• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Hanako5

#6887



ท่ามกลางมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะเดียวกัน ผู้ป่วยมะเร็งที่มีอัตราเพิ่มสูงขึ้นแต่ละวันก็ไม่สามารถรอการรักษาได้ ชี้ปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาท สร้างการเปลี่ยนแปลงกับอุตสาหกรรมการแพทย์ก้าวสู่ "ดิจิทัลเฮลท์" ช่วยทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ รวมถึงการติดต่อสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูล ปรึกษาและช่วยเหลือกันระหว่างผู้ป่วยและโรงพยาบาล 

เพิ่มช่องทางการรักษาที่รวดเร็วขึ้น สอดรับกับวิถีชีวิตใหม่ของคนบนโลกดิจิทัลที่มุ่งเข้าถึงบริการต่าง ๆ ผ่านออนไลน์มากขึ้น พบคนไทยใช้อินเทอร์เน็ตทำธุรกรรมต่าง ๆ ผ่านออนไลน์ในชีวิตประจำวันกว่า 69.5% เพิ่มขึ้น 7.4% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา 

เคลื่อนการแพทย์ สู่ ดิจิทัลเฮลท์

นายแพทย์ธนุตม์ ก้วยเจริญพานิชก์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลมะเร็งชีวามิตรา โรงพยาบาลเอกชนเฉพาะทางโรคมะเร็งแห่งแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งก่อตั้งโดยร่วมลงทุนระหว่าง บริษัท โมเดอร์นฟอร์ม เฮลท์แอนด์แคร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โรงพยาบาลฯ ได้เพิ่มบริการ "CHIWAMITRA Cancer Consult" ซึ่งเป็นการพัฒนาและขับเคลื่อนโรงพยาบาลฯ ให้ผู้ป่วยสามารถเข้าบริการได้สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ด้วยบริการนัดหมายเพื่อปรึกษาทีมแพทย์เฉพาะทางมะเร็งผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์หรือทางโทรศัพท์ สอดรับกับวิถีชีวิตใหม่(New Normal) ของคนและสถานการณ์ในปัจจุบัน 


เพื่อช่วยลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ให้กับผู้ป่วยและญาติ ท่ามกลางมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ผ่านบริการที่ให้ความสะดวก รวดเร็ว เสมือนมีแพทย์อยู่ใกล้ตัว โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปโรงพยาบาล ช่วยลดภาวะความเสี่ยงในขณะที่เข้าถึงระบบนัดหมายแพทย์เพื่อปรึกษาปัญหา โรคมะเร็ง โดยบริการดังกล่าวนับเป็นก้าวหนึ่งของการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาต่อยอดสู่บริการใหม่ ๆ ในอนาคตด้านบริการทางการแพทย์ของโรงพยาบาลฯ อย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการมีส่วนร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการแพทย์สู่ "ดิจิทัลเฮลท์" ช่วยให้ผู้ป่วยและประชาชนสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ผ่านการติดต่อสื่อสารไร้พรมแดนในประเทศ แลกเปลี่ยนข้อมูล ปรึกษา และช่วยเหลือกัน ระหว่างผู้ป่วย ญาติ และโรงพยาบาล ได้ทุกที่ ทุกเวลา

"โรงพยาบาลมะเร็งชีวามิตรา เปิดบริการ "CHIWAMITRA Cancer Consult" ด้วยความตั้งใจที่จะนำเสนอประสบการณ์ใหม่ในการให้บริการแก่ผู้ป่วยและญาติผู้เข้ารับบริการ ด้วยการใช้เทคโนโลยีพัฒนาระบบ ยกระดับบริการ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการให้คำปรึกษาด้วยข้อมูลทางการแพทย์ โดยอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาเป็นเครื่องมือช่วยด้านสุขภาพ" 

เพิ่มการสื่อสารสองทางระหว่างแพทย์กับผู้ป่วยและญาติในเขตพื้นที่ และพื้นที่ห่างไกล ให้มีความคล่องตัวในการเข้าถึงข้อมูลและการนัดหมายแพทย์ หรือบริการอื่น ๆ ของโรงพยาบาลฯ ได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต ให้ผู้ป่วยมะเร็งและญาติสามารถเข้าถึงช่องทางปรึกษาโรคมะเร็ง ผ่านแพลตฟอร์มที่คุ้นเคยทั้ง ไลน์ เฟสบุ๊ก เว็บไซต์ หรือโทรศัพท์ ซึ่งยังเป็นช่องทางหลักที่ผู้ป่วยและญาติคุ้นชินและใช้เป็นเครื่องมือติดต่อสื่อสาร โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ในยุคปัจจุบัน


