• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Cindy700

#2081
Mintel เผยผลการสำรวจปี 65 ชี้ผู้บริโภคชาวไทยมองหาแบรนด์ที่จะช่วยให้ตนเองบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน สุขภาพทางการเงินที่ดี และไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น หลังเผชิญโควิด-19

Mintel เผยรายงานล่าสุดเกี่ยวกับผู้บริโภคชาวไทยปี 2565 โดยไฮไลต์ของรายงาน ได้แก่ ทัศนคติของผู้บริโภคชาวไทยที่มีต่อชีวิตประจำวันที่เปลี่ยนแปลงไป และข้อเสนอแนะสำหรับแบรนด์ต่าง ๆ ที่ผนวกข้อมูลผู้บริโภค ข้อมูลการตลาดเชิงลึก และคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่บรรดาแบรนด์ต่าง ๆต้องการ เพื่อช่วยผลักดันให้แบรนด์ประสบความสำเร็จในตลาดปัจจุบันที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล

คุณวุ้น ปองสงวน  จีระเดชากุล รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์รายงานของผู้บริโภคชาวไทยและชาวอินเดียของ Mintel กล่าวว่า:

"เหตุการณ์ในช่วงสองปีที่ผ่านมาได้ทิ้งรอยแผลและผลกระทบต่อชีวิตในด้านต่าง ๆ มากกว่าที่เราได้คาดการณ์ไว้ แม้โรคระบาดจะเป็นปัจจัยที่เร่งให้เกิดการใช้งานระบบดิจิทัลและทำให้อีคอมเมิร์ซเติบโต แต่โรคระบาดถือเป็นอุปสรรคสำหรับการบริโภคอย่างยั่งยืนของกลุ่มผู้บริโภคชาวไทย"

"แม้ว่า โรคระบาดจะนำไปสู่ปัญหาทางการเงินในด้านต่าง ๆ เช่น หนี้สินภาคครัวเรือน การว่างงานที่สูงขึ้น ฯลฯ หากมองในมุมบวก เราก็จะเห็นได้ว่าผู้บริโภคชาวไทยหันกลับมาให้ความสำคัญกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของตนเองมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ผู้บริโภคเพศหญิงยังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากอีคอมเมิร์ซและบริการด้านอาหารอีกด้วย"

ผู้บริโภคชาวไทยใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

จากผลการวิจัยล่าสุดของ Mintel แสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภคชาวไทยประมาณ 82% พยายามทำในสิ่งที่จะไม่ทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์และบริการจัดส่งสินค้าที่พุ่งสูงขึ้น เช่น จำนวนของเสียที่เกิดจากการดำเนินการดังกล่าว การปล่อยก๊าซพิษ และการบริโภคที่มากจนเกินไป ถือเป็นปัจจัยที่ขัดกับความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

คุณวุ้นยังกล่าวอีกว่า "แบรนด์ควรจะลดข้อความที่สื่อถึงเรื่องความสะดวก ประโยชน์ต่อสุขภาพ และความคุ้มค่าลงบ้าง โดยหันมาสื่อสารข้อความเกี่ยวกับผลกระทบเชิงบวกที่เกิดจากการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนบนบรรจุภัณฑ์หรือโซเชียลมีเดียให้มากขึ้น เพื่อชักชวนคนไทยให้หันมาประยุกต์ใช้ไลฟ์สไตล์ที่ยั่งยืน

ช่วยผู้บริโภคให้มีสุขภาพทางการเงินที่ดี

หนี้สินภาคครัวเรือนเป็นปัจจัยที่กำลังกดดันสถานภาพทางการเงินของคนไทย ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มว่าจะย่ำแย่ลง จากอัตราการว่างงานที่สูงขึ้นและรายได้ที่ลดลง ผลการวิจัยของ Mintel พบว่า แม้ว่าผู้บริโภคชาวไทยส่วนใหญ่ (73%) จะให้ความสำคัญกับกองทุนฉุกเฉิน แต่เรื่องของหนี้สินยังคงเป็นปัญหากวนใจ โดยคนไทย (52%) ที่อาศัยอยู่ในชนบท ให้ความสำคัญกับการชำระหนี้สิน

"ผลงานวิจัยของเรายังพบว่า ผู้บริโภคชาวไทยสามารถมีฐานะทางการเงินที่ดีขึ้นได้ หากเรามีเครื่องมือที่ดีพอที่จะช่วยเหลือในเรื่องการบริหารจัดการด้านการเงินและชำระหนี้ ในกรณีนี้แบรนด์สามารถช่วยผู้บริโภคได้ด้วยผลิตภัณฑ์หรือบริการทางการเงินที่จะช่วยส่งเสริมให้เกิดพฤติกรรมการใช้จ่ายอย่างรับผิดชอบ"

"จริง ๆ แล้วยังมีความต้องการอีกมากในการพัฒนาและเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจในเรื่องการเงินของคนไทย และหากใครก็ตามที่กำลังเผชิญปัญหาด้านการเงิน แม้จะเป็นกลุ่มที่มีรายได้น้อยก็ตาม คำแนะนำด้านการลงทุนไม่ว่าจะแบบดั้งเดิมหรือแบบใหม่อย่างสินทรัพย์ดิจิทัล สามารถเป็นตัวช่วยในการวางแผนทางการเงินให้ไปต่อได้" คุณวุ้นกล่าว

ช่วยคนไทยให้ใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น

ปัจจุบันผู้บริโภคชาวไทยจำนวน 4 ใน 5 (81%) มีความกังวลเกี่ยวกับอาหารการกิน การใช้ชีวิตอย่างกระฉับกระเฉง และการจัดการกับความเครียดที่เกิดขึ้น โดยผลการวิจัยล่าสุดจาก Mintel แสดงให้เห็นว่า กว่า 60% ของผู้บริโภคชาวไทยตั้งใจที่จะดูแลสุขภาพของตน ด้วยการบริโภคอาหารที่ดีหรือการดื่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เช่น เครื่องดื่มบำรุงกำลังที่เสริมวิตามิน ฯลฯ แต่ถึงกระนั้น การที่ผู้บริโภคไม่มีเวลา ความไม่สะดวก และรสชาติอาหารที่ไม่ถูกปากก็ถือเป็นอุปสรรคที่ขัดขวางความตั้งใจที่จะมีสุขภาพดีของผู้บริโภคได้เช่นกัน

คุณวุ้นกล่าวต่อไปว่า "แบรนด์ต่าง ๆ สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในจุดนี้ได้ด้วยการช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในกลุ่มผู้บริโภคแต่ละช่วงอายุ ด้วยการอธิบายเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์หรือบริการของแบรนด์ว่าจะช่วยแก้ปัญหาแต่ละส่วนของผู้บริโภคได้อย่างไรบ้าง นอกจากนั้นยังเป็นการเปิดโอกาสให้แบรนด์รังสรรค์นวัตกรรมที่ใช้งานได้ในยุคที่ผู้บริโภคเต็มใจที่จะจ่ายเงินเพิ่มขึ้น เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า"

ขับเคลื่อนด้วย ' she-economy ' พลังผู้หญิงเปลี่ยนโลกเศรษฐกิจ

รายงานผู้บริโภคชาวไทยปี 2565 เผยเหตุผลสำคัญ 2 ข้อที่ทำให้ 'She-economy' ในไทยกำลังมาแรง ประการแรก ในช่วงที่เกิดการระบาดครั้งใหญ่ ผู้บริโภคเพศหญิงมีบทบาทสำคัญในการดันยอดอีคอมเมิร์ซของตลาดให้พุ่งสูงด้วยการเป็นผู้ซื้อสินค้าและใช้บริการจัดส่งอาหารออนไลน์และแอปพลิเคชันเป็นประจำ ประการที่สอง ความตระหนักในเรื่องพลังของผู้หญิงและความเท่าเทียมทางเพศโดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภค Gen Z และสาวยุคมิลเลนเนียลที่จะมาขับเคลื่อนการเลือกซื้อสินค้าประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะแนวคิดเรื่องความงามตามธรรมชาติเพื่อคุณค่าและความมั่นใจในตัวเองก็เป็นประเด็นสำคัญมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้บริโภคผู้หญิงกว่าครึ่งหรือ 51% ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นการเปิดโอกาสให้แบรนด์ต่าง ๆ ได้ผลักดันและสนับสนุนในเรื่องความงาม และประสบการณ์ด้านความงานเชิงบวกสำหรับผู้หญิง

"ในขณะที่ลูกค้าเพศหญิงหันไปซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์และบริการส่งอาหารมากขึ้นในช่วงการระบาดนั้น ความกังวลเรื่องไลฟ์สไตล์ตั้งแต่เรื่องของสุขภาพไปจนถึงการเงินในแต่ละช่วงอายุมีความแตกต่างกันออกไป โดยแบรนด์ต่าง ๆ สามารถปรับแต่งข้อเสนอของแบรนด์ให้ตรงตามความต้องการเฉพาะทางเหล่านั้นได้ ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์แก่กลุ่มลูกค้าผู้หญิง แต่ยังช่วยสนับสนุนให้เกิดพฤติกรรมการซื้อสินค้าออนไลน์บ่อยครั้งขึ้นได้อีกด้วย"

"ยิ่งไปกว่านั้น ความตระหนักในเรื่องความเท่าเทียมทางเพศที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคเพศหญิงต้องการที่จะสนับสนุนแบรนด์ที่ช่วยสะท้อนความเชื่อส่วนตัวรวมไปถึงความเป็นตัวของตัวเอง แบรนด์ที่มีค่านิยมที่สอดคล้องกับการส่งเสริมพลังของผู้หญิงจะสามารถโปรโมทข้อความสื่อหรือแคมเปญเกี่ยวกับความเท่าเทียมทางเพศได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์และลูกค้าที่จะนำมาซึ่งการสนับสนุนจากกลุ่มสาวนักช้อปยุคใหม่ได้ด้วยเช่นกัน
#2082
บุหรี่ blue ice ราคาส่ง บลูไอซ์ 1 เม็ดบีบ ส่งด่วน เก็บเงินปลายทาง บุหรี่เมนทอลสัญชาติญี่ปุ่นมีเม็ดบีบเพิ่มความเย็น มาพร้อมกลิ่นหอมมิ้นท์ให้ความรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลายทุกครั้งที่ได้สูบ บุหรี่ BLUE ICE BLAST ราคา1 คอทตอน ราคา 400 บาทติดต่อสั่งซื้อLine :: @pra777บุหรี่ BLUE ICE BLAST (1 เม็ดบีบ)(บรรจุ 20 มวน/ซอง - 10 ซอง/คอตตอน) 
 บุหรี่เมนทอลสัญชาติญี่ปุ่นมีเม็ดบีบเพิ่มความเย็น มาพร้อมกลิ่นหอมมิ้นท์ให้ความรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลายทุกครั้งที่ได้สูบ 
 MADE IN JAPAN (TAR : 20 MG. – NICOTINE :1.5 MG.) Blue Ice Blast : บุหรี่เม็ดบีบสัญชาติญี่ปุ่น เย็นระดับถึงพริกถึงขิง รับประกันความเย็น
Tags :: บุหรี่ blue ice ราคาส่ง,blue ice ราคาส่ง,blue ice ราคาถูก
#2083
PLANET ตั้งบ.ย่อย 'แพลนเน็ต อีวี' ลุยธุรกิจรถ EVแบบครบวงจร

PLANET ตั้งบ.ย่อย 'แพลนเน็ต อีวี' ลุยธุรกิจรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) แบบครบวงจร รองรับอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้ากำลังการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมีศักยภาพ บิ๊กบอส 'ประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์' แย้มร่วมมือกับพันธมิตรหลายราย มั่นใจ สร้างได้รายที่ดีให้กับบริษัท 

นายประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANET  เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้จัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ชื่อ บริษัท แพลนเน็ต อีวี จำกัด เพื่อประกอบกิจการผลิต ซื้อ ขาย ส่งออก รถยนต์ รถยนต์ไฟฟ้าทุกชนิด รถจักรยานยนต์ เครื่องกลไก เครื่องจักรกลทุกชนิดตลอดจนชิ้นส่วน หรืออะไหล่ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าดังกล่าว รวมถึงให้บริการสถานีสำหรับชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร

ทั้งนี้ บริษัทย่อยดังกล่าว มีวัตถุประสงค์การลงทุนเพื่อลงทุนระยะยาวตามแผนธุรกิจของบริษัท ซึ่งบริษัทจะได้รับผลตอบแทนเป็นเงินปันผลและผลประกอบการทางธุรกิจ โดยมีทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท ซึ่ง  PLANET ถือหุ้น 99.9994%  สำหรับการดำเนินธุรกิจภายใต้บริษัทย่อยแห่งใหม่ดังกล่าว จะมีการร่วมมือกับพันธมิตรหลายราย เพื่อดำเนินธุรกิจรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) อย่างครบวงจรร่วมกัน ซึ่งขณะนี้ถือว่ามีความคืบหน้ามากแล้ว ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวได้มีการศึกษาเพื่อการลงทุนมาระยะหนึ่งซึ่งต้องยอมรับว่า อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้ากำลังการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมีศักยภาพ

' บริษัท แพลนเน็ต อีวี จำกัด บริษัทย่อยแห่งใหม่ดังกล่าว ถือเป็นความคืบหน้าในการขยายธุรกิจเพิ่มเติม หลังจากบริษัทฯ ได้มีการตั้งบริษัทย่อยในก่อนหน้านี้ คือ บริษัท แพลนเน็ตยูทิลิตี้ จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจบริหารจัดการ ให้บริการผลิตน้ำประปาและไฟฟ้า เพื่อจำหน่ายหรือจำหน่ายน้ำประปาหรือกระแสไฟฟ้า และ บริษัท แพลนเน็ต ไซเบอร์ จำกัด เพื่อประกอบกิจการ ซื้อ ขาย ออกแบบ ติดตั้ง และให้บริการหลังการขาย ผลิตภัณฑ์ทางด้านระบบการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้แก่ภาครัฐ และภาคเอกชนไปแล้ว ซึ่งถือเป็นเป็นพัฒนาการที่ดี ต่อโอกาสสร้างได้รายให้กับบริษัทฯอย่างมีนัยสำคัญ'  นายประพัฒน์กล่าว

 
#2084
จีนประณามสหรัฐขายอาวุธให้ไต้หวัน ชี้ละเมิดหลักการ 'จีนเดียว'

จีนออกโรงคัดค้านและประณามสหรัฐที่อนุมัติการขายอาวุธให้ไต้หวันคิดเป็นมูลค่า 95 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเรียกร้องให้สหรัฐยกเลิกแผนการดังกล่าว

นายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวในการแถลงข่าวว่า 'การที่สหรัฐขายอาวุธให้ไต้หวันซึ่งเป็นดินแดนของจีน ถือเป็นการละเมิดหลักการจีนเดียวและแถลงการณ์ร่วม 3 ฉบับระหว่างจีนกับสหรัฐอย่างรุนแรง โดยเฉพาะแถลงการณ์ร่วมฉบับวันที่ 17 ส.ค. นับเป็นการบั่นทอนอำนาจอธิปไตยและผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของจีน รวมถึงเป็นภัยร้ายแรงต่อความสัมพันธ์จีน-สหรัฐ ไปจนถึงสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน'

'สหรัฐควรปฏิบัติตามหลักการจีนเดียวและแถลงการณ์ร่วม 3 ฉบับระหว่างจีนกับสหรัฐ ยกเลิกแผนการขายอาวุธ รวมถึงหยุดขายอาวุธให้ไต้หวันและหยุดความสัมพันธ์ทางทหารกับไต้หวัน' นายจ้าวกล่าว พร้อมกับเน้นย้ำว่าจีนจะเดินหน้าใช้มาตรการที่แข็งกร้าวในการปกป้องอำนาจอธิปไตยและผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของประเทศ

ทั้งนี้ สำนักงานความร่วมมือด้านความมั่นคงกลาโหม (DSCA) ของสหรัฐ เปิดเผยเมื่อวานนี้ (5 เม.ย.) ว่า กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้อนุมัติการขายอาวุธให้ไต้หวัน ซึ่งครอบคลุมถึงการฝึกอบรม การวางแผน การติดตั้ง การใช้งาน และการบำรุงรักษาระบบป้องกันภัยทางอากาศแพทริออตและอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 
#2085
ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดลบ 20 เซนต์ ข่าว IEA ระบายน้ำมันกดดันตลาด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (7 เม.ย.) โดยตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่า สำนักงานพลังงานสากล (IEA) จะระบายน้ำมันจากคลังสำรองเพื่อสกัดราคาน้ำมัน รวมทั้งรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่พุ่งขึ้นสวนทางการคาดการณ์

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 96.03 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. 2565

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 49 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 100.58 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค. 2565

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ หลังจาก IEA มีมติระบายน้ำมัน 60 ล้านบาร์เรลออกจากคลังน้ำมันสำรองของประเทศสมาชิก โดยการระบายน้ำมันดังกล่าวถือเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ IEA เคยมีมติเมื่อวันที่ 1 มี.ค.ในการระบายน้ำมันจำนวน 60 ล้านบาร์เรลเช่นกัน

ทั้งนี้ IEA ประกอบด้วยสมาชิก 31 ประเทศ โดยสมาชิกรายใหญ่ได้แก่ สหรัฐ สหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศส แคนาดา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้

ตลาดยังถูกกดันจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.85 ล้านบาร์เรล

นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลว่า การที่จีนประกาศล็อกดาวน์เมืองต่าง ๆ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน

นักลงทุนจับตาสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมทั้งผลกระทบจากการที่นานาประเทศใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย โดยนายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย กล่าวว่า การผลิตน้ำมันของรัสเซียอาจลดลง 4-5% ในเดือนนี้ เพราะถูกกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐและพันธมิตร

นายโนวัคยังกล่าวด้วยว่า ธนาคารกลางและกระทรวงการคลังรัสเซียกำลังหารือกันเกี่ยวกับการส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติไปยังจีน โดยให้จีนชำระเป็นสกุลเงินหยวน
#2086
ภาวะตลาดอนุพันธ์: ลบขายลดเสี่ยงก่อนหยุดพรุ่งนี้ จับตามาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า การซื้อ ขาย SET50 Index Futures วันนี้แกว่งไซด์เวย์ค่อนข้างผันผวน และปรับตัวลงเล็กน้อย ส่วนหนึ่งคาดว่าจะมาจากแรงขายเพื่อลด ความเสี่ยงบางส่วนในช่วงก่อนเข้าวันหยุดทำการในวันพรุ่งนี้ แต่ยังมีแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันรี บาวด์ และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเมืองมาช่วยหนุนให้ดัชนีปรับตัวลงไม่มาก อีกทั้งการซื้อขายในวันนี้ยังไม่คึกคักมาก

แนวโน้มในวันพฤ. 7 เม.ย.นี้ คาดว่าดัชนีจะแกว่งไซด์เวย์ หรืออาจจะปรับลงมาพักตัวในระยะสั้นได้ โดยที่ปัจจัยที่ยัง ต้องติดตามเกี่ยวกับเรื่องมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมที่ทางสหรัฐฯและชาติยุโรปจะออกมา รวมถึงการรายงานการประชุม ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในคืนพรุ่งนี้ โดยให้แนวต้าน 1,025-1,035 จุด แนวรับ 1,000-1,010 จุด

ด้านราคาทองคำยังเคลื่อนไหวทรงตัวในกรอบแคบๆ โดยที่มองว่าราคาทองคำยังมีอัพไซด์ค่อนข้างจำกัดจากอัตราผล ตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (Bond Yield) ยังปรับตัวขึ้นและทรงตัวในระดับสูง ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯยังแข็งค่า แม้ว่า จะมีปัจจัยสงครามรัสเซียและยูเครนที่เข้ามาช่วยหนุนอยู่บ้าง และในคืนนี้ติดตามการรายงานตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นภาคบริการเดือน มี.ค. 65 ของสหรัฐฯ และคืนพรุ่งนี้ติดตามการรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยให้กรอบการแกว่งราคาทองคำ ไว้ที่ 1,900-1,940 เหรียญสหรัฐฯ/ออนซ์

SET50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,021.32 จุด ลดลง 1.49 จุด, -0.15%

                                          ปริมาณ                สถานะคงค้าง
Total Market                             294,490               3,964,484
Total Futures                            291,661               3,930,380
SET50 Index                              110,633                 383,337
Sector Index                                -                       -
Single Stock                             132,389               3,336,942
Precious Metal                            35,911                  59,744
- GF10                                     3,400                  18,441
- GF50                                        17                     642
- Gold Online                             32,250                  38,965
- Silver Online                              244                   1,696
Deferred Precious Metal                        -                       -
- GOLD-D                                       -                       -
Currency                                  12,665                 149,907
Interest Rate                                -                        -
Agriculture                                   63                     450
- Japanese Rubber                             63                     450
- RSS3D                                      -                        -
- RSS3                                       -                        -
Total Options                              2,829                  34,104
Call                                       1,021                  14,183
Put                                        1,808                  19,921

สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน

                  นักลงทุนสถาบัน          นักลงทุนต่างชาติ          นักลงทุนภายในประเทศ
Futures             +8,443               +10,543                -18,986
Options               -206                    -8                   +214
 
#2087
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 280.70 จุด กังวลเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยกระทบศก.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันอังคาร (5 เม.ย.) หลังจากนางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและเร่งปรับลดขนาดของงบดุลเพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยการแสดงความเห็นดังกล่าวได้ฉุดหุ้นที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,641.18 จุด ลดลง 280.70 จุด หรือ -0.80%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,525.12 จุด ลดลง 57.52 จุด หรือ -1.26% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,204.17 จุด ลดลง 328.39 จุด หรือ -2.26%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากนางเบรนาร์ดได้แสดงความเห็นเมื่อคืนนี้ตามเวลาไทย โดยกล่าวว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเป็นระบบ และเร่งปรับลดขนาดงบดุลจากระดับสูงเกือบ 9 ล้านล้านดอลลาร์ โดยเริ่มตั้งแต่เดือนหน้า พร้อมกับกล่าวว่า ขณะนี้เงินเฟ้ออยู่ในระดับที่สูงเกินไป และการชะลอเงินเฟ้อถือเป็นภารกิจที่มีความสำคัญอย่างมาก

คริสตินา ฮูเปอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทอิสเวสโคกล่าวว่า การแสดงความเห็นของนางเบรนาร์ดทำให้ตลาดวิตกกังวลว่า เฟดอาจเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับที่รุนแรงมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงหรืออาจเข้าสู่ภาวะถดถอย และเมื่อถึงเวลานั้น เฟดอาจเผชิญกับความยากลำบากในการพยุงเศรษฐกิจ

ขณะนี้ตลาดการเงินคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมทั้งในเดือนพ.ค.และมิ.ย.ที่จะถึงนี้ และคาดว่าเฟดจะทำให้อัตราดอกเบี้ยแตะระดับ 2.50-2.75% ในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งสูงกว่า 2.4% ซึ่งเป็นระดับที่กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่าเป็นระดับที่เป็นกลาง

ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ร่วงลง 2.2% โดยหุ้นแอปเปิล ร่วงลง 1.89% หุ้นแอมะซอน ดิ่งลง 2.55% หุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 1.30% หุ้นอัลฟาเบท ลดลง 1.67% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 2.9%

ดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย ร่วงลง 2.4% โดยหุ้นราล์ฟ ลอเรน ดิ่งลง 3.86% หุ้นไนกี้ ร่วงลง 1.52% หุ้นคาปรี โฮลดิ้งส์ ร่วงลง 2.74%

หุ้นทวิตเตอร์ พุ่งขึ้น 2% ขานรับข่าวที่ว่า นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัทเทสลา จะเข้าร่วมบอร์ดบริหารของทวิตเตอร์ หลังจากที่ได้ถือครองหุ้นบริษัทมากกว่า 9% โดยนายมัสก์จะเป็นกรรมการในบอร์ดบริหารของทวิตเตอร์ และจะสิ้นสุดวาระในปี 2567

หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเรือสำราญรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 2.43% หลังบริษัทเปิดเผยยอดจองที่นั่งเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์

หุ้นสายการบินสปิริต แอร์ไลน์ส ทะยานขึ้น 22.37% ขานรับรายงานที่ว่า สายการบินเจ็ตบลู แอร์เวย์ส ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการสปิริต แอร์ไลน์ส

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 58.3 ในเดือนมี.ค. โดยได้แรงหนุนจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ รวมทั้งการพุ่งขึ้นของการจ้างงานและคำสั่งซื้อใหม่

ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าสหรัฐลดลง 0.1% สู่ระดับ 8.92 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. โดยการนำเข้าพุ่งขึ้น 1.3% สู่ระดับ 3.178 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่การส่งออกเพิ่มขึ้น 1.8% สู่ระดับ 2.286 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน
#2088
CWT จับมือ 'DreamerX' ลุยธุรกิจคริปโตฯ มุ่งสร้าง 'Green Bitcoin Mining' จากพลังงานไฟฟ้าเหลือใช้ ปั้น New S Curve 

บมจ.ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป หรือ CWT เดินหน้าเข้าสู่อุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัล หวังสร้าง New S Curve ส่งบริษัทย่อย 'ชัยวัฒนา กรีน แมนเนจเม้นท์' หรือ cwtGM ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกับ DreamerX บริษัท Tech Startup รุ่นใหม่ไฟแรง!! เตรียมสร้างเหมืองขุดบิทคอยน์ 'Green Bitcoin Mining' จากพลังงานไฟฟ้าเหลือใช้ของกล่มฯ คาดเห็นผลการศึกษา-ผลงานออกแบบภายในเดือน เม.ย.นี้ มั่นใจช่วยผลักดันธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน

นายวีระพล ไชยธีรัตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CWT) เปิดเผยว่า บริษัท ชัยวัฒนา กรีน แมนเนจเม้นท์ จำกัด หรือ cwtGM ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ ร่วมกับ บริษัท ดรีมเมอร์เอ็กซ์ จำกัด (DreamerX) ซึ่งเป็น บริษัท Tech Startup ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการสร้างเครื่องขุด และงานซ่อมบำรุงรักษาได้แบบครบวงจร รวมถึงการให้คำแนะนำในการลงทุนสร้างเหมือง Bitcoin เป็นต้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาความร่วมมือในธุรกิจอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัล หรือ คริปโตเคอร์เรนซี (cryptocurrency) และคาดว่าจะเห็นผลของการศึกษา ผลการออกแบบภายในเดือนเมษายนนี้

'cwtGM เป็นบริษัทย่อยของกลุ่มบริษัท ชัยวัฒนา กรีน จำกัด หรือ CWTG ซึ่งประกอบธุรกิจในกลุ่มพลังงาน มีการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน และมีพลังงานไฟฟ้าเหลือใช้ สามารถนำมาต่อยอดเป็น Green Bitcoin Mining ที่ต้นทุนไฟฟ้าต่ำได้ จึงมีความสนใจในการสร้างเหมืองขุดบิทคอยน์ ประกอบกับ DreamerX เป็น บริษัท Tech Startup ที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษในอุตสาหกรรมคริบโตฯ เราจึงเชื่อมั่นว่าการลงนามบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้ จะถือเป็นการเพิ่มโอกาสในการขยายแผนการลงทุนของบริษัทฯ จากสิ่งที่เรามีอยู่แล้วต่อยอดให้เกิดประโยชน์ คาดจะเห็นการพัฒนาธุรกิจร่วมกันภายในเร็วๆ นี้' นายวีระพล กล่าว

ด้านนายธีรัตต์ ไชยธีรัตต์ กรรมการบริหาร บริษัท ชัยวัฒนา กรีน แมนเนจเม้นท์ จำกัด หรือ cwtGM กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับธุรกิจอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัล หรือ คริปโตเคอร์เรนซี (cryptocurrency) และการขุดเหมืองบิทคอยน์มาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว และเห็นว่าการลงทุนในธุรกิจดังกล่าวเป็นการลงทุนในระยะยาว อีกทั้งยังสามารถสร้างรายได้ใหม่ให้แก่บริษัท ประกอบกับบริษัทฯมีกำลังการผลิตส่วนเกินของโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ซึ่งสามารถนำมาสร้างประโยชน์ร่วมกันได้ ส่งผลทำให้ต้นทุนค่าไฟซึ่งเป็นต้นทุนหลักของกิจกรรมนี้ลดลงอีกด้วย

'เราเชื่อมั่นว่าการพัฒนาความร่วมมือร่วมกับ DreamerX ในครั้งนี้ จะเป็นการสร้าง New S Curve ให้กับธุรกิจ และเป็นการต่อยอดธุรกิจด้านพลังงานที่มีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว และสร้างผลตอบแทนในระยะยาวที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นต่อไป' นายธีรัตต์ กล่าว

ขณะที่ นายสุกฤต วณิชวรากิจ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท ดรีมเมอร์เอ็กซ์ จำกัด (DreamerX) กล่าวว่า การลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อการพัฒนาความร่วมมือในธุรกิจอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัล หรือ คริปโตเคอร์เรนซี (cryptocurrency) ในครั้งนี้เพื่อพัฒนาโครงการ Green Bitcoin Mining ซึ่งมีความพิเศษเนื่องจากพลังงานที่ใช้ในการขุดเหรียญดิจิทัลเป็นพลังงานสะอาด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประกอบกับบริษัทฯ มีองค์ความรู้ในอุตสาหกรรมคริบโตฯ ความเชี่ยวชาญทางด้านการสร้างเครื่องขุด และงานซ่อมบำรุงรักษาได้แบบครบวงจร จึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถสนับสนุนงานของ CWT และคาดเห็นผลสรุปชัดเจนได้ภายในเร็วนี้เช่นกัน

อนึ่ง กลุ่มบริษัทฯ มีโรงไฟฟ้าที่ขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ขนาดกำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ และมีโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาคือ โรงไฟฟ้าขยะชุมชน จังหวัดนครสวรรค์ขนาดกำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ ปัจจุบันได้สัญญาบริหารจัดการขยะแล้ว 25 ปี และอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงานแยกขยะเพื่อเตรียมการต่อยอดเป็นโรงไฟฟ้าขยะชุมชนได้ภายในเร็วๆ นี้

 
#2089
ส.นักวิเคราะห์ ลดเป้า GDP รับน้ำมันแพง,คาด Fund Flow หนุน SET สิ้นปี 1,774

นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการ สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน เปิดเผยผลการสำรวจความเห็นสมาชิกนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนรวม 27 บริษัท เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนในไตรมาส 2-4 ของปี 65 โดยสมมติฐานอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี 65 ทุกสำนักมองเป็นบวก โดยค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.09% ลดลงจากการสำรวจครั้งก่อน (ม.ค.65) ซึ่งเคยใช้สมมติฐานที่ 3.71% ซึ่งมีผู้ตอบที่ให้ตัวเลขต่ำสุดคือ 2.00%

สถานการณ์การเมืองโลก โดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนส่งผลกระทบประมาณการราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยทั้งปี 65 สูงขึ้นจากคาดการณ์เดิมเมื่อ 3 เดือนก่อนที่ 69.90 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล มาเป็น 94.03 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล จึงต้องลดคาดการณ์ GDP ของไทยในปีนี้ลง

อย่างไรก็ตาม ทิศทางการลงทุนในปี 65 ยังได้ผลบวกที่ชัดเจนมาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ เงินลงทุนจากต่างประเทศ (Fund Flow) และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่มีกำไรเติบโต โดยมีผู้โหวตถึง 81% และ 74% ตามลำดับ

ส่วนปัจจัยด้านลบ ยังคงมาจาก แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีผู้โหวตมากถึง 89% ส่วนอันดับ 2 ที่พุ่งแรงในครั้งนี้คือปัจจัยการเมืองในต่างประเทศ มีผู้โหวต 78% ตามติดมาด้วยภาวะเศรษฐกิจโลก และการเตรียมลดมาตรการ QE ทั่วโลก ซึ่งมีผู้โหวต 74% และ 67% ตามลำดับ

ทางด้านอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย ความเห็นส่วนใหญ่ 65% มองว่าจะคงที่ตลอดปีนี้ รองลงมาคือ มองว่าจะปรับขึ้น 0.25% ในปีนี้ โดยมีผู้โหวต 27% และสุดท้ายคือ ที่มองว่าจะปรับขึ้น 0.50% ในปีนี้มีผู้โหวต 7%

ส่วนทางด้านคาดการณ์ผลกำไรต่อหุ้นของบริษัทจดทะเบียนปี 65 เฉลี่ยที่ 89.11 บาท/หุ้น เติบโต 9.33% จากปี 64 อย่างไรก็ตาม ตัวเลขคาดการณ์ใหม่นี้ต่ำกว่าการสำรวจครั้งก่อน ซึ่งอยู่ที่ 89.59 บาท/หุ้นเล็กน้อย

ทางด้านคาดการณ์ SET Index ในช่วงไตรมาส 2/65 มีผู้โหวต 44% คาดว่าจะเป็น Sideways และมีผู้โหวต 41% มองว่าIndex จะมีทิศทางลบ ส่วนที่เหลือ 15% มองเป็นทิศทางบวก ส่วนคาดการณ์ SET Index ณ สิ้นไตรมาสอยู่ที่ 1,688 จุด

ส่วนมุมมองจากไตรมาสที่ 2 ไปถึงสิ้นปี คาดว่า SET Index จะแกว่งตัวในกรอบ 1,567-1,774 จุด และปิดสิ้นปี 65 ที่ 1,747 จุด

นักวิเคราะห์แนะนำให้กระจายพอร์ตการลงทุน แบ่งเป็น

เงินสดและเงินฝากระยะสั้น 13.85%
กองทุนตราสารหนี้ 13.15%
หุ้นไทยหรือกองทุนหุ้นไทย 29.46%
หุ้นหรือกองทุนหุ้นต่างประเทศ 27.29%
กองทุนอสังหาฯหรือ REIT 8.66%
ทองคำหรือกองทุนทองคำ 7.41%
อื่นๆ 0.18%
สำหรับการลงทุนในหุ้นไทยนั้น แนะนำให้เพิ่มน้ำหนักลงทุนในหมวดธุรกิจ ค้าปลีก ธนาคาร การท่องเที่ยว และสื่อสาร ขณะเดียวกันแนะนำให้ลดน้ำหนักการลงทุนในหมวดธุรกิจปิโตรเคมี พลังงานและสาธารณูปโภค รวมถึง ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีหุ้นเด่นแนะนำตรงกันมาก คือ BDMS, KBANK และ MAKRO

นักวิเคราะห์ฯ ยังได้เพิ่มเติมการแนะนำนโยบายที่จะมีผลบวกต่อภาวะเศรษฐกิจไปยังรัฐบาล ได้แก่ การเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ มีนโยบายช่วยเหลือประชาชน โดยดูแลค่าใช้จ่ายผู้มีรายได้น้อย รวมถึงมาตรการให้สิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษี เพื่อกระตุ้นภาคการบริโภค ส่วนด้านช่วยเหลือภาคธุรกิจนั้น ได้แก่ เร่งแผนเปิดประเทศ ดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ ช่วยเหลือภาคธุรกิจที่โดนผลกระทบจากราคาพลังงานสูงขึ้น
#2090
ตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทริปเปิ้ล เอ็กซ์
สรรพคุณหลัก ฟื้นฟูร่างกาย สำหรับชาย สกัดจากสมุนไพร
ปลอดภัย มี 13-1-06355-1-0062 ฮาลาล เลขที่ ฮล.054-2558 มาตรฐานการผลิต GMP ตามมาตรฐานสากล ไม่มีผลข้างเคียง
คุณประโยชน์เพิ่มเติม เข้าดูได้ที่ http://www.bbbigshop.com/product/triplex.php


ในกระปุก มี :  60 แคปซูล
ทางร้านเรา รับประกันจะได้ของแท้แน่นอน 100%
ซื้อกับตัวแทนจำหน่ายสินค้า ได้ของแน่นอน สินค้ามีพร้อมส่ง เก็บเงินปลายทาง เคอร์รี่สินค้าราคาถูกพิเศษจัดส่งฟรีทั่วประเทศ
สนใจสั่งซื้อ
โทร.081-1570437
ติดต่อคุณบอย หรือ Line ID : bbbig.info

#2091
สุพัฒนพงษ์ เร่งผลักดันมาตรการหนุนรถ EV หลังกระแสตอบรับคึกคัก

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน กล่าวถึงกระแสยานยนต์ไฟฟ้า (EV) หลังได้รับการตอบรับดีมากจากงานมอเตอร์โชว์ 2022 ว่า ถือเป็นทิศทางที่ดี ตอนนี้กำลังดูจำนวนผู้ประกอบการค่ายรถต่าง ๆ จะเข้ามาร่วมโครงการกับรัฐเพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ มากขึ้น โดยในส่วนมาตรการที่จะออกมาเพิ่มเติม เช่น การสนับสนุนสถานนีอัดประจุไฟฟ้าที่ต้องเตรียมพร้อมไว้รองรับกับจำนวนรถ EV ที่เพิ่มขึ้น และผลักดันให้มีการสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ขึ้นในประเทศ เพื่อเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าขึ้นไปอีก โดยรัฐบาลพยายามจะดึงรายใหญ่ ๆ เข้ามาในประเทศ

Taitong Machinery ส่งเหล็กวงท่อ หรือ โครงท่อระบายน้ำ มาตรฐานอุตสาหกรรมสูง เสริมเหล็กแข็งแรง ทนทานประหยัดแรงงานประหยัดเวลาควบคุมและบริหารงบประมาณการผลิตได้

มีเครื่องอัดท่อระบายน้ำ ก็ต้องมีเหล็กวงท่อ  เหล็กวงท่อ หรือ โครงท่อระบายน้ำ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการผลิตท่อระบายน้ำคอนกรีตอัดแรง ผลิตโดยนำเหล็กวัตถุดิบ ผ่านกระบวนการเข้าเครื่องจักรอัตโนมัติที่มีความแม่นยำ สำหรับผลิตวงท่อตามขนาดที่ต้องการมาเชื่อมต่อเป็นวงกลมเรารับผลิตเหล็กวงท่อสำเร็จรูป โดยใช้เหล็กเส้นตามมาตรฐานอุตสาหกรรมท่อคอนกรีตเสริมเหล็กแข็งแรง ทนทานประหยัดแรงงานประหยัดเวลาควบคุมและบริหารงบประมาณการผลิตได้  Taitong Machinery "พร้อมขับเคลื่อนทุกธุรกิจของคุณ สู่ความสำเร็จ"
#2092
รัฐบาลอังกฤษเตรียมสร้าง NFT ของตัวเอง หวังเป็นผู้นำโลกด้านคริปโท

รัฐบาลอังกฤษประกาศวานนี้ (4 เม.ย.) ว่า ทางการอังกฤษวางแผนที่จะสร้าง NFT ของตัวเอง ตามเป้าหมายที่ต้องการก้าวขึ้นเป็นผู้นำโลกด้านคริปโทเคอร์เรนซี

นายจอห์น เกลน รัฐมนตรีฝ่ายกิจการเมืองของอังกฤษกล่าวในงานมหกรรมฟินเทค ณ กรุงลอนดอนว่า นายริชี ซูแนค รัฐมนตรีคลังอังกฤษ ได้ขอให้รอยัล มินต์ (Royal Mint) โรงกษาปณ์ของรัฐบาลอังกฤษสร้างและออก NFT ดังกล่าวภายในฤดูร้อนนี้ ซึ่งจะมีการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมในอนาคต

ความคิดริเริ่มดังกล่าวเป็นหนึ่งในความพยายามของรัฐบาลอังกฤษที่ต้องการก้าวขึ้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมคริปโทฯ โดยนายเกลนได้ประกาศแผนการเพิ่มเติมที่อังกฤษจะเดินหน้าทำให้ทรัพย์สินดิจิทัลสามารถอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของภาครัฐมากขึ้น อาทิ ทำให้เหรียญประเภทสเตเบิลคอยน์ (Stablecoin) อยู่ภายใต้ระเบียบข้อบังคับด้านการชำระหนี้ตามกฎหมาย ตลอดจนการหารือในประเด็นการกำกับดูแลการเทรดสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงบิตคอยน์ในระดับโลก

นอกจากนี้ อังกฤษยังเตรียมขอให้คณะกรรมการกำกับดูแลด้านกฎหมายพิจารณาสถานะทางกฎหมายของชุมชนบล็อกเชน หรือที่รู้จักในนามองค์กรอัตโนมัติแบบกระจายศูนย์ (DAO)

อนึ่ง NFT ได้รับความนิยมอย่างมากในปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีดารา เซเลบริตี และบริษัทชื่อดังเข้าถือครองเป็นจำนวนมาก
#2093
จำหน่าย อุปกรณ์บริหารกล้ามเนื้อ ทุกชนิด
อุปกรณ์บริหารกล้ามเนื้อ
 เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับเพิ่มกล้ามเนื้อส่วนต่างๆของร่างกาย อุปกรณ์บริหารกล้าม สามารถใช้ได้สำหรับภายในบ้านและภายในยิม อุปกรณ์สำหรับบริหารกล้ามเนื้อ
อุปกรณ์มีคุณภาพและได้มาตราฐาน นำเข้าจากต่างประเทศ

Facebook : CCT Fitness นำเข้าเครื่องออกกำลังกาย
Tel: 089-750-7380
สนใจชมตัวอย่างสินค้า >> https://goo.gl/maps/RBNaNTLmk8LD3T2A8 
#2094
Balance U Core (BLU) ยูคอร์ อาหารเสริม ประกอบด้วย สารสกัดจากธรรมชาติ13 ชนิด
น้ำมันจมูกข้าว, น้ำมันงา, น้ำมันเมล็ดงาขี้ม่อน, สารสกัดโสม, สารสกัดถั่งเช่า, เห็ดชิตาเกะ, เห็ดยามาบูชิตาเกะ, เห็ดไมตาเกะ, สารสกัดขิง, สารสกัดพลูคาว, สารสกัดเห็ดหลินจือ, เบต้ากลูแคน, โคเอนไซม์ Q10

จดทะเบียนในชื่อ ยูคอร์ (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดแคปซูลนิ่ม)
UCore (SOFT GEL DIETARY SUPPLEMENT PRODUCT)
เลขที่ อย. 13-1-07458-5-0233
ขนาดบรรจุ 30 แคปซูล
ราคาพิเศษเพียง 990 บาท

Balance UCore สร้างภูมิต้านทานร่างกายแข็งแรง
ภูมิแพ้อากาศ ภูมิแพ้ลมพิษ ไซนัสอักเสบ
หอบหืด ลดไมเกรน นอนหลับสบาย สร้างภูมิต้านทานช่วยสะเก็ดเงิน เริม งูสวัด ช่วยเรื่องการอักเสบโรคเก๊าท์ รูมาตอยด์ 

*รบกวนแจ้งอาการและยาที่ทานก่อนครับ
มีผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์คอยให้คำปรึกษา
แอดไลน์ สอบถามปรึกษา
Line : @balances 
รายละเอียดเพิ่มเติม UCore
#2095

สักปากอุบล สักปากชมพูอุบล สักไรผมอุบล สักตาอุบล สักคิ้วอุบล สักปากชมพูอุบล 
สักปากอุบล ที่นี่ที่เดียว สีสวย ติดไว สีคุณภาพ อันดับ 1 เกรดดีที่สุด 
ทางเราสักด้วยเทคนิคพิเศษ ทำให้สีที่สักออกมาสวย รับกับสีผิวของคุณลูกค้า คุณลูกค้าสามารถแจ้งได้เลยค่ะว่า
ต้องการสีสักปากแนวไหน เช่น ต้องการสีสักปากสีชมพู สีชมพูระเรื่อ สีส้มอมแดง สีชมพูอมแดง สีแดงระเรื่อ หรือให้ช่างเป็นออกแบบให้ได้เลยค่ะ ไม่เจ็บ ไม่บวม ไม่ซ้ำ ต้องที่นี่เดียว สักปากอุบล 
สนใจติดต่อ ร้าน สักปากอุบล https://web.facebook.com/eyesbrownubon.99
ไลน์iร้าน สักปากอุบล -->> maia2537
เบอร์ร้าน สักปากอุบล  094-3932965
#สักไรผม #สักปากอุบล #สักตาอุบล  #สอนสักปากอุบล #สอนสักคิ้วอุบล #สอนสักปาก #สอนสักไรผมอุบล #สอนสักตาอุบล #สอนสักปากชมพูอุบล
#สักปากชมพูอุบล #สักคิ้วสวยอุบล #สักคิ้วซูจีอุบล
#สักขอบตาอุบล #ลบคิ้วอุบล #ลบรอยสักอุบล #จี้ไฝอุบล #สักไรผมอุบล
#สักไรผม #สักปากอุบล #สักตาอุบล
#สักปากชมพูอุบล #สักคิ้วสวยอุบล #สักคิ้วซูจีอุบล
#สักขอบตาอุบล #ลบคิ้วอุบล #ลบรอยสักอุบล #จี้ไฝอุบล #สักไรผมอุบล
#สักคิ้วอุบล #สักคิ้ว 6 มิติ อุบล #สักปากอุบล #สักไรผมอุบล #สักตาอุบล เสริมความงามครบวงจร #ไฮฟูหน้าเรียว
#สักคิ้วอุบล #สักคิ้ว 6 มิติ อุบล #สักปากอุบล #สักไรผมอุบล #สักตาอุบล เสริมความงามครบวงจร #ไฮฟูหน้าเรียว
#คิ้วสไลด์ #สักคิ้วนางแบบ #สักคิ้วเน็ตไอดอล #คิ้ว6มิติ #คิ้วสีฝุ่น #คิ้วลายเส้น
#สักคิ้ว #สักคิ้วอุบล #สักคิ้วอุบลราชธานี #คิ้วสวย
#สักคิ้วอุบลราชธานี #สักคิ้ววารินชำราบ #สักคิ้ววาริน
#คิ้วฝุ่น #คิ้วสไลด์ #คิ้วสวย #สักคิ้ว
#สักปาก #สักปากอุบล #ปากสวย
#สักคิ้ว #สักคิ้วอุบล #สอนสักคิ้ว #เรียนสักคิ้วอุบล #อุบลราชธานี #สักคิ้ว6มิติอุบล #สักคิ้วสไสด์อุบล #สักปากอุบล #ต่อขนตาอุบล #สักคิ้วศรีสะเกษ #สักคิ้วอำนาจ #สักคิ้วยโสธร #สักคิ้วอุบลราชธานี #สักคิ้วอุดร #คิ้ว6มิติอุดร #คิ้วฝุ่น #สักคิ้วฝุ่น #คิ้วมุกหมอก #คิ้วสีฝุ่นไป #สักปากชมพู #ฝังสีปาก
 
#2096
หน่วยกำกับดูแลในอังกฤษจ่อตรวจสอบ LME กรณีระงับซื้อขายสัญญานิกเกิล

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า หน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินของอังกฤษเตรียมตรวจสอบตลาดโลหะลอนดอน (LME) จากกรณีที่ LME ระงับการซื้อขายสัญญานิกเกิลเมื่อวันที่ 8 มี.ค. หลังราคาพุ่งทะลุระดับ 100,000 ดอลลาร์/ตัน โดยกล่าวว่า การกระทำดังกล่าวก่อให้เกิดคำถามถึงความโปร่งใสของ LME

สำนักงานกำกับตลาดการเงินอังกฤษ (FCA) กล่าวว่า FCA และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะพิจารณาว่าควรดำเนินการเพิ่มเติมกับ LME หรือไม่ โดย LME เป็นตลาดโลหะเพื่ออุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุด

"เหตุการระงับและการกลับมาดำเนินการซื้อขายอีกครั้ง ทำให้เกิดคำถามขึ้นในเอกสารการอภิปรายของ LME ในเรื่องโครงสร้างตลาด (LME Discussion Paper on Market Structure) ล่าสุด โดยเฉพาะในเรื่องบทบาทความโปร่งใสของ LME และตลาดที่เกี่ยวข้อง" FCA ระบุ

"ทาง FCA ได้อภิปรายกับ LME เรื่องข้อเสนอดังกล่าวมาระยะหนึ่งแล้ว และคาดหวังให้ LME พิจารณาอย่างถี่ถ้วนว่า เหตุการณ์ครั้งล่าสุดนี้ควรจะกำหนดแนวทางโครงสร้างตลาดในอนาคตอย่างไร"
ด้าน LME แสดงท่าทียินดีกับประกาศดังกล่าวจากหน่วยงานกำกับดูแล และเสริมว่า LME จะอนุมัติให้ทีมงานของตนตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย เพื่อหาวิธีในการลดความเสี่ยงที่จะเกิดความโกลาหลในตลาด

 
#2097
เซี่ยงไฮ้ล็อกดาวน์เพิ่มอีก หลังยอดผู้ติดเชื้อโควิดแบบไม่แสดงอาการพุ่ง

นครเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงินหลักของจีน ได้ยกระดับความเข้มงวดด้านการขนส่งในวันนี้ (5 เม.ย.) หลังการทดสอบเชื้อทั่วเมืองขนานใหญ่ทำให้พบยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้นกว่า 13,000 คน และยังไม่มีทีท่าว่าจีนจะยอมคลายล็อกดาวน์ในเร็ววัน

ในแผนการช่วงแรกนั้น นครเซี่ยงไฮ้หวังที่จะเพิ่มความเข้มงวดอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจให้น้อยที่สุด แต่ในภายหลังก็ต้องปรับแผนเป็นการล็อกดาวน์ 2 ฝั่งเมืองเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะเจ้าหน้าที่พยายามที่จะควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ครั้งใหญ่ที่สุดในพื้นที่

อนึ่ง แต่แรกนั้นการล็อกดาวน์ในฝั่งเขตตะวันตกมีกำหนดสิ้นสุดในวันนี้ แต่ปัจจุบันทางการได้ตัดสินใจขยายเวลาออกไปจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม

เมื่อวานนี้ (4 เม.ย.) เซี่ยงไฮ้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่แบบไม่แสดงอาการเพิ่มขึ้น 13,086 ราย เพิ่มขึ้นจากระดับ 8,581 รายในวันก่อนหน้า โดยนครเซี่ยงไฮ้สามารถตรวจเชื้อให้กับประชาชนได้มากถึง 25 ล้านคนในรอบ 24 ชั่วโมง

เจ้าหน้าที่จากเมืองอื่น ๆ ของจีนกว่า 38,000 คนได้เดินทางมาประจำการในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งรายงานจากสำนักข่าวจีนระบุว่า เป็นปฏิบัติการทางการแพทย์ระดับชาติที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่มีการล็อกดาวน์เมืองอู่ฮั่นในช่วงต้นปี 2563
#2098
BEM จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-AGM)

บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM จัดประชุมสามัญ ผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 ซึ่งเป็นการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-AGM ถ่ายทอดจาก ห้องออดิทอเรียม บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เมื่อวันจันทร์ที่ 4 เมษายน 2565 เวลา 14:00 น. โดยมีคุณปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริษัท เป็นประธานในการประชุม ที่ประชุมมีมติอนุมัติเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น 0.08 บาทต่อหุ้น และกำหนดจ่ายเงินปันผล ในวันพุธที่ 27 เมษายน 2565

BEM ห่วงใยในความปลอดภัยของผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ จึงได้ดำเนินการประชุมให้เป็นไปตามมาตรฐานของการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 อย่างเคร่งครัด

ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิปิดเช้าลบ 28.17 จุด วิตกคว่ำบาตรรัสเซีย-รอรายงานประชุมเฟด

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดเช้าลบเล็กน้อยในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่า มาตรการคว่ำบาตรทางการเงินต่อรัสเซียเพิ่มเติมอาจกระตุ้นให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งสูงขึ้นไปอีก ขณะที่นักลงทุนจะรอดูรายงานผลการประชุมประจำเดือนมี.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเปิดเผยในวันพุธตามเวลาสหรัฐหรือตรงกับวันพฤหัสบดีตามเวลาประเทศไทย

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 27,708.30 จุด ลดลง 28.17 จุด หรือ -0.10%

หุ้นที่ปรับตัวลงในช่วงเช้านี้นำโดยกลุ่มประกัน, กลุ่มขนส่งทางทะเล และกลุ่มธนาคาร
#2099
ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าไซด์เวย์ยังไร้ปัจจัยใหม่ ราคาน้ำมันเด้งอาจหนุนหุ้นพลังงาน

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันนี้คาดว่าจะแกว่งตัวไซด์เวย์ โดยที่ตลาดยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามา แต่มองว่าราคาน้ำมันที่กลับมาปรับตัวขึ้นอีกครั้งจะเป็นผลบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน และอาจจะช่วยหนุนดัชนีได้บ้าง
ขณะเดียวกันมองว่าการซื้อขายวันนี้จะไม่มาก เนื่องจากพรุ่งนี้ตลาดหุ้นไทยจะหยุดทำการ และวันนี้ตลาดหุ้นในเอเชียบางประเทศปิดทำการ ส่วนตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เปิดทำการในวันนี้ปรับตัวขึ้นในช่วงเปิดการซื้อขายและเริ่มแกว่งตัวในกรอบแคบๆ

โดยให้แนวต้าน 1,710 จุด แนวรับ 1,695 จุด
#2100
บบส.ไนท์ คลับฯ เตรียมพร้อมขายหุ้น IPO 160 ล้านหุ้น-เข้า mai หลังนับหนึ่งไฟลิ่ง

บมจ.บริหารสินทรัพย์ ไนท คลับ แคปปิตอล (KCC) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมพร้อมสำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 160 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท และเข้าจดทะเบียนในตลาด เอ็ม เอ ไอ (mai) หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) นับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ของบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ KCC เป็นผู้จัดหาและการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ รวมถึงการบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขายและการปรับปรุงทรัพย์สินรอการขายเพื่อจำหน่ายสัญชาติไทย มีวัตถุประสงค์นำเงินจากการระดมทุนไปใช้ขยายพอร์ตสินทรัพย์ เพิ่มศักยภาพในการเติบโต

นายธวัชชัย วรวรรณธนะชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ KCC เปิดเผยว่า ธุรกิจของ KCC มีโอกาสขยายตัวได้ดีตามภาพรวมของธุรกิจ AMC และหากดูผลดำเนินงาน พบว่ารายได้และกำไรเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี โดยผลประกอบการช่วงปี 62-64 บริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินงาน 57.10 ล้านบาท 128.10 ล้านบาทและ125.75 ล้านบาท ตามลำดับและมีกำไรสุทธิเท่ากับ 12.03 ล้านบาท 49.06 ล้านบาท และ 52.42 ล้านบาท ตามลำดับ

บริษัทฯ จะเสนอขาย IPO จำนวน 160 ล้านหุ้น คิดเป็น 25.81% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายครั้งนี้ จากทุนจดทะเบียนเดิม 230 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 460 ล้านหุ้น หลังเพิ่มทุนเพื่อขาย IPO บริษัทจะมีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 310 ล้านบาท หรือ 620 ล้านหุ้น

ขณะที่ผู้ถือหุ้นและทีมผู้บริหารของบริษัท ทั้งนายสุชาติ บุญบรรเจิดศรี และนายทวี กุลเลิศประเสริฐ มีประสบการณ์ในธุรกิจบริหารหนี้และธุรกิจการเงินมากว่า 20 ปี โดยมีส่วนร่วมในการประมูลสินทรัพย์ขององค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) ในครั้งวิกฤติต้มยำกุ้ง รวมถึงเป็นที่ปรึกษาในการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับบริษัทต่างๆ ที่ประสบปัญหาทางการเงินในแต่ละช่วงวิกฤติที่ผ่านมา

ประสบการณ์ของผู้บริหาร เป็นปัจจัยสำคัญสนับสนุนให้ธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนอยู่ในตัวเลขทางการเงินที่สำคัญปี 64 ของบริษัท เช่น อัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 88.95% และมีอัตรากำไรสุทธิ ในระดับเท่ากับ 37.08% อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) เท่ากับ 12.06% และมีหนี้สินต่อทุน (D/E) ต่ำเพียง 0.63 เท่าและบริษัท มีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตรา ไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัทฯ

สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นของ KKC ณ วันที่ 25 มี.ค.65 กลุ่มบุญบรรเจิดศรี ซึ่งประกอบด้วย นายสุชาติ บุญบรรเจิดศรี กรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ และนายโคบี้ บุญบรรเจิดศรี (บุตรชายของนายสุชาติ) ถือหุ้นรวมกัน 321.99 ล้านหุ้น หรือ 70% ของทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว นายทวี กุลเลิศประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ถือหุ้น 138 ล้านหุ้น หรือ 30% โดยภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO สัดส่วนหุ้นจะลดลงเหลือ 51.94 % และ 22.26 % ตามลำดับ และประชาชนจำนวน 160 ล้านหุ้นหรือ 25.81% รวมหลังเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน (หลัง IPO) 620 ล้านหุ้น คิดเป็น 100% (ทั้งนี้สัดส่วนดังกล่าวข้างต้นอาจมีเปลี่ยนแปลงเนื่องจากยังไม่รวมหุ้น IPO ที่จัดสรรให้กรรมการ ผู้บริหาร)