• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Cindy700

#2941
98 บาท 6 วัน 6 วิชา

พลิกชีวิตแม่ค้าทั่วไป ไม่เก่งออนไลน์
เป็นนักธุรกิจออนไลน์มืออาชีพ อย่างง่ายดาย

สนใจ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
https://lin.ee/4zIaPti


#2942


ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 17 ก.ย.

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (17 ก.ย.) เนื่องจากตลาดยังคงถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการปรับขึ้นภาษีนิติบุคคล การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เร็วขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,584.88 จุด ลดลง 166.44 จุด หรือ -0.48%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,432.99 จุด ลดลง 40.76 จุด หรือ -0.91% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,043.97 จุด ลดลง 137.96 จุด หรือ -0.91%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อวันศุกร์ (17 ก.ย.) และปิดลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ร่วงลง แต่รายงานข่าวที่ว่าอังกฤษกำลังพิจารณาผ่อนคลายข้อจำกัดด้านการเดินทางนั้นได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มสายการบินและโรงแรม

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 461.84 จุด ลดลง 4.11 จุด หรือ -0.88%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,570.19 จุด ลดลง 52.40 จุด หรือ -0.79%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,490.17 จุด ลดลง 161.58 จุด หรือ -1.03% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,963.64 จุด ลดลง 63.84 จุด หรือ -0.91%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อวันศุกร์ (17 ก.ย.) โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ร่วงลง และการเปิดเผยยอดค้าปลีกของอังกฤษที่ลดลงเกินคาดในเดือน ส.ค. ได้ตอกย้ำความวิตกเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,963.64 จุด ลดลง 63.84 จุด หรือ -0.91%

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) โดยถูกกดดันจากดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งทำให้สัญญาน้ำมันดิบที่กำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและมีความน่าดึงดูดน้อยลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่นๆ

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค. ลดลง 64 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 71.97 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่เพิ่มขึ้น 3.2% ในรอบสัปดาห์นี้

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงต่อเมื่อวันศุกร์ (17 ก.ย.) เนื่องจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเป็นปัจจัยกดดันตลาดเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 5.3 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,751.4 ดอลลาร์/ออนซ์ และในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาทองคำลดลง 2.3% และปิดตลาดที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค.

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 45.7 เซนต์ หรือ 2% ปิดที่ 22.337 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาแพลทินัมส่งมอบเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 7.3 ดอลลาร์ หรือ 0.79% ปิดที่ 930.6 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 37.70 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 1,983.80 ดอลลาร์/ออนซ์

-- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (17 ก.ย.) ขณะที่ยูโรและปอนด์อ่อนค่าลง โดยดอลลาร์ยังคงได้แรงหนุนจากการเปิดเผยยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ที่ดีเกินคาดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะลดการซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ก่อนสิ้นปีนี้

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.28% แตะที่ 93.1881 เมื่อวันศุกร์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.91 เยน จากระดับ 109.70 เยน, แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9322 ฟรังก์ จากระดับ 0.9269 ฟรังก์ และดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2745 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2679 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1729 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1754 ดอลลาร์, เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3738 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3789 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.7273 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7294 ดอลลาร์

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 34,584.88 จุด ลดลง 166.44 จุด, -0.48%,

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,432.99 จุด ลดลง 40.76 จุด, -0.91%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 15,043.97 จุด ลดลง 137.96 จุด, -0.91%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,963.64 จุด ลดลง 63.84 จุด, -0.91%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,570.19 จุด ลดลง 52.40 จุด, -0.79%,

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,490.17 จุด ลดลง 161.58 จุด, -1.03%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 59,015.89 จุด ลดลง 125.27 จุด, -0.21%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,133.25 จุด เพิ่มขึ้น 23.31 จุด, +0.38%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,548.51 จุด ลดลง 6.75 จุด, -0.43%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,912.85 จุด ลดลง 55.58 จุด, -0.80%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,071.23 จุด เพิ่มขึ้น 6.69 จุด, +0.22%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,920.76 จุด เพิ่มขึ้น 252.91 จุด, +1.03%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,613.97 จุด เพิ่มขึ้น 6.87 จุด, +0.19%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 17,276.79 จุด ลดลง 1.91 จุด, -0.011%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 3,140.51 จุด เพิ่มขึ้น 10.42 จุด, +0.33%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 30,500.05 จุด เพิ่มขึ้น 176.71 จุด, +0.58%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,403.70 จุด ลดลง 56.50 จุด, -0.76%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,702.90 จุด ลดลง 56.90 จุด, -0.73%
#2943


รอยเตอร์ - เวียดนามได้อนุมัติวัคซีนอับดาลา (Abdala) ของคิวบาเพื่อใช้ต่อสู้กับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ รัฐบาลเผยวานนี้ (18) ในขณะที่ประเทศกำลังต่อสู้กับการระบาดครั้งเลวร้ายที่สุด

วัคซีนอับดาลา กลายเป็นวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตัวที่ 8 ที่ได้รับการรับรองให้ใช้งานในเวียดนาม ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาค ที่มีเพียง 6.3% ของประชากร 98 ล้านคนที่ได้รับการฉีดวัคซีน 2 เข็ม

การประกาศอนุมัติใช้งานวัคซีนนี้เกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดีเหวียน ซวน ฟุ้ก ออกเดินทางจากกรุงฮานอยไปเยือนกรุงฮาวานาอย่างเป็นทางการ

เวียดนามมีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสม 667,650 คน และมีผู้เสียชีวิต16,637 คน โดยผู้ป่วยติดเชื้อส่วนใหญ่มาจากการระบาดของสายพันธุ์เดลตาที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนเม.ย.

"กระทรวงสาธารณสุขได้อนุมัติรับรองวัคซีนอับดาลา ตามความจำเป็นเร่งด่วนของประเทศเพื่อต่อสู้กับโควิด-19" รัฐบาลระบุในคำแถลง

เมื่อเดือนก่อน กระทรวงระบุว่าคิวบาจะจัดหาวัคซีนอับดาลาจำนวนมากให้กับเวียดนามและจะถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตภายในสิ้นปีนี้

เวียดนามและคิวบาเป็นหนึ่งใน 5 ประเทศสุดท้ายของโลกที่ปกครองประเทศด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ ร่วมกับจีน ลาว และเกาหลีเหนือ

ในเดือนก.ค. เวียดนามได้เรียกร้องให้สหรัฐฯ ยุตินโยบายที่ไม่เป็นมิตรต่อคิวบา และยกเลิกการคว่ำบาตรทางการค้าหลังเกิดการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลบนเกาะแห่งนี้.
#2944

อัตรการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามในขณะนี้เป็นที่จับตาของนักลงทุนทั่วโลก โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมที่มองเวียดนามในฐานะฐานการผลิตที่มีศักยภาพ แต่สำหรับธุรกิจการค้าและบริการต่างชาติยังคงต้องเผชิญกับกฎระเบียบของเวียดนาม ที่เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการขยายตัวของธุรกิจต่างชาติในประเทศสังคมนิยมแห่งนี้

นิกเคอิ เอเชีย รายงานว่า บริษัทต่างชาติจำนวนมากที่เข้ามาลงทุนดำเนินกิจการในเวียดนามกำลังต้องเผชิญกับอุปสรรคจากระบบการประเมินความจำเป็นทางเศรษฐกิจ (economic needs test) หรือ "อีเอ็นที"

โดยระบบดังกล่าวบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2007 เมื่อเวียดนามเข้าร่วมองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) ซึ่งให้อำนาจแก่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเวียดนามในการประเมินและตัดสินว่า จะอนุญาตให้ธุรกิจต่างชาติลงทุนเปิดสาขาถูกกฎหมายเชื่อถือได้ใหม่หรือไม่

ซึ่งระบบอีเอ็นทีกลายเป็นอุปสรรคที่ทำให้ธุรกิจต่างชาติหลายรายต้องถอดใจจากการขยายธุรกิจในเวียดนาม เนื่องจากกระบวนการพิจารณาที่ล่าช้าและที่ไม่ชัดเจน

อย่างกรณี "อีมาร์ต" (E-Mart) เชนร้านค้าปลีกรายใหญ่อันดับ 2 ของเกาหลีใต้ที่เข้ามาลงทุนเปิดไฮเปอร์มาร์เก็ตสาขาแรกในนครโฮจิมินห์ตั้งแต่ปี 2015 แต่อีมาร์ตไม่สามารถขยายสาขาได้ เนื่องจากต้องเผชิญอุปสรรคจากระบบอีเอ็นที


ทั้งที่ธุรกิจค้าปลีกในเวียดนามมีแนวโน้มที่ดีมาก ตามข้อมูลของบริษัทวิจัย "นีลเส็น โฮลดิ้งส์" ระบุว่า จำนวนร้านสะดวกซื้อในเวียดนามปี 2020 เพิ่มขึ้น 6.7% จากปีก่อนหน้า ขณะที่จำนวนซูเปอร์มาร์เก็ตก็เพิ่มขึ้น 3.8% ในช่วงเวลาเดียวกัน

กระทั่งเดือน พ.ค. 2021 อีมาร์ตก็ตัดสินใจขายหุ้น 100% ให้กับ "ทาโก้ กรุ๊ป" (THACO Group) ธุรกิจยักษ์ใหญ่อันดับ 4 ของเวียดนาม และเป็นผู้ผลิตรถยนต์ รวมทั้งตัวแทนจำหน่ายรถยนต์อย่าง "มาสด้า" และ "เปอโยต์"

ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว อีมาร์ตจะได้รับค่าสิทธิ (royalty fee) ตามสัญญาแฟรนไชส์จนถึงปี 2030 ขณะที่ทาโก้ กรุ๊ป ตั้งเป้าจะเปิดไฮเปอร์มาร์เก็ตเพิ่มอีก 3-4 สาขาภายในปี 2022 พ่วงกับการขยายโชว์รูมรถยนต์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท

ลักษณะเช่นนี้ยังเกิดกับธุรกิจข้ามชาติรายอื่น เช่นที่ "เซเว่นอีเลฟเว่น" ที่ขายสิทธิแฟรนไชส์ให้กับ "เซเว่น ซิสเต็ม เวียดนาม" และ "ดังกิ้น โดนัท" ที่ดำเนินการโดย "เวียดนาม ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ"


ขณะที่ธุรกิจต่างชาติบางรายก็เลือกใช้ช่องทางหลบเลี่ยงระบบอีเอ็นที เช่น การเปิดสาขาใหม่ในห้างสรรพสินค้าและมีขนาดร้านไม่เกิน 500 ตร.ม. ซึ่งได้รับอนุญาตให้ดำเนินการได้โดยไม่ต้องผ่านการประเมินของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น

"เฟรด เบิร์ก" ที่ปรึกษาอาวุโสของบริษัทที่ปรึกษาด้านกฎหมาย เบเคอร์ แมคเคนซี ระบุว่า กระบวนการอีเอ็นทีเป็นภาระหนักและเป็นอุปสรรคที่สร้างความล่าช้าในการเติบโตให้กับบริษัทต่างชาติ ทั้งยังเป็นการฉุดรั้งการลงทุนจากต่างประเทศและการเติบโตของเวียดนามด้วย

ขณะที่ "ฌอน ที โงะ" ซีอีโอของบริษัทที่ปรึกษาการตลาด เอฟวี แฟรนไชส์ คอนซัลติ้ง มองว่า เวียดนามยังคงเป็นตลาดกำลังพัฒนาและธุรกิจท้องถิ่นยังต้องการเวลาเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขัน "ซึ่งระบบอีเอ็นทีช่วยให้การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศค่อยเป็นค่อยไปและสามารถควบคุมได้"

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันรัฐบาลเวียดนามเริ่มผ่อนปรนข้อกำหนดมากขึ้น โดยอนุญาตให้บริษัทในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) และประเทศสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (ทีพีพี) ไม่ต้องอยู่ภายใต้ระบบอีเอ็นที แต่บริษัทต่างชาติอื่น ๆ ยังคงถูกจำกัดควบคุม ท่ามกลางโอกาสในเศรษฐกิจของเวียดนามที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
#2945


สามนักบิดยอดฝีมือของทีม ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ "มุกข์" มุกข์ลดา สารพืช หมายเลข 44, "ดรีม" สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง หมายเลข 45 และ "แชมป์" ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ หมายเลข 123 สำแดงฝีมือคว้ากริดสตาร์ทกลุ่มแถวหน้าในรุ่นซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ก่อนเตรียมลงสนามต่อสู้เพื่อประเดิมแชมป์ครั้งแรกของปีนี้ กับศึก โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2021 สนามแรกที่บุรีรัมย์ วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน 2564

ศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย "โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2021" เปิดฉากสนามแรกกันเป็นที่เรียบร้อย ณ สังเวียน ช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยวันเสาร์ที่ 18 กันยายน 2564 เป็นการแข่งขันรอบควอลิฟาย เพื่อจัดกริดสตาร์ทให้กับนักแข่งทุกคนก่อนลงแข่งรอบชิงชนะเลิศในวันถัดไป