รักษามะเร็ง "นิวนอร์มอล"

"CHIWAMITRA Cancer Consult เป็นบริการที่สอดรับวิถีชีวิตใหม่ "นิวนอร์มอล" ในสังคมยุคดิจิทัล ท่ามกลางภาวะการเปลี่ยนแปลงด้วยผลกระทบช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน กับสถานการณ์วิกฤตการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสครั้งใหญ่ นับเป็นหนึ่งแรงผลักดันสำคัญให้ประชาชนทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกเกิดการปรับวิถีชีวิตใหม่ ก้าวสู่วิถีการกินอยู่ การเรียน การทำงาน รวมถึงการใช้ชีวิต ที่มีเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยจาก We Are Social และ Hootsuite ได้รายงานข้อมูลสถิติการใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกประจำปี 2563 ที่ผ่านมา พบคนไทยมีอัตราการใช้อินเทอร์เน็ตทำธุรกรรมต่าง ๆ ผ่านออนไลน์ในชีวิตประจำวันกว่า 69.5% เพิ่มขึ้น 7.4% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา "
 

ทั้งนี้ โรงพยาบาลมะเร็งชีวามิตรามุ่งมั่นในการเอาใจใส่ผู้ป่วยมะเร็งอย่างเป็นมิตรกับทุกชีวิตผ่านบริการทางการแพทย์ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทางมะเร็ง โดยมีผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง บริการใหม่ดังกล่าวนับเป็นหนึ่งในความตั้งใจที่จะพัฒนาบริการอย่างต่อเนื่องในทุกสถานการณ์เพื่อผู้ป่วยมะเร็ง และญาติสามารถใช้บริการ "CHIWAMITRA Cancer Consult" ได้ผ่านไลน์ @chiwamitra เฟสบุ๊ก  โรงพยาบาลมะเร็งชีวามิตรา  


และเว็บไซต์ www.chiwamitra.com หรือโทร 045-958-888 ได้ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย สำหรับผู้ป่วยมะเร็งที่มีความจำเป็นต้องเข้ารับรักษาเร่งด่วน หรือมีความจำเป็นต้องย้ายมารับการรักษาโรคมะเร็งต่อเนื่อง  สามารถติดต่อโรงพยาบาลฯ ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีเอกสารส่งตัว โดยโรงพยาบาลฯ พร้อมดูแลผู้ป่วยทันที ไม่ต้องรอคิวเข้ารับการรักษาภายใต้ความปลอดภัยมาตรฐานกรมควบคุมโรค
#6889




นายเศรษฐศิริ ศักดิ์สิทธิเสรีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โคลเวอร์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CV เปิดเผยว่า บริษัทถือเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และเป็นผู้ให้บริการทางด้านวิศวกรรมครบวงจร ทั้งการออกแบบ ก่อสร้างโรงไฟฟ้า บริการเดินเครื่องและบำรุงรักษา ตลอดจนลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับพลังงานหมุนเวียนทั้งในและต่างประเทศ โดยนำเอาประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจด้านพลังงานหมุนเวียนกว่า 15 ปี ด้วยทีมวิศวกรที่มีประสบการณ์ ความชำนาญงานด้านวิศวกรรมการออกแบบและก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (EPC Turnkey) เข้ามาขับเคลื่อนธุรกิจด้านโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ  

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนพัฒนาและลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน และ/หรือพลังงานสะอาด รวมถึงวางแผนเข้าร่วมลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับห่วงโซ่คุณค่าในการดำเนินธุรกิจ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายและกลยุทธ์ด้านการสร้างความมั่นคงทางธุรกิจและการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สร้างโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงของเมกะเทรนด์ที่มีเทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อน ทำให้ CV ก้าวสู่บริษัทพลังงานชั้นนำที่ส่งมอบคุณค่าจากพลังงานหมุนเวียนเพื่อการใช้ชีวิตของมนุษย์ และสังคมโลกอย่างสมดุลและยั่งยืนในอนาคต 
#6891



บอร์ด "วันทูวัน คอนแทคส์" ส่งบริษัทย่อย "อินโน ฮับ" เข้าลงทุนใน "อินไซท์ มีเดีย กรุ๊ป" (IMG) จำนวน 2,964,000 หุ้น คิดเป็น 76% มูลค่า 15 ล้านบาท สยายปีกสู่ธุรกิจบริการเกี่ยวกับการผลิตสื่อโฆษณา "คณาวุฒิ วรรทนธีรัช" ระบุเป็นการต่อยอดธุรกิจ ตอบโจทย์ Lifestyle ผู้บริโภคยุค New Normal

