• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Prichas

#3161



วันที่ 29 ก.ค. ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกทม. กล่าวในตอนหนึ่งของการแถลงข่าวสรุปการบริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ผ่านระบบ Cisco Webex Meetings ถึงกรณี กทม.และกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) มีปัญหากันหรือไม่นั้น โดยยืนยันว่า กทม.และ กระทรวงสธ.ทำงานร่วมกันมาตลอด ส่วนที่มีกระแสข่าวทะเลาะกับ สธ.นั้น ทาง กทม.ได้ชี้แจงไปแล้วว่า กทม.ได้รับวัคซีนจำนวนเท่าไร โดย กทม.ได้รับการจัดสรรวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าในระบบหมอพร้อม 1,220,000 โดสเป็นกระบวนการที่ทำร่วมกับ สธ.ดังนั้น จะมียอดลงทะเบียนของทั้งสองหน่วยงานในจำนวนนี้กว่า 30,000โดส ใช้ในการฉีดผู้ป่วยติดเตียง ติดบ้าน และได้รับวัคซีนจากโครงการไทยร่วมใจเพียง 680,000 โดส และใน 1-2 วันนี้จะมีการตัดวัคซีนไปฉีดผู้ป่วยในชุมชนอีกประมาณ 30,000 โดส ตรงนี้เป็นตัวเลขทั้งหมดที่ได้รับ

"ส่วนจำนวน 700,000 โดส คืออะไร ก็ต้องบอกว่าถ้าเอาตัวเลขเป๊ะๆ ที่ได้รับจากโครงการไทยร่วมใจอยู่ที่ 680,000 โดส ซึ่งทุกครั้งที่จะนำวัคซีนจากโครงการไทยร่วมใจไปใช้จะต้องมีการขอมติจาก ศบค.ด้วยว่าจะให้ฉีดเท่าไรอย่างไร"ร.ต.อ.พงศกร ระบุ

ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่ กทม.จะจัดซื้อวัคซีนเอง ร.ต.อ.พงศกร กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกวัคซีนที่รัฐจัดหา และกลุ่มสองวัคซีนทางเลือก ซึ่งกทม.มีความพร้อมและได้จัดซื้อวัคซีนทางเลือกแล้วบางส่วน อาทิ ซิโนฟาร์ม ใช้ในการฉีดในกลุ่มผู้ป่วยติดเตียง และอยู่ระหว่างการพูดคุยในเรื่องการจัดซื้อโมเดอร์นาในลำดับถัดไป ส่วนการกระจายวัคซีนคงไม่มีการปรับแผน โดย กทม.ทำตามนโยบายมาตลอด เพื่อเร่งฉีดกลุ่มผู้สูงอายุและ 7 กลุ่มโรคและผู้ที่มีความเสี่ยง โดยมีเป้าหมายฉีดให้ครอบคลุมร้อยละ 70 ซึ่งศักยภาพของศูนย์ฉีดได้ 7-8 หมื่นต่อวัน หากได้วัคซีนเพิ่มเราก็มีศักยภาพที่จะฉีดเพิ่มได้

โฆษก กทม. กล่าวด้วยว่า ส่วนกลุ่มที่ไปรอฉีดสถานีกลางบางซื่อจำนวนมากจนเกิดภาพความแออัด กทม.เป็นแค่หนึ่งคณะกรรมการกระจายวัคซีน ไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินใจว่าใครจะได้รับวัคซีนเท่าไร แต่ กทม.พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือในการฉีดวัคซีนในสถานีกลางบางซื่อ ซึ่งมีภาพความแออัด และอาจจะมีความเสี่ยงต่อการระบาด แต่อยู่กับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญที่สุดในการควบคุมการระบาด เพราะรู้ว่าการกระจายวัคซีนและการบริหารจัดการควรเป็นอย่างไร เพื่อไม่ให้มีการแพร่ระบาด กทม.คงไปสั่งแทนไม่ได้เพราะไม่มีอำนาจ แต่ กทม.พร้อมเข้าไปช่วย


ด้านพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. เปิดเผยว่า ปัจจุบัน กทม.ยังคงให้บริการวัคซีนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ให้ประชาชนอย่างต่อเนื่อง ภาพรวมการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ซึ่งเป็นการฉีดโดยหลายหน่วยงานอาทิ จุดฉีดสถานีกลางบางซื่อโดยกระทรวงสาธารณสุข จุดฉีดศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดงโดยกระทรวงแรงงาน และหน่วยงานอื่นๆ ซึ่งได้ร่วมกันจัดหน่วยฉีดให้บริการประชาชนในกรุงเทพฯ รวมจำนวนสะสม 5,668,720 โดส แบ่งผู้ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม แล้วจำนวน 1,025,493 ราย หรือ 2,050,986 โดส ส่วนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 จำนวน 3,617,734  ราย

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวอีกว่า ในส่วนของ กทม.ได้รับการจัดสรรวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า รวมจำนวนทั้งสิ้น 680,000 โดส โดยได้ฉีดให้แก่ประชาชนผ่านโครงการไทยร่วมใจ ที่จุดฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล โดยความร่วมมือระหว่าง กทม.และหอการค้าไทยทั้ง 25 แห่ง โดยในเดือน มิ.ย.มีจำนวน 200,000 โดส และในเดือน ก.ค. ได้ฉีดให้แก่ผู้สูงอายุที่อายุ 60 ปีขึ้นไป หญิงตั้งครรภ์ รวมทั้งผู้ที่ลงทะเบียนผ่านโครงการไทยร่วมใจและได้รับแจ้งให้เลื่อนคิว รวมจำนวน 480,000 โดส ซึ่งคาดว่าจะให้บริการวัคซีนได้ครบภายในสิ้นเดือน ก.ค.นี้

สำหรับการให้บริการวัคซีน ที่จุดบริการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล "หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร - หอการค้าไทย"  ขณะนี้ได้ให้บริการวัคซีนแก่ประชาชน 3 กลุ่ม ประกอบด้วย

1.กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ลงทะเบียนผ่านโครงการ "ไทยร่วมใจ" ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง หรือเว็บไซต์ www.ไทยร่วมใจ.com หรือร้านค้าสะดวกซื้อ ได้แก่ เซเว่น อีเลฟเว่น แฟมิลี่มาร์ท ท็อปส์ เดลี่ และมินิบิ๊กซี ทั้งนี้รวมถึงผู้ที่เคยลงทะเบียนแล้ว และผู้ที่ลงทะเบียนใหม่

2.กลุ่มผู้ที่ตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป สามารถ Walk-in เข้ารับวัคซีนได้ที่ศูนย์ฉีดโดยแสดงหลักฐานใบฝากครรภ์หรือใบรับรองการตั้งครรภ์จากแพทย์พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนมาแสดง และ 3.กลุ่มผู้ที่มีอายุ 18 – 59 ปี ที่มีคิวฉีดวัคซีนเดิมซึ่งได้ลงทะเบียนไว้เมื่อวันที่ 26 – 30 มิ.ย. โดยคิวเดิมวันที่ 30 มิ.ย. สามารถมารับบริการได้ในวันที่ 30 ก.ค. ในส่วนของผู้ที่มีคิวนัดกับโครงการไทยร่วมใจตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.เป็นต้นไป จะแจ้งคิวฉีดวัคซีนใหม่ให้ทราบทันที เมื่อ กทม.ได้รับการจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติม


ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวอีกว่า ขณะที้สถานการณ์การการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในกรุงเทพฯ จากข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) สำนักการแพทย์ กทม. จากยอดวันที่ 28 ก.ค.64 เวลา 23.59 น. มีจำนวนผู้ป่วยซึ่งยังคงรักษาตัวโรงพยาบาลทุกสังกัด ทั้งภาครัฐและเอกชน จำนวน 26,969 ราย โดยเป็นผู้ป่วยโควิดซึ่งยังคงพักรักษาตัวโรงพยาบาลสังกัด กทม. รวมทั้งโรงพยาบาลสนาม และ Hospitel ในความดูแลของสำนักการแพทย์ รวมจำนวนทั้งสิ้น 3,587 ราย โดย 146 ราย มีอาการรุนแรง

สำหรับจำนวนเตียงโรงพยาบาลสังกัด กทม. รวมทั้งโรงพยาบาลสนาม และ Hospitel ในความดูแลของสำนักการแพทย์ จำนวนทั้งสิ้น3,632 เตียง ใช้ไปแล้ว 3,597 เตียง คิดเป็นร้อยละ 98.76 ศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ เปิดให้บริการแล้ว จำนวน 26 ศูนย์ จำนวนเตียงที่สามารถรองรับผู้ป่วย ได้ 3,499 เตียง ขณะนี้ใช้ไปแล้ว 2,439 เตียง ทั้งนี้ ศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ ฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขตอยู่ระหว่างการนำส่งผู้ป่วยเพื่อเข้าสู่สถานพยาบาลและศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อทุกแห่งให้ครบเต็มจำนวน

อย่างไรก็ตามการบริหารจัดการผู้ป่วยในศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ สำนักการแพทย์ กทม. ได้ดำเนินการคัดแยกกลุ่มผู้ป่วยที่มีผลเป็นบวกจากชุดตรวจ ATK แยกกักตัวกับกลุ่มผู้ป่วยที่ทำการตรวจด้วย RT-PCR โดยจะทำการตรวจ RT-PCR ซ้ำ เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงหากผลบวกจากชุดตรวจ ATK เป็นผลบวกที่คลาดเคลื่อน เพื่อให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยสูงสุด

นอกจากนี้ สำนักอนามัย กทม.ได้สรุปจำนวนผู้ที่อยู่ระหว่างการแยกกักตัวที่บ้าน Home Isolation จากข้อมูล ณ วันที่ 29 ก.ค.64 มีจำนวนทั้งสิ้น 2,364 ราย โดยเขตที่มีผู้ได้รับการแยกกักตัวที่บ้าน สูงสุด ตามลำดับ คือ เขตธนบุรี (208 ราย) บางซื่อและบางกอกใหญ่(เขตละ 130 ราย) ทุ่งครุ (120 ราย) และสายไหม (99 ราย)
#3162



"เดอะ ฟ็อกซ์" เลสเตอร์ ซิตี้ ลงสนามเกมอุ่นเครื่องพบ วีคอม ทีมจากลีกแชมเปียนชิพ อังกฤษ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ผลการแข่งขันปรากฎว่า วีคอม ได้ประตูจาก ดารีล ฮอร์แกน ในนาทีที่ 80 เป็นประตูชัยทำให้พวกเขาเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0

เกมนี้ "เจ้ากัน" ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร มิดฟิลด์ทีมชาติไทย ถูกส่งลงเล่นในครึ่งเวลาหลังนาทีที่ 46 อย่างไรก็ตามเจ้าตัวได้รับบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 62

ทั้งนี้ทีมแพทย์ของ เลสเตอร์ ซิตี้ จะมีการตรวจสอบอาการบาดเจ็บของ ธนวัฒน์ อย่างละเอียด ว่าเจ้าตัวจะต้องพักยาวแค่ไหน
#3163



อินเทลเปิดแผนกลยุทธ์นวัตกรรมด้านกระบวนการผลิตและบรรจุภัณฑ์ โชว์ชัด "RibbonFET" สถาปัตยกรรมทรานซิสเตอร์ตัวแรกของอินเทลในรอบทศวรรษ ยังมี "PowerVia" การจ่ายพลังงานแบบ backside power delivery รายแรกของอุตสาหกรรม มั่นใจคงตำแหน่งผู้นำต่อเนื่องด้านนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ขั้นสูงแบบ 3 มิติ

นายแพท เกลซิงเกอร์ ประธานกรรมการบริหารของอินเทล กล่าวว่าจากความเป็นผู้นำของอินเทลในด้านบรรจุภัณฑ์ บริษัทกำลังเร่งแผนงานนวัตกรรมเพื่อให้แน่ใจว่า ภายในปีพ.ศ. 2568 อินเทลจะยังคงเป็นผู้นำด้านประสิทธิภาพการประมวลผล

"นอกจากนี้ เราได้ใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมที่ไม่มีใครเทียบได้ในการนำเสนอความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีตั้งแต่ทรานซิสเตอร์ไปจนถึงระดับของระบบ เราจะพยายามอย่างไม่หยุดยั้งในการดำเนินงานตามหลักกฎของมัวร์ (Moore's Law) และเดินหน้าบนเส้นทางที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมด้วยพลังของซิลิคอน"

อินเทลมองว่าตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 อุตสาหกรรมการผลิตมีการยอมรับความจริงที่การตั้งชื่อกระบวนการผลิตชิปแบบนาโนเมตรนั้นไม่สามารถใช้กับหน่วยวัดแบบ Gate Length ได้ วันนี้ อินเทลจึงประกาศโครงสร้างสำหรับกระบวนการผลิตชิปรูปแบบใหม่ โดยสร้างกรอบในการทำงานที่ชัดเจนและสม่ำเสมอ เพื่อลูกค้าจะได้มีมุมมองที่ถูกต้องมากขึ้นเกี่ยวกับกระบวนการผลิตชิปที่ครอบคลุมในหลากหลายอุตสาหกรรม สิ่งนี้คือพื้นฐานสำคัญในการเปิดตัว Intel Foundry Services (IFS)

