหลือน้อย หรือกำหนดแผนการใช้งานให้เหมาะสมในกรณีที่ยอดเงินเหลือเยอะ

ถ้าหากคุณไม่สามารถเช็คยอดเงิน AIS ได้เพราะว่าเหตุผลใดก็ตาม บางครั้งอาจจะเป็นในเรื่องของความบกพร่องของระบบหรือความบกพร่องอื่นๆการปรับแต่งด้วยแนวทางดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ก็จะช่วยปรับให้คุณสามารถรู้ได้ว่ายอดเงินที่เหลืออยู่มากน้อยเพียงใด แล้วก็ถึงเวลาแล้วหรือยัง...ที่จะจะต้องเพิ่มเงินใหม่เข้าไปเพราะว่าเงินหมด หรือจะต้องมีการเติมเงินเพิ่มเพราะวันใช้งานหมด เพื่อการติดต่อสื่อสารของคุณเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และไม่ถูกตัดสัญญาณกลางคัน จนถึงจำเป็นต้องพลาดโอกาสในการได้รับการติดต่อจากลูกค้า หรือเสียเวลาในการทำเรื่องขอยกเลิกการยับยั้งสัญญาณในคราวหลัง

ทั้งปวงนี้ก็คงเป็นอีกหนึ่งแนวทางดีๆที่ทำให้ท่านรู้ถึงแนวทางการในการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ในเครือข่าย AIS ที่เยอะขึ้นเรื่อยๆกว่าเดิม มีคุณประโยชน์ต่อการใช้งาน และมั่นใจว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นของที่จำเป็นจำเป็นที่จะต้องทราบ ไม่ใช่ผลดีเพื่อใครกันแน่เลย แต่ก็เพื่อผลดีสำหรับการใช้งานของคุณทุกคน โดยยิ่งไปกว่านั้นผู้ใช้บริการเครือข่าย AIS นั่นเอง

เสริมขมับ เกษตรนวมินทร์อาเซียนบิวตี้คลีนิคศัลยกรรมต้นๆของประเทศดูแลทุกปัญหาความสวย  
ผิวพรรณ ศัลยกรรมตกแต่ง แล้วก็เวชศาสตร์ชะลอวัย พร้อมการดูแลความสวยงาม
เสริมขมับ เกษตรนวมินทร์แบบองค์รวม ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า โดยหมอผู้ที่มีความชำนาญ  
และ ทีมงานมือโปร 
เสริมขมับ เกษตรนวมินทร์ทั้งไทยและต่างถิ่น 



https://bit.ly/3wuJQpj

ก.ล.ต.กล่าวโทษ 'มด คันหุ้น-คันหุ้น-เทรดหุ้นโชว์' ปล่อยข่าวเท็จปั่นราคาหุ้น

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต. กล่าวโทษบุคคลผู้ใช้นามแฝงชื่อ 'มด คันหุ้น' รวมถึงบุคคลที่เผยแพร่ข้อความผ่านแอปพลิเคชัน LINE OpenChat ได้แก่ กลุ่ม 'คันหุ้น' และกลุ่ม 'เทรดหุ้นโชว์' กรณีเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับบริษัทจดทะเบียน โดยอาจทำให้มีผลกระทบต่อราคาหลักทรัพย์หรือต่อการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์

ทั้งนี้ พบการเผยแพร่ข้อความในช่วงปี 62 และปี 64 ของบุคคลผู้ใช้นามแฝงข้างต้นที่เกี่ยวกับบริษัทจดทะเบียน เช่น การผิดนัดชำระหนี้จำนวนหลายหมื่นล้านบาท การคำเสนอซื้อกิจการ การร่วมทุน การจดทะเบียนโดยอ้อม (Backdoor listing) และ การขายหุ้นของกิจการทั้งหมด โดยเกี่ยวข้องกับบริษัทจดทะเบียน รวม 12 แห่ง ได้แก่

บล.เออีซี (ACE) ปัจจุบันชื่อ บล.บียอนด์ (BYD), บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM), บมจ.ซีเอ็มโอ (CMO), บมจ.ฟลอยด์ (FLOYD), บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF), บล.เกียรตินาคินภัทร (KKP) ปัจจุบันไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ, บมจ.คัมเวล คอร์ปอเรชั่น (KUMWEL), บมจ.แพนเอเซียฟุตแวร์ (PAF), บมจ.ภัทรลิสซิ่ง (PL), บมจ.สยามอีสต์ โซลูชั่น (SE), บมจ.ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) (TPLAS), บมจ.อิ๊กดราซิล กรุ๊ป (YGG) ซึ่งเป็นข้อความเท็จและบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งได้ออกมาปฏิเสธข้อความดังกล่าวอย่างชัดแจ้ง

การกระทำของบุคคลที่ใช้นามแฝง 'มด คันหุ้น' รวมถึงกลุ่ม 'คันหุ้น' และกลุ่ม 'เทรดหุ้นโชว์' เข้าข่ายเป็นการบอกกล่าว หรือเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จหรือข้อความอันอาจก่อให้เกิดความสำคัญผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับฐานะทางการเงิน ผลการดำเนินงาน ราคาซื้อขายหลักทรัพย์ หรือข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวกับบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ ในลักษณะที่น่าจะทำให้มีผลกระทบต่อราคาหลักทรัพย์หรือต่อการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 240 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535

ก.ล.ต. จึงกล่าวโทษบุคคลที่ใช้นามแฝง 'มด คันหุ้น' รวมถึงบุคคลที่น่าเชื่อว่าเป็นบุคคลเดียวกันหรือเกี่ยวข้องกันตามที่กล่าวข้างต้น ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

การกล่าวโทษของ ก.ล.ต. เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาเท่านั้น ภายใต้กระบวนการนี้ การพิจารณาวินิจฉัยว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายเป็นขั้นตอนในอำนาจการสอบสวนของพนักงานสอบสวน การสั่งฟ้องคดีของพนักงานอัยการ ตลอดจนดุลพินิจของศาลยุติธรรม ตามลำดับ

 

ศัลยกรรม แผลเป็น หลุมอาเซียนบิวตี้คลีนิคศัลยกรรมต้นๆของประเทศดูแลทุกปัญหาความสวย  
ผิวพรรณ ศัลยกรรมตกแต่ง แล้วก็เวชศาสตร์ชะลอวัย พร้อมการดูแลความสวยสดงดงาม
ศัลยกรรม แผลเป็น หลุมแบบองค์รวม ตั้งแต่หัวถึงปลายตีน โดยหมอผู้ที่มีความชำนาญ  
รวมทั้ง คณะทำงานมือโปร 
ศัลยกรรม แผลเป็น หลุมทั้งไทยรวมทั้งต่างแดน 


https://bit.ly/3tAPYKH