นายคณาวุฒิ วรรทนธีรัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) (OTO) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้บริษัท อินโน ฮับ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้น 100% เข้าลงทุนในบริษัท อินไซท์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (IMG) ซึ่งปัจจุบันประกอบธุรกิจด้านการให้บริการเกี่ยวกับการผลิตสื่อโฆษณาในประเทศไทย จำนวน 2,964,000 หุ้น คิดเป็น 76% ของหุ้นทั้งหมด มูลค่าการลงทุน 15,000,000 บาท

โดย "อินโน ฮับ" จะดำเนินการเข้าซื้อหุ้นสามัญจากผู้ถือหุ้นปัจจุบัน 3 ราย ได้แก่ นายสุภสิทธิ์ รักกสิกร นายเมธวิน อังคทะวานิช และนายทศพล สุรวาศรี จำนวนรวม 1,964,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท คิดเป็น 67.72% ของหุ้นทั้งหมดใน IMG โดยมีมูลค่าการเข้าซื้อหุ้นในครั้งนี้เท่ากับ 5,000,000 บาท (ธุรกรรมการซื้อหุ้นเดิม) และภายใน 4 เดือนหลังจากการเข้าทำธุรกรรมซื้อหุ้นเดิมเสร็จจะเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ IMG จำนวน 1,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท คิดเป็น 25.64% ของหุ้นทั้งหมดภายหลังจากการเพิ่มทุน โดยมีมูลค่าการจองซื้อหุ้นในครั้งนี้เท่ากับ 10,000,000 บาท (ธุรกรรมการซื้อหุ้นเพิ่มทุน)

"การแตกไลน์เข้าสู่ธุรกิจผลิตสื่อและโฆษณาในครั้งนี้ถือเป็นการต่อยอดธุรกิจให้บริษัทฯ สอดรับ Lifestyle ผู้บริโภคยุค New Normal ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยผลักดันธุรกิจของบริษัทฯ เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต" นายคณาวุฒิ กล่าวในที่สุด

ทั้งนี้ OTO ดำเนินธุรกิจให้บริการบริหารจัดการงานลูกค้าสัมพันธ์แบบเต็มรูปแบบ และให้บริการออกแบบพัฒนาและติดตั้งระบบศูนย์บริการข้อมูลแบบเบ็ดเสร็จให้แก่องค์กรภาครัฐและเอกชน และมีบริการให้เช่าอุปกรณ์ Contact Center และบริการให้เช่าซอฟต์แวร์ ทั้งซอฟต์แวร์สำเร็จรูป และซอฟต์แวร์ระบบ Contact Center ที่ปรับเปลี่ยนระบบการทำงานให้เหมาะสมกับธุรกิจขององค์กรเพื่อให้บริการลูกค้า
#6893
บริษัท สบายใจการบัญชี  จำกัด
9/54  หมู่ที่ 8  ตำบลบางเลน  อำเภอบางใหญ่  จังหวัดนนทบุรี   11140
โทร & Line ID.087-347-6299
https://gladnessaccounting.co.th

สำนักงานบัญชีจังหวัดนนทบุรี , สำนักงานบัญชีบางกรวย , สำนักงานบัญชีบางกร่าง , สำนักงานบัญชีบางใหญ่ , สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง , สำนักงานบัญชีเลี่ยงเมือง , สำนักงานบัญชีพิมลราช , สำนักงานบัญชีบางคุรัด , สำนักงานบัญชีบางรักพัฒนา , สำนักงานบัญชีบางแม่นาง , สำนักงานบัญชีไทรม้า , สำนักงานบัญชีตลาดขวัญ , สำนักงานบัญชีบางรักน้อย , สำนักงานบัญชีบางพลับ , สำนักงานบัญชีศาลากลางนนทบุรี , สำนักงานบัญชีถนนกาญจนาภิเษกนนทบุรี , สำนักงานบัญชีบางกรวย-จงถนอม , สำนักงานบัญชีถนนชัยพฤกษ์ , สำนักงานบัญชีถนนติวานนท์ , สำนักงานบัญชีท่าอิฐ , สำนักงานบัญชีถนนบางไกรใน , สำนักงานบัญชีถนนราชพฤกษ์ , สำนักงานบัญชีตลิ่งชัน , สำนักงานบัญชีถนนเรวดี , สำนักงานบัญชีถนนศรีสมาน , สำนักงานบัญชีถนน345
#6895