การแข่งขันครั้งนี้ "ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์" ทีมแข่งชั้นนำของเมืองไทย ส่ง 3 นักบิดยอดฝีมือระดับแนวหน้าของทีม ที่มีประสบการณ์ลงแข่งสังเวียนทั้งในและนอกประเทศมาแล้ว ลงประลองความเร็วในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600ซีซี นำโดย "มุกข์" มุกข์ลดา สารพืช นักบิดสาวแกร่ง หมายเลข 44, "ดรีม" สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง นักบิดมากประสบการณ์ หมายเลข 45 และ "แชมป์" ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ หมายเลข 123 ซึ่งทั้ง 3 คนลงขับขี่ด้วยตัวแข่งคู่ใจอย่าง Honda CBR600RR รุ่นใหม่ล่าสุดลงแข่งขัน



ผลการควอลิฟาย ปรากฏว่า "แชมป์" ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ หมายเลข 123 ทำเวลาต่อรอบได้ดีที่สุดของทีม กดเวลาได้ 1 นาที 40.102 วินาที ตามด้วยสาวแกร่งมากประสบการณ์อย่าง "มุกข์" มุกข์ลดา สารพืช หมายเลข 44 เวลาต่อรอบอยู่ที่ 1 นาที 40.188 วินาที และ "ดรีม" สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง หมายเลข 45 เวลาต่อรอบอยู่ที่ 1 นาที 40.523 วินาที ซึ่งทั้งสามคนจะได้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 4, กริดที่ 5 และกริดที่ 6 ตามลำดับ โดยเป็นแถวสองของการแข่งขันวันชิงชนะเลิศ ซึ่งถือว่ามีโอกาสสูงที่ทั้ง ภาสวิชญ์, มุกข์ลดา และ สิทธิศักดิ์ จะบิดคันเร่งสอดแทรกคู่แข่งขึ้นไปอยู่แถวหน้าได้สำหรับการไล่ล่าแชมป์และโพเดียมในไทยประจำปีนี้

ภาสวิชญ์ เปิดเผยหลังคว้ากริดสตาร์ทที่ 4 ว่า "ค่อนข้างพอใจกับกริดสตาร์ทที่ทำได้ในแถว 2 ครับ เพราะว่าเวลาต่อกันเแค่เสี้ยววินาทีกับแถวหน้า และในช่วงของการซ้อมเราก็เซ็ตอัพและหาเวลาคงที่ได้ดีมากๆ สำหรับการแข่งขัน ดังนั้นผมและทีมค่อนข้างมั่นใจว่าจะสามารถต่อสู้เพื่อตำแหน่งแชมป์ได้"

ด้าน มุกข์ลดา กล่าวว่า "วันนี้อากาศค่อนข้างร้อนแต่ก็ถือว่าทีมงานของเราทำงานกันได้อย่างลงตัว กริดในแถวที่ 2 ถือว่าน่าพอใจกับการควอลิฟายในสนามนี้ เชื่อว่าการแข่งขันสนามแรกในวันอาทิตย์ เราจะสามารถสร้างโอกาสต่อสู้เพื่อลุ้นชัยชนะในเรซนี้ได้ค่ะ"

สำหรับการแข่งขัน "โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2021" รอบชิงชนะเลิศ จะดวลความเร็วกันในวันอาทิตย์ที่ 19 กันยายนนี้ แฟนๆ ความเร็วสามารถรับชมถ่ายทอดสด การแข่งขัน OR BRIC Superbike 2021 ได้ทาง Truesports HD3 / True visions ช่อง 668 วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน 2564 เวลา 15.00-18.00 น. หรือชม Live Streaming ทางเพจ Chang Circuit Buriram และ Youtube : Chang International Circuit ตั้งแต่ 9.00 น. เป็นต้นไป พร้อมติดตามข่าวสารของนักบิดฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : www.facebook.com/HondaRacingTeamTH
#2946
98 บาท 6 วัน 6 วิชา

พลิกชีวิตแม่ค้าทั่วไป ไม่เก่งออนไลน์
เป็นนักธุรกิจออนไลน์มืออาชีพ อย่างง่ายดาย

สนใจ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
https://lin.ee/4zIaPti


#2947


นางวสุกานต์ วิศาลสวัสดิ์  รักษาการผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)เปิดเผยว่า บสย.ได้เปิดรับคำขอค้ำประกันสินเชื่อกับสถาบันการเงิน ที่เข้าร่วมโครงการค้ำประกันสินเชื่อถูกกฎหมายเชื่อถือได้ ตามพระราชกำหนดให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2564  ระยะที่ 2 หรือ สินเชื่อฟื้นฟู เฟส 2 วงเงิน 100,000 ล้านบาท

นางวสุกานต์ วิศาลสวัสดิ์  รักษาการผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)
นางวสุกานต์ วิศาลสวัสดิ์  รักษาการผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)

สำหรับผู้ประกอบธุรกิจ 3 กลุ่มได้แก่ 1. ผู้ประกอบการกลุ่มไมโคร (Micro) 2.ผู้ประกอบการ SMEs 3. กลุ่ม คอร์ปอเรท (Corporate)


จุดเด่นของโครงการคือ การปรับเกณฑ์การค้ำประกันสินเชื่อให้ดียิ่งขึ้น เพื่อช่วยผู้ประกอบการกลุ่มไมโคร และ กลุ่ม SMEs เปราะบาง ได้ลดภาระต้นทุนค่าธรรมเนียม และเพิ่มโอกาสได้วงเงินสินเชื่อเพิ่ม ได้แก่

 

1.ปรับลดค่าธรรมเนียมค้ำประกันทันทีตั้งแต่ปีแรก สำหรับผู้ประกอบการกลุ่มไมโคร และ กลุ่ม SMEs เปราะบาง จ่ายเบา เริ่มต้นเพียง 1% ต่อปีต่อเนื่อง 4 ปีแรก รวม 13% ตลอดระยะเวลา 10 ปี

 

2.เพิ่มโอกาสผู้ประกอบการกลุ่มไมโคร และกลุ่ม SMEs เปราะบาง ได้รับวงเงินสินเชื่อเพิ่มขึ้นสูงสุด 50 ล้านบาทต่อราย

 

3.เพิ่มความมั่นใจให้ธนาคารปล่อยสินเชื่อโดย บสย. จ่ายค่าประกันชดเชยเต็ม 100% ในกลุ่มไมโคร (Micro) จากเดิม 90%  และ กลุ่ม SMEs เปราะบาง จากเดิม 80% 

วงเงินใหม่มาแล้ว!  1 แสนล้าน สินเชื่อฟื้นฟู เฟส 2
วงเงินใหม่มาแล้ว! 1 แสนล้าน สินเชื่อฟื้นฟู เฟส 2

สำหรับผู้ประกอบการกลุ่มคอร์ปอเรท (Corporate) รัฐบาลได้ช่วยบรรเทาภาระต้นทุน จ่ายค่าธรรมเนียม 1% ต่อปีต่อเนื่อง 2 ปีแรก รวม 14 % ตลอดระยะเวลา 10 ปี โดย บสย. ค้ำประกันสูงสุดไม่เกิน 150 ล้านบาทต่อรายต่อสถาบันการเงิน  และมีระยะเวลาค้ำประกันสูงสุดถึง 10 ปี  เริ่มรับคำขอตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2564 สิ้นสุดรับคำขอวันที่ 9 ตุลาคม 2566

 

คุณสมบัติของผู้ประกอบการที่ขอรับการค้ำประกันสินเชื่อ ประกอบด้วย 

1. เป็นบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล ที่จดทะเบียนและมีสถานประกอบการในประเทศไทย

2. มีวงเงินสินเชื่อธุรกิจกับสถาบันการเงิน ณ วันที่ 28 ก.พ.2564 ไม่เกิน 500 ล้านบาท หรือไม่มีวงเงินสินเชื่อธุรกิจกับสถาบันการเงิน

3. ไม่เป็น NPL ณ 31 ธ.ค.2562

4. ไม่เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ยกเว้น บริษัทที่จดทะเบียนในตลาด MAI

5. ไม่เป็นผู้ประกอบธุรกิจทางการเงิน

 

ทั้งนี้ในกระบวนการพิจารณาการอนุมัติค้ำประกันสินเชื่อ ประกอบด้วย 8 ขั้นตอนดังนี้

1.ผู้ขอสินเชื่อติดต่อธนาคารพร้อมยื่นเอกสาร 

2.ธนาคารพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ

3.ธนาคารนำส่งเอกสารให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ

4.ธนาคารส่งคำขอค้ำประกันสินเชื่อมาที่ บสย.

5. บสย.ตรวจสอบเอกสาร ถูกต้อง ครบถ้วน 

6.อนุมัติค้ำประกัน 

7. บสย.แจ้งอนุมัติพร้อมส่งเอกสารเพื่อให้ธนาคารนัดหมายผู้ขอสินเชื่อ   

8.ผู้ประกอบการได้รับสินเชื่อ 

 

สำหรับผลดำเนินงาน ค้ำประกันสินเชื่อ ระหว่าง 1 มกราคม ถึง 12 กันยายน 2564 บสย. ได้อนุมัติค้ำประกันสินเชื่อ รวมทุกโครงการวงเงินรวม กว่า 182,000 ล้านบาท และได้อนุมัติหนังสือค้ำประกัน  (LG)  ไปแล้วจำนวนกว่า  162,800 ฉบับ
#2948


อัพเดท'คนละครึ่งเฟส 3' เหลือ 8 แสนสิทธิ ยังเปิดลงทะเบียน สมัครวันนี้รับ 3,000 บาท ผู้ได้สิทธิ์อยู่แล้ว รอเงินเข้ารอบใหม่ 1,500 บาท พร้อมเปิดให้ใช้จ่ายถูกกฎหมายเชื่อถือได้ผ่าน'ฟู้ดเดลิเวอรี่'ตุลาคมนี้

เกาะติดโครงการ'คนละครึ่งเฟส 3' กระทรวงการคลัง เตรียมเติมเงินรอบ 2 วงเงินรวมกว่า 40,350 ล้านบาท ให้ผู้ได้รับสิทธิ์คนละ 1,500 บาทในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ 

ความคืบหน้าข้อมูล ณ สิ้นวันที่ 17 กันยายน 2564 โครงการคนละครึ่ง ยังเหลือสิทธิ์อีก 805,855 สิทธิ์ และยังคงเปิดรับลงทะเบียน'คนละครึ่ง' www.คนละครึ่ง.com จนกว่าจะครบ 31 ล้านสิทธิ์

ทั้งนี้หากสมัครเข้าร่วมโครงการฯวันนี้ จะได้รับวงเงินใช้จ่ายผ่านแอปเป๋าตัง 1,500 บาท สำหรับการใช้จ่ายรอบแรก (1 ก.ค.-30 ก.ย.64  ) และรับอีก1,500 บาท ในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 สำหรับการใช้จ่ายรอบ 2 ( 1 ต.ค.-31 ธ.ค. 64 )

แต่หากสมัครหลังวันที่1 ตุลาคม 2564 จะได้รับวงเงินใช้จ่าย 3,000 บาท แต่ยังคงเงื่อนไขการใช้จ่ายเหมือนเดิม โดยรัฐจะช่วยจ่าย 50%ไม่เกินวันละ 150 บาทจนถึง 31 ธันวาคมนี้ หรือจนกว่าจะใช้หมดวงเงิน กรณีที่ยังใช้วงเงินรอบแรก 1,500 บาทไม่หมด จะไม่ถูกยึดคืน และยังสามารถเก็บไว้ใช้จ่ายได้ยาวจนถึงสิ้นปีนี้

'คนละครึ่งเฟส 3'www.คนละครึ่ง.com ยังเปิดลงทะเบียน สมัครวันนี้รับ 3,000บาท
'คนละครึ่งเฟส 3'www.คนละครึ่ง.com ยังเปิดลงทะเบียน สมัครวันนี้รับ 3,000บาท

 


'คนละครึ่ง'จ่ายซื้อ'ฟู้ดเดลิเวอรี่'ต.ค.นี้

นอกจากนี้ตั้งแต่เดือนตุลาคม เป็นต้นไป กระทรวงการคลังจะมีการปรับหลักเกณฑ์ให้สามารถนำสิทธิโครงการคนละครึ่ง มาใช้จ่ายซื้ออาหารผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ได้ด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้จ่ายให้กับประชาชนสอดคล้องกับวิถีชีวิตใหม่ นิวนอร์มัล

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า  กระทรวงการคลังพร้อมเติมเงินเข้าโครงการคนละครึ่งรอบที่ 2 วงเงินรวมกว่า 40,350 ล้านบาท ให้กับผู้ได้รับสิทธิ์คนละ 1,500 บาท ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ โดยคาดว่าจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อให้ประชาชนใช้จ่ายในช่วงไตรมาส 4/64  (ต.ค.-ธ.ค.64) ได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 80,700 ล้านบาท  

