• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - hs8jai

#2441
ออน เดอะ เทเบิ้ล ชวนสัมผัสประสบการณ์ ฉีกกฎการลิ้มรส Plant-Based แบบเดิมๆ กับ 4 เมนูใหม่ในสไตล์ฟิวชั่น
 
ออน เดอะ เทเบิ้ล ร้านอาหาร Tokyo Cafe สไตล์ฟิวชั่น ในเครือ ZEN Corporation Group หรือ ZEN Group คิดค้น 4 เมนูใหม่จาก Plant-Based หรือเนื้อจากพืช ที่พร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่ในการลิ้มลอง ด้วยการนำมารังสรรค์ในรูปแบบอาหารฟิวชั่นที่เป็นเอกลักษณ์ของทางแบรนด์ เพื่อเอาใจผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ หรือสายวีแกนที่ลดการบริโภคเนื้อสัตว์โดยเฉพาะ

คุณมยุรี จิตรกร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด Zen Corporation Group เปิดเผยว่า "ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคเริ่มมองหาเมนูอาหารใหม่ๆ ที่จะช่วยดูแลและลดปัญหาเรื่องสุขภาพ ทางร้าน ออน เดอะ เทเบิ้ล ก็ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก จึงได้มีการคัดสรรวัตถุดิบจาก Plant-Based นำมาคิดค้น 4 เมนูใหม่ ที่พร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่และฉีกกฎความคิดเดิมๆ เกี่ยวกับวัตถุดิบชนิดนี้ เพื่อให้ผู้บริโภคได้ลองเปิดใจกับอาหารเพื่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งทั้ง 4 เมนูนี้ มาพร้อมกับรสชาติที่อร่อย รสสัมผัสที่ตอบโจทย์ และที่สำคัญคือดีต่อสุขภาพอีกด้วย"

โดย 2 เมนูแรกที่มีความจัดจ้านแบบไทย เลือกใช้วัตถุดิบหลักคือ "หมูกรอบจากพืช" ของแบรนด์ MEAT ZERO ในเครือ CPF ที่คงความเป็นหมูกรอบไว้ได้อย่างครบถ้วน ทั้งด้านรสสัมผัสและรสชาติ พร้อมคุณค่าทางโภชนาการที่มีโปรตีน ไฟเบอร์ และไม่มีคอลเลสเตอรอล

เมนู ข้าวเต้าหู้หมูกรอบผัดพริกเกลือ (ราคา 219 บาท) ข้าวหน้าสไตล์ฟิวชั่น ไทย-ญี่ปุ่น แบบโฮมเมด ชวนลิ้มรสสัมผัสของเนื้อเต้าหู้ที่นุ่มละมุน และหมูกรอบ Plant-Based ที่มีความคล้ายหมูกรอบจริงๆ นำมาคลุกเคล้าด้วยพริกเกลือ เสิร์ฟเคียงกับผักกวางตุ้ง ครบรสในจานเดียว
เมนู สปาเก็ตตี้กะเพราหมูกรอบ (ราคา 249 บาท) สปาเก็ตตี้รสชาติไทยๆ ที่คุ้นเคย โดดเด่นด้วยรสชาติแบบจัดจ้าน เผ็ดร้อน ผสมกับหมูกรอบ Plant-Based ที่มีความฉ่ำเบาๆ ทานแกล้มกับมะเขือยาวย่าง ที่ช่วยเสริมกันได้อย่างลงตัว
และอีก 2 เมนู ที่เลือกใช้ "เนื้อปูจากพืช" ที่ให้ความรู้สึกสดใหม่และรสสัมผัสที่เหมือนเนื้อปูแท้ๆ

เมนู สลัดแตงโมเนื้อปู (ราคา 269 บาท) สลัดจานใหญ่ที่จัดเต็มด้วยวัตถุดิบอย่าง แตงโม เต้าหู้คินุ ส้มซันคิสท์ ถั่วพีแคน และเนื้อปูจากพืช เนื้อแน่นๆ เสิร์ฟพร้อมกับน้ำสลัดยูซุ เติมความสดชื่นให้กับเมนูอาหารมื้อเที่ยงได้เป็นอย่างดี
เมนู คาเปลลินี่พิ้งค์ซอสปูและเห็ดพอร์โทเบลโล (ราคา 279 บาท) เห็ดพอร์โทเบลโล่ชิ้นโต เนื้อแน่น กับเนื้อปูจากพืชแบบจุใจคลุกเคล้ากับพิ้งซอสสูตรพิเศษของ ออน เดอะ เทเบิ้ล เรียกได้ว่าเป็นเมนูเปิดใจ สำหรับผู้บริโภครุ่นใหม่ที่เริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพ แถมยังได้สารอาหารครบถ้วนอีกด้วย
พร้อมสัมผัสประสบการณ์ใหม่บนโต๊ะอาหาร ด้วย 4 เมนูใหม่จาก Plant-Based ได้ที่ ออน เดอะ เทเบิ้ล
ทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม - 15 เมษายน 2565 
#2442
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคญี่ปุ่นลดลงในก.พ. ติดกัน 3 เดือน เซ่นโควิด-เงินเฟ้อ

สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคญี่ปุ่นประจำเดือนก.พ.ปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้นและราคาวัตถุดิบที่แพงขึ้น

รายงานระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของครัวเรือนที่มีสมาชิกตั้งแต่สองคนขึ้นไป ลดลง 1.4 จุดจากเดือนม.ค. มาอยู่ที่ 35.3 จุดในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปี 2563

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคดังกล่าวบ่งชี้มุมมองของผู้บริโภคที่มีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนข้างหน้า โดยตัวเลขที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่า ผู้บริโภคที่มีมุมมองเป็นลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ มีจำนวนมากกว่าผู้ที่มีมุมมองเป็นบวก

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นยังได้ปรับลดการประเมินความเชื่อมั่นของผู้บริโภคติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 โดยระบุว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภค "อ่อนแอลง" ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปี 2563 ในช่วงที่ญี่ปุ่นเผชิญการระบาดระลอกที่ 3 ของโควิด-19