ซีอีโออินเทลย้ำว่านวัตกรรมที่ถูกเปิดตัวในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยปรับแผนกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ของอินเทลแล้ว ยังมีความสำคัญต่อลูกค้าของบริษัทอีกด้วย ทั้งนี้ IFS ได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ อินเทลจึงรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้ประกาศเปิดตัวลูกค้ารายใหญ่สองเจ้าแรกของบริษัท พร้อมประกาศว่า IFS นั้นเริ่มต้นออกสู่ตลาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อินเทลยังประกาศโหนดใหม่ และนวัตกรรมที่เปิดใช้งานสำหรับโหนดแต่ละชนิด หนึ่งในนั้นคือ Intel 7 ที่จะมอบประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นประมาณ 10%-15% ต่อวัตต์ เมื่อเทียบกับ Intel 10nm SuperFin อ้างอิงจากการปรับแต่งทรานซิสเตอร์ FinFET โดย Intel 7 จะถูกใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น Alder Lake สำหรับลูกค้าในปี พ.ศ. 2564 และ Sapphire Rapids สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตในช่วงไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2565

ขณะเดียวกัน Intel 4 จะใช้เทคโนโลยีกระบวนการพิมพ์ด้วยการฉายแสงอัลตราไวโอเลต (Extreme Ultraviolet Lithography) ในการพิมพ์รูปแบบขนาดเล็กด้วยแสงความยาวคลื่นสั้นพิเศษ โดย Intel 4 ซึ่งมากับประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นประมาณ 20% ต่อวัตต์ พร้อมด้วยการปรับปรุงภายในพื้นที่ จะพร้อมผลิตในช่วงครึ่งหลังของปี พ.ศ. 2565 เพื่อเตรียมจัดส่งในปี พ.ศ. 2566 จะถูกรวมอยู่ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น Meteor Lake สำหรับลูกค้า และ Granite Rapids สำหรับดาต้าเซ็นเตอร

ดร. แอน เคลเลอร์ รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายพัฒนาเทคโนโลยี บริษัท อินเทล
ดร. แอน เคลเลอร์ รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายพัฒนาเทคโนโลยี บริษัท อินเทล

ด้าน Intel 3 จะใช้ประโยชน์เพิ่มเติมจากการเพิ่มประสิทธิภาพ FinFET และเพิ่ม EUV ที่มีมากกว่า Intel 4 เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นประมาณ 18% ต่อวัตต์ พร้อมกับการปรับปรุงพื้นที่เพิ่มเติม โดย Intel 3 จะพร้อมผลิตในช่วงครึ่งหลังของปี พ.ศ. 2566

รวมถึง Intel 20A ที่เตรียมพร้อมเข้าสู่ยุคอังสตรอม (Angstrom) ด้วยเทคโนโลยีล้ำหน้า 2 ประเภท ได้แก่ RibbonFET และ PowerVia โดย RibbonFET เป็นการนำทรานซิสเตอร์ Gate All Around ของ Intel ไปใช้ ซึ่งจะเป็นสถาปัตยกรรมทรานซิสเตอร์ใหม่ตัวแรกของอินเทล นับตั้งแต่บริษัทฯ เริ่มคิดค้น FinFET ในปี พ.ศ. 2554 ซึ่งเทคโนโลยีนี้ช่วยให้การเปลี่ยนทรานซิสเตอร์ทำได้เร็วขึ้น โดยให้กระแส drive current เท่าเดิมแต่ใช้พลังงานน้อยลง ส่วน PowerVia โดยอินเทล เป็นการจ่ายพลังงานแบบ backside power delivery รายแรกของอุตสาหกรรมที่เพิ่มประสิทธิภาพการส่งสัญญาณโดยการขจัดความจำเป็นในการกำหนดเส้นทางพลังงานที่ด้านหน้าแผ่นวงจรเวเฟอร์ โดยคาดว่า Intel 20A จะได้รับความนิยมสูงขึ้นในปี พศ. 2567

"บริษัทฯ ยังรู้สึกตื่นเต้นกับโอกาสในการเป็นพันธมิตรกับ Qualcomm ที่จะเริ่มใช้เทคโนโลยี Intel 20A ด้วยเช่นกัน" อินเทลระบุ

สำหรับปีพ.ศ. 2568 และปีต่อๆ ไป อินเทลย้ำว่านอกเหนือจาก Intel 20A แล้ว Intel 18A ได้อยู่ในระหว่างการพัฒนาสำหรับช่วงต้นปีพ.ศ. 2568 พร้อมกับการปรับแต่ง RibbonFET ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพของทรานซิสเตอร์ให้เพิ่มมากขึ้น โดยอินเทลกำลังเตรียมพร้อมในการกำหนด สร้าง และปรับใช้เครื่องมือ EUV รุ่นต่อไปที่เรียกว่า High Numerical Aperture EUV และคาดว่าจะได้รับเครื่องมือการผลิตเครื่องแรกในอุตสาหกรรม ทั้งนี้ อินเทลกำลังเป็นพันธมิตรอย่างใกล้ชิดกับ ASML เพื่อรับรองความสำเร็จของการพัฒนาอุตสาหกรรมดังกล่าวที่นอกเหนือไปจาก EUV รุ่นปัจจุบัน

ดร. แอน เคลเลอร์ รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายพัฒนาเทคโนโลยี กล่าวว่าอินเทลมีประวัติอันยาวนานในด้านนวัตกรรมกระบวนการขั้นพื้นฐานต่างๆ ที่ช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างก้าวกระโดด ซึ่งบริษัทได้เป็นผู้ริเริ่มการเปลี่ยนไปใช้ สเตรน ซิลิกอน (strained silicon) ขนาด 90 นาโนเมตร พร้อมด้วยเทคโนโลยี high-k metal gates ขนาด 45 นาโนเมตร และ FinFET ขนาด 22 นาโนเมตร

"นี่ถือเป็นอีกช่วงเวลาสำคัญด้านเทคโนโลยีการประมวลผลจาก Intel 20A ที่มาพร้อมกับ 2 นวัตกรรมสุดล้ำอย่าง RibbonFET และ PowerVia"

AWS ลูกค้ารายแรก

นอกจากชิป อินเทลย้ำว่าบรรจุภัณฑ์ก็เป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากขึ้นในการตระหนักถึงประโยชน์ของกฎของมัวร์ (Moore's Law) ด้วยกลยุทธ์ IDM 2.0 ใหม่ของอินเทล อินเทลประกาศว่า Amazon Web Services (AWS) จะเป็นลูกค้ารายแรกที่ใช้โซลูชันบรรจุภัณฑ์ของ IFS พร้อมทั้งให้ข้อมูลเชิงลึกด้านแผนกลยุทธ์ของการบรรจุภัณฑ์ขั้นสูงและอุตสาหกรรมชั้นนำ

ที่สุดแล้ว อินเทลย้ำว่ามีแผนนำเทคโนโลยีการพิมพ์ด้วยการฉายแสงอัลตราไวโอเลต (EUV) รุ่นใหม่มาใช้ โดยใช้ชื่อเรียกว่า High Numerical Aperture (High NA) EUV ทั้งนี้ อินเทลนับเป็นเจ้าแรกในอุตสาหกรรมที่จะได้รับเครื่องมือการผลิต High NA EUV ด้วย.
#3164



สื่อเวียดนามรายงานว่า ชาวกรุงฮานอยเกือบ 300 คน ถูกปรับเงินกว่า 610 ล้านด่ง หรือราว 876,000 บาท จากการละเมิดมาตรการควบคุมโควิด-19 ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

การปรับเงินเริ่มขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์หลังคำสั่งเว้นระยะห่างทางสังคมเป็นเวลา 2 สัปดาห์ มีผลบังคับใช้ในเมืองหลวงของประเทศตั้งแต่วันเสาร์ (24) ท่ามกลางการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุ

คำสั่งกำหนดให้ประชาชนอยู่กับบ้าน และออกจากบ้านด้วยเหตุผลความจำเป็นพื้นฐานเท่านั้น เช่น การซื้ออาหารหรือยา หรือไปทำงานในโรงงานหรือธุรกิจที่ยังได้รับอนุญาตให้เปิดดำเนินการ และต้องเว้นระยะห่างจากกันอย่างน้อย 2 เมตร ห้ามรวมตัวกันในที่สาธารณะเกิน 2 คน ยกเว้นในที่ทำงาน โรงเรียน หรือโรงพยาบาล

หากเจ้าหน้าที่พบว่าไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือเว้นระยะห่างในที่สาธารณะ หรือออกจากบ้านด้วยเหตุผลที่ไม่จำเป็น พวกเขาจะถูกลงโทษด้วยการปรับเงิน

สำหรับสถานประกอบการที่มีคำสั่งให้หยุดดำเนินการชั่วคราวในช่วงเว้นระยะห่างทางสังคม หากพบว่ายังดำเนินการต่อจะถูกปรับ 75 ล้านด่ง

ประธานคณะกรรมการประชาชนกรุงฮานอยกล่าวว่า ตำรวจฮานอยได้ตั้งจุดตรวจบนถนนหลายสายเพื่อควบคุมการจราจร โดยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบรถมากกว่า 47,000 คัน และมีรถมากกว่า 13,000 คันต้องถอยกลับ

กรุงฮานอยมีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสมมากกว่า 900 คน ในการระบาดระลอก 4 ที่เริ่มขึ้นช่วงปลายเดือน เม.ย. โดยการระบาดในช่วงต้นพบในโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วเมืองจนนำไปสู่การล็อกดาวน์ และคลัสเตอร์ใหม่พบที่โรงพยาบาลปอด ที่มีผู้ป่วยติดเชื้ออย่างน้อย 23 คน ที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล ผู้ป่วย และสมาชิกในครอบครัวของพวกเขา ตั้งแต่วันอาทิตย์ ทำให้ทางการสั่งล็อกดาวน์โรงพยาบาลและงดรับผู้ป่วยเพิ่ม.

ภาพประกอบ : AP และ VNExpress
#3165



เมื่อเร็วๆนี้บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ได้เปิดโรงงานผลิตหน่วยกักเก็บพลังงาน G-Cell โดยใช้เทคโนโลยี SemiSolid แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (South East Asia) ด้วยกำลังการผลิตเริ่มต้น 30 MWh (เมกะวัตต์ชั่วโมง) ต่อปี ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง

โดยโรงงานแบตเตอรี่แห่งนี้ ถือเป็นแห่งแรกของประเทศไทย และแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียฯ กำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ชั่วโมง(MW) ด้วยทุน 1,100 ล้านบาท และในอนาคตจะขยายขึ้นเป็น 1 กิกะวัตต์ชั่วโมง(GWh) ต่อปี ตามเป้าหมายของ GPSC ที่จะมีกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน อยู่ที่ 8,000 เมกะวัตต์ 

ภายในปี 2573 ตามนโยบายของบริษัทแม่ คือ ปตท. ซึ่งคาดหวังว่า โรงงานแห่งนี้ จะเป็นการสร้างความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมไทยมุ่งสู่พลังงานสะอาด และอุตสาหกรรมใหม่ในอนาคต และสนับสนุนการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (net zero) ตามเป้าหมายของรัฐบาล
#3166




พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีผ่านระบบ   Video Conference ณ ห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

โดยวาระการประชุมที่น่าสนใจในวันนี้ 27 ก.ค. กระทรวงศึกษาธิการ จะเสนอ 4 มาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ปกครอง นักเรียน ให้คณะรัฐมนตรีพิจาณา

มาตรการที่ 1 การให้ความช่วยเหลือภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา ทั้งสายสามัญศึกษาและสายอาชีพ ในสถานศึกษาของรัฐและเอกชน รวมประมาณ 10.8 ล้านคน ในอัตรา 2,000 บาทต่อคน รวมเป็นเงินประมาณ 21,600 ล้านบาท โดยใช้ฐานข้อมูลเรียนฟรี 15 ปี

มาตรการที่ 2 เป็นการขอความร่วมมือจากโรงเรียนเอกชน ให้ลด หรือตรึงค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บจากผู้ปกครอง ในโรงเรียนเอกชนกลุ่มที่ไม่รับการอุดหนุนจากรัฐ และกลุ่มโรงเรียนนานาชาติ ให้เท่ากับปีการศึกษา 2563 เพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่ประชาชนเกินสมควร พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหาค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองในโรงเรียนเอกชน ทั้ง 2 กลุ่ม เพื่อพิจารณาสั่งการเป็นรายกรณี อย่างไรก็ตามหลังจาก ศธ.ได้ออกประกาศแนวปฏิบัติการเก็บเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าธรรมเนียมการเรียน และค่าธรรมเนียมอื่น ปีการศึกษา 2564