โครงการ'คนละครึ่งเฟส 3'รัฐบาลได้ดำเนินการขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ บรรเทาภาระค่าใช้จ่ายประชาชน และช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ร้านค้ารายย่อย เป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศองค์รวม โดยประชาชนสามารถใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่1กรกฏาคม 2564- 31 ธันวาคม 2564

 

คุณสมบัติผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ

มีบัตรประจำตัวประชาชนและเป็นบุคคลสัญชาติไทย
อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
ประชาชนสามารถเลือกลงทะเบียนได้ 1 โครงการเท่านั้น 
     - ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 

     *ผู้ได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถตรวจสอบมาตรการสนับสนุนเพิ่มเติมจากภาครัฐฯ ได้ที่ www.cgd.go.th

      -ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ (ผ่านบัตรประชาชน)

     * ตรวจสอบผู้ได้รับสิทธิผ่านบัตรประชาชนได้จาก www.เราชนะ.com

     - ไม่เป็นผู้ใช้สิทธิโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้

การลงทะเบียนรับสิทธิ สามารถลงทะเบียนได้ 2 ช่องทาง

ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com
ลงทะเบียนผ่านแอปฯเป๋าตัง พร้อมผูก G-wallet (กดแถบโครงการคนละครึ่ง) สำหรับผู้ที่เคยได้รับสิทธิโครงการ/มาตรการรัฐที่ใช้แอปฯเป๋าตัง
ที่มา : www.คนละครึ่ง.com 
#2949


กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมหรือดีพร้อม เผยความสำเร็จจากการดำเนินมาตรการการรวมกลุ่มผู้ประกอบการ หรือคลัสเตอร์โดยตั้งแต่เริ่มดำเนินงานตั้งแต่ปีพ.ศ.2549-ปัจจุบันมีจำนวนกลุ่มอุตสาหกรรมที่พัฒนามาแล้วอย่างต่อเนื่องจำนวน 123 กลุ่ม ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ แบ่งเป็นคลัสเตอร์ทั่วไป 112 กลุ่ม และคลัสเตอร์อุตสาหกรรมเป้าหมาย หรือ S-Curve 11 กลุ่ม พร้อมชี้ในปี 64 ได้ดำเนินการพัฒนาการรวมกลุ่มอุตสาหกรรม จำนวน 29 กลุ่ม แบ่งเป็นคลัสเตอร์เกษตรอุตสาหกรรม จำนวน 25 กลุ่ม และคลัสเตอร์อุตสาหกรรมเป้าหมาย จำนวน 4 กลุ่ม สามารถเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อีกกว่า 1,200 ล้านบาท พร้อมยังได้เตรียมยกระดับการดำเนินงาน ผ่านการเป็นศูนย์กลางหรือ HUB ด้านการให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการในทุกๆกลุ่มสาขาอุตสาหกรรมด้วยการใช้ศักยภาพของหน่วยงาน โดยมีเครื่องมือที่สำคัญได้แก่ ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 หรือศูนย์ ITC 4.0 ศูนย์ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือ Thai-IDC เครือข่าย RISMEP และศูนย์สนับสนุนและช่วยเหลือเอสเอ็มอี หรือ SSRC

นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ดีพร้อมได้เป็นผู้ริเริ่มมาตรการขับเคลื่อนการสร้างและพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมถูกกฎหมายเชื่อถือได้ หรือ คลัสเตอร์มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีพ.ศ.2549-ปัจจุบัน โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มผลิตภาพและสร้างนวัตกรรมร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และเชื่อมโยงการช่วยเหลือในมิติต่างๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีอำนาจต่อรองทางการซื้อ การตลาด และสามารถเติบโตได้ในลักษณะกลุ่ม


โดยผลจากการดำเนินมาตรการดังกล่าว ปัจจุบันมีจำนวนกลุ่มอุตสาหกรรมที่พัฒนามาแล้วอย่างต่อเนื่องจำนวน 123 กลุ่มอุตสาหกรรมครอบคลุมพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ โดยแบ่งเป็นคลัสเตอร์อุตสาหกรรมทั่วไป 112 กลุ่ม และคลสัสเตอร์อุตสาหกรรมเป้าหมาย (S – Curve) 11 กลุ่ม มีกระบวนการพัฒนาตั้งแต่การทำความความเข้าใจด้านเศรษฐกิจแบบพึ่งพา หรือ Sharing Economy การพัฒนากลุ่มให้เข้มแข็งในด้านการผลิต การตลาด การแบ่งปันเทคนิคและองค์ความรู้ ตลอดจนการผลักดันให้เข้าใจถึงนโยบายและสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อให้ได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐ

สำหรับในปี 2564 ภายใต้การนำของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรมได้สั่งการให้ ดีพร้อม เร่งพัฒนาการรวมกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการพัฒนาคลัสเตอร์ไปแล้ว จำนวน 29 กลุ่ม แบ่งเป็นคลัสเตอร์เกษตรอุตสาหกรรม จำนวน 25 กลุ่ม ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ได้แก่ คลัสเตอร์น้ำผึ้ง กาแฟ เกษตรแปรรูป ผลไม้แห่งขุนเขา เกลือไอโอดีน สมุนไพรและสปา มันสำปะหลัง อาหารเพื่อสุขภาพ ขนมหวาน ผลไม้ภาคตะวันออก ไม้ยางพารา ผลไม้แปรรูป อาหารแห่งอนาคต อาหารพร้อมทาน เป็นต้น ส่วนคลัสเตอร์อุตสาหกรรมเป้าหมาย จำนวน 4 กลุ่ม ได้แก่ คลัสเตอร์การแพทย์ครบวงจร พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล และจังหวัดเชียงใหม่ หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ และดิจิทัล โดยผลสำเร็จจากการดำเนินมาตรการดังกล่าวยังสามารถเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อีกกว่า 1,200 ล้านบาท



ADVERTISEMENT


นายณัฐพล กล่าวอีกว่า ดีพร้อมได้ตั้งเป้ายกระดับบทบาท จากเดิมที่เป็นผู้เชื่อมโยงในการประสานผู้ประกอบการให้เกิดการรวมตัวในแต่ละกลุ่ม สู่การเป็นศูนย์กลางหรือ HUB ด้านการให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการในทุกๆสาขาอุตสาหกรรมด้วยการใช้ศักยภาพของหน่วยงาน รวมถึงความเชื่อมโยงจากกลุ่มพันธมิตรอย่างครบวงจร

ทั้งนี้มีเครื่องมือที่สำคัญดังนี้ ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 หรือศูนย์ ITC 4.0 ซึ่งกระจายอยู่ในศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมทั้ง 12 แห่งทั่วประเทศ จะช่วยกลุ่มคลัสเตอร์ผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาเดียวกัน ให้สามารถยกระดับกระบวนการทางธุรกิจ เช่น การผลิต การลดต้นทุน การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆไปใช้ในการเพิ่มมูลค่าบริการและผลิตภัณฑ์ พร้อมทั้งจะเป็นศูนย์กลางในการให้คำแนะนำงานวิจัย และโซลูชันที่เหมาะสมสำหรับกลุ่มคลัสเตอร์เพื่อให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลง



ศูนย์ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Thailand Industrial Design Center - Thai-IDC) ซึ่งจะให้บริการด้านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อให้แต่ละคลัสเตอร์สามารถเพิ่มมูลค่าให้แก่ธุรกิจด้วยองค์ความรู้ด้านการออกแบบ ตลอดจนให้บริการเครื่องมือต่างๆที่สนับสนุนการออกแบบครบวงจร เช่น บริการซอฟท์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและบรรจุภัณฑ์ การทดลองขึ้นต้นแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมด้วยเครื่องพิมพ์สามมิติ (3D Printing) การจัดกิจกรรมอบรม/สัมมนาเชิงปฏิบัติการหลักสูตรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและบรรจุภัณฑ์ การให้บริการพื้นที่ทำงานร่วมกัน หรือ Co-Working Space ระหว่างนักออกแบบและคลัสเตอร์ผู้ประกอบการ

เครือข่ายส่งเสริม SMEs (RISMEP) ซึ่งเป็นศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ และหน่วยงานส่งเสริม SMEs สำหรับให้คำปรึกษาปัญหาทางธุรกิจแบบครบวงจร โดยเครือข่าย RISMEP เปรียบเสมือนศูนย์กลางการให้คำแนะนำเกี่ยวกับธุรกิจในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น การผลิต การขาย การตลาด การขนส่ง กฎหมายและทรัพย์สินทาปัญญา ฯลฯ มีผู้เชี่ยวชาญอยู่ในเครือข่ายดังกล่าวกว่า 250 คน ทั้งนี้ กลุ่มคลัสเตอร์ต่างๆสามารถขอรับคำปรึกษาได้ทั้งช่องทางแอปพลิเคชัน เว็บไซต์ หรือติดต่อโดยตรงได้ที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม



ศูนย์สนับสนุนและช่วยเหลือเอสเอ็มอี (SME Support & Rescue Center : SSRC) ซึ่งมีหน้าที่ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ประกอบการทั้งด้านการเงินและการพัฒนา เชื่อมโยงการบริการของหน่วยงานเครือข่ายที่ส่งเสริมและพัฒนา SMEs และกลุ่มคลัสเตอร์ พร้อมส่งต่อปัญหาของ SMEs ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในส่วนกลางและภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อให้กลุ่มผู้ประกอบการและคลัสเตอร์มีเงินทุนเพื่อการพัฒนาธุรกิจ

โดยในปี 2565 ดีพร้อม มีแผนดำเนินการสนับสนุนการรวมกลุ่มคลัสเตอร์เพิ่มอีก 34 กลุ่ม ครอบคลุมกว่า 680 กิจการ แบ่งเป็น คลัสเตอร์เกษตรอุตสาหกรรม 30 กลุ่ม และคลัสเตอร์อุตสาหกรรมเป้าหมาย 4 กลุ่ม คาดว่าจะสามารถเพิ่มมูลทางเศรษฐกิจได้ไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท
#2950
ผู้สูงอายุควรทาน ข้าวหอมมะลิแดง และประโยชน์ของ ข้าวหอมมะลิแดง น้ำตาลน้อย
ข้าวมะลิแดง ข้าวหอมมะลิแดง ข้าวกล้องมะลิแดง ข้าวกล้องหอมมะลิแดง ข้าวมะลิแดงสุรินทร์ ข้าวหอมมะลิแดงสุรินทร์ ข้าวกล้องมะลิแดงสุรินทร์
"ข้าวหอมมะลิแดง" /    ข้าวหอมมะลิแดงเกษตรอินทรีย์    อาหารผิวที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
"ข้าวหอมมะลิแดง / ข้าวมะลิแดง " (Red Jasmine Rice) คือ ข้าวเจ้าพันธุ์หนึ่งของไทย ปลูกได้ปีละ 1 ครั้ง  กลุ่มข้าวหอมมะลิแดงอินทรีย์ เมล็ดข้าวมีรูปร่างเรียวยาว มีสีน้ำตาลแดง มีความนุ่ม หอม อร่อย ไม่ต่างจาก "ข้าวหอมมะลิ หรือมองง่ายๆก้คือ ข้าวหอมมะลิ ที่มีสีแดงเลยเรียกกันว่า "ข้าวหอมมะลิแดง / ข้าวมะลิแดง  / ข้าวกล้องหอมมะลิแดงเกษตรอินทรีย์"