จากการตั้งคำถามของประชาชน รวมถึงการทำงานของสื่อมวลชนที่ยากต่อการนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาเผยแพร่ เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 64 เครือข่ายนักวิชาการและสื่อมวลชน ซึ่งมีการร่วมลงชื่อกว่า 333 คน ได้ออกแถลงการณ์ เสนอเปิดเผย "ข้อมูลบริหารจัดการและกระจายวัคซีนโควิด-19 ตามหลัก Open data" โดยใจความระบุว่า การบริหารจัดการวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ ทั่วถึง และเป็นธรรม คือ กุญแจสำคัญในการผ่านวิกฤตในครั้งนี้ "การเปิดเผยข้อมูลบริหารจัดการและกระจายวัคซีนโควิด-19 ตามหลัก Open data"

จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสื่อสารว่ารัฐบาลมีความตั้งใจที่จะบริหารจัดการวัคซีนอย่างโปร่งใส เปิดโอกาสให้สังคมได้มีส่วนร่วมรับรู้ข้อมูล เข้าใจในกระบวนการตัดสินใจของภาครัฐ และนำไปสู่บรรยากาศของความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ และภาคสังคม ซึ่งจะช่วยให้สังคมมีแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ตรวจสอบได้ ให้ความมั่นใจกับประชาชน และลดปัญหาความสับสนจากปัญหาข่าวลือและข่าวปลอม

โดยข้อมูลที่ต้องเปิดเผยให้เป็นไปตามมาตรฐาน Open Data Standard ของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัลที่ให้สื่อมวลชนและประชาชนสามารถเข้าถึงและนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ง่าย มีความละเอียด ครบถ้วน สมบูรณ์ อัพเดทอย่างสม่ำเสมอ และอยู่ในรูปแบบที่เครื่องสามารถอ่านได้ (Machine-Readble Format) เช่น ข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบไฟล์ XLS หรือ CSV

ไทย มีโอเพ่นดาต้าหรือไม่ 
ที่ผ่านมา ข้อมูลเปิดที่ทุกคนสามารถนำไปใช้ได้อย่างอิสระ หรือ โอเพ่นดาต้า (Open Data) เริ่มมีการพูดถึงและนำมาใช้ในหลายภาคส่วน แต่ของไทยอาจจะยังไม่มากเมื่อเทียบกับในต่างประเทศ ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับโอเพ่นดาต้า โดยเฉพาะข้อมูลของภาครัฐให้ประชาชนและภาคประชาสังคมเข้าถึงข้อมูลและสามารถตรวจสอบการดำเนินของภาครัฐตามนโยบายที่ประกาศให้ไว้กับประชาชน


ศูนย์กลางข้อมูลเปิดภาครัฐ ได้ระบุว่า ในยุคดิจิทัล ข้อมูลเป็นทรัพยากรที่สำคัญสำหรับสร้างนวัตกรรม การเปิดเผยข้อมูลของภาครัฐเป็นแหล่งข้อมูลหนึ่งที่ช่วยผลักดันการสร้างนวัตกรรมและบริการใหม่ๆ เผยแพร่สู่สังคมและเชิงพาณิชย์ ขณะเดียวกัน ประชาชนซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นต่อการดำเนินงานของภาครัฐ ที่มีผลต่อชีวิตความเป็นอยู่

รวมทั้งนำความคิดเห็นดังกล่าวไปประกอบการพิจารณากำหนดนโยบายและการตัดสินใจของภาครัฐเป็นการสร้างปฏิสัมพันธ์ กับประชาชนมากขึ้น โดยประเทศไทยมีศูนย์กลางข้อมูลเปิดภาครัฐ (Open Government Data of Thai) ซึ่งมีชุดข้อมูลอยู่ราว 3,569 ชุดข้อมูล


โอเพ่นดาต้า ลดเฟคนิวส์ ลดดราม่า

"รองศาสตราจารย์ พิจิตรา ศุภสวัสดิ์กุล" คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายว่า จากแถลงการณ์เครือข่ายนักวิชาการและสื่อมวลชน เสนอเปิดเผย "ข้อมูลบริหารจัดการและกระจายวัคซีนโควิด-19 ตามหลัก Open data" เป็นการทำงานและประชุมร่วมกันจากหลายภาคส่วน ตอนนี้สังคมมีเฟคนิวส์เยอะ เพราะฉะนั้นทางเครือข่าย จึงมองว่า ควรมีโอเพ่นเดต้า ที่เปิดให้ให้สาธารณชนได้รับรู้


