• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Cindy700

#2081
ลุ้นศบค.ชุดใหญ่ ยกเลิกตรวจ RT-PCR/หอการค้าไทยแถลงดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค

ประเด็นที่น่าสนใจวันนี้ ติดตามการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ซึ่งวันนี้มีวาระสำคัญในการพิจารณาข้อเสนอจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ที่จะเสนอให้มีการผ่อนคลายมาตรการเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ โดยใช้การตรวจหาเชื้อโควิดด้วยชุดตรวจ ATK แทนการตรวจด้วยวิธี RT-PCR เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นให้คนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น

รวมทั้งมาตรการเตรียมความพร้อมรองรับและสนับสนุนการเดินทางของประชาชนทั้งไป-กลับภูมิลำเนา รายละเอียดการจัดกิจกรรมสงกรานต์ในแต่ละพื้นที่

ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 25,140 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อยืนยันจากผลตรวจด้วย ATK อีก 23,751 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 89 ราย

ประเด็นด้านเศรษฐกิจและธุรกิจที่น่าสนใจวันนี้ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ประจำเดือนมีนาคม 2565
พิธีลงนามหนังสือแสดงเจตจำนง ว่าด้วยความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐอินเดียมายังประเทศไทย ระหว่าง บมจ. การบินไทย (THAI) บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
Airasia Super App จัดกิจกรรมแถลงข่าวออนไลน์ระดับภูมิภาค ประกาศการลงนามความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Google Cloud เป็นเวลา 5 ปี
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จัดกิจกรรมผลการดำเนินงานงบปี 2564 ประกอบด้วย บมจ. ฟิลเตอร์ วิชั่น (FVC), บมจ. หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) (MST), บมจ. ยูเรกา ดีไซน์ (UREKA) และ บมจ. สายการบินนกแอร์ (NOK)
ภารกิจสำคัญวันนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ช่วงเช้าเป็นประธานในพิธีมอบเงินช่วยเหลือแก่เจ้าหน้าที่ที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จากเงินบริจาคบัญชี "สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อรับบริจาคสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
จากนั้นนายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 6/2565 ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบูรณาการเชื่อมโยงฐานข้อมูลด้านสวัสดิการของรัฐ ครั้งที่ 2/2565 (ผ่านระบบ Video Conference)
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "เติมแต้มต่อให้ภูเก็ตในหมุดหมายแผนที่ท่องเที่ยวโลก" ในการอบรมหลักสูตร โครงการผู้นำส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลด้านธุรกิจการท่องเที่ยว รุ่นที่ 2 ณ ห้องประชุมโรงแรมรามาดาพลาซ่าเจ้าฟ้า จังหวัดภูเก็ต
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ปฏิบัติราชการ ณ จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 7 - 8 เมษายน 2565
ติดตามความเคลื่อนไหวการเลือกตั้งท้องถิ่น โดยวันนี้ผู้ลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) จะลงพื้นที่หาเสียงในกรุงเทพฯ เช่น พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง พร้อมทีมงานจะลงพื้นที่หาเสียงที่บริเวณชุมชน 70 ไร่ เขตคลองเตย, นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ลงพื้นที่ย่านสะพานพระราม 8 เขตบางพลัด และตลาดวังหลัง ตลาดพรานนก เขตบางกอกน้อย
#2082
เดอะคลาสคลินิก เป็นคลินิกเวชศาสตร์เฉพาะทางด้านศัลยศาสตร์ตกแต่ง ที่ได้รับ ฉีดไขมันหน้า
การรับรองประสิทธิภาพให้เป็นสถานพยาบาลที่ตามมาตรฐานทางด้านการแพทย์  ฉีดไขมันหน้า
ที่มีห้องผ่าตัดขนาดใหญ่เสมอกันโรงพยาบาลโดยกระทรวงสาธารณสุข เปิดให้บริการด้านศัลยกรรมตกแต่งโดยแพทย์  ฉีดไขมันหน้า
จบบอร์ดเฉพาะทาง แล้วก็ เสริมความสวย
ด้านผิวพรรณ ภายใต้การดูแลโดย พันตรีแพทย์ ธีรภัทร์ ใจประสาท อาจารย์แพทย์  ฉีดไขมันหน้า
เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง มีความมุ่งมั่นให้บริการทุกคนภายใต้หลักความนึกคิดที่ว่า

"คนเจ็บทุกคนจะต้องได้ผลดีที่สุดในแบบที่เป็นคุณ"


https://bit.ly/3NWkGWN
#2083
ร้าน TOO FAST FOODS มอบสิทธิพิเศษสำหรับผู้ใช้บริการศูนย์ฉีดวัคซีนที่เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ จัดโปรโมชันรับประทานบุฟเฟ่ต์ข้าวราดแกงราคาเพียง 30 บาทเท่านั้น ร่วมสนับสนุนคนไทยป้องกันโควิด-19

ร้านอาหาร TOO FAST FOODS (ทู ฟาสต์ ฟู้ดส์) ชั้น G โซน Take Home ในศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมสนับสนุนคนไทยป้องกันโควิด-19 จัดโปรโมชันสุดคุ้มรับประทานบุฟเฟ่ต์ข้าวราดแกงในราคาเพียง 30 บาท จากปกติ 59 บาท สำหรับผู้เข้ารับบริการที่ศูนย์ร่วมใจฉีดวัคซีน ป้องกันโควิด 19 ชั้น 6 โซน B,C ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ตั้งแต่วันนี้ - 30 เมษายน 2565 เพียงแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนป้องกัน Covid-19 ภายในวันที่เข้ารับบริการ เฉพาะจุดให้บริการเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์เท่านั้น

นอกจากนี้ ร้านอาหาร TOO FAST FOODS (ทู ฟาสต์ ฟู้ดส์) มอบสิทธิพิเศษแก่ผู้ใช้บริการสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ปทุมวัน ณ ชั้น 5 โซน A ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ในทุกวันเสาร์สามารถนำใบเสร็จมาแสดงเพื่อรับประทานบุฟเฟ่ต์ข้าวราดแกง ในราคาพิเศษเพียง 30 บาท จากปกติ 59 บาท เริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ 2 เมษายน - วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน 2565 (เฉพาะวันเสาร์เท่านั้น)

เครื่องสำอาง ARTY PROFESSIONAL ร่วมงานแถลงข่าวการประกวด Miss&Mister Supranational Thailand 2022 ในฐานะผู้สนับสนุนแต่งหน้าอย่างเป็นทางการ

เครื่องสำอาง ARTY PROFESSIONAL  บมจ.ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล  โดย ดร.จันจิรา จันทร์โฉม  รักษาการผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายเครื่องสำอางและน้ำหอม , คุณอนุรักษ์ โกศลโชติชโลธร  ผู้จัดการผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ARTY PROFESSIONAL   ได้รับความไว้วางใจจากเวทีการประกวด Miss&Mister Supranational Thailand 2022  เวทีที่เฟ้นหาหนุ่มหล่อสาวสวยมากความสามารถเป็นตัวแทนประเทศไทย  ชิงมงกุฎระดับโลก ณ ประเทศโปแลนด์ซึ่งเป็น 1 ใน 5 เวทีการประกวดระดับแกรนด์สแลม (Grand Slam) ของโลก ให้เป็นผู้ดูแลการแต่งหน้าเสริมความมั่นใจให้กับผู้เข้าประกวดทั้ง 30 ท่าน ตลอดการประกวด

ในครั้งนี้ได้ร่วมงานแถลงข่าวการประกวด Miss&Mister Supranational Thailand 2022 ในฐานะผู้สนับสนุนแต่งหน้าอย่างเป็นทางการ  ณ  Show DC 
#2084

ทิวลี่ แบรนด์อันดับหนึ่งในตลาดเวเฟอร์ในประเทศไทย ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท ยูอาร์ซี (ประเทศไทย) จำกัด ควงแขน ไอซ์ พาริส อินทรโกมาลย์สุต ออกสินค้าใหม่ ทิวลี่ ทรีโอ ช็อกโก เวเฟอร์ช็อกโกแลตสอดไส้ครีมช็อกโกแลตเคลือบช็อกโกแลต อร่อยเข้ม เต็มๆ 3 ช็อก ด้วย ช็อกเวเฟอร์ - ช็อกครีม - ช็อกเคลือบ พร้อมลุยกลยุทธ์ Music Marketing ตอกย้ำจุดแข็งผู้นำอันดับ 1 ในตลาดเวเฟอร์

นายฐานันท์ สุวรรณรักษ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยูอาร์ซี (ประเทศไทย) กล่าวว่า 'ในปีนี้เรายังคงเดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ด้วยการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ลงไปในไลน์สินค้าด้วยการเปิดตัว ทิวลี่ ทรีโอ ช็อกโก เวเฟอร์ช็อกโกแลตสอดไส้ครีมช็อกโกแลตเคลือบช็อกโกแลต เวเฟอร์กรอบ ชิ้นใหญ่ เต็มคำ กับคอนเซ็ปต์ อร่อยเข้ม เต็มๆ 3 ช็อก ยิ่งแช่เย็นยิ่งฟิน พร้อมได้ ไอซ์ - พาริส อินทรโกมาลย์สุต ตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่อยู่คู่กับแบรนด์ทิวลี่เป็นปีที่ 2 มาร่วมสร้างสีสัน รวมถึงเดินหน้าทำการตลาดผ่านกลยุทธ์ Music Marketing ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อสร้างความจดจำได้ของแบรนด์ในมิติอื่นๆ ผ่านทางเสียงเพลงให้แก่ผู้บริโภค'

อร่อยเข้มข้นรสช็อกโกแลตไปกับ ทิวลี่ ทรีโอ ช็อกโก เวเฟอร์ช็อกโกแลตสอดไส้ครีมช็อกโกแลตเคลือบช็อกโกแลต ขนาด 28 กรัม ราคา 5 บาท หาซื้อได้ที่ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven, บิ๊กซี, แมคโคร, ห้างสรรพสินค้าอื่นๆ และร้านค้าทั่วไป
#2085
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับตัวลงกังวลกรรมการเฟดหนุนขึ้นดอกเบี้ยแรง-ราคาน้ำมันร่วง

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะปรับตัวลงเป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียและตลาดหุ้นทั่วโลก หลังนักลงทุนกังวลธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน พ.ค.นี้ เนื่องจากรายงานการประชุมประจำวันที่ 15-16 มี.ค.ที่ผ่านมาระบุว่ากรรมการเฟดเห็นพ้องปรับลดขนาดงบดุลลงเดือนละ 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์อย่างเร็วที่สุดในเดือนพ.ค.นี้ และกรรมการเฟดหลายคนยังสนับสนุนให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวลง โดยเฉพาะ Nasdaq ร่วงไปกว่า 2%

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบก็ปรับตัวลง 5.6% โดยหลุดระดับ 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลงมาที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.65 หลังประเทศสมาชิกสำนักงานพลังงานสากล (IEA) เตรียมระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ 120 ล้านบาร์เรลรับมือภาวะอุปทานตึงตัวและสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน โดยจะรวมถึงน้ำมันจากคลังของสหรัฐ 60 ล้านบาร์เรลด้วย และยังได้รับแรงกดดันจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.85 ล้านบาร์เรล จากปัจจัยดังกล่าวคาดว่าจะกดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงานบ้านเราให้ปรับตัวลง

รวมถึงหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยี คาดว่าจะร่วงลงตามดัชนี Nasdaq ด้วย ขณะที่บ้านเราก็ยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุน และเริ่มเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว เทศกาลสงกรานต์ คาดว่าปริมาณการซื้อขายน่าจะเริ่มเบาบางลง จากนักลงทุนชะลอการลงทุน

ให้แนวรับไว้ที่ 1,690-1,695 จุด และแนวต้าน 1,706-1,7010 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (6 เม.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,496.51 จุด ลดลง 144.67 จุด หรือ -0.42%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,481.15 จุด ลดลง 43.97 จุด หรือ -0.97% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,888.82 จุด ลดลง 315.35 จุด หรือ -2.22%
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,032.42 จุด ลดลง 317.88 จุด หรือ -1.16%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,910.40 จุด ลดลง 170.12 จุด หรือ -0.77% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,267.81 จุด ลดลง 15.62 จุด หรือ -0.48%
ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (5 เม.ย.) ที่ระดับ 1,701.18 จุด ลดลง 1.75 จุด, -0.10%
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,569.83 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 เม.ย.65
ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ร่วงลง 5.73 ดอลลาร์ หรือ 5.6% ปิดที่ 96.23 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.65
ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (7 เม.ย.) อยู่ที่ 16.93 ดอลลาร์/บาร์เรล
เงินบาทเปิด 33.55 อ่อนค่าตามภูมิภาค หลังดอลลาร์แข็งค่ารับเฟดส่งสัญญาณเร่งขึ้นดอกเบี้ย
ศบค.เผยไทยป่วยติด ท็อป 10 โลก อาการหนัก 1,845 ราย กทม.สูงสุด นายกฯ ห่วงโควิด -19 ในเด็กเล็ก ชวนผู้ปกครอง นำบุตรหลานเข้ารับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว สธ.เผยยอดฉีดในกลุ่มเด็ก 5-11 ปีต่ำ แนวโน้มเสียชีวิตช่วงอายุ 0-4 ปีมากกว่าระลอกก่อน เหตุไม่มีวัคซีนรองรับ
กูรูคาดปีนี้หุ้นไทย 1,810 จุด ชี้กลุ่มสถาบันลดถือเงินสด บล.เอเซีย พลัส ระบุครึ่งปีหลังนี้คาดว่านักลงทุนสถาบันจะเข้าลงทุนในตลาดหุ้นเพิ่มมากขึ้นจากปัจจุบันที่พบว่าเงินสดที่กลุ่มสถาบันถือครองมีสัดส่วนมากกว่าปกติ และมองว่าเงินทุนที่จะเข้ามานั้นเป็นการลงทุนหุ้นที่กำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) เติบโตดีขึ้น และกลุ่มเงินที่มีการปันผลระดับที่ดี ส่งผลให้ยังเชื่อมั่นว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยปี 65 นี้ปิดที่ 1,810 จุด ตามคาดการณ์เดิม
กสทช.ถกปม'เอไอเอส'ค้าน'ทรู-ดีแทค'ควบรวมกิจการ แย้มกำหนดห้าม 2 ค่ายรวมเป็นบริษัทเดียวในเวลา 3-5 ปี
เอดีบีคาดการณ์จีดีพีไทยปี 2565 โตแค่ 3% ชี้เศรษฐกิจยังมีความเสี่ยง ขาลงโอมิครอน-สงคราม ยังตามทุบเศรษฐกิจไม่เลิก พ่วงปัญหาค่าครองชีพ-ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นกดดันต่อเนื่อง พร้อมประเมินเงินเฟ้อทั้งปีแตะระดับ 3.3%
*หุ้นเด่นวันนี้

JDF (เคทีบีเอสที) เข้าเทรดวันแรก แนะนำ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 3.80 บาท ประเมินกำไรสุทธิปี 65 ที่ 74 ล้านบาท (+69% YoY) จากการคาดว่าสถานการณ์โควิด และวิกฤติขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ดีขึ้น ทำให้รายได้จากต่างประเทศฟื้นตัวดีขึ้น นอกจากนี้บริษัทกำลังขยายตลาดไปต่างประเทศมากขึ้นโดยเฉพาะโซน CLMV ทำให้เพิ่มฐานลูกค้ามากขึ้น ซึ่งบริษัทตั้งใจตั้งสำนักงานและหน่วยวิจัยในตลาดต่างประเทศอีกด้วย
BDMS (กรุงศรี) แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 31 บาท จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังเร่งตัวขึ้นหนุนรายได้จากการตรวจโควิดเพิ่มขึ้น ส่วนกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติได้ประโยชน์โดยตรงจากมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยงของภาครัฐผ่านมาตรการ Test & Go รวมถึงการฟื้นความสัมพันธ์ ไทย-ซาอุฯ ช่วยเพิ่มกลุ่มลูกค้าตะวันออกกลาง
JMART (เมย์แบงก์) แนะนำซื้อ เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 75 บาท คาดกำไรไตรมาส 1/65 ยืนสูง QoQ, +25-30%YoY แรงหนุนหลักจาก JMT & SINGER ส่วน KBJ-Mobile จะกลับเข้าสู่ Growth phase หลังจากปรับโครงสร้าง พร้อมเดินหน้าขยายฐานลูกค้าและอัตราทำกำไร และมีโอกาสถูกเข้าคำนวณในดัชนี SET50 รอบกลางปี หนุนราคาหุ้นระยะสั้น
 
#2086
ฟอร์บส์จัดอันดับเศรษฐีโลกปี 65 เอกชนไทยยังเข้มแข็ง พยุงเศรษฐกิจ ฝ่าแรงต้านอุปสรรครอบด้าน เทสล่าพา "อีลอน มัสก์" คว้าอันดับ 1 เศรษฐีโลก
 

นิตยสารฟอร์บส์ สื่อชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ประกาศการจัดอันดับอภิมหาเศรษฐีโลก หรือ "The World's Billionaires" หรือผู้มีทรัพย์สินมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นไป ประจำปี 2565 โดย นายอีลอน มัสก์ นักธุรกิจและนักลงทุนชาวอเมริกัน-แอฟริกาใต้ ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารของบริษัทแห่งบริษัท Tesla ได้รับการจัดอันดับให้เป็นบุคคลที่รวยที่สุดในโลก ด้วยทรัพย์สินทั้งสิ้น 219,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แซงหน้า เจฟฟ์ เบโซส ผู้ก่อตั้ง บริษัทค้าปลีกออนไลน์แอมะซอน

ฟอร์บส์รายงานว่าในปีนี้ สงคราม, โรคระบาด และตลาดที่ซบเซาส่งผลกระทบต่อมหาเศรษฐีโลก โดยมีมหาเศรษฐี 2,668 คนในการจัดอันดับคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ซึ่งน้อยกว่าปีที่แล้ว 87 คน พวกเขามีทรัพย์สินมูลค่ารวมกัน 12.7 ล้านล้านดอลล่าร์ หรือน้อยกว่าในปี 2564 ถึง 4 แสนล้านดอลลาร์ การลดลงอย่างน่าตกตะลึงนี้เกิดขึ้นมากที่สุดในประเทศรัสเซีย ซึ่งมีมหาเศรษฐีลดลง 34 คนจากปีที่แล้ว หลังจากการบุกยูเครนของวลาดิมีร์ ปูติน อย่างไรก็ตามมีเศรษฐีพันล้านมากกว่า 1,000 คนที่ร่ำรวยขึ้น และมีมหาเศรษฐีหน้าใหม่ 236 ราย อเมริกายังคงเป็นผู้นำของโลก โดยมีมหาเศรษฐี 735 คน ซึ่งมีทรัพย์สินมูลค่ารวม 4.7 ล้านล้านดอลลาร์ รวมถึง อีลอน มัสก์ ประเทศจีน (รวมถึงมาเก๊าและฮ่องกง) ยังคงเป็นอันดับสอง โดยมีมหาเศรษฐี 607 คน มูลค่าทัรพย์สินรวม 2.3 ล้านล้านดอลลาร์

ในการจัดอันดับอภิมหาเศรษฐีโลกประจำปีนี้ มีคนไทยติดอันดับรวมทั้งสิ้น 28 ราย หนึ่งในนั้นคือ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) บริษัทชั้นนำของไทย โดยอยู่ในอันดับที่ 137 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวม 13,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 405,000 ล้านบาท โดยลดลงจากปี 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งติดอันดับที่ 103 มีทรัพย์สินรวม 18,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 543,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมี นายเจริญ เจริญสิริวัฒนภักดี อันดับที่ 156 มีทรัพย์สินรวม 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 360,000 ล้านบาท , นายสารัชถ์ รัตนาวะดี อันดับที่ 161 มีทรัพย์สินรวม 11,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 354,000 ล้านบาท

รายงานข่าวจากเครือเจริญโภคภัณฑ์หรือเครือซีพี เปิดเผยว่าเครือซีพีดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการพัฒนาที่ยั่งยืนและยึดมั่นในปรัชญา "3 ประโยชน์" ประโยชน์ของประเทศชาติมาเป็นอันดับแรก ถัดมาคือประชาชน และผลประโยชน์ของบริษัทเป็นอันดับสุดท้าย บนพื้นฐานของความซื่อสัตย์ ความสุจริต และความเป็นธรรม โดยในปี 2563 เครือเจริญโภคภัณฑ์นำส่งภาษีเข้ารัฐ 22,475 ล้านบาท และมีการจ้างงานพนักงานในเครือรวม 149,978 ล้านบาท

เครือเจริญโภคภัณฑ์ยังคงลงทุนด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยให้ยังคงเติบโตท่ามกลางสภาวะวิกฤติจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะการลงทุนด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย ด้วยโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง - สุวรรณภูมิ - อู่ตะเภา) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นโยบายการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม นำไปสู่การจ้างงานที่เพิ่มขึ้นภายในประเทศ และช่วยดึงดูดเม็ดเงินจากนักลงทุนทั่วโลกได้

เครือเจริญโภคภัณฑ์ยังมุ่งสู่เป้าหมายการเป็น Tech Company ด้วยการผนึกกำลังกับองค์กรชั้นนำระดับโลก MIT - Plug and Play ตั้งเครือข่ายองค์กรพันธมิตรด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี "CPG Open Innovation Ecosystem Partner" ค้นคว้าและวิจัยทั้งด้านธุรกิจอาหาร เกษตรกรรม ไปจนถึงด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีอีกหลายแขนง โดยทุกเทคโนโลยีจะนำไปสู่นวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนและประเทศชาติ

นอกจากการช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกไม่ให้ทรุดตัวหนักแล้วนั้น ตลอดระยะเวลา 2 ปีของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จนถึงปัจจุบัน เครือเจริญโภคภัณฑ์ยังช่วยบรรเทาผลกระทบของวิกฤติดังกล่าว โดยคิดเป็นมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาทผ่านหลายโครงการ อาทิ การร่วมกับพันธมิตรจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม,โครงการซีพีร้อยเรียงใจสู้ภัยโควิด-19 สนับสนุนอาหารและการสื่อสารแก่โรงพยาบาลสนาม, สร้างโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย,โครงการซีพีปันปลูกฟ้าทะลายโจร, โครงการครัวปั่นอิ่มร้อยเรียงใจสู้ภัยโควิด-19 และยังคงเดินหน้าโครงการอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงนโยบาย "แพลตฟอร์มแห่งโอกาส" ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ในการฟื้นฟูประเทศไทย ช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีพัฒนาศักยภาพ เพื่อขยายโอกาสการเติบโตทางธุรกิจและโครงการ 60+Plus Kitchen by CP เพื่อฝึกทักษะอาชีพด้านธุรกิจร้านอาหารและบริการแก่ผู้บกพร่องทางการมองเห็น

จากทุกองค์ประกอบ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้รับการประเมินดัชนีความยั่งยืนประจำปี 2564 จาก S&P Global ให้เป็นผู้นำอันดับที่ 3 ของโลกในกลุ่มอุตสาหกรรม Industrial Conglomerates โดยเป็นผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของเครือซีพี ได้แก่ ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคม และด้านบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ

เครือเจริญโภคภัณฑ์ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อร่วมพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน นำคุณภาพชีวิตที่ดีสู่ประชาชน
#2087
 เสริมหน้าอก Allergan"คลินิกของพวกเราเปิดให้บริการมายาวนานหลายปีแล้วจ้ะ 
ผู้ป่วยที่มาใช้บริการแล้วจับใจ
 ก็เสนอแนะกันปากต่อปากที่นี่พวกเราไม่รีบผลุนผลันรักษาคนป่วย
พวกเราจำต้องเล่าเรียนให้มั่นใจก่อนก็เลยจะรักษา 
ถึงแม้ว่าจะใช้เวลามากมายหน่อย แต่ว่าผลลัพธ์เป็นที่น่าประทับใจจ้ะ" เสริมหน้าอก Allergan
ทีมงานของพวกเรา มีประสบการณ์สูงในการปรับเปลี่ยน
รูปหน้าให้นางงามที่ขึ้นเวทีประกวดระดับประเทศ และระดับโลก 
ได้รับรางวัลมาหลายเวทีแล้วจนถึงเป็นที่ยอมรับจากนางงามเวทีต่างๆ
นอกนั้นแพทย์หญิงศรีพร ยังได้รับเกียรติยศ
 รับมอบรางวัลในฐานะหมอประจำบ้านในอุดมคตินักศึกษาแพทย์ทหาร จากวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า 
 เสริมหน้าอก Allerganรวมถึงได้รับชักชวนเป็นกรรมการตัดสินการประกวด


https://bit.ly/3JsDbyU
#2088
'เต๋า-คชา' พาฟินออกเกมโชว์ทายอายุสุดจึ้ง! ลุ้นตัวโก่งไขอายุปรัศนีหลากหลาย ใน 'Guess My Age รู้หน้า ไม่รู้วัย'
 
'Guess My Age รู้หน้า ไม่รู้วัย' สัปดาห์นี้ (วันพฤหัสบดี ที่ 8 เม.ย. 2565) ต้อนรับการมาเยือนรายการของคู่จิ้นในตำนาน 'เต๋า-เศรษฐพงศ์ พอเพียง' และ 'คชา-นนทนันท์ อัญชุลีประดิษฐ์' คู่จิ้นจากเวที True Academy Fantasia ปีที่ 8 หรือ AF8 ที่รู้จักกันมานานกว่า 11 ปี

งานนี้คู่จิ้นในตำนานมาเยือนรายการทั้งที สายสืบส่องหน้า ดีเจเอกกี้-เอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ, แอร์-ภัณฑิลา ฟูกลิ่น, หมอริท-เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช และ แจ็ค-เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์ พร้อมหน้าพร้อมตาทำหน้าที่ผู้ช่วยในการสแกนอายุปรัศนีแบบเต็มที่ไม่มีแผ่ว

ซึ่งก่อนจะเริ่มเกมการแข่งขันพิธีกรรายการ 'เอ-วราวุธ เจนธนากุล' ได้ถามถึงความพร้อมในการเตรียมตัวมาทายอายุในครั้งนี้ พร้อมกับอัพเดทชีวิตของทั้ง 2 หนุ่ม ให้แฟนๆ ได้หายคิดถึง

โดยคชาได้เผยว่า กับเต๋าไม่เจอกันนานมากแล้วตั้งแต่โควิดรอบแรก ถ้านับเวลาก็น่าจะประมาณครึ่งปี ถึง 1 ปี ได้ เหมือนผ่านมายังไม่นานแต่ความเป็นจริงคือนานแล้ว ก่อนโควิดคือตั้งใจจะมีโปรเจกต์ร่วมกันแต่ต้องพักไว้ด้วยสถานการณ์ของโรค ซึ่งคิดว่าเร็วๆ นี้น่าจะมีผลงานที่ทำด้วยกันออกมาให้ได้เห็น

ฝั่งของปรัศนีที่มาร่วมรายการให้ทั้ง 2 หนุ่ม ทายอายุต้องบอกว่าหลากหลายเช่นเคย เริ่มที่ปรัศนีหมายเลข 1 'พลอย-แพรพลอย แซ่เอี้ย' อดีตนักมวยสาวเจ้าของฉายา 'เพชรพลอย ขวาท่อนซุง' สาวสวยในคลิปไวรัลสุดเดือดกับเหตุการณ์ยกเท้าถีบชายหนุ่ม หลังฝ่ายชายยกน้ำราดหัวเหตุไม่พอใจที่ถูกพลอยปฏิเสธชนแก้วด้วย ถัดมากับปรัศนีศิลปินดูโอยุค 90 ที่โด่งดังตั้งแต่ปี 2534 'ต่อ-ต๋อง วงทู' ที่เปิดตัวออกมาก็ทำเอาหนุ่มคชาตาลุกวาวเพราะชื่นชอบผลงานเพลงของปรัศนีคู่นี้อยู่แล้ว

ต่อความสนุกในวันศุกร์ ที่ 8 เมษายน กับปรัศนีหมายเลข 4 'เบนซ์-จริยา คงหาเพชร' ลูกทุ่งสายใต้สุดแซ่บ แจ้งเกิดจากผลงานเพลงอยากโดน จนมีโอกาสได้ไปขึ้นเวทีร้องเพลงกับแม่นกน้อย อุไรพร มาแล้ว ความปังของปรัศนียังไม่หมด! ยังมีอีกกับปรัศนีที่โด่งดังเป็นกระแสใน Tiktok กับปรัศนีคำจำกัดความ 'โกโกวา' ที่ยกกันมาทั้งครอบครัวให้ทั้ง 2 หนุ่ม ได้สแกนอายุ

ติดตามชมเกมการแข่งขันทายอายุของทั้ง 2 หนุ่มคู่จิ้นในตำนาน 'เต๋า-คชา' ในรายการ 'Guess My Age รู้หน้า ไม่รู้วัย' วันพฤหัสบดี ที่ 7 และวันศุกร์ ที่ 8 เมษายน นี้! เวลา 18.00 น. ทางช่อง 7HD หมายเลข35

 
#2089
'หัวหิน สงกรานต์..สาดสุข FOOD FUN FAIR'

สงกรานต์นี้ไม่มีเหงา มาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน ขอชวนคุณมาเอนจอยสุดสนุกในงาน 'หัวหิน สงกรานต์..สาดสุข FOOD FUN FAIR' มอบความสุขในธีมย้อนยุคแบบงานวัด พร้อมให้คุณและครอบครัวได้ ช้อป ชิม เล่นเกมส์และร่วม Workshop อีกมากมาย

วันที่ 9-17 เม.ย. 65 ร่วมสนุกกับบูธเกมส์ย้อนยุค เพื่อลุ้นรับของรางวัล สามารถนำใบเสร็จมูลค่า 100 บาทมาร่วมกิจกรรมได้ฟรี ตลอดวัน มีทั้ง โยนห่วง,ปาโป่ง,ยิงปืนจุกน้ำปลา,โยนปองกระเด้ง
วันที่ 12 เม.ย. 65 สาดบุญรับสงกรานต์ไทย โดยท่านเจ้าคุณอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ขอเชิญมาร่วมทำบุญ เพื่อความเป็นสิริมงคล
วันที่ 12-17 เม.ย. 65 ร่วม Workshop ทำขนมไทย อาทิ บัวลอย ลูกชุบ ขนมโค สามารถนำกลับไปทานได้ฟรี (โดยนำใบเสร็จจากการช้อปปิ้งมูลค่า ตั้งแต่ 100 บาทมาร่วมกิจกรรม) และยังมีลานอาหาร Street Food พร้อมเครื่องดื่มไว้คอยให้บริการในบรรยากาศสุดแสนจะชิว กว่า 200 เมนู
วันที่ 13 เม.ย. 65 พบกับความน่ารักของน้องๆหนูๆในการแสดง แฟชั่นโชว์หนูน้อยสงกรานต์ หัวหิน นอกจากนี้ยังมีการแสดงโชว์วัฒนธรรมไทยอีกด้วยวันที่
14 เม.ย. 65 คนชอบเพลงไม่ควรพลาดกับการประกวดร้องเพลง รอบคัดเลือก รายการ 'สงครามไมค์' จากช่อง True 4U
วันที่ 15-16 เม.ย. 65 ร่วมชม และเชียร์ การแข่งขัน เตะตะกร้อลอดห่วง ลีลาระดับประเทศ
วันที่ 17 เม.ย. 65 ร่วมชมการแสดง ศิลปะ และดนตรี
ระหว่างวันที่ 9-17 เมษายน 2565 นี้ ณ ลาน Seaside Court ศูนย์การ์ค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน
#2091
CPANEL ให้ข้อมูลสรุปผลประกอบการปี 2564 รายได้ปี 64 ทะลุเป้าโต 40% กำไรโต 142% แจกปันผลหุ้น - เงินสด 0.085 บาทต่อหุ้น

นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน) หรือ CPANEL ให้ข้อมูลสรุปผลประกอบการปี 2564 รายได้รวม 312.44 ล้านบาท โตทะลุเป้า 40% กำไรสุทธิ 31.80 ล้านบาท โต 142% เตรียมปันผลเป็นหุ้นอัตรา15 : 1 มูลค่า 0.085 บาท/หุ้น และเงินสด 0.0183333 บาท/หุ้น รวมเป็นการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2564 ในอัตรา 0.085 บาท/หุ้น คิดเป็น 42.15% ของกำไรสุทธิฯ Record Date 6 พ.ค. 65 กำหนดจ่าย 20 พ.ค. 65 ในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) ผ่านช่องทาง Streaming ของเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 

ALPHAX ยิ้ม! บุ๊กรายได้สารสกัดกัญชง
 
หุ้นอนาคตไกลโตติดเทอร์โบ ต้องยกให้กับ บมจ.อัลฟ่า ดิวิชั่นส์ (ALPHAX) ล่าสุด! ประเดิมรับรู้รายได้สารสกัดกัญชงไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ Q1/65 ฟากซีอีโอหนุ่มไฟแรง "ธีร ชุติวราภรณ์" ฝากบอกว่า ผลตอบรับจากการผลิตสารสกัด CBD คึกคัก มีลูกค้าสนใจรอต่อคิวเพียบ เรียกได้ว่ามีออเดอร์แน่นๆยาวๆกันไปเลย พร้อมเดินหน้าติดตั้งเครื่องสกัดเพิ่มศักยภาพการผลิตได้อีก 100 เท่า คาดแล้วเสร็จไตรมาส 3/65 มั่นใจช่วยสร้างรายได้เพิ่ม ผลักดันผลงานปีนี้โตก้าวกระโดด 200% ได้แบบชิลๆ เลยคร้า!
#2092
พันธบัตรไทยมีแนวโน้มร่วงหนักสุดในเอเชียหลังบอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่งแรง

สำนักข่าวบลูมเบิร์กเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า ราคาพันธบัตรของไทยมีแนวโน้มปรับตัวลงอีก เนื่องจากพันธบัตรของสหรัฐยังคงมีความผันผวนอย่างมาก

พันธบัตรของไทยมีความอ่อนไหวต่อการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมากที่สุด เมื่อเทียบกับพันธบัตรของประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ โดยข้อมูลของบลูมเบิร์กระบุว่า ผลตอบแทนรวมของพันธบัตรสกุลเงินบาทร่วงลง 6.1% นับตั้งแต่รัสเซียบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ซึ่งถือเป็นการทรุดตัวลงมากที่สุด

ข้อมูลระบุว่า แรงกดดันดังกล่าวยังไม่มีแนวโน้มที่จะบรรเทาลงในเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐจะพุ่งขึ้นอีก โดยในสัปดาห์นี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งแตะระดับสูงสุดถึง 2.66% หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยแผนการปรับลดขนาดงบดุลบัญชี และนางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟดส่งสัญญาณว่า การปรับลดขนาดของงบดุลจะเริ่มขึ้นในเดือนพ.ค.นี้

ข้อมูลของบลูมเบิร์กยังระบุด้วยว่า ที่ผ่านมานั้น พันธบัตรของไทยมีกันชนอัตราผลตอบแทนที่แท้จริง (Real Yield Buffer) ที่ตึงตัวที่สุดในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ของเอเชีย จึงทำให้พันธบัตรของไทยมีความอ่อนไหวมากที่สุดต่อการปรับตัวของพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักวิเคราะห์ของดอยซ์แบงก์คาดว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 3.3% ในปีนี้

นอกจากนี้ บลูมเบิร์กรายงานว่า นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ด้านตลาดเงินและตลาดทุนของธนาคารกรุงไทยได้แสดงความเห็นว่า "อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของไทยมีความอ่อนไหวต่อการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งการที่นักลงทุนต่างชาติได้พากันลดการลงทุนในพันธบัตรตลาดเกิดใหม่ เนื่องจากสงครามในยูเครนและเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว"
#2093
Mintel เผยผลการสำรวจปี 65 ชี้ผู้บริโภคชาวไทยมองหาแบรนด์ที่จะช่วยให้ตนเองบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน สุขภาพทางการเงินที่ดี และไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น หลังเผชิญโควิด-19

Mintel เผยรายงานล่าสุดเกี่ยวกับผู้บริโภคชาวไทยปี 2565 โดยไฮไลต์ของรายงาน ได้แก่ ทัศนคติของผู้บริโภคชาวไทยที่มีต่อชีวิตประจำวันที่เปลี่ยนแปลงไป และข้อเสนอแนะสำหรับแบรนด์ต่าง ๆ ที่ผนวกข้อมูลผู้บริโภค ข้อมูลการตลาดเชิงลึก และคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่บรรดาแบรนด์ต่าง ๆต้องการ เพื่อช่วยผลักดันให้แบรนด์ประสบความสำเร็จในตลาดปัจจุบันที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล

คุณวุ้น ปองสงวน  จีระเดชากุล รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์รายงานของผู้บริโภคชาวไทยและชาวอินเดียของ Mintel กล่าวว่า:

"เหตุการณ์ในช่วงสองปีที่ผ่านมาได้ทิ้งรอยแผลและผลกระทบต่อชีวิตในด้านต่าง ๆ มากกว่าที่เราได้คาดการณ์ไว้ แม้โรคระบาดจะเป็นปัจจัยที่เร่งให้เกิดการใช้งานระบบดิจิทัลและทำให้อีคอมเมิร์ซเติบโต แต่โรคระบาดถือเป็นอุปสรรคสำหรับการบริโภคอย่างยั่งยืนของกลุ่มผู้บริโภคชาวไทย"

"แม้ว่า โรคระบาดจะนำไปสู่ปัญหาทางการเงินในด้านต่าง ๆ เช่น หนี้สินภาคครัวเรือน การว่างงานที่สูงขึ้น ฯลฯ หากมองในมุมบวก เราก็จะเห็นได้ว่าผู้บริโภคชาวไทยหันกลับมาให้ความสำคัญกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของตนเองมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ผู้บริโภคเพศหญิงยังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากอีคอมเมิร์ซและบริการด้านอาหารอีกด้วย"

ผู้บริโภคชาวไทยใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

จากผลการวิจัยล่าสุดของ Mintel แสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภคชาวไทยประมาณ 82% พยายามทำในสิ่งที่จะไม่ทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์และบริการจัดส่งสินค้าที่พุ่งสูงขึ้น เช่น จำนวนของเสียที่เกิดจากการดำเนินการดังกล่าว การปล่อยก๊าซพิษ และการบริโภคที่มากจนเกินไป ถือเป็นปัจจัยที่ขัดกับความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

คุณวุ้นยังกล่าวอีกว่า "แบรนด์ควรจะลดข้อความที่สื่อถึงเรื่องความสะดวก ประโยชน์ต่อสุขภาพ และความคุ้มค่าลงบ้าง โดยหันมาสื่อสารข้อความเกี่ยวกับผลกระทบเชิงบวกที่เกิดจากการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนบนบรรจุภัณฑ์หรือโซเชียลมีเดียให้มากขึ้น เพื่อชักชวนคนไทยให้หันมาประยุกต์ใช้ไลฟ์สไตล์ที่ยั่งยืน

ช่วยผู้บริโภคให้มีสุขภาพทางการเงินที่ดี

หนี้สินภาคครัวเรือนเป็นปัจจัยที่กำลังกดดันสถานภาพทางการเงินของคนไทย ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มว่าจะย่ำแย่ลง จากอัตราการว่างงานที่สูงขึ้นและรายได้ที่ลดลง ผลการวิจัยของ Mintel พบว่า แม้ว่าผู้บริโภคชาวไทยส่วนใหญ่ (73%) จะให้ความสำคัญกับกองทุนฉุกเฉิน แต่เรื่องของหนี้สินยังคงเป็นปัญหากวนใจ โดยคนไทย (52%) ที่อาศัยอยู่ในชนบท ให้ความสำคัญกับการชำระหนี้สิน

"ผลงานวิจัยของเรายังพบว่า ผู้บริโภคชาวไทยสามารถมีฐานะทางการเงินที่ดีขึ้นได้ หากเรามีเครื่องมือที่ดีพอที่จะช่วยเหลือในเรื่องการบริหารจัดการด้านการเงินและชำระหนี้ ในกรณีนี้แบรนด์สามารถช่วยผู้บริโภคได้ด้วยผลิตภัณฑ์หรือบริการทางการเงินที่จะช่วยส่งเสริมให้เกิดพฤติกรรมการใช้จ่ายอย่างรับผิดชอบ"

"จริง ๆ แล้วยังมีความต้องการอีกมากในการพัฒนาและเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจในเรื่องการเงินของคนไทย และหากใครก็ตามที่กำลังเผชิญปัญหาด้านการเงิน แม้จะเป็นกลุ่มที่มีรายได้น้อยก็ตาม คำแนะนำด้านการลงทุนไม่ว่าจะแบบดั้งเดิมหรือแบบใหม่อย่างสินทรัพย์ดิจิทัล สามารถเป็นตัวช่วยในการวางแผนทางการเงินให้ไปต่อได้" คุณวุ้นกล่าว

ช่วยคนไทยให้ใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น

ปัจจุบันผู้บริโภคชาวไทยจำนวน 4 ใน 5 (81%) มีความกังวลเกี่ยวกับอาหารการกิน การใช้ชีวิตอย่างกระฉับกระเฉง และการจัดการกับความเครียดที่เกิดขึ้น โดยผลการวิจัยล่าสุดจาก Mintel แสดงให้เห็นว่า กว่า 60% ของผู้บริโภคชาวไทยตั้งใจที่จะดูแลสุขภาพของตน ด้วยการบริโภคอาหารที่ดีหรือการดื่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เช่น เครื่องดื่มบำรุงกำลังที่เสริมวิตามิน ฯลฯ แต่ถึงกระนั้น การที่ผู้บริโภคไม่มีเวลา ความไม่สะดวก และรสชาติอาหารที่ไม่ถูกปากก็ถือเป็นอุปสรรคที่ขัดขวางความตั้งใจที่จะมีสุขภาพดีของผู้บริโภคได้เช่นกัน

คุณวุ้นกล่าวต่อไปว่า "แบรนด์ต่าง ๆ สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในจุดนี้ได้ด้วยการช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในกลุ่มผู้บริโภคแต่ละช่วงอายุ ด้วยการอธิบายเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์หรือบริการของแบรนด์ว่าจะช่วยแก้ปัญหาแต่ละส่วนของผู้บริโภคได้อย่างไรบ้าง นอกจากนั้นยังเป็นการเปิดโอกาสให้แบรนด์รังสรรค์นวัตกรรมที่ใช้งานได้ในยุคที่ผู้บริโภคเต็มใจที่จะจ่ายเงินเพิ่มขึ้น เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า"

ขับเคลื่อนด้วย ' she-economy ' พลังผู้หญิงเปลี่ยนโลกเศรษฐกิจ

รายงานผู้บริโภคชาวไทยปี 2565 เผยเหตุผลสำคัญ 2 ข้อที่ทำให้ 'She-economy' ในไทยกำลังมาแรง ประการแรก ในช่วงที่เกิดการระบาดครั้งใหญ่ ผู้บริโภคเพศหญิงมีบทบาทสำคัญในการดันยอดอีคอมเมิร์ซของตลาดให้พุ่งสูงด้วยการเป็นผู้ซื้อสินค้าและใช้บริการจัดส่งอาหารออนไลน์และแอปพลิเคชันเป็นประจำ ประการที่สอง ความตระหนักในเรื่องพลังของผู้หญิงและความเท่าเทียมทางเพศโดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภค Gen Z และสาวยุคมิลเลนเนียลที่จะมาขับเคลื่อนการเลือกซื้อสินค้าประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะแนวคิดเรื่องความงามตามธรรมชาติเพื่อคุณค่าและความมั่นใจในตัวเองก็เป็นประเด็นสำคัญมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้บริโภคผู้หญิงกว่าครึ่งหรือ 51% ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นการเปิดโอกาสให้แบรนด์ต่าง ๆ ได้ผลักดันและสนับสนุนในเรื่องความงาม และประสบการณ์ด้านความงานเชิงบวกสำหรับผู้หญิง

"ในขณะที่ลูกค้าเพศหญิงหันไปซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์และบริการส่งอาหารมากขึ้นในช่วงการระบาดนั้น ความกังวลเรื่องไลฟ์สไตล์ตั้งแต่เรื่องของสุขภาพไปจนถึงการเงินในแต่ละช่วงอายุมีความแตกต่างกันออกไป โดยแบรนด์ต่าง ๆ สามารถปรับแต่งข้อเสนอของแบรนด์ให้ตรงตามความต้องการเฉพาะทางเหล่านั้นได้ ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์แก่กลุ่มลูกค้าผู้หญิง แต่ยังช่วยสนับสนุนให้เกิดพฤติกรรมการซื้อสินค้าออนไลน์บ่อยครั้งขึ้นได้อีกด้วย"

"ยิ่งไปกว่านั้น ความตระหนักในเรื่องความเท่าเทียมทางเพศที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคเพศหญิงต้องการที่จะสนับสนุนแบรนด์ที่ช่วยสะท้อนความเชื่อส่วนตัวรวมไปถึงความเป็นตัวของตัวเอง แบรนด์ที่มีค่านิยมที่สอดคล้องกับการส่งเสริมพลังของผู้หญิงจะสามารถโปรโมทข้อความสื่อหรือแคมเปญเกี่ยวกับความเท่าเทียมทางเพศได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์และลูกค้าที่จะนำมาซึ่งการสนับสนุนจากกลุ่มสาวนักช้อปยุคใหม่ได้ด้วยเช่นกัน
#2094
บุหรี่ blue ice ราคาส่ง บลูไอซ์ 1 เม็ดบีบ ส่งด่วน เก็บเงินปลายทาง บุหรี่เมนทอลสัญชาติญี่ปุ่นมีเม็ดบีบเพิ่มความเย็น มาพร้อมกลิ่นหอมมิ้นท์ให้ความรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลายทุกครั้งที่ได้สูบ บุหรี่ BLUE ICE BLAST ราคา1 คอทตอน ราคา 400 บาทติดต่อสั่งซื้อLine :: @pra777บุหรี่ BLUE ICE BLAST (1 เม็ดบีบ)(บรรจุ 20 มวน/ซอง - 10 ซอง/คอตตอน) 
 บุหรี่เมนทอลสัญชาติญี่ปุ่นมีเม็ดบีบเพิ่มความเย็น มาพร้อมกลิ่นหอมมิ้นท์ให้ความรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลายทุกครั้งที่ได้สูบ 
 MADE IN JAPAN (TAR : 20 MG. – NICOTINE :1.5 MG.) Blue Ice Blast : บุหรี่เม็ดบีบสัญชาติญี่ปุ่น เย็นระดับถึงพริกถึงขิง รับประกันความเย็น
Tags :: บุหรี่ blue ice ราคาส่ง,blue ice ราคาส่ง,blue ice ราคาถูก
#2095
PLANET ตั้งบ.ย่อย 'แพลนเน็ต อีวี' ลุยธุรกิจรถ EVแบบครบวงจร

PLANET ตั้งบ.ย่อย 'แพลนเน็ต อีวี' ลุยธุรกิจรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) แบบครบวงจร รองรับอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้ากำลังการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมีศักยภาพ บิ๊กบอส 'ประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์' แย้มร่วมมือกับพันธมิตรหลายราย มั่นใจ สร้างได้รายที่ดีให้กับบริษัท 

นายประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANET  เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้จัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ชื่อ บริษัท แพลนเน็ต อีวี จำกัด เพื่อประกอบกิจการผลิต ซื้อ ขาย ส่งออก รถยนต์ รถยนต์ไฟฟ้าทุกชนิด รถจักรยานยนต์ เครื่องกลไก เครื่องจักรกลทุกชนิดตลอดจนชิ้นส่วน หรืออะไหล่ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าดังกล่าว รวมถึงให้บริการสถานีสำหรับชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร

ทั้งนี้ บริษัทย่อยดังกล่าว มีวัตถุประสงค์การลงทุนเพื่อลงทุนระยะยาวตามแผนธุรกิจของบริษัท ซึ่งบริษัทจะได้รับผลตอบแทนเป็นเงินปันผลและผลประกอบการทางธุรกิจ โดยมีทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท ซึ่ง  PLANET ถือหุ้น 99.9994%  สำหรับการดำเนินธุรกิจภายใต้บริษัทย่อยแห่งใหม่ดังกล่าว จะมีการร่วมมือกับพันธมิตรหลายราย เพื่อดำเนินธุรกิจรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) อย่างครบวงจรร่วมกัน ซึ่งขณะนี้ถือว่ามีความคืบหน้ามากแล้ว ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวได้มีการศึกษาเพื่อการลงทุนมาระยะหนึ่งซึ่งต้องยอมรับว่า อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้ากำลังการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมีศักยภาพ

' บริษัท แพลนเน็ต อีวี จำกัด บริษัทย่อยแห่งใหม่ดังกล่าว ถือเป็นความคืบหน้าในการขยายธุรกิจเพิ่มเติม หลังจากบริษัทฯ ได้มีการตั้งบริษัทย่อยในก่อนหน้านี้ คือ บริษัท แพลนเน็ตยูทิลิตี้ จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจบริหารจัดการ ให้บริการผลิตน้ำประปาและไฟฟ้า เพื่อจำหน่ายหรือจำหน่ายน้ำประปาหรือกระแสไฟฟ้า และ บริษัท แพลนเน็ต ไซเบอร์ จำกัด เพื่อประกอบกิจการ ซื้อ ขาย ออกแบบ ติดตั้ง และให้บริการหลังการขาย ผลิตภัณฑ์ทางด้านระบบการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้แก่ภาครัฐ และภาคเอกชนไปแล้ว ซึ่งถือเป็นเป็นพัฒนาการที่ดี ต่อโอกาสสร้างได้รายให้กับบริษัทฯอย่างมีนัยสำคัญ'  นายประพัฒน์กล่าว

 
#2096
จีนประณามสหรัฐขายอาวุธให้ไต้หวัน ชี้ละเมิดหลักการ 'จีนเดียว'

จีนออกโรงคัดค้านและประณามสหรัฐที่อนุมัติการขายอาวุธให้ไต้หวันคิดเป็นมูลค่า 95 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเรียกร้องให้สหรัฐยกเลิกแผนการดังกล่าว

นายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวในการแถลงข่าวว่า 'การที่สหรัฐขายอาวุธให้ไต้หวันซึ่งเป็นดินแดนของจีน ถือเป็นการละเมิดหลักการจีนเดียวและแถลงการณ์ร่วม 3 ฉบับระหว่างจีนกับสหรัฐอย่างรุนแรง โดยเฉพาะแถลงการณ์ร่วมฉบับวันที่ 17 ส.ค. นับเป็นการบั่นทอนอำนาจอธิปไตยและผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของจีน รวมถึงเป็นภัยร้ายแรงต่อความสัมพันธ์จีน-สหรัฐ ไปจนถึงสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน'

'สหรัฐควรปฏิบัติตามหลักการจีนเดียวและแถลงการณ์ร่วม 3 ฉบับระหว่างจีนกับสหรัฐ ยกเลิกแผนการขายอาวุธ รวมถึงหยุดขายอาวุธให้ไต้หวันและหยุดความสัมพันธ์ทางทหารกับไต้หวัน' นายจ้าวกล่าว พร้อมกับเน้นย้ำว่าจีนจะเดินหน้าใช้มาตรการที่แข็งกร้าวในการปกป้องอำนาจอธิปไตยและผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของประเทศ

ทั้งนี้ สำนักงานความร่วมมือด้านความมั่นคงกลาโหม (DSCA) ของสหรัฐ เปิดเผยเมื่อวานนี้ (5 เม.ย.) ว่า กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้อนุมัติการขายอาวุธให้ไต้หวัน ซึ่งครอบคลุมถึงการฝึกอบรม การวางแผน การติดตั้ง การใช้งาน และการบำรุงรักษาระบบป้องกันภัยทางอากาศแพทริออตและอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 
#2097
ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดลบ 20 เซนต์ ข่าว IEA ระบายน้ำมันกดดันตลาด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (7 เม.ย.) โดยตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่า สำนักงานพลังงานสากล (IEA) จะระบายน้ำมันจากคลังสำรองเพื่อสกัดราคาน้ำมัน รวมทั้งรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่พุ่งขึ้นสวนทางการคาดการณ์

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 96.03 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. 2565

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 49 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 100.58 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค. 2565

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ หลังจาก IEA มีมติระบายน้ำมัน 60 ล้านบาร์เรลออกจากคลังน้ำมันสำรองของประเทศสมาชิก โดยการระบายน้ำมันดังกล่าวถือเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ IEA เคยมีมติเมื่อวันที่ 1 มี.ค.ในการระบายน้ำมันจำนวน 60 ล้านบาร์เรลเช่นกัน

ทั้งนี้ IEA ประกอบด้วยสมาชิก 31 ประเทศ โดยสมาชิกรายใหญ่ได้แก่ สหรัฐ สหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศส แคนาดา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้

ตลาดยังถูกกดันจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.85 ล้านบาร์เรล

นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลว่า การที่จีนประกาศล็อกดาวน์เมืองต่าง ๆ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน

นักลงทุนจับตาสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมทั้งผลกระทบจากการที่นานาประเทศใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย โดยนายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย กล่าวว่า การผลิตน้ำมันของรัสเซียอาจลดลง 4-5% ในเดือนนี้ เพราะถูกกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐและพันธมิตร

นายโนวัคยังกล่าวด้วยว่า ธนาคารกลางและกระทรวงการคลังรัสเซียกำลังหารือกันเกี่ยวกับการส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติไปยังจีน โดยให้จีนชำระเป็นสกุลเงินหยวน
#2098
ภาวะตลาดอนุพันธ์: ลบขายลดเสี่ยงก่อนหยุดพรุ่งนี้ จับตามาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า การซื้อ ขาย SET50 Index Futures วันนี้แกว่งไซด์เวย์ค่อนข้างผันผวน และปรับตัวลงเล็กน้อย ส่วนหนึ่งคาดว่าจะมาจากแรงขายเพื่อลด ความเสี่ยงบางส่วนในช่วงก่อนเข้าวันหยุดทำการในวันพรุ่งนี้ แต่ยังมีแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันรี บาวด์ และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเมืองมาช่วยหนุนให้ดัชนีปรับตัวลงไม่มาก อีกทั้งการซื้อขายในวันนี้ยังไม่คึกคักมาก

แนวโน้มในวันพฤ. 7 เม.ย.นี้ คาดว่าดัชนีจะแกว่งไซด์เวย์ หรืออาจจะปรับลงมาพักตัวในระยะสั้นได้ โดยที่ปัจจัยที่ยัง ต้องติดตามเกี่ยวกับเรื่องมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมที่ทางสหรัฐฯและชาติยุโรปจะออกมา รวมถึงการรายงานการประชุม ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในคืนพรุ่งนี้ โดยให้แนวต้าน 1,025-1,035 จุด แนวรับ 1,000-1,010 จุด

ด้านราคาทองคำยังเคลื่อนไหวทรงตัวในกรอบแคบๆ โดยที่มองว่าราคาทองคำยังมีอัพไซด์ค่อนข้างจำกัดจากอัตราผล ตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (Bond Yield) ยังปรับตัวขึ้นและทรงตัวในระดับสูง ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯยังแข็งค่า แม้ว่า จะมีปัจจัยสงครามรัสเซียและยูเครนที่เข้ามาช่วยหนุนอยู่บ้าง และในคืนนี้ติดตามการรายงานตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นภาคบริการเดือน มี.ค. 65 ของสหรัฐฯ และคืนพรุ่งนี้ติดตามการรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยให้กรอบการแกว่งราคาทองคำ ไว้ที่ 1,900-1,940 เหรียญสหรัฐฯ/ออนซ์

SET50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,021.32 จุด ลดลง 1.49 จุด, -0.15%

                                          ปริมาณ                สถานะคงค้าง
Total Market                             294,490               3,964,484
Total Futures                            291,661               3,930,380
SET50 Index                              110,633                 383,337
Sector Index                                -                       -
Single Stock                             132,389               3,336,942
Precious Metal                            35,911                  59,744
- GF10                                     3,400                  18,441
- GF50                                        17                     642
- Gold Online                             32,250                  38,965
- Silver Online                              244                   1,696
Deferred Precious Metal                        -                       -
- GOLD-D                                       -                       -
Currency                                  12,665                 149,907
Interest Rate                                -                        -
Agriculture                                   63                     450
- Japanese Rubber                             63                     450
- RSS3D                                      -                        -
- RSS3                                       -                        -
Total Options                              2,829                  34,104
Call                                       1,021                  14,183
Put                                        1,808                  19,921

สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน

                  นักลงทุนสถาบัน          นักลงทุนต่างชาติ          นักลงทุนภายในประเทศ
Futures             +8,443               +10,543                -18,986
Options               -206                    -8                   +214
 
#2099
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 280.70 จุด กังวลเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยกระทบศก.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันอังคาร (5 เม.ย.) หลังจากนางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและเร่งปรับลดขนาดของงบดุลเพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยการแสดงความเห็นดังกล่าวได้ฉุดหุ้นที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,641.18 จุด ลดลง 280.70 จุด หรือ -0.80%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,525.12 จุด ลดลง 57.52 จุด หรือ -1.26% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,204.17 จุด ลดลง 328.39 จุด หรือ -2.26%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากนางเบรนาร์ดได้แสดงความเห็นเมื่อคืนนี้ตามเวลาไทย โดยกล่าวว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเป็นระบบ และเร่งปรับลดขนาดงบดุลจากระดับสูงเกือบ 9 ล้านล้านดอลลาร์ โดยเริ่มตั้งแต่เดือนหน้า พร้อมกับกล่าวว่า ขณะนี้เงินเฟ้ออยู่ในระดับที่สูงเกินไป และการชะลอเงินเฟ้อถือเป็นภารกิจที่มีความสำคัญอย่างมาก

คริสตินา ฮูเปอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทอิสเวสโคกล่าวว่า การแสดงความเห็นของนางเบรนาร์ดทำให้ตลาดวิตกกังวลว่า เฟดอาจเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับที่รุนแรงมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงหรืออาจเข้าสู่ภาวะถดถอย และเมื่อถึงเวลานั้น เฟดอาจเผชิญกับความยากลำบากในการพยุงเศรษฐกิจ

ขณะนี้ตลาดการเงินคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมทั้งในเดือนพ.ค.และมิ.ย.ที่จะถึงนี้ และคาดว่าเฟดจะทำให้อัตราดอกเบี้ยแตะระดับ 2.50-2.75% ในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งสูงกว่า 2.4% ซึ่งเป็นระดับที่กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่าเป็นระดับที่เป็นกลาง

ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ร่วงลง 2.2% โดยหุ้นแอปเปิล ร่วงลง 1.89% หุ้นแอมะซอน ดิ่งลง 2.55% หุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 1.30% หุ้นอัลฟาเบท ลดลง 1.67% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 2.9%

ดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย ร่วงลง 2.4% โดยหุ้นราล์ฟ ลอเรน ดิ่งลง 3.86% หุ้นไนกี้ ร่วงลง 1.52% หุ้นคาปรี โฮลดิ้งส์ ร่วงลง 2.74%

หุ้นทวิตเตอร์ พุ่งขึ้น 2% ขานรับข่าวที่ว่า นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัทเทสลา จะเข้าร่วมบอร์ดบริหารของทวิตเตอร์ หลังจากที่ได้ถือครองหุ้นบริษัทมากกว่า 9% โดยนายมัสก์จะเป็นกรรมการในบอร์ดบริหารของทวิตเตอร์ และจะสิ้นสุดวาระในปี 2567

หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเรือสำราญรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 2.43% หลังบริษัทเปิดเผยยอดจองที่นั่งเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์

หุ้นสายการบินสปิริต แอร์ไลน์ส ทะยานขึ้น 22.37% ขานรับรายงานที่ว่า สายการบินเจ็ตบลู แอร์เวย์ส ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการสปิริต แอร์ไลน์ส

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 58.3 ในเดือนมี.ค. โดยได้แรงหนุนจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ รวมทั้งการพุ่งขึ้นของการจ้างงานและคำสั่งซื้อใหม่

ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าสหรัฐลดลง 0.1% สู่ระดับ 8.92 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. โดยการนำเข้าพุ่งขึ้น 1.3% สู่ระดับ 3.178 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่การส่งออกเพิ่มขึ้น 1.8% สู่ระดับ 2.286 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน
#2100
CWT จับมือ 'DreamerX' ลุยธุรกิจคริปโตฯ มุ่งสร้าง 'Green Bitcoin Mining' จากพลังงานไฟฟ้าเหลือใช้ ปั้น New S Curve 

บมจ.ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป หรือ CWT เดินหน้าเข้าสู่อุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัล หวังสร้าง New S Curve ส่งบริษัทย่อย 'ชัยวัฒนา กรีน แมนเนจเม้นท์' หรือ cwtGM ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกับ DreamerX บริษัท Tech Startup รุ่นใหม่ไฟแรง!! เตรียมสร้างเหมืองขุดบิทคอยน์ 'Green Bitcoin Mining' จากพลังงานไฟฟ้าเหลือใช้ของกล่มฯ คาดเห็นผลการศึกษา-ผลงานออกแบบภายในเดือน เม.ย.นี้ มั่นใจช่วยผลักดันธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน

นายวีระพล ไชยธีรัตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CWT) เปิดเผยว่า บริษัท ชัยวัฒนา กรีน แมนเนจเม้นท์ จำกัด หรือ cwtGM ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ ร่วมกับ บริษัท ดรีมเมอร์เอ็กซ์ จำกัด (DreamerX) ซึ่งเป็น บริษัท Tech Startup ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการสร้างเครื่องขุด และงานซ่อมบำรุงรักษาได้แบบครบวงจร รวมถึงการให้คำแนะนำในการลงทุนสร้างเหมือง Bitcoin เป็นต้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาความร่วมมือในธุรกิจอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัล หรือ คริปโตเคอร์เรนซี (cryptocurrency) และคาดว่าจะเห็นผลของการศึกษา ผลการออกแบบภายในเดือนเมษายนนี้

'cwtGM เป็นบริษัทย่อยของกลุ่มบริษัท ชัยวัฒนา กรีน จำกัด หรือ CWTG ซึ่งประกอบธุรกิจในกลุ่มพลังงาน มีการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน และมีพลังงานไฟฟ้าเหลือใช้ สามารถนำมาต่อยอดเป็น Green Bitcoin Mining ที่ต้นทุนไฟฟ้าต่ำได้ จึงมีความสนใจในการสร้างเหมืองขุดบิทคอยน์ ประกอบกับ DreamerX เป็น บริษัท Tech Startup ที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษในอุตสาหกรรมคริบโตฯ เราจึงเชื่อมั่นว่าการลงนามบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้ จะถือเป็นการเพิ่มโอกาสในการขยายแผนการลงทุนของบริษัทฯ จากสิ่งที่เรามีอยู่แล้วต่อยอดให้เกิดประโยชน์ คาดจะเห็นการพัฒนาธุรกิจร่วมกันภายในเร็วๆ นี้' นายวีระพล กล่าว

ด้านนายธีรัตต์ ไชยธีรัตต์ กรรมการบริหาร บริษัท ชัยวัฒนา กรีน แมนเนจเม้นท์ จำกัด หรือ cwtGM กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับธุรกิจอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัล หรือ คริปโตเคอร์เรนซี (cryptocurrency) และการขุดเหมืองบิทคอยน์มาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว และเห็นว่าการลงทุนในธุรกิจดังกล่าวเป็นการลงทุนในระยะยาว อีกทั้งยังสามารถสร้างรายได้ใหม่ให้แก่บริษัท ประกอบกับบริษัทฯมีกำลังการผลิตส่วนเกินของโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ซึ่งสามารถนำมาสร้างประโยชน์ร่วมกันได้ ส่งผลทำให้ต้นทุนค่าไฟซึ่งเป็นต้นทุนหลักของกิจกรรมนี้ลดลงอีกด้วย

'เราเชื่อมั่นว่าการพัฒนาความร่วมมือร่วมกับ DreamerX ในครั้งนี้ จะเป็นการสร้าง New S Curve ให้กับธุรกิจ และเป็นการต่อยอดธุรกิจด้านพลังงานที่มีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว และสร้างผลตอบแทนในระยะยาวที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นต่อไป' นายธีรัตต์ กล่าว

ขณะที่ นายสุกฤต วณิชวรากิจ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท ดรีมเมอร์เอ็กซ์ จำกัด (DreamerX) กล่าวว่า การลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อการพัฒนาความร่วมมือในธุรกิจอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัล หรือ คริปโตเคอร์เรนซี (cryptocurrency) ในครั้งนี้เพื่อพัฒนาโครงการ Green Bitcoin Mining ซึ่งมีความพิเศษเนื่องจากพลังงานที่ใช้ในการขุดเหรียญดิจิทัลเป็นพลังงานสะอาด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประกอบกับบริษัทฯ มีองค์ความรู้ในอุตสาหกรรมคริบโตฯ ความเชี่ยวชาญทางด้านการสร้างเครื่องขุด และงานซ่อมบำรุงรักษาได้แบบครบวงจร จึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถสนับสนุนงานของ CWT และคาดเห็นผลสรุปชัดเจนได้ภายในเร็วนี้เช่นกัน

อนึ่ง กลุ่มบริษัทฯ มีโรงไฟฟ้าที่ขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ขนาดกำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ และมีโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาคือ โรงไฟฟ้าขยะชุมชน จังหวัดนครสวรรค์ขนาดกำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ ปัจจุบันได้สัญญาบริหารจัดการขยะแล้ว 25 ปี และอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงานแยกขยะเพื่อเตรียมการต่อยอดเป็นโรงไฟฟ้าขยะชุมชนได้ภายในเร็วๆ นี้