• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - dsmol19

#2121
เวอร์จิ้น แอ็คทีฟประเดิมงาน FOR EVERY KIND OF FIT. ต่อยอดนิยามใหม่แห่งการออกกำลังกาย กับความฟิตที่ใช่ ในสไตล์ที่ชอบ

เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ (Virgin Active) คลับออกกำลังกายระดับโลก จัด อีเวนต์ภายใต้คอนเซปต์ FOR EVERY KIND OF FIT. ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวสต์เกต เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้รับเกียรติจาก ดร.วุธรวี จารุวัฒนะ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัท เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ นางงามสายฟิตอย่างคุณ น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์ และฟิตเนสอินฟลูเอ็นเซอร์แถวหน้าอย่างคุณ มิกกี้ นนท์ อัลภาชน์ พร้อมผู้เชี่ยวชาญในแวดวงฟิตเนสอีกมากมายที่มาร่วมให้ความรู้ และสาธิตวิธีการออกกำลังกายที่สนุกและความฟิตที่ใช่หลากหลายรสชาติ

ในปีนี้ งาน FOR EVERY KIND OF FIT. มีจุดประสงค์ที่จะปลุกกระแสการออกกำลังกายในประเทศไทย อีกทั้งยังตอกย้ำแคมเปญของ เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ ที่ว่า No pain, No gain? No Thanks. หรือ ผลลัพธ์ที่ดีไม่จำเป็นต้องแลกมากับความเจ็บปวด โดยเวอร์จิ้น แอ็คทีฟ มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างแรงบันดาลใจในการออกกำลังกาย ด้วยการนำมุมมองของการเพิ่มประสบการณ์การออกกำลังกายที่สนุกสนาน ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ลำบาก เหนื่อย เจ็บปวด และเข้าถึงยาก โดยการเชิญชวนให้คนไทยมาร่วมค้นหาความสนุกและความฟิตที่ใช่หลากหลายรสชาติ ตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เพื่อให้การออกกำลังกายเป็นเรื่องสนุกและได้ผลลัพธ์ นอกจากนี้ เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ ยังมีความตั้งใจที่จะผลักดันให้ทุกคนรักษาสุขภาพด้วยความฟิตที่เหมาะกับพวกเขา พร้อมสร้างแรงบันดาลใจที่จะใช้ชีวิตอย่างแอคทีฟและยั่งยืน

ดร.วุธรวี จารุวัฒนะ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัท เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ กล่าว "ในฐานะตัวแทนของ เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ ผมมีความยินดีอย่างยิ่งที่จะร่วมผลักดันกระแสการออกกำลังกายในสังคมไทย ผ่านงาน FOR EVERY KIND OF FIT. และเปิดตัวคลาสใหม่ล่าสุด พิลาทีส รีฟอร์เมอร์ นำความสนุกในการออกกำลังกายมาให้กับทุกท่าน เพื่อช่วยให้ทุกท่านค้นหาสไตล์การออกกำลังกายที่สนุกและเหมาะกับความฟิตที่แตกต่างกัน ได้แก่ กิจกรรมตรวจวัดมวลกล้ามเนื้อ โซนพิลาทีส รีฟอร์มเมอร์ อีกทั้งยังมีคลาสเต้นสนุก ๆ อย่างบอดี้คอมแบทและบอดี้แจมอีกด้วย ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ จะช่วยให้ทุกท่านสนุกกับสไตล์การออกกำลังกายที่ใช่ แล้วท่านจะพบว่าการออกกำลังกายไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป มาออกกำลังกายที่เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ เวสต์เกต ครบทุกความฟิตที่ตรงใจ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงและชีวิตที่ยืนยาวของเรา"

ไฮไลต์พิเศษในงานนี้คงหนีไม่พ้นการเปิดตัวของคลาสสุดป็อป พิลาทิส รีฟอร์เมอร์ ครั้งแรกที่เวสต์เกต โดยพิลาทิส เป็นการออกกำลังกายเพื่อเน้นการเสริมสร้างความแข็งแรงให้ช่วงแกนกลางลำตัว รวมถึงสร้างความยืดหยุ่นควบคู่ไปด้วย ซึ่งมีหลายรูปแบบ รวมถึง พิลาทิส รีฟอร์เมอร์ ที่ใช้อุปกรณ์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เรียกว่าเครื่องรีฟอร์เมอร์ (Reformer) เป็นอุปกรณ์อเนกประสงค์ที่เป็นที่นิยมมากที่สุดของพิลาทิส ประกอบด้วยแผ่นรองที่สามารถเคลื่อนไปด้านหน้าและหลัง อีกทั้งยังมีสปริงที่สามารถยืดไปและกลับได้ ซึ่ง พิลาทีส รีฟอร์เมอร์ จะช่วยปรับการเคลื่อนไหวของผู้เล่นให้แข็งแรง พร้อมสร้างความมั่นคง ความคล่องตัว พลัง การทรงตัว ความแม่นยำ ความพลิ้วไหว และยังช่วยเสริมสร้างท่วงท่าและความอิสระให้กับผู้เล่นอีกด้วย
#2122
ยอดขาย NFT ทั่วโลกเดือนมี.ค.ร่วงลง 21% เทียบรายเดือน

ยอดขาย NFT ทั่วโลกร่วงลงอย่างหนักในเดือนมี.ค. เนื่องจากนักลงทุนสนใจถือครองหรือสะสมสินทรัพย์ดิจิทัลประเภท NFT ลดลงจากเดิม

ผลการวิจัยจาก Be[In]Crypto ระบุว่า แม้ยอดขาย NFT ในเดือนมี.ค.จะสูงถึงราว 2.3 พันล้านดอลลาร์ แต่หากมองในภาพรวมของตลาดแล้วก็ยังคงถือว่าเป็นเดือนที่มีสถานการณ์ยากลำบากพอสมควร

ตัวเลขจาก Be[In]Crypto ระบุว่า ยอดขาย NFT ทั่วโลกเดือนมี.ค.ปรับตัวลง 21% จากเดือนก.พ. ซึ่งทำรายได้ไปที่ราว 2.92 พันล้านดอลลาร์

การปรับตัวลงดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อตลาด NFT เนื่องจากผู้ซื้อรายใหม่ ๆ จะดูข้อมูลในเดือนก่อนหน้านี้เพื่อทำการตัดสินใจว่าจะควรทุนใน NFT หรือไม่

ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวถือว่ามีความสำคัญกับนักลงทุนสาย NFT เนื่องจากพวกเขาเชื่อว่าผลงานศิลปะที่อยู่ในรูปแบบของโทเคนนั้นจะได้รับความนิยมจนเป็นกระแสหลักแทนที่ผลงานศิลปะแบบดั้งเดิม ขณะผู้เชี่ยวชาญในสาย DeFi และเทคโนโลยีบล็อกเชนอื่น ๆ อีกหลายล้านคนยังคงมองว่า NFT นั้นเป็นโทเคนที่ค่อนข้างใหม่สำหรับโลกแห่งการลงทุน
#2123
FETCO เผยดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุนฟื้นเล็กน้อยแต่ยังอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ผลสำรวจในเดือน มี.ค.65 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 117.92 ดีขึ้นเล็กน้อยจาก 113.03 ในการสำรวจครั้งก่อน ยังอยู่ในเกณฑ์ "ทรงตัว"