ในช่วงเวลาที่จัดทำการสำรวจในวันที่ 8-21 ก.พ. ไวรัสโอมิครอนยังคงแพร่ระบาดไปอย่างต่อเนื่องและหลายจังหวัดบังคับใช้มาตรการกึ่งฉุกเฉิน โดยทางการได้ขอให้ร้านอาหารและบาร์ปิดบริการเร็วกว่าปกติและระงับหรือจำกัดการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคครั้งนี้ได้ทำการสำรวจครัวเรือนทั้งสิ้น 8,400 ครัวเรือน รวมถึงครอบครัวที่มีสมาชิกเป็นคนโสด 2,267 ครัวเรือน โดยมีผู้ตอบแบบสำรวจที่ผ่านเกณฑ์ 6,659 ครัวเรือน หรือหรือคิดเป็นสัดส่วน 79.3%
#2443
[url=https://cleothailand.com/2022/01/culture/travel/10776/]สวนสนุกที่ทำให้เราอยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง[/url]
 วันนี้ตรงกับวันเด็กแห่งชาติพอดิบพอดี พอพูดถึงวันเด็กแล้วก็อดคิดถึงช่วงวัยเด็กไม่ได้เลย เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความทรงจำ ไม่ต้องคิดเยอะ เล่นแบบโลดโผนไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น เห้ออ พูดแล้วก็คิดถึง ยิ่งพอถึงวันเด็กก็จะได้ไปเที่ยวสวนสนุก แฮปปี้เวอร์ตอนนั้น วันนี้เลยขอย้อนวันวานพาทุกคนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งกับสวนสนุกทั่วโลกที่เราอยากกลับไปเล่นอีก!Dream Worldประเดิมด้วยที่แรก ไม่ต้องไปไกลถึงต่างประเทศ แต่อยู่ในไทยนี่แหละ เราเชื่อว่าอย่างน้อยสักครั้งในชีวิตเด็กไทยต้องเคยไปดรีมเวิร์ลกันมาบ้างแหละ คลาสสิกสุก ไปซ้ำกี่รอบก็ไม่เบื่อจริง ๆ นะ เครื่องเล่นเพียบ ไวกิ้งเอย รถคุณปู่เอย เจ้าหนูลมกรด พูดแล้วคิดถึงเลยอะ ตอนเด็ก ๆ เราชอบเข้าบ้านยักษ์มาก แอบเผลอคิดด้วยว่านี่คือบ้านยักษ์จริง ๆ 555555 พอพูดถึงขึ้นมาก็อยากวาร์ปกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งเลยDisneylandที่นี่ไม่ต้องพูดเยอะ ให้ภาพเล่าเรื่องเลยแล้วกัน Disneyland เป็นอีกหนึ่งที่ที่เด็ก ๆ หลายคนอยากมาเที่ยวสักครั้งในชีวิต เพราะตัวการ์ตูนในดิสนีย์เราก็เคยดูกันมาตั้งแต่เล็ก ๆ จะเป็นเจ้าหญิง หรืออนิเมชั่นเรื่องอื่นก็ทำเราจดจำมาได้ทุกเรื่อง เด็ก ๆ คงจะตื่นตาตื่นใจไม่น้อยถ้าการ์ตูนที่เราเคยดูในทีวีได้มาอยู่ในชีวิตจริง ปราสาทเจ้าหญิงแบบเรียล ๆ มีตัวการ์ตูนทักทายตลอดการเดินทาง หรือจะเป้นขนมที่น่ากินเวอร์ในสวนสนุก ไม่ต้องเด็กหรอก แต่ผู้ใหญ่อย่างเราก็ยังอยากไปอีก เดี๋ยวนี้ดิสนีย์แลนด์มีหลายประเทศเลยนะ เสนห์และความสวยงามก็แตกต่างกันไป ทั้งที่ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เซี่ยงไฮ้ อเมริกา และอีกหบายที่เลย จนอยากจะไปตามเก็บให้ครบทุกที่Everland Theme Parkมาโซนเกาหลีกันบ้าง Everland ก็เป็นท็อปลิสต์สวนสนุกที่เกาหลีที่เด็กและผู้ใหญ่อย่างเราอยากไปสักครั้ง เพราะที่นี่ตกแต่งน่ารักมาก เหมาะกับใครที่อยากลองสวนสนุกที่เกาหลีสุด ๆ เครื่องเล่นมีหลากหลายมาก ซึ่งเขาก็จะแบ่งเป็นโซนไป อย่าง American Advanger ก็จะเป็นเครื่องเล่นแนวรถไฟเหาะ ลุย ๆ หน่อย หรือโซน Zootopia เราก็จะได้ท่องโลกสวนสัตว์ แพนด้า ยีราฟ มาที่เดียวคือได้เที่ยวคุ้มเลย ไว้ได้ไปเกาหลีเมื่อไหร่ต้องโดนสักหน่อยแล้วววUniversal Studiosอันนี้จะพูดถึงไม่ได้เลยนะ เป็กอีกที่ที่ไปแล้วก็ต้องไปอีก หรือใครยังไม่เคยไปก็ต้องลองไปกันดู ยิ่งใครที่เป้นสาวกอนิเมชั่นค่าย Universal ไม่ว่าจะเป็น Shreck (เราชอบมากกกก) Despicable Me หรือเรื่อวอื่น ๆ อีกมากมาย เหมือนได้ยกตัวการ์ตูนที่เราชอบมาอยู่ที่นี่หมดแล้ว! ซึ่ง Universal Studios เขาก็มีหลายประเทศเลยนะ เริ่มจาก  Universal Studios Hollywood, Universal Orlando Resort, Universal Studios Japan, Universal Studios Singapore และ Universal Studios Beijing ใครอยากกลองใกล้ ๆ ก่อนก็จัดที่สิงคโปร์ไปเลย แล้วก็ตามเก็บให้ครบทุกที่โลดดLEGOLANDส่วนใครชอบของเล่นเลโก้ต้องมาที่นี่เลยนะ Legoland ใครที่เป็นเอฟซีเลโก้นี่ห้ามพลาดเลย ซึ่ง LEGOLAND ก็จะแบ่งเป็นLEGOLAND Park,LEGOLAND Discovery Centers และLEGOLAND Water Park ซึ่งแต่ละแบบก็มีอยู่ที่หลายประเทศมาก ถ้าได้ลองไปน่าจะได้ย้อนวัยแบบสุด ๆ เลยแหละ เพราะเราก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ต่อเลโก้เล่นตอนเด็ก ๆ ถ้าได้มาเบ่นที่นี่น่าจะฟินน่าดูเลยCartoon Network Amazone Water Parkสวนน้ำ Cartoon Network คือสวนน้ำที่เราชอบมากกก ถึงจะโตแล้วก็เถอะ 5555 จำได้ว่าสมัยเด็กต้องเปิดดูการ์ตูนช่อง Cartoon Network ทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน จนบางทีไปสายก็มี เด็ก ๆ คนไหนที่เป้นแฟนคลับช่องนี้ ไม่ว่าจะชอบดู Ben 10, Chowder, Advanger Time หรือเรื่องอื่น ๆ ในการ์ตูนเน็ตเวิร์คจะต้องชอบที่นี่แน่นอน เขาตกแต่งสวนน้ำด้วยตัวการ์ตูนที่เราชอบไว้เพียบ และที่สำคัญไม่ได้อยู่ไกลเลย อยู่แค่พัทยานี่เอง ใครที่ผ่านไปผ่านมาแถวนั้นก็ลองแวะเข้าไปเล่นกันได้นะCedar Pointสายแอดแวนเจอร์เราขอแนะนำที่นี่เลย Cedar Point อยู่ที่ Ohio เป็กอีกที่ที่อยากลองไปเล่นเครื่องเล่นสักครั้งในชีวิต Cedar Point จะเน้นเครื่องเล่นแบบจุก ๆ พวก Rollercoaster นี่คือจัดเต็มมาก หรือจะเป็นกิจกรรมกลางแจ้งอย่างพวกเจ็ทสกี คายัก อะไรแบบนี้ก็มีที่นี่นะ เป็นสวนสนุกที่เหมาะกับทุกวัยมากจริง ๆ จะมาเที่ยวกับเพื่อนย้อนวัยเด็ก หรือพาลูกหลานมาเที่ยวกันแบบยกครอบครัวก็สนุกไม่แพ้กันเลยLotte Worldปิดท้ายด้วยสวนสนุกที่เกาหลีอย่าง Lotte World ที่สวยไม่แพ้ที่อื่น จะบอกว่าปราสาทที่นั่นสวยมากกก เด็ก ๆ คนไหนที่ได้ไปต้องชอบแน่นอน แถมเครื่องเล่นในนั้นก็มีให้เล่นเพียบ ยังไม่รววมมาสคอตต์ต่าง ๆ ที่เดินไปเดินมาสร้างรอยยิ้มให้เราอีกนะ ใครที่ได้ไปแล้วต้องไม่อยากกลับบ้านแน่นอน อยากเล่นอยู่ในนั้นทั้งวันอ่านเรื่องราวอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ทาง CleoThailand หรือ FB CLEO Thailand

https://bit.ly/3hDWFoC
#2444
โคเวสโตรตั้งเป้าสู่ความเป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศ

เป้าหมายที่ทะเยอทะยานในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก       ให้เป็นศูนย์ (Net zero1) ภายในปี ค.ศ. 2035 สำหรับการดำเนินงานใน        scope 1 และ scope 2
การลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 60 ภายในปี ค.ศ. 2030
ทุกผลิตภัณฑ์มีการนำเสนอในรูปแบบที่เป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศ      ในอนาคต โดยมีสินค้าหลักๆ ที่มีจำหน่ายในปัจจุบันแล้วด้วย 
โคเวสโตรได้กำหนดวิสัยทัศน์องค์กรเพื่อมุ่งสู่การหมุนเวียนอย่างเต็มรูปแบบ ในการนี้ บริษัทผู้ผลิตวัสดุโพลีเมอร์นี้ประสงค์ที่จะทำให้กระบวนการผลิตและผลิตภัณฑ์ที่ออกวางจำหน่ายทั้งหมดเป็นไปตามแนวคิดการหมุนเวียนในระยะยาว ซึ่งหนึ่งในมาตรการสำคัญตามแนวทางนี้คือความเป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศ โดยเมื่อปี ค.ศ. 2021 โคเวสโตรได้ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่มาจากการผลิตต่อเมตริกตันลงร้อยละ 54 เมื่อเทียบกับปี ค.ศ. 2005 ซึ่งถือว่าสำเร็จเกินกว่าเป้าหมายความยั่งยืนที่กำหนดไว้สำหรับปี ค.ศ. 2025 

ปัจจุบันโคเวสโตรได้กำหนดเป้าหมายที่สูงยิ่งกว่านั้น: กลุ่มบริษัทโคเวสโตรมุ่งที่จะมีความเป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศและการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ. 2035 สำหรับกิจกรรมใน scope 1 และ scope 2 ซึ่งในการบรรลุเป้าหมายนี้ บริษัทมีแผนจะลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกจากส่วนการผลิตของบริษัทเอง (scope 1) และจากแหล่งพลังงานจากภายนอก (scope 2) ร้อยละ 602  ลงไปที่ 2.2 ล้านเมตริกตันภายในปี ค.ศ. 2030 นอกจากนี้ จะทำการลดการปล่อยปริมาณก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมตลอดกระบวนการผลิต (scope 3) โดยโคเวสโตรตั้งใจที่จะประกาศเป้าหมายการลดนี้ภายในปี ค.ศ. 2023

ในการบรรลุเป้าหมายการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์นี้ โคเวสโตรคาดว่าจะลงทุนในด้านนี้เป็นการเฉพาะ จากมูลค่า 250 ล้านยูโรเป็น 600 ล้านยูโรภายในปี ค.ศ. 2030 ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้เกิดการลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้จาก 50 ล้านยูโรต่อปี เป็น 100 ล้านยูโรต่อปี สืบเนื่องจากประสิทธิภาพในการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น บนเส้นทางสู่การบรรลุเป้าหมายการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ โคเวสโตรคาดว่าจะมีการเพิ่มค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อปี ราวหลักร้อยล้านยูโรต้นๆ โดยค่าใช้จ่ายนี้คำนวณจากประสบการณ์ที่ผ่านมาว่าพลังงานฟอสซิลมีราคาที่ต่ำกว่าพลังงานทดแทน

"ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เราได้มุ่งทำงานอย่างเต็มกำลังเพื่อดำเนินตามวิสัยทัศน์การหมุนเวียนอย่างเต็มรูปแบบ โดยเราได้บรรลุหมุดหมายสำคัญๆ บนหนทางนี้ และยังคงตั้งเป้าหมายที่สูงยิ่งขึ้นต่อไป ด้วยแนวคิดนี้ เราเป็นผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมนี้ และประสบความสำเร็จในหลายด้านแล้ว หมุดหมายสำคัญอีกอย่างหนึ่งของเราคือการตั้งเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศที่มุ่งมั่นชัดเจนยิ่งขึ้น" ดร. มาร์คุส สไตเลอแมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโคเวสโตร กล่าว

