• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Shopd2

#3021
นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet  ชอบหวานน้อย นมเน้นๆ มีแคลเซียม ต้องลอง นมอัดเม็ด milk tablet หลายเจ้าในตลาดมากมาย แต่ทำไมนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletแจ้งเกิดเป็นนมอัดเม็ดดาวรุ่งพุ่งแรง เพราะ ความนัวนม ย้ำว่านัวนมๆจริง และรสชาติหวานน้อย ที่เอาใจคนที่หันมาดูแลตัวเองมากขึ้น รสชาติไม่หวานเลี่ยน การันตีไม่หวานแหลมแสบคอ  นมก็นมแท้ๆแน่นๆ จากนิวซีแลนด์ มี 2 ขนาดให้เลือก 





1.นมอัดเม็ดไทยชอง  milk tablet ขนาด 20 กรัมเป็นรูปซองขวด 1 ซองมี 15 เม็ด ขายปลีกซอง 12 บาท ฮัลโล ไม่แพงน้า รสชาติต้องได้ลอง เลือกคุณภาพ ประโยชน์ และ อร่อยด้วย คุ้มค่า

 

2.นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet ขนาด 27 กรัม ซองสี่เหลี่ยม ตกซองละ 18 บาท 
จะซื้อแบบกล่อง หรือ ซื้อแบบซองก็ได้ แบบกล่องซื้อไปเป็นของขวัญของใกเก๋ไก๋ ดูดีมีราคา เพราะแพคเกจเค้าน่ารักเว่อร์ 
 


นมอัดเม็ด milk tabletเป็นขนมทีมีประโยชน์นะคะ ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพราะนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletใช้นมแท้ๆ คุณภาพดีมาเป็นส่วนผสมหลักที่เข้มข้น ทำให้คนทานได้ แคลเซียมและวิตามินบี 2  ใครที่เน้นดูแลเรื่องกระดูกและฟัน และ ลดหวานเพื่อสุขภาพ แนะนำมากๆ กับนมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet

สั่งซื้อ คลิกเลย >>> https://lin.ee/sSGXFCK 
 
#3022
ข้าวกล้องอินทรีย์ตัวช่วยของคุณแม่ตั้งครรภ์ข้าวหอมมะลิแท้สุรินทร์   ข้าวหอมมะลิออแกนิคส่งทั่วไทย การรับประทาน "#ข้าวกล้อง" (ข้าวหอมมะลิแดงอินทรีย์) นอกจาก ข้าวกล้องหอมมะลินิลอินทรีย์ จะส่งผลดีโดยตรงต่อคุณแม่ตั้งครรภ์แล้วยังส่งผลดีต่อลูกน้อยในครรภ์อีกด้วย ข้าวกล้องออแกนิคถือเป็นหนึ่งในอาหารกลุ่มให้พลังงานต่อร่างกายในการใช้พลังงานต่อวันของเรา คุณแม่ตั้งครรภ์ยังมีความต้องการสารอาหารจาก ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ที่มากกว่าคนปกติ เพราะต้องน้ำสารอาหารที่จำเป็นหลายๆส่วนไปใช้ในการสร้างพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์   ขายข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ถือเป็นตัวช่วยที่ดีมากๆ อีกตัวช่วยหนึ่ง เนื่องจาก ข้าวกล้องเป็นข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี จึงยังคงไว้ด้วยคุณค่าสารอาหารมากกว่าขาวที่ถูกขัดสี มีจมูกข้าว มีเยื่อหุ้มข้าว มีกาบา ซึ่งมีและสารอาหารต่างๆครบ ทั้งโปรตีน วิตามิน เกลือแร่ ซึ่งมีอะไรบ้างมาดูกัน..




1. ปัญหาหลักของคุณแม่ตั้งครรภ์ คือ ภาวะท้องผูก ข้าวกล้องมีเส้นใยอาหาร ซึ่งช่วยในเรื่องของอาการท้องผูกและมะเร็งลำไส้ได้เป็นอย่างดี
ปัญหาต่อมา คุณแม่ตั้งครรภ์ชอบเป็นตะคริว เมื่อคุณแม่รับประทานข้าวกล้องเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ป้องกันการเกิดปากนกกระจอก เนื่องจากมีวิตามินบี 2 บรรเทาอาการอ่อนเพลีย อาการปวดแสบและเสียวในขา ปวดน่อง ปวดกล้ามเนื้อ
2. นอกจากคุณแม่จะทานยาที่คุณหมอให้สริมธาตุเหล็กมา ข้าวกล้องยังมีธาตุเหล็กมากเป็น 2 เท่า ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง จาก  ข้าวปะกาอำปึลอินทรีย์
3. ในข้าวกล้อง  ข้าวมะลินิลออแกนิก มีฟอสฟอรัส ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน และเส้นผมของลูกและคุณแม่ที่ผมร่วงบ่อย
4. ใน  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงปลอดสารพิษ มีแคลเซียมจำเป็นที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับ ช่วยให้กระดูกแข็งแรง และยังช่วยป้องกันการเกิดตะคริว ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์กว่า 90% ต้องเผชิญ ป้องการให้คุณแม่ไม่เป็นโรคกระดูกพรุนเมื่ออายุมากขึ้นอีกด้วย
5. ในข้าวกล้องมีไขมันที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย ในข้าวกล้องเป็นไขมันดีที่ไม่มีคอเลสเตอรอล (Cholesterol)
6. ในข้าวกล้องมีเกลือแร่ และวิตามินรวมกันกว่า 20ชนิด ซึ่งช่วยให้ระบบการทำงานของร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
7. ใน  ปลูกข้าวกล้องหอมมะลินิลออแกนิค มีโปรตีนมากกว่า 20-30% ช่วยเสริมสร้างร่างกาย ซ่อมแซมเซลล์ส่วนที่สึกหรอ
8. ในข้าวกล้องแป้งมีน้อยกว่าข้าวขาว ช่วยลดความอ้วน ส่วนคนที่ผอมก็แข็งแรงยิ่งขึ้น เนื่องจากได้รับสารอาหารต่างๆ ที่มีประโยชน์เพิ่มขึ้น มีผลทำให้สุขภาพจิตใจของคุณแม่ตั้งครรภ์ดีขึ้น เพราะสุขภาพร่างกายแข็งแรง สดชื่น แจ่มใส

เห็นไหมว่าข้าวกล้อง เช่น   ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่ออแกนิค มีคุณค่าและสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายคุณแม่และคุณลูกมากแค่ใหน เวลาเลือกซื้อข้าวกล้อง อย่าลืมเลือกซื้อข้าวกล้องอินทรีย์ เพราะทุกกระบวนการผลิตไม่มีการใช้สารเคมีดีต่อสุขภาพคุณแม่และคุณลูกอย่างปลอดภัย

เพื่อความมั่นใจถึงความเป็นข้าวออร์แกนิค   ข้าวไรซ์เบอรี่ออแกนิคสำหรับทารก  ที่แท้จริงของเรา
ข้าวฮอร์ (HOR)   ปรับเปลี่ยนปลูกข้าวอินทรีย์
ได้รับมาตรฐาน
1. ใบรับรองมาตรฐานข้าวอินทรีย์ ( Organic Thailand)
2. ใบรับรองเครื่องหมาย "ข้าวพันธุ์แท้" จากกรมการข้าว จาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในประเภทของ
2.1 ข้าวขาวดอกมะลิ 105 (ข้าวขาว)
2.2 ข้าวขาวดอกมะลิ105 (ข้าวกล้อง)
2.3 ข้าวมะลินิลสุรินทร์

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์   กลุ่มข้าวอินทรีย์สุรินทร์   สถานการณ์ข้าวอินทรีย์ไทย
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website :  ข้าวปลอดสารสุรินทร์
Facebook : การผลิตข้าวออร์แกนิค
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutique เกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ปลูกข้าวออร์แกนิค  เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ1.  ข้าวหอมมะลิออแกนิคสำหรับทารก
2.  ข้าวกล้องหอมมะลิเกษตรอินทรีย์
3.  ข้าวปะกาอำปึลorganic (#ข้าวพื้นถิ่นสุรินทร์)
4.ข้าวผสมห้าสายพันธุ์อินทรีย์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิค
6.  ข้าวมะลินิลปลอดสารพิษ
7. ข้าวไรซ์เบอร์รี่เกษตรอินทรีย์

ข้าว Hor พร้อมขายแล้วที่ Shopee & Lazada
https://shopee.co.th/hor.boutique
https://www.lazada.co.th/shop/horboutique/

#ข้าวกล้องอินทรีย์ตัวช่วยของคุณแม่ตั้งครรภ์ #ข้าวกล้องสำหรับคนท้อง #ข้าวกล้องสำหรับคุณแม่ตั้งครภ์ #คนท้อง #ตั้งครรภ์ #ตั้งท้อง

 
 
#3023


นายกฤษฏ์ แก้วรักษ์ นายก อบต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร พร้อมเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอท่าแซะ เจ้าหน้าที่กองสารวัตรและกักกัน ได้ออกกำจัดซากสุกรตายและสุกรเป็น ในพื้นที่ตำบลท่าข้าม หลังพบสุกรป่วยตายจำนวนมากมานานกว่า 2 สัปดาห์ จึงต้องเร่งกำจัดสุกรที่ชาวบ้านเลี้ยงตามครัวเรือนและตามฟาร์มต่างๆ ในรัศมีการแพร่ระบาด 3-5 กิโลเมตร

โดยเจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือจากชาวบ้านที่พบมีสุกรป่วยตายให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อทำลายซากและสุกรที่ยังไม่ตายทั้งหมดเพื่อจำกัดวงการแพร่ระบาดที่เป็นไปอย่างรวดเร็วขณะนี้ โดยการใช้รถแมกโครขุดหลุมขนาดใหญ่ตามจุดต่างๆ ที่มีการแพร่ระบาดจำนวน 8 จุด ในพื้นที่หมู่ 5, 7, 10, 13 ของพื้นที่ตำบลท่าข้าม อ.ท่าแซะ เพื่อผังกลบซากสุกรตายและสุกรเป็นที่ถูกกำจัด พร้อมทั้งฉีดยาพ่นฆ่าเชื้อในพื้นที่แพร่ระบาดดังกล่าว โดยในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมีสุกรตายและถูกกำจัดไปแล้วหลายร้อยตัว

สำหรับสุกรป่วยตายดังกล่าวมีการแพร่ระบาดอยู่ในตำบลท่าข้าม อ.ท่าแซะ และตำบลบางหมาก อ.เมืองชุมพร ซึ่งมีสุกรที่ป่วยตายและที่สุกรเป็นที่ต้องถูกกำจัดในรัศมี 3-5 กิโลเมตรของมีการแพร่ระบาด รวมแล้วเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกษตรกรที่เลี้ยงสุกรได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก


นายกฤษฏ์ กล่าวว่า สุกรป่วยตายในพื้นที่ตำบลรับร่อ ประมาณ 2 สัปดาห์แล้ว มีพื้นที่ระบาด 4 หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 7, 5, 10, 13 ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการกำจัดแหล่งแพร่เชื้อในรัศมี 5 กิโลเมตร ซึ่งได้ขอความร่วมมือกับชาวบ้านทุกรายในการกำจัด และขอความร่วมมือชาวบ้านและเจ้าของฟาร์มสุกรอย่าได้ปกปิดข้อมมูลเพื่อจะได้ป้องกันยับยั้งการแพร่ระบาด ซึ่งทุกรายที่ให้ความร่วมมือจะได้รับเงินชดเชยเยียวยาตามหลักเกณฑ์ของทางราชการ


นายกฤษฏ์ กล่าวต่อว่า สำหรับโรคระบาดในสุกรหมู่ดังกล่าวซึ่งตนได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ว่าเข้ามาในพื้นที่อย่างไร ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนโรคเพราะการแพร่ระบาดทราบว่าเข้ามาได้หลายทางทั้งการขนส่ง การซื้อขาย การผสมพันธุ์ แหล่งอาหาร ซึ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างมากอยู่แล้ว แต่ยังมีโรคมาแพร่ระบาดในสุกรอีกถือเป็นการซ้ำเติมชาวบ้านให้เดือดร้อนมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามขอให้ผู้ที่เลี้ยงสุกรและเจ้าของฟาร์มทุกแห่งขอให้เปิดเผยความจริงอย่าปกปิด เพราะกลัวว่ารัฐจะกำจัดทำลายแล้วรีบชิงขายสุกรออกไปซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาลกลามมากขึ้น จึงขอความร่วมมือจากทุกคนด้วย