ปัจจัยบวก ได้แก่ ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ออกมาค่อนข้างดี สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศคลี่คลายระดับหนึ่ง การไหลเข้าของเงินทุน การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และสถานการณ์โควิดคลี่คลาย

ส่วนปัจจัยลบ ยังเป็นสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ นโยบายธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ย การถดถอยของเศรษฐกิจในประเทศ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก และ สถานการณ์โควิดโอมิครอน

ภาวะตลาดหุ้นอินเดีย: ดัชนี Sensex เปิดบวก 487.44 จุด แรงซื้อหุ้นกลุ่มการเงินหนุนตลาด

ดัชนี Sensex ตลาดหุ้นอินเดียเปิดบวกในวันนี้ โดยตลาดได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร
ดัชนี Sensex ตลาดหุ้นอินเดีย เปิดตลาดวันนี้ที่ 59,764.13 จุด เพิ่มขึ้น 487.44 จุด หรือ 0.82%

หุ้น HDFC Bank เพิ่มขึ้น 5.8% หุ้น Bajaj Finance เพิ่มขึ้น 1.2% และหุ้น Indusind Bank ขยับขึ้น 0.6%

 
#2124
KKP Economic Forum ชี้ไทยถึงจุดพลิกผัน ต้องบ่มเพาะนวัตกรรมจากภายใน ตั้งรับโลกแตกขั้ว-แย่งพลังงาน

กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร(KKP) ร่วมกับสำนักข่าวเดอะ สแตนดาร์ด จัดงานสัมมนาใหญ่ในวาระครบรอบ 50 ปีของกลุ่มธุรกิจฯ "THIS IS THE END OF THE LINE สถานีต่อไปของเศรษฐกิจไทย สร้างใหม่อย่างไรดี" วิเคราะห์ประเทศไทยติดหล่มกับดักรายได้ปานกลาง ท่ามกลางการแตกขั้วของการเมืองโลก การพลิกผันของเทคโนโลยีที่เคยเป็นจุดขายของประเทศ และการปฏิวัติอุตสาหกรรมพลังงานรอบใหม่จากภาวะโลกร้อน แนะยกระดับศักยภาพการแข่งขันและทักษะแรงงานผ่านการศึกษา ตลอดจนการวิจัยและพัฒนา เพื่อกระตุ้นนวัตกรรมจากภายในประเทศ นอกจากนี้ ภายในงานยังมีเวทีเสวนา ของผู้เชี่ยวชาญจากหลายภาคส่วน เพื่อแสดงวิสัยทัศน์และเสนอแนะแนวทางออกแบบสถานีต่อไปของเศรษฐกิจไทย ในรูปแบบ Virtual Conference

นายบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร กล่าวระหว่างการเปิดงานสัมมนาว่า "กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทรได้จัดทำหนังสือ 50 Years: The Making of the Modern Thai Economy เพื่อสำรวจพัฒนาการของเศรษฐกิจไทยในระยะเกินกว่า 50 ปีที่ผ่านมา และพบว่าหากใช้เกณฑ์เป้าหมายของการพัฒนาประเทศที่ควรจะต้อง 'มั่งคั่ง ทั่วถึง และยั่งยืน' ประเทศไทย ยังต้องเร่งฝีเท้าขึ้นอีกมาก เพราะในมิติความ 'มั่งคั่ง' ประเทศไทยมีอัตราเติบโตช้ากว่าประเทศที่มีจุดเริ่มใกล้เคียงกันหรือต่ำกว่ามาก ไม่ว่าจีนหรือสิงคโปร์ ในด้านความ 'ทั่วถึง' รายได้ของคนในระดับบนร้อยละ 20 และคนระดับล่างร้อยละ 20 ของประเทศ ต่างกันถึง 8 เท่า สะท้อนโอกาสเข้าถึงการศึกษาและทรัพยากรที่ต่างกันอย่างมาก ด้านความ 'ยั่งยืน' แม้ประเทศไทยจะมีพื้นฐานดี เศรษฐกิจมีการกระจายตัว แต่การเปลี่ยนผ่านของโลกในมิติของเทคโนโลยี การเมือง และสิ่งแวดล้อม จะทำให้ความยั่งยืนของเศรษฐกิจถูกกระทบ และการตระหนักถึงความเร่งด่วนของปัญหาการพัฒนาที่ยังไม่บรรลุเป้าคือจุดเริ่มของทางออก"

ด้าน นายธีระพงษ์ วชิรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ ประธานสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวใน Keynote Presentation หัวข้อ Thailand's Final Call ว่า "ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจไทยแสดงให้เห็นว่าที่ผ่านมาเราได้เดินตามสูตรสำเร็จของการพัฒนามาโดยลำดับ ตั้งแต่การวางโครงสร้างพื้นฐาน การสร้างความมั่นคงทางพลังงาน การพัฒนาอุตสาหกรรม มาจนการเปิดเสรีการเงินและการค้าและบริการ แต่ในขณะเดียวกัน จะพบว่าปัจจัยจากโลกภายนอกเป็นตัวกำหนดความสำเร็จและล้มเหลวของนโยบายเหล่านั้นไม่น้อย เช่น การสนับสนุนของสหรัฐฯ แก่ไทยในช่วงสงครามเย็นกระตุ้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน วิกฤตการณ์น้ำมันนำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงาน การหลั่งไหลของเงินทุนไปสู่ตลาดเกิดใหม่เป็นพื้นฐานของวิกฤตต้มยำกุ้ง และการเกิดขึ้นของชนชั้นกลางในจีนทำให้การท่องเที่ยวไทยเติบโต ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ ประเทศไทยเดินทางมาสู่จุดพลิกผัน เพราะเติบโตช้าลง และสูญเสียตลาดให้กับเพื่อนบ้าน ในขณะที่เงื่อนไขจากภายนอกอาจไม่เป็นแรงส่งอีกต่อไปไม่ว่าจะเป็นการแตกขั้วของการเมืองโลกที่อาจทำให้โลกาภิวัตน์ไหลย้อนกลับ การขาดแคลนพลังงานที่จะทำให้ต้นทุนทุกระดับแพงขึ้น หรือการพลิกผันของเทคโนโลยีที่จะกระทบฐานอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ด้วยเหตุนี้ การพึ่งพาการลงทุนจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment: FDI) และนักท่องเที่ยวอย่างเดิมไม่ใช่คำตอบที่เพียงพอ ประเทศไทยต้องวางรากฐานของนวัตกรรมที่กำเนิดจากภายใน ซึ่งตั้งอยู่บนการศึกษาที่ดีและการขจัดปัญหาคอร์รัปชันที่บั่นทอนการแข่งขันและพัฒนา"