ซี่งควรจะต้องมีข้อมูลการจัดหาและการกระจายวัคซีนเป็นข้อมูลเปิด เพื่อให้สาธารณชนได้รับรู้และสร้างความน่าเชื่อถือกับรัฐบาล ลดทอนเฟคนิวส์ หรือข่าวปลอมที่เกิดขึ้น เมื่อเอาดาต้ามาคลี่ จะลดความดราม่าในสังคม จึงรวมกลุ่มกันในการเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดโอเพ่นดาต้า รวมถึงเครือข่ายสื่อมวลชน นักวิชาการ ตามข้อเรียกร้อง 5 ข้อที่เสนอไป ได้แก่


1.) เปิดเผยกระบวนการเสนอ อนุมัติ และลงนามในสัญญาจัดซื้อวัคซีนที่ผ่านมาและในอนาคต รวมถึงเงื่อนไขสำคัญๆ ในสัญญาจองซื้อและจัดซื้อวัคซีนทุกยี่ห้อ อาทิ จำนวนโดส อายุสัญญา กำหนดการส่งมอบ บทลงโทษกรณีส่งมอบล่าช้า การยกเว้นความรับผิดให้กับผู้ผลิต เป็นต้น

2.) เปิดเผยแผนการจัดหาวัคซีนทุกชนิดต่อสาธารณะ รวมทั้งแผนการทดแทนวัคซีนที่ขาดแคลนในปัจจุบันและการจัดหาวัคซีนให้เพียงพอและทั่วถึงในอนาคต

3.) เปิดเผยหลักเกณฑ์การจัดสรรวัคซีนสำหรับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ที่มีรายละเอียดการจัดลำดับความสำคัญ และจำนวนกลุ่มเป้าหมายของการจัดสรร

4.) เปิดเผยแผนการฉีดวัคซีนและการบริหารจัดการวัคซีนตามกลุ่มเป้าหมายที่วางหลักเกณฑ์ไว้

5.) เปิดเผยความคืบหน้าของการฉีดวัคซีนอย่างสม่ำเสมอเป็นรายวัน โดยมีรายละเอียด ชนิดวัคซีน บุคคลกลุ่มต่างๆ ตามหลักเกณฑ์ พร้อมข้อมูลลักษณะประชากร ข้อมูลเชิงพื้นที่ (รายจังหวัด) และข้อมูลเชิงหน่วยงานที่ดำเนินการ


จัดหา กระจายวัคซีน ประเด็นที่สังคมสนใจ
ทั้งนี้ แม้สถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน ศูนย์ข้อมูลของ ศบค. หรือกระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานอัพเดทข้อมูลรายวัน รศ.พิจิตรา อธิบายว่า ในปัจจุบันจะเห็นข้อมูลที่เกี่ยวกับยอดผู้เสียชีวิต ยอดผู้ป่วยเป็นหลัก ที่ประชาชนติดตาม ซึ่งคิดว่าอีกมุมหนึ่งที่เราอยากได้ คือ การจัดหา และการกระจายวัคซีน ระยะสั้นและระยะยาวเพื่อให้อย่างน้อยประชาชนได้เห็น แสงสว่างปลายอุโมงค์และสามารถแพลนชีวิตตัวเองได้  ซึ่งภาครัฐควรเปิดให้เป็นโอเพ่นเดต้า อยากจะรู้ว่า ณ ปัจจุบัน วัคซีนแต่ละล็อตจะเข้ามาเท่าไหร่ แต่ละยี่ห้อเป็นอย่างไร และเข้ามาอย่างไร เพื่อให้เห็นไทม์ไลน์ต่างๆ ประชาชนจะได้วางแผนชีวิตได้


ลดความกังขา วัคซีน
อีกส่วนหนึ่งที่คิดว่าอยากจะขับเคลื่อนและคิดว่าน่าจะเป็นแนวทางที่ดีในเรื่องของโอเพ่นเดต้าที่จะเกิดขึ้น คือ วัคซีน 1.5 ล้านโดส ที่มาจากการบริจาคของสหรัฐฯ เรารู้สึกว่ามีการตั้งข้อกังขาค่อนข้างเยอะ และถ้ารัฐ มีข้อมูลว่าวัคซีนกระจายไปที่ไหน หน่วยงานไหนบ้าง ปริมาณเท่าไหร่ ไทม์ไลน์การกระจายเป็นอย่างไร บุคลากรทางการแพทย์ สามารถได้วัคซีนมากน้อยขนาดไหน