"ในเศรษฐกิจหมุนเวียน เราสามารถปกป้องสภาพภูมิอากาศ ธรรมชาติ และทรัพยากร เพื่อบรรลุการเติบโตอย่างยั่งยืนที่เคารพขอบเขตและขีดจำกัดของโลก โคเวสโตรและอุตสาหกรรมเคมีเป็นส่วนหนึ่งของทางแก้ไขปัญหานี้ ความยั่งยืนไม่สามารถทำสำเร็จได้โดยลำพัง และต้องอาศัยความพยายามที่มากขึ้นจากทุกฝ่ายเพื่อให้บรรลุเป้าหมายความตกลงปารีส โดยผู้กำหนดนโยบาย ธุรกิจ และสังคมจะต้องทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายสภาพภูมิอากาศที่สูงส่งนั้น" 

ข้อกำหนดสำคัญของแผนการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกในปี ค.ศ. 2035 คือการบรรลุเป้าหมายของความตกลงปารีส ซึ่งประชาคมโลกมุ่งที่จะจำกัดภาวะโลกร้อนไว้ที่ 1.5 องศาเซลเซียส 

ปัจจัยสามประการที่มีผลสำคัญยิ่งต่อการบรรลุเป้าหมายสภาพภูมิอากาศ

กระบวนการผลิตจะได้รับการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานเพื่อให้เกิดการผลิตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น จุดเน้นจุดหนึ่งคือการลดปริมาณการปล่อยก๊าซไนตรัสออกไซด์ ซึ่งจะกระทำได้ผ่านการใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมตัวเร่งปฏิกิริยา นอกจากนี้ สามารถควบคุมโรงงานผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการเพิ่มระบบดิจิตัลในโรงงานและการใช้เทคโนโลยีดิจิตัลมากขึ้น ในขณะที่กระบวนการต่างๆ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพผ่านการใช้แบบจำลองดิจิตัล และเทคโนโลยีดิจิตัลยังช่วยประมวลและติดตามข้อมูลการปล่อยก๊าซตลอดห่วงโซ่คุณค่าได้อีกด้วย  
โรงงานผลิตของโคเวสโตรทั่วโลกจะค่อยๆ เปลี่ยนไปใช้พลังงานไฟฟ้าทดแทน ซึ่งรวมถึงการใช้พลังงานลมนอกชายฝั่ง โดยมีการสนับสนุนความร่วมมือ เช่น ผ่านความตกลงการซัพพลายพลังงานกับบริษัทจัดหาพลังงาน ?rsted ซึ่งจะครอบคลุมความต้องการใช้พลังงานร้อยละ 10 ของโรงงานของบริษัทในประเทศเยอรมนีตั้งแต่ปี ค.ศ. 2025 เป็นต้นไป พลังงานลมบนชายฝั่งก็จะมีการนำมาใช้เช่นกัน เช่น ภายใต้ความตกลงการซื้อพลังงานจาก ENGIE ที่ครอบคลุมความต้องการใช้พลังงานร้อยละ 45 ของโรงงานโคเวสโตรในเมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยี่ยม ทั้งนี้ ปัจจุบันพลังงานที่โคเวสโตรจำเป็นต้องใช้ที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนประมาณร้อยละ 10 มาจากโซลาร์ ปาร์คของบริษัท Datang Wuzhong New Energy โดยนอกจากโมเดลความร่วมมือกับบริษัทที่ซัพพลายพลังงานเหล่านี้แล้ว ยังมีแผนที่จะทำความตกลงอื่นๆ อีก เพื่อให้บรรลุปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์สุทธิที่เป็นศูนย์ 
ไอน้ำเป็นแหล่งพลังงานสำคัญของกระบวนการผลิตทางเคมี การเปลี่ยนการผลิตไอน้ำจากแหล่งพลังงานฟอสซิลไปยังแหล่งพลังงานทดแทนถือเป็นความท้าทายที่โคเวสโตรมุ่งจะแก้ไขโดยหลากหลายวิธี ในการนี้ บริษัทได้สำรวจช่องทางในการใช้ก๊าซชีวภาพและก๊าซธรรมชาติเพื่อเป็นแหล่งพลังงานในการผลิตไอน้ำทดแทน ไฮโดรเจน แอมโมเนีย และไฟฟ้าที่ได้จากแหล่งธรรมชาติก็สามารถใช้เป็นแหล่งพลังงานทดแทนสำหรับการผลิตไอน้ำได้
โคเวสโตรอยู่ระหว่างการอัพเดทและขยายระบบการบริหารที่มีอยู่ในปัจจุบันโดยเริ่มจากปีงบประมาณ ค.ศ. 2021 กลุ่มบริษัทจะเพิ่มปัจจัยความยั่งยืนซึ่งวัดได้จากปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งทางตรงและทางอ้อม (scope 1 และ 2) ในปี ค.ศ. 2022 โดยตั้งแต่เดือนมกราคม ค.ศ. 2021 การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (scope 1) เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่ใช้ในการกำหนดค่าตอบแทนของผู้บริหารในระยะยาว

โคเวสโตรจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ทุกชนิดในรูปแบบที่เป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศ

"เรามุ่งที่จะเปลี่ยนกระบวนการผลิตและผลิตภัณฑ์ทั้งหมดให้เป็นไปตามหลักการหมุนเวียนในระยะยาว และตั้งใจที่จะสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายสภาพภูมิอากาศของเราและลูกค้าของเราในเวลาเดียวกัน" ลีเนตต์ ชุง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายความยั่งยืนที่โคเวสโตร กล่าว "การหมุนเวียนและความพยายามในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศถือเป็นสองด้านของเหรียญเดียวกันสำหรับเรา ด้วยผลิตภัณฑ์ที่เป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศที่เรานำเสนอ ลูกค้าของเราคาดหวังให้เราบรรลุทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกัน เรามุ่งจะทำให้การตัดสินใจด้านความยั่งยืนเป็นเรื่องที่ง่ายเท่าที่จะเป็นได้สำหรับลูกค้าของเรา"

ด้วยการมีลูกค้าเป็นที่ตั้ง โคเวสโตรได้ขยายสายผลิตภัณฑ์ที่เป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศอย่างต่อเนื่อง ความท้าทายของเศรษฐศาสตร์มหภาคที่สำคัญถูกแก้ไขโดยการวางโซลูชั่นที่ยั่งยืนและไม่เหมือนใครในตลาดหลักๆ อุปสงค์ที่เพิ่มสูงขึ้นสำหรับโซลูชั่นที่ยั่งยืนนั้นสืบเนื่องจากกระแสโลก เป็นต้นว่า การขยายตัวของเมืองมีการเน้นการสร้างอาคารใหม่และปรับปรุงอาคารเก่าให้สามารถใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ MDI ปริมาณมากถูกใช้เป็นวัตถุดิบทั่วโลกสำหรับทำโพลียูรีเทน (PU) โฟม ซึ่งเป็นฉนวนกันความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูงมากสำหรับอาคารและตู้เย็น ปัจจุบันโคเวสโตรได้เพิ่ม MDI ที่มีความเป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศ3 เข้าสู่สายผลิตภัณฑ์ โดยการใช้ผลิตภัณฑ์ฉนวนกันความร้อน PU จะสามารถช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซ CO2  ได้เทียบเท่ากับ 40 ล้านเมตริกตัน MDI ประเภทใหม่ที่มีความเป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำนี้ เป็นผลจากการใช้สารตั้งต้นจากของเสียที่เป็นสมดุลมวลสารชีวภาพและวัสดุเหลือใช้ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานจาก ISCC PLUS 

อีกหนึ่งตัวอย่างของสินค้ายั่งยืนของโคเวสโตรที่เป็นนวัตกรรมใหม่ คือ โพลีคาร์บอเนตที่มีความเป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศ4 แบบแรกของโลก ที่ผลิตโดยใช้วัตถุดิบจากของเสียที่เป็นสมดุลมวลสารชีวภาพและวัสดุเหลือใช้ รวมถึงพลังงานทดแทน ด้วยกระแสที่กำลังเพิ่มขึ้นของการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ควบคู่กับการผลักดันการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ของภาครัฐ ระบบชาร์จไฟฟ้าต้องมีการเพิ่มขยายอย่างต่อเนื่องเช่นกัน การใช้ตัวชาร์จ EV โพลีคาร์โบเนตที่มีความเป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศ สามารถประหยัดพลังงานเทียบเท่ากับการลดการปล่อยก๊าซ CO2 ได้มากถึง 450 กิโลตันภายในปี ค.ศ. 2030 โพลีคาร์โบเนตที่มีความเป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศของโคเวสโตรถูกส่งไปยังลูกค้าแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2021

3,4 ความเป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศเป็นผลจากการประเมินภายในของวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์บางส่วน จากการแสวงหาแหล่งทรัพยากร (ต้นน้ำ) สู่ประตูโรงงาน ซึ่งมีการนิยามว่าการประเมินจากต้นน้ำสู่ปลายน้ำ (cradle-to-gate assessment) วิธีในการศึกษาเพื่อกำหนดรอยเท้านิเวศ (ecological footprint) ของเราเป็นไปตามมาตรฐาน ISO 14040/ISO 14044 การดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไบโอเจนิกถูกนำมาใช้ในการคำนวณโดยอาศัยข้อมูลขั้นต้นจากซัพพลายเชน โดยไม่ใช้มาตรการชดเชยอื่นใด

เกี่ยวกับโคเวสโตร

โคเวสโตรเป็นหนึ่งในผู้ผลิตวัสดุโพลิเมอร์และส่วนประกอบทางโพลิเมอร์คุณภาพสูงชั้นนำของโลก ด้วยนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ กระบวนการ และวิธีการ บริษัทช่วยส่งเสริมความยั่งยืนและคุณภาพชีวิตในหลายแง่มุม โคเวสโตร ให้บริการลูกค้าทั่วโลกในอุตสาหกรรมหลัก เช่น การเดินทางและการขนส่ง อาคารและที่อยู่อาศัย ตลอดจนอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ โพลีเมอร์จากโคเวสโตร ยังใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น กีฬาและสันทนาการ เครื่องสำอางและสุขภาพ ตลอดจนในอุตสาหกรรมเคมีด้วย

โคเวสโตร สร้างยอดขายได้ประมาณ 15.9 พันล้านยูโรในปีงบประมาณ 2564 บริษัทมีโรงงานผลิต 50 แห่งทั่วโลกและมีพนักงานประมาณ 17,900 คน (คำนวณจากจำนวนพนักงานประจำ) ณ สิ้นปี 2564
#2445
เอกชน เล็งเสนอยกเลิก Thailand Pass และ Test&Go ลดภาระนทท.