มาตรการที่ 3 เป็นการลดช่องว่างการเรียนรู้ (Learning Gaps) และลดผลกระทบด้านความรู้ ที่ขาดหายไป (Learning Loss) โดยให้สถานศึกษาสามารถถัวจ่ายเงินที่ได้รับจัดสรรตามนโยบายเรียนฟรี 15 ปี ใน 5 รายการ ได้แก่ ค่าเล่าเรียน หนังสือเรียน อุปกรณ์การเรียน เครื่องแบบนักเรียน และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เพื่อใช้จัดการเรียนรู้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดในปีการศึกษา 2564 ได้ และจัดสรรค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมให้สถานศึกษาอีกส่วนหนึ่ง เพื่อใช้จัดการเรียนรู้และแก้ปัญหาความปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของสถานศึกษา และจัดทําสื่ออุปกรณ์การเรียนรู้หลากหลายที่เหมาะสมกับวัย ลดการเรียนรู้จากสื่อออนไลน์โดยเฉพาะกลุ่มผู้เรียน อนุบาล-ป.3 ขณะเดียวกัน ศธ.จะจัดเช่าอุปกรณ์ (Devices) พร้อมสัญญาน จํานวน 200,000 ชุด สําหรับให้นักเรียน/นักศึกษา กลุ่ม ป.4 – ม.6 และ อาชีวศึกษา ใช้ยืมเรียน รองรับการเรียนแบบออนไลน์


มาตรการที่ 4 เป็นการช่วยเหลือผู้ปกครองที่ได้รับผลกระทบจากการเลิกจ้างงาน โดยจะมีการจัดฝึกอบรมด้านอาชีพสําหรับผู้ปกครองและประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นการอบรมฟรีรัฐสนับสนุนค่าใช้จ่าย ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ในอัตรา 2,000 บาทต่อคน พร้อมทั้งประสานเชื่อมโยงกับแหล่งทุนเพื่อจัดหาทุนเริ่มต้นประกอบอาชีพ

พร้อมกับคาดการณ์ว่า กระทรวงการคลัง จะเสนอแผนกู้เงิน 200,000 ล้านบาท หลังในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ เพื่อปรับแผนบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2564 ครั้งที่ 2

โดยจะมีการขยายกรอบก่อหนี้ใหม่เพิ่มเติมอีก 100,000-200,000 ล้านบาท เป็นการทำแผนกู้เงินเพิ่มมารองรับมาตรการเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19 ที่มีการล็อกดาวน์ 13 จังหวัดในช่วงนี้ ซึ่งแผนกู้เพิ่ม 100,000-200,000 ล้านบาท ดังกล่าว อยู่ภายใต้กรอบ พ.ร.ก.กู้เงินเพิ่มเติม 500,000 ล้านบาท

ซึ่งจะต้องดำเนินการกู้ภายในสิ้นเดือน กันยายนนี้ เนื่องจากขณะนี้เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ใช้วงเงินหมดแล้ว
#3167



สืบมาไม่ใช่อย่างนั้นไม่เข้าข้างใครขอพูดเป็นกลาง หลังจาก เต๋า ทีวีพูล โพสต์เปิดประเด็นความแตก น้ำ มิสแกรนด์ แฉ ณวัฒน์ ติดเชื้อโควิดจากสตูดิโอดัง หลังโดนตลก ต. ชวนให้ไปออกรายการ แคปชั่นว่า คาดติดเกิอบ40รายแต่ปิดข่าว พร้อมทั้งยังคอมเมนต์ตอบคนในโพสต์รัวๆ อาทิ ใครพูดว่าติดโดนออก , ช่องที่ลุงดูก็ติดโควิดนะลุง ข่าวนี้คนสงสัยมานานแล้ว ลุงแก่ๆควรพัก นั้น

ล่าสุด หนุ่ม กรรชัย กล่าวถึงเรื่องนี้ในรายการหนึ่งว่า ส่วนตัวที่ผมรู้มา ได้ยินมามันไม่ใช่ มุมของผมกับมดดำ (คชาภา) เห็นด้วยเหมือนกันว่าไม่น่าใช่ที่จะเป็นอย่างนั้น พอทราบข่าวผมก็เช็คข่าว ก็สืบมาก็ไม่ใช่อย่างนั้น


ในนั้นไม่ได้เอ่ยว่าตุ๊กกี้ติด แต่เขาบอก ดาราตลก ต. เป็นคนชวนไป ถามจริงๆ ตุ๊กกี้ (ชิงร้อย) จะชวนไปได้ยังไง มันไม่ใช่ พูดตรงๆ พี่ณวัฒน์ (อิสรไกรศีล) ก็ไปขายของ พูดเป็นกลางจริงๆเลยนะ ตุ๊กกี้จะชวนพี่ณวัฒน์ไปขายของที่นั่นเหรอ ก็ไม่ใช่ ตุ๊กกี้ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย ต้องผ่านเอเจนซี่ พูดแบบนี้ไม่ชัด ไม่น่าใช่

ถ้าเขาพูดมาแบบนี้ก็ต้องรอดูหลักฐาน ต้องเอาหลักฐานมาว่ากันว่าจริงหรือเปล่า เรื่องแบบนั้นพูดลอยๆไม่ได้นะ มันมีเรื่องความเสียหายองค์กรเขา เสียหายไปอีกหลายคน มันไม่ใช่มาพูดว่าที่นี่ที่นั่น เราพูดเป็นกลางที่สุดไม่ได้ข้างใดข้างหนึ่ง เราตั้งข้อสังเกตว่าเป็นแบบนี้

ด้าน มดดำ กล่าวว่า ไม่เห็นมีใครติด ตุ๊กกี้ก็ไม่ติด พูดกันตรงๆ เวิร์คพอยท์ตรวจทุกวัน ตรวจหนักกว่าเราอีก ทั้งแรพิดฯ ทั้งพีซีอาร์ถามว่าบริษัททุกที่มีคนติดกันทั้งนั้น ใครติดก็แยกรักษา แต่ติดคลัสเตอร์ 40 คนต้องมีข่าวหรือเปล่า ดาราติดคนหนึ่งมีใครไม่รู้บ้าง องค์กรเขาเป็นตลาดหลักทรัพย์เขาฟ้องได้นะ
#3168
ทำไมคนทั่วโลกที่นิยม [url=https://www.1-to-all.com/zoom/zoom-cloud-meeting]Zoom Download[/url]

ในตอนนี้ผู้เขียนยังอยู่ในสถานการณ์โรค COVID-19 ซึ่งเกิดขึ้นทั่วโลก ทำให้มีความจำเป็นที่จะต้องเรียน และ ทำงานผ่านระบบออนไลน์ หรือคำยอดฮิตคือ work from home นั่นเอง ขอเรียกสั้นๆว่า WFH นะครับ
การ WFH นั้นต้องทำอย่างไร และ ง่ายหรือเปล่า ผู้เขียนจะมาแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกันครับ ซึ่งการที่เราจะ WFH ได้นั้น จะต้องมีองค์ประกอบดังนี้ คือ 

1.    internetที่ความเร็ว อย่างต่ำ 2M ขึ้นไป
2.    กล้อง Web camera ความละเอียดอย่างน้อย Full HD 1080 P
3.    ไมค์ พร้อม ลำโพง หรือ หูฟัง
4.    โปรแกรมสำหรับการเรียนหรือ ประชุมออน์ไลน์

ในทีนี้ ผู้เขียน จะมาเล่าและแนะนำเกี่ยวกับโปรแกรมสำหรับ WFH ที่คนทั่วโลกนิยมใช้ในตอนนี้ คือ โปรแกรม ZOOM
ซึ่งในรายละเอียดเชิงลึกคือ Zoom Meeting ซึ่งสามารถดาวน์โหลดและลงโปรแกรมได้หลายอุปกรณ์มากๆ เช่น
คอมพิวเตอร์  , โน้ตบุ๊ก , มือถือ และ แทปเล็ต  โดยเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่เว็ปไซด์ zoom.us  และไปที่เมนู  Zoom download  จากนั้นหากเสร็จแล้วก็เข้าไปที่เมนู Zoom join เพื่อลงทะเบียนและเข้าใช้งานได้เลยครับ ซึ่งเป็นโปรแกรมใช้งานง่ายมาก มีคนสอนการใช้งานหลากหลายคนเลย 

อีกเรื่องนึง โปรแกรม Zoom นั้นใช้แบนด์วิท (Bandwidth) เรื่องอินเตอร์เน็ตต่ำมากทำให้การค้าง หรือ แลคนั้นน้อยมากๆ จึงเป็นอีกเหตุผลนึงที่ทำให้คนใช้งานมากมาย

#3169



          แหกทุกกฎกับภารกิจรัก สุดบ้าระห่ำของ 2 นางเอก ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ และ มายด์-ลภัสลัล จิรเวชสุนทรกุล ที่จะมาแทคทีมป่วนเพื่อทำลายงานแต่งงานชายในฝัน ในซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้ "46วัน ฉันจะพังงานวิวาห์" ประชันบทบาทกับ 2 พระเอก นนกุล-ชานน สันตินธรกุล และ ออฟ-จุมพล อดุลกิตติพร เสริมทัพความฮาด้วยทีมนักแสดงมากฝีมือ นำโดย พลอยภัช-ภัชธร, เจนนี่ ปาหนัน, วิคเตอร์-ชัชชวิศ, ไมค์-ชินรัฐ, ไซซี-อภิชญา, จาตุรงค์ พลบูรณ์, ท็อป-ดารณีนุช, เอ็ม-อภินันท์, ฮิม-ไรวินทร์ ฯลฯ  


          "46 วัน ฉันจะพังงานวิวาห์" ดัดแปลงจากนิยาย "46 วัน รักอลวน" เขียนโดย : รัศมีจันทร์  บทซีรีส์โดย :วณีพรรณ อ้วนโพธิ์กลาง , กีรติ คำสัตย์ , ธนพร เพชรจรัส และ สุวนันท์ โพธิ์กุดไสย์  กำกับการแสดงโดย : กู่-เอกสิทธิ์ ตระกูลเกษมสุขผลิตและสร้างสรรค์โดย : บริษัท จีเอ็มเอ็ม ทีวี


          เรื่องย่อ "46 วัน ฉันจะพังงานวิวาห์" 

          หญิงหญิง (ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก) เน็ตไอดอลที่ต้องตกอับ เพราะแฟนคลับจับโป๊ะได้ จนแทบหมดทางทำกิน แต่พอจะย้ายไปทำอะไร ก็มีชื่อเสียติดตัวไปเหมือนตราบาป ลำพังแบกปัญหาตัวเองไม่พอ ยังต้องแบกปัญหาของ น้อยหน่า (มายด์-ลภัสลัล) ผู้ซึ่งเป็นเพื่อนรักตั้งแต่ยังเด็ก แถมมีสถานะเป็นเจ้าหนี้ของ หญิงหญิง อีกด้วย  


          ชีวิตของทั้งคู่เหมือนจะเปลี่ยนไปอีกครั้ง เมื่อ น้อยหน่า ดันได้ไปพบกับชายในฝันอย่าง หมอกรณ์ (นนกุล-ชานน) ผู้เพียบพร้อมไปทุกอย่าง อีกทั้งบัญชาการจากสวรรค์ก็กระซิบผ่านหมอดูมาบอก น้อยหน่า ว่าปีนี้เธอจะได้แต่งงานและ หมอกรณ์ คือ คนที่เหมาะสมที่สุด แต่ติดอยู่แค่อย่างเดียวคือ หมอกรณ์ จะต้องแต่งงานกับ วิษา (พลอยภัช-ภัชธร) คุณหนูเซเลบไฮโซผู้บูชายอดวิวและยอด subscribe เป็นดั่งเม็ดเลือดแดงหล่อเลี้ยงร่างกาย หมอกรณ์ และ วิษา ดูเหมาะสมกันมากแต่แล้ว หญิงหญิง และน้อยหน่า ก็ได้ล่วงรู้เงื่อนงำบางอย่างที่ วิษา แอบเก็บไว้!



          การปกป้องผู้ชายดีๆ ให้หลุดพ้นจากนางมารร้าย และมาลงเอยที่นางฟ้าก็ได้เริ่มต้นขึ้น .ของ หญิงหญิง คือ การปลดหนี้จาก น้อยหน่า ถ้างานนี้สำเร็จแต่มีเวลาเหลืออีกเพียง 46 วัน แถมยังมีอุปสรรคอย่าง หมอพัฒน์ (ออฟ-จุมพล) เพื่อนสนิท หมอกรณ์ ที่คอยตามติดทั้งคู่ทุกฝีก้าว ด้วยความสงสัย


          มาร่วมลุ้นไปพร้อมกันว่า หญิงหญิง จะทำภารกิจ 46 วัน เพื่อพังงานวิวาห์ของ หมอกรณ์ และ วิษา ได้สำเร็จหรือไม่ และใครกันแน่ที่จะเป็นคนโป๊ะ!? ติดตามความสนุกของซีรีส์ "46วัน ฉันจะพังงานวิวาห์" ได้ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทางช่อง GMM25

อิญรัตน์ กลิ่นหอม : เรื่อง ... อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/news/94464/
#3170
การดูแลสุขภาพอนามัยเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมาก  ยิ่งในยุคปัจจุบันการมีบุคลิกภาพที่ดีมักจะนำมาซึ่งโอกาสที่ดีกว่าเสมอ บุคลิกภายนอกจึงเป็นสิ่งสำคัญเป็นปราการด่านแรกที่จำทำให้คุณประสบความสำเร็จได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศใด ทำงานลักษณะไหน เชื่อว่าล้วนแต่ต้องการมีบุคลิกภาพที่ดี แลดูสะอาดชวนมองด้วยกันทั้งนั้น  ชุดมีดโกนหนวดอเนกประสงค์พร้อมใบมีด36ใบมีด จึงเหมาะที่คุณจะเลือกมาเป็นตัวช่วยให้ทั้งคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงได้มีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น ด้วยคุณสมบัติที่ใช้งานง่าย  สะอาด สะดวกรวดเร็วและรับรองในความคุ้มค่าคุ้มราคาที่สุดด!!
สั่งซื้อ https://razor69.lnwshop.com
#3171



นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยความคืบหน้าธุรกิจให้บริการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปว่า ขณะนี้ ยังไม่ได้ดำเนินการติดตั้ง เนื่องจากลูกค้าหลายรายที่เคยเจรจากันไว้ ขอชะลอแผนการลงทุนติดตั้ง

โซลาร์รูฟท็อปออกไปก่อน ซึ่งเป็นการตัดสินใจภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ โดยเฉพาะผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19

"ยอมรับว่าสถานการณ์ปัจจุบันลำบาก ไม่มีคนอยากจะลงทุน และหลายโรงงานก็ปิดตัวลง ทำให้ธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปยังไม่คืบหน้า ตอนนี้ยังไม่ได้ตามเป้าหมาย แต่ในอนาคตยังเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตได้ และบริษัทยังไม่ล้มเลิกธุรกิจนี้แน่นอน เพียงแต่รอความพร้อมของลูกค้าที่ขอชะลอการติดตั้งออกไปก่อน"

สำหรับธุรกิจให้บริการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป ก่อนหน้านี้ เอ็กโก กรุ๊ป ระบุว่า มีลูกค้าในมือแล้ว ประมาณ 40 เมกะวัตต์ และตั้งเป้าหมายจะมีกำลังการผลิตในมือแตะระดับ 200 เมกะวัตต์ใน 5 ปี โดยจะมุ่งเน้นเจาะตลาดในกลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมและอาคารพาณิชย์

อย่างไรก็ตาม บริษัท ยังคงเดินหน้าเร่งรัดขยายการลงทุนในโครงการที่มีศักยภาพการเติบโตมากกว่าแทน โดยเฉพาะการลงทุนในพลังงานทดแทน ที่จะเป็นส่วนของสำคัญของการพลังงานสะอาดที่มีอนาคตเติบโตอีกมาก ซึ่ง บริษัท ก็ได้ปรับเป้าหมายจะมีสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นเป็นไม่น้อยกว่า 30% จากเดิม 25% ของกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม ภายในปี 2573 และอีก 75% จะเป็นกำลังการผลิตจากพลังงาน Conventional และธุรกิจใหม่ จากปัจจุบันสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนอยู่ที่ 22-23% ของกำลังการผลิตทั้งหมด

อีกทั้งยังมีโอกาสปรับเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทนให้มากกว่า 30% ได้ แต่ยังคงต้องรอดูความชัดเจนจากแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP 2022) เนื่องจากปริมาณสำรองไฟฟ้าของประเทศขณะนี้สูงถึง 40% การเติมพลังงานทดแทนช่วงดังกล่าวอาจยังไม่มีความจำเป็น เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนค่าไฟได้ ซึ่งปัจจุบัน เอ็กโก กรุ๊ป มีกำลังผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 6,016 เมกะวัตต์ 
#3172


พายุเจิมปากา ทำให้ฝนตกหนัก ชาวบ้านตำบลนากก อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร แห่ออกมาจับปลาขายสร้างรายได้

มุกดาหาร-ดีเปรสชั่น "เจิมปากา" ทำฝนตกหนักทั่วอีสาน ชาวบ้านนากก อ.นิคมคำสร้อย แห่ออกจับปลาขายในห้วยขี้เหล็ก เผยฝนตกหนักทำให้มีน้ำและพันธุ์ปลาจากเทือกเขาไหลลงอ่างเก็บน้ำจำนวนมาก ชาวบ้านยิ้มได้ทั้งอาหารและรายได้เสริมช่วงฝนตกหนัก

วันนี้ (26ก.ค.) ชาวบ้านตำบลนากก อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร และพื้นที่ใกล้เคียง ต่างนำอุปกรณ์ออกมาจับปลาบริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยขี้เหล็ก จำนวนมาก หลังจากสองวันที่ผ่านมาฝนตกติดต่อกันทำให้มีน้ำและปลาจากเทือกเขาไหลมารวมกัน จากการเปิดเผยของชาวบ้านในพื้นที่บอกว่า ทุกๆปีหากมีฝนตกหนักจะทำให้น้ำจากเทือกเขาไหลมารวมกัน ทำให้บริเวณลำห้วยต่างๆ ที่มีน้ำไหลลงจากภูเขาเต็มไปด้วยปลาชนิดต่างๆ ลงมากับกระแสน้ำ


ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลนากอก และชาวบ้านใกล้เคียง จึงพร้อมใจออกไปหว่านแหหาปลากันเป็นจำนวนมาก ใน 1 ปี จะมีปลาขึ้นมาให้จับเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีของชาวบ้าน ต่างนำแห มาหว่านและนำอุปกรณ์ดักปลาชนิดอื่น ทั้งตาข่ายดักปลา สะดุ้ง นำมาดักปลา ซึ่งชาวบ้านแต่ละคนได้ปลาคนละหลายกิโลกรัม บางส่วนนำไปปรุงเป็นอาหาร ส่วนที่เหลือนำไปขายสร้างรายได้คนละหลายร้อยบาทต่อวัน

นายสมหมาย ชาวบ้านนากอก บอกว่าวันนี้ออกมาตั้งแต่เช้า ตั้งใจว่าจะออกมาหาปลา เพื่อนำไปเป็นอาหารเลี้ยงครอบครัว เพราะช่วงนี้หยุดงานจากผลของโรงระบาด ซึ่งตนออกมาตั้งแต่ตี 5 วันนี้ได้ปลาพอประมาณแล้ว ก็เลยเลิก ส่วนปลาที่จับได้ก็มีหลากหลายชนิด ส่วนใหญ่เป็นปลาตะเพียน ปลากดคัง ซึ่งปลากที่นี่มีหลากหลายชนิด


ทั้งนี้จากประกาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออเฉียงเหนือตอนล่าง แจ้งว่าพายุดีเปรสชั่น เจิมปากา ที่ปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดมุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
#3173



นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (EGCO)หรือ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยความคืบหน้าธุรกิจให้บริการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19ระลอกใหม่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจในประเทศ ทำให้ลูกค้าชะลอแผนการลงทุนติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปออกไปก่อน

"ยอมรับว่าสถานการณ์ปัจจุบันลำบาก ไม่มีคนอยากจะลงทุน และหลายโรงงานก็มีปิดตัวลง ทำให้ธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปยังไม่คืบหน้า ตอนนี้ยังไม่ได้ตามเป้าหมาย แต่ในอนาคตยังเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตได้ และบริษัทยังไม่ล้มเลิกธุรกิจนี้แน่นอน เพียงแต่รอความพร้อมของลูกค้าที่ขอชะลอการติดตั้งออกไปก่อน"

ทั้งนี้บริษัทระบุว่ามีลูกค้าในมือแล้ว 40เมกะวัตต์ และตั้งเป้าหมายจะมีกำลังการผลิตการบริการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปแตะระดับ 200 เมกะวัตต์ใน 5 ปี โดยจะมุ่งเน้นเจาะตลาดในกลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมและอาคารพาณิชย์

อย่างไรก็ตาม บริษัท ยังคงเดินหน้าเร่งรัดขยายการลงทุนในโครงการที่มีศักยภาพการเติบโตมากกว่าแทน โดยเฉพาะการลงทุนในพลังงานทดแทน ที่จะเป็นส่วนของสำคัญของการพลังงานสะอาดที่มีอนาคตเติบโตอีกมาก โดยปรับเป้าหมายจะมีสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นเป็นไม่น้อยกว่า 30% จากเดิม 25% ของกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม ภายในปี 2573 และอีก 75% จะเป็นกำลังการผลิตจากพลังงาน Conventional และธุรกิจใหม่ จากปัจจุบันสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนอยู่ที่ 22-23% ของกำลังการผลิตทั้งหมด

ส่วนโอกาสปรับเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทนให้มากกว่า 30%คงต้องรอดูความชัดเจนจากแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP 2022) เนื่องจากปริมาณสำรองไฟฟ้าของประเทศขณะนี้สูงถึง 40% การเติมพลังงานทดแทนช่วงดังกล่าวอาจยังไม่มีความจำเป็น เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนค่าไฟได้

ปัจจุบัน เอ็กโก กรุ๊ป มีกำลังผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 6,016 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว 29 แห่ง คิดเป็นกำลังผลิตตามสัญญาซื้อขายตามสัดส่วนการถือหุ้น 5,695 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 2 โครงการ คิดเป็นกำลังผลิตตามสัญญาซื้อขายตามสัดส่วนการถือหุ้น 321 เมกะวัตต์
#3174

   

เรื่องย่อ ภูผาผีคุ้ม ตื่นเต้นไปกับภารกิจการผจญภัย เพื่อออกตามหาเจ้าของสมบัติของชายหนุ่มยอดกตัญญู การันตีความสนุก โดยผู้กำกับ เสกสรรค์ สิงอุไร ทางช่องวัน 31


ผา เด็กหนุ่มผู้มีความสามารถในการมองเห็นวิญญาณ เมื่อครั้งยังเด็ก ผามีเหตุให้ต้องพลัดพรากจากบ้านเมืองเกิด จนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด

แต่โชคดีที่ได้ภูตผี 8 ตน ที่ถูกจองจำให้เฝ้าสมบัติและพระขรรค์ศักดิ์สิทธิ์ในหุบเขาหมอก มานานนับ 100 ปี ช่วยชีวิตและคอยเลี้ยงดู ถ่ายทอดพลังวิเศษมากมาย

เมื่อผาโตเป็นหนุ่ม เขาอยากตอบแทนบุญคุณภูตผีทั้ง 8 ตน ที่เลี้ยงดูเขามา จึงอาสาเดินทางไปยัง "เมืองสุบรรณ" เพื่อตามหาเจ้าของสมบัติที่แท้จริง มาปลดปล่อยเหล่าวิญญาณให้ไปเกิด


โดยมี เดือน หญิงสาวชาวบ้าน ขออาสาเป็นผู้นำทาง เพราะต้องการหาเงินไปรักษาแม่ที่ล้มป่วย และ แท่น เพื่อนรักของเดือน ร่วมออกเดินทางไปในครั้งนี้ด้วย


ซึ่งทั้งสามหารู้ไม่ว่าการผจญภัยไปยังเมืองสุบรรณนั้นเต็มไปด้วยอุปสรรคมากมาย ที่จะมาคอยขัดขวางภารกิจในครั้งนี้

มาลุ้นและเอาใจช่วยพวกเขาไปพร้อมๆ กันได้ในละคร "ภูผาผีคุ้ม"

รายชื่อนักแสดง ภูผาผีคุ้ม
เพชร โบราณินทร์ รับบท ทินกร / ผา
ภาลฎา ฐิตะวชิระ รับบท เดือน
อัครวุฒิ มังคลสุต รับบท เทพ
พลอยไพลิน ลิมปนเวทยานนท์ รับบท ปิ่น
ฝน ธนสุนธร รับบท ผีบัว
ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม รับบท ผีกล้า
อาณัตพล ศิริชุมแสง รับบท ขุนสิงห์
ยุทธพิชัย ชาญเลขา รับบท พระฑศราชา
สุพจน์ จันทร์เจริญ รับบท พระยาชัยยศ
กลศ อัทธเสรี รับบท ผีอิน
ณัฏฐริณีย์ กรรณสูต รับบท ชม
จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม รับบท แท่น
สมจิตร จงจอหอ รับบท ผีอ่ำ
ณัฐภัสสร สิมะเสถียร รับบท ผีรำเผย
จอห์น บราโว่ รับบท หมอผีเดช
สร้อย สารคาม รับบท ผีเที่ยง
โสรยา ศรีมิตร รับบท ผีประไพ
ณัฐผี รับบท ผีเรือง
โมฬีวรรณ พันธรักษ์ รับบท เฟื่อง
วรัทภพ รักษ์ศิริ รับบท เหม

รายชื่อนักแสดงเด็ก
ด.ช.พีรณัฐ วัฒนกิจพิศาล รับบท ผา(เด็ก)
ด.ญ.ธมกร เมอไกวร์ รับบท ปิ่น(เด็ก)
ด.ญ.มาชิดา สุทธิกุลพานิช รับบท เดือน(เด็ก)
ด.ช.วรัชต์ธิปต์ กิตติสิริไพศาล รับบท เทพ(เด็ก)
ด.ช.แดนไตร ชัยภักดิ์เตชะ รับบท แท่น(เด็ก)
#3175


GPSC เดินเครื่องโรงงานผลิตหน่วยกักเก็บพลังงานด้วยเทคโนโลยี กระบวนการผลิตขั้นสูงแบบ SemiSolid แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชู 3 จุดเด่นตอบโจทย์การใช้งานทั้งความปลอดภัย เสถียรภาพ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมก้าวสู่ผู้นำด้านแบตเตอรี่เทคโนโลยีและโซลูชั่นการบริหารจัดการพลังงานแบบครบวงจร ภายใต้การขับเคลื่อนนวัตกรรมพลังงานของกลุ่ม ปตท. ตั้งเป้าเสริมศักยภาพการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนป้อนกลุ่มโรงไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และ SME ลุยต่อยอดแผนการผลิตแบตเตอรี่เพื่อยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต

เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 64 ที่ผ่านมา บริษัท โกล. เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ได้เปิดโรงงานผลิตหน่วยกักเก็บพลังงาน G-Cell โดยใช้เทคโนโลยี SemiSolid แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเป็นทางการ ด้วยกำลังการผลิตเริ่มต้น 30 เมกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง  โดยได้รับเกียรติจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานกรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานกรรมการ บริษัท โกล. เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกล. เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) และคณะผู้บริหารที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในพิธี ผ่านระบบออนไลน์


ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานกรรมการ บริษัท โกล. เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ได้กล่าวถึงโรงงานแห่งนี้ ถือเป็นโรงงานผลิตแบตเตอรี่ Lithium แบบ SemiSolid แห่งแรกของไทย และภูมิภาคอาเซียน ด้วยกำลังการผลิตเริ่มต้น 30 เมกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี โดยโรงงานแห่งนี้ตั้งขึ้นตามวัตถุประสงค์ในการสร้างนวัตกรรมและอุตสาหกรรมการผลิตแบตเตอรี่ Lithium ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย และกระตุ้นให้เกิด Ecosystem ของการใช้พลังงานสะอาด และพลังงานไฟฟ้าในรูปแบบต่างๆ ที่มากขึ้นในทุกภาคส่วน โดยวางแผนขยายกำลังการผลิตขึ้นเป็น 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปีในอนาคต เพื่อบรรลุสู่เป้าหมายของ GPSC ที่มุ่งพัฒนาพลังงานทดแทน ให้สามารถขยายกำลังผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่ 8,000 เมกะวัตต์ต่อปี ภายในปี 2573

โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กล่าวในโอกาสเป็นประธานพิธีเปิดโรงงานผลิตหน่วยกักเก็บพลังงาน G-Cell ว่า ถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทย ในการเริ่มต้นเทคโนโลยีนวัตกรรมด้านพลังงาน ที่จะช่วยให้อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยรักษาจุดยืนการเป็นผู้นำฐานการผลิตยานยนต์ในภูมิภาค และเป็นการต่อยอดเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ได้เร็วขึ้น เพื่อมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการลงทุนยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญของอาเซียน ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการมุ่งหน้าพาประเทศลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิจนเป็นศูนย์ Net Zero Carbon Country ในอนาคต สอดรับกับทิศทางด้านพลังงานของประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ที่ต่างได้กำหนดเป้าหมายเดียวกัน ภายในปี ค.ศ. 2050 และยังสอดคล้องกับเป้าหมายการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย

โดยปัจจุบัน มีการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (รถอีวี) ตามท้องถนนมากขึ้น ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ยานยนต์ไฟฟ้าจะได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น คือ การทำให้ราคารถยนต์ลดลง เพื่อเข้าถึงได้ง่ายขึ้น รวมถึงเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมรองรับการเติบโตของตลาดยานยนต์ไฟฟ้าที่รัฐบาลต้องการสนับสนุนให้เกิดขึ้น


ด้านนายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ GPSC กล่าวว่า GPSC พร้อมสนับสนุนนโยบายภาครัฐในการผลักดันประเทศลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิจนเป็นศูนย์ ส่งเสริมอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าและการลดช่องว่างของระบบพลังงานทดแทน ด้วยนวัตกรรมการผลิตแบตเตอรี่ SemiSolid เทคโนโลยีการผลิตของบริษัท 24M Technologies Incorporation หรือ 24M จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งบริษัทฯ ได้รับสิทธิในการดำเนินการผลิตและจัดจำหน่าย


โดยบริษัทฯ จะเริ่มจากการผลิต G-Cell ในแบบ LFP (Lithium Iron Phosphate) ที่มีจุดเด่นในเรื่องความปลอดภัยในการใช้งานสูง และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า จึงเหมาะสมกับแอพพลิเคชั่นที่หลากหลาย รวมทั้งยังสามารถรีไซเคิลได้ง่ายเมื่อแบตเตอรี่หมดอายุการใช้งาน จึงเป็นแบตเตอรี่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยกำลังการผลิตเริ่มต้น ที่ 30 เมกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ซึ่งสามารถขยายกำลังการผลิตของโรงงานนี้ ได้ถึง 100 เมกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี

โดยแผนระยะยาว ใน 10 ปีข้างหน้า วางเป้าสู่โรงงานผลิตแบตเตอรี่ขนาด Giga-scale กำลังผลิต 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาและพิจารณาแผนการลงทุนในช่วงต่อไป คาดว่าจะเห็นข้อสรุปของพื้นที่ตั้งในปีหน้า ซึ่งเบื้องต้นได้มองถึงพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และตั้งอยู่ใกล้โรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อลดต้นทุนค่าขนส่ง เพื่อรองรับต่อแผนยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย ด้วยเงินทุนประมาณ 30,000 ล้านบาท


"แผนการดำเนินงานครั้งนี้ จะเสริมสร้างความพร้อมด้านพลังงานให้กับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต (S-CURVE) โดยเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle หรือ EV) การเพิ่มขึ้นของการผลิตและใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) และการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ฯลฯ ซึ่งจะสร้างศักยภาพการแข่งขันให้กับประเทศ และเสริมคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนคนไทยตามนโยบายรัฐบาล" นายวรวัฒน์ กล่าว


สำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของโรงงานแห่งนี้ มีขีดความสามารถผลิตแบตเตอรี่และระบบกักเก็บพลังงานได้ใน 3 ระดับ คือ 1.G-Cell ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ขั้นพื้นฐานในรูปแบบ Battery Pouch Cell 2.ผลิตภัณฑ์ G-Pack ที่มีการนำ Battery Pouch Cell มาเชื่อมต่อกันในรูปแบบ Battery Module และ Pack พร้อมทั้งติดตั้งระบบบริหารจัดการแบตเตอรี่ หรือ Battery Management System (BMS) ร่วมด้วย สำหรับการใช้งานในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กและขนาดใหญ่ (Mobility Application–Light Duty and Heavy Duty) เช่น รถบัสไฟฟ้า เรือไฟฟ้า รถตุ๊กต๊กไฟฟ้า รถไฟฟ้าสี่ล้อขนาดเล็ก รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า และกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้า (Stationary Application) และ 3.กลุ่ม G-Box ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์พร้อมใช้งาน สำหรับระบบสำรองไฟฟ้า (Uninterruptible Power Supply หรือ UPS) และระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System หรือ ESS) ที่มีขนาดตั้งแต่ 10-1,000 กิโลวัตต์ชั่วโมงขึ้นไป ซึ่งสามารถนำเทคโนโลยี IOT (Internet of Things) AI (ระบบปัญญาประดิษฐ์) และ Blockchain เข้ามาพัฒนาเป็นแพลตฟอร์มการให้บริการ


โดยผลิตภัณฑ์ทั้งหมด พร้อมรองรับลูกค้าทั้งในกลุ่ม ปตท. กลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (SME) รวมถึงผู้ประกอบการที่ต้องใช้แบตเตอรี่เป็นส่วนประกอบของสินค้า โดยในระยะแรกจะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มผู้ผลิตและใช้งานระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) และยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ด้วยลักษณะการใช้งานที่เหมาะสมกับจุดแข็งของ G-Cell แบบ LFP (Lithium Iron Phosphate)


ส่วนยานยนต์ไฟฟ้าในกลุ่ม Passenger EV ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดด และเป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่ประเทศไทยให้การส่งเสริม และมีเป้าหมายการผลิตให้ได้ 30% ของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ ในปี 2573 ซึ่งมักจะนิยมใช้แบตเตอรี่แบบ NMC (Lithium Nickel Manganese Cobalt Oxide) นั้น ในเบื้องต้นบริษัทฯ สามารถนำเข้าแบตเตอรี่แบบ NMC ที่ผลิตจากเทคโนโลยีเดียวกัน โดยบริษัท Anhui Axxiva New Energy Technology Co., Ltd. (AXXIVA) ประเทศจีน ที่บริษัทฯ ได้เข้าไปลงทุนก่อนหน้านี้ ป้อนให้กับกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการได้เช่นกัน


ทั้งนี้ แบตเตอรี่ G-Cell ที่ผลิตโดย GPSC นับเป็นการตอกย้ำถึงบทบาทสำคัญของบริษัทฯ ในฐานะแกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้าของกลุ่ม ปตท. ที่ได้มองเห็นโอกาสในการให้บริการด้านแบตเตอรี่และระบบกักเก็บพลังงาน และมุ่งสู่การเป็นผู้พัฒนาโซลูชั่นเพื่อบริหารจัดการพลังงานชั้นนำของประเทศ โดยการนำนวัตกรรมใหม่ที่คิดค้นและถูกพัฒนา โดย 24M เป็นแบตเตอรี่ชนิดกึ่งแข็ง ที่มีความปลอดภัยสูง สามารถป้องกันเหตุไฟฟ้าลัดวงจรจากภายในเซลล์แบตเตอรี่ได้เป็นอย่างดี ด้วยโครงสร้างที่มีชั้นฟิล์มพิเศษห่อหุ้มภายใน Unit Cell และด้วยสูตรการผลิตแบบ SemiSolid ส่งผลให้ G-Cell มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยความสามารถในการเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้ง่ายกว่าแบตเตอรี่ทั่วไป จึงมั่นใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์ของ GPSC เมื่อนำมาประกอบเป็นผลิตภัณฑ์ G-Pack และ G-Box จำหน่ายให้กับลูกค้าแล้วคาดว่าจะสามารถตอบโจทย์ทุกการใช้งานของลูกค้าได้อย่างดี
#3177
ขายถูกคอนโดเมืองทองธานีอาคารP2 ขนาด28.4 ตรม ขายเพียง600,000บ ขายถูกกู้ได้สูง ขายถูกกว่าทั่วไป

ขายถูกคอนโดเมืองทองธานีอาคารP2 ขนาด28.4 ตรม ขายเพียง600,000บ ขายถูกกู้ได้สูง ขายถูกกว่าทั่วไป อาคารP2 ชั้น 3 ห้องเล็กด้านนอก แนะนำสำหรับนักลงทุน ขายป๊อบปูล่าคอนโดมีเนียมเมืองทองธานีอาคารP2

ขายถูกคอนโดเมืองทองธานีอาคารP2 ขายถูกกู้ได้สูง ขายถูกกว่าทั่วไป
ขนาด28.4 ตรม ขายเพียง600,000บ ขายถูกกู้ได้สูง ขายถูกกว่าทั่วไป ขายป๊อบปูล่าคอนโดมีเนียมเมืองทองธานีอาคารP2 ห้องสตูดิโอ 1 ห้องน้ำ ตึกP2 ชั้น 3 ห้องเล็กด้านนอก ทำเลดดีมาก สะดวกสบาย สาธารณูปโภคและอุปโภคครบครัน เช่น IMPACT (Challenger & Arena), หน่วยงานราชการ, ธนาคาร, ศูนย์แสดงสินค้า, ร้านอาหาร, ร้านขายอุปกรณ์, ร้านสะดวกซื้อ และอื่นๆ

ขายป๊อบปูล่าคอนโดมีเนียม เมืองทองธานีอาคารP2 ชั้น 3 ใกล้ลิฟท์ วิวด้านนอกขนาด 28.4 ตรม.


ห้องเปล่าแต่สวย ขายถูกคอนโดเมืองทองธานีอาคารP2 แต่ด้วยจุดที่ตั้ง ทัศนียภาพ ความสะดวก รับรองคุ้มค่าแน่นอนค่ะ เหมาะกับซื้ออยู่เอง หรือ จะซื้อไว้ลงทุนทำเป็นห้องพักให้เช่าแบบรายเดือนหรือรายวัน ก็คุ้มค่า เมื่อประเมินแล้วจาก
ขายคอนโดเมืองทองธานีแนะนำสำหรับนักลงทุน คอนโดโครงการเมืองทองธานี ขายถูกคอนโดเมืองทองธานีอาคารP2  ภายในประกอบด้วย สาธารณูปโภคและอุปโภคครบครัน เช่น IMPACT (Challenger & Arena),
หน่วยงานราชการ, ธนาคาร, ศูนย์แสดงสินค้า, ร้านอาหาร, ร้านขายอุปกรณ์, ร้านสะดวกซื้อ และอื่นๆ
-มีบริการรถสองแถว, มอเตอร์ไซค์รับจ้าง, วินรถตู้, รถโดยสารประจำทาง
-ใกล้ตลาดสด ศูนย์อาหาร Outlet
-โรงเรียนนานาชาติเซ็นฟรังค์
-โรงแรม Ibis Bangkok Impact
-มีทางเข้า-ออกได้หลายทาง, ใกล้ทางด่วน
-ใกล้มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, ใกล้ Beehive
-วัดผาสุกมณีจักร
-สนามฟุต.เมืองทอง, ใกล้ตลาดมะลิ
*ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู
*เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ
*ศูนย์ราชการ
*จากโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ, World Medical Hospital

ขายป๊อบปูล่าคอนโดมีเนียมเมืองทองธานีอาคารP2 สนใจสอบถามติดต่อเจ้าของห้องโดยตรง

ราคา 600,000 บาท โอนคนละครึ่ง
คุณแก้ว 092 296 5964 LINE ID : korranan.k , FB : Korranan Komkai , Email : Korranan.k@hotmail.com


รายละเอียดเพิ่มเติม
https://ipostcondo.com/?p=1497
คำค้น
ขายด่วนคอนโดเมืองทองธานีอาคารP2, ขายป๊อบปูล่าคอนโดมีเนียมเมืองทองธานีอาคารP2, ขายถูกกู้ได้สูงคอนโดโครงการเมืองทองธานี, กู้ได้เต็มตามเครดิตคอนโดโครงการเมืองทองธานี, ขายป๊อบปูล่าคอนโดมีเนียมเมืองทองธานีอาคารP2, ขายคอนโดเมืองทองทำเป็นห้องพักให้เช่า, คอนโดเมืองทองธานีอาคารP2ขายถูกกว่าทั่วไป, ขายคอนโดเมืองทองธานีแนะนำสำหรับนักลงทุน
 
#3178


"ประกันสังคม" เข้มมาตรการรัฐ ขอประชาชนงดเดินทางติดต่อตรง ต้องติดต่อรับสิทธิประกันสังคมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ "SSO e-Service" หรือระบบออนไลน์ www.sso.go.th ต้องทำยังไง มีเงื่อนไขสำคัญอะไรที่ต้องทำความเข้าใจ เช็ค!

ภายหลังสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศยังพุ่งสูงต่อเนื่อง ศบค. ประกาศยกระดับล็อกดาวน์ ให้ 3 จังหวัดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) เพิ่มเติมคือ จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่ง 3 จังหวัดดังกล่าวเคยถูกจัดให้อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) 

ทั้งนี้คำประกาศศบค. เมื่อ 9 กรกฎาคม ได้ประกาศจังหวัดเขตสีแดงเข้ม แค่ 10 จังหวัด เท่านั้น ได้แก่  จังหวัดกรุงเทพมหานคร จังหวัดนครปฐม จังหวัดนราธิวาส จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดสงขลา ทำให้พื้นที่สีแดงเข้ม มียอดรวมจังหวัดทั้งสิ้น 13 จังหวัด และจำกัดการเดินทาง
ล่าสุด สำนักงานประกันสังคม จึงขอความร่วมมือนายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน งดการมาติดต่องานหรือทำธุรกรรม ณ สำนักงานประกันสังคมในช่วงนี้ เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งนี้ สามารถติดต่อได้ที่ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ "SSO e-Service" หรือระบบออนไลน์ www.sso.go.th แทนนั้น

"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" จึงรวบรวมช่องทางการติดต่อ "ประกันสังคม" และดูขั้นตอนการกรอกข้อมูล และข้อควรรู้ต่างๆ ดังนี้


ติดต่อ "ประกันสังคม" ผ่านระบบ "SSO e-Service" หรือออนไลน์ www.sso.go.th 

กรณีผู้ประกันตน ขอรับประโยชน์ทดแทน

  • กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ ตาย สงเคราะห์บุตร ว่างงาน และชราภาพ
  •  
  • สามารถรับแบบขอรับสิทธิประโยชน์ได้ที่ช่องทาง download แบบฟอร์มขอรับประโยชน์ทดแทนใน www.sso.go.th
  •  
  • ส่งแบบพร้อมเอกสารได้ที่ไปรษณีย์ลงทะเบียน (AR ตอบรับ) โทรสาร (Fax) ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) แอพพลิเคชั่น (Line)
  •  
  • รายละเอียดของแต่ละหน่วยงานท่านสามารถเข้าดูได้ที่ www.sso.go.th
  •  
  • มีข้อสงสัยเกี่ยวกับงานประกันสังคมสามารถติดต่อสอบถามที่หน้าเว็บไซต์ www.sso.go.th
  •  
  • ผ่านช่องทาง E-mail : info@sso1506.com
  •  
  • Webboard (กระดานสนทนา) Live Chat
  •  
  • Facebook : สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน
กรณีนายจ้างขอทำธุรกรรมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์

ให้นายจ้างเข้าช่องทาง e-Service ในเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th

ในหัวข้อบริการอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อขอ User สถานประกอบการ และ Password เพื่อการนำส่งข้อมูลเงินสมทบ แจ้งผู้ประกันตน เข้า - ออก จากงาน หรือแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูลผู้ประกันตน

พร้อมชำระเงินสมทบของผู้ประกันตน ผ่านระบบ e-payment ได้ตลอดเวลา

กรณีการตรวจสอบข้อมูลของ "ผู้ประกันตน"

สามารถตรวจสอบข้อมูลผู้ประกันตนส่งเงินสมทบยอดเงินชราภาพ และการรับสิทธิประโยชน์รวมถึงเงื่อนไขการรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ทุกกรณี

สามารถตรวจสอบข้อมูลและสิทธิประโยชน์ ผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่

  • ช่องทางระบบสมาชิกผู้ประกันตนในเว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th
  •  
  • สามารถดาวน์โหลด Application SSO Connect
  •  
  • สอบถามผ่าน facebook Messenger ของ สำนักงานประกันสังคม
  •  
  • โทรสายด่วน 1506 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ด้าน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) เปิดเผยว่า กรณีเว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม (สปส) แท้จริงแล้วเว็บไซต์ไม่ได้ล่ม เพียงแต่สำนักงานประกันสังคมได้ปิดปรับปรุงเว็บไซต์ 1 วัน เพื่อปรับปรุงระบบฐานข้อมูลให้สอดคล้องกับประกาศ ศบค.ที่จากเดิมกำหนดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดใน 6 จังหวัดและเพิ่มเติมเป็น 10 จังหวัด

รวมทั้งขยายประเภทกิจการที่ให้ความช่วยเหลือจากเดิม 4 เป็น 9 ประเภทกิจการ เป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งเป็นคนละส่วนกับข้อมูล ผู้ประกันตนมาตรา 33,39 และ 40 ที่มีรายชื่อทั้งหมดอยู่ในระบบฐานข้อมูลอยู่แล้ว ไม่ได้มีปัญหาอะไร

"อาชีพอิสระ" สมัครได้หลายช่องทาง

นางเธียรรัตน์ ยังกล่าวถึง กรณีที่สำนักงานประกันสังคมให้ผู้ที่ยังไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคมและต้องการรับ "เงินเยียวยา" 5,000 บาท ได้สมัครมาตรา 40 นั้น ในเรื่องการสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 นั้นเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่สามารถมี 3 ทางเลือกในการจ่ายเงินสมทบรายเดือนระยะยาว เพื่อรับการคุ้มครองที่ต่างกัน คือ

  • ทางเลือกที่ 1 จ่าย 70 บาท
  •  
  • ทางเลือกที่ 2 จ่าย 100 บาท
  •  
  • ทางเลือกที่ 3 จ่าย 300 บาท
ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่ยังไม่มีหลักประกันทางสังคมให้ได้สมัครมาตรา 40 เพื่อเข้าสู่ระบบประกันสังคม โดยการออมในระยะยาวเป็นการสร้างความมั่นคงในชีวิต
#3179


การระบาดของโรคโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้นจากเชื้อกลายพันธุ์ทำให้ความต้องการวัคซีนเพิ่มขึ้น วัคซีนยังอยู่ในภาวะขาดแคลนไปอีก 2 ปี เพื่อให้ประเทศไทยได้รับวัคซีนประสิทธิภาพสูงมากขึ้น "ทีดีอาร์ไอ"เสนอให้ตั้งคณะทำงานจัดหาวัคซีนของประเทศขึ้นมาเจรจาเรื่องนี้

จากประสบการณ์หลายประเทศการได้รับวัคซีนโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ  ทั่วถึง และรวดเร็ว คือทางออกจากวิกฤติการระบาดของโควิด-19 ที่ได้ผลที่สุด และคาดว่าประเทศส่วนใหญ่จะยังต้องมีการฉีดวัคซีนต่อเนื่องในระยะยาวตามการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส ทำให้มีการปรับการคาดการณ์ว่าปริมาณวัคซีนในโลกจะยังคงไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ไปอีกอย่างน้อย 1-2 ปี ความเชื่อที่ว่าในปีหน้าตลาดวัคซีนจะเริ่มกลายเป็นตลาดของผู้ซื้อจนทำให้ไม่ต้องวางแผนมากนักในการจัดหาวัคซีน น่าจะไม่เป็นจริงอีกต่อไป 

สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) โดยคณะนักวิจัย ได้แก่ นายวิโรจน์ ณ ระนอง ผู้อำนวยการวิจัย ด้านสาธารณสุขและการเกษตร นายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย และ นพ.ต่อพงศ์ อัศวิษณุ  ที่ปรึกษา ด้านพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทีดีอาร์ไอ ได้ร่วมกันนำเสนอเรื่องการจัดหาและกระจายวัคซีนในประเทศไทยในปี 2564 - 2565  โดยเน้นในด้านการจัดหานั้นจะพิจารณาควบคู่ไปกับการวิจัยพัฒนาและการผลิตวัคซีนภายในประเทศด้วย

การจัดหาวัคซีนจากต่างประเทศ เ

ป้าหมายที่สำคัญในการจัดหาวัคซีนของไทยในปัจจุบันก็คือ ต้องบริหารความเสี่ยงโดยคำนึงถึงทุกความเป็นไปได้ไม่ว่าจะเล็กน้อยเพียงใด ซึ่งประกอบด้วยหลักการและแนวปฏิบัติดังต่อไปนี้

1.ควรตั้งเป้าหมายโดยมุ่งจัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น วัคซีนที่ใช้เทคโนโลยี mRNA หรือ protein subunit และวัคซีนที่มีประสิทธิภาพรองลงมาแต่ยังใช้ได้ผลดี เช่นวัคซีนที่ใช้เทคโนโลยี viral vector ซึ่งวัคซีนเหล่านี้มีประสิทธิภาพในการป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิต และยังสามารถป้องกันการติดเชื้อได้มากกว่าวัคซีนที่ใช้เทคโนโลยีที่เก่ากว่าด้วย นอกจากนั้น วัคซีนเหล่านี้สามารถสร้างภูมิคุ้มกันในระดับที่ค่อนข้างสูง


ซึ่งงานวิจัยในระยะหลังบ่งชี้ว่าวัคซีนที่สร้างระดับภูมิคุ้มกันได้สูงมักมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้ดีกว่าวัคซีนที่สร้างระดับภูมิคุ้มกันที่ต่ำกว่าหรือมีระดับภูมิคุ้มกันตกลงเร็วกว่า การใช้วัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงจึงน่าจะช่วยให้ประเทศไทยเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ได้เร็วขึ้น ป้องกันการติดเชื้อและคงประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสกลายพันธุ์ได้ดีกว่า และช่วยให้เศรษฐกิจกลับมาพื้นตัวได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ แผนการจัดหาวัคซีนควรมีความยืดหยุ่นเพียงพอในการปรับสัดส่วนการจัดหาวัคซีนชนิดต่างๆ ตามผลการวิจัยด้านประสิทธิผลที่มีอยู่ปัจจุบันและที่จะออกมาในอนาคตเป็นระยะๆ

2.เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวข้างต้น รัฐบาลควรจัดสรรงบประมาณในการจัดหาวัคซีนประสิทธิภาพสูงอย่างเพียงพอ เพราะถ้าหากสามารถรักษาชีวิตของประชาชนจำนวนมากและฟื้นฟูเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว ก็จะมีความคุ้มค่าอย่างแน่นอน รัฐบาลจึงไม่ควรตั้งเป้าหมายในการจัดหาให้ได้วัคซีนเหล่านี้ในราคาถูก แต่ควรตั้งเป้าจัดหาวัคซีนประสิทธิภาพสูงอย่างน้อย 150 ล้านโดสหรือมากกว่านั้นในปี 2565 เพื่อให้ครอบคลุมประชากรทุกกลุ่ม รวมทั้งชาวต่างชาติที่พำนักอาศัยถาวรในประเทศไทยด้วย

และถ้าหากจัดหาได้เกินความต้องการในประเทศ ก็สามารถขายต่อหรือบริจาคให้ประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกับไทย หรือนำวัคซีนส่วนเกินมาฉีดให้กับแรงงานที่ข้ามพรมแดนไทยเป็นประจำเพื่อช่วยลดโอกาสการระบาดระลอกใหม่ในประเทศไทยเองด้วย ส่วนเป้าหมายในปี 2564 ก็ยังควรพยายามอย่างถึงที่สุดในการจัดหาให้ได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายเดิม 100 ล้านโดส โดยมีสัดส่วนของวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ 

3.ในกรณีที่ไม่สามารถจัดหาวัคซีนประสิทธิภาพสูงตามเป้าหมายข้างต้น หลังจากใช้ความพยายามทุกวิถีทางแล้ว อาจจัดหาวัคซีนกลุ่มอื่นมาทดแทนได้ หากสถานการณ์การระบาดรุนแรง ทำให้มีความต้องการวัคซีนจำนวนมากกว่าวัคซีนประสิทธิภาพสูงที่จัดหามาได้ โดยอาจใช้วัคซีนทดแทนดังกล่าวกับกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่รัฐบาลจะต้องสื่อสารต่อประชาชนอย่างชัดเจนว่าได้พยายามอย่างถึงที่สุดแล้วในการจัดหาวัคซีนประสิทธิภาพสูง และมีความจำเป็นที่ต้องจัดหาวัคซีนทดแทนมาแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน

4.เพื่อเพิ่มโอกาสสูงสุดที่จะให้ได้วัคซีนประสิทธิภาพสูงอย่างเพียงพอและทันกับสถานการณ์  รัฐควรจัดตั้ง "คณะทำงานของประเทศเพื่อจัดหาวัคซีนโควิด-19" โดยให้มีนักธุรกิจที่มีประสบการณ์สูงเป็นหัวหน้าคณะ และให้มีอิสระในการเลือกคณะทำงานจากผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และวัคซีน ทูต นักธุรกิจและนักเจรจาการค้าที่มีความสามารถจากทั้งภาครัฐและเอกชน โดยให้ทำงานเต็มเวลาหรือเกือบเต็มเวลา ไม่ให้มีภารกิจอื่นรบกวนในระหว่างทำหน้าที่นี้ การทำงานไม่ถูกจำกัดหรือถูกจำกัดน้อยที่สุดจากระเบียบราชการ ดังตัวอย่างของคณะทำงานในลักษณะเดียวกันในอังกฤษ  คณะทำงานนี้จะเป็นตัวแทนของรัฐบาลไทยในการติดต่อและเจรจาซื้อวัคซีนจากบริษัทผู้ขายได้อย่างอิสระ ภายใต้วงเงินงบประมาณที่กำหนดไว้ (ซึ่งมีความยืดหยุ่นได้ตามสถานการณ์อุปสงค์และอุปทานสำหรับวัคซีนในตลาดโลก) คณะทำงานฯ ต้องรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการอย่างโปร่งใสต่อสาธารณะอย่างต่อเนื่อง (เท่าที่ไม่ขัดกับข้อตกลงการรักษาความลับทางการค้าที่คู่เจรจากำหนด) 

เพื่อให้คณะทำงานฯ สามารถจัดหาวัคซีนได้โดยไม่ติดกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค ควรให้การจัดหาวัคซีนสามารถดำเนินการได้โดยใช้อำนาจตามมาตรา 18(4) ของพระราชบัญญัติความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. 2561 อันเป็นแนวทางเดียวกับที่รัฐบาลใช้ในการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) ในกรณีมีเหตุฉุกเฉินหรือเหตุจำเป็น พ.ศ. 2563 ซึ่งมีผลคุ้มครองคณะทำงานไม่ให้มีความรับผิดในกรณีที่จัดหาวัคซีนที่อยู่ในระหว่างการทดลองแต่ในภายหลังไม่ผ่านการอนุมัติ เว้นแต่จะมีหลักฐานโดยประจักษ์ชัดว่าดำเนินการโดยทุจริต 

- เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับวัคซีนประสิทธิภาพสูงเร็วขึ้นและในปริมาณมากขึ้น ในระยะแรกรัฐบาลอาจสนับสนุนให้เอกชนสามารถจัดหาวัคซีนทางเลือกได้คล้ายกับที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน แต่อาจยังยึดถือแนวคิดว่าการได้รับวัคซีนโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นสิทธิ์พื้นฐานตามรัฐธรรมนูญที่รัฐควรจัดให้ประชาชนทุกคน

ดังนั้นหากวัคซีนทางเลือกถูกนำมารวมกับวัคซีนหลักที่คณะทำงานฯ จัดหามาและกระจายให้ทุกคนตามยุทธศาสตร์การกระจายวัคซีน รัฐบาลก็ควรเป็นผู้จ่ายค่าวัคซีนที่เอกชนนำเข้ามาทั้งหมด (แต่ต้องใกล้เคียงกับต้นทุนรวมของวัคซีนหลักประเภทเดียวกันหรือที่เทียบเคียงได้ที่คณะทำงานฯ จัดหามาได้ เพื่อป้องกันการนำเข้าวัคซีนทางเลือกที่แพงอย่างไม่สมเหตุผล) รวมทั้งค่าดำเนินการจัดหาให้เอกชนผู้นำเข้าด้วย แต่หากประชาชนบางกลุ่มต้องการได้รับวัคซีนก่อนและมีวัคซีนเพียงพอสำหรับฉีดให้กลุ่มเป้าหมายหลักตามยุทธศาสตร์การกระจายวัคซีนของประเทศแล้ว ก็อาจอนุญาตให้คนทั่วไปจองซื้อวัคซีนทางเลือกได้โดยรัฐบาลยังคงอุดหนุนต้นทุนบางส่วนแต่ต้องไม่เกินต้นทุนรวมต่อโดสของวัคซีนหลักประเภทเดียวกันหรือที่เทียบเคียงได้ที่คณะทำงานฯ จัดหามาได้

- ในกรณีที่คณะทำงานฯ ประสบความสำเร็จในการจัดหาวัคซีนตามเป้าหมายทั้งในปี2564-2565 และปีต่อ ๆ ไป อาจพิจารณายกเลิกการจัดหาวัคซีนทางเลือกในส่วนภาคเอกชนก็ได้ เพื่อป้องกันปัญหาความเหลื่อมล้ำในการได้รับวัคซีนของประชาชนกลุ่มต่างๆ 

- การเจรจาซื้อวัคซีนทั้งในส่วนภาครัฐและภาคเอกชน ควรคำนึงถึงการได้มาซึ่งวัคซีนรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสามารถป้องกันการติดเชื้อที่กลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 ได้ดีที่สุด โดยเลือกเจรจากับบริษัทที่มีแผนการพัฒนาวัคซีนรุ่นใหม่อยู่แล้วหรือมีแผนที่ชัดเจนว่าจะพัฒนาวัคซีนรุ่นใหม่ และควรระบุในสัญญาให้ชัดเจนว่าประเทศไทยจะได้รับวัคซีนนั้นตามจำนวนที่เจรจากันทันทีที่บริษัทสามารถผลิตวัคซีนรุ่นใหม่ได้

- รัฐบาลควรพิจารณาเข้าสู่โครงการ COVAX ซึ่งแม้ว่าอาจจะไม่ช่วยให้ประเทศไทยได้รับวัคซีนมากขึ้นในระยะเฉพาะหน้านี้ แต่ก็เป็นการประกันความเสี่ยงในอนาคตที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน 

- รัฐบาลควรร่วมมือกับบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าในการพิจารณาความเป็นไปได้ในการขยายปริมาณการผลิตวัคซีนในประเทศไทยให้ได้มากขึ้นโดยเร็ว โดยไทยควรได้สิทธิ์ส่วนใหญ่หรือทั้งหมดในการผลิตที่เพิ่มขึ้น เฉพาะในกรณีที่สถานการณ์การระบาดของไทยมีแนวโน้มเลวร้ายลงจนกระทบระบบสาธารณสุขและระบบเศรษฐกิจอย่างรุนแรงเท่านั้น ที่รัฐบาลอาจพิจารณาใช้อำนาจตามมาตรา18 (2) ของพระราชบัญญัติความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. 2561 เป็นทางเลือกสุดท้ายในการกำหนดสัดส่วนการส่งออกวัคซีน เพื่อไม่ให้กระทบความสัมพันธ์กับทั้งบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าและกับแผนการควบคุมโรคของประเทศที่สั่งจองและรอรับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่จะนำเข้าจากไทยด้วย

การสนับสนุนการวิจัยพัฒนาและการผลิตวัคซีนภายในประเทศ

ในปัจจุบัน หน่วยงานต่างๆ ในประเทศไทยมีศักยภาพในการวิจัยและพัฒนา และแม้กระทั่งส่งออกวัคซีนสำหรับป้องกันโรคบางชนิด  ในกรณีวัคซีนโควิด-19 เรามีการวิจัยและพัฒนาวัคซีนกว่า 20 ชนิด ซึ่งมีทั้งวัคซีนชนิด mRNA, protein-subunit, DNA และวัคซีนเชื้อตาย  และที่สำคัญ ไทยยังประสบความสำเร็จในการรับจ้างผลิตวัคซีนชนิด viral-vector ให้แอสตร้าเซนเนก้าโดยบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์  

ด้วยศักยภาพดังกล่าว ภาครัฐจึงควรให้การสนับสนุนโครงการพัฒนาและผลิตวัคซีนในประเทศที่มีขีดความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยีและการผลิตที่ได้มาตรฐานสากลอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยการสนับสนุนเงินทุนในการพัฒนาและผลิตวัคซีนประสิทธิภาพสูงในลักษณะที่ยืดหยุ่นกว่าการใช้เงินงบประมาณปกติ รวมถึงส่งเสริมให้บริษัทผลิตวัคซีนระดับโลกมาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้นด้วย เพื่อให้ประเทศไทยมีทางเลือกเพิ่มขึ้นในการได้มาซึ่งวัคซีนโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพสูง อีกทั้งมีความพร้อมในการรับมือโรคอุบัติใหม่ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการตั้งความหวังที่เกินจริงต่อการผลิตวัคซีนในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากการตั้งความหวังดังกล่าวนำไปสู่การดำเนินการที่ส่งผลให้การจัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงจากต่างประเทศในปริมาณน้อยหรือล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็น


การกระจายวัคซีน

ในด้านการกระจายและระดมฉีดวัคซีนนั้น ที่ผ่านมาประเทศไทยมีความสามารถในการฉีดวัคซีนได้เร็วพอสมควร แต่ประสบปัญหาวัคซีนไม่เพียงพอ ไม่ตรงกับความต้องการของประชาชน และความสับสนในการสื่อสารระหว่างหน่วยงานในเรื่องประมาณการจำนวนวัคซีนที่แต่ละหน่วยงานฉีดวัคซีนจะได้รับการจัดสรรจนทำให้ต้องเลื่อนการฉีดวัคซีนออกไปกระทั่งกับผู้สมควรได้รับวัคซีนลำดับแรก ๆ จำนวนการฉีดต่ำกว่าที่วางแผนไว้มากจนเกิดความเสี่ยงสูงที่จะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการฉีดวัคซีนได้ 100 ล้านโดสก่อนสิ้นปี 2564 และยังมีปัญหาการกระจายวัคซีนที่บิดเบือนไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ ซึ่งส่วนสำคัญน่าจะเป็นผลจากการตัดสินใจทางการเมืองที่คำนึงถึงเป้าหมายอื่นมากกว่ายุทธศาสตร์ที่วางไว้ ปัจจัยเหล่านี้น่าจะส่งผลกระทบในด้านลบ ทั้งต่อการควบคุมการระบาด การลดความสูญเสียชีวิตของประชาชนและการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาโดยเร็ว

ทั้งนี้ในช่วงประมาณสองเดือนที่ผ่านมา การกระจายวัคซีนกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่สร้างความโกลาหลในวงกว้างและกระทบคนจำนวนมากด้วยเหตุผลหลัก 3 ประการคือ การได้รับวัคซีนที่จัดซื้อมาล่าช้ากว่าที่คาด และ การแย่งบทบาทกันในการกระจายวัคซีนระหว่างหน่วยงานต่างๆ โดยขาดการประสานงานที่ดี และมีการเปลี่ยนแปลงกลุ่มเป้าหมายในการกระจายวัคซีนไปมาหลายครั้งตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความจำเป็น 