"ไม่อยากจะให้แค่เป็นแผน อยากจะให้เราได้ดาต้าที่สามารถเห็น ในทางปฏิบัติว่านอกจากแนวทางที่รัฐวางไว้ 4-5 เงื่อนไข อยากจะเห็นว่าข้อเท็จจริงกระจายไปมากน้อยแค่ไหน และนี่เป็นรูปแบบของโอเพ่นเดต้าที่เราเรียกร้อง ดังนั้น วัคซีน 1.5 ล้านโดส น่าจะเป็นแนวทางที่ดี ที่เราอยากจะได้รับจากรัฐบาลในเรื่องของโอเพ่นดาต้า  


ลดช่องว่างรัฐ ประชาชน
ทั้งนี้ หากเริ่มจากการทำโอเพ่นดาต้า นับว่าเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการลดความคลางแคลงใจจากรัฐบาลได้ รศ.พิจิตรา กล่าวต่อไปว่า โอเพ่นเดต้าสร้างความโปร่งใส เราสร้างแคมเปญนี้ เพราะรู้สึกว่าดาต้าที่ประชาชนได้รับเป็นรายวัน แต่ยังไม่ยังไม่เห็นการกระจาย หรือข้อมูลระยะยาวที่ประชาชนสามารถวางแผน

หรือ ข้อมูลที่สื่อมวลสามารถได้ข้อมูล และดาต้าไซแอนทิส สามารถเอาข้อมูลมาทำบนแดชบอร์ดได้ โดยเราสามารถเห็นกันแบบเรียลไทม์ ขณะที่ ในต่างประเทศ มีหลายประเทศที่อาจจะไม่เรียลไทม์ แต่มีการทยอยในเรื่องการเปิดเผยข้อมูล เห็นยอดการฉีด และยอดของเป้าหมายที่จะไปถึง

แก้ปัญหาไม่เข้าใจ ด้วยดาต้า
ณ ปัจจุบัน ข่าวสารข้อมูลที่ทยอยออกมาจากหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งพบว่าหลายครั้งพบว่า เกิดกระแสดราม่า ซึ่งทำให้ภาครัฐต้องออกมาชี้แจง และตัวประชาชนเองก็เสียเวลาในเรื่องของการลงไปกระทู้ถามดราม่ารายวัน

รศ.พิจิตรา กล่าวว่า หากเราได้ดาต้าที่เป็นดาต้าเซ็ตและเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น สะท้อนปัญหาที่ประชาชนร่วมเห็นด้วย คิดว่า อย่างน้อยก็จะสามารถบอกประชาชนได้ว่านี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น นี่คือปัญหาที่เราพบ และเราจะมาแก้ปัญหากันด้วยพื้นฐานดาต้าอย่างไรดี อย่างน้อยในเรื่องของการโอเพ่นเดต้า สะท้อนความจริงใจ ความโปร่งใสของรัฐบาลที่มีให้กับประชาชน

"และหลังจากนั้นสิ่งที่เราจะเดินหน้า คือ ส่งหนังสือ อย่างเป็นทางการในการขอโอเพ่นเดต้าของภาครัฐ ซึ่งตอนนี้รวบรวมรายชื่อได้ 333 รายชื่อในล็อตแรก เป็นรายชื่อที่ระดมจากสื่อเพราะสื่อต้องเอาโอเพ่นเดต้ามาทำข่าว และนักวิชาการสายนิเทศศาสตร์ รัฐศาสตร์ และสายดาต้าไซน์ ในสเต็ปต่อไป จะเปิดให้สาธารณชน ลงชื่อสนับสนุนแถลงการณ์ตัวนี้โดย ผ่านเว็บไซต์ Change.org เพื่อให้สามารถที่จะร่วมลงชื่อได้"


"เราทำเพราะคิดว่าเป็นประโยชน์ เชื่อว่าโอเพ่นเดต้า จะช่วยสนับสนุนการทำงานของสื่อมวลชน ถ้าเรามีโอเพ่นเดต้า ที่เรียลไทม์และเป็นวันสต็อปเซอร์วิส คลี่ดาต้าออกมาให้คนเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น จะลดความเคลือบแคลงใจ และลดดราม่าไปเยอะ"



ในโควิดระลอกแรก ซึ่งกองทุนสื่อฯ ร่วมกับ เวิร์คพ้อย ทำแดชบอร์ด ก็เห็นได้เลยว่าคนติดเป็นใคร เน้นเรื่องคนติดเชื้อเป็นหลัก แต่ตอนนี้ระลอกสาม ระลอกสี่ สถานการณ์เปลี่ยนไป วัคซีนเป็นปัจจัย เป็นเงื่อนไขที่ทำให้เปิดประเทศได้ และทำให้การติดเชื้อลดลง เราจึงต้องมาเดินหน้าเรื่องของวัคซีนต่อ เพื่อสนับสนุนทั้งสื่อมวลชนและช่วยรัฐบาลในการสร้างความโปร่งใสด้วย