"ขอฝากไปถึงชาวบ้านและผู้บริโภคเนื้อสุกรด้วย อย่าได้ตื่นตระหนกตกใจ ยังคงซื้อเนื้อสุกรบริโภคได้เหมือนเดิม เพราะไม่มีการเคลื่อนย้ายสุกรออกจากพื้นที่แพร่ระบาดอย่างเด็ดขาด ขอให้มีควรมมั่นใจได้" นายก อบต.ท่าข้าม กล่าว

ด้าน นายอนนท์ บุญล้ำ อายุ 62 ปี ชาวบ้านหมู่ 7 ตำบลท่าข้าม อ.ท่าแซะ กล่าวว่า ลูกสาวตนเพิ่งจะเรียนจบปริญญาตรี แต่ยังไม่มีงานทำจึงกลับมาอยู่บ้านในช่วงระบาดของไวรัสโควิด-19 และได้กู้เงินมาจาก ธ.ก.ส. และสหกรณ์ออมทรัพย์ ลงทุนเลี้ยงหมูจำนวน 24 ตัว ตอนนี้หมูมีน้ำหนักรวมราว 2 ตัน และอีกประมาณ 2 เดือนก็จะขายได้และช่วงนี้หมูมีคาคาดีกิโลกรัมละ 70-80 บาท ทำให้สูญเงินไปเกือบ 2 แสนบาท เงินเยียวยาที่จะได้รับจากทางราชการคงไม่คุ้มทุน จึงอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือเกี่ยวกับหนี้สิ้นที่กูมาจากสถาบันการเงินให้ช่วยลดหย่อนดอกเบี้ยและพักชำระหนี้ไปก่อนสักระยะก่อน หากสถานกาณ์ดีขึ้นก็ว่ากันใหม่

ขณะที่ น.สพ.พิชัย โพธิ์กระสังข์ สัตวแพทย์ชำนาญการ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดชุมพร (ติดต่อโทรศัพท์) กล่าวว่าโรคระบาดในสุกรดังกล่าวคือโรค P R R S หรือ Porcine Reproductive and Respiratory Syndrome เป็นโรคที่ทำให้เกิดกลุ่มอาการทางระบบสืบพันธุ์แทรกซ้อนในสุกร และทางเดินหายใจ มีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ขณะนี้มีการพร่ระบาดในตำบลรับร่อ อำเภอท่าแซะ และตำบลบางหมาก อำเภอเมืองชุมพร ซึ่งที่ผ่านมาเป็นโรคระบาดที่เกิดขึ้นอยู่ก่อนแล้วในหลายจังหวัดของประเทศไทย

น.สพ.พิชัย กล่าวต่อว่า ขอความร่วมมือเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรหากพื้นที่ใดพบสุกรป่วยไม่สบายหรือตายขอให้รีบแจ้งทางเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอทันที เพื่อจะได้เข้าไปกำจัดและป้องการการแพร่ระบาด ซึ่งจะมีการชดเชยเยียวยาให้กับทุกคนอย่าได้ปกปิดข้อมูลเพราะจะส่งผลกระทบในวงกว้างกับผู้เลี้ยงสุกรเอง
#3024


บขส.เตรียมกลับมาเปิดให้บริการเดินรถเส้นทางภาคเหนือ-อิสาน-ใต้ รวม 26 เส้นทางตั้งแต่  1 ก.ย.นี้ โดยจำกัดที่นั่ง 75% คุมเข้มความปลอดภัย ทั้งพนักงาน รถโดยสาร และสถานีขนส่งฯ ตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

นายสัญลักข์  ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (2019) มีมติเห็นชอบมาตรการผ่อนคลายเพื่อป้องกันและควบคุมโควิด-19 ตามระดับพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร โดยยังคงพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด ไว้เช่นเดิม และให้คงมาตรการทางสังคม เช่น การห้ามออกนอกเคหะสถานในเวลา 21.00 - 04.00 น. และในส่วนของการเดินทางข้ามจังหวัดจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ให้ระบบขนส่งสาธารณะจำกัดจำนวนผู้โดยสาร ไม่เกิน 75% นั้น

ในส่วน บขส.นั้นได้สั่งการไปยังทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้ง ฝ่ายธุรกิจเดินรถ และฝ่ายบริหารการเดินรถ เตรียมความพร้อมของรถโดยสาร พนักงาน และสถานีขนส่งฯ ให้สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงคมนาคมและกรมการขนส่งทางบก เพื่อให้พร้อมเปิดให้บริการประชาชน ในวันที่ 1 กันยายนที่จะถึงนี้

สำหรับเส้นทางที่จะเปิดให้บริการ ประกอบด้วย เส้นทางภาคเหนือ จำนวน 8 เส้นทาง คือ กรุงเทพฯ – คลองลาน, กรุงเทพฯ – หล่มเก่า, กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ (ข), กรุงเทพฯ – ทุ่งช้าง, กรุงเทพฯ – อุตรดิตถ์, กรุงเทพฯ – แม่สอด ,  กรุงเทพฯ – แม่สาย และกรุงเทพฯ - ป่าแดด – เชียงของ

เส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก จำนวน 10 เส้นทาง ประกอบด้วย กรุงเทพฯ – หนองบัวลำภู, กรุงเทพฯ – นครพนม,  กรุงเทพฯ - เลย – เชียงคาน, กรุงเทพฯ – สุรินทร์, กรุงเทพฯ – บุรีรัมย์, กรุงเทพฯ – อุบลราชธานี, กรุงเทพฯ – มุกดาหาร, กรุงเทพฯ – รัตนบุรี, กรุงเทพฯ - จันทบุรี – ตราด และกรุงเทพฯ - สระบุรี

เส้นทางภาคใต้ จำนวน  8 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทางกรุงเทพฯ (หมอชิต 2) - ตะกั่วป่า – โคกกลอย, กรุงเทพฯ (หมอชิต 2) – ภูเก็ต, กรุงเทพฯ (หมอชิต 2) – กระบี่, กรุงเทพฯ (หมอชิต 2) - ตรัง – สตูล, กรุงเทพฯ (หมอชิต 2) – เกาะสมุย, กรุงเทพฯ (หมอชิต 2) – หาดใหญ่, กรุงเทพฯ – สงขลา และ กรุงเทพฯ – สุไหงโกลก

กรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. กล่าวว่า ในการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการ ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข D-M-H-T-T-A อาทิ เว้นระยะระหว่างกัน , หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้อื่น , สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา , ล้างมือบ่อย ๆ , ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันไทยชนะ กรณีไม่สามารถใช้แอปพลิเคชันได้ สามารถกรอกข้อมูลตามแบบฟอร์มที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด และหากเคยไปในพื้นที่เสี่ยง หรือสัมผัสใกล้ชิดกับบุคคลในกลุ่มเสี่ยง ขอให้ใช้มาตรการกักตนเอง (Self-quarantine) อย่างเคร่งครัด เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในวงกว้าง

นอกจากนี้ผู้ใช้บริการสามารถจองตั๋วล่วงหน้าเดินทางกับ บขส. ได้ ผ่าน website บขส. https://tcl99web.transport.co.th/Home , ร้าน 7-Eleven เคาน์เตอร์เซอวิส ทุกสาขา หรือตัวแทนจำหน่ายตั๋วของ บขส. และสามารถชำระค่าโดยสาร บขส. โดยใช้สิทธิ์โครงการคนละครี่ง ผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตังค์" ได้ โดยสิทธิ์ดังกล่าวไม่สามารถใช้กับการจองตั๋วล่วงหน้าได้ และไม่สามารถยกเลิก/คืน/เปลี่ยนแปลงตั๋วได้ทุกกรณี สอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติม ได้ที่ ช่องจำหน่ายตั๋วรถโดยสารของ บขส. ทั่วประเทศ และ Call Center1490 เรียก บขส. ตลอด 24 ชั่วโมง
#3025


ที่สนาม แคร์โรว์ โร้ด ประเทศอังกฤษ ในการแข่งขันฟุต.พรีเมียร์ลีก ดูกาล 2021-2022 คืนวันที่ 28 ส.ค.64 ระหว่างทีม 'นอริช ซิตี้' พบกัลทีม 'เลสเตอร์ ซิตี้' เริ่มเกมการแข่งขันในครึ่งเวลาแรก ในนาทีที่ 8 เลสเตอร์ ขึ้นนำ 1-0 จังหวะที่ วิลเลี่ยมส์ มัวแต่ช้าก่อนที่จะโดน เปเรยร่า ฉก.ไปได้แล้วจะกระชากขึ้นมาทางฝั่งขวาแล้วเปิดเข้าไปให้ เจมี่ วาร์ดี้ วิ่งเข้ามายิงเข้าประตูไป ต่อมานาทีที่ 44 นอริช มาได้จุดโทษ จังหวะที่ โซยุนซู ไปเสียบเข้าใส่ทาง ปิแอร์ ลีส์-เมลู ตอนแรกผู้ตัดสินไม่ได้เป่าเป็นลูกโทษ ก่อนจะไปดูจอวีเออาร์แล้วกลับมาให้ลูกโทษกับ นอริช และเป็น ปุ๊กกี้ ที่รับหน้าที่ยิงตีเสมอ 1-1


เริ่มเกมการแข่งขันในครึ่งเวลาหลัง นาทีที่ 76 เลสเตอร์ มาได้ประตูขึ้นนำ 2-1 ในจังหวะที่ วาร์ดี้ ได้.ตรงกลางสนามก่อนที่จะจ่ายออกขวาไปให้ อัลไบรท์ตัน ได้กดด้วยขวา.ไปแฉลบกองหลัง นอริช พุ่งเข้าเสาสองไป ช่วงท้าย นอริช พยายามเปิดเกมรุกเข้าใส่ เลสเตอร์ เพื่อหวังเอาประตูตีเสมอ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเจาะเกมรับของผู้มาเยือนได้ จบเกม เลสเตอร์ บุกมาเฉือนชนะ นอริช 2-1
#3026


กลุ่มเซ็นทรัล ร่วมเคียงข้างคนไทยให้ก้าวผ่านวิกฤตไวรัสโควิด-19 โดยเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงและให้การช่วยเหลือทุกภาคส่วนอย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความรวดเร็ว และทั่วถึง โดยผนึกกำลังบริษัทในเครือและภาคี สนับสนุนและดูแลด้านสาธารณสุขแบบครบวงจร 360 องศา เพื่อให้คนไทยสามารถดำเนินชีวิตได้ปกติท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างไม่ประมาท



พิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า สถานการณ์โควิดมีแนวโน้มว่าจะส่งผลกระทบต่อคนไทยอีกในระยะเวลาหนึ่ง สิ่งสำคัญที่สุดคือการที่คนไทยทุกคนต้องได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึงโดยเร็ว ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่และประเทศเดินหน้าต่อไปได้ กลุ่มเซ็นทรัล จึงให้ความสำคัญกับการส่งเสริมสาธารณสุขอย่างจริงจังในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการบริการสนับสนุนเรื่องพื้นที่ พร้อมอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อการเข้าถึงจุดฉีดวัคซีนได้อย่างสะดวก, มาตรการความสะอาด ปลอดภัย ขั้นสูงสุด, การสนับสนุนงานของบุคลากรทางการแพทย์ และการส่งเสริมการวิจัยยาหรือวัคซีนต้านโรคโควิด-19 โดยแพทย์ไทย เป็นต้น



สำหรับความร่วมมือ ร่วมใจของกลุ่มเซ็นทรัลกับภาคีเครือข่าย ครอบคลุม 4 ด้าน ดังนี้

1.ร่วมมือกับภาครัฐ อาทิ หอการค้าไทย กรุงเทพมหานคร สาธารณสุขประจำจังหวัด และ สำนักงานประกันสังคม ในการจัดตั้งหน่วยบริการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล แบบครบวงจร ทั่วประเทศ
•ต้นแบบพื้นที่ให้บริการฉีดวัคซีนแบบครบวงจร 33 จุดฉีด แบ่งเป็นศูนย์การค้าเซ็นทรัล 24 จุดฉีดทั่วประเทศ, โรบินสันไลฟ์สไตล์ 6 จุดฉีด, ท็อปส์พลาซ่า 1 จุดฉีด, ศูนย์การค้าแพลทฟอร์ม วงเวียนใหญ่ 1 จุดฉีด และจิวเวลรี่ เทรด เซ็นเตอร์ 1 จุดฉีด
•เปิดให้บริการต่อเนื่องนานกว่า 150 วัน ตั้งแต่เดือนเมษายน-สิงหาคม 2564 และยังคงดำเนินการต่อเนื่อง
•บริการฉีดวัคซีนให้ประชาชนคนไทยตามที่ได้รับจัดสรรมากกว่า 1.1 ล้านเข็ม

2.มาตรการเซ็นทรัล สะอาดมั่นใจ
•ผู้นำแผนแม่บทด้านมาตรการความสะอาด-ปลอดภัยให้กับศูนย์การค้าทั่วประเทศตามหลัก D-M-H-T-T-A ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำให้ใช้ในการชะลอการระบาดของ โควิด-19 ย่อมาจาก D : Distancing เว้นระยะระหว่างบุคคล หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้อื่น M : Mask wearing สวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา H : Hand washing ล้างมือบ่อย ๆ จัดให้มีจุดบริการเจลล้างมืออย่างทั่วถึงเพียงพอ T : Temperature ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าใช้บริการ เพื่อคัดกรองผู้ใช้บริการ T : Testing ตรวจหาเชื้อโควิด 19 และA : Application ติดตั้งและใช้แอปพลิเคชัน "ไทยชนะ" และ "หมอชนะ" ก่อนเข้า-ออกสถานที่ทุกครั้ง
•พร้อมสนับสนุนและรณรงค์ให้ทุกคนได้รับวัคซีน ปัจจุบันพนักงานในกลุ่มเซ็นทรัลได้รับวัคซีนแล้วมากกว่า 85% ของพนักงานทั้งหมดทั่วประเทศ

3.สนับสนุนการปฏิบัติงานของด่านหน้า
•สนับสนุนห้องพักในเครือโรงแรมเซ็นทารากว่า 8,856 ห้อง ให้บุคลากรทางการแพทย์
•จัดส่งอาหารในเครือซีอาร์จีให้ผู้ป่วย Home Isolation ในโครงการ Meal for You ร่วมกับ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย, โรงพยาบาลรามาธิบดี และ โรงพยาบาลตากสิน มากกว่า 16,000 มื้อ
•จัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์และอื่น ๆ รวมกว่า 12.9 ล้านบาท อาทิ วัคซีนซิโนฟาร์ม 3,000 เข็ม ห้องความดันลบ 4 ห้อง เครื่องช่วยหายใจสำหรับห้องปฏิบัติการ 3 เครื่อง และยาฟาวิพิราเวียร์ กว่า 25,000 เม็ด เป็นต้น
•สมทบทุนก่อสร้างหอผู้ป่วยสนามเร่งด่วน และจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์

4.ระดมทุนและร่วมสนับสนุนงบประมาณเพื่องานวิจัยโครงการวัคซีนคนไทย เพื่อคนไทย
•ระดมทุนและสมทบทุนการวิจัยวัคซีนและยาเพื่อคนไทยได้เข้าถึงวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้มากกว่า 15.8 ล้านบาท

"กลุ่มเซ็นทรัล ขอเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการทำงานของทุกภาคส่วนโดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ ที่เป็นเสมือนนักรบด่านหน้าในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดในครั้งนี้ พร้อมที่จะรวมสรรพกำลังของธุรกิจในเครือในการสนับสนุนช่วยเหลือให้คนไทยปลอดภัยด้วยการเข้าถึงสาธารณสุข แบ่งเบาภาระให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน พร้อมเคียงข้างคนไทยให้ผ่านพ้นวิกฤต ด้วยความอดทน เข้มแข็ง และร่วมแรงร่วมใจกัน" 
#3027


วันนี้ (27 ส.ค.) ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นไปอย่างค่อนข้างหนักหน่วงในหลายประเทศ จำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดยังคงเป็นอินโดนีเซีย ตามด้วย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ไทย พม่า เวียดนาม กัมพูชา สิงคโปร์ ลาว และบรูไน  อินโดนีเซียนั้น มีจำนวนผู้ติดเชื้อถึงวันที่ 26 สิงหาคม 2564 มากกว่าสี่ล้านคนแล้ว ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตนั้น ก็ยังเป็นอินโดนีเซียที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดคือ 129,293 ราย ตามด้วย ฟิลิปปินส์ พม่า มาเลเซีย ไทย เวียดนาม กัมพูชา สิงคโปร์ ลาว และบรูไน ก่อนหน้านี้หลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ดีมาก หนึ่งในนั้นคือเวียดนาม แต่ขณะนี้สถานการณ์ในเวียดนามนั้นกลายเป็นตึงเครียดไปแล้วจากจำนวนผู้ติดเชื้อในแต่ละวันสูงกว่าจำนวนที่บันทึกไว้ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา

เวียดนามและไทยต่างก็เคยได้รับการชื่นชมและยกให้เป็นแบบอย่างของการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโควิด-19  ในรอบที่ผ่าน ๆ มา รัฐบาลเวียดนามประสบความสำเร็จในการเข้าไปจัดการอย่างเข้มงวด ดูได้จากจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดถึงหลักร้อย ก็สามารถควบคุมจนลดลงมาเป็นศูนย์ได้เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ และเปิดเศรษฐกิจได้เร็วกว่าใครในอาเซียน อย่างไรก็ตามการแพร่ระบาดระลอกใหม่นี้ ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตาเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาและจัดเป็นระลอกที่สี่ของเวียดนาม ทำให้ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เคยเป็นศูนย์อย่างต่อเนื่องนั้น ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นทะลุหลักร้อย หลักพัน และหลักหมื่นในเวลาอันรวดเร็ว โดยในวันที่ 19 สิงหาคม 2564 มีผู้ติดเชื้อเกินหนึ่งหมื่นรายต่อวันเป็นครั้งแรก (10,654 ราย) และจำนวนผู้เสียชีวิตก็เพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน ส่งผลให้รัฐบาลเวียดนามต้องประกาศมาตรการล็อคดาวน์ในนครโฮจิมินห์ พร้อมทั้งคุมเข้มมาตรการต่าง ๆ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ระบาดที่รุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ รัฐบาลได้ทบทวนแผนนโยบายวัคซีนอีกครั้ง เนื่องจากที่ผ่านมาการจัดการวัคซีนของเวียดนามคล้ายแบบของไทย มีการทุ่มทุนวิจัยและทดลองผลิตวัคซีนเป็นของตัวเอง แม้ว่าวัคซีนที่ผลิตเองอาจจะช้ากว่าของต่างประเทศ แต่หากเวียดนามทำสำเร็จ การรอคอยวัคซีนที่ผลิตเองจะเป็นสิ่งที่คุ้มค่ามากกว่า ต่างกับนานาประเทศที่นำเข้าวัคซีนจากต่างชาติ ตอนนี้วัคซีนของเวียดนามได้เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการทดลองกับมนุษย์ แต่เนื่องจากระลอกนี้เป็นการระบาดของเชื้อโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตา ที่แพร่กระจายเชื้อได้รวดเร็วและติดง่ายขึ้น ทำให้เวียดนามเริ่มพิจารณาการนำเข้าวัคซีนจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น

รมว.อว.กล่าวต่อว่า หากมองในมุมเปรียบเทียบระหว่างสถานการณ์ของไทยกับเวียดนามในฐานะที่เคยเป็นประเทศที่ได้รับคำชื่นชมในการบริหารจัดการการแพร่ระบาดนั้น พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันของไทยยังสูงกว่าเวียดนามอยู่มาก แต่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ของไทยนั้นมีแนวโน้มค่อย ๆ ลดลงมา ตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2564 และมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันต่ำกว่าสองหมื่นรายติดต่อกันเป็นวันที่สี่แล้ว แตกต่างจากเวียดนามที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันนั้นยังไม่นิ่งและมีแนวโน้มที่อาจจะสูงขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดนั้น ไทยยังสูงกว่าเวียดนามอย่างชัดเจน โดยไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมจนถึงปัจจุบัน (26 สิงหาคม 2564) จำนวน 1,120,869 ราย เป็นอันดับที่ 31 ของโลก ส่วนเวียดนามนั้นมีผู้ติดเชื้อสะสม จำนวน 392,938 ราย เป็นอันดับที่ 63  

แม้ไทยจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงกว่าเวียดนามกว่าสามเท่าตัวก็ตาม แต่จำนวนผู้เสียชีวิตนั้นต่างกันไม่มาก กล่าวคือไทยมีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสม (26 สิงหาคม 2564) จำนวน 10,314 ราย เป็นอันดับที่ 50 ของโลก ส่วนเวียดนามมีผู้เสียชีวิตสะสม 9,667 ราย เป็นอันดับที่ 52 ของโลก ใกล้ไทยมาก หากสังเกตจากกราฟจะเห็นว่า เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ไทยมีผู้เสียชีวิตสะสม 2,213 ราย แต่เวียดนามมีผู้เสียชีวิตสะสมเพียง 81 รายเท่านั้น ผ่านมาเกือบสองเดือน เวียดนามมีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มขึ้นมากจนเกือบจะเท่าไทย โดยเฉพาะในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม จำนวนผู้เสียชีวิตนั้นพุ่งขึ้นอย่างน่าตกใจ และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลในวันที่ 26 สิงหาคม 2564 นั้น มีมากกว่าไทยแล้ว คือ 194,783 ราย และมีทีท่าว่าอาจจะเพิ่มขึ้นอีกด้วย ส่วนไทยมีผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล 186,934 ราย และมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2564 มาแล้ว หากมองย้อนกลับไปดูจำนวนผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 นั้น เวียดนามมีผู้ป่วยเพียง 10,248 ราย ส่วนไทยมีผู้ป่วยมากกว่าอย่างชัดเจนจำนวน 52,052 ราย

"จะเห็นได้ว่าการบริหารจัดการเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แม้จะมีการล็อคดาวน์ และมาตรการต่าง ๆ เพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อ รวมทั้งการระดมฉีดวัคซีนอย่างรวดเร็วและทั่วถึงแล้วก็ตาม แต่หลาย ๆ ประเทศที่เคยควบคุมสถานการณ์ได้ดี ต่างก็กำลังประสบปัญหาจากการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส โดยจะเห็นได้จากเวียดนามและไทย เป็นต้น ดังนั้น ความสามัคคีและการร่วมมือกันของทุกภาคส่วน ทั้งการปูพรมตรวจหาเชื้อ การทำโรงพยาบาลสนามหรือ Home/ Community Isolation การฉีดวัคซีนอย่างรวดเร็วและทั่วถึง รวมทั้งประชาชนในประเทศที่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ก้าวข้ามสถานการณ์นี้ไปได้" ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าว
#3028


"สุรเชษฐ กองชีพ" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนซัลแทนซี่ จำกัด กล่าวว่า โครงการมิกซ์ยูสที่มีการพัฒนากันอย่างต่อเนื่องนั้น เริ่มเกิดคำถามและความวิตกกังวลกันมากขึ้น ด้วยโครงการขนาดใหญ่และใช้เงินลงทุนมากมายมหาศาลจะเหมาะสมหรือคุ้มค่ากับการลงทุนในช่วงเวลานี้หรือไม่

"แนวโน้มโครงการมิกซ์ยูส คาดว่าจะลดความร้อนแรง และมีจำนวนโครงการลดลง ยกเว้นอาคารที่มีการใช้ประโยชน์มากกว่าหนึ่งประเภทจะยังคงมีการพัฒนาโครงการใหม่ต่อเนื่อง เพียงแต่ช่วง 1-2 ปีนี้อาจมีจำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับก่อนหน้า ยกเว้นจะเป็นโครงการที่อยู่ในทำเลที่ดี มีศักยภาพ หรือมิกซ์ยูสที่ก่อสร้างไปแล้ว"

ทั้งนี้ หลังเกิดวิกฤติโควิด-19 จะเห็นว่า แนวโน้มการใช้พื้นที่สำนักงานเริ่มลดความสำคัญลง! ฉะนั้นการพัฒนาอาคารสำนักงานจึงกลายเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังและต้องทบทวนแผนในระยะยาว หลายอาคารสำนักงานรวมไปถึงมิกซ์ยูสบางโครงการที่ยังไม่ได้เริ่มการก่อสร้างจึง "ชะลอ" การก่อสร้างออกไปก่อน

รวมถึงส่วนที่เป็นพื้นที่ค้าปลีก จากภาพชัดเจนว่าปัจจุบันคนไทยหันมาใช้ช่องทางออนไลน์ในการซื้อสินค้ามากขึ้น แม้จะยังไม่เทียบเท่ากับบางประเทศ แต่ก็เห็นทิศทางแล้วว่าพื้นที่ค้าปลีกในอนาคตอาจจะมีเพื่อเป็นโชว์รูมแสดงสินค้าหรือรับสินค้าเท่านั้น ร้านค้าต่างๆ อาจจะมีพื้นที่เล็กลงก็เป็นไปได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ในมุม "เจ้าของโครงการ" และ "นักลงทุน" อาจมองอีกแบบเพราะ "มิกซ์ยูส" ถือเป็นการลงทุนในระยะยาว จึงไม่ได้คาดหวังว่าโครงการจะประสบความสำเร็จในระยะเวลาอันสั้น บางโครงการวางกรอบเวลาในการคืนทุนไว้มากกว่า 10 ปี ระหว่างที่เปิดให้ดำเนินการก็ยังต้องมีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาหรือปรับปรุงโครงการอีกด้วย ดังนั้น ผู้ประกอบการเจ้าของโครงการและนักลงทุนที่ลงทุนในโครงการมิกซ์ยูสจึงยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการต่อเนื่อง อาจมีชะลอบ้างในโครงการที่ยังไม่ได้เริ่มการก่อสร้างเท่านั้น!

สุรเชษฐ ระบุว่า มิกซ์ยูสในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่มีพื้นที่สำนักงานเป็นส่วนหนึ่งของโครงการทั้งสิ้น โดยพื้นที่สำนักงานที่จะเกิดขึ้นในอนาคตตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2564-2567 มีราว 2 ล้านตร.ม. เป็นพื้นที่สำนักงานที่อยู่ในโครงการมิกซ์ยูสมากถึง 1.65 ล้านตร.ม.หรือประมาณ 83% ของพื้นที่สำนักงานที่กำลังก่อสร้างในกรุงเทพฯ

สำหรับพื้นที่ค้าปลีกประมาณ 67% ของที่กำลังก่อสร้างในปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของโครงการมิกซ์ยูส ส่วนที่เป็นโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเม้นต์ และคอนโดมิเนียม มีจำนวนไม่มากนักเทียบพื้นที่สำนักงานและพื้นที่ค้าปลีก

"กรรมสิทธิ์บนที่ดินและขนาดของที่ดินมีส่วนในการกำหนดรูปแบบการพัฒนาโครงการเช่นกัน หากเป็นที่ดินเช่าระยะยาวไม่ว่าจะ 30 ปี หรือ 75 ปีจากเจ้าของที่ดินที่มีทั้งหน่วยงานราชการ หรือสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และเอกชนต่างๆ รูปแบบของโครงการที่เกิดขึ้นจะเป็นโครงการที่เก็บรายได้จากค่าเช่าหรือขายแบบสัญญาเช่าที่มีกำหนดระยะเวลาในการถือครองกรรมสิทธิ์ทั้งหมด"

ยกตัวอย่าง โครงการสามย่านมิตรทาวน์ซึ่งมีส่วนของคอนโดมิเนียมที่ขายแบบสัญญาเช่าระยะยาว ดังนั้น เมื่อเช่าที่ดินขนาดใหญ่มากจึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาโครงการให้สอดคล้องกับศักยภาพและกรรมสิทธิ์บนที่ดิน การเช่าที่ดินในระยะยาวในทำเลใจกลางเมืองเพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เป็นที่สนใจของนักลงทุนจำนวนมาก เนื่องจากลดค่าใช้จ่ายในการซื้อที่ดินไปได้ส่วนหนึ่งแต่สัญญาเช่าต้องยาวนานเพียงพอต่อการทำกำไรเมื่อโครงการแล้วเสร็จ

ที่ดินแปลงใหญ่ใจกลางเมืองจึงมีการเปิดให้เอกชนเช่าเพื่อพัฒนามิกซ์ยูสขนาดใหญ่ใจกลางเมือง ซึ่งมีการใช้ประโยชน์หลากหลายมากกว่า 1 ประเภท ปัจจุบันอาจมีไม่มากนัก โครงการที่เป็นที่รู้จักและอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง อาทิ วัน แบงค็อก, พาร์ค สีลม และ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ซึ่งทั้ง 3 โครงการอยู่บนที่ดินเช่าระยะยาว

สำหรับ มิกซ์ยูส ที่เป็นอาคารเดี่ยว หรือ 2 อาคาร ที่ไม่ได้เป็นโครงการขนาดใหญ่นักมีอยู่หลายอาคารเช่นกัน อาทิ เอส โอเอซิส ของ สิงห์ เอสเตท, เดอะยูนิคอร์น ของยูนิซิตี้ และ หมอชิตแลนด์ของบีทีเอส เป็นต้น อาคารเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่สำนักงานที่มีส่วนหนึ่งเป็นโครงการพื้นที่ค้าปลีก ซึ่งอาจจะมีทั้งพื้นที่ค้าปลีกขนาดใหญ่ 3,000-4,000 ตร.ม. รูปแบบใกล้เคียงกับศูนย์การค้า และบางอาคารมีพื้นที่ค้าปลีกไม่เกิน 1,000 ตร.ม. เพื่อสนับสนุนคนที่เข้ามาใช้อาคารเท่านั้น อาคารมิกซ์ยูสรูปแบบนี้กระจายอยู่ในหลายพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ

"3-4 ปีที่ผ่านมา เส้นทางรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายกระจายออกไปในหลายพื้นที่ ผู้ประกอบการหรือเจ้าของที่ดินที่มีศักยภาพจึงเลือกที่จะพัฒนาอาคารสำนักงานที่มีพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นพื้นที่ค้าปลีก ซึ่งเจ้าของที่ดินหลายแปลงเป็นกลุ่มของนักลงทุนหรือมีความสามารถในการพัฒนาโครงการอสังหาฯ อยู่แล้ว"

อย่างไรก็ดี การบริหารจัดการโครงการมิกซ์ยูสบางแห่งขณะนี้เข้าไปอยู่ในทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือกองรีท (REIT) เป็นการลดความเสี่ยงและสามารถนำเงินที่ได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์มาหมุนเวียนเพื่อพัฒนาโครงการใหม่ต่อไปได้ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของเจ้าของโครงการและอาคารมิกซ์ยูสต่างๆ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและไม่ต้องการหยุดพัฒนา หรือยกเลิกโครงการ
#3029


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดการประมูลสุดยอดกาแฟ รางวัลถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ว่า กาแฟเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจสำคัญของไทย มีมูลค่าการค้ากว่า 33,000 ล้านบาท เมื่อพูดถึงทิศทางของตลาดกาแฟไทยในปัจจุบันพบว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ไทยมีความต้องการใช้เมล็ดกาแฟเฉลี่ยที่ 88,862 ตันต่อปี แต่สามารถผลิตเมล็ดกาแฟดิบได้เฉลี่ยเพียง 24,671 ตันต่อปี หรือประมาณ 28% ของความต้องการใช้เมล็ดกาแฟเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอกับความต้องการบริโภคในประเทศ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมกาแฟไทยยังมีโอกาสเติบโตต่อไป หากเกษตรกรไทยสามารถเพิ่มผลผลิตที่มีคุณภาพ และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในประเทศหลายกลุ่มที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟ และพร้อมจะทดลองรสชาติใหม่ๆ

 นอกจากนี้ ด้านตลาดต่างประเทศนั้น กาแฟไทย ถือว่าเป็นกาแฟที่มีคุณภาพดี ไม่เป็นรอง ปัจจุบัน เรามีตลาดส่งออกเมล็ดกาแฟดิบที่สำคัญ คือ แคนาดา ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา และมีตลาดส่งออกกาแฟคั่วที่สำคัญ คือ กัมพูชา มาเลเซีย และฮ่องกง โดยที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ ได้ทำงานร่วมกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด เพื่อผลักดันการส่งออกให้กับผู้ประกอบการไทยอย่างต่อเนื่องในทุกสินค้าที่มีศักยภาพ แม้สถานการณ์โควิด-19 จะทำให้การบริโภคกาแฟในภาพรวมลดลง แต่เมื่อมองแนวโน้มและพิจารณาตลาดกาแฟในระยะยาวแล้ว ผมเชื่อว่าสินค้ากาแฟยังคงมีโอกาสทางการตลาดสูงทั้งในประเทศและต่างประเทศ



"ปีนี้ก็อีกเป็นปีหนึ่งที่มีการจัดงานนี้ขึ้นซึ่งผมขอถือโอกาสนี้แสดงความยินดีกับเกษตรกรทุกท่านที่ชนะการประกวดและได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณสูงสุด และเป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่งและขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่ได้รับการคัดเลือกให้นำเมล็ดกาแฟเข้าร่วมประมูล ซึ่งต้องบอกว่าเมล็ดกาแฟไทยทุกรายการที่นำมาประมูลมีคุณภาพสูง มีเอกลักษณ์ทั้งด้านกลิ่นและรสชาติ พิเศษกว่าเมล็ดกาแฟระดับพรีเมียมทั่วไป เพราะเป็น Specialty Coffee ที่ได้รับคะแนน Cupping จากผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟทั้งของไทยและระดับโลก 80 คะแนนขึ้นไป จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน"นายจุรินทร์ กล่าว

นายกีรติ รัชโน ระบุด้วยว่า งานในวันนี้ ได้รับความสนใจจากหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร สมาคม โรงคั่วกาแฟ ร้านกาแฟ กลุ่มนักบริโภคกาแฟยุคใหม่ รวมทั้งสิ้นกว่า 1,500 ราย โดยราคาเปิดประมูลเมล็ดกาแฟโรบัสตา จำนวน 10 รายการ เริ่มต้นที่ กิโลกรัม(กก.)ละ 150 บาท เคาะราคาประมูลสูงสุดที่ 20,000 บาทต่อกิโลกรัม สำหรับเมล็ดกาแฟอะราบิกา จำนวน 30 รายการ ราคาประมูลเริ่มต้นที่ กิโลกรัมละ 200 บาท เคาะราคาสูงสุดที่ 6,400 บาทต่อกิโลกรัม ในภาพรวมสามารถสร้างมูลค่าได้สูงกว่าราคาตลาดปกติโดยเฉลี่ยถึง 60 เท่า ซึ่งรายได้ที่ได้จากการประมูลทั้งหมด จะจ่ายตรงให้กับเกษตรกรโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น โดยเมล็ดกาแฟที่ประมูลราคาสูงสุดพันธุ์อะราบิกาเป็นของนายฉิ่ง แซ่ท้าว เกษตรกรจังหวัดน่าน 6,400 บาทต่อกก. และเมล็ดกาแฟพันธุ์โรบัสตา ของนายธนาสิทธิ์ สอนสุภา เกษตรกร จ.ชุมพร เคาะราคาประมูลที่ 20,000บาทต่อกก.
#3030


บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด ร่วมกับ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ระหว่างร้านอินทนิลกับสินค้า Puff & Pie ร่วมพัฒนาแผนธุรกิจเพื่อการจัดจำหน่ายทั้งในรูปแบบ Grab & Go และ Shop in Shop รวม 50 สาขาภายในปีนี้ และตั้งเป้าขยายให้ครบ 100 สาขาภายปีหน้า โดยมีนายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมด้วย นางวรางคณา ลือโรจน์วงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หน่วยธุรกิจการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ในพิธีลงนามออนไลน์ เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2564

นายเสรี อนุพันธนันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด กล่าวว่า ร้านอินทนิลเป็นมากกว่าร้านกาแฟ และไม่ได้ต้องการจำหน่ายเพียงเครื่องดื่ม ดังนั้นจึงมองหาพันธมิตรใหม่ๆ ที่จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้อินทนิลเป็นร้านที่ลูกค้าสามารถอิ่มอร่อยในมื้อง่ายๆ ได้ด้วยเบเกอรีคุณภาพที่ทุกคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี ในราคาที่เป็นมิตรต่อลูกค้าทั้งระดับ Mass ถึง Premium Mass โดยในอนาคตเรามองถึงการขยายสู่อาหารพร้อมรับประทานในสาขาที่เหมาะสม และ Puff & Pie จากครัวการบินไทยก็เป็นพันธมิตรที่ตอบโจทย์เป้าหมายนี้ของอินทนิลได้เป็นอย่างดี ทั้งเรื่องของ Product และ Operation โดยความร่วมมือในเฟสแรกจำนวน 15 สาขา

ปัจจุบันร้านอินทนิลเปิดให้บริการมาแล้วมากกว่า 700 สาขาทั่วประเทศ ทั้งในและนอกสถานีบริการน้ำมันบางจาก โดยที่ผ่านมาอินทนิลได้ส่งมอบประสบการณ์ดีๆ ผ่าน 5 Good Experiences Strategy ทั้ง Good Taste / Good Service / Good Design / Good Health และ Good Society โดยในด้าน Good Taste อินทนิลเลือกเสิร์ฟกาแฟคุณภาพให้ลูกค้า ด้วยเมล็ดกาแฟอะราบิกาแท้ 100% สำหรับกลุ่ม Coffee และมีโกโก้อินทนิลที่เข้มข้นถูกใจมหาชน จนเป็น Hero Product ในกลุ่ม Non Coffee อยู่แล้ว

นายสมัชชา ศรีทองสุข กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายครัวการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าบางจาก รีเทลได้มอบความไว้วางใจให้ฝ่ายครัวการบินไทยนำสินค้า Puff & Pie ทดลองวางจำหน่ายในร้านอินทนิลตั้งแต่ปี 2563 ที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี จึงได้พัฒนาความร่วมมือโดยมุ่งเน้นการใช้จุดแข็งและศักยภาพของทั้ง 2 แบรนด์ในการต่อยอดธุรกิจสู่การจำหน่ายผ่านร้านอินทนิลในรูปแบบ Grab & Go เพิ่มเป็น 13 สาขา และในรูปแบบ Shop in Shop ที่ร้านอินทนิลสาขาสถานีบริการน้ำมันบางจาก ถนนบรมราชชนนี กม.10 และสาขา Summer Point สุขุมวิท อีก 2 สาขา รวมเป็น 15 สาขาในปัจจุบัน

ในอนาคต Puff & Pie มีแผนจะขยายการจัดจำหน่ายในร้านอินทนิลให้ครอบคลุมสาขาในทุกพื้นที่ รวมถึงพัฒนาสินค้าพิเศษสำหรับร้านอินทนิล และรายการส่งเสริมการขายพิเศษร่วมกันอีกด้วย ทั้งนี้ สินค้า Puff & Pie ที่จำหน่ายในร้านอินทนิลเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยม เช่น ชิกเกนโรล, ครัวซองต์ไส้กรอก, ครัวซองต์แฮมชีส, พายสับปะรด, เดนิสครีมเพสตรี เป็นต้น
#3031


นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ "ทิศทางพลังงานไทยกับเป้าหมายลดการปล่อย CO2" ในงานสัมนาทิศทางพลังงานไทย จะไปสู่เป้าหมาย Net Zero อย่างไร? โดยรัฐบาลมีแผนการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งเป้าหมายที่ชัดเจนคือจะเริ่มจากการส่งเสริมให้เกิดการผลิตรถ EV ในสัดส่วน 30% ภายในปี ค.ศ. 2030  


ทั้งนี้หลังจากที่คณะทำงานเรื่องยานยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลได้ทำงานมาระยะหนึ่งในเดือน ก.ย.จะมีความชัดเจนเรื่องของมาตรการสนับสนุนทั้งในเรื่องมาตรการภาษีและมาตรการส่งเสริมที่ไม่ใช่ภาษีซึ่งมาตรการนี้จะช่วยจูงใจทั้งผู้ผลิต และผู้ใช้รถให้มีความสนใจในการใช้รถ EV มากขึ้น 

"การออกมาตรการมาสนับสนุน EV จะเป็นการนำร่องออกมาโดยไม่ต้องรอให้ตลาดมีความต้องการที่ชัดเจนมากแต่มาตรการที่ออกมาจะจูงใจ ควบคู่ไปกับการวางโครงสร้างพื้นฐานต่างๆให้มีความพร้อมรองรับรถ EV มากขึ้น"


นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวด้วยว่าว่ารัฐบาลมีเป้าหมายที่สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาพลังงานสะอาดและการลดการปล่อยคาร์บอนไดร์ออกไซด์ (CO2) ที่สอดคล้องกับทิศทางของนานาชาติ โดยในแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP) ฉบับล่าสุดได้มีการกำหนดสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดไว้ที่ 50% ของกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม


โดยได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ไปกำหนดแผนและรายละเอียดต่างๆแบ่งเเป็นแผนระยะ 5 ปี และ 10 ปี โดยแผนนี้จะต้องสอดคล้องกับแผนลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของไทยให้เป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ. 2065 - 2075 ที่เป็นช่วงเวลาที่ประเทศไทยประกาศเป็นเป้าหมายในการลด CO2 ให้เป็นศูนย์ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) กล่าวว่าการทำแผนปฏิบัติการเพื่อลดการปล่อย Co2 จะต้องมีการปรับลดการผลิตไฟฟ้าด้วยเชื้อเพลิงฟอสซิล การเพิ่มพลังงานหมุนเวียน การส่งเสริมรถ EV รวมทั้งการทำแผนการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ โดยแผนนี้ สนพ.อยู่ระหว่างการจะนำแผนไปรับฟังความคิดเห็น และจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายแห่งชาติ (กพช.) ในปีหน้า โดยเป็นหนึ่งใน 5 แผนที่อยู่ในแผนทั้งหมดของแผนพลังงานชาติที่จะมีการนำเสนอต่อไป  

โดยการลงทุนในเรื่องของพลังงงานสีเขียวจะมีผลต่อการฟื้นเศรษฐกิจภายหลังโควิด-19 โดยต้องคำนึงถึงพลังงานสะอาด ความมั่นคงเรื่องพลังงาน และเรื่องของการรักษาเสถียรภาพค่าไฟฟ้าที่ไม่กระทบกับต้นทุนของธุรกิจ และค่าครองชีพประชาชนในระยะยาว 

"แผนพลังงานชาติจะเน้นในเรื่องของพลังงานสะอาด แผนเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน การสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมในเขตเมือง โดยในช่วงการเปลี่ยนผ่านยังเป็นการใช้ก๊าซธรรมชาติที่เป็นเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดร์ออกไซด์ต่อที่สุด"
#3032


การแข่งขันกีฬา "พาราลิมปิก โตเกียว 2020" ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ซึ่งเป็นการชิงชัยวันสองของมหกรรม ไฮไลต์ของทัพนักกีฬาไทยอยู่ที่การล่าเหรียญทองของ "แวว" สายสุนีย์ จ๊ะนะ นักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบสาวไทยวัย 47 ปีชาว จ.เชียงใหม่ ลงแข่งขันประเภทที่สองของตัวเองในวีลแชร์ฟันดาบ ประเภทดาบเอเป้ บุคคลหญิง ซึ่งสายสุนีย์ มีดีกรีเคยคว้าเหรียญทองมาแล้ว 2 สมัย ในพาราลิมปิก 2004 และ 2012 ส่วนเมื่อ 5 ปีที่แล้วที่ประเทศบราซิล สายสุนีย์ คว้าเหรียญเงิน ในประเภทนี้มาครอง

รอบแรก สายสุนีย์ ที่มีดีกรีเป็นถึงนักวีลแชร์ฟันดาบหญิงเบอร์ 1 ของโลกประเภทเอเป้ คลาสบี ลงแข่งแบบพบกันหมดในกลุ่ม 6 แมตช์ 

แมตช์แรก สายสุนีย์ เผชิญหน้ากับ กีออนกี ดานี่ จากฮังการี่ ปรากฏว่า นักดาบสาวไทยเอาชนะสบาย 5-0 คะแนน ต่อด้วยแมตช์ที่สอง สายสุนีย์ เอาชนะ เอลเลน เก็ตเดส จากสหรัฐฯ 5-0 คะแนน 

แมตช์ที่สาม นักฟันดาบเบอร์ 1 โลกชาวไทย เอาชนะ โอเลน่า เฟโดต้า วัย 35 ปีจากยูเครน ปรากฏว่า 5-2 คะแนน แมตช์ที่สี่ สายสุนีย์ เอาชนะ โรซาน่า พาสคิวโน่ วัย 38 ปีจากอิตาลี 5-3 คะแนน

แมตช์ที่ห้า สายสุนีย์ เจอกับ เทียน ซู เหม่ย จากจีน ที่เอาชนะสายสุนีย์ มาในประเภทเซเบอร์ รอบ 8 คนสุดท้ายเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา และเป็นนักดาบสาวจีน ย้ำแค้นเอาชนะ สายสุนีย์ไป 5-1 คะแนน แมตช์สุดท้ายรอบแรกแบบพบกันหมด สายสุนีย์ พบกับ วาซิเลว่า ลูดมิล่า นักกีฬาทีมผู้อพยพชาวรัสเซีย ผลปรากฏว่า สายสุนีย์ พ่ายไป 4-5 คะแนน

สรุปการลงสนามรอบแรกแบบพบกันหมด ของสายสุนีย์ แข่ง 6 แมตช์ ชนะ 4 แมตช์ แพ้ 2 แมตช์ ผ่านเข้าสู่รอบ 16 คนสุดท้ายต่อไป ซึ่งสายสุนีย์ ทำผลงานดีในรอบแรกทำให้ได้บายในรอบ 16 คนสุดท้าย เข้ารอบ 8 คนสุดท้ายทันที โดย สายสุนีย์ จะพบกับ อเลสเซีย มาคริซสกาย่า วัย 35 ปีจากเบลารุส ในเวลา 13.10 น. ตามเวลาเมืองไทย

ร่วมส่งแรงใจเชียร์นักกีฬาพาราลิมปิกทีมชาติไทยสู้ศึก "พาราลิมปิกเกมส์ 2020" ระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม- 5 กันยายน 2564 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ผ่าน AIS PLAY และสถานีทีวีกีฬา ทีสปอร์ต (T-SPORTS CHANNEL) ช่องทีวีดิจิตอลหมายเลข7
#3033
ข้าวออร์แกนิกเมืองสุรินทร์ ข้าวปลอดสารเคมีสุรินทร์  ข้าวหอมมะลิปลอดสารพิษส่งทั่วไทย #ข้าวออแกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิก หรือ "#ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (#OranicRice)
ข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก (#OranicFood) หรือเรียกง่ายๆเป็นภาษาไทยว่า "ข้าวเกษตรอินทรีย์" หรือ "ข้าวอินทรีย์" /ข้าวมะลินิลอินทรีย์ คือ ข้าวที่ผ่านการผลิตทางการเกษตรโดยไม่ใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี หรือวัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น (รวมไปถึงเมล็ดพันธุ์ ข้าวที่ไม่ตัดต่อทางพันธุกรรม) กระบวนการผลิตข้าวไม่มีการใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช ก่อนการปลูกข้าวจะต้องเตรียมหน้าดินก่อนด้วยวิธีธรรมชาติ ทุกขั้นตอนการผลิตข้าวจะไร้สารปนเปื้อนที่เกิดมนุษย์ จะไม่ผ่านการฉายรังสี ไม่เพิ่มเติมสิ่งปรุงแต่งลงไปในข้าว 




ข้าวหอมมะลิorganicข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก หรือ "ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (Oranic Rice)   ข้าวกล้องหอมมะลิเกษตรอินทรีย์ คืออะไร?
1. ส่วนประกอบทุกอย่างล้วนมากจากธรรมชาติ โดยข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารสังเคราะห์ใด ๆ ในการเพาะปลูก  ข้าวปะกาอำปึลเกษตรอินทรีย์เลย ข้าวก็จะถูกปลูกและเจริญเติบโตมาด้วยอาหารจากธรรมชาติล้วน ๆ ส่วนข้าวก็จะเป็นการปลูกในนา ไม่ใส่วัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยวิทยาศาสตร์ และสารเคมีหรือยาฆ่าแมลง ใช้แต่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกจากธรรมชาติในการเพาะปลูกข้าว ส่วนเมล็ดพันธุ์ข้าวที่นำมาเพาะปลูกจะต้องไม่มีตัดต่อพันธุกรรม และต้องมีการเตรียมหน้าดินก่อนการเพาะปลูกข้าวด้วยวิธีธรรมชาติ คือ จะต้องทำให้ปลอดสารพิษไม่น้อยกว่า 3 ปี เหล่านี้จึงเรียกได้ว่าเป็นการสร้างอาหารแบบธรรมชาติอย่างแท้จริง 100% มีกลิ่นหอมตามแบบธรรมชาติ ทุกขั้นตอนในการปลูกข้าวและการแปรรูปข้าวจะต้องอยู่ในมาตรฐานที่ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานต่าง ๆ ส่วนประกอบทุกอย่างจึงสะอาดบริสุทธิ์ ไม่มีสารพิษตกค้างหรือสารก่อมะเร็ง
2. ข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารเคมีใด ๆ เลย ส่วนประกอบทุกอย่างจะต้องมาจากธรรมชาติ เพราะถ้ามีการใช้สารเคมีก็จะไม่ถือว่าเป็นข้าวออแกนิค ซึ่งการไม่ใช้สารเคมีที่ว่านั้นหมายถึง การไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี 
3. ไม่ก่อให้เกิดมลพิษในกระบวนการปลูก ข้าวหอมมะลิแดงออร์แกนิค เพราะข้าวออแกนิคนั้น นอกจากจะมุ้งเน้นให้ผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดีแล้ว จุดประสงค์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือการช่วยลดมลพิษให้กับธรรมชาติ เพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการใช้สารเคมีต่าง ๆ เช่น ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี หรือสารเร่งการเจริญเติบโตต่าง ๆ นั้นจะก่อให้เกิดสารพิษตกค้างในดิน ในน้ำ และในอากาศ ซึ่งกว่าจะย่อยสลายไปได้บางทีก็อาจใช้ระยะเวลาเป็นสิบ ๆ ปี ซึ่งวิธีการปลูก  ข้าวกล้องหอมมะลินิลออร์แกนิค แบบธรรมชาตินี้เองจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยฟื้นฟูธรรมชาติที่เสียไป เพราะนอกจากจะได้รับประทานข้าวที่ปลอดสารพิษแล้ว ยังช่วยลดมลพิษต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์   ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออร์แกนิก
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : https://xn--22c6bf3bcuv6dva2b1ntb.com/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.  ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์
2.  ข้าวกล้องหอมมะลิเกษตรอินทรีย์สุรินทร์
3.  ข้าวปะกาอำปึลออแกนิก
4.  ข้าวผสมหลายสายพันธุ์ปลอดสารเคมีสุรินทร์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออร์แกนิค6.  ข้าวกล้องหอมมะลินิลออแกนิค7.  ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่ออแกนิค


#ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์  #ข้าวออแกนิคสุรินทร์  #ข้าวออแกนิกสุรินทร์   #ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  #ข้าวสุขภาพสุรินทร์
 

 

 

 

 

 

 
 
#3034


นายอาชว์ชัยชาญ เลี้ยงประยูร อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า ปัจจุบัน กรมการข้าวอยู่ระหว่างดำเนินโครงการเพิ่มศักยภาพและปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธุ์ของศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวขึ้น วงเงิน 1,601 ล้านบาท  เพื่อยกระดับการผลิตเมล็ดพันธุ์จากเดิม กรมการข้าวสามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ได้ 86,000 – 96,000 ตัน ให้สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีก 34,000 ตัน รวมได้เป้าหมายการผลิตใหม่เป็น 120,000 ตัน

 แผนการดำเนินงานโครงการดังกล่าว จะประกอบด้วย 1. ชุดเครื่องชั่งบรรจุ พร้อมระบบจัดเรียงแบบอัตโนมัติ ประจำโรงงานปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธุ์ โรงงานเพิ่มศักยภาพ จำนวน 20 ศูนย์ ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวนครราชสีมา ลำปาง ลพบุรี พัทลุง เชียงใหม่ พะเยา กำแพงเพชร อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด อุดรธานี กาฬสินธุ์ แพร่ นครสวรรค์ สุรินทร์ ขอนแก่น สกลนคร ชลบุรี ราชบุรี สุโขทัย และสุราษฎร์ธานี

ปรับปรุงระบบไฟฟ้าควบคุมเครื่องจักร พร้อมอุปกรณ์ ประจำโรงงานปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธุ์ โรงงานเพิ่มศักยภาพ ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวนครราชสีมา ลำปาง พัทลุง เชียงใหม่ พะเยา กำแพงเพชร อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด อุดรธานี กาฬสินธุ์ แพร่ นครสวรรค์ สุรินทร์ ขอนแก่น สกลนคร ราชบุรี สุโขทัย และสุราษฎร์ธานี

ปรับปรุงเครื่องจักรอุปกรณ์เพื่อการปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธุ์ ประจำโรงงานปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธุ์โรงงาน OECE จำนวน 5 ชุด ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวกำแพงเพชร ร้อยเอ็ด แพร่ นครสวรรค์ และราชบุรี 4.จ้างก่อสร้างอาคารปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธุ์ โรงงานใหม่ จำนวน 4 แห่ง ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวพิษณุโลก นครราชสีมา ชัยนาท และสุโขทัยจัดซื้อและติดตั้งเครื่องจักรอุปกรณ์เพื่อการปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธุ์ โรงงานใหม่ จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวพิษณุโลก นครราชสีมา ชัยนาท และสุโขทัย

โครงการเพิ่มศักยภาพและปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธุ์ของศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว จะเข้ามามีส่วนช่วยเพิ่มศักยภาพการปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธุ์ของศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเมล็ดพันธุ์ ผ่านเทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่ ที่จะทำให้กรมการข้าวบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้


รวมทั้งช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาไทยที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด19  ให้สามารถประกอบอาชีพเป็นผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ต่อไป โดยปัจจุบันไทยมีความต้องการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวทั้งประเทศเป็นจำนวนถึง 1,373,000 ตัน โดยแบ่งเป็น เมล็ดพันธุ์ข้าวที่เกษตรกรเก็บไว้ใช้เองปีละ 686,400 ตัน และเมล็ดพันธุ์ข้าวที่เกษตรกรต้องการใช้ ซื้อนอกเหนือจากที่เก็บไว้ใช้เองปีละ 686,600 ตัน

นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ รองอธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่าเพื่อแก้ปัญหาเมล็ดพันธุ์ข้าวไม่เพียงพอ กรมการข้าวได้หารือ ผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งประกอบด้วย สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ศูนย์ข้าวชุมชน ผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ อาทิ สมาคมรวบรวมและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย สมาคมโรงสีข้าวไทย เพื่อหาแนวทางการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดข้าว โดยแบ่งข้าวออกเป็น 5 ประเภท คือ ข้าวหอมมะลิ ข้าวหอมไทย ข้าวเจ้าพื้นนุ่ม ข้าวเจ้าพื้นแข็ง และข้าวเหนียว

สำหรับแผนการปลูกข้าวของกรมการข้าวบนพื้นที่เพาะปลูกกว่า 60 ล้านไร่นั้น ตามหลักแล้วจะต้องใช้เมล็ดพันธุ์ 15 กิโลกรัมต่อ 1 ไร่ รวมมีความต้องการใช้เมล็ดพันธุ์ 900,000 ตันโดยประมาณ  แบ่งเป็น ข้าวหอมมะลิมีจำนวน 27 ล้านไร่ ใช้เมล็ดพันธุ์จำนวน 405,000 ตัน   ข้าวหอมไทยจำนวน 2.3 ล้านไร่ ใช้เมล็ดพันธุ์จำนวน 34,500 ตัน ข้าวเจ้าพื้นนุ่มจำนวน 2 ล้านไร่ ใช้เมล็ดพันธุ์จำนวน 30,000 ตันข้าวเจ้าพื้นแข็งจำนวน 17 ล้านไร่ ใช้เมล็ดพันธุ์จำนวน 255,000 ตันและข้าวเหนียวจำนวน 17 ล้านไร่ ใช้เมล็ดพันธุ์จำนวน 255,000 ตัน
#3035


วีโร่ และ ยูกอฟ เผยผลการศึกษาปี 2564 พบความรู้สึกของคนไทยที่มีต่อสินค้าและบริการเทคโนโลยีหลายมุมมอง รวมถึงผลกระทบทางสังคมยุคโควิด-19 ทำให้มีทั้งผู้ที่เชื่อว่าบริษัทเทคโนโลยีมีส่วนส่งเสริมสังคมในเชิงบวก และผู้ที่มีความคิดเห็นเป็นกลาง หรือเชิงลบเกี่ยวกับเทคโนโลยีในประเทศไทย เบื้องต้นพบว่าเนื้อหาที่คนไทยต้องการฟังจากแบรนด์เทคโนโลยีมากที่สุดคือเรื่องสุขภาพ เพราะในขณะที่คนสูงวัยเป็นมิตรกับเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น คนรุ่นใหม่กลับยังแคลงใจในผลกระทบ

นางสาวภัทร์นีธิ์ จีริผาบ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อสารของวีโร่ กล่าวว่าการระบาดครั้งใหญ่ทำให้ผู้คนเกิดความต้องการด้านเนื้อหาเกี่ยวกับวิธีการใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยและมีสุขภาพดี ในขณะที่การสำรวจในปี 2563 พบว่าเนื้อหาที่คนไทยต้องการฟังจากแบรนด์เทคโนโลยีมากที่สุดคือเรื่องราวการใช้เทคโนโลยีในชีวิตจริง

"อีกเรื่องที่น่าสนใจอย่างมากคือเรื่องราวที่สร้างความบันเทิงนั้นถูกจัดเป็นอันดับสุดท้ายของความต้องการจากเนื้อหาของแบรนด์เทคโนโลยี โดยข้อมูลบ่งชี้ถึงความปรารถนาที่จะเรียนรู้และการได้รับความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี ซึ่งอาจเป็นเพราะการที่เราเป็นผู้รอบรู้ด้านเทคโนโลยีนั้นถือเป็นประโยชน์อย่างมากในปัจจุบัน"

จากการสำรวจที่จัดทำโดยวีโร่ (Vero) เอเจนซีด้านการสื่อสารของอาเซียน และบริษัทวิจัยการตลาด และการวิเคราะห์ข้อมูลระดับโลกยูกอฟ (YouGov) พบว่า ครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสำรวจในประเทศไทยเชื่อว่าเทคโนโลยีสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมมากขึ้น ส่วนอีก 44% มีความรู้สึกเป็นกลางต่อเทคโนโลยี ส่วนอีก 6% เชื่อว่าเทคโนโลยีสร้างผลกระทบในทางลบมากกว่า



สำหรับผลกระทบของโควิด-19 ต่อเทคโนโลยี พบว่า 40% ของผู้ตอบแบบสำรวจยอมรับว่าใช้เทคโนโลยีมากขึ้นเนื่องจากวิกฤติโควิด-19 และ 28% กล่าวว่าถึงแม้ว่าวิกฤติจะจบลง ก็จะยังดำเนินพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีเหมือนในช่วงการแพร่ระบาดต่อไป



นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสำรวจในประเทศไทยถึง 43% กล่าวว่าจากผลกระทบของโควิด-19 ทำให้มีการซื้อของจากแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ และ 24% กล่าวว่าการชำระเงินและการจัดส่งแบบไม่ต้องสัมผัสมีความสำคัญต่อการใช้งานเป็นอย่างมาก

ในมุมของความกังวลที่มีต่อเทคโนโลยี พบว่าสิ่งที่ผู้ใช้กังวลมากที่สุดคือแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าลอกเลียนแบบโดยไม่รู้ตัว โดยมีผู้ตอบแบบสำรวจถึง 48% ที่มีความกังวลในเรื่องดังกล่าว ในขณะที่ 45% กล่าวว่าหนึ่งในข้อกังวลหลักคือการบริการหลังการขาย และอีก 37% กล่าวถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดการละเมิดด้านข้อมูลและความปลอดภัย



ข้อมูลข่าวสารจากบริษัทเทคโนโลยีที่ผู้คนในประเทศไทยต้องการคือด้านสุขภาพ โดยผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ (57%) กล่าวว่าต้องการทราบถึงเรื่องราวของผลกระทบจากเทคโนโลยีที่มีต่อสุขภาพและความปลอดภัย ขณะที่อีก 51% ต้องการเนื้อหาที่สอนการใช้เทคโนโลยี ในขณะที่ 48% กล่าวว่าพวกเขาต้องการให้แบรนด์เทคโนโลยีบอกเล่าเกี่ยวกับสิ่งที่แบรนด์ช่วยพัฒนาสังคม

นอกจากนี้ 47% ต้องการทราบเรื่องราวการใช้เทคโนโลยีในชีวิตจริง 42% ต้องการเนื้อหาที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจ และอีก 35% ต้องการเนื้อหาที่สร้างความบันเทิง



นายฟรานซิสโก โซซา อาเจตส์ รองผู้อำนวยการ YouGov เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่าการศึกษาครั้งนี้ได้เผยถึงความรู้สึกของคนไทยที่มีต่อเทคโนโลยีและการรับรู้ที่ต่างกันของแต่ละกลุ่มคน จึงสามารถช่วยให้แบรนด์ปรับกลยุทธ์การสื่อสารของตนให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมายได้

การศึกษาในลักษณะเดียวกันนี้ ยังได้จัดทำขึ้นในประเทศอินโดนีเซียและประเทศเวียดนามอีกด้วย โดยพบว่าแนวโน้มความคิดเห็นส่วนใหญ่เป็นไปในลักษณะใกล้เคียงกัน ทั้งนี้พบว่าคนไทยมีทัศนคติในเชิงบวกต่อแบรนด์เทคโนโลยีมากกว่าชาวอินโดนีเซียแต่น้อยกว่าชาวเวียดนาม

สำหรับกลุ่มผู้ตอบแบบสำรวจในไทย ประกอบด้วยประชาชนทั่วไปจาก 5 ภูมิภาค ได้แก่ กรุงเทพฯ ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายทั้งในด้าน รายได้ ระดับการศึกษา และกลุ่มอายุ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มเจนเอ็กซ์ เจนวาย และเจนซี (Gen X, Y และ Z)

ผลลัพธ์ที่ได้นำมาวิเคราะห์ตามช่วงอายุและเพศ เพื่อให้เห็นถึงความคิดเห็นที่แตกต่างกันหรือสอดคล้องกัน อาทิ ในกลุ่มตัวอย่างผู้สูงวัย กลุ่มตัวอย่างเพศชาย และกลุ่มตัวอย่างที่มีรายได้สูง ล้วนเป็นกลุ่มมีความคิดเห็นเชิงบวกต่อผลกระทบของเทคโนโลยีในสังคม

"การเข้าสู่ยุคดิจิทัลนั้นมีความสำคัญต่ออนาคตของประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง และบริษัทด้านเทคโนโลยีต่างๆ มีบทบาทสำคัญต่อสังคม จึงเป็นโอกาสดีที่บริษัทเทคโนโลยีจะได้แสดงศักยภาพในฐานะผู้มีส่วนส่งเสริมความเจริญก้าวหน้าในสังคมและช่วยให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น" นางสาวภัทร์นีธิ์ จีริผาบ กล่าวทิ้งท้าย.
#3036
ข้าวออแกนิคสำหรับทารก  ขายข้าวอินทรีย์ส่งทั่วไทย #ข้าวออแกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิก หรือ "#ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (#OranicRice)
ข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก (#OranicFood) หรือเรียกง่ายๆเป็นภาษาไทยว่า "ข้าวเกษตรอินทรีย์" หรือ "ข้าวอินทรีย์" / ปลูกข้าวมะลินิลออแกนิค คือ ข้าวที่ผ่านการผลิตทางการเกษตรโดยไม่ใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี หรือวัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น (รวมไปถึงเมล็ดพันธุ์ ข้าวที่ไม่ตัดต่อทางพันธุกรรม) กระบวนการผลิตข้าวไม่มีการใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช ก่อนการปลูกข้าวจะต้องเตรียมหน้าดินก่อนด้วยวิธีธรรมชาติ ทุกขั้นตอนการผลิตข้าวจะไร้สารปนเปื้อนที่เกิดมนุษย์ จะไม่ผ่านการฉายรังสี ไม่เพิ่มเติมสิ่งปรุงแต่งลงไปในข้าว 




  ข้าวกล้องหอมมะลิออร์แกนิคข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก หรือ "ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (Oranic Rice)  ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิคคือ คืออะไร?
1. ส่วนประกอบทุกอย่างล้วนมากจากธรรมชาติ โดยข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารสังเคราะห์ใด ๆ ในการเพาะปลูก ข้าวปะกาอำปึลเลย ข้าวก็จะถูกปลูกและเจริญเติบโตมาด้วยอาหารจากธรรมชาติล้วน ๆ ส่วนข้าวก็จะเป็นการปลูกในนา ไม่ใส่วัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยวิทยาศาสตร์ และสารเคมีหรือยาฆ่าแมลง ใช้แต่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกจากธรรมชาติในการเพาะปลูกข้าว ส่วนเมล็ดพันธุ์ข้าวที่นำมาเพาะปลูกจะต้องไม่มีตัดต่อพันธุกรรม และต้องมีการเตรียมหน้าดินก่อนการเพาะปลูกข้าวด้วยวิธีธรรมชาติ คือ จะต้องทำให้ปลอดสารพิษไม่น้อยกว่า 3 ปี เหล่านี้จึงเรียกได้ว่าเป็นการสร้างอาหารแบบธรรมชาติอย่างแท้จริง 100% มีกลิ่นหอมตามแบบธรรมชาติ ทุกขั้นตอนในการปลูกข้าวและการแปรรูปข้าวจะต้องอยู่ในมาตรฐานที่ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานต่าง ๆ ส่วนประกอบทุกอย่างจึงสะอาดบริสุทธิ์ ไม่มีสารพิษตกค้างหรือสารก่อมะเร็ง
2. ข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารเคมีใด ๆ เลย ส่วนประกอบทุกอย่างจะต้องมาจากธรรมชาติ เพราะถ้ามีการใช้สารเคมีก็จะไม่ถือว่าเป็นข้าวออแกนิค ซึ่งการไม่ใช้สารเคมีที่ว่านั้นหมายถึง การไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี 
3. ไม่ก่อให้เกิดมลพิษในกระบวนการปลูก  ปลูกข้าวหอมมะลิแดงอินทรีย์ เพราะข้าวออแกนิคนั้น นอกจากจะมุ้งเน้นให้ผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดีแล้ว จุดประสงค์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือการช่วยลดมลพิษให้กับธรรมชาติ เพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการใช้สารเคมีต่าง ๆ เช่น ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี หรือสารเร่งการเจริญเติบโตต่าง ๆ นั้นจะก่อให้เกิดสารพิษตกค้างในดิน ในน้ำ และในอากาศ ซึ่งกว่าจะย่อยสลายไปได้บางทีก็อาจใช้ระยะเวลาเป็นสิบ ๆ ปี ซึ่งวิธีการปลูก ข้าวกล้องหอมมะลินิลเพื่อสุขภาพ แบบธรรมชาตินี้เองจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยฟื้นฟูธรรมชาติที่เสียไป เพราะนอกจากจะได้รับประทานข้าวที่ปลอดสารพิษแล้ว ยังช่วยลดมลพิษต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์   ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิค
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : https://xn--22cs9b8acu9b9a7a3hub5cc1c.life/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1. ข้าวหอมมะลิออแกนิก
2.  ข้าวกล้องอินทรีย์หอมมะลิ
3.  ข้าวปะกาอำปึลปลอดสารพิษ
4.  ข้าวอินทรีย์ผสมหลายสายพันธุ์จังหวัดสุรินทร์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิค6.  ข้าวกล้องหอมมะลินิลเกษตรอินทรีย์สุรินทร์7.  ข้าวสุไรซ์เบอร์รี่ขภาพ


#ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์  #ข้าวออแกนิคสุรินทร์  #ข้าวออแกนิกสุรินทร์   #ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  #ข้าวสุขภาพสุรินทร์
 

 

 

 

 
 
#3037


นางกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทยของดีดีพร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า วิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ได้ส่งผลกระทบในด้านการเติบโตของเศรษฐกิจและธุรกิจเพียงอย่างเดียว ในมุมผู้บริโภคถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิตไปอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการปรับพฤติกรรมการเดินทาง การกิน การอยู่ การใช้จ่าย การทำงาน การเรียน หรือการพบแพทย์ ถือเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายจากการที่ยังไม่สามารถคาดเดาตอนจบในอนาคตได้ ทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพไปพร้อม ๆ กับเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ส่งสัญญาณให้เห็นชัดขึ้นจากสถานการณ์ภัยพิบัติต่าง ๆ ทั่วโลก

จากผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคที่มีต่อตลาดที่อยู่อาศัย DDproperty's Thailand Consumer Sentiment Study รอบล่าสุด อัปเดตเทรนด์ที่อยู่อาศัยในอุดมคติของผู้บริโภคในยุค Next Normal เพื่อยกระดับการใช้ชีวิตอย่างราบรื่นและยั่งยืนในระยะยาว

เทรนด์รักษ์โลกส่งเสริมการใช้ชีวิตประหยัดพลังงาน การทำงานที่บ้าน( Work from Home) ทำให้บ้านกลายมาเป็นสถานที่ทำงาน/เรียนออนไลน์ หรือแม้แต่พื้นที่ออกกำลังกายดูแลสุขภาพ กิจกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดการใช้ไฟฟ้ามากขึ้นและกลายเป็นค่าไฟที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นเช่นกัน ทำให้ผู้บริโภคหันมาเลือกที่อยู่อาศัยที่มาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานภายใต้แนวคิดรักษ์โลกที่ช่วยประหยัดการใช้พลังงาน โดยมากกว่าครึ่ง (62%) ต้องการบ้าน/คอนโดฯ ที่มีระบบหลังคาโซล่าเซลล์ (Solar Rooftop) เพื่อสร้างพลังงานทางเลือกทดแทนการใช้ไฟฟ้า นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังให้ความสำคัญกับบ้าน/คอนโดฯ ที่มาพร้อมระบบระบายความร้อน (58%) และฟังก์ชั่นดูดซับมลพิษภายในบ้าน (48%) เพื่อช่วยให้การใช้ชีวิตภายในบ้านมีความสะดวกสบายและมั่นใจยิ่งขึ้น เมื่อต้องรับมือปัญหาภาวะโลกร้อนที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอยู่เรื่อย ๆ หน้าต่าง/ประตูที่มีฉนวนกันความร้อน(47%) และเครื่องกำจัดเศษขยะ (32%)

นวัตกรรมมีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพ การที่ผู้บริโภคหันมาตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลสุขภาพมากขึ้น ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมที่ชัดเจนที่สุดหลังเผชิญวิกฤติการแพร่ระบาดฯ ทำให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรรมมาช่วยยกระดับการดูแลสุขภาพให้ง่ายขึ้นแม้ในช่วงที่ยังต้องเว้นระยะห่างทางสังคม ผ่านบริการดูแลสุขภาพแบบออนไลน์ รวมไปถึงการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ที่ช่วยให้เข้าถึงการตรวจรักษาและรับการวินิจฉัยจากแพทย์ได้โดยตรง ในตลาดที่อยู่อาศัย


นอกจากผู้พัฒนาอสังหาฯ จะหันมาจับมือโรงพยาบาลหรือศูนย์บริการสุขภาพเพื่อเพิ่มบริการดูแลสุขภาพหรือบริการทางการแพทย์ไว้ในโครงการฯ แล้ว นวัตกรรมที่เลือกใช้ในการก่อสร้างโดยตรงก็เป็นปัจจัยที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญเช่นกัน มากกว่าครึ่งนึงของผู้บริโภค (60%) มองว่า บ้าน/คอนโดฯ ที่ถูกออกแบบให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสุขภาพเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการเลือกที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมการก่อสร้างที่ช่วยให้บ้านเย็นขึ้นและสะท้อนความร้อนภายนอก บ้านที่มีระบบสร้างอากาศบริสุทธิ์ ป้องกันฝุ่น PM 2.5 หรือบ้านปลอดไวรัส ก็ล้วนมีผลต่อการเลือกซื้อบ้าน/คอนโดฯ ที่ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยไม่น้อยพื้นที่ใช้สอยต้องพร้อมรองรับการทำงานที่บ้าน ระยะยาว

แม้การทำงานที่บ้านจะไม่ใช่เรื่องใหม่และอาจกลายเป็นวิถีชีวิตที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องแม้การแพร่ระบาดฯ จะหมดไป แต่การลงทุนสร้างห้องทำงานไว้ที่บ้านอาจไม่ใช่เรื่องจำเป็นของทุกคน ดังนั้น พื้นที่ใช้สอยในบ้าน/คอนโดฯ จึงต้องสามารถปรับเปลี่ยนให้รองรับการ ทำงานที่บ้าน และอำนวยความสะดวกให้สามารถทำงานออนไลน์ได้อย่างราบรื่นเช่นกัน ผู้บริโภคส่วนใหญ่ให้ความสำคัญในเรื่องการจัดแต่งสภาพแวดล้อมให้เหมาะกับการทำงาน ซึ่งจะส่งผลดีและช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเน้นไปที่สภาพแวดล้อมที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก (65%) ตามมาด้วยการมีระบบถ่ายเทความร้อนและประหยัดพลังงานภายในห้อง (49%) และมีสัญญาณอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงรองรับการทำงานที่ลื่นไหล (48%) ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ไม่ได้จำกัดเพียงการทำงานที่บ้านเท่านั้น แต่ยังอำนวยความสะดวกให้คนในครอบครัวสามารถใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์ได้อย่างราบรื่นอีกด้วย
#3038


เรียกว่าโพสต์อินสตาแกรมสตอรีติดตามการชกมวยระหว่าง "ยอร์เดนิส อูกัส" แชมป์รุ่นเวลเตอร์เวตของ สมาคมมวยโลก (WBA) กับ "แมนนี ปาเกียว" อย่างต่อเนื่องทีเดียวสำหรับนักแสดงหญิงลูกครึ่งของช่อง 3 อย่าง "จีน่า ญีนา ซาลาส"

โดยหลังจากที่นักชกจากคิวบาสามารถเอาชนะยอดมวยจอมเก๋าชาวฟิลิปปินส์ไปได้ เจ้าตัวก็ได้โพสต์แสดงความยินดีด้วยเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้นอกจากจะเป็นเพราะนักมวยคนดังกล่าวเป็นชาวคิวบาเหมือนกับผู้เป็นบิดาแล้ว ทางด้านบิดาของเจ้าตัวอย่าง "อิสมาเอล ซาลาส" นั้นยังเป็นเทรนเนอร์คอยฝึกสอน ติวเรื่องแผนการชกต่างๆ ให้กับนักชกชาวคิวบาอีกต่างหากนั่นเอง

มีรายงานด้วยว่าบิดาของนักแสดงหญิงเองในอดีตเคยเข้ามาทำงานในการเป็นเทรนเนอร์ให้กับนักชกชาวไทยมาแล้วหลายคน ทั้ง แสน ส.เพลินจิต, พิชิต ศิษย์บางพระจันทร์ ฯ

เรียกว่ามีคุณพ่อที่ดีกรีไม่ธรรมดาแบบนี้ใครคิดจะจีบคงต้องคิดหนักกันหน่อยแล้ว...
#3039


"เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค หืดจับ ขึ้นนำ 2-0 โดนตีเสมอ 2-2 ก่อนจะได้ แซร์จ นาร์บี ซัดประตูชัยช่วยให้ทีมเปิดบ้านเฉือนชนะ เอฟซี โคโลญจน์ ไปแบบสุดมัน 3-2

ศึกฟุต.บุนเดสลีกา เยอรมนี ฤดูกาล 2021/22 วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม 2564 "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค เปิดรังอลิอันซ์ อารีน่า รับการมาเยือนของ "แพะบ้า" เอฟซี โคโลญจน์

"เสือใต้" ของกุนซือยูเลียน นาเกิลส์มันน์ เพิ่งเอาชนะโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ คว้าแชมป์เดเอฟเบ ซูเปอร์คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา เกมนี้นำทัพโดย โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี, โธมัส มุลเลอร์, เลรอย ซาเน และแซร์จ นาร์บี

ปรากฎว่าเกมนี้มาสนุกในครึ่งเวลาหลัง โดยเป็น บาเยิร์น มิวนิค ได้ 2 ประตู ขึ้นนำ 2-0 ในนาทีที่ 50, 59 จาก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี และแซร์จ นาร์บี อย่างไรก็ตาม โคโลญจน์ ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ มาทำสองประตูรวด ตีเสมอ 2-2 จาก แอนโธนี โมเดสเต น.60 และมาร์ก อูธ น.62

อย่างไรก็ตาม บาเยิร์น มิวนิค ที่โหมบุกอย่างหนัก ก็มาได้ประตูขยับนำอีกครั้ง 3-2 จากจังหวะที่ โยชัว คิมมิช จ่ายให้ แซร์จ นาร์บี ยิงเข้าไป ในนาทีที่ 71

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที บาเยิร์น มิวนิค เปิดบ้านเฉือนชนะ เอฟซี โคโลญจน์ 3-2 เก็บสามคะแนนแรกในลีกซีซั่นนี้ มีเพิ่มเป็น 4 แต้ม จาก 2 นัด ขึ้นไปรั้งอันดับ 4 ของตาราง ส่วนทีมเยือนมี 3 คะแนน รั้งอันดับ 8

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
บาเยิร์น มิวนิค : มานูเอล นอยเออร์ (GK), ตองกีย์ เนียนซู, ดาโยต์ อูปาเมกาโน, นิคลาส ซูเล่, อัลฟองโซ่ เดวิส, โยชัว คิมมิช, เลออน โกเร็ตซ์กา, เลรอย ซาเน, โธมัส มุลเลอร์, แซร์จ นาร์บี, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี

เอฟซี โคโลญจน์ : ติโม ฮอร์น (GK), คิงสลีย์ เอฮิซิบัว, จอร์จ เมเร, ราฟาเอล ซิชอส, โยนาส เอ็คตอร์, เอลเยส สคิรี, แยน ทีลมันน์, เดยัน ลูบิซิช, ฟลอเรียน เคนซ์, แอนโธนี โมเดสเต, มาร์ค อูธ
#3040


ลาซาด้า ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศเปิดตัว "ฮยอนบิน" นักแสดงชาวเกาหลีใต้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับนานาชาติ รวมทั้งเป็น Hallyu Star (ผู้ขับเคลื่อนกระแสความนิยมในเกาหลี) มาขึ้นแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์ LazMall ระดับภูมิภาคเป็นคนแรกอย่างเป็นทางการ โดย LazMall ถือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ได้รับการยอมรับจากแบรนด์คู่ค้าต่างๆ ทั่วโลก และปัจจุบันยังเป็นศูนย์รวมแบรนด์มากกว่า 32,000 แบรนด์ ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับนานาชาติบนแพลตฟอร์มลาซาด้าทั่วภูมิภาค

โดยนักแสดงหนุ่ม ฮยอนบิน ถือเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลที่มีชื่อเสียงระดับโลกมากที่สุดของเกาหลีใต้ โดยได้รับการยอมรับว่าเป็นนักแสดงที่มีส่วนช่วยในการขับเคลื่อน Hallyu หรือกระแสความนิยมในเกาหลี ด้วยบทบาทการแสดงที่หลากหลายการันตีด้วยรางวัลมากมาย จากผลงานละครโทรทัศน์ ซีรีส์ และภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมเป็นจำนวนมาก อาทิ Secret Garden, Memories of the Alhambra, The Negotiation และผลงานชิ้นโบว์แดงเรื่องล่าสุด Crash Landing on you ที่ส่งให้เขารับรางวัลนักแสดงชายยอดนิยม จากงานประกาศรางวัล Baeksang Arts Awards ครั้งที่ 56 และรางวัลศิลปินเกาหลีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด จาก Yahoo! ในงาน Asia Buzz Awards มากไปกว่านั้น ฮยอนบิน ยังสามารถกวาดรางวัล Presidential Commendation ในงาน Korean Popular Culture and Arts Awards ประจำปี 2020 ที่ผ่านมาได้อีกด้วย

แมรี่ โจว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด ลาซาด้า กรุ๊ป กล่าวว่า "ลาซาด้าเป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ซเจ้าแรกที่นำเสนอแนวคิดห้างสรรพสินค้าเสมือนจริงสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับ "ฮยอนบิน" ซูเปอร์สตาร์ชื่อดัง ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับภูมิภาคคนแรกของ LazMall ด้วยผลงานภาพยนตร์และงานละครโทรทัศน์ที่ได้รับการชื่นชมในวงกว้าง ฮยอนบิน คือนักแสดงหนุ่มที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความจริงใจ และการอุทิศตนต่อการทำงานอย่างมุ่งมั่น เพื่อสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพให้แก่เหล่าแฟนคลับทั่วโลก ซึ่งตรงตามอัตลักษณ์ของ LazMall ที่มุ่งเน้นถึงความน่าเชื่อถือและคุณภาพของสินค้า รวมทั้งยังเป็นจุดหมายของการช้อปปิ้งออนไลน์ที่เชื่อถือได้ โดยมุ่งหวังให้ผู้บริโภคเพลิดเพลินและได้รับประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สะดวกสบายสูงสุด"

เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 3 ปี ของ LazMall และเปิดตัวแคมเปญ 9.9 นี้ ซึ่งเป็นแคมเปญแรกของมหกรรมช้อปปิ้งส่งท้ายปี ฮยอนบิน จะได้ร่วมนำแสดงในภาพยนตร์สั้น ที่รวบรวมจินตนาการของเหล่าบรรดาแฟนคลับ จากตัวละครที่ชวนให้นึกถึงฉากแอคชั่นในผลงานที่มีชื่อเสียงของเขา โดยในโฆษณาดังกล่าว ฮยอนบิน จะรับบทเป็นเอเจนท์ที่ปฏิบัติภารกิจลับ ผู้เป็นหัวเรือใหญ่ในการบังคับบัญชาทีม ที่จะมอบกล่องแห่งความห่วงใยจาก LazMall นับพันชิ้นสู่สาธารณชน ซึ่งนำเสนอในรูปแบบที่สนุกสนาน และหักมุม สร้างความเพลิดเพลินแก่ผู้รับชม

ฮยอนบิน แบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับภูมิภาคของ LazMall กล่าวว่า "ผมมีความยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวลาซาด้า และได้ใกล้ชิดแฟนๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับภูมิภาคคนแรกของ LazMall ซึ่งผมตั้งตารอที่จะสร้างความสนุกร่วมกันกับแฟนๆ เริ่มด้วยเทศกาลช้อปปิ้ง 9.9 ที่จะถึงนี้ ผมขอให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัย จนกว่าเราจะสามารถพบกันได้อีกครั้งเร็วๆ นี้"

โดย ฮยอนบิน ได้กล่าวปิดท้ายว่า "การถ่ายทำหนังภาพยนตร์สั้น สำหรับการเปิดตัวแคมเปญสนุกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความคิดสร้างสรรค์ในการเล่าเรื่องภารกิจสายลับ ที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ และความหลากหลายในตัวเลือกสินค้าที่ LazMall นำเสนอให้ผู้บริโภค"

นอกจากนี้ ช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา LazMall ยังได้เปิดตัว LazMall Premium ครอบคลุม 8 หมวดหมู่สินค้าหลัก ซึ่งประกอบไปด้วยสินค้าแบรนด์ระดับพรีเมียมมากกว่า 50 แบรนด์ อาทิ Bang & Olufsen, Elemis, Longines, Polo Ralph Lauren รวมไปถึงแบรนด์ใหม่ล่าสุดอย่าง La Mer ทั้งนี้ นอกเหนือจากฟีเจอร์ยอดนิยมอย่าง "Brand Mega Offers", การรับประกันคืนสินค้าภายใน 15 วัน และการรับเงินคืนสูงสุด 2 เท่า หากผู้บริโภคได้รับสินค้าที่ตรวจสอบแล้วว่าไม่ใช่ของแท้จาก LazMall ผู้บริโภคยังสามารถเข้าถึงแบรนด์โปรดผ่านประสบการณ์การช้อปที่ใกล้ชิด และเต็มอิ่มด้วยภาพที่ช่วยเล่าเรื่องราวของสินค้ามากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีการอัพเกรดหน้าเพจแนะนำสินค้าผ่าน The Edit ซึ่งจะนำเสนอเนื้อหาที่หลากหลายและแตกต่างไปตามแต่ละธีมในรูปแบบบทความ

ที่สำคัญ เทศกาลช้อปปิ้ง "9.9 Mega Brands Sale" ในครั้งนี้ จะรวบรวมแบรนด์จำนวนมากที่สุดในระดับภูมิภาค รวมถึงบรรดาผู้ขายรายโปรดให้มาอยู่ในแพลตฟอร์มลาซาด้า เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้บริโภคในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยข้อเสนอและดีลสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก Crazy Brand Mega Offers ที่จำกัดเวลาเฉพาะสองชั่วโมงแรกของแคมเปญ รวมไปถึงโปรโมชั่น Flash sale ที่จะเกิดขึ้นตลอดวันที่ 9 – 11 กันยายนนี้เท่านั้น ปิดท้ายการเฉลิมฉลองเทศกาลช้อป ด้วยการนำลาซาด้า มาสคอตหรือ "Lazzie" มาแปลงร่างเป็นไอดอลฝึกหัดผ่านเกมใหม่ล่าสุดบน LazGames "Lazzie Star" ให้เหล่านักช้อปช่วย Lazzie เพิ่มเลเวล เพื่อให้กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ตัวจริง ด้วยการผ่านด่านในแต่ละวันและพิชิตภารกิจพิเศษให้สำเร็จ ซึ่งจะช่วยปลดล็อกคูปองสุดพิเศษจากทั้งแพลตฟอร์มและผู้ขาย รวมไปถึง Lazada Bonus อีกด้วย

รับชมโฆษณาแคมเปญ LazMall 9.9 Mega Brands Sale ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=31AZCXWcR4g