คุณสมบัติเด่น   ข้าวหอมมะลิแดงสุขภาพ ใช้เป็นอาหารหลักในการฟื้นฟูกำลัง และเยียวยาผู้ป่วยมะเร็ง เบาหวาน
ประโยชน์ของ "ข้าวหอมมะลิแดง / ข้าวมะลิแดง  /  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิก"-   ข้าวกล้องหอมมะลิแดงอินทรีย์สุรินทร์ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระสูง
-  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงสุขภาพ ช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูผิว
-  ข้าวกล้องเกษตรอินทรีย์หอมมะลิแดง  เป็น Growth Factor ตามธรรมชาติสามารถช่วยการเจริญของเซลล์ผิว
-   ข้าวหอมมะลิแดงสุขภาพ ช่วยชะลอการเกิดและต้านริ้วรอย คงความอ่อนเยาว์
-   ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิก คืนความมีชีวิตชีวาให้กับผิว
-  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิคสำหรับทารก อุดมไปด้วยวิตามินบีเช่นเดียวกับข้าวงอก ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง และช่วยลดอาการอ่อนล้า อ่อนเพลีย
-  ข้าวหอมมะลิแดงอินทรีย์  มีไฟเบอร์หรือกากใยสูง ช่วยในการดูดซึมไขมัน ทำให้อิ่มนาน และทำให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ
-   ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออร์แกนิก  อุดมไปด้วยธาตุเหล็กและทองแดงที่ช่วยบำรุงเลือด เป็นอาหารหลักที่ควรกินสำหรับผู้ป่วยโรคโลหิตจางหรือผู้หญิงที่อยู่ในช่วงมีประจำเดือน
-  ปลูกข้าวหอมมะลิแดงออแกนิค มีสารไนอะซินทำให้ผิวแข็งแรง ลดการเกิดโรคผิวหนังและปัญหาผิวพรรณหยาบกร้าน
-   ข้าวหอมมะลิแดงออแกนิก มีแคโรทินที่จะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ช่วยบำรุงดวงตาให้แข็งแรง
รวมถึงอุดมด้วยใยอาหาร ลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ มีเบต้าแคโรทีน และธาตุเหล็กสูง เป็นข้าวกล้องที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ    ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออร์แกนิก  ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวาน คนป่วยเบาหวานและคนที่กำลังคุมน้ำหนักสามารถกินได้อย่างสบายใจ 
ข้าว Hor.Boutique  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงเกษตรอินทรีย์    ข้าวหอมมะลิแดงเกษตรอินทรีย์   ข้าวอินทรีย์สุรินทร์   ทำไมต้องเป็นข้าวอินทรีย์
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000 โทร. 092-8245655
website : เครือข่ายข้าวอินทรีย์สุรินทร์
Facebook : www.facebook.com/Organic.Red.Jasmine.Rice/
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ / ข้าวปลอดสาร  ข้าวกล้องอินทรีย์หอมมะลิแดง เพื่อสุขภาพ 7 ประเภท
1.  ข้าวมะลินิลปลอดสารพิษ
2.  ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิคสำหรับทารก 3.  ข้าวผกาอำปึลปลอดสารพิษ4.  ข้าวผสมหลายสายพันธุ์ปลอดสารเคมีสุรินทร์5. กลุ่มข้าวหอมมะลิแดงอินทรีย์ 6.  ข้าวกล้องอินทรีย์หอมมะลินิล 7.   ปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ออแกนิค

#ข้าวมะลิแดง #ข้าวหอมมะลิแดง #ข้าวกล้องมะลิแดง #ข้าวกล้องหอมมะลิแดง #ข้าวมะลิแดงสุรินทร์  #ข้าวหอมมะลิแดงสุรินทร์  #ข้าวกล้องมะลิแดงสุรินทร์ #ข้าวกล้องหอมมะลิแดงสุรินทร์ #ข้าวมะลิแดงอินทรีย์  #ข้าวหอมมะลิแดงอินทรีย์ #ข้าวมะลิแดงปลอดสาร #ข้าวหอมมะลิแดงปลอดสาร  #ข้าวกล้องมะลิแดงปลอดสาร #ข้าวกล้องหอมมะลิแดงปลอดสาร #ข้าวมะลิแดงเพื่อสุขภาพ #ข้าวหอมมะลิแดงเพื่อสุขภาพ #ข้าวกล้องมะลิแดงสุขภาพ   #ข้าวกล้องหอมมะลิแดงสุขภาพ
 

 

 
 
#2951


"มอร์นิ่งสตาร์" ชี้กองทุนไทยไร้ กระทบจาก เอเวอร์แกรนด์ ส่อผิดนัดชำระหนี้ หากมีลงทุนเป็นสัดส่วนน้อยในพอร์ต เชื่อบริหาารจัดการได้ "บลจ.กรุงไทย" รับมีเพียง 0.14% ของกองทุนไชน่าบอนด์ แทบไม่กระทบ ปรับพอร์ตได้  มองจีนยังน่าลงทุนระยะยาว     

จากกรณีที่กลุ่มบริษัทเหิงต้า หรือไชน่าเอเวอร์แกรนด์(China Evergrande) ประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง มีหนี้สินท่วมสูงถึง 1.97 ล้านล้านหยวน หรือประมาณ 10 ล้านล้านบาท และชาวจีนกว่าร้อยคนบุกไปยังอาคารสำนักงานใหญ่ของบริษัทฯ เรียกร้องให้บริษัทคืนเงินลงทุน หุ้นกู้ และเงินดาวน์โครงการ จนหวั่นกันว่าหากบริษัทยักษ์ใหญ่อสังหาฯจีนแห่งนี้ล้มจะกระทบเป็นลูกโซ่ นำไปสู่"วิกฤติซับไพรม์เอเชีย"ได้

นางสาวชญานี จึงมานนท์ นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัทมอร์นิ่งสตาร์รีเสิร์ช (ประเทศไทย)  เปิดเผยว่า กองทุนรวมไทยส่วนใหญ่ไม่ได้เข้าไปลงทุนในสินทรัพย์ของ"เอเวอร์แกรนด์" หรือหากเข้าไปลงทุนคงไม่ได้เป็นสัดส่วนหลักของพอร์ตลงทุน ซึ่งการมีสัดส่วนลงทุนเป็นส่วนน้อยเชื่อมั่นว่า ผู้จัดการกองทุนสามารถบริหารจัดการไม่ให้กระทบกับพอร์ตลงทุนหลักของกองทุนได้แน่นอน

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย  เปิดเผยว่า กองทุนไชน่าของบริษัทมีเข้าไปลงทุน  สัดส่วน0.14% ของพอร์ต เป็นสัดส่วนที่น้อยมากๆ เพราะเป็นการลงทุนประเภทไฮยิลด์บอนด์ถูกกฎหมายเชื่อถือได้ ขณะที่นโยบายการลงทุนต่างประเทศของกองทุนเลือกลงทุนในบอนด์กลุ่มระดับลงทุน ( investment grade)  เท่านั้น ซึ่งทางผู้จัดการกองทุนคงจะมีการปรับสัดส่วนให้เหมาะสม ซึ่งประเมินว่าความเสี่ยงดังกล่าวต่อการลงทุนในบอนด์ยังจำกัด ส่วนใหญ่ยังเกิดผลกระทบต่อกลุ่มอสังหาฯ มากกว่า ซึ่งไม่มีการลงทุนดังกล่าว     

อย่างไรก็ตามบริษัทยังต้องจับตาความเสี่ยงดังกล่าวว่าจะส่งผลกระทบไปยังกลุ่มเซ็กเตอร์อื่นๆ ด้วยหรือไม่  แม้ในระยะสั้นอาจมีผลกระทบต่อสินทรัพย์ลงทุนในจีนจากปัจจัยลบต่างๆ แต่กองทุนมองภาพการลงทุนระยะยาว ยังเชื่อมั่นว่า จีนยังมีการเติบโตที่ดีและน่าลงทุนเมื่อตลาดปรับฐาน     


นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ บลจ.ยูโอบี เปิดเผยว่า บริษัทไม่มีการลงทุนในสินทรัพย์ของกลุ่ม "เอเวอร์แกรนด์"แต่อย่างใด ทั้งนี้เหตุผลหลักที่บริษัท ไม่เข้าลงทุนในทรัพย์สินดังกล่าวเนื่องจากผู้จัดการกองทุนประเมินว่า จากปัจจัยเสี่ยงสถานการณ์โควิด -19กระทบในเซ็กเตอร์อสังหาฯประกอบกับกลุ่มบริษัทดังกล่าว มีการลงทุนในหลากหลายธุรกิจที่มีความซับซ้อนเกินควร จึงไม่ได้มีการพิจารณาเข้าไปลงทุน

เช่นเดียวกับรายงานข่าวจาก บลจ.กสิกรไทย กล่าวว่า บริษัทไม่มีการเข้าไปลงทุน หุ้นกูู้ ตราสารหนี้ หรืออสังหา ฯ ของ "เอเวอร์แกรนด์" ที่มีปัญหาในจีนแต่อย่างใด ขณะที่รายงานข่าวจากบลจ.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า บริษัทมี1 กองเป็นกองทุนฟีดเดอร์ฟันด ที่ลงทุนตามดัชนี จึงมีการลงทุนใน "เอเวอร์แกรนด์"ตามน้ำหนักดัชนี Hang Seng china enterprises index แต่ในสัดส่วนที่น้อยมากๆ ไม่ถึง1% จึงไม่ส่งผลกระทบแต่อย่างใด
#2952


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) เปิดเผยภายหลังประชุม กบร. ครั้งที่ 9/2564 วันที่ 16 ก.ย. ว่า กบร. ได้มอบหมายให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT เร่งรัดแก้ไขกฎระเบียบการอนุญาตโดรนขนาดใหญ่ (น้ำหนักเกิน 25 กิโลกรัมขึ้นไป) ที่มีวัตถุประสงค์การใช้งานเพื่อการเกษตร ซึ่งก่อนหน้านี้มีผู้ยื่นขออนุญาตเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยภายในเดือนก.ย. CAAT จะต้องทยอยขอความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ผู้ยื่นขออนุญาตที่มีความพร้อมสามารถใช้โดรนเพื่อการเกษตรได้อย่างถูกกฎหมายภายในเดือนต.ค. 2564

ส่วนโดรนที่มีน้ำหนักไม่เกิน 25 กิโลกรัม CAAT รายงานว่า ปัจจุบันไม่มีคำขออนุญาต คงค้าง โดยสามารถทยอยขึ้นทะเบียน ได้ตามขั้นตอนและกรอบเวลาที่กำหนดตามปกติ

@สั่งเตรียมความพร้อม รับการเปิดประเทศเฟส 2 และ3 อีก 26 จังหวัด

พร้อมกันนี้ได้มอบนโยบายให้ CAAT ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมการรองรับนโยบายการเปิดประเทศใน 120 วันของรัฐบาล ซึ่งในเดือนต.ค.นี้ถือเป็นการเปิดครั้งใหญ่ที่สุดทั้ง เฟส 2 และเฟส 3 รวม 26 จังหวัด รองรับการท่องเที่ยวทั้งของคนไทยและต่างชาติกระจายไปยังทุกภูมิภาคของประเทศ ประกอบกับเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว (High Season) อีกด้วย โดยให้นำบทเรียนจากโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ มาปรับปรุงแก้ไขและเร่งดำเนินการนโยบายการบินวิถีใหม่ (New Normal) ที่จะมีการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาใช้ในกิจการการบินให้เร็วขึ้นด้วย

โดยให้ CAAT เป็นศูนย์กลางดำเนินการประสานกับกระทรวงคมนาคม เพื่อให้บุคลากรทางการบินซึ่งปฏิบัติงานสัมผัสใกล้ชิดโดยตรงกับผู้โดยสาร ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อให้มีความพร้อมสำหรับการปฏิบัติการบิน โดยเฉพาะในช่วงการเปิดประเทศในเดือนต.ค.นี้

สำหรับการช่วยเหลือสายการบินสัญชาติไทยเรื่องเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำนั้น รมว.คมนาคม กล่าวว่า ให้ CAAT เร่งรัด จัดทำข้อมูลวิเคราะห์เชิงลึกถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจมหภาคและการสูญเสียความสามารถด้านกิจการการบินของประเทศ โดยเฉพาะเมื่อสถานการณ์กลับมาเป็นปกติซึ่งคาดว่าจะอยู่ในช่วงปี 2568 เป็นต้นไป เพื่อเสนอข้อมูลต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้ความช่วยเหลือสายการบินให้ได้รับเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) โดยเร็ว

นอกจากนี้ ที่ประชุม กบร. ยังเน้นย้ำให้ CAAT เร่งรัดดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่องที่ได้รับจากการตรวจประเมินตามโครงการยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยตามการประเมินความปลอดภัยการบินระหว่างประเทศ (IASA: International Aviation Safety Assessment) ขององค์การบริหารการบินแห่งสหรัฐอเมริกา (FAA) โดยมีเป้าหมายเดิมคือเพื่อยกระดับประเทศไทยกลับคืนสู่ Category 1 ภายในปี 2564 ซึ่งจะส่งผลดีให้สายการบินของไทยบินตรงไปยังสหรัฐฯ ได้และทำการบินร่วมได้ตามปกติ (Code Sharing) รวมถึงยังจะส่งผลต่อการขอเพิ่มจำนวนเที่ยวบินจากไทย ไปยังประเทศอื่นที่ยึดถือผลประเมินของ FAA ด้วย เช่น เกาหลีใต้ เป็นต้น

รมว.คมนาคมกล่าวว่า กบร.ยังเห็นชอบแผนดำเนินการพัฒนางานด้านการบริหารข่าวสารการบิน (Aeronautical Information Management: AIM) ของประเทศไทย ให้ไปสู่ระบบมาตรฐานสากล โดยพัฒนาระบบบริการข่าวสารการบินไปสู่การบริหารข่าวสารการบินแบบดิจิทัล เพื่อต่อยอดการพัฒนาสำหรับการเชื่อมต่อกับ SWIM หรือ System Wide Information Management ซึ่งเป็นโครงข่ายอินเทอร์เน็ตการบินของโลกที่มีการบริหารจัดการข่าวสารการบินทั้งระบบ ที่จะทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ สามารถรองรับการเติบโตของการขนส่งทางอากาศที่เพิ่มมากขึ้นได้ในอนาคต และเชื่อมโยงระบบการบริหารข่าวสารการบินตามมาตรฐานสากลซึ่งสอดคล้องกับแผนการเดินอากาศสากลของ ICAO และของภูมิภาค

โดยจะเปิดให้มีนิติบุคคลทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการข่าวสารการบิน (AIS Provider) แทน CAAT โดยตั้งแต่เดือนต.ค. 2564 ถึงเดือนมี.ค.2565 จะสามารถตรวจสอบออกใบรับรองได้และ คาดว่า เดือนมิ.ย. 2565 ทาง CAAT จะสามารถส่งมอบ/ถ่ายโอนงานให้นิติบุคคลดำเนินงานได้ และบริหารจัดการข่าวสารการบินทั้งระบบ (SWIM) ได้ในปี 2567
#2953
 มาทาน ข้าวไรซ์เบอร์รี่ และ ประโยชน์ของข้าวไรซ์เบอรี่
ข้าวไรซ์เบอร์รี่ / ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่อินทรีย์
มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง    ข้าวอินทรีย์ไทยมีราคาแพง  ประโยชน์และสรรพคุณเพียบ!!




