• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Joe524

#3161


นีรนุช กนกวิไลรัตน์ ผู้จัดการด้านงานวิจัยและที่ปรึกษา บริษัท เอ็ดมันด์ ไต แอนด์ คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า โควิดระลอกแรกผู้ประกอบการ "ปิดสำนักงานขาย" พร้อมกับชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่! หลังจากนั้นไตรมาสสามปี 2563 เมื่อสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย ดีเวลลอปเปอร์ปรับกลยุทธ์การตลาดรุกผ่านช่องทางออนไลน์ หรือโซเชียลคอมเมิร์ซมากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามเทรนด์ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตไทยชอปปิงออนไลน์สูงถึง 83% และทำการซื้อสินค้าผ่านมือถือถึง 71% และยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย


"ปัจจุบันลูกค้าสามารถจองคอนโดผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทำให้ผู้ซื้อต่างชาติสามารถเข้าถึงอสังหาฯ ในประเทศไทยได้ง่ายขึ้น ไม่เฉพาะคนไทย เท่ากับว่าผู้ประกอบการสามารถขยายช่องทางขายไปต่างประเทศไทยง่ายขึ้น ทำให้ไตรมาสสามปี 2563 เริ่มมีการเปิดตัวโครงการใหม่ มีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 10,302 ยูนิต"

อย่างไรก็ตาม ไตรมาสแรกปี 2564 กลับปรับลดลงเหลือ 1,963 ยูนิต เนื่องจากเริ่มมีการแพร่ระบาดโควิดระลอกใหม่ แต่ในไตรมาสสอง จำนวนยูนิตที่เปิดตัวขยับขึ้นมา4,214 ยูนิต ส่วนหนึ่งเป็นเพราะบางโครงการที่เปิดตัวในไตรมาสแรกปีนี้เป็นโครงการที่มีจำนวนห้องหลายยูนิต บางโครงการ 1,000 ยูนิต ส่วนใหญ่จะเป็นคอนโดเกรดซี ส่วนคอนโดเกรดเอมีเพียง 1 โครงการที่เปิดตัวในไตรมาสที่สองคือ "ไรส์ เจริญนคร ลักซ์ นีโอ คลาสสิค" เป็นคอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ชื่อเดิม "อิมเพรสชั่น เจริญนคร" ผู้พัฒนาโครงการ ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ สูง 22 ชั้น จำนวน 170 ยูนิต ราคา 180,000 ต่อตร.ม. เจาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อที่ต้องการอยู่อาศัยแบบครอบครัว ด้วยจุดขายยูนิตละ 2 ห้องนอน

"จำนวนโครงการที่เปิดตัวในไตรมาสสองปีนี้ ส่วนใหญ่จับกลุ่มคนทำงาน และนักลงทุนคนไทยที่ซื้อเพื่อขายต่อหรือปล่อยเช่าเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น และจากตลาดคอนโดที่เริ่มชะลอตัวตั้งแต่ปี 2562-2563 ทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่โฟกัสบ้านจัดสรร และลดจำนวนการเปิดตัวโครงการคอนโดในปีนี้ หันจับตลาดที่มีกำลังซื้อน้อย และปานกลาง ด้วยการเปิดตัวเซกเมนต์ราคาไม่แพง (affordable price) กลุ่มกำลังซื้อน้อยสามารถซื้อได้"

สำหรับอัตราการจองคอนเปิดตัวใหม่ในไตรมาสสองที่ผ่านมา เฉลี่ย 33.1% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกอัตราการจอง 31.7% เพราะโครงการที่เปิดตัวในไตรมาสสอง ส่วนหนึ่งขายได้ถึง 80-90% จากการลงสนามเซกเมนต์ราคาไม่แพงของรายใหญ่ อาทิ แสนสิริ โนเบิล พฤกษา ออริจิ้น ราคาที่เข้าถึงทำให้เกิดยอดจองเร็ว (Presale) อาทิ เดอะมูฟ คอนโด ของแสนสิริ


"การจองคอนโดปัจจุบันไม่จำเป็นใช้เงินเยอะเหมือนสมัยก่อน ทำให้ลูกค้าตัดสินใจง่าย ยิ่งเป็นแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ โลเกชั่นดี และราคาไม่แพง ตร.ม.ไม่ถึงแสน ลูกค้าจับต้องได้ ยอดจองจึงเร็วกว่าปกติ "

ส่วนราคาขายคอนโดนเกรดเอ ระดับลักชัวรี และซูเปอร์ลักชัวรี ที่มีราคาตั้งแต่ 150,000 ต่อตร.ม.ขึ้นไป ในไตรมาสสองมีแค่ไรส์ เจริญนคร ลักซ์ นีโอ คลาสสิค ที่มีราคาเฉลี่ย 180,000 บาท ต่อตร.ม. โครงการเดียว จากไตรมาสแรกมีการเปิดตัวหลายโครงการทำให้ราคาคอนโดไตรมาสแรกเฉลี่ยอยู่ที่ 240,000 บาทต่อตรม. ทั้งนี้เนื่องจากบรรยากาศของตลาดไม่เอื้อกับการเปิดตัวโครงใหม่ ที่เป็นโครงการหรูที่อยู่ใจกลางเมืองทำให้ราคาปรับตัวลดลง

"แนวโน้มของตลาดคอนโดในปีนี้ จะได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์และคำสั่งปิดแคมป์ก่อสร้างในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทำให้การสร้างคอนโดไม่เสร็จได้ทันตามเวลาที่กำหนด หรือแม้ว่าจะสร้างเสร็จตรงเวลาได้แต่ผู้ประกอบการจะเลื่อนเปิดตัวโครงการในไตรมาสสามและสี่ออกไปก่อน ไม่ว่าจะเป็นโครงการเกรดเอหรือระดับแมส ที่มีราคาตร.ม.ละ 70,000-80,000 บาท ในพื้นที่รอบนอก คาดว่าโครงการคอนโดเปิดตัวใหม่ในปีนี้เทียบปี 2563 ลดลง 25-30%"

เวลานี้ตลาดเต็มไปด้วยปัจจัยลบ!! ไม่ว่าจะจำนวนสต็อกที่ค้างอยู่จำนวนหนึ่ง บรรยากาศไม่เอื้อต่อการซื้อและลงทุน ผู้บริโภคระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น เพราะไม่มั่นใจต่อเศรษฐกิจ จาก "วิกฤติโควิด" ที่ไม่รู้ว่าจะยืดเยื้อยาวนานแค่ไหน? แนวโน้มผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มมากขึ้นต่อเนื่องทุกวัน สถานการณ์นี้ยิ่งนานก็ยิ่งมีผลกับสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อผู้บริโภคที่ิอ่อนแอลง กระทบเป็นลูกโซ่ต่อธุรกิจ และการใช้ชีวิต
#3162


"วัคซีน" ยังคงเป็นประเด็นใหญ่ที่คนไทยให้ความสนใจ ทั้งการจัดหาวัคซีนยี่ห้อต่างๆ เมื่อได้วัคซีนมาแล้วการกระจายแจกจ่ายฉีดให้กับประชาชนมีการจัดสรรอย่างไร และการฉีดให้ประชาชนมีความรวดเร็ว ครอบคลุมแค่ไหน ส่วนการฉีดวัคซีนที่ล่าช้าเกิดจากอะไร แม้กระทั่งประเทศไทยได้รับบริจาควัคซีนจากนานาประเทศเพื่อนำมาฉีดให้กับ "บุคลากรทางการแพทย์" ซึ่งเป็น "ด่านหน้า" กลับถูก "ทวงถาม" จากบุคคลเหล่านั้น 

การบริหารจัดการวัคซีนของภาครัฐที่ยังไม่ถูกใจประชาชนหลายภาคส่วน เกิดมีข้อกังขามากมาย ล่าสุด วันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา ประเทศไทยได้รับบริจาควัคซีนไฟเซอร์จากสหรัฐอเมริกา จำนวน 1,503,450 โดส เพื่อฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ แต่กลับมีกระแสข่าวการจับฉลากได้ฉีดวัคซีน จำนวนวัคซีนที่ได้รับการจัดสรรคไม่สอดคล้องกับบุคลากร เป็นต้น  

ทั้งนี้  ผศ.นพ.ฉัตรชัย มิ่งมาลัยรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสนาม​ธรรมศาสตร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ความว่า ...

"โดนเทซ้ำซาก....ที่ธรรมศาสตร์

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ร่วมต่อสู้โควิด-19มาตั้งแต่มีนาคมปีที่แล้วโดยประกาศจัดตั้งรพ.สนามเป็นแห่งแรกของประเทศ เราได้ร่วมต่อสู้มาทุกระลอก จนปัจจุบัน เรามีรพ.สนาม ที่ดูแลเคสสีเหลืองกว่า400เตียง ที่เตียงเต็มตลอด มีรพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติที่ดูเคสสีแดงกว่า100 เตียงซึ่งเตียงก็เต็มตลอด เราตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนที่ฉีดวันละ2-3พันคนต่อวัน มียอดคนฉีดกับเราไปแล้วกว่า1แสนคน มีจัดตั้ง Home isolation ที่มีผู้ป่วยในการดูแลกว่า 1,000 คน

แต่ในวันนี้เราได้รับการจัดวัคซีนไฟเซอร์มาเพียง 60% ของที่ขอไป ทั้งที่ ยอดนี้ลดลงกว่าครึ่งในตอนแรกเพราะฉีดเข็ม3ด้วย Az ไปแล้วเพราะไม่เชื่อใจในการบริหารวัคซีนของรัฐบาล ทั้งที่เราส่งชื่อรายชื่อไปใหม่เป็นบุคลากรด่านหน้าที่จำเป็นต้องได้เท่านั้นตามข้อบ่งชี้ที่กระทรวงกำหนดซึ่งส่วนใหญ่คือแพทย์และพยาบาล......" 




พร้อมกันนี้ นักธุรกิจชั้นนำของเมืองไทยอย่าง "ปิติ ภิรมย์ภักดี" ผู้บริหารและทายาทของเครือบุญรอดบริวเวอรี่ หรือค่ายสิงห์ ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวพร้อมภาพประกอบเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นกัน ความว่า..

"ผมว่าจะไม่ลงละนะ แต่สงสารคนไทย

ศบค.พูดโคตรชัดว่าวัคซีนทำให้จำนวนคนตายลดลง

แล้วทำไมถึงเลื่อน ทำไมถึงฉีดไม่ได้ตามเป้า วัคซีนหายไปไหน รักกันมากๆหน่อยสิ

เตือนไว้ก่อนด่ามาจะด่ากลับ หมดความอนทนแล้วเหมือนกัน

ไม่ต้องชื่นชมหรือมาซื้อของบริษัทผม ผมแค่ทำหน้าที่คนไทยคนนึงที่อยากเห็นสิ่งที่ดีขึ้น"

นอกจากนี้ ยังแสดงความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์ครั้งนี้เพื่อเสียสละเป็นกระบอกเสียงให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้านั่นเอง 


"ด่านหน้าต้องจับฉลากเพื่อจะได้ฉีด บางโรงพยาบาลใช้วิธีผสมน้ำเพื่อให้ครบคน ผมขอสละตัวเองเป็นกระบอกเสียงให้พวกเค้าครับ และเมื่อผมเอาจริงคือเอาจริง"

อย่างไรก็ตาม ปิติ ได้ย้ำการโพสต์ข้อความดังกล่าว ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทหรือบุคคลอื่นในครอบครัวแต่อย่างใด 

"ผมมาจากครอบครัวใหญ่ครับ ทุกอย่างที่ผมเขียนหรือพูดไป ผมรับผิดชอบตัวเองได้ครับ ไม่เกี่ยวกับบริษัทหรือคนอื่นในครอบครัว"

ทั้งนี้ โพสต์ดังกล่าว มีคนไลก์กว่า 1.7 หมื่นไลก์(Like) แสดงความคิดเห็น(Comment)กว่า 1,000 และแชร์โพสต์ไปแล้วกว่า 1,600 แชร์ (ณ เวลา 09.36 น.) โดยส่วนใหญ่เห็นด้วยถึงความกล้าในการออกมาแสดงความคิดเห็นท่ามกลางช่วงวิกฤติโรคระบาด เพราะทุกฝ่ายต่างต้องการให้สถานการณ์ดีขึ้น และการบริหารจัดการวัคซีนดี มีประสิทธิภาพ 
#3163


นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อํานวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตลอดจนมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ของทางการ ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างรุนแรง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ห้องพัก เกสต์เฮ้าส์ สปา ภัตตาคาร และร้านอาหาร  ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงและต่อเนื่อง  สสว. จึงมอบหมายให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เป็นหน่วยร่วมดำเนินโครงการสนับสนุน SMEs รายย่อย อนุมัติสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ วงเงินรวม 1,200 ล้านบาท เพื่อให้เอสเอ็มอีในกลุ่มธุรกิจดังกล่าว นำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เสริมสภาพคล่อง ลงทุนขยายกิจกรรม ปรับปรุง ซ่อมแซม ยกระดับมาตรฐานการให้บริการ  โดยคิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1% ต่อปี ผ่อนนานสูงสุด 7 ปี ปลอดชำระคืนเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 1 ปี  หลักประกัน กรณีบุคคลธรรมดา ใช้บุคคลที่น่าเชื่อถือค้ำประกัน ส่วนกรณีนิติบุคคล ใช้กรรมการผู้มีอำนาจแทนนิติบุคคลค้ำประกัน

โครงการสนับสนุน SMEs รายย่อย ดำเนินการสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้เอสเอ็มอี โดยเฉพาะที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำพิเศษได้สะดวก เหมาะสมกับสถานการณ์เร่งด่วน ดังนั้น ได้ปรับปรุงกระบวนการ โดยใช้เกณฑ์พิจารณาจากหลักฐานการเสียภาษีในปี 2563 หรือ 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกลุ่มเป้าหมายเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายขึ้น

สำหรับคุณสมบัติของผู้ยื่นกู้ในโครงการนี้ต้องเป็นสมาชิก สสว. กรณียังไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับ สสว. สามารถขอขึ้นทะเบียนก่อนได้ ( http://members.sme.go.th/newportal/)  โดยต้องเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกลุ่มรายย่อย (Micro) และขนาดย่อม (Small) ตามนิยามของ สสว.  อยู่ในกลุ่มธุรกิจโรงแรม ห้องพัก เกสต์เฮ้าส์ และธุรกิจสปาที่ตั้งอยู่ในโรงแรม ห้องพัก เกสต์เฮาส์ ใน 10 จังหวัด พื้นที่นำร่องเปิดการท่องเที่ยว  ประกอบด้วย 1.ภูเก็ต 2.กระบี่  3.พังงา 4.สุราษฎร์ธานี 5.เชียงใหม่ 6.ชลบุรี 7.เพชรบุรี  8.ประจวบคีรีขันธ์  9.บุรีรัมย์  และ 10.กรุงเทพมหานคร หรือที่จะมีประกาศเพิ่มเติม

รวมถึง กลุ่มธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร ใน 29 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด  ตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับล่าสุด ประกอบด้วย  1. กรุงเทพมหานคร  2. กาญจนบุรี 3.ชลบุรี  4.ฉะเชิงเทรา 5. ตาก  6. นครปฐม  7. นครนายก  8. นครราชสีมา  9. นราธิวาส  10.นนทบุรี  11.ปทุมธานี  12.ประจวบคีรีขันธ์  13.ปราจีนบุรี  14.พระนครศรีอยุธยา  15.เพชรบุรี  16.ปัตตานี  17.เพชรบูรณ์  18.ยะลา  19.ระยอง  20.ราชบุรี  21.ลพบุรี  22.สงขลา  23.สิงห์บุรี  24.สมุทรปราการ  25.สมุทรสงคราม  26.สมุทรสาคร  27.สระบุรี 28.สุพรรณบุรี และ 29.อ่างทอง  หรือที่จะมีประกาศเพิ่มเติม     

อีกทั้ง ต้องไม่เคยได้รับความช่วยเหลือเงินทุนในโครงการพลิกฟื้นฯ โครงการฟื้นฟูฯ หรือกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ รวมถึงต้องไม่เป็นหนี้ NPLs ไม่ถูกดำเนินคดี และไม่เป็นบุคคลล้มละลาย    

สำหรับวงเงินกู้ สำหรับบุคคลธรรมดา พิจารณาจากการชำระภาษี ภ.ง.ด.90 ในปี 2562 หรือ 2563 ที่สูงกว่า และความเป็นเจ้าของสถานประกอบการ สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท หากจำนวนเงินที่ชำระภาษี 0-10,000 บาท วงเงินกู้สูงสุด 100,000 บาท, จำนวนเงินที่ชำระภาษี  10,001-20,000 บาท วงเงินกู้สูงสุด 200,000 บาท  และจำนวนเงินที่ชำระภาษีมากกว่า 20,000 บาทขึ้นไป วงเงินกู้สูงสุด 300,000 บาท กรณีมีสถานประกอบการเป็นของตัวเองหรือบุคคลในครอบครัว ให้วงเงินเพิ่มอีกลำดับละ 50,000 บาท แต่รวมแล้วสูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท  สำหรับนิติบุคคล ไม่เกินร้อยละ 50 ของค่าใช้จ่ายในงบการเงินปี 2562 หรือ 2563 ที่สูงกว่า สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท  

ด้านนางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank  กล่าวเสริมว่า ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถแจ้งความประสงค์ยื่นกู้ได้ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยสแกน QR Code ในโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ หรือคลิก https://qrgo.page.link/VF6Ka   รวมถึง เว็บไซต์ของ  SME D Bank  ( https://www.smebank.co.th/ ) , Line OA : SME Development Bank  และแอปพลิเคชั่น : SME D Bank  ตั้งแต่เวลา 13.00 น.  ในวันที่ 11 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะเต็มวงเงิน   โดยใช้เกณฑ์มาก่อนได้ก่อน (first come first serve) หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ธนาคารจะติดต่อกลับ เพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1357
#3164


จากมติคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เมื่อวันที่ 7 ก.ค.2564 ได้กำหนดการใหม่สำหรับการประมูลการอนุญาตให้ใช้สิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมในลักษณะจัดชุด (Package)

หลังจาก สำนักงาน กสทช.ได้เปิดให้ผู้สนใจเข้ามายื่นเอกสารหลักฐานเพื่อเข้าร่วมการคัดเลือกฯ ในวันที่ 5 ก.ค.2564 มี บริษัท ทีซี สเปซ คอนเน็ค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM ถือหุ้น 100% เข้ามายื่นเอกสารเข้าร่วมการคัดเลือกเพียงรายเดียว

ทำให้หลังจากนั้นสำนักงาน กสทช.จึงเปิดให้ผู้สนใจรับเอกสารการคัดเลือกเพิ่มเติม ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค.-6 ส.ค.2564 ผลปรากฏว่า มีบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เข้ามารับเอกสารการคัดเลือกเพิ่มเติม ในวันที่ 6 ส.ค.2564 เวลา 16.20 น.ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่เปิดให้ผู้ที่สนใจขอรับเอกสารการคัดเพิ่มเติม อีกเพียงรายเดียวเท่านั้น
ทั้งนี้ในขั้นตอนต่อไป จะมีการจัดการประชุมสัมมนาเพื่อชี้แจงกระบวนการประมูลและกรอกแบบคำขอรับอนุญาต(public information session) วันนี้ (9 ส.ค.2564) จากนั้นผู้ประสงค์ขอรับอนุญาตยื่นคำขอรับอนุญาตและวางหลักประกันการขอรับอนุญาต วันที่ 11 ส.ค.2564 โดยในขั้นตอนนี้ บริษัท มิวสเปซ แอนด์ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัดสามารถเข้ามายื่นขอรับใบอนุญาตฯ ได้ หลังจากมาขอรับเอกสารการคัดเลือกในรอบแรก และต้องรอดูว่า NT จะเข้ามายื่นขอรับใบอนุญาตฯ หรือไม่ ก่อนที่ประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านคุณสมบัติเป็นผู้เข้าร่วมการคัดเลือก วันที่ 18 ส.ค.2564
จากนั้นประกาศรายชื่อผู้เข้าร่วมการคัดเลือกที่ผ่านเกณฑ์ข้อเสนอด้านประสบการณ์และความสามารถด้านการเงินเพื่อเป็นผู้เข้าร่วมการประมูล วันที่ 24 ส.ค.2564, จัดการประชุมสัมมนาเพื่อชี้แจงขั้นตอนการประมูล (bidder information session) และการประมูลรอบสาธิต (mock auction) วันที่ 25 ส.ค.2564 และประมูล วันที่ 28 ส.ค.2564

สำหรับชุดข่ายงานดาวเทียมทั้ง 4 ชุด ที่จะนำมาประมูลในครั้งนี้ ได้แก่ ชุดที่ 1 ประกอบด้วย วงโคจร 50.5E (ข่ายงานC1, N1 และ P1R) และ วงโคจร 51E (ข่ายงาน 51) ราคาขั้นต่ำ 676.914 ล้านบาท, ชุดที่ 2 ประกอบด้วย วงโคจร 78.5E (ข่ายงาน A2B และ 78.5E) ราคาขั้นต่ำ 366.488 ล้านบาท

ชุดที่ 3 ประกอบด้วย วงโคจร 119.5E (ข่ายงาน IP1, P3 และ 119.5E) และ วงโคจร 120E (ข่ายงาน 120E) ราคาขั้นต่ำ392.950 ล้านบาท และชุดที่ 4 ประกอบด้วย วงโคจร 126E (ข่ายงาน 126E) และ วงโคจร 142E (ข่ายงาน G3K และN5) ราคาขั้นต่ำ 364.687 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจาก กสทช.ยืนยันว่า แม้ว่าในวันที่ 11 ส.ค. 2564 จะไม่มีใครมายื่นเอกสารประมูลดาวเทียมเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้มีเพียงไทยคมรายเดียวที่ได้ยื่นประมูลก่อนหน้านี้ กสทช.ก็ต้องเดินหน้าประมูลในวันที่ 28 ส.ค.2564 โดยยึดมาตรฐานเหมือนการประมูลคลื่นโทรคมนาคมที่มีการขยายเวลาและเดินหน้าประมูลต่อ

อีกทั้ง กสทช.มีหน้าที่ ต้องรักษาวงโคจรของประเทศซึ่งวงโคจรต้องมีดาวเทียมใช้งาน หากประเทศไทยถูก ITU ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ได้มีการใช้สิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมที่ได้รับจริงภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ หรือไม่ได้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง (ไม่มีการใช้คลื่นความถี่บนดาวเทียมจริง) ย่อมมีโอกาสเกิดความเสี่ยงที่ประเทศไทยจะถูกยกเลิกสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมและคลื่นความถี่ที่ไม่มีการใช้งานจริง ออกจากทะเบียนความถี่หลักระหว่างประเทศได้ (Master International Frequency Register) และส่งผลให้ประเทศไทยสิ้นสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมนั้น
จากมติคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เมื่อวันที่ 7 ก.ค.2564 ได้กำหนดการใหม่สำหรับการประมูลการอนุญาตให้ใช้สิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมในลักษณะจัดชุด (Package)

หลังจาก สำนักงาน กสทช.ได้เปิดให้ผู้สนใจเข้ามายื่นเอกสารหลักฐานเพื่อเข้าร่วมการคัดเลือกฯ ในวันที่ 5 ก.ค.2564 มี บริษัท ทีซี สเปซ คอนเน็ค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM ถือหุ้น 100% เข้ามายื่นเอกสารเข้าร่วมการคัดเลือกเพียงรายเดียว


ทำให้หลังจากนั้นสำนักงาน กสทช.จึงเปิดให้ผู้สนใจรับเอกสารการคัดเลือกเพิ่มเติม ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค.-6 ส.ค.2564 ผลปรากฏว่า มีบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เข้ามารับเอกสารการคัดเลือกเพิ่มเติม ในวันที่ 6 ส.ค.2564 เวลา 16.20 น.ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่เปิดให้ผู้ที่สนใจขอรับเอกสารการคัดเพิ่มเติม อีกเพียงรายเดียวเท่านั้น

ทั้งนี้ในขั้นตอนต่อไป จะมีการจัดการประชุมสัมมนาเพื่อชี้แจงกระบวนการประมูลและกรอกแบบคำขอรับอนุญาต(public information session) วันนี้ (9 ส.ค.2564) จากนั้นผู้ประสงค์ขอรับอนุญาตยื่นคำขอรับอนุญาตและวางหลักประกันการขอรับอนุญาต วันที่ 11 ส.ค.2564 โดยในขั้นตอนนี้ บริษัท มิวสเปซ แอนด์ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัดสามารถเข้ามายื่นขอรับใบอนุญาตฯ ได้ หลังจากมาขอรับเอกสารการคัดเลือกในรอบแรก และต้องรอดูว่า NT จะเข้ามายื่นขอรับใบอนุญาตฯ หรือไม่ ก่อนที่ประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านคุณสมบัติเป็นผู้เข้าร่วมการคัดเลือก วันที่ 18 ส.ค.2564

จากนั้นประกาศรายชื่อผู้เข้าร่วมการคัดเลือกที่ผ่านเกณฑ์ข้อเสนอด้านประสบการณ์และความสามารถด้านการเงินเพื่อเป็นผู้เข้าร่วมการประมูล วันที่ 24 ส.ค.2564, จัดการประชุมสัมมนาเพื่อชี้แจงขั้นตอนการประมูล (bidder information session) และการประมูลรอบสาธิต (mock auction) วันที่ 25 ส.ค.2564 และประมูล วันที่ 28 ส.ค.2564
สำหรับชุดข่ายงานดาวเทียมทั้ง 4 ชุด ที่จะนำมาประมูลในครั้งนี้ ได้แก่ ชุดที่ 1 ประกอบด้วย วงโคจร 50.5E (ข่ายงานC1, N1 และ P1R) และ วงโคจร 51E (ข่ายงาน 51) ราคาขั้นต่ำ 676.914 ล้านบาท, ชุดที่ 2 ประกอบด้วย วงโคจร 78.5E (ข่ายงาน A2B และ 78.5E) ราคาขั้นต่ำ 366.488 ล้านบาท
ชุดที่ 3 ประกอบด้วย วงโคจร 119.5E (ข่ายงาน IP1, P3 และ 119.5E) และ วงโคจร 120E (ข่ายงาน 120E) ราคาขั้นต่ำ392.950 ล้านบาท และชุดที่ 4 ประกอบด้วย วงโคจร 126E (ข่ายงาน 126E) และ วงโคจร 142E (ข่ายงาน G3K และN5) ราคาขั้นต่ำ 364.687 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจาก กสทช.ยืนยันว่า แม้ว่าในวันที่ 11 ส.ค. 2564 จะไม่มีใครมายื่นเอกสารประมูลดาวเทียมเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้มีเพียงไทยคมรายเดียวที่ได้ยื่นประมูลก่อนหน้านี้ กสทช.ก็ต้องเดินหน้าประมูลในวันที่ 28 ส.ค.2564 โดยยึดมาตรฐานเหมือนการประมูลคลื่นโทรคมนาคมที่มีการขยายเวลาและเดินหน้าประมูลต่อ

อีกทั้ง กสทช.มีหน้าที่ ต้องรักษาวงโคจรของประเทศซึ่งวงโคจรต้องมีดาวเทียมใช้งาน หากประเทศไทยถูก ITU ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ได้มีการใช้สิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมที่ได้รับจริงภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ หรือไม่ได้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง (ไม่มีการใช้คลื่นความถี่บนดาวเทียมจริง) ย่อมมีโอกาสเกิดความเสี่ยงที่ประเทศไทยจะถูกยกเลิกสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมและคลื่นความถี่ที่ไม่มีการใช้งานจริง ออกจากทะเบียนความถี่หลักระหว่างประเทศได้ (Master International Frequency Register) และส่งผลให้ประเทศไทยสิ้นสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมนั้น
#3165


พิธีปิดมหกรรมกีฬา โอลิมปิก โตเกียว เกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น มีขึ้นเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พร้อมส่งไม้ต่อให้เจ้าภาพในอีก 3 ปีข้างหน้าคือ ฝรั่งเศส ในปี 2024

เจ้าภาพ ญี่ปุ่น เริ่มโหมโรงด้วยพลุไฟสุดอลังการ ก่อนที่ธงแต่ละประเทศที่ร่วมชิงชัยเหรียญรางวัลกันมาตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้รับการเชิญเข้าสู่สนาม โดยจะไม่มีลำดับใดๆ ทั้งสิ้นเพื่อสื่อถึงการฉลองความสำเร็จร่วมกัน จากนั้นประตูทั้ง 4 ทิศของสนามก็เปิดต้อนรับนักกีฬาทั้งหมดเข้ามาอิ่มเอมกับบรรยากาศสุดท้ายนี้

ขณะที่ไทยมอบให้ "แต้ว" สุดาพร สีสอนดี เหรียญทองแดงมวยสากลสมัครเล่นร่วมพิธีปิด ส่วนอีกคนคือเหรียญทอง "เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ที่ล่วงหน้ากลับมาก่อนแล้ว ส่วนเจ้าเหรียญทองใน โตเกียว เกมส์ 2020 ครึกครื้นเป็นพิเศษคือ สหรัฐอเมริกา ทำไปทั้งสิ้น 39 เหรียญทอง 41 เหรียญเงินและ 33 เหรียญทองแดง

จากนั้นเจ้าภาพก็เสิร์ฟการแสดงมากมายที่ประทับใจสุดเห็นจะเป็นดวงไฟมากมายลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าประกอบกันเป็นสัญลักษณ์ห่วง โอลิมปิก สื่อถึงจิตวิญญาณที่รวมอยู่ในตัวทุกคน รวมถึงร่วมรำลึกถึงคนที่ทำให้การแข่งขันครั้งนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีสร้างสรรค์งานให้เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งได้รับคำชมมากว่า ญี่ปุ่น ทำอย่างไรกับเทคโนโลยีถึงได้ภาพที่สวยงามเช่นนี้

ปีนี้นักกีฬาทุกคนไม่ได้รับอิสระให้ออกไปข้างนอกได้ตามอำเภอใจเพราะเชื้อไวรัสโควิด-19 ดังนั้น ญี่ปุ่น จึงจัดการแสดงต่อมาเป็นสวนสาธารณะเหมือนให้ทุกคนได้ผ่อนคลาย

แน่นอนว่า ญี่ปุ่น เจ้าแห่งอนิเมะจัดโชว์จาก ดาบพิฆาติอสูร ซึ่งถูกใจสาวกยิ่งนัก โดยเป็นการนำเด็กๆ มัธยมมาเล่นเพลงจากอนิเมะเรียกได้ว่าเซอร์ไพรส์แบบสุดๆ

ช่วงท้าย ยูริโกะ โคอิเคะ ผู้ว่าราชการกรุงโตเกียว ได้ส่งมอบธงต่อให้เจ้าภาพครั้งต่อไปคือ ฝรั่งเศส โดยเป็น โธมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ที่รับและส่งต่อให้ แอนน์ ฮิดัลโก นายกเทศมนตรีกรุงปารีส

พร้อมกันนี้อีกฟากธง โอลิมปิก ปารีส 2024 ถูกเชิญขึ้นหอไอเฟล ประเทศฝรั่งเศส ถือเป็นธงที่ใหญ่ที่สุดในโลกขนาดยาว 90 เมตร กว้าง 60 เมตรซึ่งเกือบเท่าสนามฟุต.

จากนั้นฝูงบินผาดโผน The Patrouille Acrobatique de France ที่เป็นหนึ่งในฝูงบินผาดโผนที่เก่าแก่ที่สุดของโลก จะร่วมบินในพิธีเปิดตัวธง พร้อมปล่อยควันเป็นลายธงชาติฝรั่งเศส

สุดท้าย ญี่ปุ่น จัดการแสดงแบบเรียบง่ายปิดท้ายพิธีปิด โอลิมปิก โตเกียว เกมส์ 2020 พร้อมทั้งกระถางคบเพลิงที่ดับไฟกับการขึ้นคำว่า "อาริกาโตะ" ขอบคุณทุกๆ คน
#3166


วันที่ 8 ส.ค. หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร - หอการค้าไทย ไทยพีบีเอส - ธนบุรี เฮลท์แคร์กรุ๊ป ขอเชิญผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปมีสัญชาติไทย จองคิวลงทะเบียนฉีดวัคซีนแอสตราเซนเนกา (เข็มที่ 1) โดยจะเปิดลงทะเบียนผ่านทางโทรศัพท์ ในวันอาทิตย์ที่ 8 ส.ค.2564 โทร.02-790-2855 (40 คู่สาย) ระหว่างเวลา 09.00-16.00 น. หรือจนกว่าจะเต็มจำนวน ที่สถานฉีดวัคซีนไทยพีบีเอส ถ.วิภาวดีรังสิต เขตหลักสี่ กทม.

ทั้งนี้ จะเริ่มฉีดระหว่างวันที่ 9 - 14 ส.ค. 64 รวม 6 วัน (วันละ 4 รอบ รอบละ 100 คน รวมทั้งสิ้น 2,400 คน)

รายละเอียดรอบการจองลงทะเบียนฉีดวัคซีนแอสตราเซนเนกา (เข็มที่ 1)

รอบที่ 1 เวลา 10.00 - 11.00 น.

รอบที่ 2 เวลา 11.00 - 12.00 น.

รอบที่ 3 เวลา 12.00 - 13.00 น.

รอบที่ 4 เวลา 13.00 - 14.00 น.


เงื่อนไขการจองลงทะเบียนฉีดวัคซีนแอสตราเซนเนกา (เข็มที่ 1)

1.ต้องเป็นผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป สัญชาติไทย

2.สงวนสิทธิ์การโทรลงทะเบียน 1 ครั้ง แจ้งชื่อได้ไม่เกิน 2 ท่าน

3.ทีมงานขอสงวนสิทธิ์ให้สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนไว้เท่านั้น ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงชื่อภายหลังได้ทุกกรณี

4.ในวันที่นัดหมายให้มาก่อนเวลานัด 30 นาที เพื่อลดความแออัด
#3167


ญี่ปุ่น ยุติตำนาน "ซินเดอเรลลา" คว้าเหรียญเงิน การแข่งขันบาสเกต.หญิง โอลิมปิก 2020 พ่ายแก่ สหรัฐอเมริกา 75-90 ที่สนาม ไซตามะ ซูเปอร์ อารีนา วันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม

ความปราชัยอย่างหมดรูป เกมชิงชนะเลิศ มิอาจครอบงำประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของ ทอม โฮวาสเซ เฮดโค้ช ซึ่งสามารถเดินยืดอกอย่างสง่าผ่าเผย หลังพา ญี่ปุ่น คว้าเหรียญโอลิมปิกเหรียญแรก เฉพาะกีฬาบาสเกต.

สหรัฐอเมริกา ซิวเหรียญทอง 7 สมัยติดต่อกัน หลัง บริตทานีย์ ไกรเนอร์ เซ็นเตอร์ ปิดสกอร์สูงสุด 30 แต้ม, เอ'จา วิลสัน ช่วย 19 แต้ม 7 รีบาวน์ด และ บรีแอนนา สจวร์ต เสริม 14 แต้ม 14 รีบาวน์ด

มากิ ทากาดะ ฟอร์เวิร์ด ญี่ปุ่น แบกทีม 17 แต้ม แถมต้องพยายามประกบ ไกรเนอร์ ที่มีส่วนสูง 203 เซนติเมตร และ นาโก โมโตฮาชิ การ์ดสำรอง ลงมาซัด 16 แต้ม

ญี่ปุ่น ต้องฝากความหวังกับลูกยิง 3 คะแนน เนื่องจาก สหรัฐฯ คุมพื้นที่ใต้แป้นแน่นหนา ส่องไกลเข้าเป้าแค่ 8 จาก 31 ลูก (คิดเป็น 25.8 เปอร์เซ็นต์) ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตลอดทัวร์นาเมนต์ เข้าเป้า 13 ลูกต่อเกม ความแม่นยำ 41 เปอร์เซ็นต์

เจ้าภาพ ไม่สามารถหยุดการเล่นโพสต์ตัวต่อตัว โดน ไกรเนอร์ เล่นงานไป 18 แต้ม เฉพาะครึ่งแรก ตามหลัง 39-50 ช่วงพักครึ่งจากนั้น สหรัฐฯ ทิ้งห่างด้วยการทำคะแนนควอเตอร์ 3 ที่เหนือกว่า 25-17 แต้ม
#3168


วันนี้ (8ส.ค.) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีที่โซเชียลมีเดียได้มีการนำภาพซึ่งระบุว่ามาจากงานภารกิจนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ลงพื้นที่เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2564 เพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินการควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่โรงพยาบาลท่าตะโก อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ มาโพสต์พร้อมระบุข้อความว่ารองนายกรัฐมนตรีเคลมว่าวัคซีนไฟเซอร์เป็นผลงานของตนเองนั้น เป็นการแสดงข้อความที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงและทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด

สำหรับข้อเท็จจริงของเรื่องนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยม ให้กำลังใจการทำงานแก่เจ้าหน้าที่ในจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งพร้อมกับการลงพื้นที่ก็ได้มีการตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ล็อตที่ได้รับบริจาคจากประเทศสหรัฐฯ ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ อาสาสมัครสาธารณสุขและบุคลากรด่านหน้าในพื้นที่ด้วย ส่วนการจัดเตรียมป้าย หรือข้อความต่างๆ ก็จัดโดยเจ้าหน้าที่ในจังหวัด ซึ่งจากการตรวจสอบก็ไม่พบข้อความที่มีการส่งต่อข้อความที่มีการส่งต่อทางโซเชียลมีเดียแต่อย่างใด

"ในการลงพื้นที่จังหวัดหวัดนครสวรรค์ นอกจากท่านรองนายกฯอนุทินแล้ว ยังมีท่านปลัดกระทรวงสาธารณสุข และอธิบดีกรมควบคุมโรคร่วมเดินทางด้วย ซึ่งภารกิจของการลงพื้นที่ก็คือการไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ ติดตามการดำเนินงานการควบคุมและแพร่ระบาดของโรคโควิด19 จากการสอบถามในคณะผู้ลงพื้นที่ ก็ไม่มีใครเห็นข้อความใดที่มีการส่งต่อในโซเชียลมีเดีย ก็ยังสงสัยเช่นกันว่าข้อความนั้นอยู่ส่วนใดของงาน" น.ศ.ไตรศุลี กล่าว

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล หากเป็นการวิจารณ์บนข้อมูลและเป็นความจริง และเพื่อเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ดีขึ้น เป็นสิ่งที่ประชาชนทุกคนทำได้อยู่แล้ว แต่ขอความร่วมมืออย่าสร้างและส่งต่อข้อมูลที่ก่อความเข้าใจผิดในหมู่ประชาชน โดยเฉพาะในประเด็นที่จะกระทบต่อขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ที่เป็นด่านหน้าปฏิบัติงานอย่างหนัก โดยเป้าหมายของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขเวลานี้คือการสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่
#3169


จากสถานการณ์ขาดเเคลนชิพสำหรับอุตสาหกรรมไฮเทคทั่วโลก เป็นเหมือนปรากฎการณ์ที่จุดประเด็นทางการค้าใหม่ ที่จีนเห็นว่า ปัญหาใหญ่จากชิ้นส่วนขนาดเล็กอย่าง "ชิพ" กำลังจะเป็นตัวฉุดแผนพัฒนาประเทศให้ข้ามผ่าน ดิจิทัล ดิสรัปชั่น  ดังนั้น การสร้างความเข้มแข็งจากภายในและการพึ่งพาตัวเองจึงเป็นสิ่งจำเป็น 

รายงานเรื่อง "Technology & Innovation – China Semiconductor self-reliance will support tech growth but pose overcapacity risk" จัดทำโดย  Moody's Investors Service ระบุว่า จีนกำลังส่งสัญญาณการลงทุนมหาศาลในไม่กี่ปีจากนี้ เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งก่อนหน้านี้เผชิญปัญหาขาดแคลนชิพและความตรึงเครียดทางการค้าจนสร้างช่องว่างระหว่างดีมานด์และซับพลายในประเทศทำให้การพัฒนาอุตสาหกรรมและผลิตเพื่อพึ่งพาตัวเองเป็นทางเลือกที่นำมาใช้ในขณะนี้ 

อย่างไรก็ตาม วิธีการนี้จะดีจริงหรือไม่อาจเป็นการลงทุนที่ไร้ประสิทธิภาพและเกิดการบิดเบือนการใช้ทรัพยากรซึ่งนำไปสู่ความเจ็บปวดในระยะยาว 
#3170


บมจ.สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) หรือ SMT ประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทในงวดไตรมาส 2 ปี2564 มีกำไรสุทธิ 56.01 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 18.94  ล้านบาท  หรือเพิ่มขึ้น 51.10% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี2563  ที่มีกำไรสุทธิ 37.07 ล้านบาท 

โดยมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ 606.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.14% จากไตรมาส 2 ปี2563 จำนวน 113.97 ล้านบาท หรือ 23.14% โดยที่ บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นจากธุรกิจ IC เติบโต 14% , ธุรกิจ OPTICS เติบโตมากถึง 100% และ PCBA เติบโต 78% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

ด้าน "วิรัตน์ ผูกไทย" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า "ผลประกอบการที่ออกมาดี เนื่องจากการเติบโตของยอดขาย ของผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นสูง และการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและบริษัทก็ไม่มีปัญหาการขาดแคลนชิป เพราะมีการเตรียมการสั่งซื้อไว้ล่วงหน้า และยังคงมั่นใจเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโตได้ 30% และอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 20% อย่างแน่นอน อีกทั้งล่าสุดได้รับปัจจัยบวกจากกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพ (Potential Customers) กว่า 80 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 2,600 ลบ. สนับสนุนรายได้ปี 2565 ให้เติบโตแข็งแกร่งมากขึ้น"

ด้านมาตรการป้องกันเชื้อ COVID-19 ปัจจุบันบริษัทได้ฉีดวัคซีนให้พนักงานทุกคนกว่า 90% เรียบร้อยแล้ว รวมถึงมีมาตรการที่เข้มงวดสำหรับบุคคลภายนอกที่มาติดต่อบริษัทจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม บริษัทจึงมั่นใจว่าจะเกิดความปลอดภัยต่อพนักงานและจะไม่เกิดผลกระทบใดๆ ต่อการดำเนินงานของบริษัท

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

นายวิรัตน์ ผูกไทย  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SMT กล่าวว่า ผลประกอบการที่ออกมาดี เนื่องจากการเติบโตของยอดขาย ของผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นสูง และการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและบริษัทก็ไม่มีปัญหาการขาดแคลนชิป เพราะมีการเตรียมการสั่งซื้อไว้ล่วงหน้า และยังคงมั่นใจเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโตได้ 30% และอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 20% อย่างแน่นอน


อีกทั้งล่าสุดได้รับปัจจัยบวกจากกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพ (Potential Customers) กว่า 80 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 2,600 ลบ. สนับสนุนรายได้ปี 2565 ให้เติบโตแข็งแกร่งมากขึ้น

ด้านมาตรการป้องกันเชื้อ โควิด -19 ปัจจุบันบริษัทได้ฉีดวัคซีนให้พนักงานทุกคนกว่า 90% เรียบร้อยแล้ว รวมถึงมีมาตรการที่เข้มงวดสำหรับบุคคลภายนอกที่มาติดต่อบริษัทจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม บริษัทจึงมั่นใจว่าจะเกิดความปลอดภัยต่อพนักงานและจะไม่เกิดผลกระทบใดๆ ต่อการดำเนินงานของบริษั
#3171


การ์มิน ประเดิมตลาดครึ่งปีหลังด้วยการเปิดตัว "Garmin tactix Delta Solar Edition" คอนเซ็ปต์ BUILT FOR THE LONG MISSION นาฬิกาอัจฉริยะรุ่นนี้มากับระบบจีพีเอส แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดกว่า 120 วัน ในโหมดประหยัดพลังงาน ด้วยระบบชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์ ดีไซน์เรียบหรูด้วยวัสดุพรีเมียม แข็งแรงตามมาตรฐาน MIL-STD-810 ของกองทัพสหรัฐ 

พร้อมฟีเจอร์และเทคโนโลยีที่เรียกใช้งานได้ง่าย ออกแบบมาเพื่อการปฏิบัติภารกิจลับ การฝึกซ้อมแบบยุทธวิธี พร้อมยกระดับประสบการณ์กิจกรรมกลางแจ้งด้วยฟีเจอร์ออกกำลังกายและติดตามสุขภาพแบบจัดเต็ม เอาใจผู้ที่หลงใหลในความคล่องตัว และสายเอาท์ดอร์แอดเวนเจอร์ วางจำหน่ายในราคา 37,390 บาท 

การ์มิน ระบุว่าเตรียมรุกเจาะตลาดกลุ่มผู้ใช้งานที่ชื่นชอบการทำมิชชั่นมีการใช้งานแบบเฉพาะตัวมากขึ้น กับจุดเด่นในเรื่องของแฟชั่นการดีไซน์ที่ทำให้ดูคล่องตัว มาตรฐานในการเลือกใช้วัสดุ ความง่ายในการเรียกใช้งานของแต่ละฟีเจอร์ และเทคโนโลยีการชาร์จด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ที่ช่วยให้ระยะเวลาการใช้งานของสมาร์ทวอทช์ให้ยาวนานยิ่งขึ้น



Garmin tactix Delta Solar Edition มาพร้อมหน้าจอเลนส์แซฟไฟร์ และกรอบเคลือบคาร์บอนคุณสมบัติแข็งแกร่งคล้ายเพชรช่วยป้องกันรอยขีดข่วน หน้าจอดิสเพลย์ขนาดใหญ่ 1.4 นิ้ว ถือได้ว่าเป็นนาฬิกาหน้าปัดกลมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของการ์มิน ถูกออกแบบมาให้ทนทานต่อการใช้งานในทุกสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศ ตามมาตรฐาน MIL-STD-810 ของกองทัพสหรัฐ

อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ยุทธวิธีสำหรับการฝึกซ้อมและปฏิบัติภารกิจลับ ไม่ว่าจะเป็น โหมด Night Vision Capacity โหมดการใช้งานที่ทำให้สามารถมองเห็นหน้าจอได้เมื่อสวมใส่ Night Vision Goggles โหมด Stealth เพื่อการหยุดบันทึกและแชร์ตำแหน่ง GPS รวมถึงหยุดการเชื่อมต่อการสื่อสารแบบไร้สาย ฟีเจอร์ Kill Switch ลบข้อมูลเพื่อความปลอดภัย โหมด Jumpmaster โหมดการคำนวนความสูง นำทาง และคำนวนจุดปล่อยตัวและลงจอดเพื่อการกระโดดร่ม

รวมไปถึงโหมด Dual-Format GPS ระบุตำแหน่งพร้อมกัน 2 ค่าที่มาพร้อมแผนที่ topographic เพื่อการระบุตำแหน่งที่แม่นยำยิ่งขึ้น ทั้งยังมาพร้อมกระจกแซฟไฟร์ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดกว่า 120 วัน ในโหมดประหยัดพลังงาน


นอกเหนือไปจากความสามารถในการซัพพอร์ตการฝึกซ้อมและการปฏิบัติภารกิจลับ ยังเป็นสมาร์ทวอทช์จีพีเอสระดับพรีเมียมที่อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์สำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็น ปีนเขา วิ่งเทรล ปั่นจักรยาน กอล์ฟ สกี และดำน้ำ รวมทั้งยังมีฟีเจอร์ติดตามสุขภาพที่สำคัญ เช่น ฟีเจอร์วัดค่าการใช้ออกซิเจนของร่างกายเมื่อออกกำลังอย่างเต็มกำลัง (VO2 max)

ฟีเจอร์ติดตามและแนะนำการวิ่ง PacePro ฟีเจอร์ติดตามการเต้นของหัวใจ Heart Rate Tracking และ ฟีเจอร์ติดตามระดับความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด Pulse Ox Blood Sensor สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนรุ่นที่รองรับเพื่อรับการแจ้งเตือนการโทรเข้าออก ข้อความ และปฏิทินนัดหมาย จัดเก็บเพลงโปรด รวมทั้งเชื่อมต่อ Garmin Pay เพื่อการชำระเงินแบบปราศจากการสัมผัส (Contactless)

ด้านการออกแบบมาในรูปลักษณ์ดีไซน์เรียบหรูวัสดุพรีเมียม และยังคงไว้ซึ่งความแข็งแรงทนทาน หน้าจอและปุ่มกดขนาดใหญ่ จึงทำให้ใช้งานได้อย่างสะดวก มาพร้อมสายรัดข้อมือไนลอนและสายซิลิโคนสีดำ ให้ผู้ใช้เลือกใช้งาน ตอบโจทย์การใช้งานแบบสมบุกสมบันทุกภารกิจ ด้วยสีดำทั้งตัวเรือนสามารถเข้าได้กับการแต่งตัวทุกลุค
#3172


นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. เปิดรับฝาก "สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดเกษตรมั่งคั่ง 6" จำนวน 1,000 ล้านหน่วย หน่วยละ 100 บาท รวมวงเงิน 100,000 ล้านบาท เพื่อระดมเงินฝากจากประชาชนทั่วไปสำหรับนำไปใช้เป็นทุนสนับสนุนภาคเกษตร อันเป็นรากฐานที่สำคัญของประเทศ และเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าผู้ถือสลากออมทรัพย์ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนให้สามารถฝากเงินกับ ธ.ก.ส.ได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นทางเลือกสำหรับการออมเงินที่ได้รับดอกเบี้ย ไม่เสียภาษีและยังมีสิทธิ์ลุ้นเงินรางวัลมากมาย โดยแบ่งการเปิดรับฝากเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป วงเงินรับฝาก 50,000 ล้านบาท และช่วงที่ 2 วันที่ 18 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป วงเงินรับฝาก 50,000 ล้านบาท ณ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศและผ่านช่องทาง แอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile

สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดเกษตรมั่งคั่ง 6 มีอายุรับฝาก 3 ปี เมื่อฝากครบกำหนดไถ่ถอนจะได้รับดอกเบี้ยหน่วยละ 0.15 บาท หรือคิดเป็นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.05 ต่อปี นอกจากนี้ยังได้ลุ้นรางวัลทุกวันที่ 16 ของเดือน และวันที่ 17 มกราคม ของทุกปี รวม 36 ครั้ง ประกอบด้วย รางวัลที่ 1 มี 1 รางวัลมูลค่า 10,000,000 บาท รางวัลที่ 1 ต่างหมวด มี 99 รางวัล ๆ ละ 10,000 บาท รางวัลที่ 2 มี 300 รางวัล ๆ ละ 5,000 บาท รางวัลที่ 3 มี 1,000 รางวัล ๆ ละ 3,000 บาท รางวัลที่ 4 มี 2,000 รางวัล ๆ ละ 1,000 บาท รางวัลที่ 5 มี 10,000 รางวัล ๆ ละ 500 บาท รางวัลเลขท้าย 4 ตัว มี 100,000 รางวัล ๆ 50 บาท และรางวัลเลขท้าย 3 ตัว มี 2,000,000 รางวัล ๆ ละ 10 บาท รวมรางวัลทั้งสิ้น 2,113,400 รางวัล เป็นเงิน 47,490,000 บาทต่อเดือน โดยจะออกรางวัลครั้งแรกวันที่ 16 กันยายน 2564 ที่สำคัญดอกเบี้ยและเงินรางวัลได้รับการยกเว้นภาษีสำหรับบุคคลทั่วไปและยังสามารถนำไปใช้เป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกัน (Bank Guarantee) ได้อีกด้วย


ทั้งนี้ สามารถตรวจผลการออกรางวัลและรับชมการถ่ายทอดสดการออกสลากออมทรัพย์ได้ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย คลื่นความถี่ AM 891 กิโลเฮิรตซ์ เว็บไซต์ www.baac.or.th Facebook Page "ธกส BAAC Thailand" และ "ธกส บริการด้วยใจ" Youtube Channel "BAAC Thailand" หรือทาง ธ.ก.ส. A-Mobile โดยท่านที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสลากออมทรัพย์ได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือที่ Call Center 02 555 0555
#3173


เมื่อเร็วๆ นี้ นายอรรถพล  ฤกษ์พิบูลย์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทนกลุ่ม ปตท.  ส่งมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ ในโครงการลมหายใจเดียวกัน ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด 13 จังหวัด  ได้แก่ปทุมธานี นครปฐม ฉะเชิงเทรา ระยอง อุดรธานี หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ นนทบุรี เลย สมุทรปราการ ชลบุรี และภูเก็ต


เพื่อกระจายความช่วยเหลือไปยังภูมิภาคในการต่อลมหายใจผู้ป่วย  COVID-19 ให้มีอัตราการรอดชีวิตที่สูงขึ้น  โดยมีนายสุพัฒน์พงษ์  พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี

โดย ปตท. และบริษัทในกลุ่มประกอบด้วย  ปตท.สผ.  ไทยออยล์   ไออาร์พีซี  จีซี   จีพีเอสซี และ โออาร์ ร่วมกันสนับสนุนและส่งมอบเครื่องช่วยหายใจ High Flow  ชุด Isolation Gown PE Gown  ถุงมือ  หน้ากากอนามัย และอุปกรณ์เพื่อใช้ปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ พร้อมกับน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับรถพยาบาลในการรับส่งผู้ป่วย 

รวมถึงกาแฟดริป คาเฟ่อเมซอน และน้ำดื่มจิฟฟี่ เพื่อให้กำลังใจแก่บุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเป็นด่านหน้าที่สำคัญในการปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้  รวมมูลค่ากว่า18 ล้านบาท


ทั้งนี้ กลุ่ม ปตท. พร้อมสนับสนุนและเคียงข้างบุคลากรทางการแพทย์ คนไทยและประเทศชาติ ให้ก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกันโดยเร็ว เพราะเชื่อมั่นว่า "เราคนไทยทุกคนล้วนมีลมหายใจเดียวกัน
#3174


LPN เผยไตรมาส2 มีกำไรสุทธิ 120.98 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 21.19 เหตุรายได้จากการขายอสังหาฯลดลงร้อยละ 20.30 เหตุการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะที่งวดครึ่งปีแรก กำไรสุทธิ ลดลงร้อยละ 34 เผยสถานการณ์ครึ่งปีหลังมีมุมมองเป็นบวก ปัจจัยบวกรัฐบาลเร่งกระจายฉีดวัคซีน ทุ่มไตรมาส 4 เปิด 5 โครงการรวด มูลค่า 5,000 ล้านบาท เผยเงินสดในมือลดลง 45.76

นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) กล่าวถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ของปี 2564 บริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 120.98 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 21.19 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเกิดที่มีกำไรสุทธิ 155.72 ล้านบาท สาเหตุมาจาก

รายได้รวม 1,360.88 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 11.54 แบ่งเป็น รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ มีจำนวน 977.42 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 20.30 มาจาก รายได้จากการขายโครงการอาคารชุดพักอาศัย ที่ลดลงร้อยละ36.58 อันเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

ส่วนโครงการบ้านพักอาศัย มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 15

ในขณะเดียวกันรายได้จากธุรกิจให้เช่าและบริการ และธุรกิจบริหารเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 82.66 และร้อยละ 14.72 ตามลำดับ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายกระจายฐานรายได้ ซึ่งบริษัทดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายอยู่ที่ 57.62 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายบริหารอยู่ที่ 175.72 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 24.39 และร้อยละ 8.65 ตามลำดับ เกิดจากค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ที่ลดลง และผลจากการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหาร ควบคุมค่าใช้จ่ายและต้นทุนในการดำเนินงาน

ในไตรมาส 2 ปี 2564 บริษัทยังคงขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงอยู่ในวงกว้าง มีการเปิดตัวโครงการใหม่ 1 โครงการ ได้แก่ โครงการบ้าน 365 เมืองทอง เป็นโครงการบ้านพักอาศัยระดับพรีเมียม บนทำเลศักยภาพใจกลางเมืองทองธานี มูลค่าโครงการประมาณ 2,500 ล้านบาท

สำหรับ 6 เดือนหลังของปี 2564 (ม.ค.-มิ.ย.) บริษัทมีกำไรสุทธิ 243.85 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 34 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 370.40 ล้านบาท โดยในครึ่งปีแรก บริษัทฯมียอดขายจำนวน 4,170 ล้านบาท แบ่งเป็น ร้อยละ 65 ของยอดขายมาจากโครงการอาคารชุดพักอาศัย แบ่งเป็นโครงการที่สร้างแล้วเสร็จพร้อมอยู่ คิดเป็นยอดขายรวม 2,220 ล้านบาท และโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างคิดเป็นยอดขายรวม 520 ล้าน และร้อยละ 35 ของยอดขาย มาจากโครงการบ้านพักอาศัย แบ่งเป็น โครงการที่สร้างแล้วเสร็จพร้อมอยู่ คิดเป็นยอดขาย 460 ล้านบาท โครงการที่สร้างแล้วเสร็จพร้อมส่งมอบในไตรมาส 1 ปี 2564 คิดเป็นยอดขาย 800 ล้านบาท และโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างคิดเป็นยอดขายรวม 170 ล้านบาท

บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) จ านวน 2,700 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2564 และปี 2565

"ในครึ่งปีหลัง บริษัทมีมุมมองเป็นบวก โดยคาดว่าสถานการณ์การระบาดโควิด-19 จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ภายหลังจากภาครัฐดำเนินมาตรการต่างๆ โดยเฉพาะการเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนเป็นวงกว้าง โดยคาดว่า สถานการณ์ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเริ่มค่อย ๆ ฟื้นตัวในไตรมาส 4 นี้ โดยบริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในไตรมาส 4 จำนวน 5 โครงการ ประกอบด้วย โครงการอาคารชุดพักอาศัย 2 โครงการ และบ้านพักอาศัย 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 5,000 ล้านบาท เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค" นายโอภาส กล่าว

โดยหนี้สินรวมเพิ่มขึ้น 444.88 ล้านบาท จาก 11,796.83 ล้านบาท เป็น 12,241.71 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.77 โดยสาเหตุหลัก มาจากการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน เพื่อใช้ในการลงทุนพัฒนาโครงการและการดำเนินงาน เพิ่มขึ้น 681.95 ล้านบาท จาก 9,691.95 ล้านบาท เป็น 10,361.44ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.91

จากผลข้างต้น ทำให้บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น และหนี้สินรวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 0.82:1 เป็น 0.90:1 และ จาก 1.00:1เป็น 1.07:1 ณ 30 มิถุนายน 2564และ ณ 31 ธันวาคม 2563 ตามลำดับ หรือถ้าเทียบกับงวดเวลาเดียวกันของปีก่อน ลดลงจาก 0.95:1 เป็น 0.90:1 และจาก 1.16:1 เป็น 1.06:1 ซึ่งบริษัทยังคงรักษาวินัยทางการเงินอย่างเคร่งครัด รักษาอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน เพิ่มจำนวนเงินสดในมือเพิ่มจำนวนวงเงินกู้พร้อมเบิก ควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เพื่อลดต้นทุนในการบริหารจัดการ

สำหรับงบกระแสเงินสดรวมสุทธิ งวดสิ้นสุด 30 มิ.ย.64 ลดลงจำนวน 662.33 ล้านบาท จาก 1,447.34 ล้านบาท เป็น 785.01 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 45.76 สาเหตุหลักเกิดจากในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 บริษัทสำรองเงินไว้ 500 ล้านบาท ตามมติกรรมการบริษัทในการซื้อหุ้นคืน ซึ่งสิ้นสุดปลายปี 2563

ทั้งนี้ บริษัทมีการวางยุทธศาสตร์แผน 3 ปีข้างหน้า ให้เป็นช่วงของการขับเคลื่อนองค์กร ไปสู่การเป็นองค์กรที่มีอัตราการเติบโตในด้านของรายได้ และความสามารถในการทำกำไรอย่างยั่งยืน ทั้งการเติบโตของรายได้ กำไร การบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ พร้อมกับการพัฒนาคุณภาพของที่อยู่อาศัยและบริการ

ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ในปี 2564 บริษัทจึงได้เริ่มมีการวางแผนโดยปรับโครงสร้างองค์กร (Reorganization) จากโครงสร้างการทำงานตามหน้าที่ (Functional Organization) สู่การบริหารงานในรูปแบบของหน่วยธุรกิจ (Business Unit) รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ในการปรับปรุงกระบวนการทำงาน (Digital Transform) เพื่อให้การทำงานมีความคล่องตัว เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารค่าใช้จ่ายและต้นทุนในการดำเนินงาน ภายใต้แรงกดดันที่มีต่อการดำเนินธุรกิจ จากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างและยังไม่มีแนวโน้มที่จะคลี่คลายลง.
#3175


เพราะความคิดถึง(แซลมอน)มันห้ามไม่ไหว !!! วันนี้พวกเราเหล่าร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือโออิชิ ประกอบด้วย โออิชิ แกรนด์, โออิชิ อีทเทอเรียม, และ โออิชิ บุฟเฟต์ จึงพร้อมใจกันสั่งนำเข้าวัตถุดิบชั้นดีจากต่างประเทศ และตระเตรียม "ปลาแซลมอน" คุณภาพ สดใหม่ ไว้บริการนักกิน - แซลมอน เลิฟเวอร์ส อย่างเต็มที่...ให้หายคิดถึง พร้อมแล่สด ๆ แบบซาชิมิ มีให้เลือกตั้งแต่ ขนาดอิ่มจัดหนัก "แซลมอน ซาชิมิ" ขนาดน้ำหนัก 500 กรัม (ครึ่งกิโลกรัม) สำหรับ 1 – 2 คน ราคาสุทธิเพียง 595 บาท ไปจนถึง ขนาดอร่อยจัดเต็ม "แซลมอน ซาชิมิ" ขนาดน้ำหนัก 1 กิโลกรัม สำหรับ 3 – 4 คน ราคาสุทธิเพียง 1,190 บาท ซึ่งเสิร์ฟพร้อมวาซาบิและโชยุครบครัน โดยพร้อมให้บริการแบบจัดส่ง (Delivery) แล้ววันนี้ ผ่าน "โออิชิ เดลิเวอรี่" ความอร่อยแบบญี่ปุ่นส่งตรงถึงบ้าน โทร. 1773 หรือคลิก OISHIDELIVERY.COM นอกจากนี้ ยังสามารถสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ SHOPTEENEE.COM ได้อีกด้วย

ติดตามข้อมูลข่าวสาร หรือโปรโมชั่นที่น่าสนใจเพิ่มเติม คลิกแฟนเพจโออิชิฟู้ดสเตชั่น : www.facebook.com/OishiFoodStation
#3176


เลขานุการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) แจงตลาดหลักทรัพย์ ยันไม่ได้ให้ข้อมูลการทำสัญญา หรือจะทำสัญญาซื้อวัคซีนไฟเซอร์ ร่วมกับกระทรวงกลาโหม และไม่ได้ใช้เงินสด เงินกู้ หรือทรัพย์สินของบริษัทฯ วางมัดจำหรือค่าปรับมัดจำวัคซีน อีกด้านไม่สามารถเปิดเผยจำนวนวัคซีน และระยะเวลาการนำเข้าได้ อ้างเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

วันนี้ (5 ส.ค.) น.ส.สุวดี พันธุ์พานิช เลขานุการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ทำหนังสือถึงกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ชี้แจงการนำเข้าวัคซีนโควิด-19 เทคโนโลยี mRNA (เพิ่มเติม) ระบุว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ("สำนักงาน ก.ล.ต.") มีหนังสือลงวันที่ 4 สิงหาคม 2564 โดยใช้อำนาจมาตรา 58(1) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ("พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ") ให้ผู้บริหาร บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ("บริษัทฯ") ชี้แจงข้อมูลและนำส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องต่อสำนักงาน ก.ล.ต. และเปิดเผยคำชี้แจงดังกล่าวผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายใน 7 วันนับตั้งแต่วันที่ในหนังสือ

บริษัทฯ ขอชี้แจงว่า บริษัทฯ ได้รับหนังสือจาก สำนักงาน ก.ล.ต. แล้ว โดยจะดำเนินการชี้แจงโดยละเอียดตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด โดยขอให้ข้อมูลเบื้องต้นได้ดังนี้

1. บริษัทฯ "ไม่ได้ให้ข้อมูลการทำสัญญาหรือจะทำสัญญาร่วมกับกระทรวงกลาโหม" ตามที่ได้ชี้แจงไปแล้ว ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ลงนามความร่วมมือกับองค์กรที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐเพื่อร่วมกันนำเข้าวัคซีนจริง โดยจะเปิดเป็นเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้สำนักงาน ก.ล.ต.

2. บริษัทฯ ไม่ได้ใช้เงินสด เงินกู้ หรือทรัพย์สินของบริษัทฯ ในการวางมัดจำหรือค่าปรับมัดจำวัคซีน

3. วัคซีนจำนวน 20 ล้านโดส ที่ได้มีการเจรจากับผู้แทนจำหน่ายแล้วนั้น ยังไม่มีการลงนามสั่งซื้อจากหน่วยงานที่มีหน้าที่ตามระเบียบของรัฐ แต่บริษัทฯ ยังไม่ละทิ้งความพยายาม โดยจำนวนวัคซีน และระยะเวลาการนำเข้าวัคซีนไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

อนึ่ง ขอเรียนให้ท่านทราบว่า "แม้บริษัทฯ ไม่ใช่ผู้มีหน้าที่ในการดำเนินการสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 ตามกำหนดของรัฐ" แต่เป็นการ "ทำหน้าที่ในฐานะเอกชนและพลเมือง" ที่ไม่เพิกเฉยต่อสถานการณ์การระบาดของโรคที่มีในปัจจุบัน เพื่อช่วยให้วิกฤตนี้ผ่านพ้นไปโดยเร็ว จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ราคาหุ้น THG วานนี้ (4 ก.ค.) ปิดตลาดอยู่ที่ราคา 28.25 บาท ลดลงมา 2.50 บาท หรือ 8.13% โดยพบว่าเปิดตลาดราคาหุ้นดิ่งลงมาจากราคา 30.75 บาท ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นมา
#3177


นายบดินทร์ พุทธอินทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บลจ. ทหารไทย (TMBAM Eastspring) ได้ให้ความเห็นว่า ในปัจจุบันแม้การระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลต้าจะยังเดินหน้าระบาดอย่างไม่ลดละ หลายประเทศต้องเริ่มปรับวิธีต่างๆเพื่อรับมือกับการระบาดรอบใหม่ แต่สำหรับกลุ่มประเทศที่มีการได้รับวัคซีนในสัดส่วนที่สูง แม้อัตราการติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นใหม่ แต่อัตราการเสียชีวิตอยู่ในระดับต่ำกว่าการระบาดในรอบก่อนหน้ามาก จากผลของวัคซีนที่สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้

"ในเรื่องการลงทุน โดยส่วนตัวยังมั่นใจในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เพราะปัจจัยพื้นฐานที่น่าสนใจ ประกอบกับมาตรการทางเศรษฐกิจและการคลังที่ยังคงทยอยออกมาซึ่งมีมูลค่ามหาศาล ทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจโดยรวมเริ่มดูดีขึ้นอย่างชัดเจน"

ในปัจจุบันเราจะเห็นว่าตลาดหุ้นโลก นำโดยกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐฯและยุโรป ต่างเเดินหน้าปรับตัวขึ้นต่อเนื่องสวนทางตลาดหุ้นเอเชียและตลาดหุ้นจีนอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากตลาดหุ้นจีนที่มีการปรับฐานแรงในเดือนที่ผ่านมา จากการออกกฎระเบียบควบคุมบริษัทเทคโนโลยีในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆจากทางการจีนนั้น อาจยากที่จะประเมินถึงผลกระทบต่อกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องว่าจะลากยาวแค่ไหน

สำหรับตลาดหุ้นสหรัฐฯ นั้น ทีมกลยุทธ์เชื่อว่ามีโอกาสทำจุดสูงสุดต่อเนื่อง แม้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดที่เพิ่มสูงขึ้น และตัวเลขเศรษฐกิจที่เริ่มลดความร้อนแรง เพียงแต่ในช่วงปลายเดือน อาจต้องจับตาการประชุมประจำปีของเฟด (Jackson Hole) ในวันที่ 26-28 สิงหาคม ซึ่งมีโอกาสที่ตลาดจะผันผวนได้บ้าง เพราะมีความเป็นไปได้อยู่ที่ทางประธานธนาคารกลางสหรัฐฯอาจใช้เวทีการประชุมนี้ในการกล่าวถึงแนวทางการลดวงเงิน QE จากการคาดการณ์ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจโลกและสหรัฐฯแต่หากพิจารณาภาพเศรษฐกิจโดยรวม เชื่อว่ายังคงเติบโตได้

ภาพการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ คาดว่าจะยังได้แรงหนุนและมีโอกาสเดินหน้าทำจุดสูงสุดใหม่จากงบของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดี โดยบริษัทในดัชนี S&P500 ในไตรมาส2/2021ที่มีการประกาศผลการดำเนินงานออกมาแล้วถึงช่วงสิ้นเดือนกรกฎาคม จำนวน 294 บริษัท มียอดขายที่เติบโตกว่า 27% และมีกำไรที่เติบโตกว่า 97%

"เราคาดว่าสำหรับการลงทุนในหุ้นโลกและสหรัฐอเมริกานั้น บริษัทขนาดใหญ่ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง มีกระแสเงินสดสูงและยังสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ซึ่งขอแนะนำกองทุนหุ้นโลกอย่าง TMBGQG, TMB-ES-GCG, T-ES-GCG ,T-Premium Brand และกองทุนหุ้นสหรัฐฯกลุ่มเติบโตขนาดใหญ่อย่าง TMB US Bluechip"
#3178












หอพัก ห้องเช่า 9 ห้องบนเนื้อที่ 60ตร.วา ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุม ย่านแหล่งชุมชนเจริญ ใกล้มหาวิทยาลัย ม.รังสิต เสนอขาย 2,400,000 บาท เช่า 2000 บาทต่อเดือน

ห้องว่างหอพักแถว ม.รังสิต ให้เช่าราคาถูก 2000 บาท/เดือน วางประกัน1เดือน แจ้งเข้าอยู่ได้เลย หอพักชั้นเดียว 9ห้อง มี2ฝั่งห้อง 101-109 หลังคาเขีนวรั้วขาว อยู่ทางเข้า ม.รังสิต ใกล้แหล่งเจริญ ย่านชุมชน คมนาคมสะดวก สามารถตัดเข้าออกได้หลายทาง สาธารณูปโภคครบครัน  จับจุดวัดนาวง เมื่ออยู่หน้าวัดตรงมาประมาณ 500ม. เข้า ซ.นาวง4พัฒนา ซอย3 ปากซอยอยู่ตรงข้ามร้านกาแฟAmaxon Coffe จากนั้นเข้ามาประมาณ 200ม.หอพักอยู่ด้านซ้ายตรงข้ามร้านค้า

นิวส์ เคอร์เรนท์
02 536 4025
https://maps.app.goo.gl/Pd9t7RvJFN8idEFC6

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=157513623012847&id=100062626307647
#3179


เมื่อวันที่ 3 ส.ค. นางสาวลัดดา แซ่ลี้ รองโฆษกสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตามที่มีครม. เมื่อวันที่ 13 ก.ค.64 และ 20 ก.ค.64 โดยมีรายละเอียดในส่วนของผู้ประกอบอาชีพอิสระมาตรา 40 คือ รัฐบาลจะช่วยเหลือค่าใช้จ่ายให้ 5,000 บาท ต่อคน และยังให้สิทธิผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม ให้ขึ้นทะเบียนตาม ม. 40 ภายในเดือนเดือนก.ค. 2564 เพื่อรับค่าช่วยเหลือ 5,000 บาท เช่นกัน ปรากฏว่าจนถึงวันที่ 31 ก.ค.มีผู้ขึ้นทะเบียนสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 เป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนหนึ่งสมัครด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์ www.sso.go.th และเครือข่ายประกันสังคม แต่ยังไม่ได้ชำระเงินสมทบงวดแรก ทำให้สถานะความเป็นผู้ประกันตนของยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งจะส่งผลต่อการรับเงินเยียวยา

"ขอแจ้งให้ผู้สมัคร ม.40 รีบดำเนินมาชำระเงินสมทบงวดแรกให้ทันภายในวันที่ 10 ส.ค.2564 นี้ โดยสามารถชำระเงินผ่านช่องทางที่สะดวก ได้แก่ เคาน์เตอร์เซอร์วิส (7-11) เคาน์เตอร์เทสโก้โลตัส เคาน์เตอร์บิ๊กซี เคาน์เตอร์ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัดมหาชน หรือผ่าน Mobile Application ShoppyPay และตู้บุญเติม ฟรีค่าธรรมเนียมทุกช่องทาง" นางสาวลัดดา กล่าว

รองโฆษกสำนักงานประกันสังคม กล่าวย้ำว่า นอกจากการชำระเงินสมทบมาตรา 40 เพื่อรับเงินเยียวยาในพื้นที่เยียวยา 13 จังหวัด แล้ว การชำระเงินสมทบมาตรา 40 อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ทุก ๆ เดือน ก็จะทำให้ท่านได้รับสิทธิประโยชน์อย่างครบถ้วนทุกกรณี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1506 ให้บริการไม่เว้นวันหยุดราชการตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับ "แรงงานอิสระ" ที่เพิ่งสมัครเข้าระบบประกันสังคม ม.40 รายใหม่ และอยากทราบว่า ชื่อของตนเอง เข้าสู่ระบบประกันสังคมหรือยังนั้น

สำนักงานประกันสังคม ให้ข้อมูลว่า การสมัครเป็น "ผู้ประกันตนตาม มาตรา 40" จะมีสถานะความเป็นผู้ประกันตนตามกฎหมาย เมื่อจ่ายเงินสมทบงวดแรกแล้ว เท่านั้น

โดยผู้ประกันตนทุกราย ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกันตน มาตรา 33,39 หรือ มาตรา 40 ต่างก็สามารถ ตรวจสอบสถานะ การเป็นผู้ประกันตนด้วยตัวเองได้ง่ายๆ ผ่านระบบ อีเซอร์วิส ของประกันสังคม ผ่านเว็บไซต์ของประกันสังคม 

หากมีข้อสงสัยสอบถามสายด่วนประกันสังคม 1506 ให้บริการไม่เว้นวันหยุดราชการตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ คุณสมบัติของ "แรงงานอิสระ" หรือผู้ประกอบ "อาชีพอิสระ" ที่จะสมัครประกันสังคม มาตรา 40 ได้มีดังนี้

- มีสัญชาติไทย
- อายุตั้งแต่ 15 ปีบริบูรณ์ แต่ไม่เกิน 65 ปีบริบูรณ์
- แรงงานอิสระหรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ
- ไม่เป็นลูกจ้างในบริษัท ห้างร้าน โรงงาน (ม.33)
- ไม่เป็นผู้ประกันตนโดยสมัครใจ (ม.39)
- ไม่เป็นข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ
- ผู้ถือบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยขึ้นต้นด้วยเลข 0,6,7 (ยกเว้นขึ้นต้นด้วย000)
- ผู้พิการที่รับรู้สิทธิก็สมัครได้

โดยผู้ประกันตน สามารถเลือกจ่ายเงินสมทบได้ 3 ทางเลือก ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ ที่แตกต่างกัน ดังนี้

ทางเลือกที่ 1 จ่าย 70 บาท : เจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต
ทางเลือกที่ 2 จ่าย 100 บาท : เจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต ชราภาพ
ทางเลือกที่ 3 จ่าย 300 บาท : เจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต ชราภาพ สงเคราะห์บุตร
ทั้งนี้ แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังระบาดหนัก และเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน จึงได้สั่งการให้ลดการจ่ายเงินสมทบ จากเดิมการจ่ายเงินสมทบ สำหรับ ประกันสังคมมาตรา 40 มีด้วยกัน 3 ทางเลือก คือ 70 บาท, 100 บาท และ 300 บาท แต่ในช่วงสถานการณ์โควิด ได้มีการปรับลดอัตราเงินสมทบ 40% เป็นเวลา 6 เดือน (1 ส.ค.64 - 31 ม.ค.65) เหลือเป็นเงินที่ต้องจ่ายสมทบ คือ 42 บาท, 60 บาท และ 180 บาท ตามลำดับ
#3180


น.ส.ลัดดา แซ่ลี้ รองโฆษกสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลให้หน่วยงานด้านเศรษฐกิจเสนอมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ให้ได้มากที่สุด และ ครม.ได้ให้การเห็นชอบมาตรการในการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 13 ก.ค.64 และ 20 ก.ค.64

โดยมีรายละเอียดในส่วนของผู้ประกอบอาชีพอิสระมาตรา 40 คือ รัฐบาลจะช่วยเหลือค่าใช้จ่ายให้ 5,000 บาท ต่อคน และยังให้สิทธิผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม ให้ขึ้นทะเบียนตาม ม. 40 ภายในเดือนเดือนกรกฎาคม 2564 เพื่อรับค่าช่วยเหลือ 5,000 บาท เช่นกัน

สมัครผ่อนของ 0% 40 เดือนกับ Citi คลิกเลย

'อาชีพอิสระ' ชำระเงินม.40 รอบสุดท้าย 10 ส.ค.นี้
ปรากฏว่าจนถึงวันที่ 31 ก.ค.มีผู้ขึ้นทะเบียนสมัครเป็นผู้ประกันตนม.40 เป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนหนึ่งสมัครด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์ www.sso.go.th และเครือข่ายประกันสังคม แต่ยังไม่ได้ชำระเงินสมทบงวดแรก ทำให้สถานะความเป็นผู้ประกันตนของท่านยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งจะส่งผลต่อการรับเงินเยียวยา

ถึงแม้ข้อมูลการสมัครจะส่งมาที่สำนักงานประกันสังคมแล้ว แต่หากยังไม่มีการชำระเงินงวดแรก สถานะของท่านก็จะยังไม่มีผลตามกฎหมาย จึงขอแจ้งให้ผู้สมัคร ม.40 ได้ทราบว่า โปรดรีบดำเนินมาชำระเงินสมทบงวดแรกให้ทันภายในวันที่ 10 ส.ค. 2564 นี้ 

เช็คสิทธิ 'ประกันสังคม' www.sso.go.th ม.33 ม.39 ม.40 เช็ควันรับเงินเยียวยา ที่นี่
เช็คเงิน 'เยียวยาประกันสังคม' ม.33 พื้นที่สีแดงเข้ม โอนเข้า 'พร้อมเพย์' วันแรก
ด่วน! ยอด 'โควิด-19' วันนี้ ทะลุ 2หมื่น! พบเสียชีวิต 188 ราย ติดเชื้อเพิ่ม 20,200 ราย ยังไม่รวม ATK อีก 522 ราย

ย้ำไม่ชำระเงินสมทบ ไม่ได้เงินเยียวยา 5,000 บาท
โดยสามารถชำระเงินผ่านช่องทางที่สะดวก ได้แก่ เคาน์เตอร์เซอร์วิส (7-11) เคาน์เตอร์เทสโก้โลตัส เคาน์เตอร์บิ๊กซี เคาน์เตอร์ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัดมหาชน หรือผ่าน Mobile Application ShoppyPay และตู้บุญเติม ฟรีค่าธรรมเนียมทุกช่องทาง

รองโฆษกสำนักงานประกันสังคม กล่าวย้ำว่า นอกจากการชำระเงินสมทบมาตรา 40 เพื่อรับเงินเยียวยาในพื้นที่เยียวยา 13 จังหวัด แล้ว การชำระเงินสมทบมาตรา 40 อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ทุก ๆ เดือน ก็จะทำให้ท่านได้รับสิทธิประโยชน์อย่างครบถ้วนทุกกรณี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1506 ให้บริการไม่เว้นวันหยุดราชการตลอด 24 ชั่วโมง