ตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ตามภูมิภาคไร้ปัจจัยใหม่-ราคาน้ำมันอ่อนตัว

[fairya]

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ตามภูมิภาคไร้ปัจจัยใหม่-ราคาน้ำมันอ่อนตัว

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์อาจผันผวนทั้งในแดนบวกและลบ เป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย หลังจากยังไร้ปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นได้ส่วนหนึ่งมาจากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดี ทั้งดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) และตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานออกมาต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ย.2512 เป็นปัจจัยหนุนสำคัญ

ส่วนบ้านเราคาดเคลื่อนไหวสลับบวก-ลบ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงหลังสหภาพยุโรป (EU) ยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับแผนการคว่ำบาตรน้ำมันของรัสเซีย จึงคาดว่าจะมีแรงขายในฝั่งของพลังงานต้นน้ำ แต่อาจมีแรงซื้อเข้ามาในกลุ่มโรงกลั่นแทน เช่น TOP, SPRC เป็นต้น เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากค่าการกลั่นที่ปรับตัวขึ้น 17.53 ดอลลาร์/บาร์เรล สูงสุดในรอบกว่า 10 ปี

แนะนักลงทุนให้ติดตามสถานการณ์ความไม่แน่นอนของรัสเซียและยูเครนอย่างต่อเนื่อง และทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมเดือนพ.ค. คาดปรับขึ้น 0.5% และงบการดำเนินงานในไตรมาส 1/65 ของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 1/65 ที่จะเริ่มทยอยประกาศหลังเทศกาลสงกรานต์เป็นต้นไป

ให้แนวรับไว้ที่ 1,670 และ 1,675 จุด ส่วนแนวต่าน 1,686 และ 1,690 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (24 มี.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,707.94 จุด เพิ่มขึ้น 349.44 จุด หรือ +1.02%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,520.16 จุด เพิ่มขึ้น 63.92 จุด หรือ +1.43% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,191.84 จุด เพิ่มขึ้น 269.23 จุด หรือ +1.93%
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,338.81 จุด เพิ่มขึ้น 228.42 จุด หรือ +0.81%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,735.61 จุด ลดลง 210.34 จุด หรือ -1.0% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,247.16 จุด ลดลง 3.10 จุด หรือ -0.10%
ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (23 มี.ค.) ที่ระดับ 1,680.89 จุด เพิ่มขึ้น 2.94 จุด, 0.18%
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,701.85 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 มี.ค.65
ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.(24 มี.ค.) ลดลง 2.59 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 112.34 ดอลลาร์/บาร์เรล
ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (24 มี.ค.) อยู่ที่ 17.53 ดอลลาร์/บาร์เรล
เงินบาทเปิด 33.45/48 แนวโน้มแข็งค่า ให้กรอบ 33.30-33.70 จับตาประชุมกนง.สัปดาห์หน้า
ซูเปอร์บอร์ด กสทช. ยื่นท้วงควบรวมทรู-ดีแทค ชี้กสทช.ชุดรักษาการ มีความเคลือบแคลงสงสัย และ มีความไม่ชัดเจน ถามกลับการรวมกิจการเป็นสิ่งที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และก่อให้เกิดประโยชน์กับสังคม ประชาชน และระบบนิเวศน์ของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมหรือไม่
กระทรวงท่องเที่ยวฯ จ่อชง "ศบค." พิจารณายกเลิกไทยแลนด์พาส ดีเดย์ 1 มิ.ย. รับทัวริสต์เหมือนภาวะปกติ ปี 62 หนุนรายได้ท่องเที่ยวไทยฟื้น 100% ปี 67 เสนอยกเลิกตรวจ RT-PCR นักท่องเที่ยวต่างชาติวันแรกที่เดินทางเข้าไทย เปลี่ยนตรวจ ATK โดยเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ หวังเริ่ม 1 พ.ค. ด้าน สธ. ลงนามสั่งซื้อ "ยาแพกซ์โลวิด" รักษาโควิด 5 หมื่นคอร์ส ลดเสี่ยงนอน รพ. กระจายยา ลงพื้นที่ก่อนสงกรานต์
สธ.สั่งยา "แพกซ์ โลวิด" 50,000 คอร์ส เข้าไทยต้นเดือน เม.ย. เผยเน้นแจกกลุ่มเสี่ยง หวังรับมือการระบาดโควิด-19 หลังเทศกาลสงกรานต์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แนะผู้ประกอบการที่อยากให้ผ่อนปรนมาตรการจัดงานสาดน้ำ รีบเสนอแผนการจัดการมาให้ ศบค.พิจารณา พบอีกหนุ่มใหญ่กลัววัคซีนติดเชื้อนอนดับคาบ้าน ด้านคนบันเทิงทยอยติดเชื้อกันเพียบ
"สุพัฒนพงษ์" หวั่นวิกฤติซ้อนวิกฤติ แต่ไม่ประมาท ย้ำ 10 มาตรการพร้อมดูแลค่าครองชีพ ปชช.ระยะสั้น 3 เดือน "พลังงาน" กางเม็ดเงินดูแลรอบใหม่ 4.3-4.5 หมื่นล้าน แจงวินมอเตอร์ไซค์ได้รับส่วนลด 5 บาท/ลิตร ใช้ไฟฟ้าน้อยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม "คลัง" แจงไม่น้อยกว่า 40 ล้านคน ได้ประโยชน์จาก 10 มาตรการ ยันฐานะการคลังยังมั่นคง
*หุ้นเด่นวันนี้

ERW (กรุงศรี) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 3.60 บาท ได้ Sentiment บวก ก.ท่องเที่ยวฯ เตรียมเสนอยกเลิก Thailand pass ดันท่องเที่ยวเหมือนก่อนโควิด-19 ERW ได้ประโยชน์โดยตรงเนื่องจากมีสัดส่วนรายได้จากท่องเที่ยวในประเทศเกือบ 100% ขณะที่ราคายัง Laggard
TU (เคทีบีเอสที) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 27.00 บาท มีมุมมองเป็นบวกเล็กน้อยต่อประเด็นที่บริษัทอยู่ระหว่างปรับราคาสินค้าขึ้นจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น โดยมองจะช่วยให้บริษัทยังสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นในระดับสูงได้ต่อ ท่ามกลางต้นทุนสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงปัจจุบันค่าเงินบาทเริ่มกลับมาอ่อนค่าอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลบวกโดยตรงต่ออัตราการทำกำไรของบริษัท
MINT (เมย์แบงก์) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 37 บาท เป็นบริษัทที่ยังมีความต้องการกู้เงินสูงเนื่องจากผลขาดทุนจากธุรกิจโรงแรมในสองปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามในปีนี้เราคาดว่า MINT จะมีกำไรประมาณ 1,600 ล้านบาท จากการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรมในยุโรปที่ทำให้อัตราหนี้สินต่อทุนลดลง