รัฐบาลควรพยายามกลับไปใช้แนวทางการมีช่องทางหลักช่องทางเดียวในการจองฉีดวัคซีนของประชาชน โดยใช้ระบบการจองผ่านแอพพลิเคชัน "หมอพร้อม" แทนการจองผ่านหลายช่องทางในปัจจุบัน และควรเชื่อมโยงข้อมูลโรคประจำตัวของกลุ่มเสี่ยงจากโรงพยาบาลต่างๆ เข้ากับระบบดังกล่าวอย่างครบถ้วน เนื่องจากการมีช่องทางหลักช่องทางเดียวสำหรับประชาชนทุกกลุ่มจะช่วยให้ระบบสามารถจัดลำดับในการรับวัคซีนของประชาชนตามยุทธศาสตร์ในการกระจายวัคซีนที่ต้องปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ได้ ในขณะที่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดการแทรกแซงทางการเมืองหรือการปล่อยให้สถานพยาบาลใช้ดุลยพินิจในการปรับเปลี่ยนการฉีดวัคซีนเอง ระบบหมอพร้อมควรเพิ่มการแจ้งเตือนประชาชนให้มาฉีดเมื่อใกล้เวลา การแจ้งเสนอให้ผู้จองฉีดลำดับถัดไปเลื่อนคิวขึ้นมาได้หากมีผู้ถึงกำหนดฉีดแต่ไม่มาฉีดจำนวนมาก รวมทั้งการเลื่อนการฉีดออกไปเมื่อวัคซีนมีปริมาณไม่มากเท่ากับที่คาดการณ์ไว้ หรือมีการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ในการกระจายวัคซีน

อย่างไรก็ตาม ยังมีความจำเป็นที่จะต้องมีช่องทางอื่นเสริมเพื่อรองรับประชากรที่ไม่สะดวกในการใช้แอพพลิเคชัน เช่น ผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ผู้สูงอายุ หรือแรงงานข้ามชาติ หรือเพื่อระดมฉีดวัคซีนในชุมชนหรือคลัสเตอร์ที่มีการระบาดอย่างรุนแรงเช่นในแคมป์คนงานและชุมชนโดยรอบ  ทั้งนี้ช่องทางเสริมควรมีเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และต้องเชื่อมโยงข้อมูลดังกล่าวเข้าสู่ระบบกลางโดยเร็ว เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและตรวจสอบได้

ประเด็นอื่นๆที่เกี่ยวกับวัคซีน 

การฉีดวัคซีนกระตุ้นหลังจากเข็มที่สอง รวมทั้งการสลับชนิดวัคซีน ควรเกิดขึ้นเมื่อมีงานวิจัยเบื้องต้นรองรับ โดยชั่งน้ำหนักระหว่างประโยชน์ที่จะได้รับและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ทั้งนี้รัฐบาลต้องเปิดเผยผลการวิจัยนั้นต่อประชาชนโดยละเอียดเพื่อสร้างความมั่นใจว่าการตัดสินใจดังกล่าวอยู่บนข้อมูลทางวิชาการ

ปัญหาการแย่งวัคซีนน่าจะค่อยๆ ดีขึ้นในอนาคต เมื่อมีวัคซีนชนิดต่างๆ เข้ามาในปริมาณที่มากขึ้น ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงวัคซีนที่ต้องการได้ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่กล่าวมาน่าจะเกิดขึ้นเร็วที่สุดภายในต้นหรือกลางปีหน้า ซึ่งเมื่อแก้ปัญหานี้แล้ว อีกปัญหาใหญ่ที่ควรต้องเตรียมรับมือต่อไปก็คือการที่ประชาชนบางส่วนอาจยังปฏิเสธการฉีดวัคซีน ซึ่งต้องหาแนวทางในการสื่อสารและรณรงค์กันต่อไป
#3180


เปิดรายละเอียดและสิทธิประโยชน์สำหรับสมัครเป็น "ผู้ประกันตน" ใน "ประกันสังคม ม.40" ว่า "สมัคร ม.40" แล้วได้อะไรบ้าง และจะเสียสิทธิรักษาพยาบาล "บัตรทอง" หรือไม่ ?

หลังจากที่ ครม. มีมติจ่าย "เงินเยียวยา" สำหรับ "ผู้ประกัน" ใน "ประกันสังคม" มาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ก็มีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะ "ประกันสังคมมาตรา 40" ที่เปิดให้ผู้ประกอบ "อาชีพอิสระ" สามารถสมัครเข้าเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 เพื่อรับเงินเยียวยา 5,000 บาทจากรัฐได้

แต่หลายคนยังมีข้อสงสัยว่าการเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 จะได้ประโยชน์อะไร แล้วจะเสียโอกาสในการรักษาพยาบาล "บัตรทอง" อย่างที่โซเชียลมีเดียตั้งข้อสังเกตหรือไม่

"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" จึงรวบรวมรายละเอียดและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ผู้ประกันตนในประกันสังคมมาตรา 40 จะได้รับเพื่อไขข้อข้อใจ

 คุณสมบัติของผู้สมัครมาตรา 40 
- บุคคลทั่วไป อายุ 15-65 ปี


- ไม่มีนายจ้างประจำ เช่น อาชีพอิสระ ฟรีแลนซ์ ค้าขาย

 เงินสมทบที่ต้องจ่ายทุกเดือน 
ทางเลือก 1 : 70 บาท/เดือน (ช่วงเดือน ส.ค. 64-ม.ค. 65​ ลดเงินสมทบเหลือ 42 บาท )
ทางเลือก 2 : 100 บาท/เดือน (ช่วงเดือน ส.ค. 64-ม.ค. 65​​ ลดเงินสมทบเหลือ 60 บาท)
ทางเลือก 3 : 300 บาท/เดือน (ช่วงเดือน ส.ค. 64-ม.ค. 65​​ ลดเงินสมทบเหลือ 80 บาท )

 สิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ 
ทางเลือก 1 : เจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต
ทางเลือก 2 : เจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต ชราภาพ
ทางเลือก 3 : เจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต ชราภาพ สงเคราะห์บุตร


- ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้วันละ 200 บาท ไม่เกิน 30 วัน/ปี

- การรักษาพยาบาลใช้สิทธิ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) หรือบัตรทอง 30 บาท นั่นหมายความว่า ผู้ประกันตนมาตรา 40 จะใช้สิทธิบัตรทองได้เหมือนเดิม เพียงแต่มีสิทธิได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้เพิ่มขึ้นเท่านั้น


เงื่อนไขการรับสิทธิ กรณีประสบอันตราย/เจ็บป่วย

- ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบครบ 3 เดือน ภายใน 4 เดือน ก่อนประสบอันตราย/เจ็บป่วย

- รักษาตัวในโรงพยาบาลตั้งแต่ 1 วันขึ้นไป จะได้รับสิทธิวันละ 200 บาท ไม่เกิน 30 วันต่อปี

 กรณีทุพพลภาพ 
- ได้รับเงินทดแทนการขาดได้ตั้งแต่ 500–1,000 บาท/เดือน เป็นระยะเวลา 15 ปี

- เสียชีวิตก่อนครบ 15 ปี รับเงินค่าทำศพ 20,000 บาท


เงื่อนไขในการรับสิทธิ กรณีทุพพลภาพ

- จ่ายเงินสมทบอย่างน้อย 6 เดือน ภายในระยะเวลา 10 เดือนก่อนทุพพลภาพ รับ 500 บาทต่อเดือน
- จ่ายเงินสมทบอย่างน้อย 12 เดือน ภายในระยะเวลา 20 เดือนก่อนทุพพลภาพ รับ 650 บาทต่อเดือน
- จ่ายเงินสมทบอย่างน้อย 24 เดือน ภายในระยะเวลา 40 เดือนก่อนทุพพลภาพ รับ 800 บาทต่อเดือน
- จ่ายเงินสมทบอย่างน้อย 36 เดือน ภายในระยะเวลา 60 เดือนก่อนทุพพลภาพ รับ 1,000 บาทต่อเดือน


 กรณีชราภาพ (รับเงินบำเหน็จ) 
- ได้เงินบำเหน็จพร้อมผลตอบแทน (ดอกเบี้ย) คืนทั้งหมด


เงื่อนไขการรับสิทธิ กรณีชราภาพ

เมื่อผู้ประกันตนมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ และแจ้งสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน หรือลาออก

ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบสามารถจ่ายเงินสมทบเพิ่มได้ไม่เกิน 1,000 บาท/เดือน


 กรณีชราภาพ (รับเงินบำนาญ) 
- ได้รับบำนาญรายเดือนขึ้นต่ำ 600 บาท/เดือน ตลอดจนเสียชีวิต

- กรณีจ่ายเงินสมทบไม่ถึงหลักเกณฑ์ที่จะรับเงินบำนาญ (ขั้นต่ำ) จะได้รับเงินบำเหน็จพร้อมผลตอบแทน (ดอกเบี้ย) คืนทั้งหมด

- ได้รับบำนาญแล้วเสียชีวิตภายใน 60 เดือน ทายาทได้รับเงินบำเหน็จ 10 เท่าของเงินบำนาญรายเดือน

- กรณีทุพพลภาพก่อนได้รับบำนาญ จะมีสิทธิขอรับบำเหน็จพร้อมผลตอบแทน (ดอกเบี้ย) คืน

เงื่อนไขการรับสิทธิ

- ผู้ประกันตนจะต้องจ่ายเงินสมทบครบหลักเกณฑ์ที่จะรับเงินบำนาญ (ขั้นต่ำ) หรือจ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 420 เดือน (35 ปี)

- ผู้ประกันตนจะต้องมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ และสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน หรือลาออก

- ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบสามารถจ่ายเงินสมทบเพิ่มได้ไม่เกิน 1,000 บาท/เดือน

- ผู้ประกันตนสามารถจ่ายเงินสมทบย้อนหลังได้ไม่เกินเดือน พฤษภาคม 2555


 เงินสงเคราะห์บุตร 
ในกรณีเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40  ทางเลือกที่ 3 จะมีสิทธิ์ได้รับเงินสงเคราะห์บุตรรายเดือน ตั้งแต่บุตรแรกเกิดจนอายุ 6 ปีบริบูรณ์ คนละ 200 บาท คราวละไม่เกิน 2 คน ทั้งนี้ผู้ประกันตนจะต้องจ่ายเงินสมทบตามที่ประกันสังคมกำหนดด้วย

 การสมัครประกันสังคมมาตรา 40 
ช่องทางแรกสามารถสมัครผ่านเว็บไซต์ประกันสังคมได้ โดยไม่ต้องเดินทางไปที่สำนักงานประกันสังคม โดย วิธีสมัคร "ประกันสังคม" มาตรา 40 ผ่านเว็บไซต์ประกันสังคม www.sso.go.th สามารถทำได้ ดังนี้

1. เข้าไปยังเว็บไซต์ประกันสังคมที่ www.sso.go.th หรือ คลิกที่นี่

2. กรอกเลขบัตรประชาชน และ กรอกเลขหลังบัตรประชาชน

3. กรอกชื่อ-นามสกุลจริง, วันเดือนปีเกิด ตรวจทานให้ถูกต้อง

4. กรอกที่อยู่ปัจจุบัน, เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้

5. กรอกกลุ่มอาชีพ, รายได้ต่อเดือน, สภาพร่างกาย (กรณีเป็นผู้พิการ)

6. เลือกจ่ายเงินสมทบ (มีให้ 3 ทางเลือก) พร้อมเลือกสำนักงานประกันสังคมที่อยู่ใกล้บ้าน

7. ตอบคำถามว่าเป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญหรือไม่?

8. จากนั้นกด "ยอมรับเงื่อนไข/ข้อตกลง" แล้วกด "ยืนยัน"

9 เมื่อผ่านขั้นตอนทุกอย่างแล้ว ระบบจะยืนยันผ่าน SMS ถือว่าขึ้นทะเบียนสำเร็จ

ช่องทางการสมัครอื่นๆ 

นอกจากจะสมัครผ่านเว็บไซต์ประกันสังคมได้แล้ว สำหรับคนที่ไม่สะดวกสมัครผ่านเว็บไซต์ สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ได้ในช่องทางอื่นๆ ดังต่อไปนี้ 

1. สมัครด้วยตนเองที่สำนักงานประกันสังคมในพื้นที่
2. สายด่วนประกันสังคม หมายเลข 1506
3. เซเว่น-อีเลฟเว่น ทุกสาขา
4. ธนาคาร ธกส. ทุกสาขา
5. Big c ซุปเปอร์เซ็นเตอร์
6. เครือข่ายประกันสังคมทั่วประเทศ

 ช่องทางติดต่อประกันสังคม 
เนื่องจากมีผู้ใช้บริการสายด่วน 1506 และเว็บไซต์ www.sso.go.th จำนวนมาก แอดมินขอ
เพจประกันสังคมแนะนำว่า ให้ลองติดต่อเข้ามาใหม่ในช่วงนอกเวลาทำการ โดยให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
หรือ ติดต่อสอบถามข้อมูลช่องทาง Web chat หรือ inbox Facebook สำนักงานประกันสังคม หรือติดตามข้อมูลข่าวสารทางเพจ Facebook และข่าวประชาสัมพันธ์ของสำนักงานประกันสังคม