ข้าวไรซ์เบอรี่เพื่อสุขภาพ ( Rice Berry ) เป็นพันธุ์ข้าวที่ผสมกันระหว่างข้าวเจ้าหอมนิล กับ ข้าวขาวดอกมะลิ 105 มีลักษณะสีม่วงดำ เมล็ดเรียวยาว ผิวมันวาว อุดมไปด้วยวิตามินและมีคุณค่าทางอาหารสูงจึงเป็นที่นิยมสำหรับคนที่รักสุขภาพ

  • ข้าวไรซ์เบอรี่เพื่อสุขภาพ มีสารที่ชื่อว่า สารแอนโทไซยานิน ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สูงมากกว่าวิตามินซีและวิตามินอี ถึง 2 เท่า ทั้งยังมีวิตามินแร่ธาตุมากมายและมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ได้แก่ เบต้าแคโรทีน แกมมาโอไรซานอล โอเมก้า 3 วิตามินอี โฟเลต เหล็ก และ สังกะสี
  •  ขายข้าวไรซ์เบอรี่อินทรีย์ สรรพคุณ ของ   ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่ออร์แกนิค ที่รู้แล้วต้องรีบหาข้าวชนิดนี้มาทาน
  •  ข้าวไรซ์เบอรี่อินทรีย์กรมการข้าวมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สูง
  •  ข้าวไรซ์เบอรี่อินทรีย์กรมการข้าว มีสารที่ชื่อว่า โพลิฟีนอล ที่จะช่วยทำลายฤทธิ์ของอนุมูลอิสระ จึงลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งได้
  •  ปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ช่วยป้องกันโรคหัวใจ
  •  ปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ จะช่วยทำให้เลือดหมุนเวียนไปเลี้ยงอวัยวะส่วนต่างๆภายในร่างกายได้อย่างเป็นปกติ จึงช่วยป้องกันโรคหัวใจ และ หลอดเลือดหัวใจอุดตัน
  •  ข้าวไรซ์เบอร์รี่ออร์แกนิค ช่วยลดระดับไขมันและคอเรสเตอรอล
  •  ข้าวสุไรซ์เบอร์รี่ขภาพ ช่วยรักษาโรคเบาหวาน
  • ข้าวไรซ์เบอร์รี่เกษตรอินทรีย์ ยังช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่น ชะลอความแก่ ลดริ้วรอย และยังลดการอักเสบที่ผิวหนังได้อีกด้วย
  •  ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์กรมการข้าวช่วยบำรุงระบบไหลเวียนโลหิต
  •  ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่ออแกนิค จะช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดียิ่งขึ้น ผู้สูงอายุมักมีปัญหาด้านระบบไหลเวียนโลหิต
  •  ข้าวไรซ์เบอร์รี่ปลอดสารพิษ ช่วยบำรุงสมอง
  •  ขายข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ มีคุณสมบัติช่วยควบคุมน้ำตาล และยังช่วยชะลอการดูดซึมของน้ำตาลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นช้า จึงเหมาะกับผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานและโรคอ้วน
  • ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ช่วยรักษาโรคโลหิตจาง
  • ข้าวไรซ์เบอร์รี่ปลอดสารพิษ  มีธาตุเหล็ก ซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงโลหิตและบำรุงร่างกายให้แข็งแรง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคโลหิตจาง
  •  ข้าวไรซ์เบอร์รี่ออแกนิค มีไฟเบอร์สูง จึงช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ ช่วยแก้อาการท้องผูก ใครที่ท้องผูกบ่อยๆควรเปลี่ยนจากการรับประทานข้าวขาวมาเป็นข้าวไรซ์เบอร์รี่ก็จะช่วยให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น
  •  กลุ่มข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ ช่วยลดน้ำหนัก ข้าวไรซ์เบอร์รี่มีใยอาหารสูง เมื่อรับประทานจะทำให้รู้สึกอิ่มท้องได้นาน ไม่หิวบ่อย ทั้งยังมีปริมาณน้ำตาลต่ำกว่าการรับประทานข้าวขาว
  • ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ ช่วยบำรุงระบบไหลเวียนโลหิต ข้าวไรซ์เบอร์รี่จะช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดียิ่งขึ้น ผู้สูงอายุมักมีปัญหาด้านระบบไหลเวียนโลหิต
  •  ข้าวไรซ์เบอร์รี่ออแกนิก ช่วยบำรุงสมอง และ ข้าวไรซ์เบอรี่มีโอเมก้า 3 และ วิตามินบี ที่จะช่วยบำรุงระบบประสาทและการทำงานของระบบสมองให้ดียิ่งขึ้น
  •  กลุ่มข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์มีโฟเลตสูง คุณแม่ที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ ควรหันมารับประทานข้าวไรซ์เบอร์รี่ เพราะมีสารโฟเลตสูง ซึ่งสารชนิดนี้จะช่วยบำรุงลูกน้อยในครรภ์ให้สมบูรณ์แข็งแรง
  •  ข้าวไรซ์เบอร์รี่ออร์แกนิค มี เส้นใยของข้าวไรซ์เบอร์รี่จะช่วยลดไขมันและคอเรสเตอรอลให้ลดน้อยลง และยังมีสารแกมมาโอไรซานอลที่จะช่วยลดไตรกลีเซอไรด์ในหลอดเลือด ทั้งยังช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูง และโรคหลอดเลือด
  •  ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์กรมการข้าว ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว
  •  ปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ออแกนิค มีโอเมก้า 3 และ วิตามินบี ที่จะช่วยบำรุงระบบประสาทและการทำงานของระบบสมองให้ดียิ่งขึ้น
ข้าวฮอร์ (HOR) ได้รับมาตรฐาน
1. ใบรับรองมาตรฐานข้าวอินทรีย์ ( Organic Thailand)
2. ใบรับรองเครื่องหมาย "ข้าวพันธุ์แท้" จากกรมการข้าว จาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ในประเภทของ
2.1 ข้าวขาวดอกมะลิ 105 (ข้าวขาว)
2.2 ข้าวขาวดอกมะลิ105 (ข้าวกล้อง)
2.3 ข้าวมะลินิลสุรินทร์

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์   ขายข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์   สถานการณ์ข้าวออร์แกนิคไทย    นาข้าวออร์แกนิค  
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website :  thai-organic-rice.tumblr.com/
Facebook :  ข้าวปลอดสาร  
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ   การตรวจสอบข้าวออร์แกนิค
1.ข้าวหอมมะลิสุรินทร์
2.ข้าวกล้องหอมมะลิสุรินทร์
3.ข้าวปกาอำปึลอินทรีย์ ข้าวพื้นถิ่นสุรินทร์
4.  ข้าวผสมหลายสายพันธุ์ออร์แกนิคสุรินทร์
5.ข้าวกล้องมะลิแดงอินทรีย์ 
6.ข้าวมะลินิลอินทรีย์สุรินทร์
7.   ปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ออแกนิค ตลาดข้าวอินทรีย์  

ข้าว Hor พร้อมขายแล้วที่ Shopee & Lazada  จากนาข้าวเคมีสู่นาข้าวอินทรีย์
https://shopee.co.th/hor.boutique
https://www.lazada.co.th/shop/horboutique/

#ข้าวไรซ์เบอรี่ #ประโยชน์ข้าวไรซ์เบอรี่ #ข้าวไรซ์เบอรี่ออแกนิก #ข้าวไรซ์เบอรี่อินทรีย์ #ข้าวไรซ์เบอรี่สุรินทร์  #ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่ #ประโยชน์ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่ #ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่ออแกนิก #ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่อินทรีย์ #ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่สุรินทร์
 

 
 
#2954


นายสุเรศพล จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกรรมการ บมจ.อกริเพียว โฮลดิ้งส์ (APURE) เปิดเผยว่า บริษัทคาดยอดขายในช่วงครึ่งปีหลัง 64 มีแนวโน้มเติบโต 20-30% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก เป็นไปตามปริมาณคำสั่งซื้อจากกลุ่มลูกค้าในต่างประเทศที่ทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสภาพอากาศในต่างประเทศยังเป็นตัวแปรที่ส่งผลกระทบให้ผลผลิตข้าวโพดมีราคาที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ต้องมีการนำเข้าข้าวโพดหวานเพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมียอดออเดอร์ที่เตรียมส่งมอบแล้ว 1,400-1,500 ตู้คอนเทนเนอร์

ขณะที่ภาพรวมอุตสาหกรรมการส่งออกผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวานแปรรูปในครึ่งปีหลัง ทั้งในตลาดยุโรป สหรัฐอเมริกา รวมถึงในตลาดเอเชีย ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวหลังจากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศดังกล่าวที่เริ่มคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น

"บริษัทได้มีการทำสัญญากับเกษตรกร (Contract Farming) สัดส่วนมากกว่า 90% ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถเพิ่มปริมาณข้าวโพดเข้าไลน์การผลิตได้มากถึง 300,000 ตันต่อปี จากเดิม 150,000-180,000 ตันต่อปี ดังนั้น จะเห็นได้ว่าบริษัทยังมีขีดความสามารถในการขยายการรับออเดอร์ใหม่ๆได้อย่างต่อเนื่อง จากดีมานด์การสั่งซื้อ โดยเฉพาะในสหรัฐฯเพิ่มขึ้นทั้งในกลุ่มลูกค้าขนาดกลางและขนาดใหญ่ เนื่องจากระดับราคาของบริษัทฯสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวานของไทยที่ส่งออกไปต่างประเทศยังได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าในต่างประเทศ เนื่องจากคุณภาพและรสชาติสามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในต่างประเทศเป็นอย่างดี จนประสบความสำเร็จในการเข้าไปขายในตลาดวอลมาร์ท (Walmart)" นายสุเรศพล กล่าว

สำหรับตลาดในกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้ารายใหม่ อย่างห้างสรรพสินค้า โดยล่าสุดได้มีการส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์เพื่อทดลองให้กลุ่มลูกค้าดังกล่าว คาดว่าดีลดังกล่าวจะสรุปได้ในเร็วๆนี้ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทสามารถขยายช่องทางการตลาดและการจัดจำหน่ายสู่ยุโรปได้เพิ่มขึ้น

ส่วนตลาดในเอเชีย อาทิ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และจีนนั้น แม้ค่าระวางเรือจะปรับตัวสูงขึ้นมาค่อนข้างมาก แต่ก็ไม่ได้ปรับตัวสูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับการขนส่งไปยังฝั่งทวีปอเมริกาใต้ สหภาพยุโรป สหรัฐ และ อินเดีย ดังนั้นจึงทำให้มีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะมียอดขายเติบโตตามเป้าที่วางไว้

"บริษัทยังต้องติดตามค่าระวางเรืออย่างใกล้ชิด เนื่องจากต้องยอมรับว่าผลกระทบจากค่าระวางเรือเป็นตัวแปรหลักที่ทำให้ลูกค้าบางรายมีต้นทุนค่าขนส่งสูงขึ้น ดังนั้นโดยส่วนตัวมองว่าหากสถานการณ์การขาดแคลนด์ตู้คอนเทนเนอร์และค่าขนส่งกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้เมื่อไหร่ บริษัทฯมีโอกาสขยายตัวได้อย่างมาก เพราะลูกค้าในปัจจุบันนิยมบริโภคผลิตภัณฑ์ข้าวโพดที่มาจากประเทศไทย เพราะมั่นใจคุณภาพและรสชาติ ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับกลยุทธ์ด้านการตลาดส่งผลให้แบรนด์สินค้าของบริษัทเป็นที่รู้จักและที่ยอมรับในตลาดต่างประเทศอย่างมาก"นายสุเรศพล กล่าว