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีเวทีเสวนาอีก 2 เวที ประกอบด้วยเวที Bracing for the Future I: Technology and Climate Change ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่ นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทพลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) นางสาวปฐมา จันทรักษ์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ ไอบีเอ็ม ประเทศไทย นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) และนางสาวสฤณี อาชวานันทกุล กรรมการผู้จัดการด้านการพัฒนาความรู้ แห่ง 'ป่าสาละ' และเวที Bracing for the Future II: Geopolitics and Our Politics ซึ่งประกอบด้วย ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษา กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ศ.ดร.ฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) และ รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้งนี้ โดยมี ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัยและ ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน เป็นผู้ดำเนินรายการ

การจัดสัมมนา "THIS IS THE END OF THE LINE สถานีต่อไปของเศรษฐกิจไทย สร้างใหม่อย่างไรดี" เป็นงานเสวนาด้านเศรษฐกิจของกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ซึ่งมุ่งนำเสนอองค์ความรู้ที่จะเปิดโอกาสให้แก่เศรษฐกิจไทย โดยในปีนี้ได้นำเอาประเด็นสำคัญบางส่วนจากหนังสือ 50 Years: The Making of the Modern Thai Economy ที่ได้จัดทำขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบ 50 ปีของการก่อตั้งองค์กรมาอภิปรายและขยายผลการรับรู้สู่สาธารณะ
#2125
'ซันเดย์' แต่งตั้ง Country Manager คนใหม่มากประสบการณ์ นำทีมขยายพาร์ทเนอร์ธุรกิจ และผลิตภัณฑ์ใหม่ขับเคลื่อน Ecosystem ในไทย

บริษัท ซันเดย์ อินส์ จำกัด (Sunday) ผู้นำ InsurTech ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศแต่งตั้ง คุณยุวดี ปิตวิวัฒนานนท์ ให้ดำรงตำแหน่ง Country Manager เพื่อนำทีมประเทศไทยสร้างการเติบโตธุรกิจ เดินหน้าสร้างพันธมิตรในเชิงกลยุทธ์  โดยซันเดย์มีเป้าหมายที่จะมีส่วนร่วมในการส่งเสริมการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการดูแลสุขภาพ ยานยนต์ไฟฟ้า และนวัตกรรมใหม่ๆ ที่นำไปใช้ได้จริงในทุก Ecosystem  เนื่องจากโมเดลธุรกิจทั่วประเทศไทยยังคงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง

'ดิฉันมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับอุตสาหกรรม InsurTech ในประเทศไทย โดยมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ของซันเดย์ให้ดียิ่งขึ้น ในขณะที่ยังคงรักษามาตรฐานสูงสุดของการให้บริการของเราไว้' คุณยุวดีกล่าว 'ลูกค้าและพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจของเราทุกคน จะสามารถเข้าถึงการประกันภัย และให้การบริการของเราเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของพวกเขา โดยซันเดย์จะส่งมอบและยกระดับมาตรฐานของเราอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว'

คุณยุวดีมีประสบการณ์ในวงการประกันมากกว่า 20 ปี จากบริษัทประกันชั้นนำระดับโลกเช่น Cigna, Allianz และ AEGON ก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งผู้บริหารฝ่ายขาย (Sales Director) ที่ eBaoTech โดยหน้าที่รับผิดชอบหลักคือการสร้าง 

ความสัมพันธ์กับพันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ให้บริการทางการเงิน และผู้ให้บริการโทรคมนาคมขนาดใหญ่ ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการสร้างความสัมพันธ์ และนำเสนอกลยุทธ์ทางการตลาดและธุรกิจ เพื่อต่อยอดและนำพาพันธมิตรทั้งรายใหญ่ และรายย่อย ให้บรรลุผลตามเป้าหมาย

'ภารกิจของซันเดย์คือการทำให้การประกันภัยมีความเข้าถึงง่าย เชื่อถือได้ และเป็นที่น่าสนใจอีกครั้งในประเทศไทย โดยตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจเราให้ความสำคัญอย่างมากกับการลงทุนในทีมงานระดับ talent ที่มีเป้าหมายเพื่อการพัฒนาความ

สามารถด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูล และเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อรองรับภารกิจนี้ ความร่วมมือของซันเดย์กับคุณยุวดี เป็นความร่วมมือที่จะเจาะลึกถึง ecosystem รวมทั้งบริการทางการเงิน การบริการด้านสุขภาพ ยานยนต์ และอื่นๆ อีกมากมาย ซันเดย์รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ประสบการณ์ในวงการประกันอันยาวนานของเธอ จะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันการส่งมอบผลิตภัณฑ์ประกันภัยชั้นนำในตลาด ให้กับคู่ค้าและลูกค้าของซันเดย์' ซินดี้ กัว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของซันเดย์ กล่าว

การแต่งตั้ง Country Manager ครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากการระดมทุนซีรีย์ B ของกลุ่มซันเดย์จากกลุ่มนักลงทุนระดับแนวหน้าทั้งจากประเทศไทย และประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก เช่น Tencent, Vertex Growth และ SCB10X

เกี่ยวกับ ซันเดย์

ซันเดย์ คือ ผู้นำเทคโนโลยีอินชัวร์เทคสัญชาติไทย ที่ให้บริการประกันภัยด้วยแพลตฟอร์มขายและให้บริการแบบครบวงจร โดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) รวมถึงดิจิทัลแพลตฟอร์มในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการด้านประกันภัย

ที่ออกแบบเฉพาะตัวบุคคล เพื่อตอบโจทย์ความเสี่ยงทุกรูปแบบของลูกค้าทั่วไปและลูกค้าธุรกิจ นอกจากนั้นยังนำเสนอ Value Chain รูปแบบใหม่ซึ่งจะสร้างคุณค่าให้กับภาคธุรกิจประกันภัยทั้งระบบ ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์แบบ end-to-end ผ่านคู่ค้าและช่องทางการขายของบริษัทฯ เอง อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.easysunday.com
#2126
'กรมเจรจาฯ' ชวนร่วมแข่งขัน APEC App Challenge โชว์ศักยภาพนักพัฒนาแอปพลิเคชันไทย หนุนการค้าการลงทุนในเวทีเอเปค

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ขอเชิญชวนนักคิด นักพัฒนา และผู้สนใจเข้าร่วมแข่งขัน APEC App Challenge ในช่วงการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค (MRT) โชว์ศักยภาพนักพัฒนาแอปพลิเคชันไทย ตอบโจทย์ภาคการเกษตรและอาหารเพื่อความยั่งยืนในเอเปค หนุนใช้เทคโนโลยีช่วยส่งเสริมการค้าการลงทุน ภายใต้แนวคิด BCG Model สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ - 10 เมษายนนี้

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ไทยในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค ร่วมกับมูลนิธิ Asia Foundation บริษัท Google และสำนักงานเลขาธิการเอเปค จัดการแข่งขัน APEC App Challenge ในช่วงการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค (APEC Ministers Responsible for Trade: MRT) ระหว่างวันที่ 20 พฤษภาคม และ 22 พฤษภาคม 2565 เพื่อนำเทคโนโลยีมาใช้ส่งเสริมการค้าการลงทุน และสร้างการมีส่วนร่วมและตระหนักรู้เกี่ยวกับเอเปคในภาคประชาชนและคนรุ่นใหม่

นางอรมน กล่าวว่า สำหรับในปีนี้ การแข่งขันมุ่งส่งเสริมการเจริญเติบโตของเกษตรกรรายเล็กและรายย่อย และผู้ประกอบการที่ผลิตอาหารเพื่อความยั่งยืนภายในเอเปค ซึ่งเป็นปีแรกที่โจทย์การแข่งขันสนับสนุนภาคการเกษตรและอาหารที่เป็นภาคส่วนที่สำคัญของไทย โดยมีโจทย์การแข่งขัน คือ ?Building an online tool that helps farmers and potential entrepreneurs transform their businesses and lead them towards green, inclusive and sustainable growth สร้างเครื่องมือออนไลน์ที่ช่วยให้เกษตรกรและผู้ประกอบการเปลี่ยนแปลงไปสู่การทำการเกษตรและการทำธุรกิจที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตสีเขียว อย่างยั่งยืนและครอบคลุม? ซึ่งการแข่งขันจะเป็นในรูปแบบ Hackathon ผู้ที่ได้รับคัดเลือกจะต้องออกแบบแอปพลิเคชันภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง และนำเสนอแอปพลิเคชั่นต่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากเขตเศรษฐกิจเอเปค

ทั้งนี้ กรมฯ ขอเชิญชวนผู้สนใจสมัครเข้าร่วมแข่งขันกิจกรรมดังกล่าว เพื่อแสดงศักยภาพของนักพัฒนาแอปพลิเคชันไทยในการใช้เทคโนโลยีส่งเสริมการค้าการลงทุน ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green (BCG) Economy Model) ซึ่งจะเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและคนรุ่นใหม่กับเอเปค พร้อมทั้งเป็นการสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทยอีกด้วย
#2127
พื้นยางฟิตเนส ขนาด 25mm มีคุณภาพ นำเข้าจากต่างประเทศ
พื้นยางปูฟิตเนส ขนาด 50×50 cm ความหนา 25 มิล ผลิตจากวัสดุที่เรียกว่า EPDM ที่ใช้สำหรับรับแรงกระแทกสิ่งของที่มีน้ำหนักเยอะอย่างเช่น ดัมเบลหรือแผ่นน้ำหนัก มีความยืดหยุ่นสูง พื้นยางปูฟิตเนส มีความทนทานและรับแรงกระแทกได้เยอะ พื้นยางสำหรับปูฟิตเนส ผลิตจากวัตถุดิบอย่างดี ใช้งานได้ทั้งที่ร่มและกลางแจ้ง มีน้ำหนักเบาและกันน้ำได้

ติดต่อ
Facebook : CCT Fitness นำเข้าเครื่องออกกำลังกาย
Tel: 089-750-7380
สนใจชมตัวอย่างสินค้า >> https://goo.gl/maps/RBNaNTLmk8LD3T2A8 
#2128
#2129
ชวินดา หาญรัตนกุล นั่งนายกสมาคม บลจ.คนใหม่ 1 เม.ย.65- มี.ค.67

สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) ได้จัดประชุมใหญ่สมาชิก เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2565 และมีการเลือกตั้งนายกสมาคมใหม่ โดยที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์เลือกนางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย เป็นนายกสมาคม โดยมีผลนับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 เป็นต้นไป จนถึงเดือนมีนาคม 2567

นางชวินดา เป็นผู้มีประสบการณ์ในธุรกิจการเงินมาอย่างยาวนาน โดยเริ่มงานกับ บลจ.กรุงไทย มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 และดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 จนถึงปัจจุบัน

ในการเข้ารับตำแหน่งนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุนนั้น นางชวินดา ได้แถลงวิสัยทัศน์และแนวทางการบริหารงานของสมาคมว่า แนวทางการทำงานของสมาคมจะรองรับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ นวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์การลงทุน การให้คำแนะนำในการลงทุน การบริการ การพัฒนาช่องทางให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการออมผ่านผลิตภัณฑ์กองทุนได้มากขึ้นเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต การปรับเปลี่ยนกฎระเบียบที่กำกับดูแลให้มีความคล่องตัวมากขึ้น

ขณะเดียวกันก็ยังคงมาตรฐานระดับสากลในการกำกับดูแลสมาชิกผู้ประกอบธุรกิจให้มีมาตรฐานการปฏิบัติงานที่ดี ในฐานะนายกสมาคมจึงมีแนวคิดที่จะให้ความสำคัญกับความร่วมมือของคณะกรรมการสมาคม และเน้นการแสวงหาความร่วมมือจากบริษัทสมาชิก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากขึ้นเพื่อร่วมกันสร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมและตลาดทุนไทย รวมถึงการให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันได้ของบุคลากรในอุตสาหกรรม ทั้งทางด้านการะพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Products) กฎระเบียบ (Compliance) เพื่อนำไปสู่การเป็นผู้ให้บริการที่ดี มีกระบวนการปฏิบัติงาน (Operation) ที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส แก้ไขปัญหาและลดอุปสรรคในการประกอบการ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกิจ และมีเทคโนโลยี (Digital Initiatives) ที่ทันสมัย ตอบสนองความต้องการของนักลงทุนและมีระบบรักษาความปลอดภัยที่เชื่อถือได้
#2130
ส่งสินค้าทางเครื่องบินไปจีน พวกเราบริการขนส่งผลิตภัณฑ์ทั้งโลก
มีประสบการณ์ในด้านธุรกิจขนส่งสินค้ารวมทั้งเป็นผู้ที่มีประสบการณ์อื่นๆ
ที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมการขนส่งทั้งยังในและ
ต่างชาติซึ่งเกี่ยวในอุตสาหกรรมการขนส่ง

ส่งสินค้าทางเครื่องบินไปจีน การมอบสินค้าระหว่างชาติมากมาย
กว่า 22 ปีด้วยความมุ่งมั่นที่
อยากย้ำให้ลูกค้าเพื่อได้รับ
ความชอบใจรวมทั้งบริการอย่างยิ่ง
ส่งสินค้าทางเครื่องบินไปจีน สุด โดยจากจุดเริ่มที่เราเริ่มด้วยพนักงานที่มี
ความจริงจัง
สำหรับเพื่อการให้บริการซึ่งได้รับ
การฝึกอบรมมาอย่างดีเยี่ยม


https://bit.ly/3tVJmqA
#2131
มาทำความรู้จักตู้คอนเทนเนอร์กันเราบริการขนส่งผลิตภัณฑ์ทั้งโลก
มีประสบการณ์ในด้านธุรกิจขนส่งผลิตภัณฑ์และเป็นผู้ที่มีประสบการณ์อื่นๆ
ที่เกี่ยวโยงกับอุตสาหกรรมการขนส่งทั้งยังในและก็
ต่างถิ่นซึ่งเกี่ยวเนื่องในอุตสาหกรรมการขนส่ง

