• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Cindy700

#2921

เธียร์รี อองรี ตำนานกองหน้าตลอดกาลของ อาร์เซนอล ระบุ เจ้าของแอปสตรีมเพลงชื่อดัง "สปอติฟาย" ยังสนใจเทกโอเวอร์กิจการของยักษ์หลับแห่งกรุงลอนดอน หลังปรากฏตัวมาดูเกม ลอนดอน ดาร์บี แมตช์ วันที่ 26 กันยายน ที่ผ่านมา

เกมที่ "ปืนโต" เปิดบ้านถลุง "ไก่เดือยทอง" อองรี ปรากฏตัวอยู่ที่บ็อกซ์วีไอพี โดยมี ดาเนียล เอ็ก ผู้ก่อตั้งแอปบริการเพลงออนไลน์ สปอติฟาย มานั่งดูเกมเคียงข้าง จนกลายเป็นจุดสนใจของสื่อและแฟน.ใน เอมิเรตส์ สเตเดียม

ก่อนหน้านี้ เอ็ก เคยยื่นข้อเสนอเทกโอเวอร์ อาร์เซนอล จาก สแตน โครเอนเก้ ผู้บริหารคนปัจจุบันที่จำนวนเงิน 1,800 ล้านปอนด์ (ประมาณ 82,842 ล้านบาท) ทว่า ถูกฝั่ง โครเอนเก้ ปฏิเสธเมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม อองรี ตำนานซัลโวของ "กันเนอร์ส" ยังบอกว่ามหาเศรษฐีแห่งสวีเดน ยังไม่ยอมแพ้ในเรื่องนี้ โดยบอกว่า "การจะไปถึงจุดนั้นได้ (เทกโอเวอร์) ต้องมีคนคอยโต้ตอบอีกฝ่าย เขาและพวกเราอยู่ที่นี่ แต่ยังไม่มีบทสนทนาอะไรมากนัก เราอยู่ที่นี่กันหมด และดูท่าว่าคงจะเรื่องยาว"

มีการเปิดเผยว่า เอ็ก พร้อมทุ่มทุนสร้างเป็น 2,000 ล้านปอนด์ (ประมาณ 92,055 ล้านบาท) สำหรับการยื่นข้อเสนอเทกโอเวอร์ อาร์เซนอล ครั้งที่สอง เพื่อดูท่าทีของฝั่ง โครเอนเก้ ว่าจะเอาอย่างไรต่อไป
#2922


"ลุมพินี วิสดอม" ระบุ พฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน ให้ความสำคัญเรื่อง "รวดเร็ว-คุ้มค่า-ทุกที่ทุกเวลา-สะดวกสบาย" ทำให้ผู้ประกอบการต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการพัฒนางานบริการ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันและอนาคต

นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุมพินี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด (LPN Wisdom หรือ LWS) บริษัทวิจัยและที่ปรึกษาในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) กล่าวถึงผลงานวิจัยของทีมวิจัยงานบริการ (Service Development Centre: SDC) เกี่ยวกับการพัฒนางานบริการ ว่า หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสสายพันธ์ใหม่ 2019 (COVID-19) พฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะความต้องการด้านงานบริการที่ต้องมีความรวดเร็ว มีความคุ้มค่า พร้อมให้บริการทุกที่ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมงใน 7 วัน รวมทั้งความสะดวกสบายในการรับบริการ ทำให้ผู้ให้บริการต้องปรับตัวโดยนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เป็นเครื่องมือในการจัดเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า (Data Analytic) เพื่อนำมาพัฒนางานบริการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในปัจจุบันและอนาคต



จากผลการสำรวจของ ทีม SDC จากกลุ่มตัวอย่างของผู้พักอาศัยในชุมชนภายใต้การบริหารของ บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด (LPP) บริษัทในเครือของ LPN พบว่า พฤติกรรมของผู้พักอาศัยในชุมชน ให้ความสำคัญกับช่องทางออนไลน์ในการติดต่อสื่อสาร/รับข่าวสาร และพบพฤติกรรมการใช้ช่องทางออนไลน์อื่นๆ ในการทำกิจกรรมซื้อ-ขายสินค้า เช่น สั่งซื้อสินค้าออนไลน์กว่า 90% ใช้บริการสั่งซื้ออาหารกว่า 80% ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) และ We Are Social ร่วมกับ Hootsuite ที่ระบุว่า ในยุค 5.0 ประเทศไทยมีจำนวนผู้ใช้งาน Internet ในปี 2021 มากกว่า 46 ล้านคน (เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าจากปี 2009) ของประชากรทั้งประเทศที่ 66 ล้านคน

พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปโดยให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี การเข้าถึงข้อมูลเพื่อช่วยในการตัดสินใจที่จะซื้อสินค้าและบริการ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการในธุรกิจบริการต้องมีการปรับตัว พัฒนางานบริการให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยคำนึงถึง 4 องค์ประกอบหลัก คือ

1.ความรวดเร็วในการเข้าถึงผู้บริโภค : การที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการใช้ชีวิต ทำให้การเข้าถึงข้อมูลของสินค้าและบริการเป็นไปอย่างรวดเร็ว และการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการสามารถทำได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ทำให้ผู้ขายสินค้าและบริการ จำเป็นต้องมีความรวดเร็วในการเข้าถึงผู้บริโภค ทั้งในด้านคุณภาพสินค้าและบริการ รวมถึงกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้เทคโนโลยีการสื่อสาร ให้เข้ามามีส่วนช่วยให้สามารถส่งต่อข้อมูลของผู้ประกอบการไปสู่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้เป็นปัจจัยเร่งในการตัดสินใจให้กับลูกค้า รวมถึงการพัฒนางานบริการให้มีความสะดวกรวดเร็ว เข้าถึงง่าย 

ซึ่งปัจจุบันผู้ประกอบการในหลายธุรกิจ ได้มีการพัฒนาช่องทางการสื่อสารและงานบริการผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อลดการสัมผัสโดยตรง และมีอัตราเร่งในการเข้าถึงผู้ต้องการใช้บริการได้อย่างรวดเร็ว เช่น บริการด้านสาธารณสุขผ่านระบบ Telehealth ซึ่งให้บริการปรึกษาด้านสุขภาพโดยแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพผ่านช่องทางออนไลน์ การให้บริการเบิก ถอน โอน เงิน ชำระราคาสินค้าและบริการผ่าน application ต่างๆ ของสถาบันการเงิน การรับชำระค่าบริการส่วนกลางของอาคารชุดพักอาศัย ผ่าน application หรือ QR Code การใช้เทคโนโลยี Beacon ส่งสัญญาณบลูทูธไปยังสมาร์ตโฟนของผู้ใช้บริการที่อยู่ในรัศมีที่สัญญาณส่งถึง หากสมาร์ตโฟนเปิดช่องรับสัญญาณบลูทูธเอาไว้ก็จะมีการแจ้งเตือนทางสมาร์ตโฟน และทำการรับข้อมูล (Information) ที่มีประโยชน์แก่ผู้ใช้บริการได้ทันที

อาทิเช่น การส่งคูปองส่วนลด โปรโมชั่นบริการที่ลูกค้ากำลังสนใจโดยที่ลูกค้ายังไม่ได้ร้องขอ การแจ้งเตือนข้อมูลให้ผู้ใช้ได้ทันที ทำให้ผู้ใช้ได้สิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้น การใช้ในระบบบัตรคิว ในการจัดลำดับการให้บริการงานต้อนรับที่ต้องบริการลูกค้าจำนวนมาก เช่นการเข้าคิวส่ง-รับพัสดุ การใช้ในการเข้ารหัสหรือปลดล็อกรหัสการใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ตัวปลดล็อกจักรยานด้วยแอปพลิเคชัน เมื่อเจ้าของเดินเข้าไปใกล้ในระยะที่อุปกรณ์ตรวจจับได้ก็สามารถใช้มือถือสั่งปลดล็อกได้ หรือแม้กระทั่งการใช้เป็นอุปกรณ์สำหรับการติดตามดูแลเด็กเล็กได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งใช้ส่งสัญญาณแจ้งเตือนไปยังผู้ปกครองเมื่อเด็ก ๆ ออกห่างหรืออยู่นอกสายตา

2.สร้างความคุ้มค่าในงานบริการ : การพัฒนางานบริการที่ให้ความคุ้มค่าในการใช้งานสำหรับผู้บริโภค โดยการออกแบบงานบริการที่สร้างความพึงพอใจให้กับผู้ใช้บริการด้วยระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ลดการรอคอยในการรับบริการด้วยการออกแบบให้มีระบบการจองคิวเพื่อเข้าใช้บริการ เลือกแพ็คเกจการใช้บริการได้ตามความต้องการ สะดวกและถูกรวมไว้ ณ ที่เดียว ง่ายต่อการสั่งสินค้า และที่สำคัญประหยัดค่าขนส่ง การปรับขนาดสินค้าให้เหมาะกับการขนส่ง กระจายจุดเข้าถึงสินค้า อย่างธุรกิจ คลาวด์คิดเช่น งานบริการบริหารจัดการเพื่อการอยู่อาศัย ยังนำเทคโนโลยีมาช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายของเจ้าของห้องชุด

เช่น Smart Lighting Control ระบบควบคุมการทำงานของไฟฟ้าส่วนกลาง ช่วยประหยัดไฟฟ้า บันทึก ข้อมูลการเปิด-ปิดไฟ เครื่องปรับอากาศได้ บริการเหล่านี้จะถูกเลือกเป็นอันดับต้นๆ ระบบฐานข้อมูลทั้งการจัดการและการประมวลผลข้อมูล จึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญที่ผู้ให้บริการไม่อาจมองข้ามได้ ที่จะสามารถเสนอสิทธิพิเศษต่างๆ ได้ง่ายและตรงใจผู้ใช้บริการ การนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI (Artificial Intelligence) และเทคโนโลยีเชื่อมต่ออุปกรณ์อัตโนมัติ IOT (Internet of Thing) มาใช้ในหลายประเภทงานบริการ บริการขนส่ง บริการจองคิว บริการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ สินค้าประเภทอาหารพร้อมรับประทานล้วนใช้เทคโนโลยี เนื่องจากเวลายังคงเป็นสิ่งที่มีค่า และเทคโนโลยีช่วยให้เราใช้มันได้อย่างคุ้มค่า และเข้าถึงสิ่งที่เราต้องการได้เร็วขึ้น



3.ทุกที่ ทุกเวลา (24hr. x 7days) : การเข้าถึงเทคโนโลยี และพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป ทำให้การตอบสนองต่อผู้ใช้บริการที่รวดเร็ว รวมไปถึงระบบของงานบริการที่มีประสิทธิภาพ ในแบบ Real Time เป็นสิ่งสำคัญ พฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันไม่ชอบการรอคอย จึงทำให้การตอบกลับที่รวดเร็วในแบบ Real Time เป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของงานบริการในปัจจุบันที่ผ่านหน้าจอสัมผัส การนำ ระบบ AI : Artificial Intelligence หรือ ปัญญาประดิษฐ์ที่มีความสามารถในการทำความเข้าใจ เรียนรู้องค์ความรู้ต่างๆ เช่น วิเคราะห์ วางแผน และตัดสินใจในการแก้ไขปัญหาได้ ส่งผลให้เกิดความรวดเร็วในการให้บริการ อย่างเช่น การติดต่อมายัง Call Center ของผู้ใช้บริการ จะมีระบบ AI คอยให้บริการเบื้องต้น หากเกินขอบเขตในสิ่งที่ทำได้จะถูกโอนไปยังพนักงานโดยตรง แน่นอนว่าผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ต้องการที่จะติดต่อกับพนักงานโดยตรง แต่ดีกว่าได้รับการปฏิเสธให้ติดต่อใหม่อีกครั้ง

ดังนั้น จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่ผู้ประกอบการ จะนำมาพัฒนาและปรับใช้กับธุรกิจการให้บริการ นอกจากนั้น ยังมีการใช้หุ่นยนต์ทำความสะอาดสระว่ายน้ำ เก็บใบไม้และเศษผงบริเวณก้นสระได้ สามารถขจัดสิ่งสกปรก ตะไคร่ และแบคทีเรียด้วยชุดกรองแบบ มีตัวแปลงไฟฟ้าจากไฟปกติเป็นแบบโวลต์ต่ำ ทำให้สามารถทำความสะอาดขณะมีการใช้สระว่ายน้ำได้ จากตัวอย่างที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า สามารถให้บริการได้ 24 ชม. อีกทั้งลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้ประกอบธุรกิจงานบริการ อย่างอัตรากำลังของพนักงานได้ในขณะที่ยังคงประสิทธิภาพงานบริการที่ลูกค้าได้รับ

4.พัฒนางานบริการเพื่อสร้างลูกค้าในอนาคต: การพัฒนางานบริการ นอกจากพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในปัจจุบันแล้ว ด้วยประสิทธิภาพของเทคโนโลยีในการวิเคราะห์ข้อมูลของผู้บริโภค (Data Analytic) ทำให้ผู้ประกอบการสามารถที่จะนำไปพัฒนางานบริการ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในอนาคตได้ เช่น การใช้เทคโนโลยี VR : Virtual Reality เป็นการจำลองสถานที่ขึ้นมาเป็นโลกเสมือนจริงโดยส่วนมากจะเกี่ยวข้องกับการมองเห็น โดยผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับสถานที่หรือสิ่งแวดล้อมที่จำลองขึ้นมาได้ผ่านอุปกรณ์ เป็นการสร้างประสบการณ์ที่สนุกมากขึ้นในการซื้อสินค้าและบริการ ในวงการอสังหาริมทรัพย์มีการนำมาใช้ สำหรับลูกค้าชมโครงการบ้าน และคอนโดโครงการใหม่ ซึ่งให้ความสมจริงได้มากกว่าการดู แบบโมเดลจำลองอีกทั้งไม่ต้องไปยังสถานที่จริงอีกด้วย บางครั้งลูกค้าไม่ทราบความต้องการของตัวเอง การนำข้อมูลมาวิเคราะห์และนำเสนอบริการใหม่ๆ ให้กับลูกค้าโดยวิเคราะห์จากพฤติกรรมของลูกค้า เป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการ และเป็นการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในอนาคต

"สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้เพิ่มอัตราเร่งในการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ เป็นโอกาสของผู้ประกอบการที่จะพัฒนางานบริการที่ตอบโจทย์กับพฤติกรรมของผู้บริโภคได้ง่ายขึ้นผ่านเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูล นำมาวิเคราะห์พฤติกรรมและความต้องการของลูกค้า เพื่อสร้างงานบริการที่สามารถตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย รวดเร็ว ง่ายต่อการใช้งาน และมีความเฉพาะตัว (Unique) สร้างความรู้สึกพิเศษ (Exclusive) ให้กับผู้รับบริการแบบเฉพาะตัว (Privacy) ในแบบที่เรียกว่า Smart Service".
#2923


ตลาดโซลูชัน Secure Access Service Edge (SASE) สั่นสะเทือน เมื่อ "พาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์" เปิดตัว Prisma SASE ด้วยฐานะโซลูชันที่บวกความสามารถด้านระบบเครือข่ายและความปลอดภัยเข้าด้วยกัน เพื่อรองรับรูปแบบการทำงานแบบไฮบริดให้พนักงาน มีอุปกรณ์ SD-WAN รุ่นใหม่มาพร้อมกับ 5G ในตัว เพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงการทำงานของสำนักงานสาขาสู่ดิจิทัล

นายอานันด์ ออสวาล รองประธานอาวุโส ฝ่ายผลิตภัณฑ์ ไฟร์วอลล์ในรูปแบบบริการแพลตฟอร์ม (Firewall as a Platform) พาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีรูปแบบการทำงานแบบไฮบริด และองค์กรต่างๆ ต้องการโซลูชันที่ช่วยรักษาความปลอดภัยให้แอปพลิเคชันทั้งหมดที่พนักงานใช้บนเครือข่ายองค์กร ไม่ว่าจะทำงานจากทางไกล จากมือถือ หรือจากสำนักงาน

"Prisma SASE เป็นระบบการให้บริการที่กระจายอยู่บนคลาวด์ เพื่อให้ได้โซลูชัน SASE ที่สมบูรณ์ที่สุดในตลาด ทำให้องค์กรสามารถปรับขนาด และรักษาความปลอดภัยให้พนักงานแบบไฮบริดได้อย่างง่ายดาย ในขณะเดียวกัน สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยมให้แก่ผู้ใช้งาน"

พาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ กล่าวถึงการประกาศรอบนี้ว่าเป็นการเปิดตัวนวัตกรรมเพิ่มเติมบน Prisma SASE ซึ่งผนวกคุณสมบัติ Prisma Access และ Prisma SD-WAN ไว้ด้วยกันพร้อมบริการบนคลาวด์ โดยเคลมว่าบริษัทฯ เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมด้านการรักษาความปลอดภัยเครือข่าย และ SD-WAN รุ่นใหม่ เพื่อสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้องค์กร รวมถึงประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันระหว่างสำนักงานสาขา โฮมออฟฟิศ และจากนอกสถานที่ทำงาน

ที่ผ่านมา พาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม SASE หรือบริการเข้าถึงเครือข่ายเอดจ์ด้วยความปลอดภัยที่ได้รับการยอมรับ มีลูกค้า SASE เกือบ 2,500 ราย และล่าสุด การเปิดตัวนวัตกรรมเพิ่มเติมสำหรับ Prisma SASE รวมถึง SD-WAN ที่มี 5G ในตัวจะเป็นตัวเร่งการปรับใช้ SASE ไปยังสำนักงานสาขา และการบริหารจัดการประสบการ์ดิจิทัลอัตโนมัติ (ADEM - Autonomous Digital Experience Management) เพื่อมอบประสบการณ์ดิจิทัลที่ดียิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งานไม่ว่าจะทำงานจากที่ใดก็ตาม

จากรายงานสถานะความปลอดภัยจากการทำงานแบบไฮบริด ประจำปี 2021 (State of Hybrid Workforce Security 2021) ที่เพิ่งเผยแพร่เมื่อเร็วๆ นี้ พบว่า 61% ขององค์กรต่างประสบปัญหาในการจัดเตรียมระบบรักษาความปลอดภัยระยะไกลที่จำเป็น เพื่อสนับสนุนความสามารถในการทำงานจากที่บ้าน ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญในการเร่งความต้องการในการใช้งาน SASE เพื่อปรับปรุงระบบความปลอดภัย การเชื่อมต่อ และประสิทธิภาพการทำงานเพื่อรองรับการทำงานแบบไฮบริดให้คนทำงาน

สำหรับความสามารถใหม่บน Prisma SASE ประกอบด้วย การรวม SKU แบบใหม่ ทำให้ลูกค้านำ SASE มาใช้ได้ง่ายขึ้น Prisma SASE ผนวกคุณสมบัติต่างๆ ไว้ด้วยกัน ประกอบด้วย การเข้าถึงเครือข่ายแบบ Zero Trust (Zero Trust Network Access (ZTNA)) เว็บเกตเวย์ที่ปลอดภัยบนคลาวด์ (Cloud Secure Web Gateway (SWG)) ระบบเชื่อมต่อองค์กรไปยังคลาวด์ (Cloud Access Security Broker (CASB)) ไฟร์วอลล์ในรูปแบบบริการ (Firewall as a Service (FWaaS)) และ SD-WAN ไว้เป็นโซลูชันเดียว

ในโซลูชันยังมีอุปกรณ์ SD-WAN รุ่นใหม่มาพร้อม 5G ในตัว (ION 1200) ทำให้องค์กรสามารถเชื่อมต่อ 5G WAN ไปยังเครือข่ายสาขา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโซลูชัน Prisma SASE รวมถึงความสามารถในการเรียกใช้อินเทอร์เฟซ 5G WAN แบบแอ็กทีฟ แอ็กทีฟ สำหรับการสำรองการบริการของระบบเครือข่าย

มีอุปกรณ์ SD-WAN รุ่นใหม่มาพร้อมกับ 5G ในตัว
มีอุปกรณ์ SD-WAN รุ่นใหม่มาพร้อมกับ 5G ในตัว

ที่สำคัญคือการรวม CloudBlades ใหม่ รวมถึง ServiceNow, Microsoft Teams และ Zoom เพื่อปรับปรุงการเชื่อมต่อการทำงานแบบไฮบริด CloudBlades เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้องค์กรสามารถผสานรวมบริการคลาวด์ต่างๆ เข้ากับโซลูชัน Prisma SASE ผ่าน API

ร่วมกับการจัดการประสบการณ์ดิจิทัลอัตโนมัติ หนึ่งเดียวในอุตสาหกรรม (Autonomous Digital Experience Management) การนำเสนอประสบการณ์ดิจิทัลใหม่สำหรับผู้ใช้งานและสำนักงานสาขาทั้งหมดบน Prisma SD-WAN (เปิดตัวช่วงต้นปี 2564 นี้ สำหรับผู้ใช้อุปกรณ์พกพาใน Prisma Access) พร้อมให้ผู้บริหารระบบสามารถตรวจสอบประสิทธิภาพของโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ ประสิทธิภาพของแอปพลิเคชัน และการตรวจสอบทราฟฟิกผู้ใช้งาน

ภายในยังมีระบบความปลอดภัยสำหรับเว็บเกตเวย์บนคลาวด์ (Cloud Secure Web Gateway) ซึ่งผสานรวมเข้ากับเวิร์กโฟลว์ ทำให้การกำหนดค่าแบบใหม่ และกฎการรักษาความปลอดภัยเว็บที่ใช้งานได้ง่ายมาก พร้อมคำแนะนำที่กำหนดไว้ล่วงหน้า และการประเมินผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการของพนักงานในการทำงานแบบไฮบริด

บ็อบ ลาลิเบอร์เท นักวิเคราะห์อาวุโสของ ESG กล่าวว่า องค์กรต่างๆ กำลังปรับใช้แอปพลิเคชันในดาต้าเซ็นเตอร์ คลาวด์สาธารณะ และการใช้งานบน Edge เพื่อรองรับการทำงานจากที่บ้าน องค์กร หรือสถานที่ห่างไกล สภาพแวดล้อมการทำงานที่มีการกระจายตัวสูงเหล่านี้เป็นปัจจัยในการผลักดันความต้องการการเชื่อมต่อที่ปลอดภัย ทั้งนี้ การวิจัยของ ESG ระบุว่า สิ่งที่มีความสำคัญสูงสุดสำหรับเครือข่ายองค์กร ในปี 2564 นี้ คือ โซลูชันเครือข่ายที่มีสถียรภาพและมาพร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง

"Prisma SASE จากพาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ ช่วยให้องค์กรสามารถตอบสนองความต้องการดังกล่าวได้ ด้วยโซลูชันการเข้าถึงที่ปลอดภัยบน Edge ครอบคลุมบริการต่างๆ ประกอบด้วย ระบบรักษาความปลอดภัย ระบบเครือข่าย และการจัดการประสบการณ์ดิจิทัล รวมถึงความสามารถในการใช้ประโยชน์จากแวนไร้สาย เครือข่าย 5G แบบแอ็กทีฟที่ใช้งานพร้อมการทำสำรองของผู้ให้บริการในอุปกรณ์ ION-1200 รุ่นใหม่ คุณสมบัติใหม่เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมในอุตสาหกรรมของพาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์"

นอกจากนี้ พาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์ จะเป็นเจ้าภาพจัดการ SASE Converge การประชุมสุดยอดชั้นนำสำหรับ SASE ในวันที่ 28-29 กันยายน เพื่อหารือเกี่ยวกับ Prisma SASE กรณีการใช้งานของลูกค้า และอื่นๆ ก่อนจะวางจำหน่าย Prisma SASE ทั่วโลกในวันที่ 30 กันยายน และ ION 1200 จะวางจำหน่ายในวันที่ 31 ตุลาคม ส่วนคุณสมบัติด้าน CloudBlades, ADEM และ Cloud SWG พร้อมใช้งานทั่วโลกแล้ว
#2924


นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย ได้จัดตั้งกองทุนตราสารหนี้น้องใหม่ชื่อ กองทุนเปิดเค โกล. ไดนามิก บอนด์ (K-GDBOND) ที่มีนโยบายลงทุนผ่านกองทุนหลัก Nomura Global Dynamic Bond Fund, Class I (acc) - USD ที่ลงทุนในตราสารหนี้หลากหลายประเภททั่วโลก เน้นสร้างผลตอบแทนรวม (Total Return) ที่ดีอย่างสม่ำเสมอจากกระแสรายรับดอกเบี้ย (Income) และการเติบโตของเงินลงทุน (Capital Gain) ทั้งนี้ มีกำหนดเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ในระหว่างวันที่ 28 กันยายน - 4 ตุลาคม 2564

นายนาวินกล่าวต่อไปว่า ความน่าสนใจของกองทุน K-GDBOND อยู่ที่ 1) กลยุทธ์การลงทุนที่มีความยืดหยุ่นสูง บริหารพอร์ตแบบไร้ข้อจำกัดทางการลงทุน (Unconstrained) ครอบคลุมตราสารหนี้ทุกประเภทจากทั่วโลก ทั้งตราสารหนี้ภาครัฐ ตราสารหนี้เอกชนคุณภาพดี (Investment Grade) และตราสารหนี้ High Yield ทำให้สามารถเลือกลงทุนในตราสารหนี้ที่เหมาะสมกับภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลาได้ เพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว 2) การบริหารความเสี่ยงผ่านการลงทุนในตราสารอนุพันธ์ เพื่อช่วยจำกัดความเสี่ยงจากการขาดทุน และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับพอร์ต และ 3) การบริหารจัดการโดยทีมผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูง การันตีได้จากผลการดำเนินงานของกองทุนหลักที่อยู่ใน Top Quartile อย่างสม่ำเสมอ และติดอันดับ 5 ดาวจาก Morningstar (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ส.ค. 64)

"จากการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ประธาน Fed ได้ส่งสัญญาณจะทำการปรับลดวงเงิน QE (QE Tapering) ภายในปีนี้ แต่ยังไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ตลาดคลายความกังวลลง โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า Fed จะประกาศแนวทางการทำ QE Tapering อย่างเป็นทางการในการประชุมเดือนกันยายนหรือพฤศจิกายน และจะเริ่มลดครั้งแรกภายในปลายปีนี้ โดยจะเป็นการทยอยลดวงเงินที่ 1-1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน ขณะที่การขึ้นดอกเบี้ยจะเริ่มขึ้นในช่วงปลายปี 2565 หรือ ต้นปี 2566 ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย คาดว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้จะเริ่มเห็นการปรับเข้าสู่สภาวะปกติมากขึ้น (Normalization) ทั้งอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลก และนโยบายการเงินต่างๆ ที่ได้มีการผ่อนคลายมาแล้วในช่วงก่อนหน้านี้จะมีการปรับลดความผ่อนคลายลง ซึ่งอาจสร้างความผันผวนให้ตลาดเป็นระยะๆ อย่างไรก็ดี ผู้ลงทุนควรกระจายการลงทุนไปในทุกประเภทสินทรัพย์ในสัดส่วนและระดับความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนแต่ละคนรับได้" นายนาวินกล่าว
#2925


SIA Bangkok เอเจนซี่น้องใหม่ สายพันธุ์ดิจิทัล เตรียมรุกตลาดสื่อโฆษณาเอเจนซี่ไทย ชูจุดเด่นบริการที่แตกต่าง "Virtual Influencer Agency" แห่งแรกในไทย ให้บริการสร้างสรรค์ผลงานสื่อสารการตลาดผ่าน Virtual Influencer คนแรก "ไอ-ไอรีน" หญิงสาววัย 21 ปี ที่มาพร้อมคาแรคเตอร์โฉบเฉี่ยว น่าค้นหา มั่นใจในตัวเอง ตอบรับแนวคิดโลก Metaverse ที่สร้างสรรค์ทุกอย่างได้บนโลกออนไลน์

จากข้อมูลของสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) ชี้ให้เห็นว่าเม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าภาพรวมของตลาดจะไม่ได้คึกคักมากเท่าไหร่ โดยมีมูลค่าเม็ดในปี 2020 อยู่ที่ 21,058 ล้านบาท เติบโต 8% และมีการคาดการณ์ว่าในปี 2021 จะเติบโตที่ 11% มีมูลค่าอยู่ที่ 23,315 ล้านบาท โดยหากแยกสัดส่วนของเม็ดเงินจากมูลค่ารวมตามรูปแบบของสื่อดิจิทัลก็พบว่า สัดส่วนของช่องทาง Social Media ซึ่งเกี่ยวข้องกับ Influencer อยู่ที่ 9% หรือคิดเป็นประมาณ 2,113 ล้านบาท เป็นรองเพียงแค่แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook และ YouTube เพียงเท่านั้น



ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคในยุค New Normal ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่บนหน้าจอออนไลน์เกือบ 24 ชั่วโมง ทั้งการทำงาน การเสพสื่อ การรับชมคอนเทนต์บันเทิง การจับจ่ายใช้สอย ทำให้แบรนด์ต่างปรับตัวให้สอดรับกับโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ในท้ายที่สุดการใช้ชีวิตในโลกความเป็นจริงกับโลกเสมือนก็จะกลายเป็นเรื่องเดียวกันจนแยกไม่ออกสอดรับเทรนด์ Metaverse ที่สิ่งต่างๆ ในโลกดิจิทัลจะเกิดขึ้นเป็นคู่ขนานไปกับโลกแห่งความเป็นจริง โดยเฉพาะ Metaverse Human ที่สามารถสร้าง Engagement ในเชิงของการสื่อสาร สร้างประสบการณ์ให้กับผู้บริโภคได้จริง

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ SIA Bangkok มองเห็นถึงโอกาสที่จะใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีเพื่อยกระดับวงการสื่อโฆษณาด้วยบริการหลัก Virtual Influencer ที่จะมาพลิกโฉมวงการสื่อสารการตลาดให้เข้าสู่โลกดิจิทัลอย่างสมบูรณ์ โดย SIA Bangkok พร้อมขับเคลื่อนทุกอุตสาหกรรมด้วย Metaverse Human อย่าง "น้องไอ ไอรีน" ที่จะมาเป็น Virtual Influencer คนแรกอีกด้วย



Metaverse คือ อีกขั้นของเทคโนโลยีเสมือนจริง เพราะเป็นการผสมผสานระหว่าง VR-Virtual Reality, Augmented Reality และ Spiritual เข้าไป โดยมีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง อาทิ 5G และ Broadband เป็นตัวกลางเชื่อมระหว่างโลกจริงกับโลกเสมือนจริงเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน เข้าใกล้โลกแห่งความจริงมากขั้นสุด จนแม้แต่ความคิดและทัศนคติ ก็เกิดขึ้นได้กับ Metaverse Human

Metaverse Human จาก SIA Bangkok คือ คนที่ถูกสร้างขึ้นมาบนโลกเสมือนจริง ออกมาเป็น น้องไอ ไอรีน หญิงสาววัย 21 ปี ที่มาพร้อมคาแรคเตอร์โฉบเฉี่ยว น่าค้นหา มั่นใจในตัวเอง พร้อมให้บริการการสื่อสารในทุกรูปแบบทั้งการเป็นพรีเซนเตอร์ ถ่ายแบบโฆษณา มิวสิควิดีโอ หรือแม้แต่การรีวิวสินค้า ที่จะทลายข้อจำกัดต่างๆ ของแบรนด์ ซึ่งจะสะท้อนภาพความทันสมัย นวัตกรรมเทคโนโลยีสุดล้ำ ตอบรับวิถีชีวิตในยุคดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้การมาของ น้องไอ ไอรีน ในครั้งนี้ได้ยกระดับอุตสาหกรรมพรีเซนเตอร์ในประเทศไทยไปอีกขั้น.
#2926

แฟลช เอ็กซ์เพรส เปิดตัว Flash Management System ระบบสนับสนุนการทำงานของ Flash Express Call Center ด้วยการคิดค้นเทคโนโลยีเฉพาะให้มีความสามารถในการตรวจสอบข้อมูล และ ให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ รองรับปริมาณความต้องการจากลูกค้าที่ติดต่อเข้ามาได้มากยิ่งขึ้น

นางสาวรวมพร บุญทนาวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ ของแฟลช เอ็กซ์เพรส ผู้ให้บริการขนส่งสัญชาติไทย ขนส่งเอกชนไทยรายแรกที่ก้าวสู่ยูนิคอร์นระดับสากล กล่าวว่า Flash Management System หรือ MS (ระบบจัดการบริหารงานภายในองค์กรแบบครบวงจร) – เป็นเทคโนโลยีด้าน IT ที่ถูกออกแบบมาเพื่อนำมาใช้กันอย่างทั่วถึงในองค์กรของแฟลช เอ็กซ์เพรส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนงานของ Call center โดยได้พัฒนาระบบเพื่อเพิ่มศักยภาพของโปรแกรมให้สามารถตรวจสอบข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง



ตลอดจนตอบสนองในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ เช่น รายละเอียดพัสดุ, การใช้ข้อมูลเบอร์โทร เพื่อตรวจสอบสถานะพัสดุแทนหมายเลขพัสดุที่มีความยาวและยากต่อการจดจำ, ระยะเวลาการรับเงิน COD, พื้นที่และเบอร์ติดต่อที่ให้บริการ, การตรวจสอบสถานะของงานเคลมพัสดุ รวมถึงข้อมูลบริการเสริมต่างๆ เช่นค่าคุ้มครองพัสดุตีกลับ ,ค่าคุ้มครองพัสดุเพิ่มเติม, ค่าคุ้มครองบริการ speed และอื่นๆ อีกมากมาย

"สิ่งสำคัญที่ทำให้แฟลช เล็งเห็นประโยชน์ในการใช้งานระบบ MS เพื่อสนับสนุนงานด้าน Call center ด้วยพบว่าอัตราการให้บริการเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อเปรียบเทียบก่อนและหลังจากการนำ MS มาใช้ โดยความสามารถในการให้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 97% จาก 46% ทั้งนี้ ยังรวมไปถึงความสามารถในการติดตามและจัดการปัญหาให้แก่ลูกค้าได้เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 61 % ส่งผลให้ความพึงพอใจของลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 90% จากเดิม 85% อีกทั้ง MS ยังเป็นเครื่องมือที่ดีในการเชื่อมข้อมูลการติดต่อระหว่างพนักงานในองค์กรแผนกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทีม call center , เจ้าหน้าที่ส่งพัสดุ เจ้าหน้าที่ในคลังสินค้า บัญชีและการเงิน ทำให้สามารถส่งข้อมูลให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทันต่อการเติบโตของธุรกิจ และ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุด"

ทั้งนี้ ระบบ MS ยังสามารถบันทึกข้อมูลการติดต่อของลูกค้า โดยแบ่งเรื่องการติดต่อของลูกค้าออกเป็นหมวดหมู่การติดต่ออย่างชัดเจน รวมถึงการส่งงานประสานต่อในส่วนงานต่าง ๆ ผ่านระบบบันทึกข้อมูล โดยไม่ต้องสร้างหรือพิมพ์ข้อมูลใหม่ ตลอดจนมีฟังก์ชั่นเพื่อแยกประเภทปัญหาของลูกค้า เพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนาการบริการ ของ Flash express ให้ดียิ่งขึ้น 

นอกจากนี้ ยังได้นำข้อมูลใน MS เชื่อมต่อกับ Flash Express Application เพื่อให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบพัสดุ ยื่น Claim สินค้า แก้ไขข้อมูลต่างๆ ตลอดจนแจ้งปัญหาการใช้บริการด้วยตนเอง เพื่อช่วยการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า และในอนาคตเราจะสามารถพัฒนาระบบ และนำ AI เข้ามาใช้งานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด " นางสาวรวมพร กล่าว
#2927


นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า จากอิทธิพลร่องมรสุม-พายุเตี้ยนหมู่ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ 26 จังหวัด โดยเฉพาะ จังหวัดพิจิตร ชัยภูมิ นครราชสีมา พระนครศรีอยุธยา สุโขทัย ชัยนาท นครสวรรค์ สิงห์บุรี ขอนแก่น ลำปาง ลำพูน และอุบลราชธานี ซึ่งทำให้บ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนและลูกค้าของธนาคารในพื้นที่ได้รับความเสียหาย มีความเดือดร้อนในการดำรงชีพ โดยธนาคารออมสินในพื้นที่ได้นำถุงยังชีพ สิ่งของจำเป็น และน้ำดื่ม ออกไปแจกจ่ายช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนเร่งด่วนในเบื้องต้นแล้ว 

นอกจากนี้ ได้ออกมาตรการสินเชื่อเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยพิบัติและผู้ประกอบการในพื้นที่ ด้วยวงเงินกู้ฉุกเฉิน ที่มีหลักเกณฑ์เงื่อนไขผ่อนปรน และอัตราดอกเบี้ยต่ำ สำหรับซ่อมแซ่มที่อยู่อาศัย ซื้อสิ่งของจำเป็น ประกอบด้วย สินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ซึ่งเป็นเงินกู้ฉุกเฉิน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากเหตุน้ำท่วม/ภัยพิบัติ ให้กู้รายละไม่เกิน 50,000 บาท โดยปลอดชำระเงินงวดใน 3 เดือนแรก



สินเชื่อเคหะ สำหรับลูกค้าเดิมหรือประชาชนทั่วไป ที่บ้านพัก/ที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายมีความจำเป็นต้องซ่อมแซม ให้กู้วงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท ดอกเบี้ยปีแรก 0% สินเชื่อไทรทองอเนกประสงค์ เพื่อซื้อสิ่งอำนวยความสะดวกภายในบ้านทดแทนที่ได้รับความเสียหาย วงเงินกู้รายละไม่เกิน 300,000 บาท ใช้บ้าน/ที่ดิน สวนไร่นา/คอนโด ที่ปลอดภาระจำนองเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้ อัตราดอกเบี้ย MRR-1.25 ต่อปี ตลอดอายุสัญญา

สินเชื่อธุรกิจ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้าผู้ประกอบการ หรือ SMEs วงเงินให้กู้สูงสุด 10% ของวงเงินกู้เดิมแต่ไม่เกิน 5 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ยปีแรก 3.50% ปีที่ 2 เป็นต้นไป = MLR โดยปีแรกชำระแต่ดอกเบี้ยไม่ต้องชำระเงินต้น

 ทั้งนี้ ลูกค้าหรือผู้ประสบภัย สามารถติดต่อขอสินเชื่อได้ที่สาขาธนาคารออมสินในพื้นที่ได้ตั้งแต่บัดนี้ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ GSB Contact Center โทร.1115.
#2928


กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดตัวกิจกรรม Design Service Sandbox (สนามทดลองแนวคิดธุรกิจ) ขึ้นเป็นครั้งแรก สานฝันคนรุ่นใหม่ระดมความคิดสร้างสรรค์นำเทคโนโลยี พัฒนานวัตกรรมสินค้าและบริการตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ด้านการพัฒนาศักยภาพทางการตลาดของ SMEs และ Micro SMEs ให้สามารถปรับตัว แสวงหาโอกาส สามารถนำความรู้ด้านการออกแบบและเทคโนโลยีดิจิทัล มาพัฒนาธุรกิจให้เป็นที่ยอมรับในสากล ล่าสุดจัดกิจกรรม Design Service Sandbox : DEMO Day เปิดเวทีให้นักออกแบบนักพัฒนาเทคโนโลยี ดิจิทัล และ SMEs ที่เป็นผู้ประกอบการสร้างสรรค์รุ่นใหม่ ลงสนามทดลองแนวคิดธุรกิจ (Sandbox) สร้างนวัตกรรมสินค้าและบริการตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ และขยายโอกาสเติบโตสู่ระดับสากล



หม่อมหลวงคฑาทอง ทองใหญ่ นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ เปิดเผยว่า โครงการส่งเสริมอุตสาหกรรมบริการออกแบบ หรือ Design Service Society 2021 ดำเนินงานโดยสำนักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งในปีนี้ มุ่งเน้นให้เกิดความร่วมมือระหว่างผู้ให้บริการออกแบบ (Design Service) และนักพัฒนาเทคโนโลยี ผู้ประกอบการ Tech Startup/ SMEs ในคอนเซ็ป "Tech Innovation x Design Creativity" เพื่อดึงศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถการสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อผลักดันภาคธุรกิจให้พร้อมรับมือความท้าทายและการแข่งขันในอนาคตของประเทศไทยและในตลาดโลกด้วย Digital Transformation ซึ่งสอดรับกับนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ด้านการพัฒนาศักยภาพทางการตลาดของ SMEs และ Micro SMEs สามารถนำความรู้ด้านการออกแบบและเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจสู่สากล



โครงการ Design Service Society 2021 มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมบริการออกแบบ หรือ Design Service ให้เป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ ช่วยสนับสนุน ยกระดับ ผู้ประกอบการให้สามารถปรับตัว เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต โดยกิจกรรมภายใต้โครงการ ประกอบด้วย

1. กิจกรรมสัมมนาส่งเสริมความรู้ด้านการออกแบบเพื่อการพัฒนาธุรกิจ (Webinar) ภายใต้หัวข้อ "The future of business: transformation through design and technology" จัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2564 ซึ่งกรมได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในวงการมาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์การขับเคลื่อนธุรกิจด้วยการออกแบบและเทคโนโลยีอาทิ เช่น เรื่อง Business Transformation by Design / Design Service / Design-Driven Enterprise และ Digital Solution for Business ซึ่งได้รับผลตอบรับดีมาก มีผู้สมัครเข้าร่วมกว่า 600 ราย

2. กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการด้านการออกแบบและพัฒนาผลงานต้นแบบ "Design Service Sandbox" ในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่าง นักออกแบบ กับ นักพัฒนาเทคโนโลยี Startup หรือ SMEs ในการขับเคลื่อนโมเดลธุรกิจใหม่ที่สามารถตอบโจทย์อุตสาหกรรมของประเทศได้ ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากนักออกแบบ นักพัฒนาเทคโนโลยีและผู้ประกอบการรุ่นใหม่ตลอดการรับสมัครโครงการ โดยกิจกรรมดังกล่าวมีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมกว่า 200 ราย ซึ่งมีผู้ผ่านคัดเลือกเข้าร่วมทั้งสิ้น 44 ราย โดยผู้เข้าร่วม 44 ราย ได้แบ่งเป็น 10 ทีม เพื่อร่วมกันพัฒนาผลงานต้นแบบตลอดระยะเวลา 1 เดือน ภายใต้ 4 โจทย์หลัก ได้แก่ Thailand: Kitchen of the World (สรรสร้างนวัตกรรมอาหาร บรรจุภัณฑ์ หรือ บริการ ดันครัวไทยสู่ครัวโลก ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แห่งอนาคต), Agricultural Transformation (ปั้นเกษตรอัจฉริยะ ด้วยเทคโนโลยีและดิจิทัล คิดค้น Solution ที่ช่วยยกระดับภาคการเกษตรของไทย ให้มีมูลค่าเพิ่มสู่สากล), Innovation Solutions to for a Renewable-Powered Future (ค้นหาคำตอบ สำหรับแหล่งพลังงานทางเลือก สร้างโอกาส ปั้นธุรกิจ รับมือการเปลี่ยนแปลงในอนาคต) และ Innovation solution for New Normal (คิดค้นนวัตกรรมสินค้าและบริการใหม่ ๆ แก้ปัญหาธุรกิจ คาดการณ์เทรนด์สินค้าในยุค New Normal)

3. กิจกรรมแสดงผลงานต้นแบบ "Demo Day" ซึ่งจัดขึ้น เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2564 เพื่อเฟ้นหาสุดยอดไอเดียจากไอเดียของผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ ซึ่งจะเป็นการนำเสนอผลงานและรับฟังคำแนะนำจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและเอกชน เช่น ผู้บริหารจาก DITP, DEPA, THAI BISPA, SCG Adventure, Banpu และ RISE เป็นต้น จากนั้นกรมจะมีการประชาสัมพันธ์ผลงานต้นแบบให้เป็นที่รู้จัก เพื่อให้เกิดการรับรู้ถึงศักยภาพอุตสาหกรรมบริการออกแบบให้เป็นที่รู้จักในระดับประเทศและสากล โดยกลุ่มผู้ประกอบการและนักพัฒนาเทคโนโลยีสามารถนำความรู้และคำแนะนำไปต่อยอดไอเดียทางธุรกิจในอนาคตได้ รวมถึงมีการผลักดันเหล่านักออกแบบให้สามารถแสดงศักยภาพในเวทีการประกวดระดับนานาชาติ อาทิ DEmark, G-Mark ซึ่งเป็นเวทีประชันฝีมือของบรรดานักออกแบบฝีมือดีและเป็นประตูสู่การแข่งขันในระดับสากลอีกด้วย



ผลงานที่ชนะรางวัล Design Service Sandbox "Demo Day" ในปีนี้ ได้แก่

รางวัลที่ 1 UPCYDE: แนวคิด Startup ผลิตภัณฑ์รองเท้าจากขยะทางการเกษตร Solution ที่ช่วยแก้ปัญหาขยะทางการเกษตรที่มีปริมาณมาก พร้อมสามารถสร้างมูลค่าเพื่มเติมให้กับขยะทางการเกษตร โดยแปรรูปขยะทางการเกษตร โดยเลือกผลิตรองเท้า (หนังเทียม Vegan Leather) ที่ทำมาจากขยะทางการเกษตร เช่น สับปะรด และ ทุเรียน สนับสนุนให้เกิด Sustainability Society มากยิ่งขึ้น และสนับสนุน circular economy และ waste transformation

รางวัลที่ 2 Happy meal : นวัตกรรมอาหาร Future Food โปรตีนจาก "ไข่ผำ" ต่อยอดวัตุดิบของไทยจับกระแสอาหาร Plant-based จาก "ไข่ผำ" พืชน้ำในประเทศไทย แหล่งโปรตีนทางเลือกใหม่ของคนรักสุขภาพ อัดแน่นด้วยโภชนาการ ผ่านสินค้าต้นแบบอาทิ Green Pearl Protein Bar หลากหลายรสชาติ

รางวัลที่ 3 GachaThani : แนวคิด Art Toy และ AR Guide tour ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี จับเทรนด์การเติบโตของ Art Toy มาสร้างโอกาสเพื่อพัฒนา Gallery platform เชื่อมโยง community ของผู้ซื้อ-ผู้ขายในประเทศไทยผ่านเว็บไซต์ ต่อยอดสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าโดยการนำเทคโนโลยี AR ร่วมถึงเกมเข้ามาใช้งานเพื่อสร้างประสบการณ์ร่วมกับลูกค้า
#2929
เติมคอยส์ COINS เติมเงิน Kitty Live, Mico เติมเพชร Kitty Live, Mico

"ได้เยอะกว่าเติมผ่านแอป"
พร้อมรับสมัครวีเจ มีเงินเดือน+ค่าของขวัญ 





111Topup เปิดบริการ เติมคอยส์ เติม COINS เติมเพชร เติมรูบี้ วิธีการเติมเงิน เติมคอยส์ MICO, KittyLive เติม COINS เติมเพชรง่ายนิดเดียว เพียงแค่โอนเงินผ่านเลชบัญชีธนาคารของเรา แจ้งโอน พร้อมบอกเลขไอดี รอรับคอยส์ไม่เกิน 30 วินาที การันตีได้คอยส์ชัวร์ แถมเยอะกว่าเติมผ่านในแอป ไม่โกง ไม่หลอก แน่นอน โดยมีการเติมเงินแบบ 2 ช่องทางหลักคือ

1. เติมคอยส์ MICO, KittyLive  เติมผ่านระบบธนาคาร ATM,ฝากเงินผ่านตู้, Mobile Banking ,ผ่านเว็บไซด์ธนาคาร


2. เติมคอยส์ MICO, KittyLive  เติมเงินผ่านบัตรเติมเงิน ทรูมันนี่ 


111Topup รีบแอดไลน์เพื่อรับโปรโมชั่น แถมคอยส์เพิ่มขึ้น
เติมคอยส์ MICO, KittyLive




Add Line : @111Topup


วิธีการเติมเงิน Kitty Live, Mico คอยส์ COINS เพชร


1.     แอดไลน์ @111Topup (มี @ ด้วยนะคะ) เติมคอยส์ MICO, KittyLive 


2.     โอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร ตามที่ระบุไว้ หรือ ถ้าเติมผ่านบัตรทรูมันนี่ ให้ส่งหลักฐานบัตรมาที่ไลน์แอด @111Topup


3.     แจ้งเลขไอดี แอฟ Kitty Live, Mico ในไลน์


4.     เมื่อทีมงานรับเรื่องแล้วไม่เกิน 30 วินาทีคุณจะได้รับคอยส์ (COINS) ใน แอฟ Kitty Live, Mico


5.     เติมคอยส์ MICO, KittyLive  เปิดบริการเติมเงินทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 02.00 น. (8โมงเช้า-ตี2 ทุกวัน)


 


 


รับสมัครวีเจ ไลฟ์ มีเงินเดือน + ค่าของขวัญ เงินเดือนขั้นต่ำ 6000 บาท 


 


สมัครวีเจ เข้า สังกัด 111 ทำงาน ขั้นต่ำ 20 วัน 30 ชั่วโมงต่อเดือน ทำงานที่บ้านไลฟ์ ออนไลน์ผ่านมือถือ 


มีการันตีเงินเดือน 6000-10000 บาท สำหรับวีเจใหม่ มีเทรนด์งานก่อนขึ้น ไลฟ์ดี ตั้งใจไลฟ์ สังกัดพร้อมซัพพอร์ต ในการหายูสให้แน่นอน รายได้หลักหมื่น - ถึงแสน บาทต่อเดือน


** วีเจที่เคยไลฟ์ BIGO VIBIE YAYA MCAT MLIVE มีการันตีพิเศษ คลิ๊กเลย


สนใจสมัครวีเจ คลิ๊กเลย  https://lin.ee/0apXPWf


 
#2930


การตลาด - เปิดเคล็ดลับกลยุทธ์แนวคิด BCG (BIO-CIRCULAR-GREEN) ของสินค้า 5 กลุ่ม เผยคงไม่ใช่แค่คำที่ถูกนำมาใช้เพื่อให้สวยหรูดูดีอีกต่อไป เพราะขณะนี้ตลาดการค้าทั่วโลกต่างให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ทำให้ผู้ประกอบการสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นไทยต้องหันกลับมาพิจารณากระบวนการสร้างสรรค์สินค้ากันใหม่ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง

โครงการพัฒนาสินค้าไลฟ์สไตล์ใหม่สำหรับงานแสดงสินค้า STYLE Bangkok" หรือ STYLE BANGKOK COLLABORATION 2021 ภายใต้แนวคิดเพื่อชีวิตและธุรกิจที่ยั่งยืนกว่า (Sustainable Life) ที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจัดขึ้นในปี 2564 นี้ มีผู้ประกอบการให้ความสนใจเข้าร่วมหลากหลายแบรนด์เพื่อสร้างพันธมิตรใหม่ๆ ที่จะร่วมกันสร้างสรรค์สินค้าที่ดึงดูดใจผู้ซื้อและยังสอดคล้องไปกับเทรนด์ของตลาดโลกอย่าง BCG



*** เริ่ม Collab เพื่อไปต่อ
นายจิรชัย ตั้งกิจงามวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อุตสาหกรรม ดีสวัสดิ์ จำกัด เจ้าของแบรนด์ Deesawat เล่าในฐานะผู้ที่เข้าร่วมโครงการมาตลอด 2 ปีว่า "ปีนี้แบรนด์ที่เข้าร่วมส่วนใหญ่เป็นแบรนด์น้องใหม่ที่เพิ่งสร้างแบรนด์ไม่นาน ได้ความรู้สึกเหมือนพี่จูงน้อง มีโอกาสให้คำแนะนำจากประสบการณ์ที่มากกว่า ขณะที่แบรนด์รุ่นน้องก็มีไอเดียใหม่ๆ มาแชร์หรือนำเสนอวัสดุที่แปลกออกไปเช่นกัน

ข้อดีของปีนี้คือมีคอนเซ็ปต์หลักของการสร้างสรรค์สินค้าคือเรื่อง BCG ทำให้มีเรื่องราวชัดเจนเพื่อสื่อสารกับลูกค้า หลังจากที่พูดคุยกันพบว่าหลายแบรนด์ไม่เข้าใจเรื่อง BCG ซึ่งทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้ จึงช่วยกันดึงเรื่องราวเหล่านี้ออกมาสื่อสาร ซึ่งเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดที่จะเริ่มตอบโจทย์ BCG คือการกำจัดหรือลดขยะที่เกิดจากการผลิตสินค้าของตัวเองให้ได้ก่อน

"ปี 2564 นี้ ดีสวัสดิ์ได้ Collab กับวาสุ (Wasoo) แปรรูปขี้เลื่อยไม้สักของโรงงานไปเป็นอิฐบล็อกในรูปแบบ Wall Art เนื่องจากปัจจุบันขี้เลื่อยจากโรงงานจะถูกส่งไปที่โรงงานผลิตธูป แต่อนาคตก็ไม่แน่ใจว่าโรงงานผลิตธูปจะยังอยู่ได้ไหม จึงต้องมองหาปลายทางใหม่ให้กับขยะจากดีสวัสดิ์ สิ่งที่เกิดขึ้นและเห็นได้ชัดในโครงการคือการเป็นจุดเริ่มต้นให้หลายๆ แบรนด์ได้มีโอกาสสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ ได้แลกเปลี่ยนแนวคิดเพื่อนำไปสู่การพัฒนาสินค้าร่วมกันในอนาคต ไม่ได้สิ้นสุดแค่การผลิตสินค้าสำหรับโครงการ แม้โครงการจะจบลงแต่เชื่อว่ารูปแบบของ Collaboration จะทำให้เกิดการต่อยอด นำไปสู่การสร้างสรรค์ความแปลกใหม่ของผลิตภัณฑ์ได้ในอนาคต"



*** เมื่อเซรามิกและพลาสติกมาเจอกัน
นางสาวณพกมล อัครพงศ์ไพศาล และนายนล เนตรพรหม เจ้าของแบรนด์ละมุนละไม (Lamunlamai) เล่าว่า สินค้าของละมุนละไมเป็นงานเซรามิกแฮนด์คราฟต์ซึ่งปั้นขึ้นรูปด้วยมือทั้งหมด ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร และของประดับตกแต่งบ้าน มีจุดเด่นมาจากลวดลายและสีสันที่มาจากแร่ธาตุธรรมชาติ ได้ร่วมกับแบรนด์ Qualy ซึ่งเป็นแบรนด์สินค้าพลาสติกรักษ์โลก

โดยทั้งสองแบรนด์มีเป้าหมายร่วมกันในด้านความยั่งยืน ต้องการนำเศษเหลือจากการบริโภคในแต่ละวัน ได้แก่ บรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ขวดแก้ว และกากกาแฟ กลับมาเป็นวัสดุและส่วนผสมในการสร้างสรรค์ผลงาน ไม่ว่าจะเป็นชุดถ้วยกาแฟ ขวด ถาดใส่ขนม และกระถางต้นไม้ เพื่อลดปริมาณขยะในสิ่งแวดล้อมและลดการใช้ทรัพยากรใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ "The Landscape on the table"

การจำลองภูมิทัศน์ธรรมชาติมาไว้บนโต๊ะทำงาน เพื่อให้ผู้ใช้ได้ตระหนักถึงผลกระทบจากการบริโภคในแต่ละวันที่มีต่อระบบนิเวศในธรรมชาติ โดยผลงานที่ออกแบบจะมีองค์ประกอบที่เป็นตัวแทนของก้อนหิน น้ำ สัตว์ (นก) และต้นไม้ มีการผสานวัสดุและรูปทรงของงานคราฟต์ที่ดูเป็นธรรมชาติจากละมุนละไมเข้ากับงานพลาสติกในระบบอุตสาหกรรมของ Qualy ได้อย่างลงตัว ทั้งหมดนี้ต้องการสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงานอยู่ที่บ้าน ให้อยู่แล้วมีความสุข สร้างบรรยากาศที่ดีให้กับบ้าน ซึ่งตั้งใจว่าจะพัฒนาต่อเพื่อวางตลาดจริงได้ทั้งในและต่างประเทศ

"ปัจจุบันโลกของการออกแบบไม่ได้ขึ้นอยู่กับการผลิตสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างเดียวไปตลอดเท่านั้น แต่อาศัยการทำงานร่วมกันระหว่างแบรนด์กับนักออกแบบมากขึ้นเพื่อขยายขอบเขตจากสิ่งที่แต่ละคนถนัด ได้ทำความเข้าใจกลุ่มลูกค้า และความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เพื่อต่อยอดเกิดการสร้างสรรค์สินค้าใหม่ที่ดีกว่าเดิม การเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้เป็นโอกาสดีที่ได้โฟกัสกับการออกแบบที่ตอบรับนโยบาย BCG Economy ซึ่งในต่างประเทศให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้มานานแล้ว ผู้ผลิตต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ในกระบวนการออกแบบและผลิตออกสู่ตลาด อีกทั้งมีโอกาสขยายศักยภาพของแบรนด์ รวมถึงกลุ่มลูกค้าสินค้าไลฟ์สไตล์และเฟอร์นิเจอร์ที่ไป collab ด้วย ได้เห็นมุมมองใหม่ว่าแบรนด์อื่นมองภาพสินค้าของละมุนละไมเข้าไปร่วมด้วยได้อย่างไร และได้ร่วมกันผลิตสินค้าที่มุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกันด้วยการคำนึงถึง people - planet และ profit อย่างยั่งยืน ซึ่งประสบการณ์ที่ได้เป็นสิ่งที่สามารถนำไปขยายต่อยอดทั้งกับแบรนด์ตัวเอง และการจะร่วมมือกับแบรนด์อื่นในอนาคตได้อีกด้วย" นางสาวณพกมลกล่าว