"ไม่อยากให้เกิดดราม่า เราอยากให้เกิดดาต้า ตอนนี้เชื่อว่า เป้าหมายของเราคืออยากให้รัฐตอบสนองและเปิดโอเพ่นดาต้า ซึ่งความจริงมีข้อมูลที่เปิดอยู่แล้ว เช่น กรมควบคุมโรค ก็มีโอเพ่นเดต้าบ้างแล้ว หรือมีงานวิจัยของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ที่ ม.มหิดล เก็บและร่วมกันทำโอเพ่นเดต้าให้สังคมได้รับรู้ คิดว่ารัฐทำอยู่แล้ว แต่อยากให้เปิดเผยต่อสาธารณชนด้วย" รศ.พิจิตรา กล่าว
#6897
3in1 led 36pcs 1w led flat par light DJ DMX512 Stage Lighting   

ไฟเวที LED FLAT PAR สุดคุ้มการใช้ ปาร์ตี้, ดิสโก้, KTV, ผับ, ร้านอาหาร, สวน, สวนสาธารณะ, พลาซ่า เพิ่มความตื่นตาตื่นใจ ด้วยชุดไฟ วิบวับ  แค่ 990 บาท 

- 1 หลอดมีหลาย สี  RGB MiXED COLOR
- วัตต์: ประมาณ 36 x  วัตต์
- แรงดันไฟฟ้า: 110-220 - v
-แหล่งพลังงาน: AC
- สามารถใช้ได้กับเครื่องควบคุมสัญญาณไฟ DMX512 
- รูปแบบไฟเปลี่ยนได้ถึง 7 แบบ ได้แก่ ปล่อยอัตโนมัติ เปลี่ยนตามจังหวะดนตรี master-slave
- รับประกัน 1 เดือน

สนใจ ติดต่อสอบถามหรือสั่งซื้อสินค้า
โทร : 094-5102033
LINE :@gentech
หรือคลิก https://lin.ee/eYs6pVN


#ป้ายNeonflex #ป้ายไฟสั่งทำ #ป้ายเชียร์ #ป้ายร้าน #ป้ายไฟดัด #ป้ายไฟled
#lighting #ไฟled #ledonhome #ป้ายไฟ #ป้ายไฟร้าน #ราคาป้ายไฟ #อุปกรณ์ไฟ
#โคมไฟ #ไฟตกแต่ง #ไฟประดับ #ไฟดาวไลน์led #วิธีเปลี่ยนหลอดled #วิบวับ #laser






#6899




เชื้อโควิด-19 โผล่อาละวาดในเมืองหนันจิง มณฑลเจียงซูทางภาคตะวันออกจีน โดยถือเป็นแหล่งแพร่ระบาดในจีนที่พบการติดเชื้อภายในท้องถิ่นมากที่สุด และดันจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ในประเทศดีดตัวสูงในรอบครึ่งปีมานี้โดยล่าสุดในวันที่ 27 ก.ค. ผู้ป่วยรายใหม่มีจำนวน 86 ราย

สำหรับการระบาดที่เมืองหนันจิง เริ่มพบเคสติดเชื้อในวันที่ 20 ก.ค.ที่สนามบินนานาชาติลู่โข่วโดยผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนงานทำความสะอาด อนึ่ง การฉีดวัคซีนของคนทำงานทั้งหมดกว่า 9,000 คนในสนามบินลู่โข่วมีอัตราครอบคลุมถึง 90.87 เปอร์เซนต์แล้ว

หนันจิงได้ลุยตรวจโควิด-19 ขนานใหญ่ ก็พบผู้ป่วยในท้องถิ่นมากขึ้นๆจาก 30 กว่ารายในช่วงวันที่ 25-26 ก.ค. เพิ่มเป็น 47 รายในวันที่ 27 ก.ค. หน่ำซ้ำยังเป็นเชื้อกลายพันธุ์เดลต้าซึ่งมีลักษณะเด่นคือเป็นเชื้อที่ติดง่ายและรวดเร็วฉับไว นอกจากนี้การระบาดยังแพร่ไปอีกสี่มณฑลอย่างอย่างรวดเร็วราวติดจรวด ได้แก่ กว่างตง เสฉวน เหลียวหนิง และอันฮุย ในวันอาทิตย์(25 ก.ค.)ที่ผ่านมา หนันจิงได้ขยายเป็นการตรวจเชื้อฯผู้อาศัยในเมืองทั้งหมด 9.3 ล้านคน