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จัดประชุมหารือเพื่อรับฟังความเห็นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้ (กระบี่ พังงา ภูเก็ต) เพื่อเตรียมความพร้อมก้าวสู่ Next Normal ของการท่องเที่ยวไทย โดยที่ประชุมหารือกันในประเด็นการส่งเสริมและดึงดูดนักเดินทางต่างชาติมาไทย โดยได้เสนอให้รัฐบาลพิจารณายกเลิกการลงทะเบียน Thailand Pass และ Test&Go ในระยะถัดไป โดยอาจพิจารณาให้สายการบินช่วยตรวจผล RT-PCR ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง และเอกสาร Vaccine Passport ที่แสดงข้อมูลการรับวัคซีนครบโดสก่อนขึ้นเครื่อง หากเข้าตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว ให้สามารถเดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องตรวจและกักตัวในคืนแรก แต่ใช้การตรวจด้วย ATK แทน เพื่อไม่ให้เกิดภาระและเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับนักเดินทาง ซึ่งหลายประเทศก็ได้ดำเนินการในลักษณะดังกล่าวแล้ว เชื่อว่าจะสร้างบรรยากาศในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศได้มากขึ้น

ทั้งนี้ หอการค้าจังหวัด และผู้ประกอบการในพื้นที่ ยังจะร่วมกันรณรงค์และและกำชับให้ผู้ประกอบการและประชาชน ปฏิบัติตามมาตรการของสาธารณสุข โดยเฉพาะการเว้นระยะห่างเพื่อป้องกันการเกิดคลัสเตอร์ใหม่

นายสนั่น กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมาหอการค้าไทย เน้นให้ความสำคัญการส่งเสริมและพัฒนา Trade & Travel ควบคู่กันไป เพราะหากมองจากจุดแข็งของประเทศ พบว่านักธุรกิจและนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงมองประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทาง ทั้งการทำธุรกิจ การพักผ่อนท่องเที่ยว หรือแม้แต่การพักอาศัยในระยะยาว แม้ว่าสถาการณ์ความขัดแย้งของรัสเซียและยูเครน จะกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่บ้าง แต่ยังคงมีโอกาสทำตลาดกับนักท่องเที่ยวอินเดียที่มีศักยภาพ และซาอุดีอาระเบียที่เพิ่งมีการเปิดความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย และมีการเปิดเที่ยวบินตรงมายังไทยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นความหวังใหม่ที่จะเกิดขึ้นกับภาคการท่องเที่ยวไทย ที่เป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีกำลังซื้อสูง

ส่วนการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ ยังสามารถเติบโตได้ดีในช่วงนี้ อันเป็นผลมาจากมาตรการสนับสนุนของรัฐบาลผ่านโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" ที่ได้รับการตอบรับที่ดี ภายหลังเปิดให้ลงทะเบียนเพิ่มเติม 2 ล้านสิทธิเมื่อเดือนที่ผ่านมา มีการใช้สิทธิไปแล้วเกือบ 1 ล้านสิทธิ โดยหลังจากนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และหอการค้าไทย จะหารือร่วมกันถึงความเป็นไปได้ในการนำเสนอรัฐบาลให้มีการสนับสนุนงบประมาณโครงการดังกล่าวเพิ่มเติม

รวมถึงมาตรการและโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวต่างๆ ทั้ง Happy Model (โมเดลอารมณ์มีความสุข) สร้างต้นแบบการท่องเที่ยวคุณภาพ โครงการประชุมเมืองไทย ช่วยชาติ พร้อมโปรโมทวันธรรมดาน่าเที่ยว Workcation เพื่อให้เกิดกระแสตื่นตัวในการท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น

ด้าน น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า ททท. ตั้งเป้าหมายปี 65 ตลาดในประเทศมีจำนวนนักท่องเที่ยว 160 ล้านคน/ครั้ง ตลาดต่างประเทศ 10 ล้านคน รายได้ทางการท่องเที่ยว 1.28 ล้านล้านบาท ถึงแม้ว่าจะมีการระบาดของโอมิครอน แต่ก็ได้มีการเตรียมแผนเพื่อให้การท่องเที่ยวของประเทศไทยกลับมา โดยให้ความสำคัญกับการเพิ่มสัดส่วนกลุ่มลูกค้าคุณภาพและนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง เน้นสินค้าและบริการการท่องเที่ยวที่มีมาตรฐานคุณภาพ และนำเสนอแนวคิด BCG Model เชื่อมโยงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบเพื่อความยั่งยืน

นอกจากนั้น ผู้ประกอบการในพื้นที่ยังได้เสนอให้รัฐบาลสนับสนุนแหล่งเงินทุนช่วยผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยว ควบคู่กับการจัดทำแผนการดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างชาติ เน้นสื่อสารให้มีความชัดเจนและต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการ Restart ธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งหอการค้าไทย จะเชื่อมกับภาคการเงินเพื่อช่วยผู้ประกอบการในการเติมทุนต่อไป

 
#2446
โพล ส.อ.ท.ชี้ขึ้นค่าไฟ-ก๊าซซ้ำเติมเศรษฐกิจ แนะตรึง Ft รอบพ.ค.-ส.ค.ลดผลกระทบ

นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยผลสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 15 ในเดือน มี.ค.65 เรื่อง "ปรับขึ้นค่าไฟ-ก๊าซ กระทบเศรษฐกิจแค่ไหน" โดยผู้บริหาร ส.อ.ท.มองว่า การที่ภาครัฐจะพิจารณาปรับขึ้นอัตราค่าไฟฟ้าและราคาก๊าซฯ ต่อเนื่องนั้นจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และยังเป็นการซ้ำเติมปัญหาให้แก่ผู้ประกอบการที่ต้องแบกรับภาระต้นทุนการผลิตที่อยู่ในระดับสูงในขณะนี้ จนทำให้ผู้ประกอบการมีความจำเป็นจะต้องปรับราคาสินค้าขึ้นตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อภาระค่าครองชีพของประชาชน

ดังนั้นจึงเสนอขอให้ภาครัฐพิจารณาคงอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ในรอบเดือน พ.ค.-ส.ค.65 เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบดังกล่าว นอกจากนี้ ผู้บริหาร ส.อ.ท.ยังเสนอแนะให้ภาคอุตสาหกรรมเร่งปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อประหยัดพลังงาน และหันมาผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนใช้เองภายในโรงงานอุตสาหกรรม

สำหรับมาตรการที่มีประสิทธิภาพในการบรรเทาผลกระทบของประชาชนและภาคธุรกิจจากค่าไฟฟ้าและราคาก๊าซฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้น อันดับที่ 1 คือ การคงอัตราค่า Ft รอบเดือน พ.ค.-ส.ค.65 80.7% อันดับที่ 2 คือ มาตรการความร่วมมือลดการใช้ไฟฟ้า (Demand Response) โดยคืนผลประหยัดไฟฟ้าที่ลดได้ให้กับผู้ใช้ไฟฟ้า 59.3% อันดับที่ 3 คือ ตรึงราคาขายปลีกก๊าซฯ ชั่วคราว 53.3% และ อันดับที่ 4 คือ มาตรการช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มในส่วนของผู้มีรายได้น้อย และผู้ประกอบการ SME เช่น ส่วนลดค่าไฟฟ้า, คูปองส่วนลดราคาก๊าซฯ 52.7%

ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมควรเตรียมรับมือผลกระทบจากค่าไฟฟ้าและราคาก๊าซฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้น อันดับที่ 1 คือ ปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อประหยัดพลังงาน 82.0% อันดับที่ 2 คือ การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนใช้เองภายในโรงงาน เช่น โซลาเซลส์76.0% อันดับที่ 3 คือ นำระบบการบริหารจัดการพลังงานมาใช้ และปรับแผนการผลิตเพื่อลดต้นทุน 64.7% อันดับที่ 4 คือ บำรุงรักษาและปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักร 53.3%

โดยแนวโน้มการใช้ไฟฟ้าและพลังงานของภาคอุตสาหกรรมในปีนี้ 77.3% เพิ่มขึ้นจากปีก่อน รองลงมา 20.7% ทรงตัวเท่ากับปีก่อน และ 2.0% ใช้ลดลงจากปีก่อน

ผลสำรวจดังกล่าวมาจากผู้บริหาร ส.อ.ท. (CEO Survey) จำนวน 150 คน ครอบคลุมผู้บริหารจาก 45 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 76 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด โดยผู้บริหาร 38.7% เห็นว่าค่าไฟฟ้าและพลังงานในปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วน 10-20% ของต้นทุนการผลิต รองลงมา 25.3% เห็นว่ามีสัดส่วนน้อยกว่า 10% ตามด้วย 20.7% เห็นว่ามีสัดส่วน 20-30% และที่เหลืออีก 15.37% เห็นว่ามีสัดส่วนมากกว่า 30%

ผู้บริหาร 56.7% เห็นว่าหากภาครัฐมีการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าและราคาก๊าซฯ ต่อเนื่องจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมาก รองลงมา 34.7% เห็นว่าส่งผลกระทบปานกลาง และ 8.6% เห็นว่าส่งผลกระทบน้อย

ผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าและราคาก๊าซฯ ที่ภาครัฐควรให้ความสำคัญอันดับ 1 คือ ราคาสินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้นจากต้นทุนพลังงานที่อยู่ระดับสูง 87.3% อันดับที่ 2 คือ ภาระค่าครองชีพของประชาชน 82.0% อันดับที่ 3 คือ เร่งอัตราเงินเฟ้อให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น 51.3% และ อันดับที่ 4 คือ กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวหรือหยุดชะงัก 41.3%
#2447
รัฐบาล คาด GDP ไทยปี 65 ยังโตได้ 3.5-4.5% หากวิกฤตรัสเซีย-ยูเครนยุติเร็ว

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลกระทบต่อตลาดหลักทรัพย์ไทยในช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างน้อย และเป็นไปเพียงในระยะสั้น โดยปกติตลาดหลักทรัพย์จะมีความผันผันผวนตามสถานการณ์ทั้งในเชิงบวกและเชิงลบที่เกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 1 มีนาคม 65 สถานะเงินทุนสุทธินักลงทุนต่างชาติไหลเข้าในตลาดหลักทรัพย์ที่ 81,356.8 ล้านบาท

สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทยังคงมีความแข็งแกร่ง เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา ทิศทางค่าเงินบาทโดยรวมยังปรับตัวแข็งค่าขึ้น 2.10% จากต้นปี 65 จากแผนการเปิดประเทศและตามสถานะเงินลงทุนสุทธิของนักลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้าในตลาดหลักทรัพย์และตลาดพันธบัตรไทย

ด้านการส่งออก ในเดือนมกราคม 65 พบว่าการส่งออกในเดือนนี้ขยายตัว 8% หรือมีมูลค่า 21,258.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนมูลค่านำเข้าขยายตัว 20.5% หรือมีมูลค่า 23,785 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ จากตัวเลขทางเศรษฐกิจ ชี้ให้เห็นว่า ประเทศไทยมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ทั้งด้านฐานะการคลังและฐานะการเงิน โดยสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 64 อยู่ที่ 59.88 %ต่อ GDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลัง ทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูง ณ สิ้นเดือนมกราคม 65 อยู่ที่ 242,772.44 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีสัดส่วนทุนสำรองระหว่างประเทศต่อหนี้ต่างประเทศระยะสั้นสูงถึง 3 เท่า อีกทั้งดุลบัญชีเดินสะพัดปี 65 คาดว่าจะกลับมาเกินดุลได้เล็กน้อย ตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว รัฐบาลยังมีเงินคงคลังเพียงพอต่อการใช้จ่ายที่จำเป็น และความสามารถในการชำระหนี้ของรัฐบาลยังอยู่ในเกณฑ์ดี

นอกจากนี้ รัฐบาลยังเดินหน้ามาตรการกระตุ้นเศษฐกิจ ส่งเสริมอุตสาหกรรมใหม่ S-Curve รวมทั้งการลงทุนภาครัฐในโครงสร้างพื้นฐาน ดิจิทัล พลังงาน การลงทุนโครงการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) การใช้มาตรการทางการเงินและการคลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ตลอดจนมาตรการผ่อนคลายการควบคุมการระบาดของโควิด และการปูพรมฉีดวัคซีนป้องกันโควิดให้ประชาชน ช่วยสร้างความเข็มแข็งให้กับจากทำให้ระบบและโครงสร้างเศรษฐกิจไทย ซึ่งหากวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน สามารถยุติลงได้โดยเร็ว มั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยในปี 65 จะยังคงจะสามารถขยายตัว 3.5-4.5% ได้ตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้

 
#2448
เสริมขมับ สมุทรปราการอาเซียนบิวตี้คลีนิคศัลยกรรมต้นๆของประเทศดูแลทุกปัญหาความ
งาม  
ผิวพรรณ ศัลยกรรมตกแต่ง และเวชศาสตร์ชะลอวัย พร้อม
การดูแลความสวยงาม
เสริมขมับ สมุทรปราการแบบองค์รวม ตั้งแต่หัวถึงปลายเท้า
โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ  
แล้วก็ คณะทำงานมือโปร 
เสริมขมับ สมุทรปราการอีกทั้งไทยแล้วก็ต่างชาติ 


https://bit.ly/3pD9PGW
#2449
แหล่งข่าวคาดโอเปกพลัสมีมติยึดมั่นตามข้อตกลงเดิมในการประชุมพรุ่งนี้

แหล่งข่าว 2 รายของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส กล่าวว่า โอเปกพลัสมีแนวโน้มที่จะยึดมั่นตามข้อตกลงเดิมในการประชุมพรุ่งนี้

แหล่งข่าวดังกล่าวระบุว่า การที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครนยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการผลิตและการส่งออกน้ำมันในข้อตกลงของโอเปกพลัสแต่อย่างใด

ทั้งนี้ คาดว่าโอเปกพลัสจะมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรล/วันสำหรับเดือนเม.ย.

ก่อนหน้านี้ โอเปกพลัสมีมติในเดือนก.ค.2564 ในการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันในแต่ละเดือน จนถึงเดือนเม.ย.2565

อินเดียเผยนักศึกษาเสียชีวิตจากเหตุการณ์สู้รบในยูเครน
 
กระทรวงการต่างประเทศอินเดียเปิดเผยว่า นักศึกษาอินเดียรายหนึ่งได้เสียชีวิตจากเหตุการณ์การสู้รบระหว่างทหารรัสเซียและยูเครนที่เมืองคาร์คิฟ

"ท่านรัฐมนตรีต่างประเทศได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตรัสเซียและยูเครนเข้าพบเพื่อเน้นย้ำข้อเรียกร้องของเราที่ต้องการให้มีการเปิดทางอพยพที่ปลอดภัยสำหรับชาวอินเดียที่ยังคงอยู่ในเมืองคาร์คิฟและเมืองอื่นๆในพื้นที่สู้รบ" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศระบุ

ทั้งนี้ นักศึกษาอินเดียจำนวนหลายพันคนได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยของยูเครน และจำนวนมากยังคงไม่สามารถเดินทางออกจากประเทศ หลังจากที่กองกำลังรัสเซียทำการบุกโจมตียูเครนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

 
#2450
ราคาทองฟิวเจอร์พุ่งกว่า 30 ดอลลาร์ ทะลุ $1,930 กังวลสถานการณ์ยูเครน

ราคาทองฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 30 ดอลลาร์ ทะลุระดับ 1,930 ดอลลาร์ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตยูเครน

ณ เวลา 00.36 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ดีดตัวขึ้น 36.20 ดอลลาร์ หรือ 1.9% สู่ระดับ 1,936.90 ดอลลาร์/ออนซ์

กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เพิ่มการถือครองทอง 0.2% สู่ระดับ 1,029.02 ตันเมื่อวานนี้

นายเซอร์เก ชอยกู รมว.กลาโหมรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียจะยังคงใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารต่อยูเครน จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายหลักในการปกป้องตนเองจากภัยคุกคามของชาติตะวันตก

"สิ่งสำคัญสำหรับเราคือการปกป้องรัสเซียจากภัยคุกคามด้านการทหารจากชาติตะวันตก ซึ่งกำลังพยายามใช้ชาวยูเครนในการสู้รบต่อประเทศของเรา" นายชอยกูกล่าว
การเจรจาโดยตรงระหว่างคณะผู้แทนของรัสเซียและยูเครนเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างทั้งสองประเทศได้สิ้นสุดลงเมื่อวานนี้ โดยไม่ได้ข้อสรุปแต่อย่างใด และทั้งสองฝ่ายจะทำการเจรจารอบต่อไปที่ชายแดนเบลารุสและโปแลนด์ในอีกไม่กี่วัน

ตำรวจสหรัฐคุมเข้มความปลอดภัยในกรุงวอชิงตัน ดีซี ก่อนที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะทำการแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ต่อสภาคองเกรสในวันนี้

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการล้อมรั้วรอบอาคารรัฐสภาสหรัฐเพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำรอยในวันที่ 6 ม.ค.2564 ซึ่งฝูงชนที่สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ราว 2,500 คนได้บุกเข้าไปยังรัฐสภาเพื่อขัดขวางการนับคะแนนของคณะผู้เลือกตั้งที่คาดว่าจะนำไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของนายโจ ไบเดน

นอกจากนี้ นายลอยด์ ออสติน รมว.กลาโหมสหรัฐ ได้อนุมัติการส่งกองกำลังรักษาดินแดนแห่งชาติจำนวน 700 นายเข้าปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยร่วมกับตำรวจประจำรัฐสภาสหรัฐเพื่อรับมือกับ People's Convoy ซึ่งเป็นกลุ่มคนขับรถบรรทุกที่ประท้วงรัฐบาลในการออกมาตรการบังคับการฉีดวัคซีนและสวมหน้ากากอนามัยเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยขบวนรถบรรทุกดังกล่าวกำลังมุ่งหน้าตรงมายังกรุงวอชิงตัน ดีซี

ปธน.ไบเดนเตรียมแถลงนโยบายประจำปีเป็นครั้งแรกต่อสภาคองเกรส ตามคำเชิญของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ท่ามกลางวิกฤตความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและชาติตะวันตกกับรัสเซียในกรณียูเครน

ทั้งนี้ ปธน.ไบเดนจะกล่าวสุนทรพจน์ในวันนี้ (1 มี.ค.) เวลา 21.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับเช้าวันพรุ่งนี้ (2 มี.ค.) เวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย

ขณะเดียวกัน นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในวันที่ 2-3 มี.ค. โดยอาจเป็นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงินต่อสาธารณะเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 15-16 มี.ค.

ทั้งนี้ นายพาวเวลจะกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันที่ 2 มี.ค. และต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันที่ 3 มี.ค. โดยการแถลงทั้งสองวันจะเริ่มขึ้นในเวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 22.00 น.ตามเวลาไทย

การแถลงนโยบายการเงินดังกล่าวจะบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐในปีนี้ ท่ามกลางเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี และเป็นการส่งสัญญาณว่าวิกฤตการณ์ในยูเครนจะส่งผลกระทบต่อการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดหรือไม่ หลังจากที่เจ้าหน้าที่เฟดบางรายระบุว่า เฟดจะนำผลกระทบที่เกิดจากความขัดแย้งในยูเครนเป็นปัจจัยหนึ่งในการพิจารณานโยบายการเงินของเฟด

ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.พ.ในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 415,000 ตำแหน่งในเดือนดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 467,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 150,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.0% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.9%
#2451
ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOTสัญญาธัญพืชยังพุ่งแรง จากปัจจัยรัสเซีย-ยูเครน

ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อวานนี้ (1 มี.ค.) สัญญาสินค้าเกษตรยังคงปรับตัวขึ้น นำโดยสัญญาข้าวสาลี

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 35 เซนต์ หรือ 5.07% ปิดที่ 7.2575 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ หรือ 5.35% ปิดที่ 9.84 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 53.25 เซนต์ หรือ 3.25% ปิดที่ 16.9 ดอลลาร์/บุชเชล

สัญญาธัญพืชตลาด CBOT ยังคงปรับตัวขึ้นโดยได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนซึ่งกระทบการส่งออกธัญพืช โดยตลาด CBOT ปรับตัวตามทิศทางของตลาดโลก ขณะที่มีความต้องการนำเข้าผลผลิตของสหรัฐเพิ่มขึ้น เนื่องจากผลผลิตในอเมริกาใต้ลดลง

AgResource ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยในชิคาโกระบุว่า สัญญาธัญพืชตลาด CBOT ยังคงมีความผันผวน โดยคาดว่าจะยังคงมีรูปแบบตลาดเช่นนี้ต่อไป
#2452
ผู้นำเบลารุสยันไม่ร่วมส่งกองกำลังบุกยูเครนแน่นอน
 

ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโกแห่งเบลารุส เปิดเผยกับสำนักข่าวในประเทศว่า กองกำลังของเบลารุสจะไม่ร่วมมือกับกองทัพรัสเซียเพื่อเข้าบุกยูเครน

ประธานาธิบดีลูคาเชนโก ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับนายวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ระบุว่า "กองทัพเบลารุสจะไม่เข้าร่วมปฏิบัติการทางทหารใด ๆ และไม่เคยเข้าร่วมมาก่อนด้วย"

"เราพิสูจน์คำพูดนี้กับทุกคนได้ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้นำรัสเซียไม่เคยเจรจากับเราในประเด็นที่ชักชวนให้เข้าร่วมทำสงคราม อีกทั้งเรายังไม่มีแผนเข้าร่วมปฏิบัติการพิเศษในยูเครนในอนาคต เพราะไม่มีความจำเป็นอะไรเลยที่ต้องทำแบบนั้น" ปธน.ลูคาเชนโกยืนกราน
อนึ่ง ก่อนหน้านี้หลายฝ่ายวิตกกังวลว่าผู้นำเบลารุสได้เตรียมส่งกำลังทหารเข้าร่วมการสู้รบในกรุงเคียฟ

ซีอีโอ "โตชิบา" ลาออก ท่ามกลางการบริหารที่ขาดเสถียรภาพ

บริษัทโตชิบา คอร์ปของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า นายซาโตชิ สึนาคาวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ได้ลาออกจากตำแหน่งแล้วในวันนี้ ขณะที่บริษัทมีแผนปรับโครงสร้างใหม่ ซึ่งส่งผลให้การบริหารขาดเสถียรภาพ

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายทาโร ชิมาดะ เจ้าหน้าที่บริหารและรองประธานอาวุโสของบริษัท จะเข้ารับมาตำแหน่งแทน

เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา โตชิบาเผยว่า บริษัทเตรียมแบ่งธุรกิจออกเป็น 2 บริษัทมหาชน แทนที่จะเป็น 3 บริษัทตามแผนเดิม หลังแผนปรับโครงสร้างเดิมเผชิญแรงต่อต้านจากกลุ่มผู้ถือหุ้นที่ต้องการราคาหุ้นเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ โตชิบาหวังที่จะได้รับเสียงสนับสนุนส่วนใหญ่สำหรับแผนการปฎิรูปใหม่ที่งานประชุมผู้ถือหุ้นวิสามัญในวันที่ 24 มี.ค.
#2453
เสริมขมับ ลาดพร้าวอาเซียนบิวตี้คลีนิคศัลยกรรมต้นๆของประเทศดูแลทุกปัญหาความสวยสดงดงาม  
ผิวพรรณ ศัลยกรรมตกแต่ง และก็เวชศาสตร์ชะลอวัย พร้อมการดูแลความสวยงาม
เสริมขมับ ลาดพร้าวแบบองค์รวม ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า โดยหมอผู้ที่มีความชำนาญ  
และ คณะทำงานมืออาชีพ 
เสริมขมับ ลาดพร้าวทั้งยังไทยและต่างแดน 


https://bit.ly/3IFkEzH
#2454
ดาวโจนส์พุ่งกว่า 300 จุด ซื้อเก็งกำไรหนุนหุ้นขึ้นยกแผง จับตาถ้อยแถลง 'พาวเวล'

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 300 จุดในวันนี้ โดยหุ้นปรับตัวขึ้นทุกกลุ่ม ขณะที่นักลงทุนพากันช้อนซื้อหุ้นที่ดิ่งลงในการซื้อขายก่อนหน้านี้

ณ เวลา 21.48 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 33,608.55 จุด บวก 313.60 จุด หรือ 0.94%

หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นนำตลาด โดยได้ปัจจัยบวกจากการทะยานขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก โดยสัญญาล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นเหนือระดับ 112 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งเหนือ 113 ดอลลาร์ ขานรับผลการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส

นักลงทุนจับตาวิกฤตการณ์ในยูเครน โดยคณะผู้แทนของรัสเซียและยูเครนจะจัดการเจรจาสันติภาพรอบ 2 ในวันนี้ หลังจากที่การเจรจารอบแรกไม่สามารถบรรลุข้อตกลงแต่อย่างใด

นอกจากนี้ นักลงทุนติดตามถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อสภาคองเกรสในวันนี้

สำนักข่าวหลายแห่งได้ทำการเผยแพร่ล่วงหน้าสำหรับร่างแถลงการณ์ที่นายพาวเวลเตรียมกล่าวต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 22.00 น.ตามเวลาไทย ก่อนที่จะกล่าวต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพรุ่งนี้

ทั้งนี้ นายพาวเวลมีกำหนดกล่าวถ้อยแถลงต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้เพื่อแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และนโยบายการเงินของเฟด ท่ามกลางการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ และวิกฤตการณ์ในยูเครน

สื่อรายงานว่าแถลงการณ์ของนายพาวเวลระบุว่า เฟดจะยังคงทำตามแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แม้ว่าวิกฤตการณ์ในยูเครนได้สร้างความไม่แน่นอนอย่างมากต่อแนวโน้มในอนาคต

นายพาวเวลระบุว่า เงินเฟ้อที่พุ่งสูงและตลาดแรงงานที่ตึงตัวอย่างมากเป็นสาเหตุที่ทำให้เฟดต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

'เราคาดว่าจะเป็นการเหมาะสมที่เฟดจะปรับขึ้นเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมของเราในเดือนนี้ และเฟดจะทำการปรับลดขนาดงบดุลภายในปีนี้ จากปัจจุบันที่ระดับ 8.5 ล้านล้านดอลลาร์'

'ผลกระทบในระยะใกล้ต่อเศรษฐกิจสหรัฐจากการที่รัสเซียรุกรานยูเครน, สงครามที่เกิดขึ้น, มาตรการคว่ำบาตร และเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไป ยังคงมีความไม่แน่นอนอย่างมาก โดยเราจะต้องดำเนินการตามข้อมูลที่ได้รับ และแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงไป' นายพาวเวลกล่าว
อย่างไรก็ดี นายพาวเวลไม่ได้ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วและแรงเท่าใด โดยระบุแต่เพียงว่า เฟดคาดหวังว่าอัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงในปีนี้

นอกจากนี้ นายพาวเวลระบุว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบที่เบาบางลงต่อเศรษฐกิจ ขณะที่การจ้างงานยังคงแข็งแกร่ง และเงินเฟ้อถือเป็นปัจจัยความเสี่ยงที่สำคัญที่สุด

ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 475,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 400,000 ตำแหน่ง

นอกจากนี้ ADP ได้ปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนม.ค.เป็นเพิ่มขึ้น 509,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าลดลง 301,000 ตำแหน่ง

ภาคบริการมีการจ้างงาน 419,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ขณะที่ภาคการผลิตมีการจ้างงาน 56,000 ตำแหน่ง

ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.พ.ในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 415,000 ตำแหน่งในเดือนดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 467,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 150,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.0% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.9%
#2455
IND คว้างานใหม่เกือบ 38 ลบ.หนุน Backlog แตะ 2.11 พันลบ.หวังปีนี้โต 20-25%

นางพรลภัส ณ ลำพูน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (IND) เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามสัญญากับกรมทางหลวง จำนวน 2 โครงการ ซึ่งโครงการแรกเป็นงานสัญญาจ้างวิศวกรที่ปรึกษา สำรวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร ทางหลวงแนวใหม่เชื่อมโยงทางหลวงหมายเลข 2-ทางหลวงหมายเลข 222 อุดรธานี-บึงกาฬ มูลค่าสัญญาประมาณ 24,141,875 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 450 วัน

โครงการที่ 2 ลงนามสัญญาจ้างวิศวกรที่ปรึกษา สำรวจและออกแบบ และบูรณะสะพาน บนทางหลวงหมายเลข 4 ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี สมุทรสงคราม และประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร โดยมีมูลค่าสัญญาประมาณ13,482,535 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 450 วัน รวม 2 สัญญา คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 37,624,410 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

ทั้งนี้ บริษัทได้เข้าร่วมประมูลโครงการใหม่จากภาครัฐ-รัฐวิสาหกิจ และเอกชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายโอกาสการเติบโตทางธุรกิจ และเพิ่มศักยภาพรายได้และกำไรให้เติบโตตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ ซึ่งนับตั้งแต่ต้นปี 65 ถึงปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) รวมทั้งสิ้น 2,109.20 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ทำให้มั่นใจรายได้ในปีนี้เติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 20-25%

"บริษัทมีความพร้อมในทุก ๆ ด้านที่จะรับงานทั้งจากภาครัฐ-รัฐวิสาหกิจ และเอกชน เพื่อต่อยอดธุรกิจที่ดำเนินการอยู่เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ซึ่งบริษัทมีแผนเข้าร่วมประมูลโครงการออกแบบและก่อสร้างเพิ่มอีกกว่า 20 โครงการ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 600 ล้านบาท คาดว่ามีโอกาสได้งานสูงถึง 80%"นางพรลภัส กล่าว
อนึ่ง ที่ผ่านมา บริษัทได้ลงนามสัญญาจ้างวิศวกรที่ปรึกษา สำรวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจรกับกรมทางหลวงไปแล้ว จำนวน 2 โครงการ ประกอบด้วยสัญญาจ้างวิศวกรที่ปรึกษา สำรวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร บนทางหลวงหมายเลข 116 ช่วงบ้านป่าสัก - ตำบลท่าวังพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน และ สัญญาจ้างวิศวกรที่ปรึกษา
#2456
XSpring Digital พร้อมเปิดบริการ Q2/65 รุกธุรกิจนายหน้า-ผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล

บมจ.เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล (XPG) ประกาศรุกตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลเต็มสูบหลังบริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด (XSpring Digital) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ผ่าน License Activation จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อวันที่ 18 ก.พ.65 ที่ผ่านมา ทำให้สามารถให้บริการการเป็นนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างเป็นทางการ

โดยเอ็กซ์สปริง ดิจิทัล เผยความพร้อม 100% รุกตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล เปิดกระดานชู 3 จุดแข็งครองใจนักลงทุนไทยในฐานะผู้ให้บริการแบบ One-Stop Service เจ้าแรกในประเทศไทย พร้อมจับมือพันธมิตรกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่มอบโอกาสการลงทุนที่เหนือกว่า ตั้งเป้าครองส่วนแบ่งตลาด 1 ใน 3 ของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทย และจะกลายเป็นหนึ่งในธุรกิจที่สร้างรายได้หลักแก่กลุ่มบริษัท XPG

ทั้งนี้ เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล คาดว่าพร้อมเปิดให้บริการแพลตฟอร์มการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลแบบครบวงจร ภายในไตรมาสสองของปีนี้ ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน XSPRING ซึ่งรองรับทั้งบนระบบปฏิบัติการ Android และIOS

นางสาววรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการใหญ่ XPG เปิดเผยว่า เอ็กซ์สปริง เห็นโอกาสการลงทุนในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งปัจจุบันถือเป็นหนึ่งสินทรัพย์ยอดนิยมในพอร์ตของกลุ่มนักลงทุนทุกระดับทั้งการลงทุนระยะสั้นและระยะยาว ดังนั้น เราจึงเตรียมแผนพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่งในการนำเสนอโอกาสใหม่ๆ ที่ครอบคลุมการลงทุนทุกรูปแบบให้แก่นักลงทุน ด้วยแพลตฟอร์มที่สามารถเข้าถึงทุกการลงทุนอย่างง่ายดาย ผ่านเอ็กซ์สปริง ดิจิทัล ที่ดำเนินธุรกิจด้านสินทรัพย์ดิจิทัล

ในปีที่ผ่านมานอกจากความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ในฐานะผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล ได้แก่ สิริฮับ โทเคน Real Estate-backed ICO ตัวแรกของไทยที่สามารถระดมทุนได้ถึง 2,400 ล้านบาท และยังถือเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัลเพียงไม่กี่รายในประเทศไทยที่ได้รับ 4 ใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง ได้แก่ 1) นายหน้าซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี 2) นายหน้าซื้อขายโทเคนดิจิทัล 3) ผู้ค้าคริปโทเคอร์เรนซี และ 4) ผู้ค้าโทเคนดิจิทัล

และในวันนี้เอ็กซ์ปริง ดิจิทัลมีความพร้อม 100% หลังจากผ่าน License Activation จากสำนักงาน ก.ล.ต. อย่างเป็นทางการ ทำให้สามารถดำเนินธุรกิจทั้ง 4 ประเภทนี้ได้อย่างเต็มรูปแบบและถูกต้องตามกฎหมาย ด้วยแพลตฟอร์มที่พร้อมรองรับนักลงทุนทุกระดับ พร้อมเดินหน้าเป็นผู้ให้บริการทางการเงินและการลงทุนดิจิทัลแบบ One-stop Service เจ้าแรกในประเทศไทย

XSpring Digital พร้อมบุกตลาดครองใจนักลงทุนด้วย 3 จุดแข็งเหนือคู่แข่ง

การผนึกกำลังพันธมิตรยักษ์ใหญ่ (Partnership) - เอ็กซ์ปริง ดิจิทัล มีพันธมิตรหลากหลายประเภทธุรกิจที่จะช่วยให้ระบบ Ecosystem ครบวงจร ให้สิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่าและตอบโจทย์นักลงทุนทุกระดับ
การเชื่อมต่อกับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก (Global Liquidity) ? เอ็กซ์ปริง ดิจิทัลเชื่อมโยงนักลงทุนสู่ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลกผ่าน Coinbase ทำให้นักลงทุนสามารถลงทุนในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลกได้ซึ่งทำให้การซื้อขายมี High Liquidity สามารถลงทุนได้ในปริมาณมาก อีกทั้งยังสามารถซื้อขายในราคาที่เป็นมาตรฐานระดับเดียวกับตลาดโลกอีกด้วย ช่วยเปิดประตูสู่โลกการลงทุนในต่างแดนให้นักลงทุนได้แบบไร้ขีดจำกัด
แพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลครบวงจร (Convergent Digital Asset Trading Platform) - บริษัทฯ นำเสนอแพลตฟอร์มซื้อขายและแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลกแบบครบวงจร ใช้งานง่าย และมีความมั่นคงปลอดภัยสูง โดยมีระบบ KYC ลูกค้าที่ใช้งานง่าย ระบบการอนุมัติการเปิดบัญชีที่รวดเร็ว ตลอดจน ลูกค้าสามารถลงทุนซื้อขายในตลาดต่างประเทศในสกุลเงินไทยและถอนเงินออกมาเป็นสกุลเงินไทยได้โดยไม่ต้องรอการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนสกุลเงินตราต่างเทศ โดยนักลงทุนสามารถเทรดได้ทั้ง 2 ช่องทางทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชันทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
"จากความพร้อมทุกด้านที่กล่าวมา ทำให้ เอ็กซ์ปริง ดิจิทัลเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการทางการเงินและการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลแบบ One-stop Service เจ้าแรกในไทย ที่นำเสนอบริการทางการเงินและการลงทุนในระบบดิจิทัลแบบครบวงจร นักลงทุนสามารถทำธุรกรรมซื้อขายทั้งคริปโทเคอร์เรนซี และโทเคนดิจิทัลได้ในเจ้าเดียว ครอบคลุมทั้งในตลาดแรกและตลาดรอง เชื่อมต่อ Exchange ทั้งตลาดเงินในไทยและต่างประเทศได้อย่างไร้รอยต่อ ตั้งเป้าส่วนแบ่ง 1 ใน 3 ของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทย ตามแผนที่วางไว้

และจะยังคงเสริมสร้างจุดแข็งในความเป็น Financial Ecosystem ครบวงจร เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทยให้เป็นตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลขนาดใหญ่ระดับภูมิภาคและระดับโลก รวมไปถึงการขยายสินทรัพย์ลงทุนไปยังผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีโอกาสเติบโตสูงต่อไป ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าจะทำให้ เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล เป็นกลุ่มธุรกิจหลักที่สร้างรายได้จำนวนมหาศาลแก่ เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล อย่างชัดเจนในปี 65 นี้" นางสาววรางคณา กล่าว
#2457
ศัลยกรรม แผลเป็น อุบัติเหตุอาเซียนบิวตี้คลีนิคศัลยกรรมต้นๆของประเทศดูแลทุกปัญหาความสวย  
ผิวพรรณ ศัลยกรรมตกแต่ง และเวชศาสตร์ชะลอวัย พร้อมการดูแลความสวยงาม
ศัลยกรรม แผลเป็น อุบัติเหตุแบบองค์รวม ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ  
และก็ ทีมงานมืออาชีพ 
ศัลยกรรม แผลเป็น อุบัติเหตุอีกทั้งไทยและต่างชาติ 


https://bit.ly/3hwVC9Z
#2458
ฉีดหัวหน่าวอาเซียนบิวตี้คลีนิคศัลยกรรมต้นๆของประเทศดูแลทุกปัญหาความงดงาม  
ผิวพรรณ ศัลยกรรมตกแต่ง และเวชศาสตร์ชะลอวัย พร้อมการดูแลความสวยสดงดงาม
ฉีดหัวหน่าวแบบองค์รวม ตั้งแต่หัวถึงปลายตีน โดยหมอผู้เชี่ยวชาญ  
และก็ ทีมงานมืออาชีพ 
ฉีดหัวหน่าวทั้งไทยแล้วก็เมืองนอก 


https://bit.ly/3Kb7niI
#2459
เฮงเค็ลเผยผลประกอบการประจำปี 2564

เฮงเค็ลประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจในปี 2564 ท่ามกลางสภาวะตลาดที่ท้าทาย ยอดขายของกลุ่มบริษัทอยู่ที่ประมาณ 20,100 ล้านยูโร เติบโต 7.8% เมื่อเทียบกับปี 2563

คาร์สเทน โนเบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เฮงเค็ล เปิดเผยว่า "เรามียอดขายสุทธิที่ไม่รวมผลกระทบอื่นๆ ?(organic sales) เติบโตขึ้นในทุกหน่วยธุรกิจ รักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นคงที่ และมีผลกำไรต่อหุ้นบุริมสิทธิ (earnings per preferred share) เพิ่มขึ้นอย่างมาก และนี่คือความสำเร็จของทีมเฮงเค็ลทั่วโลกของเรา เราได้ร่วมกันขับเคลื่อนวาระการเติบโตอย่างมีจุดมุ่งหมายของเรา แม้แต่ในช่วงเวลาที่ท้าทายเช่นนี้ ผมขอขอบคุณพนักงานทุกคนสำหรับการมีส่วนร่วมอย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะพนักงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตและกระบวนการทางธุรกิจที่สำคัญของเราให้สามารถดำเนินการต่อไปได้"

ดีมานด์ในภาคอุตสาหกรรมและร้านทำผมฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและมีผลในเชิงบวกอย่างยิ่ง ในหน่วยธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค ความต้องการสินค้าหลายประเภทกลับมาอยู่ในรูปแบบปกติมากขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2563

หน่วยธุรกิจเทคโนโลยีกาว มียอดขายสุทธิที่ไม่รวมผลกระทบอื่นๆ ?(organic sales) เพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขสองหลัก เติบโต 13.4% ด้วยแรงหนุนหลักจากดีมานด์ในภาคอุตสาหกรรมที่ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19

ยอดขายในหน่วยธุรกิจบิวตี้แคร์เติบโต 1.4% ในขณะที่การฟื้นตัวของธุรกิจร้านทำผมมีผลในเชิงบวก ธุรกิจผู้บริโภคของบิวตี้แคร์ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากความต้องการในหมวดบอดี้แคร์ที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติและมีการเติบโตที่ลดลง

ด้านผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน มียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เติบโต 3.9% โดยมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งทั้งในธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน

ในขณะเดียวกัน ผลกระทบของราคาวัตถุดิบและราคาโลจิสติกส์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตลอดจนผลกระทบของสกุลเงินก็ส่งผลต่อความสามารถในการทำกำไรในปีงบประมาณ 2564 ด้วยปริมาณการขายที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ การขึ้นราคา การจัดการต้นทุนเชิงรุก และการปรับโครงสร้างอย่างต่อเนื่อง ทำให้เฮงเค็ลสามารถชดเชยผลกระทบต่อรายได้เป็นอย่างดี

กำไรจากการดำเนินงานที่ปรับปรุงแล้ว (Adjusted operating profit) เพิ่มขึ้น 4.2% เป็น 2.7 พันล้านยูโร ผลตอบแทนจากการขายที่ปรับปรุงแล้ว (adjusted return on sales) อยู่ที่ 13.4% จากระดับปีก่อนหน้า และกำไรต่อหุ้นบุริมสิทธิที่ปรับปรุงแล้ว (adjusted earnings per preferred share) เพิ่มขึ้นเป็น 4.56 ยูโร ซึ่งสอดคล้องกับการปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญที่ 9.2% ที่อัตราแลกเปลี่ยนคงที่

แนวโน้มสำหรับปีงบประมาณ 2565 ที่เผยแพร่ไปแล้วเมื่อปลายเดือนมกราคม ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อพิจารณาจากความไม่แน่นอนและความผันผวนของตลาดสูง และผลกระทบของการเพิ่มขึ้นอย่างมากในต้นทุนวัตถุดิบและโลจิสติกส์ บริษัทฯ คาดว่ายอดขายสุทธิที่ไม่รวมผลกระทบอื่นๆ ?(organic sales) จะเติบโตในช่วง 2 ถึง 4% และผลตอบแทนจากการขายที่ปรับปรุงแล้ว (EBIT margin) ระหว่าง 11.5 ถึง 13.5% ในระดับกลุ่ม เฮงเค็ลคาดว่ากำไรต่อหุ้นบุริมสิทธิ (EPS) ที่ปรับปรุงแล้วจะอยู่ในช่วงระหว่าง -15 ถึง +5% (ที่อัตราแลกเปลี่ยนคงที่) ในปีงบประมาณ 2565
#2460
พาณิชย์ แถลงตัวเลขส่งออก-นัดถกภาคเอกชน/กกร.ถกผลกระทบยูเครน-รัสเซีย

ประเด็นที่น่าสนใจวันนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย (ส่งออก-นำเข้า-ดุลการค้า) เดือนมกราคม 2565 ตลอดจนประเมินภาพรวมผลกระทบด้านเศรษฐกิจการค้าของไทยจากสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน
นอกจากนี้ในวันนี้ทางกระทรวงพาณิชย์ จะประชุมร่วมกับภาคเอกชน เพื่อประเมินสถานการณ์ และปรับแผนรับมือสถานการณ์ทางการค้าการส่งออกและนำเข้าทั้งในส่วนของ รัสเซีย ยูเครน ยุโรป และอเมริกา

ติดตามการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ซึ่งรอบนี้นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เป็นประธานการประชุม ซึ่งคาดว่าจะมีการประเมินผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจในภาพรวมของไทย ทั้งด้านการค้า ราคาพลังงาน อัตราเงินเฟ้อ ภาคการเงิน การธนาคาร จากเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนว่าจะส่งผลต่อไทยมากน้อยเพียงใด
บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) แถลงข่าว "The new era begins" และผลการดำเนินงาน ในปี 2564
บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) แถลงข่าวออนไลน์ dtac Beyond เผยโฉมบริการใหม่ล่าสุด มาพร้อม "ดีแทค แอป เวอร์ชันใหม่" ค่ายไหนก็ใช้ได้ผลักดันบริการดิจิทัลโตเต็มรูปแบบ
บริษัท อัลฟา เอกซ์ จำกัด (ALPHA X Co., Ld.) หนึ่งในยานลูกของ SCBX แถลงข่าววิสัยทัศน์ กลยุทธ์ และแผนการดำเนินธุรกิจ พร้อมแนะนำทีมผู้บริหารขององค์กร "Alpha X The World of Passionate Experience"
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จัดกิจกรรม Opportunity Day ประกอบด้วย บมจ. ทีซีเอ็ม คอร์ปอรเชั่น (TCMC) บมจ. สยามราชธานี (SO) บมจ. ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี (FPI) บมจ. เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ (MEGA) บมจ. เอสเอเอเอ็ม ดีเวลลอปเมนท์ (SAAM) บมจ. บีอีซี เวิลด์ (BEC) บมจ. บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส (BGC) บมจ. อินฟราเซท (INSET) บมจ. ฟอร์ท สมาร์ท (FSMART) บมจ. เทคโนเมดิคัล (TM) บมจ. ชีวาทัย (CHEWA) บมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) บมจ. อาร์เอส (RS) และ บมจ. เอส พี วี ไอ (SPVI)
สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ ล่าสุดวันนี้กระทรวงสาธารณสุข รายงานว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพิ่มขึ้น 22,197 ราย ผู้ติดเชื้อเข้าข่ายจากผลการตรวจด้วย ATK 17,514 ราย และผู้เสียชีวิต 45 ราย โดยจะมีการให้ข้อมูลรายละเอียดในประเด็นอื่นๆ ที่น่าสนใจเพิ่มเติม จากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)
ประเด็นอื่นๆ ที่น่าสนใจวันนี้ ติดตามแผนการให้ความช่วยเหลือคนไทยในยูเครน จากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ซึ่งมีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือคนไทยในยูเครน โดยล่าสุดมีการอพยพคนไทยกลับมาทางเครื่องบินแล้ว 142 คน แบ่งคณะเดินทางกลับเป็น 2 ชุด ชุดแรกโดยสายการบินไทย 38 คน ถึงไทยเมื่อเช้านี้เวลา 06.25 น. ชุดสองโดยสายการบินเอมิเรตส์ จะถึงไทยเวลา 12.05 น.
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พรรคก้าวไกล เดินทางไปยื่นหนังสือขอเปิดข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับโครงการรถไฟฟ้า ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฝ่ายพิธีการงานเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 100 ปี วันประสูติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ครั้งที่ 1/2565
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการ และติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ณ จังหวัดนราธิวาส