ด้านความคืบหน้าการเพิ่มกำลังการผลิตนั้น ล่าสุด บริษัทนำเข้าเครื่องจักรมาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการติดตั้งเครื่องจักร คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 60 วัน จะเตรียมเดินเครื่องจักรได้ในช่วงปลายปี 64 ก่อนที่จะใช้กำลังการผลิตได้เต็มกำลัง 2,000-2,500 ตู้คอนเทนเนอร์กลางปี 65 ส่งผลให้บริษัทมีกำลังการผลิตรวมเป็น 11,500 ตู้คอนเทนเนอร์ เพิ่มขึ้น 25 % จากเดิมที่ 9,000 ตู้คอนเทนเนอร์

ส่วนค่าเงินบาทที่อ่อนค่าไปในช่วงครึ่งปีแรกส่งผลให้บริษัทมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนกว่า 80-90 ล้านบาท แต่ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะไม่มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือหากมีก็ไม่สูงมาก โดยบริษัทได้ทำประกันความเสี่ยงด้านค่าเงินไว้ในปีนี้ 50% เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
#2955


จนถึงตอนนี้คนไทยส่วนมากใช้ "หน้ากากอนามัยแบบใช้แล้วทิ้ง (Disposable mask)" เป็นอุปกรณ์เพื่อป้องกันส่วนบุคคลจากการติดเชื้อไวรัส COVID-19 ทั้งที่เลือกใช้หน้ากากผ้าที่ใช้ซ้ำทดแทนได้

รู้หรือไม่ ว่าในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ประเทศไทย มีปริมาณการใช้มากถึง 1.5 – 2 ล้านชิ้นต่อวัน

สาเหตุดังกล่าว ทำให้การกำจัดหน้ากากอนามัยแบบใช้แล้วทิ้ง ซึ่งเป็น "ขยะติดเชื้อ" มีความจำเป็นต้องมีขั้นตอนในการกำจัดมากกว่าขยะทั่วไป และทุกคนมีส่วนร่วมช่วยลดขยะติดเชื้อได้ โดยการคัดแยกขยะหน้ากากอนามัย ออกมาจากขยะทั่วไป ไม่เช่นนั้นภาระตกกับเจ้าหน้าที่ ที่จะะต้องเสี่ยงต่อการติดเชื้อ (เพราะต้นทางไม่แยก) แล้วขนไปกำจัดด้วยการเผาที่อุณหภูมิสูง 2 ขั้นตอน ได้แก่

1) เผากำจัดเชื้อโรคที่ 760°C

2) เผากำจัดก๊าซพิษที่ 1,000°C พร้อมกับมีระบบบำบัดมลพิษอากาศให้ได้ตามมาตรฐานควบคุมการปล่อยทิ้งอากาศเสียจากเตาเผามูลฝอยติดเชื้อ

ดร.ทักษิณา โพธิ์ใหญ่ นักวิจัยหลังปริญญาเอก ภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม และ ศาสตราจารย์ ดร.พิสุทธิ์ เพียรมนกุล รองคณบดีด้านยุทธศาสตร์นวัตกรรมและความยั่งยืน จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แนะนำการเลือกใช้หน้ากากที่ป้องกันเชื้อ COVID-19 ให้ปลอดภัย และช่วยลดขยะติดเชื้อได้

ประเภทของหน้ากากที่ใช้ป้องกันเชื้อ COVID-19

1) หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (Medical mask หรือ Surgical mask)
- ได้รับการรับรองจากสำนักงาน คณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
- ผ่านการทดสอบด้วยเกณฑ์มาตรฐาน
- มีอายุการใช้งานโดยเฉลี่ย 6-8 ชั่วโมง
- ใช้ครั้งเดียวทิ้ง

2)หน้ากากผ้า (Fabric mask)
- ทำจากผ้าฝ้าย หรือผ้าสาลูเนื้อแน่น
- มีการเย็บซ้อนกันอย่างน้อย 3 ชั้น
- สามารถซักเพื่อใส่ซ้ำได้หลายครั้ง

ในการเลือกใช้ป้องกัน แนะนำว่า บุคคลทั่วไป อาจเลือกใส่ "หน้ากากผ้า" ในชีวิตประจำวัน หรือเมื่อไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยง แต่ถ้าเกิดตกเป็นกลุ่มเสี่ยง หรือผู้ป่วย ควรเลือกใช้ "หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐานเท่านั้น"

ทั้งนี้ การใส่หน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัย เพียงชั้นเดียว สามารถป้องกันการติดเชื้อได้เพียง 44% – 55% หากเรามีความจำเป็นต้องเข้าไปบริเวณพื้นที่เสี่ยง การใส่หน้ากาก 2 ชั้น จะทำให้เราป้องกันเชื้อได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

แม้กระทั่ง ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา (CDC) ก็ได้มีคำแนะนำให้ประชาชนใส่หน้ากาก 2 ชั้น โดยชั้นในเป็นหน้ากากอนามัยแบบใช้แล้วทิ้งและด้านนอกเป็นหน้ากากผ้าที่มีความกระชับแนบกับใบหน้า จะทำให้ผู้สวมใส่สามารถป้องกันตนเองจากเชื้อโรคได้มากถึง 80% และในกรณีที่ ทั้งผู้ติดเชื้อและผู้ใกล้ชิดมีการสวมใส่หน้ากาก 2 ชั้น ก็จะทำให้สามารถลดการติดเชื้อได้มากถึง 96%

ข้อมูลอ้างอิง กฟผ.
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
#2956
ขายที่ดิน โควิดลดราคา ต.บ่อเงิน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เอกสารสิทธิ์ตามหน้าโฉนดครุฑแดง เนื้อที่ 5 ไร่ ขายไร่ละ 800,000 บาท  ขายรวม 4 ลบ. แบ่งขาย ที่ดินอยู่ใกล้สถานที่สำคัญมากมาย แปลงนี้ข้อดี จุดน่าสนใจ บรรยากาศดี วิวดี ได้วิวธรรมชาติ พื้นที่สวยอากาศดีโล่งโปร่งสบาย เหมาะแก่การทำการเกษตร เกษตรสวนผสม หรือสร้างบ้านหรือที่พักอาศัยได้  อยู่ใกล้โรงเรียนวืทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย ใกล้สำนักงานโภชนาจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัยใกล้ถนนสำคัญหลายสาย ราคาไม่แพง เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจที่ดินทำเล ไม่ไกลกรุงเทพ เดินทางสะดวกสบาย บรรยากาศธรรมชาติ เหมาะแก่การลงทุน
หรือซื้อไว้ทำที่อยู่อาศัย ทำการเกษตรก็ได้ บรรยากาศสดชื่น ดูร่มรื่น น่าอยู่ น่าอาศัย ทำเลดีมาก วิวสวย บรรยากาศปลอดโปร่งบริสุทธิ์ ใกล้ถนนทางหลวงชนบทไปเชื่อมต่อกับถนนสายสำคัญ อื่น ๆ ได้อีกหลายสาย ทำให้สะดวกสบายในก ารเดินทาง เข้า-ออก 
ใกล้โรงเรียน ทำให้สะดวกยิ่งขึ้นสำหรับผู้มีบุตรยังอยู่ในวัยกำลังเรียน ทั้งยังอยู่ใกล้กับเมืองปทุมธานี ทำให้สะดวกสบายมากยิ่งๆ ขึ้นในการเดินทางสัญจร 

ค่าใช้จ่ายวันโอนคนละครึ่ง
แอดไลน์ขอดูข้อมูลเพิ่มเติมที่
0837124115

ปักหมุด
ใกล้ ตำบล สิงหนาท อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
https://maps.app.goo.gl/TYZRf2azZMHC1Dds5

โทร 083-7124115
Line : 0837124115
E-mail: freedomfm@hotmail.com















 
#2957


ในสถานการณ์ที่โควิด-19 กำลังแพร่ระบาด ผู้ประกอบการต่างได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการที่ลูกค้าไม่สามารถนั่งรับประทานอาหารที่ร้านได้เช่นสถานการณ์ปกติ ซึ่งขัดกับธรรมชาติของธุรกิจที่นอกจากเป็นการขายรสชาติและคุณภาพของอาหารแล้ว ยังขายบรรยากาศให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการในภาวะเช่นนี้ผู้ประกอบการร้านอาหารจำเป็นต้องหาทางออกและปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อสร้างหนทางรอดให้กับธุรกิจ

นางพิกุล ศรีมหันต์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ถึงแม้ผู้ประกอบการร้านอาหารจะสามารถผ่านบททดสอบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระลอกแรกเมื่อปีก่อนมาได้ แต่ก็ไม่ได้การันตีว่าการปรับตัวที่ผ่านมานั้นจะเพียงพอที่พาธุรกิจฝ่าโจทย์ที่ท้าทายมากกว่าในปีนี้ไปได้หรือไม่ ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดที่รุนแรงและขยายวงกว้างทำให้มาตรการในการควบคุมการแพร่ระบาดมีความเข้มงวดโดยผันแปรตามความรุนแรงของการแพร่ระบาดในแต่ละพื้นที่ ซึ่งคาดการณ์ได้ยากว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติได้เมื่อใด และส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างมากไม่สามารถเดินทางมาที่ร้านได้เหมือนเดิม ต้องสั่งอาหารผ่านทางเดลิเวอรี่หรือออนไลน์มากยิ่งขึ้น ร้านอาหารต้องปรับตัวอย่างหนักเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในตลาดใหม่ที่หลายร้านยังไม่ถนัดหรือมีความรู้เพียงพอในการแข่งขันให้ร้านอาหารอยู่รอด
ดังนั้นธนาคารจึงมุ่งเน้นการให้ความรู้เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการให้สามารถกู้วิกฤตและพลิกกลับมามียอดขายได้ดีอีกครั้งด้วยการขายผ่านออนไลน์หรือเดลิเวอรี่ให้มากขึ้น โดยได้เชิญ เชฟบุญธรรม ภาคโพธิ์ แชมป์เชฟกระทะเหล็ก เจ้าของร้าน Honmono Sushi และนายชลวิทย์ ไตรโลกา เจ้าของร้านกะพง Kapong Delivery มาร่วมบอกเล่าเทคนิคการปรับตัวในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ในงานสัมมนา "เปิดสูตรลับ ปรับกลยุทธ์ธุรกิจอาหารต้องรอด" ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ได้จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ โดยผู้ประกอบการทั้ง 2 รายถือเป็นตัวอย่างของธุรกิจที่สามารถปรับตัวฝ่าวิกฤตได้อย่างประสบความสำเร็จ


เชฟบุญธรรม ภาคโพธิ์ แชมป์เชฟกระทะเหล็กและเจ้าของร้าน Honmono Sushi กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 บีบบังคับให้ธุรกิจร้านอาหารแบบดั้งเดิมยิ่งต้องเร่งปรับตัวเพื่อให้ยังอยู่รอด จึงแนะนำผู้ประกอบการร้านอาหารไม่ควรหยุดพักและตั้งความหวังรอสถานการณ์ดีขึ้นแล้วค่อยกลับมาเปิดร้านปกติ ซึ่งเป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ยากว่าเราต้องอยู่กับภาวะแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่ Honmono Sushi เองนั้น ในช่วงระลอกแรกของการระบาดเมื่อปี 2563 เราได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วง เพราะธุรกิจมีรายได้จากหน้าร้านเป็นหลักช่องทางเดียว อีกทั้งยังไม่มี เดลิเวอรี่ นับเป็นความท้าทายกับธุรกิจช่วงนั้นมาก ปัจจัยเหล่านี้จึงทำให้ธุรกิจเริ่มเร่งปรับตัวและเปลี่ยนวิธีการทำธุรกิจใหม่ในทันที จึงทำให้เราสามารถรับมือกับการระบาดระลอกต่อๆมาได้อย่างดี มีเคล็ดลับที่อยากจะเล่าให้ฟังหลักๆ 3 เรื่อง ได้แก่ 

1) กระโดดเข้าสู่ตลาดออนไลน์ทันที ช่องทางหลักที่ทำให้ธุรกิจยังมียอดขายในช่วงโควิด-19 คือ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ถึงแม้ในช่วงแรกผลตอบรับไม่เป็นดั่งที่คาดหวัง แต่เมื่อเรียนรู้และใช้โอกาสนี้ในการพูดคุยกับลูกค้าจึงทำให้มองเห็นจุดแข็งตัวเองชัดเจนยิ่งขึ้น
จนสามารถเข้าใจและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงยังเป็นช่องทางขายสำหรับธุรกิจของเราได้อย่างถาวร 

2) สร้างลูกเล่นในการขายด้วยไอเดียใหม่ๆ การกระโดดเข้าสู่ช่องทางขายออนไลน์ทำให้เราพบว่ามีรูปแบบการขายที่น่าสนใจ ทำให้เกิดไอเดียใหม่ๆที่นำมาสร้างลูกเล่นให้การขายของเราสนุกยิ่งขึ้น เช่น การถ่ายทอดสดขายอาหาร เปิดประมูลวัตถุดิบ และสอนวิธีการทำอาหาร ซึ่งได้รับกระแสการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี มีกลุ่มลูกค้าติดตามมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจมียอดขายอย่างต่อเนื่อง 

และ 3) ปรับบทบาทหน้าที่พนักงานให้เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจใหม่ เมื่อโมเดลธุรกิจต้องเปลี่ยนไปจากเดิม ทำให้พนักงานต้องเรียนรู้หน้าที่ใหม่ ซึ่งเราเปิดโอกาสให้พนักงานได้หมุนเวียนทำหน้าที่ต่างๆ เช่น ทำหน้าที่ Admin ตอบคำถามลูกค้าทางออนไลน์และทางโทรศัพท์ หน้าที่ในการทำอาหาร หน้าที่ในการจัดส่งอาหารให้กับลูกค้า ในส่วนนี้จะทำให้พนักงานมีการฝึกฝนตนเองให้รู้จักร้านของเรารู้จักเมนูอาหาร วัตถุดิบ และรู้จักลูกค้าได้เป็นอย่างดี

ในขณะที่ธุรกิจแบบดั้งเดิมกำลังพยายามเร่งปรับตัวเพื่อหนีตายจากวิกฤตในครั้งนี้ หากยังมีผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากพิษโควิด-19 ที่ยังไม่ยอมแพ้ จนสามารถสร้างธุรกิจอาหารขึ้นมาใหม่ในยุคโควิด-19 ได้อย่างประสบความสำเร็จ อย่างเช่น ร้านกะพง Kapong Delivery


นายชลวิทย์ ไตรโลกา เจ้าของร้านกะพง Kapong Delivery กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยทำธุรกิจหลายอย่างที่ต้องปิดตัวลงเพราะต้านทานผลกระทบจากโควิด-19 เมื่อปี 2563 ไม่ไหว แต่ก็พยายามหาทางรอดทางใหม่ให้ได้ในทันที โดยนำประสบการณ์จากธุรกิจเดิมมาเป็นบทเรียน ทั้งเรื่องการแบกรับค่าใช้จ่ายหน้าร้าน หรือการเสียค่า GP ราคาสูงให้แก่ตัวแทนเดลิเวอรี่ ปรับเป็นโจทย์และแก้เกมส์ด้วยการทำธุรกิจใหม่แบบไม่มีหน้าร้าน มี Cloud Kitchen และมุ่งเน้นส่งเดลิเวอรี่ด้วยตัวเองเป็นหลัก รวมทั้งการสำรวจตลาดที่พบว่า เมนูปลากะพงทอดน้ำปลาเป็นเมนูที่คนนิยมทาน แต่ยังขาดผู้เล่นในตลาดเดลิเวอรี่จึงทำให้ตัดสินใจเริ่มทำธุรกิจร้านกะพง Kapong Delivery ในช่วงมกราคม 2564 ซึ่งเป็นช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาดมาอย่างต่อเนื่อง แต่ธุรกิจยังคงแข็งแกร่งมียอดขายเข้ามาตลอด โดยเคล็ดลับที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จมีอยู่ด้วยกัน 3 เรื่อง คือ 

1) มองหาช่องว่างในตลาดและเติมเต็มด้วยสินค้าของเรา เป็นสิ่งสำคัญที่ธุรกิจยึดนำมาปรับใช้และคอยสำรวจตลาดเพื่อคอยตอบสนองความต้องการของลูกค้าอยู่เสมอ เช่น ขายปลากะพงทอดน้ำปลาเหมือนกันแต่มีเพียงเจ้าเดียวที่ขายแบบครึ่งตัว เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าให้สามารถเลือกได้ 2 รสชาติ จาก10 รสชาติในหนึ่งตัว การจัดโปรโมชั่นเป็นเซทอาหารทานแบบครอบครัว นอกจากนี้ช่องทางออนไลน์ของร้านก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้ออาหาร ดังนั้นร้านจึงให้ความสำคัญกับรูปเมนูอาหารและการตั้งชื่อเมนูที่แปลกใหม่ 

2) พาตัวเองให้อยู่ใกล้ลูกค้า การส่งอาหารแบบเดลิเวอรี่สิ่งสำคัญคือการต้องอยู่ใกล้ลูกค้า เพราะมีค่าจัดส่งตามระยะทาง จึงทำให้ธุรกิจเน้นการลงทุนทำแบบ Lottovip Cloud Kitchen ซึ่งมีต้นทุนน้อย เพื่อทำให้จุดจัดส่งอาหารของร้านมีระยะทางใกล้กับลูกค้ามากขึ้น ส่งผลให้ค่าจัดส่งสินค้ามีราคาถูกซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจสั่งอาหารง่ายขึ้น โดยการมีเดลิเวอรี่เป็นของตัวเองนั้นทำให้ร้านควบคุมการจัดส่งและแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าได้อย่างทันท่วงที หรือเข้าร่วมแพลตฟอร์ม โรบินฮู้ด ฟู้ดเดลิเวอรี่ ที่ไม่เรียกเก็บค่า GP ก็ช่วยให้ร้านมีรายรับอย่างเป็นธรรม 

3) สร้างแบรนด์ให้ดังด้วยพลังคำพูด หรือการบอกปากต่อปาก มีพลังต่อการขายสินค้าอย่างมากเพราะมีความน่าเชื่อถือและเกิดจากประสบการณ์ของลูกค้าตัวจริง ซึ่งพลังปากต่อปากจะเกิดขึ้นได้เมื่อร้านอาหารสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า จนนำไปสู่การแชร์ความรู้สึกดี เราจึงต้องคิดอยู่เสมอว่าจะทำอย่างไรให้อาหารยังดูน่ารับประทานเมื่อถึงมือลูกค้าและกระตุ้นให้ลูกค้าถ่ายภาพลงโซเชียลมีเดียบอกต่อประสบการณ์ที่ดีกับคนรู้จักต่อไป


การปรับตัวและลองทำสิ่งใหม่ๆ อาจจะยากและไม่สำเร็จในครั้งแรก แต่การล้มแล้วลุกคือการเรียนรู้ที่มีคุณค่าให้ธุรกิจร้านอาหารนำไปพัฒนาตัวเองและส่งผลให้ธุรกิจของเราอยู่รอดในวิกฤตครั้งนี้และก้าวไปข้างหน้าได้มั่นคงขึ้น ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถติดตามข้อมูลเคล็ดลับธุรกิจ และกิจกรรมงานสัมมนาที่จะเป็นประโยชน์สำหรับธุรกิจจากธนาคารไทยพาณิชย์และพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนได้ตลอดทั้งปี ผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.scbsme.scb.co.th Facebook: www.facebook.com/groups/scbsme/ หรือ
ติดต่อสอบถามข้อมูลธุรกิจได้ทาง SCB SME Business Call Center โทร.02 7222222... อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/news/257557/
#2958


เป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว ที่สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของเราไปในรูปแบบที่หลายคนอาจจะคาดไม่ถึงในหลากมิติ

ไม่ว่าจะเป็นสภาพทางการเงินการทำงาน การศึกษา ไปจนถึงเรื่องของความสัมพันธ์และวิถีการใช้ชีวิตในแต่ละวัน นี่ยังไม่รวมถึงเรื่องของสุขภาพที่เป็นผลมาจากเรื่องของไวรัสโดยตรง

เราทุกคน ไม่ว่าจะสามารถปรับตัวได้ดีขนาดไหน ก็ล้วนเผชิญกับความท้าทายในเรื่องของสุขภาพจิตอันเป็นผลมาจากความเครียด ความไม่แน่นอน และความโดดเดี่ยวที่เกิดจากสถานการณ์โรคระบาดนี้ ผลกระทบมหาศาลที่เกิดขึ้นกับกลุ่มเปราะบาง หรือกลุ่มคนที่อาจจะถูกจัดว่าเป็นกลุ่มชายขอบของสังคม ได้ก่อให้เกิดอัตราการฆ่าตัวตายที่สูงมากทั่วโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

การให้ความสำคัญต่อเรื่องของสุขภาพจิตที่อาจจะยังไม่เพียงพอ และทรัพยากรที่กระจายไปอย่างไม่เท่าเทียมทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทำมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้คนจะต้องมีช่องทางอื่นๆ เพื่อเข้าถึงความช่วยเหลือ หลายคนหันไปหาความช่วยเหลือผ่านช่องทางออนไลน์ และเรามีข้อกำหนดและแนวทางที่ชัดเจนเพื่อรับมือกับความต้องการจากชุมชนบนแพลตฟอร์มของเรา

เมื่อวานนี้ (วันศุกร์ที่ 10 กันยายน) เป็นวันป้องกันการฆ่าตัวตายโลกหรือ World Suicide Prevention Day ซึ่งปีนี้อยู่ใต้แนวความคิด "การสร้างความหวัง ผ่านการลงมือทำ" (Creating Hope Through Action) และเป็นการย้ำเตือนเราทุกคนว่าการกระทำของเราสามารถสร้างความหวังให้กับใครก็ตามที่กำลังเผชิญปัญหาอยู่ก็ได้

ช่วยสนับสนุนชุมชนของเรา

เอ็นลุนด์Safety Policy Manager, Facebookเอเชียแปซิฟิกกล่าวว่าเราให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยของผู้ใช้งานของเราเป็นอย่างมาก เรามีการปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานป้องกันการฆ่าตัวตายหรือการทำร้ายตนเองอยู่เสมอเพื่อเป็นแนวทางในการสร้างข้อกำหนดและนโยบายการใช้งานของเรา เราทำงานร่วมกับหลากหลายองค์กรทั่วโลกเพื่อมอบความช่วยเหลือให้กับผู้ที่กำลังอยู่ในความทุกข์ ซึ่งรวมไปถึงสมาคมสะมาริตันส์แห่งประเทศไทยด้วย

เราไม่อนุญาตให้ผู้ใช้งานแสดงออกถึงการเชิดชูหรือส่งเสริมการทำร้ายตนเองหรือการฆ่าตัวตาย บน Facebook และ Instagram อย่างไรก็ตามเราเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานได้พูดถึงเรื่องเหล่านี้บนแพลตฟอร์มของเราได้ เพราะเราต้องการให้ผู้คนมีพื้นที่ในการแบ่งปันข้อมูล ประสบการณ์ สร้างการรับรู้ในเรื่องสำคัญๆ และหากำลังใจหรือการสนับสนุนระหว่างกัน
เมื่อผู้ใช้งานเห็นโพสต์ที่อาจจะแสดงว่าเพื่อนกำลังต้องการความช่วยเหลือ สามารถทำการรายงานเนื้อหานั้นๆ เพื่อที่เราจะสามารถติดต่อไปยังบุคคลคนนั้นพร้อมข้อมูลที่อาจจะเป็นประโยชน์กับเขา เช่น เบอร์ติดต่อของหน่วยงานในพื้นที่ หรือให้ติดต่อไปยังบุคคลที่เขาไว้วางใจ เรามีเบอร์สายด่วนเพื่อรับมือปัญหาเหล่านี้กว่า 100 รายการ ซึ่งรวมไปถึงสมาคมสะมาริตันส์แห่งประเทศไทยด้วย ที่ศูนย์ข้อมูลโควิด-19

นอกจากนี้เรายังมีการสนับสนุนในรูปแบบไลฟ์แชท ที่ผู้ใช้งานสามารถแชทกับองค์กรด้านวิกฤติผ่าน Messenger ได้ รวมถึงมีการแสดง pop-up เพื่อช่วยให้ผู้คนเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นเมื่อมีการโพสต์เนื้อหาหรือการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับการฆ่าตัวตายหรือการทำร้ายตนเอง นอกจากนี้เรามีแหล่งข้อมูลการป้องกันการฆ่าตัวตาย สำหรับคนที่อาจจะคิดฆ่าตัวตาย หรือมีเพื่อนที่น่าจะได้ประโยชน์จากข้อมูลในการป้องกันเหล่านี้

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า หนึ่งในวิธีการป้องกันการฆ่าตัวตายที่ดีที่สุดคือการที่คนที่อยู่ในความทุกข์ได้พูดคุยกับคนที่ห่วงใยพวกเขา และด้วยบทบาทของ Facebook และ Instagram ในการเชื่อมต่อผู้คน จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราทุกคนสามารถมีส่วนร่วมช่วยสร้างการกระทำที่ดี สร้างความหวัง และช่วยให้ผู้คนได้รับการสนับสนุนที่ควรได้รับ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เราทำที่ Facebook เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาเท่านั้น การฆ่าตัวตายและทำร้ายตนเองเป็นเรื่องที่ซับซ้อนของสังคม และจำเป็นที่จะต้องได้รับการร่วมมือจากทุกภาคส่วน พวกเราทุกคน ไม่ว่าจะเป็นบริษัทเทคโนโลยี รัฐบาล องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร สถาบันการศึกษา และประชาชนทุกคน ล้วนมีบทบาทในการร่วมสร้างความหวังให้กับสังคมผ่านการกระทำของพวกเรา

คุณจะร่วมสร้างความหวังได้อย่างไร
เราทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในการป้องกันการฆ่าตัวตายเพื่อที่จะทำความเข้าใจแนวทางที่เราจะสามารถช่วยเหลือผู้ที่กำลังมีความคิดดังกล่าวได้

"การเปิดใจฟังเป็นสิ่งสำคัญ" ตระการ เชนศรี นายกสมาคมสะมาริตันส์แห่งประเทศไทยซึ่งเป็นหน่วยงานที่ผู้คนสามารถติดต่อเพื่อขอความช่วยเหลือในเรื่องนี้ ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ได้อย่างน่าสนใจว่า

"โควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อทุกคนบนโลกมาเกือบสองปีแล้ว ผู้คนมีความเครียดมากขึ้น และส่งผลให้ความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายสูงขึ้นตามไปด้วย สมาคมสะมาริตันส์แห่งประเทศไทยเองได้รับสายจากผู้ที่ต้องการติดต่อในเรื่องการป้องกันการฆ่าตัวตายสูงขึ้นมาก และผู้ที่โทรเข้ามาส่วนมากได้ระบุว่าโควิด-19 เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของความเครียดจึงติดต่อเข้ามา ผู้คนที่มีความคิดอยากฆ่าตัวตายมักจะรู้สึกโดดเดี่ยว เหมือนถูกปล่อยให้เผชิญปัญหาเพียงลำพัง ดังนั้นการให้กำลังใจและเข้าใจกันถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันปัญหาการฆ่าตัวตาย และเวลานี้ก็เป็นเวลาที่เราทุกคนต้องพูดถึงปัญหาดังกล่าว พวกเราทุกคนสามารถช่วยผู้คนที่กำลังต้องการความช่วยเหลือได้ ด้วยการเป็นผู้ฟังที่ดี ฟังด้วยความเข้าใจ ไม่ตัดสิน และแสดงให้คนที่เผชิญปัญหาได้รู้ว่าเราพร้อมจะเปิดใจยอมรับพวกเขาโดยไม่มีเงื่อนไข"

ดังนั้นหากคุณเป็นห่วงว่าคนที่คุณรู้จักกำลังเผชิญปัญหาดังกล่าว หรือปัญหานี้กำลังเกิดขึ้นกับคุณเอง สามารถช่วยติดต่อหรือให้หมายเลขสายด่วนกับพวกเขา

เราหวังว่า Facebook จะเป็นหนึ่งในช่องทางที่สามารถช่วยคุณได้ ขอให้รู้ว่าคุณสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้เสมอ สมาคมสะมาริตันส์แห่งประเทศไทย เบอร์ติดต่อ 02-713-6793

4 หลักการสำคัญที่ควรคำนึงถึงเสมอที่คุณสามารถนำไปปรับใช้ได้หากประสบปัญหา หรือว่ามีเพื่อนหรือคนรู้จักที่กำลังต้องการความช่วยเหลือ

1. การติดต่อกันเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ในช่วงเวลาที่หลายๆ คนยังต้องรักษาระยะห่าง และทุกคนสามารถร่วมสร้างความหวังให้กับคนอื่นด้วยการกระทำง่ายๆ เช่นการส่งข้อความไปหา ทักทาย ถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อเป็นการแสดงให้พวกเขารู้ว่ายังมีคนที่คิดถึงพวกเขาอยู่

2. ผู้คนที่กำลังเผชิญปัญหา อาจจะอยากมีคนรับฟัง รับรู้และเข้าใจเรื่องราวของเขา Facebook มีแนวทางบทสนทนาที่แนะนำในแหล่งข้อมูลการป้องกันการฆ่าตัวตายของเรา เพื่อที่ผู้ใช้งานจะได้นำไปปรับใช้เพื่อพูดคุยกับเพื่อนในเรื่องที่เขากำลังเผชิญ ซึ่งถือเป็นประโยชน์กับผู้ที่กำลังเจอกับปัญหาอย่างมาก การเป็นผู้ฟังที่ดี เปิดพื้นที่ให้พวกเขาได้ระบาย รวมถึงถามไถ่กันเป็นระยะล้วนมีความสำคัญทั้งสิ้น

3. หากคุณคิดว่าใครก็ตามกำลังอยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยง ควรติดต่อหน่วยงานในพื้นที่เพื่อขอความช่วยเหลือทันที

4. การพูดคุยกับเพื่อนหรือคนในครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ แต่การช่วยให้พวกเขาได้เข้าถึงการช่วยเหลือในขั้นต่อไปก็สำคัญไม่แพ้กัน
#2959


ทีมโอบี ยื่นหนังสือทวงเงินค่าถ่ายทอดสดจาก บริษัท เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2564 โดยทางอดีตเจ้าของลิขสิทธิ์ไทยลีกอ้างว่า รอเงินจาก ส..ฯ มูลค่ากว่า 65 ล้านบาท

หลังจากสมาคมกีฬาฟุต.ฯ ประกาศแยกทางกับ เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ ที่ได้รับเลือกให้เข้ามาทำหน้าที่ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุต.ไทย เป็นเวลา 8 ปี ทว่า เซ้นส์ฯ ไม่สามารถวางเงินประกันได้ตามเวลาที่กำหนด ทำให้สัญญาดังกล่าวถูกยกเลิกไป

ทว่า บริษัทโปรดักชั่นหลายแห่ง ได้ส่งหนังสือทวงเงินค่าถ่ายทอดสดจากเซ้นส์ฯ หลังจากปฏิบัติงานไปเรียบร้อยแล้ว ระหว่างเดือน พฤศจิกายน 2563 จนถึง เมษายน 2564 แต่ในส่วนของเงินค่าจ้างยังคงมีการค้างจ่ายในช่วงเดือน มีนาคม และ เมษายน ได้แก่ บริษัท นนท์โปรดักชั่น จำกัด จำนวน 1,622,400 บาท , บริษัท เมกเกอร์ เทเลวิชั่น จำกัด จำนวน 2,527,200 บาท , บริษัท ณภพ โปรดักชั่น จำกัด จำนวน 5,427,437.10 บาท

ซึ่ง เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ ได้ชี้แจงว่า บริษัทเป็นเพียงแค่ตัวกลางในการประสานงานถ่ายทอดสดเท่านั้น ซึ่งได้เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2563 จนถึงเดือนเมษายนปี 2564 รวมทั้งสิ้น 245 แมตช์ โดยที่สมาคมฟุต.ฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด พร้อมกับขอให้ เซ้นส์ฯ เป็นผู้สำรองจ่ายไปก่อน โดยจะเริ่มชำระเงินคืนทุกๆ 2 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ปรากฏว่าสมาคมฟุต.ฯ ยังไม่ได้จ่ายเงินคืนแม้แต่งวดเดียว ซึ่งเซ้นส์ได้มีการทวงถามทั้งทางจดหมายและโทรศัพท์ไปหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้รับความชัดเจนว่าจะจ่ายเงินค่าถ่ายทอดจำนวน 65 ล้านบาทเมื่อไหร่
#2960
ข้าวกล้องโภชนาการสูง ข้าวปลอดสาร ข้าวหอมสุรินทร์ แท้  100% 
ข้าวฮอร์   ข้าวกล้องอินทรีย์หอมมะลิ ข้าวออร์แกนิคหอมมะลิสุรินทร์ 100%  ข้าวออแกนิคส่งทั่วไทยคือ
  ข้าวหอมมะลิปลอดสารพิษ   ข้าวกล้องหอมมะลิสุขภาพ  ข้าวออร์แกนิคหอมมะลิจังหวัดสุรินทร์ ข้าวหอมสุรินทร์ ข้าวหอมอินทรีย์ คัดพิเศษ 100%
"ข้าวฮอร์ ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์"   กลุ่มข้าวหอมมะลิอินทรีย์ เป็นผลิตผลจากการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ด้วยการปลูกข้าวแบบปลอดสารพิษในทุกขั้นตอน ณ ดินแดนสุรินทร์ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกข้าวที่ดีที่สุดของประเทศไทย ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งดินและน้ำ เหมาะแก่การปลูกข้าวอินทรีย์คุณภาพสูง ประกอบกับกระบวนการผลิตอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมดิน การเตรียมพันธุ์ข้าว การหว่าน การดูแลแปลงนา และการเก็บเกี่ยว โดยครอบครัวชาวนาที่มีประสบการณ์และร่ำรวยความสุขจากการทำนาอินทรีย์แบบปลอดสารพิษ เพื่อให้เมล็ดข้าว ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ ที่ได้นั้น มีความหอม นุ่ม อร่อย ดีต่อสุขภาพและเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการอย่างครบครัน การมีสุขภาพดี คือ ความสุขที่อยู่ใกล้ตัวเรา นอกจากตนเองแล้ว เราควรแบ่งปันความสุขให้กับคนที่เรารักด้วยข้าวหอมมะลิ   ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิค ขัดสีไม่ขาวเพื่อคงคุณค่าและใยอาหาร มีกลิ่นหอม นุ่ม ตามเอกลักษณ์ของ ข้าวออร์แกนิคหอมมะลิสุรินทร์ 100%




  ข้าวหอมมะลิเกษตรอินทรีย์   ได้รับมาตราฐานเกษตรอินทรีย์ -มีวิตามินและสารอาหารจากข้าวสูง -สะอาด..บริสุทธิ์..จากธรรมชาติ ทุกขั้นตอน"ข้าวอินทรีย์ (  ข้าวกล้องหอมมะลิออร์แกนิค)" ที่ผ่านกระบวนการเพาะปลูก และบำรุงรักษาทุกขั้นตอน ด้วยวิถีของเกษตรอินทรีย์ -ไม่มีสารเคมีเข้ามาเกี่ยวข้องในทุกขั้นตอนการผลิต"เมล็ดพันธุ์" คัดเลือกเมล็ดพันธุ์ แต่ละชนิด ด้วยความรัก ใส่ใจ ในรายละเอียดทุกเมล็ด -ด้วยกระบวนการปักดำ..อย่างพิถีพิถันจากธรรมชาติ"พื้นที่เพาะปลูก" ในจังหวัดสุรินทร์ - ทำการเพาะปลูก และควบคุมเองทุกขั้นตอน"แหล่งน้ำ"  ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์อาศัยน้ำฝนตามธรรมชาติที่ตกตามฤดูกาล"ปุ๋ยที่ใช้" ไถกลบตอซังหลังเก็บเกี่ยวทุกครั้ง และปลูกพืชตระกูลถั่วเพื่อปรับปรุงบำรุงดิน, -  ข้าวกล้องเกษตรอินทรีย์หอมมะลิใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ,ปุ๋ยหมักเพื่อเพิ่มธาตุอาหารในดิน"การกำจัดศัตรูพืช" ควบคุมด้วยระบบนิเวศน์หรือใส่สารสกัดจากพืชสมุนไพรแทนการฉีดสารฆ่าแมลง

  ข้าวเกษตรอินทรีย์หอมมะลิ เพื่อความมั่นใจถึงความเป็นข้าวออร์แกนิคที่แท้จริงของเรา
ข้าวฮอร์ (HOR) ได้รับมาตรฐาน
1. ใบรับรองมาตรฐานข้าวอินทรีย์ ( Organic Thailand)
2. ใบรับรองเครื่องหมาย "ข้าวพันธุ์แท้" จากกรมการข้าว จาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในประเภทของ
2.1 ข้าวขาวดอกมะลิ 105 (ข้าวขาว)
2.2 ข้าวขาวดอกมะลิ105 (ข้าวกล้อง)
2.3 ข้าวมะลินิลสุรินทร์

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์   ปลูกข้าวหอมมะลิอินทรีย์ 
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website :   ข้าวไรซ์เบอรี่สุขภาพ
Facebook : www.facebook.com/Wedding.Souvenir.Gift
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @ Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.ข้าวหอมสุรินทร์
2.ข้าวกล้องหอมสุรินทร์
3.ข้าวปกาอำปึลอินทรีย์ (#ข้าวพื้นถิ่นสุรินทร์)
4.ข้าวผสมห้าสายพันธุ์อินทรีย์
5. ข้าวหอมมะลิแดงเพื่อสุขภาพ
6.  ข้าวกล้องหอมมะลินิลออแกนิค
7.  ข้าวไรซ์เบอร์รี่ออแกนิคสำหรับทารก

ข้าว Hor พร้อมขายแล้วที่ Shopee & Lazada
https://shopee.co.th/hor.boutique
https://www.lazada.co.th/shop/horboutique/

#ข้าวหอมมะลิ #ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ #ข้าวหอมมะลิปลอดสาร #ข้าวหอมมะลิเพื่อสุขภาพ #ข้าวหอมมะลิออร์แกนิก #ข้าวหอมสุรินทร์ #ข้าวหอมมะลิออร์แกนิค