มาทำความรู้จักตู้คอนเทนเนอร์กันการมอบผลิตภัณฑ์ระหว่างประเทศมากมาย
กว่า 22 ปีด้วยความตั้งใจจริงที่
ปรารถนาเน้นย้ำให้ลูกค้าเพื่อได้รับ
ความพึงพอใจและบริการอย่างมาก
มาทำความรู้จักตู้คอนเทนเนอร์กันสุด โดยจากจุดเริ่มต้นที่พวกเราเริ่มด้วยพนักงานที่มี
ความตั้งใจ
ในการให้บริการซึ่งได้รับ
การฝึกฝนมาเป็นอย่างดี


https://bit.ly/3IYFzgz
#2132
ส่งสินค้าทางเรือไปเวียดนาม พวกเราบริการขนส่งสินค้าทั่วทั้งโลก
มีประสบการณ์ในด้านธุรกิจขนส่งผลิตภัณฑ์และก็เป็นคนที่มีประสบการณ์อื่นๆ
ที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมการขนส่งทั้งในและก็
ต่างชาติซึ่งเกี่ยวเนื่องในอุตสาหกรรมการขนส่ง

ส่งสินค้าทางเรือไปเวียดนาม การส่งมอบสินค้าระหว่างชาติมาก
กว่า 22 ปีด้วยความเอาจริงเอาจังที่
อยากได้ย้ำให้ลูกค้าเพื่อได้รับ
ความชอบใจรวมทั้งบริการอย่างสูง
ส่งสินค้าทางเรือไปเวียดนาม สุด โดยจากจุดเริ่มแรกที่เราเริ่มด้วยบุคลากรที่มี
ความตั้งใจจริง
สำหรับเพื่อการให้บริการซึ่งได้รับ
การฝึกซ้อมมาอย่างดีเยี่ยม


https://bit.ly/3NETFH9
#2133
ก.ล.ต.ลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 9 ราย ฐานใช้ข้อมูลอินไซด์ซื้อหุ้น TU
 
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ในช่วงเดือนต.ค.-พ.ย.60 บุคคลจำนวน 9 ราย ได้แก่ 1.นายไกรสร จันศิริ (ขณะกระทำความผิดดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการ TU), 2. นายดิสพล จันศิริ, 3. นายชาน ฮอน กิต (Mr. Chan Hon Kit) (ขณะกระทำความผิดดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการบริษัทในเครือ TU), 4. นายชาน ติน ซู (Mr. Chan Tin Shu), 5.นางไฉ่ เหวียน จู (Mrs. Choy Yuen Chu), 6.นายชวน ตั้งจันสิริ (ขณะกระทำความผิดดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการ TU), 7.นางเฉิน อวี้ เจิน (Mrs. Chen Yu-Chen), 8.นายชาน ฮอน ฮุง (Mr. Chan Hon Hung) และ 9.นางหุย ปุย หวา (Mrs. Hui Pui Wah) ได้ซื้อหุ้น TU โดยอาศัยข้อมูลภายใน เปิดเผยข้อมูลภายในแก่บุคคลอื่น หรือช่วยเหลือการกระทำความผิดดังกล่าว

นายไกรสร นายชาน ฮอน กิต และนายชวน ได้ล่วงรู้ข้อมูลภายในเกี่ยวกับผลการดำเนินงานไตรมาส 3/60 ของ TU ที่มีกำไรสุทธิจำนวน 1,736.84 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/60 ร้อยละ 23.07 และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาส 3/59) ร้อยละ 8.93

ในระหว่างวันที่ 9 ต.ค. - 3 พ.ย.60 นายไกรสรได้ซื้อหุ้น TU โดยใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนายดิสพล (บุตรชาย) ขณะที่นายชาน ฮอน กิต ได้ซื้อหุ้น TU ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเอง และเปิดเผยข้อมูลภายในแก่นายชาน ติน ซู (บุตรชาย) และนางไฉ่ เหวียน จู (ภรรยา) ซึ่งนายชาน ติน ซู และนางไฉ่ เหวียน จู ได้นำข้อมูลภายในที่ได้รับดังกล่าว ไปใช้ซื้อหุ้น TU ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเอง

นอกจากนี้ ยังพบว่า นายชวนได้ซื้อหุ้น TU ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนางเฉิน อวี้ เจิน (เพื่อน) และบัญชีของอา เพื่อประโยชน์ของตนเองและอาตามลำดับ รวมถึงเปิดเผยข้อมูลภายในแก่นายชาน ฮอน ฮุง (พี่ชาย) ซึ่งนายชาน ฮอน ฮุง ได้นำข้อมูลภายในที่ได้รับการเปิดเผยจากนายชวนไปใช้ซื้อหุ้น TU ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเอง และได้เปิดเผยข้อมูลภายในแก่นางหุย ปุย หวา (ภรรยา) ซึ่งนางหุย ปุย หวา ได้นำข้อมูลภายในดังกล่าวไปใช้ซื้อหุ้น TU ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเอง ต่อมา TU ได้เปิดเผยข้อมูลภายในดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 6 พ.ย.60

การกระทำของนายไกรสร นายชาน ฮอน กิต นายชาน ติน ซู นางไฉ่ เหวียน จู นายชวน นายชาน ฮอน ฮุง และนางหุย ปุย หวา เป็นความผิดฐานซื้อหุ้น TU โดยอาศัยข้อมูลภายในตามมาตรา 242(1) ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 และมาตรา 296/2 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ

นอกจากนี้ การกระทำของนายชาน ฮอน กิต นายชวน และนายชาน ฮอน ฮุง ยังเป็นความผิดฐานเปิดเผยข้อมูลภายในตามมาตรา 242(2) ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 และมาตรา 296/2 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน

ส่วนการกระทำของนายดิสพล และนางเฉิน อวี้ เจิน เป็นความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานซื้อหุ้น TU โดยอาศัยข้อมูลภายในตามมาตรา 315 ประกอบมาตรา 242(1) ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 และมาตรา 296/2 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ

คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับบุคคลทั้ง 9 ราย โดยกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง ได้แก่ ค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ ชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด และมาตรการห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ ดังนี้

1. นายไกรสร ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่พึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 3,426,809 บาท และกำหนดมาตรการห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 14 เดือน

2. นายดิสพล ชำระค่าปรับทางแพ่งและชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิดเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 551,809 บาท และกำหนดมาตรการห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารเป็นเวลา 9 เดือน

3. นายชาน ฮอน กิต ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่พึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 2,406,309 บาท และกำหนดมาตรการห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 12 เดือน

4. นายชาน ติน ซู ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่พึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 891,809 บาท และกำหนดมาตรการห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 12 เดือน

5. นางไฉ่ เหวียน จู ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่พึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 806,809 บาท และกำหนดมาตรการห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 12 เดือน

6. นายชวน ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่พึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 1,701,809 บาท และกำหนดมาตรการห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 14 เดือน

7. นางเฉิน อวี้ เจิน ชำระค่าปรับทางแพ่งและชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 551,809 บาท และกำหนดมาตรการห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารเป็นเวลา 9 เดือน

8. นายชาน ฮอน ฮุง ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 2,164,309 บาท และกำหนดมาตรการห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 12 เดือน

9. นางหุย ปุย หวา ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่พึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 861,809 บาท และกำหนดมาตรการห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 12 เดือน

การกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารดังกล่าวข้างต้นจะมีผลนับตั้งแต่วันที่ผู้กระทำความผิดลงนามในบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด หากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอม ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเพื่อกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราที่อัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติโดยไม่ต่ำกว่าอัตราที่ ค.ม.พ. กำหนด

ทั้งนี้ เงินค่าปรับทางแพ่งและเงินค่าชดใช้คืนผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับจากการกระทำความผิดเป็นรายได้แผ่นดินที่นำส่งกระทรวงการคลัง
#2134
 
รับสมัครตัวแทนจำหน่าย CCI นวัตกรรมสมุนไพร ดร.ณสพน โพธิ์วิจิตร ฉลองเปิดสำนักงานใหญ่ แห่งใหม่ ไม่ต้องสต๊อค มีระบบรองรับสมาชิก cci ครบถ้วน CCI Dropship-CCI Cloud-ห้องเรียนออนไลน์ สมบูรณ์แบบ


สมาชิกcci ซื้อสินค้าในราคาโรงงาน แลัวขายปลีก ได้กำไรทันที 400 บาท/กล่อง เรียนขายออนไลน์ฟรี ที่สำนักงานใหญ่ cciเติบโตสวนกระแส แม้ยุคโควิด ก็ฉุดไม่อยู่ เพราะเรามีโรงงานผลิตเอง 3 โรงงาน ทีมงานนักวิจัยกว่า 30 ท่าน R&D มาตรฐานสากลระดับโลก
สำนักงานใหญ่ CCI @ดอนเมือง กทม.เปิดให้บริการแล้ว พร้อมห้องเรียนออนไลน์สมบูรณ์แบบ

ตัวแทนจําหน่าย ไม่สต๊อกสินค้า
ตัวแทนหรือสมาชิก CCI  สร้างรายได้จากการจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ CCI ได้หลายช่องทาง เช่น ส่วนลดจากราคาสินค้า 20-40% รายได้จากการแนะนำสินค้า และรายได้จากระบบ 

สมาชิกที่สร้างรายได้จากการทำธุรกิจ CCIบริษัทจัดระบบของการรับรายได้มา 7 ช่องทางดังนี้1. กำไรจากการขายปลีก (Profit Retailing) 20-40%2. โบนัสค่ำแนะนำ (Fast Start Bonus) 150-190%3. โบนัสค่าบริหารทีม (Balance Team Bonus) 50-70%4. โบนัสค่าบริหารองค์กร (Matching Bonus) 10-20%5. โบนัสต่ำแหน่งผู้บริการระดับสูง (Executive All Sale Bonus) 2-10%6. โบนัสค่าบริหารแฟรนไซส์ (Franchise Management Bonus) 15%7. โบนัสค่าบริหารเอเจนซี่ (Agency Management Bonus) 30%
มือใหม่ก็สามารถเริ่มต้นได้ เพียงขอแค่ให้ท่านเรียนรู้อย่างไม่หยุดหย่อน เชื่อว่าเราสามารถเรียนรู้กันได้ โดยทางเรามีระบบการเรียนรู้ออนไลน์พร้อมให้คุณเริ่มต้นทำได้แบบไม่ติดขัด มีทีมงานคอยช่วยเหลือให้กับท่านอย่างเต็มที่ธุรกิจนี้เหมาะสำหรับใคร???

  • ผู้ที่ต้องการมีธุรกิจออนไลน์เป็นของตัวเอง ไม่อยากเป็นลูกจ้างใคร
  • นักศึกษาที่กำลังหารายได้เสริมอยู่ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่
  • คนทำงานที่เงินเดือนไม่พอใช้ ชักหน้าไม่ถึงหลังทุกเดือน รอแต่โบนัสสิ้นปี ทำเป็นรายได้เสริม
  • คนที่กำลังตกงาน กำลังหางาน และคนที่ต้องการหารายได้เพิ่มเติม จบใหม่มาหางานทำยังไม่ได้ ทำธุรกิจนี้ไปพลาง ๆ ระหว่างรองานก็ยังได้
  • คนที่เล่นเน็ตอย่างน้อยวันละ 2-3 ชั่วโมง ดีกว่าไปนั่งทำอะไรที่มันไม่ก่อเกิดรายได้
  • คนที่อยากมีเวลาพักผ่อน และอยากมีชีวิตที่ดีขึ้น ขายของแบบชิว ๆ ก็มีรายได้
*** รายได้ขึ้นอยู่เวลาความทุ่มเทและความตั้งใจในการทำงาน***


 
 
#2135
ผู้จัดออสการ์แจง 'วิลล์ สมิธ' ปฏิเสธคำขอให้ออกจากงานหลังตบ 'คริส ร็อค'

สถาบันศิลปะและวิชาการด้านภาพยนตร์ (Academy of Motion Picture Arts and Sciences) ซึ่งเป็นผู้จัดงานประกาศผลรางวัลอคาเดมี อวอร์ด หรือรางวัลออสการ์ ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทยว่า คณะผู้จัดงานได้ขอให้วิลล์ สมิธ ออกจากงานประกาศผลรางวัลออสการ์ครั้งที่ 94 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากที่วิลล์ สมิธ เดินขึ้นเวทีและตบหน้าคริส ร็อค ซึ่งทำหน้าที่พิธีกร แต่วิลล์ สมิธ ปฏิเสธที่จะออกจากงาน

คณะผู้จัดงานยืนยันว่า หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันดังกล่าว ทางผู้จัดงานได้ใช้มาตรการทางวินัยต่อวิลล์ สมิธทันที เนื่องจากการกระทำของนักแสดงชื่อดังผู้นี้เป็นการละเมิดธรรมเนียมปฏิบัติของคณะผู้จัดงาน

ส่วนการประชุมคณะกรรมการบริหารรางวัลออสการ์ครั้งต่อไปในวันที่ 18 เม.ย.นี้ จะมีการตัดสินใจว่าควรจะใช้มาตรการใดต่อไป ซึ่งอาจจะรวมถึงการสั่งพักงานชั่วคราว, ขับออกจากสถาบัน หรือบทลงโทษอื่น ๆ

'การกระทำของวิลล์ สมิธในพิธีประกาศผลรางวัลออสการ์ครั้งที่ 94 ได้สร้างความตกใจอย่างมาก และเป็นการสร้างบาดแผลทางใจทั้งกับผู้ที่อยู่ในงานและผู้ที่ชมทางโทรทัศน์ สำหรับคริส ร็อคนั้น ทางคณะผู้จัดงานขอกล่าวคำขอโทษกับสิ่งที่คุณต้องเผชิญบนเวทีในวันนั้น และขอบคุณที่คุณยังสามารถอดทนอดกลั้นได้ในช่วงเวลาดังกล่าว นอกจากนี้ คณะผู้จัดงานขออภัยนักแสดงที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลทุกท่าน, แขกผู้มีเกียรติ และผู้ชมทุกท่านสำหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเช่นนี้ ทั้งที่ควรจะเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง' คณะผู้จัดงานออสการ์ระบุในแถลงการณ์

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของพิธีประกาศรางวัลออสการ์ เมื่อคริส ร็อค ใช้มุกตลกแซวผู้ร่วมงานเพื่อสร้างความครึกครื้นก่อนที่จะประกาศรางวัลภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม ซึ่งหนึ่งในมุกดังกล่าวคือการล้อเลียนทรงผมของจาดา พิงคิตต์ สมิธ ภรรยาของวิลล์ สมิธ ซึ่งตัดสินใจโกนศีรษะเนื่องจากมีปัญหาเรื่องผมร่วง โดยกล่าวว่า 'จาดา ผมรักคุณ หวังว่าจะได้เห็นคุณแสดงจีไอ เจน ภาค 2 นะ' ซึ่งนางเอกของเรื่องโกนศีรษะด้วยเช่นกัน โดยมุกตลกที่ไม่ตลกเช่นนี้ ทำให้วิลล์ สมิธ โกรธจัด ก่อนที่จะเดินขึ้นเวทีและตบหน้าคริส ร็อค และยังได้ตะโกนด่าคริส ร็อค ถึงสองครั้งเมื่อเดินลงมานั่งที่เดิม

บรรดาผู้ที่อยู่ในงานต่างก็แสดงความกังขาว่าเพราะเหตุใดวิลล์ สมิธจึงไม่ถูกเชิญให้ออกจากงาน และยังคงอยู่ในงานจนกระทั่งได้ขึ้นไปรับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง King Richard ซึ่งจากข้อกังขาดังกล่าวนั้นทำให้คณะผู้จัดงานออสการ์ต้องออกแถลงการณ์ชี้แจง
#2136
ราคาน้ำมัน WTI พลิกดีดเหนือ $100 หลัง IEA ไร้ข้อสรุปสกัดราคาน้ำมัน

ราคาน้ำมันดิบทั้ง WTI และเบรนท์พลิกดีดตัวขึ้น หลังจากที่สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ไม่สามารถหาข้อสรุปในการออกมาตรการสกัดราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นในขณะนี้

ณ เวลา 22.43 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX บวก 0.32 ดอลลาร์ หรือ 0.32% สู่ระดับ 100.60 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) บวก 0.84 ดอลลาร์ หรือ 0.80% สู่ระดับ 105.55 ดอลลาร์/บาร์เรล

IEA จัดการประชุมฉุกเฉินในวันนี้เพื่อหารือแนวทางในการสกัดราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น หลังจากที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน

อย่างไรก็ดี IEA ไม่สามารถหาข้อสรุปเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันที่จะมีการระบายออกจากคลังสำรองของประเทศสมาชิก รวมทั้งกำหนดเวลาในการดำเนินการดังกล่าว ขณะที่คาดว่า IEA จะทำการหารือต่อไปในสัปดาห์หน้า

ก่อนหน้านี้ IEA เคยมีมติเมื่อวันที่ 1 มี.ค.ในการระบายน้ำมันจำนวน 60 ล้านบาร์เรลออกจากคลังสำรองเพื่อสกัดราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นในตลาด

ทั้งนี้ IEA ประกอบด้วยสมาชิก 31 ประเทศ โดยสมาชิกรายใหญ่ได้แก่ สหรัฐ สหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศส แคนาดา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้

ทางด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดนแถลงวานนี้ว่า สหรัฐจะระบายน้ำมันในคลังสำรองเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน และบรรเทาภาวะขาดแคลนพลังงานในสหรัฐ หลังรัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน

ทั้งนี้ สหรัฐจะระบายน้ำมันจำนวน 180 ล้านบาร์เรลออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) โดยจะมีการระบายน้ำมัน 1 ล้านบาร์เรล/วันเป็นเวลา 6 เดือน

การระบายน้ำมันจากคลังสำรองดังกล่าวนับเป็นครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 6 เดือน และครั้งที่ 2 นับตั้งแต่ที่รัสเซียบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.
#2137
นักการทูต 18 ประเทศประจำประเทศจีน เยี่ยมชม 'ฉี-อันซิน' ขานรับบริษัทเปิดตลาดต่างประเทศเต็มตัว

นักการทูต 20 คน จาก 18 ประเทศ ได้เข้าเยี่ยมชมบริษัท ฉี-อันซิน (QI-ANXIN) เมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา

คณะทูตได้หารือและแลกเปลี่ยนในเชิงลึกกับคุณฉี เซียงตง ประธานกรรมการ และคุณอู่ อวิ๋นคุน ประธานบริหาร บริษัท ฉี-อันซิน กรุ๊ป เกี่ยวกับความสำเร็จของบริษัทในการรับประกันความปลอดภัยของเครือข่ายตลอดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวปักกิ่ง 2022 โดย ฉี-อันซิน ได้แบ่งปันโซลูชัน ผลิตภัณฑ์ และบริการสำหรับการสร้างระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับประเทศ ทั้งในด้านพลังงาน การเงิน การควบคุมอุตสาหกรรม และโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลที่สำคัญ จากนั้นคณะทูตได้เยี่ยมชมศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางไซเบอร์ ห้องปฏิบัติการควบคุมอุตสาหกรรม และห้องปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์ของบริษัท

'เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเยี่ยมชมฉี-อันซิน ในวันนี้ ในขณะที่การปกป้องเครือข่ายได้กลายเป็นส่วนสำคัญของการป้องกันประเทศ และเราหวังว่าจะได้ใช้โอกาสนี้เพิ่มพูนความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีความปลอดภัยทางไซเบอร์ รวมถึงเกี่ยวกับบริษัทไฮเทคของจีนในสาขานี้อย่างฉี-อันซิน' นักการทูตท่านหนึ่งกล่าวในนามของคณะทูตทั้ง 20 คน

ขณะเดียวกัน นักการทูตท่านหนึ่งได้สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับความท้าทายที่เผชิญ และเทคโนโลยีสุดล้ำที่ฉี-อันซิน นำมาใช้ในการรักษาความปลอดภัยเครือข่ายสำหรับโอลิมปิกฤดูหนาว ซึ่งคุณฉี เซียงตง ประธานกรรมการ ก็เต็มใจแบ่งปันประสบการณ์ความสำเร็จของบริษัทในการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้กับโอลิมปิกฤดูหนาวปักกิ่ง 2022 รวมถึงการให้บริการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์แก่บรรดาประเทศพันธมิตร

ทุกวันนี้ ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกล้วนเผชิญกับความท้าทายด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์นานัปการ โดยรายงานการประเมินภัยคุกคามทางไซเบอร์ของแอฟริกาปี 2021 ซึ่งเผยแพร่โดยองค์การตำรวจสากล (Interpol) ระบุว่า ภัยคุกคามทางไซเบอร์ 5 อันดับแรกที่แอฟริกากำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน ประกอบด้วยการหลอกลวงออนไลน์, การขู่กรรโชกทางดิจิทัล, การโจมตีผ่านอีเมล, แรนซัมแวร์ และบ็อตเน็ต ขณะที่รายงานซึ่งเผยแพร่โดยดาร์กแมทเทอร์ (DarkMatter) บริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้แสดงให้เห็นว่า สามในสี่ของบริษัทน้ำมันและก๊าซในตะวันออกกลาง มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ขณะที่ภาคการเงิน น้ำมันและก๊าซ สาธารณูปโภค และโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม มักถูกโจมตีทางไซเบอร์บ่อยครั้ง

ทั้งนี้ ฉี-อันซิน ดำเนินธุรกิจรักษาความปลอดภัยเครือข่ายในยุโรป เอเชียใต้ เอเชียกลาง ตะวันออกกลาง และแอฟริกา โดยให้บริการและส่งมอบโซลูชันการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์แก่องค์กรขนาดใหญ่ของจีนที่ 'ก้าวสู่สากล' รวมถึงสาขาในต่างประเทศของธนาคารพาณิชย์จีนรายใหญ่หลายแห่ง นอกจากนี้ ในปี 2021 ฉี-อันซิน ได้มีส่วนร่วมในการสร้างความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้กับภาคโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ รวมถึงหน่วยงานรัฐที่สำคัญในอินโดนีเซีย แอลจีเรีย แองโกลา เอธิโอเปีย และอีกหลายประเทศ
#2138
เทสลาขยายเวลาระงับการผลิตโรงงานในเซี่ยงไฮ้ท่ามกลางล็อกดาวน์

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เทสลาประกาศยกเลิกแผนที่จะกลับมาดำเนินการผลิตที่โรงงานในเซี่ยงไฮ้อีกครั้งในวันนี้และวันพรุ่งนี้ โดยมีการประกาศแจ้งเตือนเป็นการภายใน ทำให้การกลับมาเปิดศูนย์กลางการผลิตรถรุ่น Model 3 และ Model Y ต้องล่าช้าออกไป

โรงงานในเซี่ยงไฮ้ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมืองผู่ตง ทางตะวันออกของแม่น้ำหวงผู่ ได้ระงับการผลิตตั้งแต่วันที่ 28-31 มี.ค. หลังจากที่เซี่ยงไฮ้ทำการล็อกดาวน์ 2 ขั้นเพื่อรับมือจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้น

การล็อกดาวน์เมืองผู่ตงมีกำหนดจะสิ้นสุดในเช้าวันนี้ และแต่เดิมเทสลามีแผนจะกลับมาผลิตอีกครั้งในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ประกาศล่าสุดแสดงให้เห็นว่าทางเทสลาได้ยกเลิกแผนการผลิตในวันที่ 1-2 เม.ย.

แหล่งข่าวระบุว่า รัฐบาลเซี่ยงไฮ้ยังไม่ได้อนุญาตให้รถบรรทุกของเทสลาส่งรถยนต์ไฟฟ้าที่ประกอบแล้วนอกเมืองผู่ตงไปยังทางตะวันตกของเมือง

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เซี่ยงไฮ้ได้ประกาศล็อกดาวน์พื้นที่ทางตะวันตกของแม่น้ำตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้

นอกจากนี้ เทสลายังอาจเลือกที่จะระงับการผลิตต่อไปเนื่องจากขาดแคลนแรงงาน โดยการล็อกดาวน์ในย่านที่อยู่อาศัยบางพื้นที่ยังคงดำเนินอยู่ต่อเนื่อง
#2139
ราคาน้ำมันร่วงต่อเนื่อง ล่าสุด WTI หลุด $100, เบรนท์หลุด $104

ราคาน้ำมันดิบยังคงร่วงลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ โดยล่าสุด สัญญาล่วงหน้า WTI หลุดระดับ 100 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์หลุด 104 ดอลลาร์

ณ เวลา 19.49 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ลบ 1.07 ดอลลาร์ หรือ 1.06% สู่ระดับ 99.21 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ลบ 0.86 ดอลลาร์ หรือ 0.82% สู่ระดับ 103.85 ดอลลาร์/บาร์เรล

สำนักงานพลังงานสากล (IEA) เตรียมจัดการประชุมฉุกเฉินในวันนี้เพื่อหารือถึงแนวทางในการสกัดราคาน้ำมัน ขณะที่ราคาพุ่งขึ้นเหนือระดับ 139 ดอลลาร์/บาร์เรลในเดือนนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 หลังจากที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน

IEA เคยมีมติเมื่อวันที่ 1 มี.ค.ในการระบายน้ำมันจำนวน 60 ล้านบาร์เรลออกจากคลังสำรองเพื่อสกัดราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นในตลาด

ทั้งนี้ IEA ประกอบด้วยสมาชิก 31 ประเทศ โดยสมาชิกรายใหญ่ได้แก่ สหรัฐ สหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศส แคนาดา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้

ทางด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดนแถลงว่า สหรัฐจะระบายน้ำมันในคลังสำรองเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน และบรรเทาภาวะขาดแคลนพลังงานในสหรัฐ หลังรัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน

ทั้งนี้ สหรัฐจะระบายน้ำมันจำนวน 180 ล้านบาร์เรลออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) โดยจะมีการระบายน้ำมัน 1 ล้านบาร์เรล/วันเป็นเวลา 6 เดือน

การระบายน้ำมันจากคลังสำรองดังกล่าวนับเป็นครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 6 เดือน และครั้งที่ 2 นับตั้งแต่ที่รัสเซียบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.
#2140
กสิกรไทยหนุนสินเชื่อสร้างบ้านประหยัดพลังงาน มุ่งพาไทยสู่สังคมสีเขียว
 
นายชัยยศ ตันพิสุทธิ์ (ขวาสุด) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ลงนามความร่วมมือ "การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนในภาคที่อยู่อาศัย" ร่วมกับ 4 หน่วยงาน คือ สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และบริษัท เอสซีจี ซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด โดยมีนายกุลิศ สมบัติศิริ (ที่ 3 จากซ้าย) ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในงาน เพื่อส่งเสริมการออกแบบการสร้างและการจำหน่ายบ้านประหยัดพลังงาน และส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในภาคครัวเรือนไทยให้เกิดขึ้นจริง โดยธนาคารกสิกรไทยพร้อมให้การสนับสนุนทางการเงินแบบครบวงจร ทั้งสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการภาคอสังหาริมทรัพย์และลูกค้าที่ซื้อหรือสร้างบ้านประหยัดพลังงาน เพื่อผลักดันประเทศไทยสู่สังคมสีเขียว

ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ GO GREEN Together ที่ธนาคารกสิกรไทยตั้งใจชวน คนไทยรักษ์โลกไปด้วยกัน มุ่งมั่นผลักดันและเชื่อมต่อให้เกิด Green Ecosystem แบบครบวงจร ร่วมกันสร้างสังคมสีเขียว โดยธนาคารสนับสนุนเงินทุนภายใต้แคมเปญ Green Zero ที่มีทั้งสินเชื่อบ้านและธุรกิจเพื่อติดตั้งแผงโซลาร์ และสินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้า ผู้สนใจติดต่อได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา