• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Jessicas

#6871


สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนจำนวน 1,274 คน จากทั่วประเทศ เรื่อง "การใช้จ่ายของคนไทยในยุคโควิด-19" สืบเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างรุนแรง ประชาชนต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิตและระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ส่งผลให้มีพฤติกรรมการใช้จ่ายที่เปลี่ยนแปลงไป ผลการสำรวจพบว่า



1. การใช้จ่ายของประชาชน ณ วันนี้ เปรียบเทียบกับก่อนมีโควิด-19 เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร

ร้อยละ 40.22 ระบุ ใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
ร้อยละ 33.60 ระบุ ใช้จ่ายลดลง
ร้อยละ 26.18 ระบุ ใช้จ่ายเท่าเดิม

2. ปัจจุบันประชาชนนำเงินจากช่องทางใดมาใช้จ่าย

อันดับ 1 ร้อยละ 83.57 ระบุ รายได้จากการทำงานหลักและงานเสริม
อันดับ 2 ร้อยละ 46.78 ระบุ นำเงินออมออกมาใช้
อันดับ 3 ร้อยละ 44.34 ระบุ มาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ เช่น คนละครึ่ง เงินเยียวยา
อันดับ 4 ร้อยละ 26.26 ระบุ รูดบัตรเครดิต กดบัตรเงินสด รถแลกเงิน บ้านแลกเงิน
อันดับ 5 ร้อยละ 25.31 ระบุ หยิบยืมญาติ คนรู้จัก พี่น้อง

3. สำหรับประชาชนที่มีเงินออม ในช่วงนี้มีการนำเงินออมมาใช้มากน้อยเพียงใด

อันดับ 1 ร้อยละ 42.63 ระบุ ใช้ไปบ้างบางส่วน
อันดับ 2 ร้อยละ 19.36 ระบุ ใช้ไปเกือบหมดแล้ว
อันดับ 3 ร้อยละ 15.15 ระบุ ใช้ไปกว่าครึ่ง
อันดับ 4 ร้อยละ 12.64 ระบุ ใช้ไปหมดแล้ว
อันดับ 5 ร้อยละ 10.22 ระบุ ไม่ได้นำเงินออมมาใช้

4. ในช่วงโควิด-19 รูปแบบการใช้จ่ายของประชาชนเป็นอย่างไร

อันดับ 1 ร้อยละ 80.44 ระบุ ลดการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย วางแผนการใช้จ่ายอย่างรัดกุม
อันดับ 2 ร้อยละ 57.49 ระบุ ซื้อสินค้าทีละจำนวนมาก กักตุนสินค้าจำเป็น
อันดับ 3 ร้อยละ 56.47 ระบุ ซื้อสินค้าที่ราคาประหยัดกว่า ซื้อช่วงจัดโปรโมชัน
อันดับ 4 ร้อยละ 53.71 ระบุ สั่งซื้อของผ่านทางออนไลน์
อันดับ 5 ร้อยละ 53.08 ระบุ ซื้อสินค้าจากร้านที่เข้าร่วมมาตรการรัฐ เช่น คนละครึ่ง เราชนะ

5. ประชาชนอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือเรื่องการใช้จ่ายของประชาชน ณ วันนี้ อย่างไร

อันดับ 1 ร้อยละ 86.41 ระบุ ลดค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าน้ำมัน
อันดับ 2 ร้อยละ 76.86 ระบุ ลดภาระค่าครองชีพ ควบคุมราคาสินค้า
อันดับ 3 ร้อยละ 71.64 ระบุ มีมาตรการเยียวยาประชาชนแบบทั่วถึงทุกคน
อันดับ 4 ร้อยละ 61.85 ระบุ พักชำระหนี้ ลดดอกเบี้ย
อันดับ 5 ร้อยละ 51.82 ระบุ จำหน่ายสินค้าราคาประหยัดในพื้นที่ต่างๆ

6. ในยุคโควิด-19 จากสภาพการใช้จ่าย ณ วันนี้ ประชาชนคาดว่าจะประคองตัวเองต่อไปได้อีกประมาณเท่าใด

ร้อยละ 37.37 ระบุ ไม่เกิน 3 เดือน
ร้อยละ 30.32 ระบุ 3-6 เดือน
ร้อยละ 19.68 ระบุ 6 เดือน - 1 ปี
ร้อยละ 12.63 ระบุ 1-2 ปี

น.ส.พรพรรณ บัวทอง นักวิจัยสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สรุปผลการสำรวจ "การใช้จ่ายของคนไทยในยุคโควิด-19" ว่า ถึงแม้ว่าในช่วงโควิด-19 ประชาชนจะประหยัดและวางแผนการใช้จ่ายอย่างรัดกุม แต่ก็ยังต้องนำเงินออมออกมาใช้ เพราะโควิด-19 ทำให้มีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น อีกทั้งสถานการณ์ว่างงาน ตกงาน และเศรษฐกิจต่กต่ำก็ทำให้ประชาชนไม่มีกำลังการบริโภคภายในประเทศมากนัก ทั้งนี้ ประชาชนมองว่าจะประคองตัวเองต่อไปได้อีกไม่เกิน 3 เดือนเท่านั้น รัฐบาลจึงต้องเร่งแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ มีมาตรการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายที่จำเป็นและลดค่าครองชีพเพื่อช่วยเหลือประชาชนโดยเร็ว

ขณะที่ รองศาสตราจารย์ ดร. พรรณี สวนเพลง อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ระบุว่า จากผลการสำรวจการใช้จ่ายของคนไทยในยุคโควิด-19 พบว่ากำลังเข้าสู่ยุคของ Transformation เพื่อเข้าสู่ยุค "ความปกติถัดไป" (Next Normal) ซึ่งทำให้ประชาชนมีการปรับตัว ปรับใจ ปรับการใช้ชีวิต ซึ่งจะต้องอยู่บนพื้นฐานของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เริ่มจากการปรับตัวด้วยความมีเหตุผลในการใช้จ่าย ควรจะต้องลด ละ เลิก ซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็นในชีวิตลง วางแผนการใช้จ่ายอย่างรัดกุมมากขึ้น เน้นความประหยัดและคุ้มค่า ปรับใจให้มีความพอประมาณ มีความสุขและพอใจกับสิ่งที่มี ให้ความสำคัญกับความสุขใจและสุขภาพที่ดีบนพื้นฐานของการแบ่งปันและเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน มีการปรับการใช้ชีวิตในยุคปกติถัดไปด้วยการสร้างภูมิคุ้มกัน โดยมีการวางแผนการออมเงิน ลดการสร้างภาระหนี้สินที่ไม่จำเป็น มีเงินสำรองสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน สร้างรายได้มากกว่าหนึ่งอาชีพ พร้อมกับมีการพัฒนาตนเองเพื่อให้ทันและรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในทุกสถานการณ์เพื่อสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุข สงบเย็น เป็นประโยชน์
#6872


ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพคนกำลังเก็บ กวาด สถานที่แห่งหนึ่ง พร้อมข้อความว่า "ความน่ารักของผู้ป่วยศูนย์ CI สะเดียง เมื่อโทรไปบอกว่า..วันนี้เหนื่อยมากเคสจะเข้าอีก 8 คน ช่วยพี่ทำความสะอาดรับผู้ป่วยรายใหม่หน่อยได้มั้ย ผู้ป่วยรายเดิมขออุปกรณ์ทันที ไม้กวาดไม้ถูพื้น น้ำยาล้างห้องน้ำ ช่วยกันทำความสะอาดหอพักผู้ป่วย จัดเตียงรับเพื่อนใหม่ แบ่งเบาภาระเจ้าหน้าที่ได้เยอะทีเดียว...ทุกคนน่ารักช่วยกันดูแลกันและกัน ใครมาก่อนก็สอนคนมาทีหลัง ข้าวปลาอาหาร ของใช้ต่างๆก็รู้จักแบ่งปันกัน ##ผู้ป่วยของทีมงานเราน่ารักทุกคนค่ะ##มื้อเย็นมีรางวัล ขนม เป๊ปซี่ ตามขอค่ะ"

จากนั้นได้มีตนเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย ซึ่งล้วนแต่ชื่นชมผู้ป่วยเหล่านั้น พร้อมทั้งให้กำลังใจให้หายป่วยโดยเร็ว

ผู้สื่อข่าวจึงติดต่อไปยังผู้โพสต์ ทราบชื่อต่อมาคือ นางสาวศิริพร นาคสำราญ นักพัฒนาชุมชนชำนาญการพิเศษ องค์การบริหารส่วนตำบลสะเดียง อ.เมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งได้เปิดเผยว่า อบต.สะเดียง ได้จัดตั้งศูนย์พักคอยสำหรับประชาชนชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ที่อยู่ต่างจังหวัดที่โควิด-19 แพร่ระบาด ต้องการที่จะกลับมารักษาตัวที่บ้านเกิดจังหวัดเพชรบูรณ์ รวมทั้งเป็นที่พักคอยของคนในพื้นที่ที่ตรวจพบว่าติดเชื้อโควิดโดยวิธี ATK รอผลการตรวจจากโรงพยาบาลเพื่อยืนยัน โดยตั้งอยู่ภายในสนามกีฬาจังหวัดเพชรบูรณ์ มีทั้งหมด 80 เตียง

ซึ่งก่อนหน้านี้มีผู้ป่วยรายเก่า(สีเขียว) อยู่จำนวน 33 คน ต่อมาได้รับแจ้งว่าจะมีผู้ป่วยรายใหม่(สีเขียว)เข้ามาเพิ่มอีกจำนวน 8 ราย แต่เนื่องจากตนและทีมงานที่ดูแลเรื่องสถานที่ติดภารกิจ จึงได้โทรไปแจ้งตัวแทนผู้ป่วยที่อยู่ภายในศูนย์ฯ เพียงแค่นั้นผู้ป่วยที่สุขภาพแข็งแรงก็ได้ช่วยกันเก็บ กวาดพื้น ล้างห้องน้ำ ช่วยกันคนละไม้ละมือ พร้อมทั้งถ่ายภาพมาให้ดูด้วย

ทั้งนี้ก่อนหน้านั้นผู้ป่วยที่อยู่ภายในศูนย์แห่งนี้ก็จะช่วยกันเก็บกวาดและทำความสะอาดกันเองอยู่เป็นประจำ ตนจึงเกิดความประทับใจจึงได้นำเรื่องราวและภาพดังกล่าวมาโพสต์ในเฟซบุ๊กเพื่อบอกกล่าวเรื่องราวดี ๆ ภายในศูนย์CIแห่งนี้

นางสาวศิริพร ยังเปิดเผยอีกว่าสิ่งที่ตนและทีมงานประทับใจอีกประการหนึ่งก็คือการช่วยเหลือซึ่งกันและกันของผู้ป่วย เมื่อมีผู้ป่วยรายใหม่เข้ามา ผู้ป่วยรายเก่าก็จะคอยแนะนำในการปฏิบัติตัว หากมีผู้ป่วยสูงอายุก็จะมีผู้ป่วยที่แข็งแรงค่อยดูแล ซึ่งเป็นภาพที่ประทับใจเป็นอย่างมาก
#6876
 สีผึ้งว่านดอกทอง ฝังดอกว่านดอกทองและตะกรุดนะเมตตามหานิยม



พุทธคุณ เน้นเรื่อง เสน่ห์ เมตตา โชคลาภ ค้าขาย

ก่อนว่าคาถาก็ให้นึกขอบารมีพระพุทธเจ้า และคุณครูบาอาจารย์

คาถากำกับ

โอมละลวยมหาละลวย หลงกันจนงงงวย จะภะกะสะภะคินี อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิ นะโมพุทธายะ 

นะมะพะทะ นะมะพะทะ นะมะพะทะ

(ท่องเก้าจบ แล้วอธิษฐาน)

แล้วใช้นิ้วชี้ข้างขวาป้าย แล้วทาที่ปาก

ตามตำราโบราณระบุว่าว่านดอกทองมีอำนาจทางเพศรุนแรง คนสมัยก่อนจึงนิยมเก็บดอกของว่านดอกทองไว้หุงกับน้ำมันจันทน์ ใช้น้ำมันว่านทาที่ตัว หรือใช้สีผึ้งทาปาก เมื่อถึงคราวจะต้องไปพบปะผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้คนต่างๆ หรือหนุ่มสาว พอได้กลิ่นว่านในน้ำมันหรือสีผึ้ง มักจะมีอาการใจอ่อนเคลิบเคลิ้มคล้อยตามได้ง่าย ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ สะกดจิตสะกดใจต่อผู้เจรจาด้วยยิ่งนัก ใครเห็นใครรักใครหลง ว่านดอกทองหรือว่านราคะ เป็นเมตามหาเสน่ห์ มหานิยม มหาละลวย ลุ่มหลงงวยงง ทำให้คนรักคนหลง ทั้งยังช่วยให้มีโชคลาภ



ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่

โทร. 0846623662

id line : teerapat999

ลาซาด้า

https://pdp.lazada.co.th/products/i2632497251.html?spm=a1zawg.20038917.content_wrap.6.2f304edfF8zGh5



#6878
ขายดาวน์ 215,800 (เดือน กค 2564) ห้อง 1017
#6879
สำนักพรเทวะ  ศูนย์รวมวัตถุมงคล เครื่องราง ของขลัง เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์
สนใจติดต่อ
อ.ทองเอก พรเทวะ
โทร 0846623662
Line : teerapat999
#6880
Room Fiberry รูมไฟเบอรี่ ดีท็อกซ์ชนิดผงชงดื่ม ดื่มง่าย ถ่ายคล่อง
 

สุขภาพดีเริ่มต้นที่.. " การขับถ่าย "ROOM FIBERRY (รูม ไฟเบอร์รี่)ตัวช่วยของคนรักสุขภาพ เติมเต็มส่วนที่ขาด กำจัดส่วนเกินกินทุกวันแต่ไม่ขับถ่ายทุกวัน ต้นเหตุของ "โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง"อาทิเช่น ท้องผูก ท้องเสีย มะเร็งลำไส้ใหญ่อ้วนลงพุง และโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับการดูดซึมของเสีย หรือสารพิษที่ไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ในร่างกายทำให้เซลล์ถูกทำลายจากสารอนุมูลอิสระต่างๆ
 
Room Fiberry (รูม ไฟเบอร์รี่) มีส่วนช่วยในการดีท็อกซ์ร่างกายมากถึง 5 ระบบ
- ระบบลำไส้
- ระบบตับ
- ระบบไต
- ระบบเลือด
- ระบบผิวหนัง
 
•รวบรวมสารสกัดจากผักผลไม้ถึง 36 ชนิด
• อุดมไปด้วยวิตามินและใยอาหารที่จำเป็นจากผักและผลไม้ 7 สี
• เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ 100%
• กวาดเศษปฏิกูลของเสียออกจากส่วนที่ติดค้างในลำไส้
• ดูดสารพิษและกลิ่นเน่าเหม็น
• ขับถ่ายตามเวลาภายใน 8-12 ชั่วโมง
• ช่วยให้ผิวพรรณสดใสมากขึ้น
• ช่วยให้ร่างกานผ่อนคลายและหลับสบายยิ่งขึ้น
• รสชาติมิกซ์เบอร์รี่ หอม อร่อย ทานง่าย
 
Room Fiberry"ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค""อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค""ควรกินอาหารหลากหลายครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ"ผ่านการตรวจสอบจากองค์การอาหารและยา
 
ขึ้นทะเบียน เลขที่ 13-1-01760-3-0002
 
บรรจุ 1 กล่อง / 14 ซอง
วิธีรับประทาน ชงน้ำเย็น 50-100 ml/1 ซอง ดื่มก่อนนอน วันละ 1 ซอง
 ราคา  590 บาท

สนใจติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ
Tel. 0846623662
Line id : teerapat999

ข้อมูลเพิ่มเติม   http://porntaywa99.lnwshop.com/p/1233

 
#รูมไฟเบอรี่ดีท็อกซ์กระชับสัดส่วน#ROOMFIBERRY ดูแลผิวพรรณป้องกันความอ้วน##ดีท๊อก#ดีท๊อกลำไส้ #ดีท๊อกของเสีย #วิตามิน #เพื่อสุขภาพที่ดี #ลดพุง #ถ่ายคล่อง #สินค้าดี
#6881
สำนักพรเทวะ (มหาสารคาม)

ศูนย์รวมวัตถุมงคล เครื่องราง ของขลัง ดูดวง รับสอนการพยากรณ์ด้วยไพ่ออราเคิล แก้อาถรรพ์ร่างกาย รับลงนะ ลงทอง สาริกาลิ้นทอง เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ รับทำเทียนสะเดาะเคราะห์ สืบชะตา รับโชค แก้ชง เสริมดวงเสริมบารมีต่างๆ เรียกคู่ เรียกจิต สักน้ำมันว่านยา 108 ให้บูชาน้ำมันว่านสาวหลง น้ำมันว่านดอกทอง อื่น ๆ รับวิเคราะห์ชื่อ(ฟรี) รับตั้งชื่อ จำหน่ายเพนดูลั่มลูกดิ่งพลังจิต ให้บูชาคัมภีร์พระเวทย์

สนใจติดต่อ
นายธีรพัชร์ วงศ์วรนิตย์ (อ.ทองเอก พรเทวะ)

โทร 0846623662

website :  http://goo.gl/Y5nYSO

Facebook: facebook.com/teerapat992018

Line : teerapat999

lazada : https://www.lazada.co.th/shop/porntaywa/?spm=a2o4m.pdp_revamp.delivery_options.1.6dbbfeeao328sS&itemId=1863368460&channelSource=pdp

shopee :   https://shopee.co.th/teerapat992018





#6882


นายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในประเทศไทยที่ยังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อโรค COVID-19 อยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องและส่งผลกระทบต่อการให้บริการทางการแพทย์ ทำให้ผู้ป่วย COVID-19 ไม่สามารถเข้าถึงระบบการรักษาพยาบาลได้อย่างทันท่วงที ภาครัฐจึงได้นำแนวทางการรักษาแบบ Home Isolation หรือการรักษาตัวเองจากที่บ้านมาใช้ เพื่อช่วยให้ผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ หรือผู้ป่วย COVID-19 กลุ่มสีเขียวที่มีอาการไม่รุนแรง ได้เข้ารับการรักษาอย่างรวดเร็วขึ้น ดังนั้นเพื่อเป็นการดูแลผู้ป่วยซึ่งเป็นผู้เอาประกันภัยที่ติดเชื้อ COVID-19 ที่อยู่ในกลุ่มสีเขียวได้เข้าถึงการรักษาของแพทย์ได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน สมาคมประกันวินาศภัยไทย จึงได้มีแนวทางให้บริการกับผู้เอาประกันภัยที่ติดเชื้อ COVID-19 และรักษาพยาบาลแบบ Home Isolation ให้เข้าถึงบริการ Telemedicine ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งในเบื้องต้นได้รับความร่วมมือจากสมาคมนายหน้าประกันภัยไทยในการประสานงานกับผู้ให้บริการ Telemedicine พร้อมทั้งมอบหมายให้คณะทำงานของสมาคมฯ ประกอบด้วย นายโอฬาร วงศ์สุรพิเชษฐ์ เลขาธิการสมาคมฯ นายปิยะพัฒน์ วนอุกฤษฏ์ ประธานคณะกรรมการประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพ และ นายวาสิต ล่ำซำ ประธานคณะกรรมการพัฒนาธุรกิจและวิชาการประกันภัย เพื่อดำเนินการต่อไป

ทั้งนี้ นายโอฬาร วงศ์สุรพิเชษฐ์ เลขาธิการ สมาคมประกันวินาศภัยไทย ได้กล่าวถึงความร่วมมือกันระหว่าง สมาคมประกันวินาศภัยไทย ทรู ดิจิทัล และ Third Party Administration หรือ TPA ว่า เป็นบริการปรึกษาแพทย์ผ่านแอปพลิเคชัน True HEALTH สำหรับผู้เอาประกันภัยที่มีกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 ที่มีความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล หากติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้เข้ารับการรักษาพยาบาลแบบ Home Isolation ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้เอาประกันภัยสามารถเข้าถึงการดูแลรักษาของแพทย์ได้อย่างรวดเร็ว และช่วยให้ผู้เอาประกันภัยสามารถเบิกค่าสินไหมทดแทนได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

สำหรับบริษัทประกันวินาศภัยที่เข้าร่วมในบริการ Telemedicine สำหรับผู้เอาประกันภัย COVID-19 มีจำนวน 16 บริษัท ได้แก่
1. บมจ.กรุงเทพประกันภัย
2. บมจ.เจมาร์ท ประกันภัย
3. บมจ.เดอะ วัน ประกันภัย
4. บมจ.ทิพยประกันภัย
5. บมจ.เทเวศประกันภัย
6. บมจ.ไทยเศรษฐกิจประกันภัย
7. บมจ.ธนชาตประกันภัย
8. บมจ.นวกิจประกันภัย
9. บมจ.ประกันภัยไทยวิวัฒน์
10. บมจ.ฟอลคอนประกันภัย
11. บมจ.เมืองไทยประกันภัย
12. บมจ.วิริยะประกันภัย
13. บมจ.สินมั่นคงประกันภัย
14. บมจ.อาคเนย์ประกันภัย
15. บมจ.เอเชียประกันภัย 1950
16. บมจ.เอฟดับบลิวดีประกันภัย

ADVERTISEMENT


ดร.อดิภัทร ชัยชนะสกุล กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจดิจิทัล เฮลท์ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด
ดร.อดิภัทร ชัยชนะสกุล กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจดิจิทัล เฮลท์ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด


ดร.อดิภัทร ชัยชนะสกุล กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจดิจิทัล เฮลท์ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ทรู ดิจิทัล พัฒนาแพลตฟอร์มดูแลสุขภาพอัจฉริยะ ทรู เฮลท์ เพื่อเพิ่มช่องทางให้คนไทยสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ผ่านระบบออนไลน์ได้ง่าย ๆ จากทุกที่ทั่วประเทศ โดยไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล พร้อมมอบประสบการณ์ดูแลสุขภาพในยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบครบวงจร ทั้งพบหมอออนไลน์ รับยาที่บ้าน และ เคลมประกันได้ ไม่ต้องสำรองจ่าย ด้วยฟังก์ชันใหม่ล่าสุด "เทเลเมดิเคลม" (TeleMediClaim+) ซึ่งความร่วมมือกับ สมาคมประกันวินาศภัยไทย และ TPA ในครั้งนี้ ทรู เฮลท์ ต่อยอดฟังก์ชัน "เทเลเมดิเคลม" ไปอีกขั้น เพิ่มทางเลือกให้ผู้ป่วย COVID-19 กลุ่มสีเขียวที่มีกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 ของบริษัทประกันวินาศภัยที่เข้าร่วมโครงการ สามารถปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญจากชีวีบริรักษ์คลินิกเวชกรรม ผ่านแอปพลิเคชัน True HEALTH ได้ทั้งในรูปแบบของการโทร แช็ต และวิดีโอคอล (VDO Call) พูดคุยกับแพทย์ได้จากทุกที่แบบเรียลไทม์ พร้อมมีบริการส่งยาตามใบสั่งแพทย์ถึงหน้าบ้านทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั่วประเทศ และสามารถเคลมประกันเบิกค่าสินไหมทดแทนตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ได้ทันที มั่นใจว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งพลังในการดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยโรค COVID-19 ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน ให้สามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างทั่วถึง สะดวกและรวดเร็ว โดยไม่ต้องกังวลกับค่ารักษาพยาบาลและค่ายาด้วยความคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19

ฐิตาพร ธารากิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยรี เซอร์วิสเซส จำกัด (THRES) 
ฐิตาพร ธารากิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยรี เซอร์วิสเซส จำกัด (THRES)


ด้าน นางฐิตาพร ธารากิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยรี เซอร์วิสเซส จำกัด (THRES) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการภายใต้แบรนด์ TPA ในการจัดการสินไหมทดแทนให้กับบริษัทประกันภัย กล่าวว่า บริษัทมีระบบเพื่อเชื่อมต่อข้อมูลการตรวจสอบสิทธิและการเคลมของผู้เอาประกันภัย พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการเคลมมืออาชีพ ได้ให้การสนับสนุนโครงการของสมาคมประกันวินาศภัยไทยในครั้งนี้ โดยแอปพลิเคชันของบริษัทจะรองรับข้อมูลการประกันภัยโควิดจากบริษัทประกันภัยและจะเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มดูแลสุขภาพอัจฉริยะ ทรู เฮลท์ แบบ Real Time เพื่อให้ผู้เอาประกันสามารถปรึกษาแพทย์ผ่านแอปพลิเคชัน True HEALTH และรับยาได้ นอกจากนี้ บริษัทยังมี mobile application ที่ชื่อ TPA Care ให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบสิทธิความคุ้มครองด้วยตนเองได้อีกด้วย เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการให้บริการ

ทั้งนี้ ผู้เอาประกันภัยที่มีกรมธรรม์ประกันภัยซึ่งให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากโรค COVID-19 สามารถใช้บริการ Telemedicine ได้แล้ววันนี้ เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน True HEALTH ที่แอปสโตร์และเพลย์สโตร์ และลงทะเบียนเพื่อเริ่มต้นใช้งาน จากนั้นตรวจสอบสิทธิ์กับเจ้าหน้าที่ผ่าน "แช็ต" และ ปรึกษาแพทย์ได้ทันทีหลังได้รับอนุมัติ โดยเลือกคลินิก "Telemedicine สำหรับผู้เอาประกันภัย" สมาคมประกันวินาศภัยไทย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือในการให้บริการ Telemedicine ผ่านแอปพลิเคชัน True HEALTH จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้เอาประกันภัยที่ป่วยด้วยโรค COVID-19 และรักษาพยาบาลแบบ Home Isolation ได้รับบริการทางการแพทย์ที่ดี สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้เอาประกันภัยทุกคนหายป่วยจากโรค COVID-19 และสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติได้โดยเร็ว



#สมาคมประกันวินาศภัยไทย #TGIATelemedicine #ทรูเคียงคู่สู้โควิด #TrueHEALTH #ทรูเฮลท์ #บริการส่งสุขภาพดีถึงที่
#6885


เมื่อวันที่ 19 ส.ค. OnlyFans ผู้ให้บริการคอนเทนท์ภาพและวิดีโอแบบสมัครสมาชิก ประกาศปรับกลยุทธ์ธุรกิจครั้งสำคัญ โดยจะไม่อนุญาตให้เหล่าครีเอเตอร์สร้าง "เนื้อหาทางเพศโจ่งแจ้ง" (sexually explicit) อีกต่อไป ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้

อย่างไรก็ตาม OnlyFans ที่มีสำนักงานใหญ่ในกรุงลอนดอน เผยว่า จะยังอนุญาตให้ครีเอเตอร์โพสต์เนื้อหา "นู้ด" หรือภาพเปลือยเชิงศิลปะ ตราบใดที่ไม่ขัด "นโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้" ของแพลตฟอร์ม

แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่า จะใช้เกณฑ์ใดพิจารณาว่าโพสต์ไหนมีเนื้อหาทางเพศโจ่งแจ้ง หรือจะมีผลในทางปฏิบัติอย่างไร ซึ่ง OnlyFans บอกเพียงว่าจะชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมในภายหลัง

เงื่อนไขการบริการของ OnlyFans ระบุข้อห้ามไว้หลายข้อ รวมไปถึงเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับบุคคลอายุต่ำกว่า 18 ปี และเนื้อหาที่ผิดกฎหมายอื่น ๆ หรือมีความรุนแรงด้วย


"เรายังคงทุ่มเทเพื่อชุมชนของผู้ใช้งาน 130 ล้านคนและครีเอเตอร์กว่า 2 ล้านคนที่สร้างรายได้กว่า 5,000 ล้านดอลลาร์บนแพลตฟอร์มของเราต่อไป" OnlyFans แถลง

มุ่งสู่ถนนสายใหม่

OnlyFans ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสุดฮิตมานานสำหรับเหล่าดาราหนังผู้ใหญ่ (AV) ที่ต้องการสร้างรายได้จากการแสดง ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 เนื่องจากบรรดาคนดังที่ขายความเซ็กซี่และผู้ค้าบริการทางเพศ (sex worker) หันมาใช้แพลตฟอร์มนี้เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานในออนไลน์กันมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือน OnlyFans เตรียมช่องทางทำมาหากินใหม่เอาไว้แล้ว เพื่อขยายกลุ่มผู้ชมนอกเหนือจากกลุ่มที่นิยมคอนเทนท์ผู้ใหญ่

เมื่อเร็ว ๆ นี้ OnlyFans ได้เปิดตัวเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นบริการสตรีมมิงแบบไม่เสียเงิน ชื่อว่า "OFTV" ซึ่งจะไม่เน้นนำเสนอคอนเทนท์ 18+ เหมือนกับแพลตฟอร์มเดิม แต่จะเสนอคอนเทนท์ที่ดูได้อย่างปลอดภัยในที่ทำงาน เช่น คลิปทำอาหาร เล่นดนตรี เล่นโยคะ หรือออกกำลังฟิตกล้าม 


แม้ผู้สร้างคอนเทนท์เหล่านี้ยังมีอยู่บ้างใน OnlyFans แต่ก็เป็นเพียงส่วนน้อย และไม่ใช่จุดขายของแพลตฟอร์มที่ให้สมาชิกจ่ายเงินเพื่อดูเนื้อหา "ลับเฉพาะ" หรือ 18+ ซึ่งเป็นหมวดที่ได้รับความนิยมที่สุด

การขยายแนวคอนเทนท์ของ OnlyFans มายัง OFTV ซึ่งมีครีเอเตอร์คุ้นตาจาก OnlyFans กว่า 100 คน นอกจากจะช่วยเพิ่มฐานผู้ชมแล้ว ยังเป็นการแข่งขันกับแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ เช่น "Facebook" ที่เปิดให้เหล่าครีเอเตอร์สร้างรายได้ออนไลน์บนแพลตฟอร์มตัวเองเช่นกัน

"พันธมิตร-ทุน" ตีตัวห่าง 18+

ถึงแม้เนื้อหาผู้ใหญ่ หรือ 18+ เป็นแม่เหล็กดึงดูดรายได้และผู้ใช้จำนวนมากมาตลอดช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่สตาร์ทอัพสัญชาติอังกฤษให้เหตุผลถึงการตัดสินใจแบนคอนเทนท์โป๊เปลือยว่า "ทำตามคำขอจากบรรดาพาร์ทเนอร์" ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านธนาคารและการชำระเงิน


"เพื่อรับประกันความยั่งยืนในระยะยาวของแพลตฟอร์ม และให้สามารถสร้างชุมชนสำหรับครีเอเตอร์และแฟน ๆ ต่อไปได้ เราจึงต้องปรับหลักเกณฑ์ด้านเนื้อหาของเราใหม่" แถลงการณ์ของ OnlyFans ระบุ

แหล่งข่าวใกล้ชิดเผยกับเว็บไซต์วอลล์สตรีทเจอร์นัลว่า ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา OnlyFans อยู่ระหว่างการระดมทุน และนักลงทุนหลายรายต่างเลี่ยงลงทุนในธุรกิจที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเชิงลบทางเพศ รวมถึงสื่อลามกด้วย

ขณะที่เว็บไซต์แอกซิออส (Axios) ระบุว่า นักลงทุนจำนวนมากตีตัวห่างจาก OnlyFans เพราะมีความกังวลเกี่ยวกับ "เนื้อหาผู้ใหญ่" กองทุนร่วมลงทุน (เวนเจอร์ ฟันด์) บางราย ถูกห้ามลงทุนในเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาทางเพศ เนื่องจากทำข้อตกลงกับนักลงทุนสถาบันของตนไว้

นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ OnlyFans เกิดขึ้นหลังจากในปีที่แล้ว "มาสเตอร์การ์ด" และ "วีซ่า" 2 ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินรายใหญ่ตัดสัมพันธ์กับเว็บไซต์หนังผู้ใหญ่ยอดนิยมอย่าง "Pornhub"

เว็บไซต์ AV ชื่อดังเผชิญข้อกล่าวหาว่าเป็นแหล่งแพร่คลิปที่มีเนื้อหาการมีเซ็กซ์กับผู้เยาว์ การข่มขืน และคลิปอนาจารแก้แค้นอดีตคนรัก

อย่างไรก็ตาม Pornhub ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าเว็บไซต์ปล่อยให้เนื้อหาล่วงละเมิดทางเพศเด็ก และได้ปรับกฎเข้มให้งวดขึ้นโดยห้าม "ผู้ใช้ที่ไม่ยืนยันตัวตน" อัพโหลดคลิปวิดีโอ หวังช่วยลดข้อครหานี้

โกยรายได้หมื่นล้านช่วงโควิด

จุดเริ่มต้นของ OnlyFans เกิดขึ้นจากการก่อตั้งเว็บไซต์เมื่อปี 2559 โดย "ทิม สโตคลีย์" นักธุรกิจชาวอังกฤษ และนั่งเก้าอี้ซีอีโอบริษัทถึงปัจจุบัน สื่ออังกฤษบางรายอย่าง The Sunday Times ตั้งฉายาให้สโตคลีย์ว่า "ราชาแห่งสื่อลามกโฮมเมด"


- ทิม สโตคลีย์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ OnlyFans -

เดิมนั้น เจ้าของ OnlyFans คือ บริษัทฟีนิกซ์ อินเตอร์เนชันแนล ลิมิเต็ด (Fenix International Limited) ของสโตคลีย์ ก่อนจะขายหุ้น 75% ใน OnlyFans ให้กับเลียวนิด รัดวินสกี นักธุรกิจสื่อลามกชาวยูเครน-อเมริกัน เมื่อปี 2561

OnlyFans รายงานผลประกอบการมีรายได้สุทธิ 375 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.25 หมื่นล้านบาทในปีที่แล้ว ซึ่งเริ่มมีการระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก

บริษัทคาดการณ์ว่า ในปี 2564 จะมีรายได้เพิ่มเป็น 1,200 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 4 หมื่นล้านบาท และภายในปี 2565 น่าจะโกยรายได้สูงขึ้นอีกเป็น 2,500 ล้านดอลลาร์ (ราว 4 หมื่นล้านบาท)


กว่า 50% ของรายได้ OnlyFans นับถึงสิ้นเดือน มี.ค. 2564 มาจากส่วนแบ่งการสมัครรับคอนเทนท์ของผู้ใช้ ขณะที่อีกกว่า 30% มาจากการแชท และส่วนที่เหลือมาจากทิป/สตรีม และโพสต์ที่เสียค่าโฆษณาสำหรับบัญชีที่เปิดให้ชมคอนเทนท์ฟรี

ขณะที่บรรดาครีเอเตอร์ใน OnlyFans ที่มีรายได้โดยตรงจากผู้ชม ก็รับทรัพย์หลักล้านบาทต่อปี มีรายงานว่า ครีเอเตอร์กว่า 300 คนโกยรายได้อย่างน้อย 1 ล้านดอลลาร์ (ราว 33.3 ล้านบาท) ต่อปีและครีเอเตอร์ราว 1.6 หมื่นคนโกยรายได้อย่างน้อย 5 หมื่นดอลลาร์ (ประมาณ 1.66 ล้านบาท) ต่อปี

ปัจจุบัน OnlyFans ยังคงอยู่ในช่วงการระดมทุน เว็บไซต์บลูมเบิร์กรายงานว่า บริษัทตั้งเป้าระดมทุนให้ได้มูลค่ากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์

-------------

อ้างอิง: Bloomberg, CNBC, Axios, Reuters, WSJ