***ใครว่าสินค้า Mass Production จะใส่ความครีเอทีฟไม่ได้
ฐากร เท็กซ์ ไทล์ สตูดิโอ (Takorn Textile Studio) สตูดิโอผู้สร้างสรรค์สิ่งทอซึ่งเน้น Innovative Textile การทดลองโครงสร้างทางสิ่งทอใหม่ๆ เพื่อให้เกิด texture และ visual ที่แปลกออกไป

นายฐากร ถาวรโชติวงศ์ (ผู้บริหาร ฐากร เท็กซ์ ไทล์ สตูดิโอเล่าว่า "ได้ร่วมพัฒนาสินค้ากับแบรนด์ชูส์เฮาส์ (Shoes House) ผู้ผลิตรองเท้าเพื่อส่งออก ซึ่งเห็นว่าวัสดุของฐากรน่าจะไปต่อยอดรองเท้าที่เจาะตลาดยุโรปได้ โดยออกแบบเป็นรองเท้าบูต 3 คอลเล็คชั่น ภายใต้คอนเซ็ปต์ futuristic และ exotic เพราะมองว่าในยุคหลังโควิด

สิ่งที่เกิดขึ้นใหม่หรือวัฒนธรรมที่เกิดหลังจากนี้น่าจะก้าวล้ำมากๆ คนโหยหาการแต่งตัวและแฟชั่น จึงต้องดีไซน์สิ่งที่ล้ำจริงๆ ขณะเดียวกันยังเป็นการ upcycle ของวัสดุเหลือใช้ด้วย โดยทางชูส์เฮาส์นำเศษหนังที่เหลือจากโรงงานมาผลิตร่วมกับเส้นใยของฐากรซึ่งมีการผสมเส้นใยรีไซเคิลจากขวดน้ำพลาสติกใช้แล้วเข้าไปด้วย ถือเป็นความร่วมมือที่ท้าทายเพราะเป็นการทำร่วมกันแบบออนไลน์ 100% ผ่านการสเกตช์แบบกันทางออนไลน์ แล้วนำไปตัดเย็บขึ้นเป็นต้นแบบ

"การเข้าร่วมโครงการนี้เป็นการเปิดโอกาสที่ดีในการนำเอาความคิดสร้างสรรค์ไปผนวกเข้ากับโรงงานผลิตสินค้าในเชิง Mass Production ซึ่งก็สามารถทำเพื่อจำหน่ายได้จริง" นายฐากรกล่าว



*** แนวคิดตรงกัน สินค้าใหม่ก็เกิดขึ้นได้ไม่ยาก
นายชนน วระพงษ์สิทธิกุล และนางสาวณัฐฏิยา รัชตราเชนชัย จากฮาร์ฟแบรนด์ (HARVBRAND) ผู้ผลิตสินค้าตกแต่งบ้านที่ขยายตัวจากโรงงานเฟอร์นิเจอร์ปาร์ติเคิลบอร์ด เน้นการออกแบบและผลิตสินค้าที่ใช้วัสดุอย่างคุ้มค่า ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพผู้ใช้ เล่าว่า ปาร์ติเคิลบอร์ดเป็นวัสดุที่เกิดจากไม้เหลือใช้หมุนเวียนนำกลับมาใช้ใหม่ โดยมาจากต้นยางที่ลำต้นถูกนำไปผลิตเฟอร์นิเจอร์แล้ว เหลือกิ่งก้านต่างๆ ซัปพลายเออร์จึงนำมาย่อยให้เล็กลงผสมกาวคุณภาพดีที่มีการปล่อยสารฟอร์มัลดิไฮด์ต่ำหรือไม่มีเลย แล้วบีบอัดด้วยความดันสูง

เมื่อเข้าร่วมโครงการจึงมองหาแบรนด์ที่มีวัสดุแนวทางเดียวกันอย่าง Qualy เพื่อออกแบบสินค้าใหม่ที่ใช้จุดเด่นของทั้งสองแบรนด์มาร่วมกัน ให้เกิดเป็นสินค้าในรูปแบบโมดูลา ขนาดต่อชิ้นนั้นไม่ใหญ่แต่สามารถนำไปต่อกันเพื่อขยายประโยชน์การใช้งานได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นชั้นวางหนังสือ วางของแต่งบ้าน ต้นไม้ หรือคอนโดแมว เป็นต้น โดยเสากิ่งไม้ทำจากพลาสติกรีไซเคิลของ Qualy ส่วนชั้นเป็นเศษไม้จากโรงงานที่ตัดเหลือจากเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ เช่น เตียง ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งจัดเป็นเซตจำหน่ายให้ลูกค้าเลือกขนาด S M L วางแผนที่จะจำหน่ายให้ได้ภายในปี 2564 นี้

รวมทั้งจะต่อยอดไปในสินค้าแบบอื่นๆ เพราะทั้งสองแบรนด์มีแนวคิดตรงกันในด้านการนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่ ต่างเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน คือช่วยขยายรูปแบบให้กับการจำหน่ายสินค้าของ Qualy เพราะจากเดิมจำหน่ายสินค้าเป็นชิ้นแต่เมื่อมาทำเป็นรูปแบบเฟอร์นิเจอร์ทำให้จำหน่ายได้ทีละหลายชิ้น ส่วนทาง HARVBRAND เองก็สามารถใช้เศษไม้ได้อย่างคุ้มค่าและเต็มที่มากขึ้น

"เทรนด์เฟอร์นิเจอร์ที่มาทาง BCG (Bio-Circular-Green) จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดจากยุโรปและสหรัฐอเมริกาที่มีแบรนด์ลักษณะนี้เพิ่มขึ้นมาก มีผู้คนให้ความสนใจและซื้อสินค้า รัฐบาลยุโรปเองก็มีมาตรการในการอนุญาตสินค้าเพื่อจำหน่ายในประเทศมากขึ้นด้วย ในประเทศไทยแม้จะเป็นวาระแห่งชาติก็จริงแต่ก็ยังมีจำนวนผู้ใช้สินค้าแบบนี้ไม่มากอาจเพราะติดในเรื่องของราคา แต่คิดว่าในอนาคตหากความต้องการเพิ่มสูงขึ้น ผู้ผลิตก็จะสามารถผลิตได้ในต้นทุนที่ถูกลง สำหรับประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการนี้อันดับแรกคือการได้รู้จักผู้ประกอบการและผู้เชี่ยวชาญที่ช่วยเพิ่มเครือข่ายในการทำธุรกิจ อันดับสองคือการได้รับมุมมองใหม่ๆ ที่ไม่เคยนึกถึงมาก่อน เกิดเป็นคอมมูนิตีของแบรนด์ที่สนใจเรื่องเดียวกัน เกิดการแลกเปลี่ยนมุมมอง ทำให้มีพลังบางอย่างที่จะส่งถึงลูกค้าในอนาคตให้หันมาใช้วัสดุที่เป็น BCG มากขึ้น เพื่อช่วยกันลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ใช้ทรัพยากรธรรมชาติน้อยลง" นายชนนกล่าว



*** การได้ค้นหาวัสดุแปลกใหม่เป็นเรื่องดี
ประสบการณ์การเข้าร่วมโครงการ STYLE BANGKOK COLLABORATION ในปีที่ผ่านมาทำให้ นางสาวจุไร​รัตน์​ คุณ​า​วิ​ชยา​นนท์​ เจ้าของแบรนด์ คุณเดคอเรต (KUN decorate) ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์จากอะลูมิเนียมตัดสินใจเข้าร่วมโครงการในปีนี้ได้ไม่ยาก โดยเล่าว่า

"การเข้าร่วมโครงการในปีที่แล้วทำให้เห็นถึงข้อดีของการได้รู้จักวัสดุแปลกใหม่ มีโอกาสในการพัฒนาสินค้าใหม่ที่ต่อยอดจากเฟอร์นิเจอร์ จึงตัดสินใจเข้าร่วมในปีนี้ ซึ่งได้ร่วม Collab กับ 6 แบรนด์ ใน 4 คอลเลกชัน มีโอกาสในการนำอะลูมิเนียมจาก KUN DECORATE ไปร่วมกับวัสดุอื่น ไม่ว่าจะเป็นเศษหนังรีไซเคิลจากแบรนด์ธาอีส (THAIS) สำหรับการผลิตสินค้าเพื่อกิจกรรมแคมปิ้ง ช่วยเพิ่มคุณค่าใหม่ๆ ให้กับการใช้งาน หรือการทำให้อะลูมิเนียมดูนุ่มนวลลงด้วยการไปผนวกกับเส้นใยจากผักตบชวาและใยผ้าจากแบรนด์ มูเน่ (Munie) และใส่ใจ (SAI JAI) เพื่อทำเป็นโคมไฟกระเป๋าหิ้ว

ขณะที่แบรนด์วินเทค (Wintech) ซึ่งเป็นกระจกก็มาชวนทำเฟอร์นิเจอร์ที่แปลกออกไปโดยใช้กระจกเป็นขาแต่อะลูมิเนียมกลายไปเป็นส่วนท็อป ส่วนคอลเลกชันสุดท้ายคือการร่วมกับ หนึ่งศูนย์สามเปเปอร์ (103paper) และฮิวมีม (Humeme) เพื่อทำสินค้าขนาดเล็กที่ใส่ของได้โดยมีปิ่นโตเป็นแกนของคอนเซ็ปต์ การร่วมมือเหล่านี้คือความท้าทายใหม่ๆ ที่สามารถต่อยอดความร่วมมือได้ต่อไปในอนาคต

ความร่วมมือกันหรือการ Collaboration นั้นเกิดขึ้นได้ในทุกอุตสาหกรรม เมื่อแบรนด์มีเป้าหมายเดียวกัน ย่อมพัฒนาความร่วมมือต่อกันได้ในหลายๆ ด้าน และต่อยอดไปยังอนาคต เพื่อให้เกิดสินค้าใหม่ที่สามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืนในโลกของการค้า และส่งเสริมการใช้ชีวิตของมนุษย์ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ต่อไป
#2931
วัยชราควรทาน ข้าวไรซ์เบอร์รี่ และ ประโยชน์ของข้าวไรซ์เบอร์รี่  มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง มีน้ำตาลต่ำ Low Gi
ข้าวไรซ์เบอร์รี่ / ข้าวไรซ์เบอรี่ออแกนิคคือ[/url]
มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง    เกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ปลูกข้าวอินทรีย์  ประโยชน์และสรรพคุณเพียบ!!




 ปลูกข้าวไรซ์เบอรี่ออแกนิค ( Rice Berry ) เป็นพันธุ์ข้าวที่ผสมกันระหว่างข้าวเจ้าหอมนิล กับ ข้าวขาวดอกมะลิ 105 มีลักษณะสีม่วงดำ เมล็ดเรียวยาว ผิวมันวาว อุดมไปด้วยวิตามินและมีคุณค่าทางอาหารสูงจึงเป็นที่นิยมสำหรับคนที่รักสุขภาพ

  •  ข้าวไรซ์เบอรี่ปลอดสารพิษ มีสารที่ชื่อว่า สารแอนโทไซยานิน ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สูงมากกว่าวิตามินซีและวิตามินอี ถึง 2 เท่า ทั้งยังมีวิตามินแร่ธาตุมากมายและมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ได้แก่ เบต้าแคโรทีน แกมมาโอไรซานอล โอเมก้า 3 วิตามินอี โฟเลต เหล็ก และ สังกะสี
  • ข้าวไรซ์เบอรี่ออแกนิคคือ สรรพคุณ ของ  ข้าวไรซ์เบอรี่เพื่อสุขภาพ ที่รู้แล้วต้องรีบหาข้าวชนิดนี้มาทาน
  •  ข้าวไรซ์เบอรี่ออแกนิกมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สูง
  • ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่อินทรีย์ มีสารที่ชื่อว่า โพลิฟีนอล ที่จะช่วยทำลายฤทธิ์ของอนุมูลอิสระ จึงลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งได้
  •  ข้าวไรซ์เบอร์รี่ออแกนิกช่วยป้องกันโรคหัวใจ
  •  ข้าวไรซ์เบอร์รี่ออแกนิค จะช่วยทำให้เลือดหมุนเวียนไปเลี้ยงอวัยวะส่วนต่างๆภายในร่างกายได้อย่างเป็นปกติ จึงช่วยป้องกันโรคหัวใจ และ หลอดเลือดหัวใจอุดตัน
  •  ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่ออแกนิค ช่วยลดระดับไขมันและคอเรสเตอรอล
  •  ข้าวสุไรซ์เบอร์รี่ขภาพ ช่วยรักษาโรคเบาหวาน
  •  ข้าวไรซ์เบอร์รี่ออร์แกนิค ยังช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่น ชะลอความแก่ ลดริ้วรอย และยังลดการอักเสบที่ผิวหนังได้อีกด้วย
  •  กลุ่มข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ช่วยบำรุงระบบไหลเวียนโลหิต
  •  ปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ออแกนิค จะช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดียิ่งขึ้น ผู้สูงอายุมักมีปัญหาด้านระบบไหลเวียนโลหิต
  • ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ ช่วยบำรุงสมอง
  • ข้าวไรซ์เบอร์รี่ออแกนิคคือ มีคุณสมบัติช่วยควบคุมน้ำตาล และยังช่วยชะลอการดูดซึมของน้ำตาลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นช้า จึงเหมาะกับผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานและโรคอ้วน
  •  ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์กรมการข้าวช่วยรักษาโรคโลหิตจาง
  •  ข้าวไรซ์เบอร์รี่ปลอดสารพิษ  มีธาตุเหล็ก ซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงโลหิตและบำรุงร่างกายให้แข็งแรง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคโลหิตจาง
  •  ปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ มีไฟเบอร์สูง จึงช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ ช่วยแก้อาการท้องผูก ใครที่ท้องผูกบ่อยๆควรเปลี่ยนจากการรับประทานข้าวขาวมาเป็นข้าวไรซ์เบอร์รี่ก็จะช่วยให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น
  • ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ ช่วยลดน้ำหนัก ข้าวไรซ์เบอร์รี่มีใยอาหารสูง เมื่อรับประทานจะทำให้รู้สึกอิ่มท้องได้นาน ไม่หิวบ่อย ทั้งยังมีปริมาณน้ำตาลต่ำกว่าการรับประทานข้าวขาว
  •  ข้าวไรซ์เบอร์รี่ออแกนิก ช่วยบำรุงระบบไหลเวียนโลหิต ข้าวไรซ์เบอร์รี่จะช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดียิ่งขึ้น ผู้สูงอายุมักมีปัญหาด้านระบบไหลเวียนโลหิต
  •  ข้าวสุไรซ์เบอร์รี่ขภาพ ช่วยบำรุงสมอง และ ข้าวไรซ์เบอรี่มีโอเมก้า 3 และ วิตามินบี ที่จะช่วยบำรุงระบบประสาทและการทำงานของระบบสมองให้ดียิ่งขึ้น
  • ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์มีโฟเลตสูง คุณแม่ที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ ควรหันมารับประทานข้าวไรซ์เบอร์รี่ เพราะมีสารโฟเลตสูง ซึ่งสารชนิดนี้จะช่วยบำรุงลูกน้อยในครรภ์ให้สมบูรณ์แข็งแรง
  • ข้าวไรซ์เบอร์รี่ปลอดสารพิษ มี เส้นใยของข้าวไรซ์เบอร์รี่จะช่วยลดไขมันและคอเรสเตอรอลให้ลดน้อยลง และยังมีสารแกมมาโอไรซานอลที่จะช่วยลดไตรกลีเซอไรด์ในหลอดเลือด ทั้งยังช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูง และโรคหลอดเลือด
  •  ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว
  •  ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์กรมการข้าว มีโอเมก้า 3 และ วิตามินบี ที่จะช่วยบำรุงระบบประสาทและการทำงานของระบบสมองให้ดียิ่งขึ้น
ข้าวฮอร์ (HOR) ได้รับมาตรฐาน
1. ใบรับรองมาตรฐานข้าวอินทรีย์ ( Organic Thailand)
2. ใบรับรองเครื่องหมาย "ข้าวพันธุ์แท้" จากกรมการข้าว จาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ในประเภทของ
2.1 ข้าวขาวดอกมะลิ 105 (ข้าวขาว)
2.2 ข้าวขาวดอกมะลิ105 (ข้าวกล้อง)
2.3 ข้าวมะลินิลสุรินทร์

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์   ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์   สถานการณ์ข้าวออร์แกนิคไทย    ส่งเสริม ผลิตข้าวออร์แกนิค  
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website :  thai-organic-rice.tumblr.com/
Facebook : การปลูกข้าวปลอดสาร  
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ   ข้าวออร์แกนิคไทยมีราคาแพง
1.ข้าวหอมมะลิสุรินทร์
2.ข้าวกล้องหอมมะลิสุรินทร์
3.ข้าวปกาอำปึลอินทรีย์ ข้าวพื้นถิ่นสุรินทร์
4.  ข้าวผสมหลายสายพันธุ์ปลอดสารพิษ จ.สุรินทร์
5.ข้าวกล้องมะลิแดงอินทรีย์ 
6.ข้าวมะลินิลอินทรีย์สุรินทร์
7.   ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่ออร์แกนิค ความหมายของข้าวอินทรีย์  

ข้าว Hor พร้อมขายแล้วที่ Shopee & Lazada  นาข้าวอินทรีย์
https://shopee.co.th/hor.boutique
https://www.lazada.co.th/shop/horboutique/

#ข้าวไรซ์เบอรี่ #ประโยชน์ข้าวไรซ์เบอรี่ #ข้าวไรซ์เบอรี่ออแกนิก #ข้าวไรซ์เบอรี่อินทรีย์ #ข้าวไรซ์เบอรี่สุรินทร์  #ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่ #ประโยชน์ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่ #ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่ออแกนิก #ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่อินทรีย์ #ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่สุรินทร์
 

 

 

 

 
 
#2932


เครือเจริญโภคภัณฑ์และกลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์จับมือร่วมกันก่อตั้งกองทุน Venture Capital ขนาด 600 – 800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมุ่งเน้นการลงทุนใน Disruptive Technology ด้านบล็อคเชน (Blockchain) สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Assets) เทคโนโลยีด้านการเงิน (FinTech) และเทคโนโลยีอื่นๆ ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงทั่วโลก

การร่วมมือกันในครั้งนี้ถือเป็นการดึงจุดแข็งของทั้งสองฝ่าย เพื่อร่วมบริหารจัดการกองทุน Venture Capital โดยเครือเจริญโภคภัณฑ์เป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีธุรกิจหลากหลายและมีเครือขายทั่วโลก นอกจากนี้ยังมี Ecosystem ที่ครอบคลุมในหลากหลายอุตสาหกรรม ได้แก่ ธุรกิจอาหาร ธุรกิจค้าปลีก เกษตรกรรม ธุรกิจด้านสุขภาพ ซึ่งช่วยให้บริษัทที่ไปลงทุนนั้น สามารถเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผู้บริโภคได้ ในขณะที่ กลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์นั้น นับเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยการมี Ecosystem ในภาคการเงินที่ทันสมัยและสามารถต่อยอดไปยังภาคธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมี SCB 10X บริษัทในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้เข้าร่วมบริหารจัดการกองทุนดังกล่าว เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยี และมีเครือข่ายนักลงทุน Venture Capital  ทั่วโลก รวมถึงการเป็นผู้นำในด้าน Blockchain และสินทรัพย์ดิจิทัลในภูมิภาค

เครือเจริญโภคภัณฑ์และกลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ จะร่วมกันจัดตั้งบริษัทเพื่อบริหารจัดการกองทุน โดยต่างถือหุ้นร้อยละ 50 นอกจากนี้ ยังร่วมลงทุนในกองทุน Venture Capital ขนาด 600 – 800 ล้านหรียญสหรัฐฯ นี้ เป็นจำนวนเงินฝ่ายละ 100 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนที่เหลือจะระดมทุนจากนักลงทุนที่ได้รับการรับรอง (Accredited Investor) โดยมุ่งเน้นลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีที่มีศักยภาพตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจนถึงเติบโตทั่วโลก (Early to Growth Stage)

นายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานคณะกรรมการ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด กล่าวว่า "เราเชื่อว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนจะเข้ามาเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจในหลายๆ อุตสาหกรรม ได้แก่ ภาคการเงินการธนาคาร ภาคเกษตรกรรม ด้วยความสามารถของเทคโนโลยีนี้ที่เข้ามาช่วยในการติดตามและเพิ่มความโปร่งใสของกระบวนการต่างๆ ซึ่งเราเชื่อว่าขณะนี้เรายังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของเทคโนโลยีนี้ และเชื่อว่ายังมีศักยภาพในการเติบโตอีกมาก"

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า "ทุกวันนี้เราเห็นการเติบโตของเทคโนโลยีบล็อกเชนได้ชัดเจนในภาคการเงิน การนำบล็อกเชนเข้ามาประยุกต์ใช้กับบริการทางการเงินนั้น จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้การบริการทางการเงินนั้นเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และทำให้เกิดนวัตกรรมขึ้น การก่อตั้งกองทุน Venture Capital ร่วมกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ในครั้งนี้ จะทำให้เราสามารถสร้างความแตกต่างและคุณค่าให้กับเหล่านักลงทุนและ Startup ได้อย่างดี ทั้งยังเป็นการสร้างธุรกิจใหม่ให้กับกลุ่มธนาคาร ผ่านขีดความสามารถในด้านการลงทุน และเป็นโอกาสในการต่อยอดธุรกิจหลักของธนาคารผ่านนวัตกรรมทางการเงินที่สำคัญ"
#2933

บริษัท เฟล็กซ์ สเตชั่น จำกัด ผู้ผลิตรายการวิทยุ Flex 104.5 Ultimate Sound of Bangkok ภายใต้การนำทัพของหัวเรือใหญ่คุณจี๊บ - เทพอาจ กวินอนันต์ ผู้ก่อตั้ง และบริหารงานโดยคุณอ้อม - พิยดา อัครเศรณี กรรมการผู้จัดการ 

คุณพิยดา อัครเศรณี กรรมการผู้จัดการ เผยว่า อย่างที่ทราบกันดีว่าในปี 64 Flex 104.5 นำเสนอภายใต้แคมเปญ "Stay tuned , Stay safe"  ที่มี 1) Stay tuned กับ 10 เพลงฮิต 45 นาที ตลอด 24 ชั่วโมง 2) ขานรับกลุ่มผู้ฟังชาวออฟฟิศที่ Work From Home ด้วยการจับมือกับ 7 ร้านอาหารชื่อดังระดับประเทศส่งเมนูอร่อยไปเสิร์ฟประสบการณ์ความฟินระดับพรีเมียมฟรีถึงบ้าน 3) ร่วมกับ Volt Energy Wear สปอร์ตแบรนด์ชั้นดีสัญชาติไทยผลิตหน้ากากผ้ารุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นพร้อมข้อความให้กำลังใจจากผู้บริหารและเหล่าเอฟ.เจ.ของคลื่น Flex 104.5 แจกฟรีให้แฟนๆ ชาวเฟล็กซ์กว่า 3,000 ชุดสร้างปรากฏการณ์หมดภาย 60 วัน 

ล่าสุดนำเสนอความแข็งแกร่งจับมือเป็น Strategic Partnership กับ JOOX เปิดตัว Flex 104.5 ใน JOOX Live Radio เพื่อให้เข้าถึงพฤติกรรมการฟังวิทยุที่ไม่ได้หายไปไหน เพียงเปลี่ยนแพลตฟอร์มไปตามยุคสมัย จากความแข็งแกร่งในการร่วมมือครั้งนี้ จากความเข้าใจพฤติกรรมการฟังเพลง รวมถึงการนำเสนอกิจกรรมที่เข้าใจส่งตรงไปเสิร์ฟคนฟังได้อย่างรู้ใจ ทำให้ Flex 104.5 มียอด Streaming Top Fan จากทุกช่องทางออนไลน์ทะลุ 3,000,000 คนภายใน 1 เดือน นอกจากนี้ยังสร้างสถิติสุดเจ๋งขึ้นแท่นอันดับ 1 ใน JOOX ภายในระยะเวลาไม่ถึงเดือน จึงเตรียมส่งกิจกรรมแทนคำขอบคุณ ชวนผู้ฟังเล่นเกมส์ลุ้น iPhone13 สามารถติดตามรายละเอียดและกติกาเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้ที่: https://www.flexconnect.net/หรือ Application: FlexConnect
#2934


นายบุญอนันต์ พัฒนสิน นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่าวถึงกรณี ททท.เล็งขยับ 5 จังหวัดเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ จากกำหนดเดิมวันที่ 1 ตุลาคม อาจต้องเลื่อนไปเป็นวันที่ 1 พฤศจิกายน แทน เพื่อให้ทุกพื้นที่ระดมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ได้ครบโดสไม่น้อยกว่า 70% ตามเกณฑ์การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขหลักของการพิจารณาเปิดพื้นที่นำร่องนั้น ประกอบกับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศยังไม่แน่นอน คณะทำงานจากกระทรวงสาธารณสุข จึงเห็นควรให้เลื่อนกำหนดการอย่างน้อย 1 เดือนจากกำหนดเดิมนั้น ว่า ภาคเอกชนเตรียมความพร้อมในการเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแล้ว แต่หลังจากมีข่าวเลื่อนเปิดเมืองไปเป็นวันที่ 1 พฤศจิกายนนั้น ภาคเอกชนอยากขอความชัดเจนจากภาครัฐในการเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยว วิธี และขั้นตอนปฎิบัติในการเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

สำหรับภาพรวมเมืองท่องเที่ยวช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นั้น มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองพัทยามากขึ้น ทำให้ยอดการจองเข้าพักเริ่มมีสูงขึ้น แต่วันธรรมดายังเงียบเหมือนเดิม
#2935


นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เปิดเผยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี(SMESI) เดือนสิงหาคม 2564 อยู่ที่ระดับ 31.9 ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าแต่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ (น้อยกว่าค่าฐานที่ 50) สะท้อนว่าผู้ประกอบการ ส่วนใหญ่ยังไม่เชื่อมั่นต่อภาวะธุรกิจและเศรษฐกิจในปัจจุบัน

ทั้งนี้การปรับเพิ่มขึ้นของดัชนีฯ เป็นผลจากสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปตั้งแต่ช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2564 และมีสัญญาณการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคระบาดในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ที่อนุญาตให้ธุรกิจบางแห่งเปิดให้บริการซื้อหวยออนไลน์ถูกกฎหมายได้ภายใต้เงื่อนไข โดยสอดคล้องกับ Facebook movement range และ Google mobility index ซึ่งสะท้อนการเคลื่อนย้ายของผู้คน ที่เพิ่มขึ้นชัดเจนในช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา บ่งชี้กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยองค์ประกอบของดัชนีด้านคำสั่งซื้อ ปริมาณการผลิต/การค้า/บริการ การลงทุน กำไร และการจ้างงาน ปัจจุบันเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 21.5 22.9 34.0 21.3 และ 41.0 ตามลำดับ


ส่วนองค์ประกอบด้านต้นทุนปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 51.0 และดัชนี SMESI ภาคการผลิต ภาคการค้า และภาคบริการ ในเดือนนี้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 31.8 36.0 และ 29.0 ตามลำดับ อย่างไรก็ตามค่าดัชนี SMESI ยังค่อนข้างต่ำจาก 50 อยู่มาก สะท้อนว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังกังวลต่อภาวะธุรกิจและเศรษฐกิจ ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป 

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นฯ ของผู้ประกอบการรายภูมิภาค ได้แก่ เขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ปัจจุบันอยู่ที่ 30.7 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 26.6 โดยค่าดัชนีฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากค่าเดิมที่ต่ำที่สุดเมื่อเดือนก่อนหน้า จากการผ่อนปรนมาตรการควบคุมโรคในพื้นที่ ทำให้ธุรกิจหลายประเภทกลับมาเปิดดำเนินกิจการและให้บริการได้มากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหาร และการผลิตอาหาร แม้จะมีข้อจำกัดในการนั่งรับประทานที่ร้าน แต่ยังสามารถขายผ่านเดลิเวอรี่ได้

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ของภาคกลาง ปัจจุบันอยู่ที่ 29.4 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 28.7 ภาพรวมของธุรกิจปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย จากภาคการผลิต และการขนส่งสินค้าขยายตัว แต่พื้นที่ยังมีข้อจำกัดในการจัดกิจกรรมทางสังคมอยู่มาก ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการรวมกลุ่มของผู้คนยังคงชะลอตัวอยู่ เช่น ธุรกิจสันทนาการ/วัฒนธรรม/กีฬา เป็นต้น

Pfizer เผยวัคซีนปลอดภัย-ได้ผลดีในเด็ก 5-11 ปี
บาทเปิด 33.38/40บาทต่อดอลลาร์ แนวโน้มอ่อนค่า
ด้านดัชนีความเชื่อมั่นฯ ของภาคตะวันออก ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 30.7 ค่อนข้างทรงจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 30.6 จากผลกระทบกลุ่มคลัสเตอร์โรงงานและสถานประกอบการ และมีปัญหาอุทกภัยน้ำท่วมในพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตโดยเฉพาะกลุ่มผลิตเสื้อผ้าและสิ่งทอ

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นฯ ของภาคเหนือ ปัจจุบันอยู่ที่ 28.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 27.4 หลายธุรกิจมีการขยายตัวของยอดคำสั่งซื้อ เช่น ธุรกิจวัสดุก่อสร้าง และรับเหมาก่อสร้างขนาดเล็ก แต่ธุรกิจโรงแรมและที่พักในพื้นที่ยังคงซบเซาอย่างมาก ส่งผลต่อรายได้และสภาพคล่องของภาคธุรกิจหลายแห่งต้องปิดกิจการชั่วคราว อีกทั้งพบคลัสเตอร์การแพร่ระบาดหลายแห่ง และราคาลำไยปรับตัวลดลงส่งผลต่อรายได้ภาคการเกษตรทำให้ค่าดัชนีรวมของพื้นที่น้อยที่สุด 

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นฯ ของภาคใต้ ปัจจุบันอยู่ที่ 36.8  เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 35.9 จากธุรกิจส่วนใหญ่ยังเปิดดำเนินกิจการได้ และได้รับผลบวกจากโครงการ Phuket Sandbox อย่างไรก็ตาม จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่มากนัก และมักอยู่ในเฉพาะพื้นที่โรงแรม/ที่พัก หรือท่องเที่ยวใกล้ที่พักเท่านั้น ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวไม่ได้รับผลบวกเท่าที่ควร   ส่วนภาคเกษตรกรมีรายได้ปรับตัวดีขึ้น ตามราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น อาทิ ปาล์มน้ำมัน และยางพารา

และดัชนีความเชื่อมั่นฯ ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 34.5 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 33.4  เนื่องจากพื้นที่มีข้อจำกัดในการเดินทางค่อนข้างน้อย ทำให้หลายธุรกิจยังพอดำเนินการได้ โดยเฉพาะร้านจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป และธุรกิจด้านความงาม รวมไปถึงการผลิตอาหาร และกลุ่มงานไม้และเฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งบ้านที่ปรับดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 45.2 ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 41.9 เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่คาดว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะคลี่คลายมากยิ่งขึ้น และสามารถดำเนินธุรกิจได้คล่องตัวมากขึ้น มีผู้บริโภคออกมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นเมื่อเทียบกับปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค อีกทั้งมีความคาดหวังว่าธุรกิจการท่องเที่ยวจะปรับตัวดีขึ้นในช่วง high season ของปลายปี และกิจกรรมทางสังคมต่างๆ ที่น่าจะดำเนินธุรกิจได้มากขึ้น ภายใต้ข้อกำหนดการควบคุมโรค

อย่างไรก็ดีปัจจุบันปัญหาสำคัญที่มีผลกระทบต่อกิจการเอสเอ็มอี 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. ด้านผู้บริโภคและกำลังซื้อ 2. ด้านต้นทุน 3. ด้านการได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงาน 4. ด้านคู่แข่งขัน และ 5. ด้านแรงงาน
#2936
 คุณแม่ตั้งครรภ์ทานข้าวกล้องออแกนิค Low GI ข้าวอร่อยโภชนาการสูงสำหรับคุณแม่ให้นมบุตร ข้าวสุรินทร์ 100%
'ข้าวอินทรีย์' ดีต่อสุขภาพ  ปลูกข้าวอินทรีย์ กันมั้ย  ตลาดข้าวอินทรีย์  ต้นข้าวออร์แกนิค

9 เหตุผลที่คุณแม่ตั้งครรภ์ .....ควรรับประทานข้าวกล้องออร์แกนิค ( ข้าวไรซ์เบอรี่อินทรีย์ )
        การรับประทาน "#ข้าวกล้องออร์แกนิค หรือ ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ " ส่งผลดีต่อลูกน้อยในครรภ์และสุขภาพคุณแม่มากมาย ถือเป็นหนึ่งในอาหารกลุ่มให้พลังงาน ข้าวกล้องเป็นข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี จึงยังคงไว้ด้วยคุณค่าสารอาหารมากกว่าขาวที่ถูกขัดสีแล้ว  เรามากันทำไมคุณแม่ตั้งครรภ์ควรกิน  "#ข้าวกล้องออร์แกนิค"  ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้




1. ข้าวกล้องมะลินิลออแกนิค, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีเส้นใยอาหาร ซึ่งช่วยในเรื่องของอาการท้องผูกและมะเร็งลำไส้
2.   ข้าวกล้องอินทรีย์หอมมะลินิล, ข้าวกล้องออร์แกนิคเมื่อรับประทานข้าวกล้องเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ป้องกันการเกิดปากนกกระจอก เนื่องจากมีวิตามินบี 2
3.  ขายข้าวหอมมะลิอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิคบรรเทาอาการอ่อนเพลีย อาการปวดแสบและเสียวในขา ปวดน่อง ปวดกล้ามเนื้อ
4.  กลุ่มข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีฟอสฟอรัส ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน และเส้นผม
5.  กลุ่มข้าวปะกาอำปึลอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีธาตุเหล็กมากเป็น 2 เท่า ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
6.  ข้าวปะกาอำปึลอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีเกลือแร่ และวิตามินรวมกันกว่า 20ชนิด ซึ่งช่วยให้ระบบการทำงานของร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
7.  ข้าวผกาอำปึลอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีโปรตีนมากกว่า 20-30% ช่วยเสริมสร้างร่างกาย ซ่อมแซมเซลล์ส่วนที่สึกหรอ
8.  ข้าวหอมมะลิแดงออแกนิคคือ, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแคลเซียมจำเป็นที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับ ช่วยให้กระดูกแข็งแรง และยังช่วยป้องกันการเกิดตะคริว ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์กว่า 90% ต้องเผชิญ
9.  ปลูกข้าวกล้องหอมมะลิแดงอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแป้งมีน้อยกว่าข้าวขาว ช่วยลดความอ้วน เนื่องจากได้รับสารอาหารต่างๆ ที่มีประโยชน์เพิ่มขึ้น มีผลทำให้สุขภาพจิตใจของคุณแม่ตั้งครรภ์ดีขึ้น เพราะสุขภาพร่างกายแข็งแรง สดชื่น แจ่มใส

หลังจากรู้คุณค่าของ "ข้าวกล้องออร์แกนิค"  กันแล้ว อย่าลืมซื้อ "ข้าวกล้องออร์แกนิก"  มาทานกันนะคะ

ข้าว Hor.Boutique ข้าวไรซ์เบอรี่ หรือ ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่   ข้าวอินทรีย์
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website :  ข้าวหอมมะลิorganic
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.  ข้าวหอมมะลิออแกนิคสำหรับทารก
2.  ข้าวกล้องหอมมะลิปลอดสารพิษ
3.  ขายข้าวปะกาอำปึลอินทรีย์   ขายข้าวผกาอำปึลอินทรีย์(ข้าวพื้นถิ่นออแกนิกสุรินทร์) 4.  ข้าวอินทรีย์ผสมหลายสายพันธุ์ จ.สุรินทร์
5.  ข้าวกล้องอินทรีย์หอมมะลิแดง 6.ข้าวกล้องหอมมะลินิลอินทรีย์
7.  ข้าวไรซ์เบอรี่อินทรีย์กรมการข้าว ข้าวไรซ์เบอร์รี่organic

#ข้าวคนท้อง  #ข้าวสำหรับคนท้อง   #ข้าวคนตั้งครรภ์   #ข้าวสำหรับคนตั้งครรภ์  #คนท้องกินข้าวกล้อง  #คุณแม่ตั้งครรภ์
 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 
#2937


"ทูตพาณิชย์ชิคาโก" เผยสินค้าอาหารโปรตีนจากพืชสำหรับสัตว์เลี้ยงกำลังมาแรงในตลาดสหรัฐฯ หลังสถานการณ์โควิด-19 ทำคนอยู่บ้าน และหันมาเลี้ยงสัตว์ ให้ความสำคัญต่อสุขภาพสัตว์มากขึ้น ชี้ผู้ผลิตรายใหญ่ในสหรัฐฯ หันมาลงทุนผลิตมากขึ้น แถมมีรายใหม่เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น แนะผู้ผลิต ผู้ส่งออกไทยใช้จุดแข็งผลิตสินค้าป้อน และเพิ่มทางเลือกอาหารโปรตีนจากแมลง มั่นใจได้รับการตอบรับ

นางสุปรารถนา กมลเวชช ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครชิคาโก สหรัฐฯ เปิดเผยว่า สำนักงานฯ ได้ติดตามโอกาสทางการค้าของไทยตามนโยบาย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พบว่าสินค้าอาหารโปรตีนจากพืช (Plant-based food) สำหรับสัตว์เลี้ยงกำลังมาแรงในตลาดสหรัฐฯ หลังจากที่อาหารโปรตีนจากพืชสำหรับคนมีการเติบโตไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากชาวอเมริกันมีเวลาอยู่กับบ้านมากขึ้นในช่วงสถานการณ์โควิด-19 และหันมาเลี้ยงสัตว์มากขึ้น ใส่ใจสุขภาพสัตว์มากขึ้น ทำให้มีความต้องการอาหารโปรตีนจากพืชเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ตลาดอาหารโปรตีนจากพืชสำหรับสัตว์เลี้ยงยิ่งคึกคักมากขึ้น เมื่อมีข่าวว่านักธุรกิจระดับเศรษฐีพันล้านอย่าง นาย Mark Cuban เจ้าของทีมบาสเกต. NBA Dallas Mavericks และเป็นหนึ่งในกรรมการผู้ตัดสินในรายการ Shark Tank ของสหรัฐฯ ได้ร่วมกับนักธุรกิจ และนักลงทุนรายอื่นๆ ได้เพิ่มเงินลงทุนในตลาดอาหารโปรตีนจากพืชสำหรับสัตว์เลี้ยง เป็นเงิน 23 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับบริษัท สตาร์ทอัพน้องใหม่ Wild Earth เป็นผู้ผลิตอาหารโปรตีนจากพืชสำหรับสัตว์เลี้ยง ซึ่งแจ้งเกิดจากรายการ Shark Tank เมื่อ 2 ปีกว่าที่ผ่านมา

สำหรับบริษัท Wild Earth ก่อตั้งขึ้นในรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่ได้ย้ายไปตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่รัฐนอร์ทแคโรไลนา บริษัทเป็นผู้ผลิตอาหารโปรตีนจากพืชสำหรับสัตว์เลี้ยงด้วยการใช้ยีสต์แห้ง ถั่วชิกพี ข้าวโอ๊ต และโปรตีนถั่ว โดยกิจการของบริษัทในช่วงปี 2563-2564 ธุรกิจขยายตัวสูงร้อยละ 700 และมีลูกค้ามากกว่า 40,000 ราย บริษัทมีแผนจะใช้เงินทุนที่ได้รับเพิ่มในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เนื้อวัว เนื้อไก่ และอาหารทะเล จากโปรตีนพืชเพื่อใช้เป็นอาหารสุนัขและแมว

ส่วนผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงรายใหญ่ของสหรัฐฯ ที่หันมาลงทุนในตลาดอาหารโปรตีนจากพืชสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น บริษัท Mars เจ้าของแบรนด์ Iams, Pedigree และ Whiskas บริษัท Nestle เจ้าของแบรนด์ Purina ได้เปิดตัวอาหารสุนัขและแมวที่เป็นโปรตีนจากพืชและแมลง บริษัท Freshpet จำหน่ายอาหารสุนัขและแมวประเภทแช่เย็น จะนำเสนออาหารมังสวิรัติสำหรับสุนัข หรือแม้แต่บริษัท General Mills ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ Blue Buffalo มีแผนการผลิตอาหาร Plant-based สำหรับสัตว์เลี้ยงในอีก 2 ปีข้างหน้า

นางสุปรารถนากล่าวว่า ความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้นเป็นโอกาสของไทยในฐานะที่เป็นแหล่งนำเข้าอาหารสัตว์เลี้ยงที่สำคัญที่สุดของสหรัฐฯ โดยผู้ผลิต ผู้ส่งออกไทยจะต้องศึกษา เพิ่มการผลิต และนำเสนอสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงทำจากโปรตีนพืช หรือโปรตีนแมลง ไปยังตลาดสหรัฐฯ เพราะปัจจุบันโปรตีนจากแมลงเป็นที่ยอมรับและได้รับความนิยมบริโภคเพิ่มขึ้นในหมู่ผู้บริโภคสหรัฐฯ อยู่แล้ว การประยุกต์โปรตีนจากแมลงกับโปรตีนจากพืชในการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงจะช่วยในการต่อยอดสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยในสหรัฐฯ ได้เพิ่มขึ้น

ทางด้านการเข้าสู่ตลาด ผู้ประกอบการไทยควรจะพิจารณาการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าเพื่อแนะนำสินค้าและเพิ่มโอกาสในการขยายตลาด โดยมี 4 งานที่เหมาะสม ได้แก่ 1. งานแสดงสินค้าสินค้าสัตว์เลี้ยง Global Pet Expo 2021 วันที่ 23-25 มี.ค. 2565 ณ นครออร์แลนโด รัฐฟลอริดา https://globalpetexpo.org/Default.asp, 2. งานแสดงสินค้าสัตว์เลี้ยง Super Zoo 2021 วันที่ 23-25 ส.ค. 2565 ณ เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา www.superzoo.org 3. งานแสดงสินค้าอาหารผลิตจากโปรตีนพืช Plant Based World Conference and Expo 2021 วันที่ 9-10 ธ.ค. 2564 ณ นครนิวยอร์ก www.plantbasedworldexpo.com และงานแสดงสินค้าอาหารผลิตจากโปรตีนพืช Natural Product Expo West 2022, วันที่ 9-11 มี.ค. 2565 ณ เมืองอนาไฮม์ แคลิฟอร์เนีย www.expowest.com/en/home.html

ปัจจุบันข้อมูลของสมาคม The American Pet Products Association (APPA) ระบุว่า คนอเมริกันร้อยละ 70 หรือประมาณ 90.5 ล้านครัวเรือนเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงในปี 2563 เพิ่มขึ้นร้อยละ 67 เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้คนอเมริกันหาสัตว์เลี้ยงมาเป็นเพื่อนยามเหงาเพิ่มจำนวนมาก ซึ่งเป็นตัวเลขสูงที่สุด และในปีที่ผ่านมาคนอเมริกันใช้จ่ายไปกับสินค้าและบริการสำหรับสัตว์เลี้ยงเป็นเงิน 103.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.5 ซึ่งหมวดสินค้าที่มีการใช้จ่ายมากที่สุด คือ อาหารและผลิตภัณฑ์ของขบเคี้ยว คิดเป็นเงิน 42 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.7
#2938


แกร็บ (Grab) ผุดฟีเจอร์ใหม่ให้ผู้ใช้กดเลือกเพื่อบริจาคเงิน 2 บาทต่อเที่ยวการเดินทางด้วยรถยนต์ หรือ 1 บาทต่อเที่ยวการเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ เพื่อสมทบในโครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าไม้ในประเทศไทย ชวนผู้ใช้บริการร่วมลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ พร้อมเปิดตัวรายงานความยั่งยืนฉบับแรก

เนื่องในวันปลอดมลพิษโลก (Zero Emission Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 21 กันยายนของทุกปี แกร็บ ประเทศไทย โดย วรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการบริหาร ชวนผู้ใช้บริการมีส่วนร่วมในการชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนเมื่อใช้บริการการเดินทางกับแกร็บ ผ่านฟีเจอร์ใหม่ โดยผู้ใช้ไม่เพียงสามารถกดเลือกเพื่อบริจาคเงินสมทบ แต่แกร็บ ประเทศไทย จะร่วมมือกับ Conserve Natural Forests (CNF) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ฟื้นฟูภูมิทัศน์ป่าธรรมชาติ และเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ

ไทยเป็นหนึ่งในหลายประเทศที่แกร็บเปิดตัวฟีเจอร์พิเศษสำหรับบริการการเดินทางเพื่อชดเชยคาร์บอน โดยผู้ใช้บริการที่เข้าร่วมการบริจาคเพื่อชดเชยคาร์บอนครบ 50 ครั้งขึ้นไปในทุกไตรมาสจะได้รับการแจ้งเตือนผ่านทางอีเมลหรือแอปพลิเคชัน Grab ว่าผู้ใช้ได้รับต้นไม้ที่จะนำไปปลูกในป่า "GrabforGood" ซึ่งดำเนินการโดย Ecomatcher ซึ่งเป็นองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการปลูกต้นไม้ซึ่งได้รับการรับรองในระดับสากล โดยผู้ใช้สามารถตั้งชื่อ ติดตามการเติบโตของต้นไม้ หรือแม้กระทั่งดูข้อมูลของเกษตรกรที่ปลูกต้นไม้นั้นๆ ได้ผ่านทางแพลตฟอร์ม EcoMatcher Treetracker โดยติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง grab.com/th/blog/co2neutral/



นายแอนโทนี ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งแกร็บ กล่าวถึงการเปิดตัวรายงานการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environment, Social & Governance หรือ ESG) ฉบับแรกของบริษัท ว่าธุรกิจของแกร็บนั้นมีความเกี่ยวเนื่องและสัมพันธ์โดยตรงกับชีวิตความเป็นอยู่และสวัสดิภาพที่ดีของคนในสังคม รวมถึงสิ่งแวดล้อม ดังนั้น แกร็บจึงให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการส่งเสริมและสนับสนุนพาร์ทเนอร์คนขับและพาร์ทเนอร์ร้านค้า ให้มีโอกาสในการเข้าถึงรายได้อย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมสำหรับคนรุ่นต่อๆ ไป

"รายงาน ESG ฉบับแรกของแกร็บนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการดำเนินธุรกิจของเรา ที่ไม่ได้มุ่งแค่การสร้างความสำเร็จในเชิงธุรกิจ แต่ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและขับเคลื่อนชีวิตของผู้คนในสังคม ด้วยความโปร่งใสและความรับผิดชอบที่มีต่อคนกลุ่มต่างๆ ในวงจรธุรกิจของเรา"

รายงาน ESG ฉบับแรกของแกร็บมีเนื้อหาครอบคลุมหัวข้อสำคัญต่างๆ ตามมาตรฐาน GRI หรือ Global Reporting Initiative อาทิ ผลกระทบในเชิงเศรษฐกิจและสังคม การสนับสนุนความหลากหลายและการยอมรับในความแตกต่าง การปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม โดยมีไฮไลท์สำคัญ ได้แก่ พาร์ทเนอร์คนขับและพาร์ทเนอร์ร้านค้าของแกร็บสามารถสร้างรายได้รวมกว่า 7.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 225,780 ล้านบาท ผ่านแอปพลิเคชันแกร็บในปี 2563 ขณะที่ 46% ของพาร์ทเนอร์คนขับที่ร่วมตอบแบบสอบถามระบุว่าพวกเขาไม่ได้ประกอบอาชีพใดๆ ก่อนที่จะมาเป็นพาร์ทเนอร์คนขับแกร็บ



นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า 33% ของพาร์ทเนอร์ร้านอาหารเริ่มจำหน่ายอาหารผ่านช่องทางออนไลน์เป็นครั้งแรกกับแกร็บ และผู้ประกอบการขนาดเล็กเกือบ 600,000 รายเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ของแกร็บเพื่อจำหน่ายอาหารและสินค้าผ่านบริการแกร็บฟู้ดและแกร็บมาร์ท ในปี 2563

ขณะเดียวกัน รายงานชี้ว่า 59% ของผู้ที่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อจากแกร็บ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ในปี 2563 เป็นกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยที่ไม่เข้าถึงโอกาสทางการเงิน และพาร์ทเนอร์คนขับแกร็บกว่า 1.7 ล้านคนผ่านโปรแกรมการฝึกอบรมต่างๆ ของแกร็บ อาทิ ความรู้ด้านดิจิทัล การปกป้องข้อมูล ความรู้ทางการเงิน คอร์สสื่อสารภาษาอังกฤษ เป็นต้น

ที่สำคัญ รายงานระบุว่าปริมาณขยะพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวลดลงจากการงดใช้ช้อนส้อมพลาสติกรวม 380 ล้านชุดบนแกร็บ.
#2939


ทำเอาชาว BLINKs แฟนคลับ BlackPink ออกอาการไม่พอใจกันถ้วนหน้าเมื่อค่าย YG Entertainment ให้ "ลิซ่า ลลิษา มโนบาล" ที่เพิ่งมีผลงานเดี่ยวของตนเองครั้งแรก เข้าร่วมโปรโมทในรายการเพลงของเกาหลีน้อย โดยล่าสุดมีคิวไปแค่รายการเดียว

เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา ลิซ่า ได้ร่วมรายการเพลงของเกาหลี Inkigayo เพื่อแสดงโชว์โซโล่ของตนเองเป็นครั้งแรกและเวทีแรกในเกาหลี แต่งานนี้ทำเอาแฟนๆที่รอโอกาสให้ ลิซ่า ได้โชว์ศักยภาพพากันกังวลหนักเพราะมันอาจเป็นรายการแรกและรายการสุดท้ายของ ลิซ่า

โดยชาว BLINKs ได้พากันพูดถึงคลิปที่ ลิซ่า ได้พูดคุยวิดีโอคอลกับแฟนคลับผู้โชคดีที่ได้แฟนไซน์จากตนเอง ซึ่งในคลิปแฟนคลับได้ถาม ลิซ่า เกี่ยวกับการเดินสายโปรโมทเพลงในรายการต่างๆของเกาหลี ก่อนที่ ลิซ่า จะตอบว่า "ทีมงานกำลังคุยๆกันอยู่ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ"

งานนี้ส่งผลให้แฟนๆไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะสังเกตได้ว่า ลิซ่า เพิ่งจะได้ขึ้นแสดงในรายการเพลงหลังจากปล่อยผลงานเพลงออกไปได้นานเป็นสัปดาห์ๆแล้ว ซึ่งสัปดาห์แรกมักเป็นสัปดาห์ที่สำคัญที่สุดในการโปรโมทเพลงของศิลปินที่เพิ่งออกผลงานใหม่

นอกจากการไม่ได้ออกโปรโมทในรายการเพลงต่างๆมากมายแล้ว แฟนๆยังเห็นว่า ลิซ่า ไม่ได้มีโอกาสไปออกรายการวาไรตีโชว์เหมือนศิลปินรายอื่นด้วย

อย่างไรก็ตามแม้แฟนๆจะผิดหวังกับแผนการโปรโมท ลิซ่า จากค่ายเพลง แต่แฟนๆก็ยังไม่หยุดพยายามที่จะช่วยโหวตและช่วยสตรีมมิงผลงานของเธอเพื่อให้เธอได้ชนะรางวัลที่ 1 ในรายการเพลง แต่ก็น่าผิดหวังที่การแสดงครั้งแรกในรายการเพลงเกาหลีของ ลิซ่า ทาง Inkigayo ลิซ่า ทำได้แค่อันดับ 2 จนทำเอาแฟนๆเริ่มทนไม่ไหว

งานนี้จึงเกิดกระแสเรียกร้องตามมาจนเป็นเทรนด์ในทวิตเตอร์ว่า MORE PROMOTIONS FOR LISA ที่นอกจากเรียกร้องให้ ลิซ่า ได้ขึ้นแสดงในรายการเพลงมากกว่านี้แล้ว ยังบ่นถึงการจัดเวทีในรายการ Ingikayo ของ ลิซ่า ที่ทางค่ายทำให้ไม่ปังเหมือนคนอื่นด้วย

อย่างไรก็ตามการโปรโมทเพลง LALISA ของ ลิซ่า แม้จะยังคลุมเครือไม่เป็นที่แน่นอน แต่แฟนๆก็ได้ตื่นเต้นกันอีกรอบเมื่อทางค่าย YG Ent. เตรียมจะปล่อยวิดีโอการแสดงเพลง Money อีกหนึ่งแทร็คจากอัลบัม LALISA ในวันที่ 22 ก.ย. นี้เวลา 11.00 น. ตามเวลาเกาหลีใต้ หรือเวลา 13.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

งานนี้แฟนๆจึงได้แต่หวังว่าผลงานเพลงที่ 2 ของ ลิซ่า ที่กำลังจะปล่อยคลิปให้ได้ชม จะช่วยให้ ลิซ่า ได้มีโอกาสโปรโมทผลงานเดี่ยวของตนเองมากขึ้นในทุกๆช่องทาง
 
#2940

นางลัษมณ อรรถาพิช รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(สกพอ.) หรือ อีอีซี กล่าวว่าตนได้ร่วมเป็นวิทยากรในงานสัมมนาออนไลน์ (Webinar) Thailand Business Forum 2021 จัดโดย สถานเอกอัครราชทูตณ กรุงบูดาเปสต์ สำนักงานส่งเสริมการลงทุนณ นครแฟรงค์เฟิร์ต และ Hungarian Chamberof Commerce and Industry (HCCI)เพื่อแสดงถึงศักยภาพและความพร้อมของโครงการและโอกาสการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ให้แก่นักลงทุนและภาคเอกชนในฮังการีและประเทศใกล้เคียงทราบ

ทั้งนี้ อีอีซีได้นำเสนอความก้าวหน้าการพัฒนาโครงการอีอีซีพร้อมทั้งชักจูงและสร้างโอกาสการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.สุขภาพ 2.ดิจิทัล 3.Decar bonization ซึ่งครอบคลุมเรื่องยานยนต์สมัยใหม่ (Next-Generation Automotive) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Green and Circular Economy) และการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City), และ 4.โลจิสติกส์ รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานทั้งด้านดิจิทัล และด้านการวิจัยพัฒนา และนวัตกรรมในอีอีซีที่รองรับการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายดังกล่าว


"ในงานสัมมนาครั้งนี้ มีนักลงทุนและภาคเอกชนจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมงานและให้ความสนใจจำนวนมาก อาทิ ประเทศฮังการี เยอรมนี สหราชอาณาจักร สวิตเซอร์แลนด์ออสเตรเลีย เป็นต้น โดยคาดว่า 4 อุตสาหกรรมเป้าหมายดังกล่าวจะสามารถดึงนักลงทุนและภาคเอกชนเข้ามาลงทุนในอีอีซีได้"นางลัษมณกล่าว

นางลัษมณกล่าวว่า นอกจากนี้ ได้ประชุมสัมมนาออนไลน์ หัวข้อ "Development of Circular Economy Investment Promotion Policy and Action Plan in EEC" ที่จัดขึ้นร่วมกับหน่วยงานภาครัฐได้แก่ องค์การบริหารก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (อบก.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และหน่วยงานภาคเอกชน เช่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย จำกัด บริษัท พีทีที โกล. เคมิคอล จำกัด (มหาชน) บริษัท ยูนิลิเวอร์ ประเทศไทย จำกัด และ บริษัท อีอาร์เอ็ม สยาม จำกัด เพื่อแสดงศักยภาพและความก้าวหน้าการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน(Circular Economy) ในมิติด้านการสนับสนุนการลงทุนในพื้นที่อีอีซีของทั้งภาครัฐและเอกชน พร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การดำเนินงานของภาคเอกชนในประเทศไทยในการนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนมาประยุกต์ในภาคการผลิต


 
สำหรับในการประชุมสัมมนาฯ ครั้งนี้ได้มีการเผยแพร่โครงการส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนในพื้นที่อีอีซี เช่น การทำ Platform สำหรับจับคู่ทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการรีไซเคิล การพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน รวมถึงระบบติดตามการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในพื้นที่อีอีซี ซึ่งถือเป็นพื้นที่ต้นแบบสำคัญของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับการลงทุนเศรษฐกิจสีเขียวและเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อให้อีอีซี เป็นพื้นที่คาร์บอนต่ำผ่านนโยบายลดก๊าซเรือนกระจกและการเชื่อมโยงภาครัฐและเอกชนโดยเน้นการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันผ่านการสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียนในพื้นที่ผ่าน 4 กิจกรรม ได้แก่ การพัฒนาต้นแบบ CE-EEC Model ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายด้าน Circular Economy การสำรวจข้อมูลเทคโนโลยี วัตถุดิบ ของเสีย และ GHG Mitigation Information Platform