การระบาดโควิดภายในเมืองหนันจิงช่วง 8 วันมานี้มีผู้ป่วยสะสมรวม 153 ราย ในจำนวนนี้แบ่งเป็นผู้ป่วยอาการเบา 81 ราย ผู้ป่วยอาการทั่วไป 68 ราย และผู้ป่วยอาการหนัก 4 ราย ตัวเลขต่างๆเหล่านี้เมื่อเทียบกับยอดผู้ป่วยในประเทศอื่นๆถือได้ว่าต่ำมาก แต่ทว่า สิ่งที่ชาวจีนข้องใจและสงสัยกันมากที่สุด ก็คือกลุ่มผู้ติดเชื้อเกือบทั้งหมดได้ฉีดวัคซีนกันไปแล้ว

"ทำไมคนที่ฉีดวัคซีนแล้ว ติดเชื้อฯได้"

กลุ่มผู้เชี่ยวชาญจีนได้ออกมาตอบข้อสงสัยดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่การวิจัยของศูนย์ควบคุมโรคระบาดแห่งจีน นาย เส้า อีหมิง ให้สัมภาษณ์กับสื่อจีน ว่าบทบาทหน้าที่ของวัคซีนแบ่งได้เป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับที่หนึ่ง คือป้องกันการติดเชื้อ คุ้มครองผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วไม่ให้ติดเชื้อโรค, ระดับที่สอง คือป้องกันหรือยับยั้งอาการป่วย ช่วยปกป้องผู้ป่วยอาการเล็กน้อยมีอาการทรุดหนักและเสียชีวิต, ระดับที่สาม คือหากเพิ่งมีสัญญาณการติดเชื้อโรค แต่ในร่างกายมีเชื้อในปริมาณน้อยมาก ก็ยากที่จะนำเชื้อไปติดผู้อื่น กล่าวคือเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อนั่นเอง

เส้า อีหมิง กล่าวว่า คุณค่าของวัคซีนจีนนั้นคือการป้องกันระดับที่สอง อัตราการคุ้มครองมุ่งไปที่การเกิดอาการป่วย ไม่ได้มุ่งไปที่การติดเชื้อ ดังนั้นจึงมีคนที่ฉีดวัคซีนแล้วจำนวนหนึ่งที่อาจติดเชื้อได้



"จากการสังเกตการณ์เคสผู้ป่วยในกว่างตง รุ่ยลี่ ผู้ป่วยที่ฉีดวัคซีนแล้ว โดยรวมแล้วมีอาการเบาหรือเล็กน้อยเท่านั้น โดยโอกาสที่อาการจะทรุดลงไปเป็นอาการหนักนั้นมีอัตราที่ต่ำมากอย่างชัดเจน การดำเนินโรคมีระยะสั้นมาก ดังนั้นจึงพูดได้ว่าการฉีดวัคซีนมีประสิทธิภาพในการคุ้มครองอยู่" หยัง อี้ หัวหน้าแผนกผู้ป่วยอาการหนักของโรงพยาบาลจงต้า สังกัดมหาวิทยาตงหนัน

สื่อแดนมังกรอีกรายอ้างอิงผู้เชี่ยวชาญจีนกล่าวถึงการระบาดภายในท้องถิ่นหนันจิงซึ่งผู้ติดเชื้อกว่า 90 เปอร์เซนต์ฉีดวัคซีนแล้วว่า ขณะที่อัตราการคุ้มครองของวัคซีนไม่ถึง 100 เปอร์เซ็นต์แต่ก็สามารถป้องกันผู้ติดเชื้อมีอาการทรุดหนักและป้องกันการเสียชีวิต อีกประการหนึ่งคือเชื้อที่ระบาดเป็นสายพันธุ์เดลต้ายิ่งทำให้ความสามารถในการคุ้มครองของวัคซีนลดลง

ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ในเดือนก.ค.ปีที่แล้วที่มีการอนุมัติใช้วัคซีนในกรณีฉุกเฉินนั้น การฉีดวัคซีนในจีนได้สั่งสมประสบการณ์ก้าวหน้าไปมาก แต่ยังไม่ไม่ถึงขั้นสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ขณะที่การแพร่ระบาดในหลายประเทศขยายวงกว้างไม่หยุดหย่อน ความคุ้มครองจากวัคซีนจึงเป็นที่ต้องการอยู่ ที่สำคัญคือไม่ว่าจะฉีดวัคซีนหรือไม่ฉีดก็ตาม ผู้ที่อยู่ในสถานที่ที่มีคนจำนวนมากและในสถานที่ปิด ยังต้องสวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด