• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Jessicas

#3041


นักกีฬาจากประเทศไทยได้สร้างผลงานที่น่าประทับใจในโอลิมปิกปีนี้ โดยมีการใช้แฮชแท็ก #โอลิมปิกเกมส์ และก่อให้เกิดการพูดคุยกว่า 3.8 ล้านครั้งบน Instagram และ Facebook

สำหรับประเทศไทยมีนักกีฬาหญิงคว้าเหรียญทอง และเหรียญทองแดงกลับมาได้ และสิ่งที่น่าสนใจคือการที่นักกีฬาหญิงได้รับความสนใจในโลกโซเชียลเป็นอย่างมาก

โดยตั้งแต่เริ่มการแข่งขันปีนี้นักกีฬาที่มีผู้ติดตาม (Followers) มากที่สุด 3 อันดับแรกเป็นนักกีฬาหญิง นำโดย รัชนก อินทนนท์ (ผู้ติดตามเพิ่มขึ้นประมาณ 1.8 แสนราย) ตามด้วย 'เทนนิส' พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ (ผู้ติดตามเพิ่มขึ้นประมาณ 1.78 แสนราย) และ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย (ผู้ติดตามเพิ่มขึ้นประมาณ 74,000 ราย)

รัชนก อินทนนท์ ได้รับ Engagements หรือการมีส่วนร่วมบน Instagram มากกว่า 5 แสนครั้ง ซึ่งมากที่สุดในหมู่ตัวแทนนักกีฬาไทย

ขณะที่ โพสต์บน Facebook โดย เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จัดเป็นโพสต์จากนักกีฬาไทยที่ได้รับ Engagements มากที่สุด (กว่า 223,000 ครั้ง)


สำหรับตัวเลขทั่วโลก พบว่าเหล่านักกีฬามี Followers เพิ่มขึ้นกว่า 75 ล้านราย ส่งผลให้มี Interactions หรือปฏิสัมพันธ์กับแฟนๆ ทั่วโลกกว่า 410 ล้านรายการบน Instagram ตลอดการแข่งขัน นอกจากนี้ยังมีการสร้าง Stories มากกว่า 300,000 Stories ซึ่งคงไม่มีใครโดดเด่นเกินกว่า ราอิสซ่า เลอัล (Rayssa Leal) นักกีฬาสัญชาติบราซิล

เมื่อเทียบกับนักกีฬาทุกคนในโอลิมปิกปีนี้ ราอิสซ่า เลอัล มี Followers เพิ่มขึ้นมากที่สุด (5.8 ล้าน) และสร้าง Interactions สูงสุด (18.44 ล้าน) บน Instagram นอกจากนี้ยังเป็นเจ้าของโพสต์ที่เกี่ยวกับโอลิมปิกบน Instagram ที่มียอด Likes สูงสุด (มากกว่า 4 ล้าน Likes) และ Instagram video ที่มียอดวิวสูงสุดระหว่างการแข่งขันอีกด้วย (มากกว่า 11 ล้านวิว)

โพสต์จาก ไท่ ซือ หยิง (Tai Tzu Ying) นักแบดบินตันหญิงจากไต้หวันที่ขอบคุณแรงสนับสนุนจากเหล่าแฟนๆ ของเธอหลังจากจบการแข่งขัน จัดเป็นโพสต์จากนักกีฬาบน Facebook ที่สร้าง Interactions สูงสุดตลอดการแข่งขัน (กว่า 1.3 ล้าน Interactions)

เปิดสถิติที่น่าสนใจจากมหกรรมกีฬาครั้งนี้ 

กีฬาที่ถูกพูดถึงบน Facebook มากที่สุด (ทั่วโลก)

1. กีฬาลู่และลาน

2. ยิมนาสติก

3. เรือพาย

4. มวยสากล

5. ว่ายน้ำ

นักกีฬาที่ได้รับการกล่าวถึง (Mentioned) มากที่สุดบน Facebook (ทั่วโลก)

1. ซิโมน ไบลส์ (Simone Biles)

2. นีราจ โชปรา (Neeraj Chopa)

3. ไฮดีลีน ดิแอซ (Hidilyn Diaz)

4. ซูนิ ลี (Suni Lee)

5. ทอม เดลีย์ (Tom Daley)

ประเทศที่ 'ส่งเสียงเชียร์ได้ดังที่สุด' บน Facebook

(จัดอันดับจากจำนวนผู้ใช้งานที่พูดถึงโอลิมปิกบน Facebook)

1. อินเดีย

2. สหรัฐอเมริกา

3. บราซิล

4. ฟิลิปปินส์

5. เม็กซิโก

อิโมจิที่ถูกใช้มากที่สุดบน Facebook (ทั่วโลก)

1. หัวใจ ❤️

2. ปรบมือ

นักกีฬาที่ได้รับการกล่าวถึง (Mentioned) มากที่สุดบน Instagram (ทั่วโลก)

1. นีราจ โชปรา (Neeraj Chopa)

2. ซิโมน ไบลส์ (Simone Biles)

3. ราอิสซ่า เลอัล (Rayssa Leal)

4. เกรย์เซีย โปลี (Greysia Polii)

5. อาปรียานี ราฮายู (Apriyani Rahayu)

Reels ที่เกี่ยวกับโอลิมปิกที่มียอดวิวสูงสุดในช่วงการแข่งขัน 3 อันดับแรก (ทั่วโลก)

1. เลอทีเซีย บูโฟนี่ (Leticia Bufoni) จากบราซิลแข่งสเก็ตบอร์ด

2. เจสสิก้า ฟ๊อกซ์ (Jessica Fox) จากออสเตรเลียยินดีกับเหรียญทอง

3. เจสสิก้า ฟ๊อกซ์ (Jessica Fox) จากออสเตรเลียกล่าวขอบคุณผู้จัดงานและเหล่าอาสาสมัคร
#3042


ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 106.66 จุด หรือ 0.30% ปิดที่ 35,101.85 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 4.17 จุด หรือ 0.09% ปิดที่ 4,432.35 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 24.41 จุด หรือ 0.16% ปิดที่ 14,860.18 จุด

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดเมื่อวันศุกร์แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขานรับการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ดีเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทร่วงลงในวันนี้ นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน ท่ามกลางการทรุดตัวของราคาน้ำมัน หลังจากที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรียกร้องให้นานาชาติยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและถ่านหิน ขณะที่ภาวะโลกร้อนกำลังใกล้เข้าสู่ระดับวิกฤต

ทั้งนี้ นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็นเรียกร้องให้นานาชาติยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและถ่านหิน รวมทั้งพลังงานอื่นๆที่ปล่อยมลพิษในระดับสูงโดยทันที หลังจากที่รายงานของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ไอพีซีซี) ระบุว่า ระดับก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศในขณะนี้สูงพอที่จะส่งผลเสียต่อสภาพภูมิอากาศไปอีกหลายสิบปีหรือหลายร้อยปีข้างหน้า

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ในวันพุธ และเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ในวันพฤหัสบดี

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนีซีพีไอพื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 4.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี

นักลงทุนกังวลว่า หากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนก.ค. หลังจากที่มีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ง ก็จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) รวมทั้งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้นวอลล์สตรีท

นักลงทุนคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงินคิวอีในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค.

นายริชาร์ด แคลริดา รองประธานเฟด ส่งสัญญาณในการกล่าวถ้อยแถลงก่อนหน้านี้ว่า เฟดจะปรับลดวงเงินคิวอีภายในปีนี้ ก่อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566

ทั้งนี้ นายแคลริดากล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายด้านการจ้างงานและเงินเฟ้อของเฟดภายในปลายปีหน้า ซึ่งจะทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566

"ผมเชื่อว่าเศรษฐกิจจะบรรลุเงื่อนไขที่จำเป็นต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดภายในปลายปีหน้า และการกลับมาใช้นโยบายการเงินแบบปกติในปี 2566 จะสอดคล้องกับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ยแบบยืดหยุ่นของเฟด" นายแคลริดากล่าว

"หากการคาดการณ์ของผมเป็นจริง ก็คาดว่าเฟดจะเริ่มประกาศปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรภายในปีนี้" เขากล่าว

คำกล่าวของนายแคลริดาสอดคล้องกับถ้อยแถลงของนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ว่าการของเฟด โดยนายวอลเลอร์ระบุว่า เฟดควรจะเริ่มปรับลดวงเงินคิวอีภายในเดือนต.ค.
#3043


"สินิตย์"สั่งเดินหน้าช่วยผู้ประกอบการจังหวัดชายแดนภาคใต้ ใช้ประโยชน์จาก FTA ทำการส่งออกไปตลาดอาเซียน เผยมีหลายสินค้าที่มีศักยภาพ ทั้งผลไม้ อาหารทะเลแปรรูป ผลิตภัณฑ์ยางพารา และผ้าบาติก

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนาออนไลน์ เรื่อง "รู้ลึกก่อนใคร โอกาสการค้าชายแดนใต้สู่ตลาดการค้าเสรีอาเซียน" และปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "ชี้ช่องเพิ่มโอกาสการค้าของจังหวัดชายแดนใต้กับตลาดอาเซียน" ว่า ได้มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศสร้างความตระหนักรู้เรื่องการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) ขยายตลาดไปต่างประเทศ โดยให้ทำงานร่วมกับทูตพาณิชย์และพาณิชย์จังหวัดใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส เร่งช่วยหาช่องทางให้เกษตรกร ผู้ประกอบการ และวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ ผลิตสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของตลาด ซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ในการหาตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ ตามนโยบาย "ตลาดนำการผลิต"

สำหรับการจัดสัมมนาครั้งนี้ ได้ระดมวิทยากรผู้เชี่ยวชาญทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน มาร่วมแบ่งปันข้อมูลและประสบการณ์ให้ผู้เข้าร่วม โดยวิทยากรมีทั้งผู้ส่งออกรายใหญ่ นักการตลาด ทูตพาณิชย์ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. และพาณิชย์จังหวัด 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้ามาชี้โอกาสการทำธุรกิจและการส่งออกสินค้าที่มีศักยภาพในพื้นที่ เช่น ผลไม้ (ทุเรียน ส้มโอ เงาะ ลองกอง มังคุด) อาหารทะเลแปรรูป ผลิตภัณฑ์ยางพารา และผ้าบาติก เป็นต้น เน้นตลาดมาเลเซีย อาเซียน และตลาดสินค้าฮาลาล และแนะนำแนวทางการใช้สิทธิประโยชน์จาก FTA สร้างแต้มต่อขยายส่งออกสินค้าในตลาดการค้าเสรี ที่ประเทศคู่ค้าได้ลดและยกเลิกการจัดเก็บภาษีศุลกากรให้กับสินค้าจากไทยแล้วเกือบทุกรายการ

"กระทรวงพาณิชย์มีความตั้งใจและมุ่งมั่นส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์ของตลาด โดยเน้นเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้า สามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงวิธีการผลิตและแหล่งผลิตได้ โดยเฉพาะสินค้าอาหารที่ต้องมีใบรับรองด้านมาตรฐาน เพื่อให้ตลาดยอมรับ ผู้บริโภคเชื่อมั่น ซึ่งจะช่วยให้สามารถจำหน่ายสินค้าได้ในราคาสูง และจะช่วยให้เกษตรกรและผู้ประกอบการมีรายได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งส่งเสริมให้ใช้ประโยชน์จาก FTA เป็นเครื่องมือสำคัญในการแข่งขันทางการค้าขยายส่งออกไปตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดสินค้าฮาลาลที่มีประชากรสูงกว่า 2,000 ล้านคน และมั่นใจว่าผู้เข้าร่วมสัมมนาจะสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้และต่อยอดสำหรับวางแผนหาโอกาสจากตลาดใหม่ๆ และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับสินค้าของไทยได้มากขึ้น"นายสินิตย์กล่าว

ในปี 2563 การค้าไทยกับอาเซียนมีมูลค่าสูงถึง 1.1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เป็นการส่งออกมูลค่า 6.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และเมื่อเปรียบเทียบการส่งออกปี 2563 กับปีก่อนที่ความตกลงการค้าเสรีอาเซียนมีผลบังคับใช้ พบว่า การค้าของไทยกับอาเซียนขยายตัวถึง 843% และการส่งออกขยายตัวสูงถึง 1,135% สำหรับในช่วง 5 เดือของปี 2564 (ม.ค.-พ.ค.) การค้าไทยกับอาเซียนมีมูลค่า 45,267.41 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออกมูลค่า 26,224.69 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 24.14%

ทั้งนี้ หากความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) มีผลบังคับใช้ในต้นปี 2565 จะเป็นอีกหนึ่ง FTA สำคัญที่ช่วยให้ผู้ประกอบการและเกษตรกร สามารถใช้ประโยชน์ขยายการส่งออกไปตลาดสำคัญของไทย ทั้งอาเซียน จีน เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เพิ่มเติมจาก FTA ที่มีอยู่เดิม
 
#3044
111-Lotto 111  ตัวแทนจำหน่าย ล็อตเตอรี่ออนไลน์ รายใหญ่ของ มังกรฟ้าล็อตเตอรี่ออนไลน์  ปรับเปลี่ยนรูปแบบการซื้อล็อตเตอรี่แบบใหม่  ยุค new normal




ไม่ต้องไปหน้าแผง ไม่ต้องเสียเวลาก้มหาเลข ไม่ต้องไปลุ้นว่าจะมีเลขที่อยากได้มั้ย แค่แอดไลน์ หาเรา บอกเลขที่ต้องการ เลขเด็ด เลขดัง แจ้งโอนเงิน จะได้รับ SMS ยืนยัน




ถ้าถูกรางวัลสามารถขึ้นเงินได้จริง ได้รับเงินจริงไม่เกิน 24 ชม โดยปกติใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงหลังผลสลากกินแบ่งรัฐบาลออกเท่านั้น 

ขั้นตอนการซื้อ ล็อตเตอรี่ออนไลน์ กับเรานั้น ง่ายๆ มาก มี 2 แบบให้เลือกแล้วแต่สะดวก

1. แอดไลน์ @111-lotto หรือคลิกทีนี่ เพื่อ คุยกับแอดมินโดยตรงและทำการสั่งซื้อและโอนเงินผ่านไลน์ มีเจ้าหน้าที่แนะนำทุกขั้นตอน 

111-lotto รีบแอดไลน์เพื่อเลือกเลขรางวัลก่อนใคร

Add Line : @111-lotto





2. สั่งซื้อผ่านระบบ 111-lotto ล็อตเตอรี่ของของมังกรฟ้าล็อตเตอรี่ออนไลน์ ด้วยตัวเอง จะทำที่ไหน เมื่อไหร่ เวลาไหนก็ได้ Add Line : @111-lotto


 


 
#3045


มาร์สไทยแลนด์อิงค์ เดินหน้าแผนการสร้างธุรกิจยั่งยืน (Sustainable in a Generation Plan) ตามนโยบายบริษัทแม่ มาร์ส อินคอร์ปอเรทเต็ด มุ่งเน้น 3 ด้านหลัก "Healthy Planet - Thriving People - Nourishing Wellbeing" นำร่องลดการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ไม่ยั่งยืน เน้นผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่หรือย่อยสลายได้ เพื่อร่วมขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกให้เกิดขึ้น ล่าสุดจัดแคมเปญ "แลกแล้ว-ลดเลย" เปิดให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงได้มีส่วนร่วมช่วยลดการใช้ขยะ นำถุงเปล่าอาหารสุนัขหรืออาหารแมวมาแลกรับส่วนลด เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

นายรัชกร เจนพัฒนพงศ์ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทยและอินโดจีน มาร์สไทยแลนด์อิงค์ ผู้ดำเนินธุรกิจแบรนด์อาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงทั้งสุนัขและแมวในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ PEDIGREE®, WHISKAS®, IAMS® ROYAL CANIN®, CESAR®, SHEBA®, TEMPTATIONS® รวมทั้งทรายอนามัยสำหรับแมวแบรนด์ CATSAN® เปิดเผยว่า มาร์สไทยแลนด์อิงค์ ได้เดินหน้าธุรกิจเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพและโภชนาการของสัตว์เลี้ยง ควบคู่ไปกับแผนการสร้างธุรกิจยั่งยืน (Sustainable in a Generation Plan) ตามโยบายของบริษัทแม่ มาร์ส อินคอร์ปอเรทเต็ด

สำหรับแผนการสร้างธุรกิจยั่งยืน (Sustainable in a Generation Plan) ของ มาร์ส อินคอร์ปอเรทเต็ด จะมุ่งเน้นใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ Healthy Planet, Thriving People และ Nourishing Wellbeing

• Healthy Planet ลดการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ไม่ยั่งยืน มุ่งพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เน้นผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ รีไซเคิล หรือย่อยสลายได้ โดยมีเป้าหมายลดการใช้พลาสติกบริสุทธิ์ลง 25% ภายในปี 2025 ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดในห่วงโซ่การผลิตลง 27% ภายในปี 2025 และ 67% ภายในปี 2050 รวมถึงลดการใช้น้ำที่ไม่ยั่งยืนในห่วงโซ่การผลิต เริ่มด้วยการลดลง 50% ภายในปี 2025 และบริหารจัดการที่ดินทั้งหมดอย่างมีประสิทธิภาพ
• Thriving People มุ่งพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตผู้คนที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิต ไม่ว่าจะเป็น เกษตรกร คนงาน ผู้หญิง และเด็ก ผ่านโครงการต่างๆ ที่ครอบคลุมในเรื่องของการพัฒนารายได้เกษตรกร ภายใต้โปรแกรมที่ผสมผสานแนวปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี การคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนและไม่ใช้แรงงานเด็กในส่วนของโรงงานผลิตของ Mars ทุกแห่ง รวมทั้งโรงงานของซัพพลายเออร์ด้วย
• Nourishing Wellbeing เปิดเผยข้อมูลต่อผู้บริโภคอย่างโปร่งใส สร้างวัฒนธรรมการทำงานที่ดีต่อสุขภาพ โดยพัฒนาคุณค่าทางโภชนาการของผลิตภัณฑ์ของบริษัท มุ่งเน้นความปลอดภัยและความมั่นคงด้านอาหารผ่าน Mars Global Food Safety Center เพื่อจัดการกับความท้าทายด้านความปลอดภัยของอาหารในระยะยาว 3 ประการ ได้แก่ การจัดการความเสี่ยงจากสารพิษจากเชื้อรา การจัดการความเสี่ยงด้านจุลินทรีย์ และความมั่นคงสมบูรณ์ของอาหาร



"นโยบายของมาร์ส ในการดำเนินธุรกิจ จะมุ่งเน้นการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้เกิดขึ้นและนำมาซึ่งการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เริ่มตั้งแต่การวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับความท้าทายด้านความปลอดภัยของอาหาร ไปจนถึงประเภทของบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งยังมุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่อย่างไม่หยุดยั้ง พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ร่วมงานและชุมชนโดยรอบ" นายรัชกร กล่าว

ล่าสุด มาร์สไทยแลนด์อิงค์ ได้เปิดให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงได้มีส่วนร่วมในการช่วยลดขยะเพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ยังยืน กับแคมเปญ "แลกแล้ว-ลดเลย" เพียงนำถุงเปล่า อาหารสุนัขหรืออาหารแมวแบรนด์ใดก็ได้ขนาด 1 กิโลกรัมขึ้นไป นำมาใช้แลกเป็นส่วนลดอาหาร Pedigree, IAMS, Whiskas สูงสุด 100 บาท โดยแคมเปญดังกล่าว เฉพาะร้านค้าทั่วประเทศที่ร่วมรายการ และขยายระยะเวลาไปจนถึง 31 ส.ค.64 หรือ ติดตามรายละเอียดได้ทาง FB: Pedigree Thailand และ FB: Whiskas Thailand
#3046


นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  เปิดเผยว่า  ได้เรียกประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) ครั้งที่ 5/2564 เป็นวาระพิเศษ ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference) โดยได้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลิตผลการเกษตร ระดับจังหวัด (คพจ.) ซึ่งเป็นกลไกการทำงานระดับจังหวัดเข้าร่วมประชุมด้วย

เพื่อร่วมกันประเมินสถานการณ์ปริมาณและราคาของมังคุดในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ รวมทั้งผลสำเร็จของมาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหามังคุดราคาตกต่ำที่ได้ดำเนินการไปแล้วของหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ การกระจายผลผลิตภายในประเทศผ่านช่องทางปกติ ช่องทาง e - Commerce และช่องทางอื่นๆ ซึ่งดำเนินการโดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมการค้าภายใน บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด เช่น การแลกเปลี่ยนมังคุดกับสินค้าข้าวของสถาบันเกษตรกรภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

โดยในเบื้องต้น พบว่าราคามังคุดเริ่มปรับตัวดีขึ้นแล้ว รวมทั้งพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหามังคุดราคาตกต่ำ ปี 2564 แบบเร่งด่วนฉับพลัน โดยวิธีการแทรกแซงราคาตลาด และการสนับสนุนเงินค่าชดเชยดอกเบี้ย โดยกรมการค้าภายใน และการเคลื่อนย้ายผลผลิตอย่างเร่งด่วนในช่วงผลผลิตกระจุกตัว โดยกรมส่งเสริมการเกษตร นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มอบหมายกรมส่งเสริมการเกษตร ในฐานะฝ่ายเลขานุการฯ ศึกษาและวิเคราะห์แนวทางความเป็นไปได้ของ "การเยียวยาเกษตรกรชาวสวนมังคุด" ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่อย่างไร เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) ในโอกาสต่อไป

ด้าน นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า จากแผนการบริหารจัดการผลผลิตมังคุดในฤดูดำเนินการในพื้นที่ภาคใต้ทั้ง 14 จังหวัด จำนวนทั้งสิ้น 155,614 ตัน (ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ถึงวันที่ 4 สิงหาคม 2564) พบว่า มีการเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว จำนวน 72,643.73 ตัน คิดเป็นร้อยละ 46.68 ยังไม่ได้เก็บเกี่ยว จำนวน 82,970.27 ตัน คิดเป็นร้อยละ 53.32 ทั้งนี้ในเดือนสิงหาคมจะมีมังคุดออกกระจุกตัวในปริมาณมาก (Peak) จำนวนประมาณ 60,000 ตัน

ซึ่งที่ประชุมฯ ได้เห็นชอบแนวทางการกระจายผลผลิตมังคุดช่วงกระจุกตัว (Peak) ที่กรมส่งเสริมการเกษตรเสนอ โดยได้กำหนดแนวทางการกระจายผลผลิตมังคุด 4 แนวทาง ได้แก่ 1. กลไกตลาดปกติ จำนวน 20,000 ตัน 2. การกระจายผลผลิต จำนวน 40,000 ตัน ให้แก่หน่วยงานภาครัฐ รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค และภาคเอกชน โดยมอบหมายให้ คพจ. ต้นทาง 14 จังหวัด บริหารจัดการผลผลิตอย่างเร่งด่วนโดยมีพาณิชย์จังหวัดในฐานะเลขานุการ เป็น "แม่แรง" สำคัญที่จะประสานเชื่อมโยงกับหน่วยงานข้างต้น

ส่งเสริมให้มีการจัดการผลผลิตต่อเนื่อง เช่น การแปรรูปมังคุดเพื่อเพิ่มมูลค่า และ 4. จัดทำแคมเปญพิเศษ "ช่วยมังคุดใต้ เกษตรกรไทย Happy" "8.8 Sales" จะเริ่มดีเดย์จำหน่ายผลผลิตมังคุดแบบส่งให้ถึงบ้าน ตั้งแต่วันที่ 8 - 31 สิงหาคม 2564 โดยเปิดให้ผู้สนใจทั่วประเทศสามารถสั่งซื้อมังคุดล่วงหน้าในราคา 4 กิโล 100 บาท
สำหรับมังคุดคละเกรด คุณภาพดี สดอร่อย ภายใต้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เช่น บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด สมาคมขนส่งโลจิสติกส์ บริษัท Grab และภาคเอกชนอื่นๆ โดยจะมีการคิกออฟแคมเปญในวันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม 2564 เวลา 08.08 น. ณ ห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร

นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  กล่าวว่า ตามที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ขยายโครงการ "เกษตรกรแฮปปี้" โดยจะจัดแคมเปญใหญ่ใน วันที่ 8 เดือน 8 (สิงหาคม) ผ่านระบบออนไลน์ โดยใช้สถานที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พระราม9  เป็นจุดคิกออฟกระจายสินค้า ภายใต้มาตรการควบคุมโรคของ ศบค. เพื่อให้ทุกภาคส่วนทั่วประเทศสั่งซื้อมังคุดล่วงหน้าในราคา 4 โล 100 สำหรับมังคุดคละเกรดคุณภาพสดอร่อยภายใต้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เช่น บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด (ท็อปส์ และ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์)  บริษัท ไปรษณีย์ไทย สมาคมขนส่งโลจิสติกส์ บริษัทแกร็บ ประเทศไทย ร้านธงฟ้า ฯลฯ

โดยนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าทีมพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) เฉพาะกิจ ที่มีคณะทำงานเป็นตัวแทนมาจากหลายภาคส่วน กล่าวว่า ขณะนี้มีความพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะรับออร์เดอร์มังคุดภายใต้แคมเปญดังกล่าว โดยจะใช้ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พระราม 9 และเซ็นทรัล เวสต์เกต เป็นจุด Drop off เพื่อกระจายสินค้า ขณะนี้เป็นที่น่ายินดีว่าหลังจากเริ่มเปิดรับพรีออร์เดอร์มาเป็นเวลา 2 วัน ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเป็นจำนวนมากที่สั่งซื้อกันเข้ามาในจำนวนเกิน 100 ตันแล้ว และจะเริ่มจัดส่งตรงถึงบ้านเริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป

"ท่านรัฐมนตรีเฉลิมชัยย้ำว่า เราต้องดูแลชาวสวนทุกจังหวัดในภาคใต้พาฝ่าวิกฤตโควิดไปด้วยกัน แม้วันนี้จะมีสัญญาณที่ดีว่าราคามังคุดทั้งหน้าแผงและหน้าล้งปรับตัวสูงขึ้น แต่ยังมีความไม่แน่นอนของเสถียรภาพราคา จึงต้องมีมาตรการเสริมเพื่อช่วยกระตุ้นการบริโภค โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคในประเทศที่เป็นส่วนที่สำคัญในภาวะที่การส่งออกยังมีอุปสรรคจากสถานการณ์โควิด-19" นายอลงกรณ์ กล่าว

วันนี้! เช็คเงินเยียวยา 'ประกันสังคม ม.33' ไม่เข้าบัญชี เช็กสาเหตุ 'www.sso.go.th'
ยอด 'โควิด-19' วันนี้ ตายสูง! พบเสียชีวิต 212 ราย ติดเชื้อเพิ่ม 21,838 ราย ไม่รวม ATK อีก 6,026 ราย
เช็ค! เงินเยียวยา 'ประกันสังคม' ม.33 ไม่เข้า แก้ไขก่อน 9 ส.ค.นี้
ทั้งนี้คณะทำงานฟรุ้ทบอร์ดเฉพาะกิจมีผู้แทนมาจากหลายภาคส่วน ที่มาร่วมผนึกกำลังกันแก้ไขปัญหาราคามังคุด รวมถึงผลไม้อื่น ๆ เช่นลำไย เงาะ ลองกอง ทุเรียนที่กำประสบปัญหาล้นตลาดอาทิ นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ รับผิดชอบการขายแบบ B to G นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ประธานคณะอนุกรรมการธุรกิจการเกษตร นายกฤชฐา โภคาสถิตย์ ประธานอนุกรรมการ         อีคอมเมิร์ซ กระทรวงเกษตรฯ.รับผิดชอบการขายแบบ B to B รวมถึงการขายผ่านเครือข่ายสภาอุตสาหกรรม หอการค้า การขายตรงถึงผู้บริโภครวมถึงช่องทางอื่น ๆ ในขณะที่นางดรุณวรรณจะรับผิดชอบการขายและประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย โดยมีนายณฐกร สุวรรณธาดา และนายวิเชียร สุขพันธ์ คณะทำงานที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ รับผิดชอบแหล่งผลิตผลไม้และจุดกระจายผลไม้

"มังคุดภายใต้แคมเปญนี้เป็นมังคุดดี สดจากต้น อร่อย ส่งตรงจากสวนเมืองใต้ ที่ตั้งใจปลูกโดยชาวสวนแท้ ๆ รับประกันคุณภาพโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การซื้อมังคุดครั้งนี้รับทันทีสองต่อคือได้ทานมังคุดดี และยังมีส่วนช่วยสร้างรอยยิ้ม และส่งกำลังใจให้ชาวสวนมังคุดด้วย ภายใต้แนวคิด "คนกินยิ้มได้ เกษตรกรไทย Happy" สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่ช่องทางต่าง ๆ ตามที่ได้แจ้งไว้ในช่วงต้น"

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้รัฐมนตรีเกษตรฯ ในฐานะประธาน Fruit Board ได้สั่งการล่วงหน้าให้ทุกส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ช่วยกันซื้อมังคุด เช่น กรมชลประทาน กรมส่งเสริมการเกษตร และกรมส่งเสริมสหกรณ์ ทำให้ช่วยระบายมังคุดออกจากแหล่งผลิตหลายร้อยตัน และขอให้ภาครัฐภาคเอกชนช่วยกันซื้อมังคุดให้มากที่สุด และนายเฉลิมชัยจะเป็นผู้นำในการคิกออฟแคมเปญด้วยตัวเอง
#3047


การระบาดโควิดระลอกที่ 4 ตั้งแต่เดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ได้พัฒนากลายพันธุ์ มีความรุนแรงและแพร่กระจายรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งการกระจายวัคซีนยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายและรวดเร็วเพียงพอกับการแพร่ระบาด ปัจจุบันยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รอบ 4 ทำสถิตนิวไฮเกือบทุกวัน โดยพุ่งเกินวันละ 2 หมื่นรายต่อวัน และยังไม่มีสัญญาณว่าแนวโน้มของการติดเชื้อจะลดลง ส่งผลให้ระบบสาธารณสุขของไทยเกินจะรับไหว โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะนี้การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้กระจายไปภาคอุตสาหกรรมกระทบต่อการการผลิตของไทย

1,500 โรงงาน คือยอดที่เป็นทางการจากการตรวจสอบที่พนักงานในโรงงานติดเชื้อโควิด-19  และยังมีอีกหลายโรงงานที่มีการติดเชื้อ  ซึ่งการตรวจโควิดด้วยตนเอง หรือชุดตรวจ ตรวจโควิด-19 หรือที่เรียกว่า  Antigen Test Kit หรือ ATK  จึงเป็นทางออกให้กับโรงงานอุตสาหกรรมในการการตรวจเชิงรุกเพื่อคัดกรองหาผู้ติดเชื้อ COVID-19 อย่างรวดเร็ว และเข้าสู่ขั้นตอนการดูแลรักษาผู้ป่วยตามระบบของสาธารณสุข

"วิศิษฐ์ ลิ้มลือชา นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป ระบุว่า    สถานการณ์การระบาดของโรงงานผลิตอาหาร หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด- 19 จาก 99 โรงงาน  ยังไม่ขยายวงกว้าง โดยโรงงานใช้มาตรการบับเบิลแอนด์ซีล เน้นการตรวจเชิงรุกมากขึ้นโดยใช้ชุดตรวจ ATK เพื่อแยกแรงงานที่ติดเชื้อออกจากแรงงานที่ไม่ติดเชื้อ เพื่อให้ส่วนที่เหลือยังคงทำงานได้ แทนการปิดทั้งโรงงานซึ่งถ้าหากใช้มาตรการปิดทั้งโรงงานจะส่งผลให้อาหารขาดแคลนได้ในอนาคต

"โรงงานต้องการให้รัฐดูแลราคาชุดตรวจให้ราคาไม่แพง เข้าถึงง่าย จะช่วยทำให้โรงงานสามารถสุ่มตรวจพนักงานได้บ่อยครั้งมากขึ้น เป็นการป้องกันเบื้องต้นภายในโรงงาน"

ชุดตรวจ ATK  จึงมีความสำคัญสำหรับภาคอุตสาหกรรมเพื่อแยกผู้ป่วยและคนปกติออกจากกันเพื่อให้โรงงานสามารถเดินเครื่องการผลิตได้บางส่วนแต่ชุดตรวจ ATK  ไม่เพียงพอต่อความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งยังไม่นับรวมความต้องการของประชาชนที่ต้องการซื้อชุดตรวจ ATK   เช่นกัน ที่สำคัญ"ราคา"ของชุดตรวจ ATK  เริ่มมีราคาแพงและหายากมากขึ้น

"สนั่น อังอุบลกุล " ประธานหอการค้าไทย กล่าวว่า   หอการค้ายังได้มีการติดต่อผู้นำเข้า ATK ที่ได้รับการรับรองแล้วมาให้สมาชิกฯ ได้ติดต่อซื้อตรงในราคาพิเศษที่เหมาะสม เพื่อดำเนินการใช้ในสถานประกอบการ ชุดตรวจนี้ไม่เพียงแต่จำเป็นต่อภาคการผลิตเท่านั้นแต่ยังจำเป็นต่อภาคธุรกิจอื่นๆ ด้วย ซึ่งหลายๆประเทศก็ได้มีการใช้ Rapid ATK ในการควบคู่ไปกับการกลับมาเปิดดำเนินธุรกิจต่างๆ

ทางหอการค้าไทยได้เสนอให้รัฐบาลรัฐบาลในการสนับสนุนและจำหน่าย Rapid Antigen test Kit (ATK) ในราคาที่ถูก มีความหลากหลาย มีคุณภาพ และหาซื้อได้ง่าย เพื่อให้ผู้ประกอบการและประชาชนสามารถเข้าถึงได้  ซึ่งประเทศไทยควรเร่งดำเนินการจัดหาเพิ่มขึ้น รวมถึงควรสนับสนุนให้สามารถซื้อขายได้ในรูปแบบ B2B ระหว่างผู้นำเข้าและผู้ประกอบการ ภายใต้การควบคุมดูแล คุณภาพและมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข นอกจากนั้นควรมีการให้ความรู้ ความเข้าใจถึงวิธีใช้งานและวิธีกำจัดภายหลังการใช้งานด้วย และในระยะถัดไปควรมีการวางแผนเพื่อมีส่งเสริมการลงทุนให้มีการผลิต ATK ในประเทศ โดยสามารถให้เอกชนร่วมเข้าไปสนับสนุนในส่วนนี้ได้

ล่าสุดจากการตรวจสอบพบว่า ขณะนี้มี 26 บริษัทที่จดทะเบียนนำเข้าชุดตรวจ ATK และอยู่ในระหว่างการนำเข้า ส่วนชุดตรวจ ATK ที่มีอยู่ในตลาดขณะนี้มีประมาณ 5-7 ยี่ห้อเท่านั้นซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการส่งผลให้มีราคาสูง ดังนั้นรัฐบาลควรเร่งจัดหาชุดตรวจ ATKให้เพียงพอและมีราคาถูกเพราะส่วนจะเป็นด่านแรกที่ช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถสามารถป้องกันไม่ให้การติดเชื้อขยายเป็นวงกว้างออกไปจนกระทบต่อการผลิต
#3048
111-Lotto 111  ตัวแทนจำหน่าย ล็อตเตอรี่ออนไลน์ รายใหญ่ของ มังกรฟ้าล็อตเตอรี่ออนไลน์  ปรับเปลี่ยนรูปแบบการซื้อล็อตเตอรี่แบบใหม่  ยุค new normal




ไม่ต้องไปหน้าแผง ไม่ต้องเสียเวลาก้มหาเลข ไม่ต้องไปลุ้นว่าจะมีเลขที่อยากได้มั้ย แค่แอดไลน์ หาเรา บอกเลขที่ต้องการ เลขเด็ด เลขดัง แจ้งโอนเงิน จะได้รับ SMS ยืนยัน




ถ้าถูกรางวัลสามารถขึ้นเงินได้จริง ได้รับเงินจริงไม่เกิน 24 ชม โดยปกติใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงหลังผลสลากกินแบ่งรัฐบาลออกเท่านั้น 

ขั้นตอนการซื้อ ล็อตเตอรี่ออนไลน์ กับเรานั้น ง่ายๆ มาก มี 2 แบบให้เลือกแล้วแต่สะดวก

1. แอดไลน์ @111-lotto หรือคลิกทีนี่ เพื่อ คุยกับแอดมินโดยตรงและทำการสั่งซื้อและโอนเงินผ่านไลน์ มีเจ้าหน้าที่แนะนำทุกขั้นตอน 

111-lotto รีบแอดไลน์เพื่อเลือกเลขรางวัลก่อนใคร

Add Line : @111-lotto





2. สั่งซื้อผ่านระบบ 111-lotto ล็อตเตอรี่ของของมังกรฟ้าล็อตเตอรี่ออนไลน์ ด้วยตัวเอง จะทำที่ไหน เมื่อไหร่ เวลาไหนก็ได้ Add Line : @111-lotto


 


 
#3049


จากข่าวช็อกแฟน.ทั่วโลก เมื่อสโมสรบาร์เซโลนา ยักษ์ใหญ่แห่งลาลีกาสเปน แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (5 ส.ค.) ว่า ถึงแม้ทั้งสโมสรและ "ลิโอเนล เมสซี" ดาวเตะทีมชาติอาร์เจนตินา ได้บรรลุข้อตกลงเรื่องสัญญาฉบับใหม่และมีความประสงค์ชัดเจนว่าต้องการเซ็นสัญญากัน แต่สุดท้ายสิ่งนี้ก็ไม่เกิดขึ้น เนื่องจากติดขัดเรื่องการเงินและกฎการลงทะเบียนผู้เล่นของลาลีกา

"ด้วยเหตุนี้ เมสซีจึงไม่สามารถอยู่กับบาร์เซโลนาได้อีกต่อไป ทั้งสองฝ่ายรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่ความต้องการของทั้งผู้เล่นและสโมสร ไม่สามารถเกิดขึ้นจริงได้ สโมสรขออวยพรให้เมสซีโชคดีกับเส้นทางค้าแข้งกับต้นสังกัดใหม่" แถลงการณ์สโมสรบาร์เซโลนา ระบุ

อันที่จริง บาร์เซโลนาบรรลุสัญญาฉบับใหม่กับเมสซียาวถึงปี 2026 ไปแล้ว แต่ด้วยค่าเหนื่อยหลายแสนยูโรต่อสัปดาห์ของเมสซี จะทำให้บาร์เซโลนาใช้เงินเกินกว่าที่ลาลีกากำหนดไว้ จึงไม่ได้รับการอนุมัติจากลาลีกาให้เซ็นสัญญากัน แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงกันไว้แล้วก็ตาม

ดาวเตะระดับโลก วัย 34 ปี เซ็นสัญญาฉบับแรกกับบาร์เซโลนาในปี 2000 ขณะอายุเพียง 13 ปี และลงเล่นให้สโมสรทุกรายการรวม 778 นัด ยิงได้ 672 ประตู และมีส่วนช่วยบาร์ซาคว้าแชมป์รวม 35 รายการ จนกระทั่งสิ้นสุดสัญญาฉบับเดิมเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา

ขณะที่บรรดาสโมสรใหญ่จากหลายประเทศต่างแสดงความสนใจดึงตัวแข้งซูเปอร์สตาร์ชาวอาร์เจนตินา ที่กลายเป็นนักเตะฟรีเอเยนต์ที่สามารถย้ายทีมได้แบบไม่มีค่าตัว และจะเป็นการย้ายทีมครั้งแรกในเส้นทางอาชีพของเมสซีด้วย


มีรายงานว่า ค่าเหนื่อยในสัญญาฉบับใหม่ที่บาร์ซาตกลงกับเมสซีได้แล้วแต่สุดท้ายล่มไปนั้น สูงถึงประมาณ 70 ล้านยูโรต่อปี หรือคิดเป็นราว 1.13 ล้านยูโรต่อสัปดาห์เลยทีเดียว

ดังนั้น หากประเมินจากความเป็นไปได้ ณ เวลานี้ มีอยู่ 6 สโมสรที่อาจมีศักยภาพและเงินทุนมากพอที่จะเป็นจุดหมายต่อไปของดาวเตะวัย 34 ปี

1. ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (เปแอสเช)

ณ ขณะนี้ เปแอสเช ถือเป็นเต็งอันดับ 1 ที่จะได้เมสซีไปร่วมทีม เพราะมีอำนาจเงินเหนือกว่าทีมใหญ่อื่น ๆ

ยักษ์ใหญ่แห่งฝรั่งเศสสามารถเสนอโอกาสให้เมสซีได้ลงเล่นร่วมกับนักเตะพรสวรรค์มากมาย หลังจากคว้าตัวผู้เล่นใหม่อย่าง จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม มิดฟิลด์เลือดดัตช์, จานลุยจิ ดอนนารุมมา นายด่านทีมชาติอิตาลีชุดแชมป์ยูโร 2020 และเซอร์จิโอ รามอส ปราการหลังจอมเก๋าชาวสเปน


ขณะเดียวกัน เปแอสเชอาจมีภาษีเหนือกว่าทีมอื่น ๆ ตรงที่มีนักเตะชื่อ "เนย์มาร์" แข้งชาวบราซิลที่สนิทกับเมสซีตั้งแต่สมัยเล่นด้วยกันที่บาร์เซโลนา และหากเมสซีย้ายมาประสานงานกับเนย์มาร์อีกครั้ง เปแอสเชจะกลายเป็น "เต็ง 1" คว้าแชมป์ "ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก" ฤดูกาล 2021/22 โดยทันที

2. แมนเชสเตอร์ ซิตี

การได้กลับมาร่วมงานกับ "เปป กวาร์ดิโอลา" อีกครั้งอาจเป็นข้อได้เปรียบสำหรับ "เรือใบสีฟ้า" ที่จะได้ลายเซ็นจอมทัพเลือดอาร์เจนไตน์มาครอง เพราะกุนซือชาวสเปนและเมสซีต่างชื่นชมและให้ความเคารพกัน หลังทั้งคู่เคยร่วมงานที่บาร์เซโลนายุคที่ประสบความสำเร็จที่สุด

ช่วงปี 2008-2012 บาร์ซาภายใต้การคุมทีมของกวาร์ดิโอลาและมีเมสซีเป็นแกนหลักในแนวรุก โกยถ้วยแชมป์รวม 14 รายการ ถือเป็นยุคที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรคาตาลัน

ปัจจุบัน กวาร์ดิโอลาซึ่งเป็นผู้จัดการทีมแมนฯ ซิตี กำลังเดินหน้าแผนล่าตัว "แฮร์รี เคน" ดาวยิงทีมชาติอังกฤษจากท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ส หลังเพิ่งกระชาก "แจ็ค กรีลิช" ตัวรุกเลือดผู้ดีจากแอสตัน วิลลา ด้วยค่าตัว 100 ล้านปอนด์

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าความเป็นไปได้ที่ทีมเรือใบสีฟ้าจะเสริมทัพด้วยการเซ็นสัญญาเมสซีอีกคนนั้น "เหลือน้อยมาก"


- เมสซีฟังแท็กติกจากกวาร์ดิโอลา สมัยยังร่วมงานกันในถิ่นคัมป์นูเมื่อปี 2010 -

ล่าสุด กวาร์ดิโอลายืนยันแล้วว่า แมนฯ ซิตีจะไม่เซ็นสัญญากับเมสซี เพราะทีมเพิ่งทุ่มเงินซื้อกรีลิชและมอบหมายเลข 10 ให้กับแข้งอังกฤษรายนี้ไปแล้ว

"ก่อนหน้านี้คิดว่าเขา (เมสซี) จะอยู่กับบาร์ซาต่อ ดังนั้น เมสซีจึงไม่อยู่ในแผนของเราตอนนี้"

3. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

 "ปิศาจแดง" คู่แค้นร่วมเมืองของแมนฯ ซิตี ก็มีโอกาสร่วมวงล่าลายเซ็นของเมสซีเช่นกัน เพราะความเคลื่อนไหวในตลาดซื้อขายผู้เล่นที่ผ่านมา พิสูจน์ให้ทุกทีมเห็นแล้วว่า แมนฯ ยูไนเต็ดเป็นสโมสรที่มีความมั่นคงทางการเงินแถวหน้าของโลก

ถึงแม้ "โอเล กุนนาร์ โซลชาร์" กุนซือชาวนอร์เวย์ อาจจะต้องเปลี่ยนระบบการเล่นของทีม เพื่อให้เข้ากับสไตล์ของดาวเตะทีมชาติอาร์เจนตินา แต่ก็น่าจะคุ้มค่าไม่น้อยหากคว้าตัวเมสซีมาร่วมทัพได้ เพราะนอกจากจะได้ตัดหน้าคู่แข่งร่วมเมืองแล้ว ยังเพิ่มโอกาสคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2013 ด้วย

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ดูเหมือนว่าตำแหน่ง "มิดฟิลด์ตัวรับ" เป็นจุดที่แมนฯ ยูไนเต็ดต้องการเสริมมากกว่าแนวรุก หลังเพิ่งได้ตัว "เจดอน ซานโช" ปีกจอมเทคนิคทีมชาติอังกฤษจาก "โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์" ที่ตามทาบทามตั้งแต่ก่อนเปิดฤดูกาลที่แล้ว

วันนี้! เช็คเงินเยียวยา 'ประกันสังคม ม.33' ไม่เข้าบัญชี เช็กสาเหตุ 'www.sso.go.th'
ก่อนซื้อทำอย่างไร เมื่อ 'ฟ้าทะลายโจร' ขาดตลาด ราคาพุ่ง เจอของปลอม
อาคาร 100 ปี 'วังค้างคาว' เคยเป็นของใครมาแล้วบ้าง? ชวนย้อนรอยก่อนเปลี่ยนมือ
4. เชลซี

"สิงห์บลู" สโมสรดังแห่งลอนดอน เจ้าของแชมป์ยุโรปปีล่าสุด เป็นทีมที่ 3 จากพรีเมียร์ลีกที่สามารถดึงตัวดาวเตะระดับโลกอย่างเมสซีมาสวมยูนิฟอร์มได้ เพราะมีเงินทุนสนับสนุนหลายพันล้านจาก "เสี่ยหมี" โรมัน อบราโมวิช เจ้าของสโมสรชาวรัสเซีย

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เชลซีกำลังโฟกัสกับแผนคว้าตัว "โรเมลู ลูกากู" กองหน้าชาวเบลเยียมด้วยค่าตัวสถิติสโมสร แต่ก็ไม่แน่ว่าอาจเบนเข็มมาที่แข้งอาร์เจนไตน์ได้เช่นกัน

หากได้เมสซีมาร่วมทัพ น่าจะช่วยเพิ่มสถิติถล่มประตูให้กับเชลซีได้ตามที่ "โธมัส ทูเคิล" กุนซือชาวเยอรมันต้องการ ด้วยผลงานซัลโวกว่า 30 ประตูให้กับบาร์ซาในทุกรายการเมื่อฤดูกาลที่แล้ว

5. ยูเวนตุส

การดึงตัว เมสซี มาประสานงานร่วมกับ "คริสเตียโน โรนัลโด" แข้งระดับโลกชาวโปรตุเกส น่าจะเป็นเกมรุกในฝันของแฟน.หลายคน และ "ยูเวนตุส" ยักษ์ใหญ่แห่งกัลโช เซเรียอา ก็มีศักยภาพมากพอที่จะทำเช่นนั้นได้

ทีมม้าลายแต่งตั้ง "แม็กซ์ อัลเลกรี" ยอดกุนซือชาวอิตาลีคุมทัพรอบที่สองเมื่อไม่นานนี้ และชื่อชั้นของอัลเลกรี อาจช่วยดึงดูดให้เมสซีอยากมาร่วมงานกับหนึ่งในผู้จัดการทีมแถวหน้าของวงการลูกหนัง

หลังจากทำผลงานน่าผิดหวังในฤดูกาลที่แล้ว ยูเวนตุสจึงต้องการเสริมทัพที่แข็งแกร่งอยู่แล้วให้น่าเกรงขามยิ่งขึ้น เพื่อเตรียมสู้ศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกในฤดูกาลที่จะถึงนี้

6. อินเตอร์ ไมอามี

ถึงแม้ "เมเจอร์ลีก" ในสหรัฐ อาจเป็นจุดหมายปลายทางที่เมสซีต้องการไปค้าแข้งน้อยที่สุด แต่ก่อนหน้านี้ สื่อหลายสำนักรายงานว่า กัปตันทีมฟ้าขาวมีแผนย้ายไปฟาดแข้งในอเมริกาก่อนแขวนสตั๊ด

เมื่อดูจากชื่อชั้นของทีมในเมเจอร์ลีก ดูเหมือนว่า "อินเตอร์ ไมอามี" จะเป็นทีมจากเมเจอร์ลีกที่ถูกโยงกับการย้ายทีมของเมสซีมากที่สุด เนื่องจาก "เดวิด เบ็คแฮม" อดีตแข้งซูเปอร์สตาร์ชาวอังกฤษ ซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าของสโมสรร่วมของอินเตอร์ ไมอามี กำลังพยายามสร้างทีมให้พร้อมสำหรับการไล่ล่าแชมป์หลายรายการ


จากรายชื่อทั้ง 6 ทีมเหล่านี้ หลายฝ่ายคาดว่า เปแอสเช มีโอกาสมากที่สุดในการดึงตัวเมสซีไปร่วมทัพ และล่าสุดตัวแทนทั้งสองฝ่ายเปิดเจรจากันแล้ว

ฟาบริซิโอ โรมาโน เหยี่ยวข่าวกีฬาชาวอิตาลีซึ่งมีความน่าเชื่อถือสูง รายงานเมื่อวันที่ 6 ส.ค.ว่า เปแอสเช มั่นใจมากที่จะได้เมสซีไปร่วมทีม หลังจากเปิดโต๊ะเจรจากับนักเตะโดยตรง อีกทั้งมีความคืบหน้ามากขึ้นเรื่อย ๆ และคาดว่าจะบรรลุข้อตกลงกันได้ในไม่ช้า
#3050


ราคาทองฟิวเจอร์ ปิดวันพฤหัสบดี (5ส.ค.)ร่วงลง 5.60 ดอลลาร์ หลังจากที่นายริชาร์ด แคลริดา รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ภายในปีนี้ ก่อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566

สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 5.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,808.90 ดอลลาร์/ออนซ์

ทั้งนี้ นายแคลริดา กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายด้านการจ้างงานและเงินเฟ้อของเฟดภายในปลายปีหน้า ซึ่งจะทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

"ผมเชื่อว่าเศรษฐกิจจะบรรลุเงื่อนไขที่จำเป็นต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดภายในปลายปีหน้า และการกลับมาใช้นโยบายการเงินแบบปกติในปี 2566 จะสอดคล้องกับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ยแบบยืดหยุ่นของเฟด" นายแคลริดากล่าว

"หากการคาดการณ์ของผมเป็นจริง ก็คาดว่าเฟดจะประกาศปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรภายในปีนี้" เขากล่าว

คำกล่าวของนายแคลริดาสอดคล้องกับถ้อยแถลงก่อนหน้านี้ของนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ว่าการของเฟด โดยนายวอลเลอร์ ระบุว่า เฟดควรจะเริ่มปรับลดวงเงินคิวอีภายในเดือนต.ค.

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะเป็นตัวเลขจ้างงานตัวสุดท้าย ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค.

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในวันพรุ่งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 926,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. สูงกว่าที่เพิ่มขึ้น 850,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย.

หากตัวเลขการจ้างงานออกมาแข็งแกร่ง ก็จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เฟดเริ่มปรับลดวงเงินคิวอี

นักลงทุนคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงินคิวอีในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล
#3051


นักวิจัยต่างชาติผลิตวัคซีน "ไฟเซอร์" "โมเดอร์น" ประเภท mRNA ให้คนทั้งโลกใช้ และนักวิจัยไทยก็พยายามพัฒนาวัคซีนโควิดเช่นกัน คาดว่ากลางปีหน้า (2565)วัคซีน ChulaCov19 ประเภทmRNA และวัคซีนใบยา (จะสามารถนำมาใช้ในมนุษย์ได้เป็นแห่งแรกในเอเชีย) รวมถึง วัคซีนเชื้อตาย ของมหาวิทยาลัยมหิดล และวัคซีนของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)   

ทั้งหมด ถ้าผ่านขั้นทดลอง จนแน่ใจว่า มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสร้างภูมิคุ้มกันโควิดสายพันธุ์ใหม่ได้ ก็จะทยอยออกมา

ล่าสุด ทีมงานนักวิจัยคนไทยผู้พัฒนาวัคซีนโควิดทุกทีมกำลังทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำ เพื่อประชาชนไทย เพราะตั้งแต่โควิดระบาดระลอก 3 ทุกคนต่างเศร้าเสียใจที่คนไทยติดเชื้อไวรัสโควิด แล้วจากไปเหมือนใบไม้ร่วง 

แม้วัคซีนสัญชาติไทยจะออกมาช้า แต่ได้ใช้แน่นอน อาจใช้เป็นวัคซีนป้องกันโควิดเข็ม 3,4,5... เพราะการฉีดวัคซีนหนึ่งเข็มสามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้นาน 6-12 เดือน  ยกเว้นมีการคิดค้นใหม่ เพื่อให้วัคซีนสร้างภูมิคุ้มได้ยาวนานกว่านั้น

ถ้าอย่างนั้นมาดูสิ วัคซีนจากนักวิจัยไทยไปถึงไหนแล้ว



(ศ.นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม ผู้อำนวยการบริหารโครงการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับวัคซีนที่ทดลองในอาสาสมัครมนุษย์ -ภาพจากเฟซบุ๊ก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ )

1.วัคซีน ChulaCov19 

(เดือนสิงหาคม 64 ทดลองในมนุษย์)


-ประเภท mRNA 

ผลิตจากชิ้นส่วนขนาดจิ๋วสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนา (โดยไม่มีการใช้ตัวเชื้อแต่อย่างใด) ซึ่งเมื่อร่างกายได้รับชิ้นส่วนของสารพันธุกรรมขนาดจิ๋วนี้เข้าไป จะทำการสร้างเป็นโปรตีนที่เป็นส่วนปุ่มหนามของไวรัสขึ้น (spike protein) 

และกระตุ้นให้เกิดการสร้างภูมิคุ้มกันไว้เตรียมต่อสู้กับไวรัสเมื่อไปสัมผัสเชื้อ เมื่อวัคซีนชนิด mRNA ทำหน้าที่ให้ร่างกายสร้างโปรตีนเรียบร้อยแล้ว ภายในไม่กี่วัน mRNA นี้จะถูกสลายไปโดยไม่มีการสะสมในร่างกายแต่อย่างใด


-ผู้พัฒนาวัคซีน

ศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับแพทย์ นักวิทยาศาสตร์ ผู้คิดค้นเทคโนโลยีนี้ของโลกคือ Prof. Drew Weissman


-การทดลองที่ผ่านมา

หลังจากทดลองในลิงและหนู พบว่า สามารถยับยั้งไม่ให้เชื้อไวรัสเข้าสู่กระแสเลือดและสร้างภูมิคุ้มกันได้ในระดับสูง จึงนำมาสู่การผลิตการทดสอบทางคลินิกระยะที่ 1ให้กับอาสาสมัครเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2564 โดยแบ่งออกเป็นสองกลุ่มอายุ จำนวน 72 คน 

กลุ่มแรก เป็นอาสาสมัครผู้ที่มีอายุ 18-55 ปี ทดสอบจำนวน 36 คน

กลุ่มที่สอง เป็นอาสาสมัครผู้ที่มีอายุ 65-75 ปี ทดสอบจำนวน 36 คน

ในจำนวนสองกลุ่มข้างต้นจะแบ่งเป็นกลุ่มย่อยที่ฉีดวัคซีน 10 ไมโครกรัม, 25 ไมโครกรัม และ 50 ไมโครกรัม เพื่อดูว่า วัคซีน ChulaCov19 มีประสิทธิภาพสูงสุดที่ปริมาณเท่าไร เพราะปัจจุบันโมเดอร์นาใช้วัคซีนปริมาณ 100 ไมโครกรัม ส่วนไฟเซอร์ใช้ 30 ไมโครกรัม 

ถ้าการทดลองได้รู้ขนาดที่ปลอดภัยและกระตุ้นภูมิได้สูง จะเข้าสู่การทดสอบระยะที่ 2 จำนวน 150-300 คน คาดว่าเริ่มต้นฉีดเดือนสิงหาคม 2564 เป็นต้นไป


-จุดเด่น ChulaCov19

จากการทดสอบ มีคุณสมบัติอย่างหนึ่งคือ ความทนต่ออุณหภูมิของวัคซีน พบว่าวัคซีน ChulaCov19 อยู่ในอุณหภูมิตู้เย็น (2-8 องศาเซลเซียส) ได้นาน 3 เดือน และเก็บในอุณหภูมิห้อง (25 องศาเซลเซียส) ได้นาน 2 สัปดาห์ ทำให้การจัดเก็บรักษาง่ายกว่าวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ยี่ห้ออื่น 


-ความคืบหน้าวัคซีน

กำลังจะทดสอบในอาสาสมัครคนไทยเฟส 1 เพิ่มเติมในกลุ่มผู้สูงอายุ  คาดว่าจะรู้ผลว่าสร้างภูมิคุ้มกันปลายเดือนตุลาคม 2564 และคาดอีกว่าจะเป็นวัคซีนที่ผลิตสำหรับการฉีดกระตุ้นภูมิคุ้มกันเป็นเข็มที่ 3 สำหรับคนไทยโดยมีเป้าหมายว่าจะผลิตออกมา พร้อมขึ้นทะเบียนอย.ได้ในเดือนเมษายน 2565

(ที่มาข้อมูล : เฟซบุ๊คคณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาฯ) 

ศ.นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม ผู้อำนวยการบริหารโครงการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวไว้ในเฟซบุ๊คดังกล่าวว่า หากองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ (NIH) สามารถกำหนดหลักเกณฑ์ได้ว่า "วัคซีนที่มีประสิทธิภาพต้องกระตุ้นภูมิเท่าไร" ก็จะช่วยลดขั้นตอนได้ สมมติว่าเกณฑ์วัคซีนโควิด-19 ที่ดีต้องสร้างภูมิคุ้มกันมากกว่า 80 IU (International Unit)

"ถ้าวัคซีน ChulaCov19 สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้สูงกว่าค่านี้แสดงว่ามีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ก็สามารถยกเว้นการทำทดสอบทางคลินิกระยะที่สามได้ วัคซีนนี้อาจได้รับอนุมัติให้ผลิตเพื่อใช้ในคนจำนวนมากได้ภายในก่อนกลางปีหน้า"


(วัคซีน ChulaCov19 ประเภท mRNA อยู่ในขั้นตอนทดลองในมนุษย์ เดือนสิงหาคม 64)




2. วัคซีนจากใบยา

(เดือนสิงหาคม 64 ทดลองในอาสาสมัคร)


-ประเภทโปรตีนจากใบยา

เทคโนโลยีการผลิตโมเลกุลโปรตีนจากพืช คือใส่ยีนเข้าไปในพืช แล้วใช้กระบวนการผลิตของพืช ผลิตโปรตีนที่เราต้องการ โปรตีนที่ได้จึงมีความบริสุทธิ์ ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เป็นเทคโนโลยีที่มีมากว่า 15 ปี เคยใช้รักษาโรคอีโบล่า


-ผู้พัฒนาวัคซีน

รศ.ดร.วรัญญู พูลเจริญ คนต้นคิดวัคซีนจากใบยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี และผศ.ภญ.ดร.สุธีรา เตชคุณวุฒิ ประธานกรรมการบริหาร ทั้งสองทำงานแบบสตาร์ทอัพ ในนามบริษัทใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด ในความดูแลของ CU Enterprise

โดยการวิจัยพัฒนาวัคซีนชนิด Protein Subunit ดำเนินการโดยบริษัท ใบยาไฟโตฟาร์ม จํากัด ,คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล


(ในห้องทดลองบริษัทใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด) 

-การทดลอง 

-วัคซีนใบยาได้ผ่านการทดสอบในหนูและลิง ด้วยการฉีด 2 เข็มห่างกัน 3 สัปดาห์ ผลการทดสอบปรากฏว่าลิงมีความปลอดภัย และไม่เกิดผลข้างเคียงใด ๆ

ผลเลือดในลิงที่ใช้ทดลองมีค่าเอนไซม์ตับปกติ อีกทั้งจำนวนเม็ดเดือดแดงและเม็ดเลือดขาวอยู่ในเกณฑ์ปกติ นอกจากนี้เมื่อนำเปปไทด์ไปกระตุ้นเซลล์ของลิงพบว่า มีการกระตุ้น T Cell ได้ดี ซึ่งนับว่าการทดลองดังกล่าวประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ

-โดยกระบวนการผลิตวัคซีนที่ใช้พืช สามารถผลิตเป็นจำนวนครั้งละมาก ๆ ได้ และสามารถยกระดับจากการผลิตวัคซีนในห้องทดลอง มาเป็นการผลิตวัคซีนระดับอุตสาหกรรมได้ทันที

การผลิตวัคซีนจากใบยาสูบนี้สามารถผลิตได้ประมาณ 10,000 โดสต่อเดือนในห้องทดลองขนาดเล็กเท่านั้น จึงนับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคระบาดในอนาคต


-จุดเด่นวัคซีนใบยา

การผลิตจากพืช เมื่อเกิดการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19 ในอนาคต ทีมวิจัยสามารถนำรหัสพันธุกรรมของสายพันธุ์นั้นๆ มาผลิตเป็นวัคซีนใช้ได้ทันที เหมาะกับการผลิตวัคซีนที่เชื้อไวรัสมีสายพันธุ์ใหม่ๆ ออกมาตลอด ไม่ต้องเสียเวลานำเข้าวัคซีนเฉพาะบางสายพันธุ์จากต่างประเทศ

วัคซีนมีส่วนประกอบที่เป็นโปรตีน จึงค่อนมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง ในส่วนของประสิทธิภาพจะต้องมีการทดลองในมนุษย์กันต่อไปจึงสามารถวัดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น


-ความคืบหน้า

สิงหาคม-กันยายน 2564  ทดลองอาสาสมัครกลุ่มแรกจำนวน 50 คน อายุ 18 - 60 ปี โดยอาสาสมัครต้องมีสุขภาพแข็งแรงและไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน การทดสอบวัคซีน จะเริ่มในเดือนกันยายน

อาสาสมัครจะได้รับการฉีดวัคซีนจำนวนสองเข็ม เว้นระยะเวลาห่างกัน 3 สัปดาห์ เมื่อทดสอบกับอาสาสมัครกลุ่มแรกเสร็จเราก็จะทดสอบวัคซีนกับอาสาสมัครกลุ่มอายุ 60–75 ปี ต่อไป คาดว่าวัคซีนใบยาจะพร้อมฉีดให้คนไทยช่วงกลางปี 2565

รศ.ดร.วรัญญู พูลเจริญ คนต้นคิดวัคซีนจากใบยา ให้ข้อมูลกับ"กรุงเทพธุรกิจ"ไว้ว่า เทคโนโลยีการผลิตโมเลกุลโปรตีนจากพืช คือใส่ยีนเข้าไปในพืช แล้วใช้กระบวนการผลิตของพืช ผลิตโปรตีนที่เราต้องการ โปรตีนที่ได้จึงมีความบริสุทธิ์ ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้

"พืชที่เราปลูก ไม่ได้ใส่สารพันธุกรรม เป็นพืชธรรมชาติ จนกว่าจะโตเหมาะสม เราก็ฉีดอะโกรแบททีเรียม(การถ่ายโอนดีเอ็นเอ )เข้าไป หลังจากนั้น 4-5 วัน เราก็ตัดพืชมาสกัดโปรตีนที่ต้องการนำไปทดสอบ ต้องศึกษาเพิ่มเติมอีกว่า วันไหนพืชจะผลิตโปรตีนได้มากที่สุด"

หากถามว่า ทำไมต้องเป็นวัคซีนจากใบยา อาจารย์วรัญญู ให้ข้อมูลว่า

"มีโรคมากมายในโลกนี้ ที่ยังไม่มีวัคซีนป้องก้น ไม่ว่าเทคโนโลยีแบบไหนจะดีแค่ไหน ก็ต้องศึกษา เทคโนโลยีจากโมเลกุลโปรตีนพืชสามารถทำออกมาได้เร็ว ต่อให้ไม่ได้ผล เราก็รู้เร็ว เปลี่ยนได้เร็วการทำวัคซีนโควิดเราใช้ฐานความรู้ไวรัสซาร์สและเมอร์สมาพัฒนา นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกก็ทำแบบนี้"

3. วัคซีนมหาวิทยาลัยมหิดล 

(เดือนสิงหาคม 64 ทดลองในอาสาสมัคร)

-ชนิดเชื้อตาย HXP-GPOVac 

พัฒนาโดย คณะเวชศาสตร์เขตร้อน  มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับองค์การเภสัชกรรม สถาบัน PATH และ The University of Texas at Austin


นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เคยให้ข้อมูลความคืบหน้าไว้ในกรุงเทพธุรกิจว่า

"รายงานผลการทดสอบอย่างเป็นทางการ จะเลือกวัคซีน 2 สูตรที่ดีที่สุดจากการทดลองไป 5 สูตร เพื่อนำมมาทำการทดลองระยะที่ 2 ในอาสาสมัคร 250 คนในเดือนสิงหาคมนี้ และเลือก 1 สูตรที่ดีที่สุดเพื่อทดลองในระยะที่ 3 "

ส่วนการทดลองระยะที่ 3 ในภาคสนามกับอาสาสมัคร 1,000 - 10,000 คน โดยวัคซีนที่ผ่านการวิจัยในมนุษย์ทั้ง 3 ระยะแล้วจะถูกนำไปขึ้นทะเบียนกับองค์การอาหารและยา เพื่อเริ่มการผลิตต่อไป


ขอวัคซีนให้คนไทยทุกคน อย่างเท่าเทียม เสมอภาพ 

...................

4.วัคซีนสวทช. 

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)พัฒนาวัคซีนโควิดออกมา 2 ชนิด

1. Adenovirus ที่มีการแสดงออกของโปรตีนสไปค์ ออกแบบโดยการพ่นเข้าจมูกผ่านละอองฝอย รูปแบบนี้น่าจะเป็นวัคซีนที่ใกล้เคียงกับหลายๆ ที่ ที่กำลังทดสอบในเฟส1-2 ของทีม 

นักวิจัย สวทช. ผ่านการทดสอบในหนูทดลองที่ฉีดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว พบว่า หนูทดลอง นอกจากไม่มีอาการป่วย ยังมีน้ำหนักขึ้นสูงกว่ากลุ่มที่ฉีดเข้ากล้ามอย่างเห็นได้ชัด ผลการทดสอบความปลอดภัยไม่มีปัญหา

การผลิตในระดับ GMP ร่วมมือกับ KinGen BioTech เรากำลังจะทดสอบวัคซีนนี้ในอาสาสมัครมนุษย์ในรูปแบบที่สร้างจากไวรัสสายพันธุ์เดลต้าในเร็วๆนี้(เดือนสิงหาคม 64) ผลงานวิจัยกำลังเร่งรวบรวมผลส่งเข้าตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ

2. Influenza virus ที่มีการแสดงออกของโปรตีน RBD ของสไปค์ ตัวนี้กำลังต่อคิวทดสอบประสิทธิภาพการคุ้มโรคโควิด-19

และผลการวิจัยเรื่องระดับภูมิคุ้มกันในหนูทดลองได้ตีพิมพ์ไปแล้ว วัคซีนตัวนี้ร่วมมือกับทีมองค์การเภสัชกรรม และมีแผนจะออกมาทดสอบเป็นตัวต่อมา

"ในเรื่องของการกลายพันธุ์ที่หลายคนเป็นห่วง ขึ้นอยู่กับปัจจัย 2 อย่าง หนึ่ง.คนที่ได้รับวัคซีนต้องฉีด 2 เข็ม ไม่ใช่ฉีดเข็มแรกแล้วไม่ฉีดต่อ เพราะภูมิคุ้มกันจากเข็มแรก จะเข้าไปจับไวรัสแบบอ่อนๆ หลวมๆ ทำให้ไวรัสเปลี่ยนตัวเองได้และการกลายพันธุ์เกิดขึ้นเร็วกว่าปกติ ถ้าไม่มีการฉีดเข็มที่สอง

(ที่มาข้อมูล : เพจ Anan Jongkaewwattana)

ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ(ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เคยให้ข้อมูลกับกรุงเทพธุรกิจว่า  

"เราต้องการวัคซีนที่แข็งแรงจับไวรัสได้ ทำลายให้ตายในเวลาอันรวดเร็ว ไม่ให้เวลามันปรับตัวเปลี่ยนแปลงตัวเอง"
#3052


ขึ้นชื่อว่าเป็นรายการ "Survival Audition" ที่มีกติกาและหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกเด็กสาวที่ฝันอยากเป็นไอดอลมาร่วมรายการแบบเฉพาะตัว โดยให้สิทธิ์ขาดในกรรมการคนเดียวชี้ชะตาเด็กสาวผู้มีฝันว่าใครจะรอดหรือร่วง! ทำให้วันอาทิตย์ที่ผ่านมารายการ "Last Idol Thailand Presented by True 5G" (ลาสต์ ไอดอล ไทยแลนด์) ทางช่อง 7 HD ถูกจับตามองเรื่องการเกณฑ์ในการคัดเลือกของกรรมการที่มาร่วมรายการในแต่ละครั้ง

รูปแบบของ "ลาสต์ ไอดอล ไทยแลนด์" เน้นเฟ้นหาเด็กสาวธรรมดาที่มีออร่า ไม่จำเป็นต้องร้องเก่ง เต้นดี แต่ต้องมีเสน่ห์บางอย่างประกายออกมาในระหว่างที่พวกเธอวาดลีลาบนเวที โดยทางรายการจะคัดสมาชิกชั่วคราว 7 คน และให้ผู้ท้าชิงเลือกเอาว่าต้องการจะแข่งขันกับสมาชิกชั่วคราวคนไหน เมื่อโชว์ของทั้ง 2 คนจบลง ทางรายการจะประกาศหมายเลขที่กำหนดเอาไว้ว่าสัปดาห์นี้กรรมการที่จับได้ลูก.หมายเลขไหนเป็นผู้ตัดสิน เช่น ทางรายการกำหนดให้กรรมการที่จับได้ลูก.หมายเลข 3 เป็นผู้ตัดสินว่าจะให้ สมาชิกชั่วคราว หรือ ผู้ท้าชิง จะได้ไปต่อในรายการ ถ้าสัปดาห์นั้นผู้ท้าชิงสามารถชนะใจกรรมการได้ สมาชิกชั่วคราวคนนั้น ๆ ก็ต้องออกจากรายการไป แต่ถ้ากรรมการคนนั้น ๆ เทใจให้สมาชิกชั่วคราวมากกว่า ผู้ท้าชิงก็ต้องม้วนเสื่อกลับบ้านไป ด้วยกติกาที่ยกสิทธิ์ขาดในการตัดสินให้กับกรรมการเพียงคนเดียว

เรียกว่าคนที่จะได้ไปต่อในรายการนี้ "เก่งอย่างเดียวไม่พอ ดวงต้องรุ่ง" ด้วย ขณะเดียวกันก็ยังสร้างภาระอันหนักอึ้งให้กับกรรมการมาแล้วหลายต่อหลายคน เช่น สัปดาห์ที่นางเอกสาวมากฝีมือ หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ มาเป็นกรรกมการ เจ้าตัวถึงขั้นปาดน้ำตามาแล้ว หลังเธอแจ็กพ็อตต้องทำหน้าที่กรรมการติดต่อกัน 2 ครั้งรวด ดังนั้นไปฟังความรู้สึกของกรรมการหลาย ๆ คนที่เคยผ่านช่วงเวลาอันสุดโหดกันดีกว่าว่าพวกเขามีเกณฑ์ในการเป็นกรรมการให้กับ "ลาสต์ ไอดอล ไทยแลนด์" นั้น

เริ่มที่ หนึ่ง ETC กล่าวว่า "การเป็นกรรมการรายการนี้ก็ไม่ได้สนุกนะ เครียด กดดัน แต่ก็อยากมาอีก เพราะในความเครียดความกดดันมันมีเสน่ห์บางอย่างของรายการที่รู้สึกว่าไม่เหมือนการประกวดที่ไหน ทำให้เราได้เห็นคนหลาย ๆ แบบและได้ลองวิเคราะห์คนที่แตกต่างกันไป ในช่วงเวลาที่น้อง ๆ ร้องเพลงให้เราฟัง พยายามรับสารที่เขาต้องการส่งมาถึงเราให้มากที่สุด เพราะเราต้องใช้สิ่งเหล่านี้เป็นเกณฑ์ในการตัดสิน เพราะว่าบางคนอาจร้องเพี้ยนทั้งเพลง แต่ทัศนคติดี คาริสม่าได้ คุณสมบัติของไอดอลที่จะมัดใจผมได้ ต้องมีความเป็นธรรมชาติ มีพลังงานบวกในตัว คนเหล่านี้เวลาเจอสถานการณ์ที่บีบคั้นจะทำให้เรารู้เลยว่าเขามีทัศนคติที่ดีอย่างไรในสถานการณ์ที่กดดัน รายการนี้ ไม่ได้มองหาคนที่เก่งที่สุดอยู่แล้ว แต่เรามองหาคนที่พร้อมจะพัฒนาต่อครับ"

ฟาก แทน ลิปตา เผยว่า "สำหรับมองว่าคนที่จะเป็นไอดอลได้ ผมมองหาสิ่งที่ฝรั่งเรียกว่า "X Factor" เป็นปัจจัยที่บางครั้งเราไม่สามารถหาคำจำกัดความได้ มันคือประกายหรือเสน่ห์ในตัวน้อง ๆ รายการนี้ไม่ใช่รายการประกวดการเต้นหรือร้องเพลง ที่เราจะมาจับผิดเสียงร้องน้องว่าเพี้ยนตรงไหนไหม แต่มันมากกว่าการร้องเพลงดีหรือเต้นเก่ง มันคือการทำให้คนอื่นรักเรา เรามอบความสุขให้เขามากแค่ไหน สำหรับผมชอบคนที่ทัศนคติดี ซึ่งผมมักจะเห็นในไอดอลที่เก่ง ๆ ได้รับความนิยมสูง ๆ ครับ กับหน้าที่กรรมการในรายการนี้ ผมต้องพยายามมีสติกับตัวเอง ระมัดระวังคำพูด ต้องใช้ประสบการณ์และ feeling เพื่อมาดูว่าใครควรจะได้ไปต่อ รายการนี้โหดมาก ถ้าสติไม่อยู่กับตัวมันมีโอกาสที่จะเป็นประเด็นดราม่าได้ครับ"


ด้าน หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ กล่าวว่า "ก่อนมาอัดรายการคิดว่าน่าจะเป็นรายการไอดอลน่ารักสนุกสนาน ไม่คิดว่าทุกอย่างจะเข้มข้น ดุเดือดแบบนี้ รายการนี้ไม่ใช่ว่าคุณร้องเก่งเต้นเก่งแล้วคุณจะได้ตำแหน่งนั้น แต่มันคืออะไรบางอย่างที่เรารู้สึกแล้วมันมากระแทกใจเรา จริง ๆ หนูนาก็เคยผ่านการเป็นกรรมการต่าง ๆ มาบ้าง แต่รายการนี้แตกต่างจากที่ผ่านมา ยากและกดดันมาก ด้วยความที่ทั้งหมดมันคือความใฝ่ฝันของพวกเขา น้อง ๆ อาจจะเป็นที่ชื่นชอบของหลาย ๆ คน แต่เราต้องเป็นคนที่ตัดสินชี้ชะตาของเขา ทั้ง ๆ ที่มันอาจจะไม่ได้ถูกต้องไปซะทั้งหมด เราไม่รู้ว่าเราทำถูกหรือทำผิด แต่เราคือคนที่ต้องทำตรงนั้น เพราะฉะนั้นความรับผิดชอบของเราตรงนี้มันหนักมากค่ะ"

ต่อกันที่ ณัฐ วง "เคลียร์" เผยว่า "จริง ๆ ตอนแรกก็ลังเล แต่ก็อยากลองมาสัมผัสอีกโลกหนึ่งที่ใกล้ตัวแต่เรายังไม่เคยได้ก้าวเข้าไป เกณฑ์การตัดสินจะเป็นเรื่องคาริสม่ามากกว่าการร้องและเต้นดี ผมเน้นไปตรงที่ใครที่ให้ความสุขเราได้มากกว่าเวลาที่เขาอยู่บนเวที บางคนร้องเพี้ยนแต่ทำไมน้องคนนั้นทำให้เราขนลุกได้ เป็นสิ่งที่มองไม่เห็นจริง ๆ มันต้องมาสัมผัสเอง ผมขอเรียกว่า "เสน่ห์" แล้วกัน ถามว่าผมใช้เกณฑ์อะไรในการตัดสิน มันไม่มีมาตรฐานอะไรทั้งสิ้น มันมีรายละเอียดหลาย layer มากในการที่จะเลือกตัดสิน อย่างผมเองก็แทงสวนกับกรรมการหลายคนไป 2-3 รอบเหมือนกัน แต่พอเรามาคุยกันเราก็จะรู้ว่ากรรมการแต่ละคนอาจมองคนละมุมกัน มีความชอบต่างกัน บางทีก็มีเรื่องดวงมาประกอบด้วย แต่สำหรับผมนอกจากจะมองหาน้อง ๆ ที่มอบความสุขให้ผู้ฟังได้แล้ว ผมยังมองหาความเป็นนักสู้ในตัวของพวกเขาครับ"



ฟาก โบ ไทรอั้มพ์ คิงดอม กล่าวว่า "รายการนี้เขาเน้นดูที่คาริสม่ากับคาแร็คเตอร์ว่าเขาชัดเจนมากแค่ไหนค่ะ สำหรับโบคิดว่าคนที่จะมาเป็นไอดอลต้องมีเซอร์วิสมายด์ ที่จะเติมตัวเองเต็มและมอบให้กับคนอื่น นอกจากนี้ต้องมีความเป็นนักสู้ มันมาด้วยการฟาดฟันกัน ไม่ว่าจะออกมาหน้าจอหรือหลังจอมันมีกระบวนการที่ต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ถามว่าการเป็นกรรมการในรายการนี้เป็นยังไงบ้าง คือน้ำตาจะไหล กดดันมาก มันคือความฝันของเขา เหมือนเราไปทำลายความฝันของเขา โบเชื่อว่ามันยังไม่เป็นการเดบิวต์ เราให้โอกาสอีกคนด้วย เราพยายามทำเพื่อให้ ลาสต์ ไอดอล ดีขึ้นจริง ๆ ภาพรวมของวงเป็นสิ่งสำคัญ คุณสมบัติที่โบมองหาในตัวน้อง ๆ คือ ทัศนคติที่ดี ความมีเสน่ห์มีออร่า อย่างโบเป็นคนร้องเพลงเพี้ยน ไม่ได้เต้นเก่ง โบรู้ว่าเรื่องพวกนี้ฝึกกันได้ค่ะ"


ปิดท้ายกันที่ มด-ณปภัช วัฒนากมลวุฒิ เผยว่า "มดไม่เคยเป็นกรรมการตัดสินใด ๆ มาก่อน แต่พอเป็น "ลาสต์ ไอดอล ไทยแลนด์" มดเชื่อว่าเราสามารถเอาประสบการณ์ในการเป็นนักร้องของเรามาใช้ได้ เรารู้ว่าการที่จะแสดงให้คนรู้สึกสนุกไปกับเรา ต้องทำยังไง รายการนี้เป็นกลุ่มเด็กไอดอล มดรู้สึกว่าคาแร็คเตอร์ที่โดดเด่นเป็นอะไรที่สำคัญมาก เพื่อให้คนรู้สึกว่าฉันชอบคนนี้เพราะคาแร็คเตอร์แบบนี้ มันจะยิ่งดึงคนได้มากกว่าเดิม แต่ด้วยกติกาการตัดสินของรายการนี้ไม่เหมือนรายการอื่น ๆ มดว่าอยู่ที่ดวงด้วย เพราะกรรมการไม่ได้ประชุมเพื่อหามติส่วนข้างมากเป็นหลัก รายการนี้เขาให้กรรมการคน ๆ เดียวตัดสิน แล้วตัวกรรมการก็ยังต้องจับลูก.นำโชคเลย รายการนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ มดว่าการจะเป็นไอดอลได้ นอกจากบุคลิกภาพจะต้องดี มีเสน่ห์ ก็มีเรื่องดวงด้วย มันเหมือนจังหวะชีวิตของคนว่าเขาจะได้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ไหมค่ะ"

ติดตามชม "Last Idol Thailand Presented by True 5G" (ลาสต์ ไอดอล ไทยแลนด์) ได้ทุกวันอาทิตย์ เวลา 12.30-13.30 น. ทางช่อง 7 HD
#3054


ขอเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือกับสถานการณ์วิกฤตครั้งนี้ สำหรับคู่รักมาราธอนอย่างหนุ่ม "แดน วรเวช ดานุวงศ์" กับแฟนสาว "แพตตี้ อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา" ที่ล่าสุดทั้งคู่ก็ขอส่งต่อกำลังใจเล็กๆ ผ่านถุงยังชีพให้ผู้ที่เดือดร้อน

โดยสาว "แพทตี้" ได้โพสต์ภาพคู่ "แดน" ที่รายล้อมไปด้วยถุงยังชีพสีชมพูและสีฟ้า พร้อมแคปชั่น "ถุงยังชีพ ep3 แพคเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจเล็กๆจากอังนะคะ

และขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีที่ร่วมสนับสนุนด้วยนะคะ ขอบคุณชวนป๋วยปี่แปกอ ขอบคุณโรซ่า ขอบคุณไมโล ขอบคุณข้าวแสนดี ขอบคุณยาสีฟันเทพไทย ขอบคุณถุงผ้าเพิ่มพูนอินเตอร์เทรด ด้วยการบริจาค"
#3055


ทำเนียบขาวในวันพฤหัสบดี(5ส.ค.) ยืนยันอาจกำหนดให้ชาวต่างชาติเกือบทุกคนที่จะเดินทางเข้าสหรัฐฯ ต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบเสียก่อน ส่วนหนึ่งในแผนกลับมาเปิดการเดินทางระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตามยังไม่มีการตัดสินใจในเรื่องดังกล่าวและยังไม่มีการยกเลิกข้อจำกัดต่างๆในทันที

เจฟ ไซนส์ ผู้ประสานงานคณะทำงานเฉพาะกิจโควิด-19 ของทำเนียบขาว ยืนยันว่ากลุ่มทำงานระหว่างหน่วยงาน กำลังคิดแผนที่อาจออกข้อบังคับบางรูปแบบสำหรับกำหนดให้ชาวต่างชาติเกือบทุกคนที่จะเดินทางเข้าสหรัฐฯ ต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบเสียก่อน

"เราจะพร้อมเมื่อถึงเวลาที่ต้องพิจารณาเปิดพรมแดน" ไซนส์ กล่าวระหว่างแถลงสรุปสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำเนียบขาว

รายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า เวลานี้รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้จัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อทบทวนและนำระบบใหม่นี้มาใช้ทันทีที่พร้อมจะเปิดรับชาวต่างชาติอีกครั้ง ภายใต้เงื่อนไขว่าชาวต่างชาติจากทุกประเทศที่จะเดินทางเข้าสหรัฐฯ จะต้องได้รับวัคซีนครบแล้ว

ในถ้อยแถลงแยกกัน เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวยอมรับว่ามีความไม่สอดคล้องกันในข้อจำกัดต่างๆในปัจจุบันที่ห้ามนักเดินทางจากบางประเทศที่มีอัตราการติดเชื้อโควิด-19 ในระดับต่ำเดินทางเข้าสหรัฐฯ แต่กลับไม่ห้ามนักเดินทางจากประเทศอื่นๆที่มีอัตราการติดเชื้อในระดับสูง

อย่างไรก็ตามเธอเน้นว่ายังไม่เป็นที่แน่นอนว่าสหรัฐฯจะบังคับนักเดินทางจากต่างชาติฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบเสียก่อนหรือไม่

ทำเนียบขาวระบุในวันพฤหัสบดี(5ส.ค.) ว่ายังไม่พร้อมยกเลิกข้อจำกัดต่างๆในทันที เพราะว่าเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นและการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์เดลตาที่แพร่เชื้อได้ง่ายมาก

รัฐบาลอเมริกันเริ่มจำกัดการเดินทางของชาวต่างชาติที่จะเข้ามายังสหรัฐฯ โดยเริ่มจากประเทศจีนในเดือนมกราคม 2020 เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก่อนที่จะเพิ่มรายชื่อประเทศต่างๆ ที่มีการระบาดในระดับสูงในประเทศนั้นๆ โดยล่าสุดได้แก่อินเดีย

ทำเนียบขาวได้หารือกับสายการบินต่างๆและอื่นๆว่าจะสามารถบังคับใช้กฎเกณฑ์ใหม่นี้ได้อย่างไร ขณะเดียวกันรัฐบาลก็ต้องพิจารณาว่าจะยอมรับหลักฐานหรือเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนแบบไหน และจะยอมรับวัคซีนโควิดที่บางประเทศใช้หรือไม่ ขณะที่มันยังไม่ผ่านการรับรองของคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบของสหรัฐฯ

ปัจจุบันสหรัฐฯห้ามนักเดินทางที่ไม่ใช่พลเมืองสหรัฐฯเกือบทุกคนที่อยู่ในสหราชอาณาจักร กลุ่มประเทศเชงเก้น 26 ชาติในยุุโรป ไอร์แลนด์ จีน อินเดีย แอฟริกาใต้ อิหร่านและบราซิล ในช่วง 14 วันหลังสุดเดินทางเข้าประเทศ

ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าแผนดังกล่าวจะบังคับใช้กับชาวต่างชาติที่เดินทางทางบกผ่านพรมแดนที่ติดกับแคนาดาและเม็กซิโกด้วยเงื่อนไขเดียวกันหรือไม่

เจ้าหน้าที่ด้านอุตสาหกรรมการบินระบุว่าอาจต้องใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์หรือบางทีอาจหลายเดือน ก่อนข้อจำกัดด้านการเดินทางจะถูกยกเลิก ขณะที่ฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์บางส่วนระบุว่ามันไม่สมเหตุสมผล เพราะว่าบางประเทศที่มีอัตราการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในระดับสูง ไม่ได้อยู่ในรายชื่อประเทศที่จำกัดด้านการเดินทาง ขณะที่บางประเทศที่สามารถควบคุมโรคระบาดใหญ่ได้แล้วกลับมีรายชื่ออยู่ในบัญชีดังกล่าว

(ที่มา:รอยเตอร์)
#3056


ราคาน้ำมันขยับขึ้นราว 1% ในวันพฤหัสบดี(5ส.ค.) ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวก ได้แรงหนุนจากข้อมูลภาคแรงงานสหรัฐฯ ความเคลื่อนไหวของตลาดทุนฉุดให้ราคาทองคำปรับลด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 94 เซนต์ ปิดที่ 69.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 91 เซนต์ ปิดที่ 71.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

เครื่องบินรบของอิสราเอลปฏิบัติการโจมตีในสิ่งที่พวกเขาระบุว่าเป็นฐานยิงจรวดในเลบานอนในวันพฤหัสบดี(5ส.ค.) ตอบโต้เหตุยิงจรวด 2 ลูกจากดินแดนเลบานอนเข้าใส่อิสราเอล ในสถานการณ์ความเป็นปรปักษ์ข้ามพรมแดนที่ลุกลามบานปลาย ท่ามกลางความตึงเครียดกับอิหร่าน

ความตึงเครียดดังกล่างก่อความกังวลเกี่ยวกับอุปทานทางพลังงาน ส่งผลให้ราคาน้ำมันฟื้นตัวในวันพฤหัสบดี(5ส.ค.)

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพฤหัสบดี(5ส.ค.) ปิดบวก เอสแอนด์พี500และแนสแดคทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากข้อมูลผู้เข้ารับสวัสดิการคนว่างงานที่ดีขึ้น ก่อนสหรัฐฯเผยแพร่รายงานการจ้างงานรายเดือนในวันศุกร์(6ส.ค.)

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 271.58 จุด (0.78 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 35,064.25 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 26.44 จุด (0.60 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,429.10 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 114.58 จุด (0.78 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,895.12 จุด

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 14,000 ราย สู่ระดับ 385,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ข้อมูลนี้ถูกเผยแพร่ออกมาก่อนหน้าที่จะมีการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานรายเดือนในวันศุกร์(6ส.ค.) ซึ่งพวกนักวิเคราะห์คาดหมายว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะมีการจ้างงานเพิ่มเติมถึง 925,000 ตำแหน่ง และอัตราคนว่างงานน่าจะลดลงสู่ระดับ 5.6%

ส่วนราคาทองคำปิดลบในวันพฤหัสบดี(5ส.ค.) หลังผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 5.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,808.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์

(ที่มา:รอยเตอร์/มาร์เก็ตวอตช์)
#3057


เมื่อเกือบสิบปีก่อน "ทีโม่ ทรังก์ส" (TIMO TRUNKS) แบรนด์แฟชั่นกางเกงว่ายน้ำชายของไทย โลดแล่นอยู่ในวงการแฟชั่นไทยแบบไม่หวือหวามากนัก แต่วันนี้ ทีโม่ โด่งดังระดับอินเตอร์ จำหน่ายใน 14 ประเทศทั่วโลก และไม่ได้มีเพียงกางเกงว่ายน้ำแบบขาสั้นเท่านั้น แต่ยังมีไลน์กางเกงว่ายน้ำแบบบิกินีทรงเต็มตัว (Square Cut) ออกแบบมาเพื่อนักว่ายน้ำโดยเฉพาะ เหมาะกับช่วงนี้ที่หลายคนกำลังสนใจการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศญี่ปุ่น และกางเกงเล่นเซิร์ฟ ที่เน้นความเนี้ยบ เท่ ตัดเย็บอย่างทันสมัย ลายผ้าอันลือลั่น พร้อมด้วยเรื่องราวอันแหวกแนวของที่มาแต่ละลวดลาย ที่สำคัญ นับตั้งแต่ก่อตั้งทีโม่ขึ้นเมื่อปี 2011 "สรรพสิทธิ์ ฟุ้งเฟื่องเชวง" หรือ "เป๋า" ยังคงรับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์มาโดยตลอด



เมื่อไม่นานมานี้ ทีโม่ได้รับความสนใจจากคอลัมนิสต์แฟชั่นชื่อดัง ของสื่อที่ทรงอิทธิพลอีกครั้ง อย่าง "ฟอร์บ สหรัฐอเมริกา" (Forbes USA) ได้ไปสัมภาษณ์ถึงดีเอ็นเอของ ทีโม่ ทรังก์ส และกลยุทธ์การตลาดอันเฉียบคม ทั้งยังมองว่า ทีโม่จะเป็นกางเกงว่ายน้ำชายอันนำสมัยในอนาคตอีกด้วย

"โจเซฟ ดีอะเซติส" แฟชั่นคอลัมนิสต์ชื่อดัง ฟอร์บ สหรัฐอเมริกา ได้เขียนถึงทีโม่ว่า เป็นแบรน์ที่ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่วงการชุดว่ายน้ำชายของโลก ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดว่าสินค้าจะพัฒนาไปในทิศทางใดในอนาคต เพราะชุดว่ายน้ำชายทีโม่ออกแบบมาได้อย่างลงตัว ที่มีครบทุกองค์ประกอบ อย่างแรกคือ มีความทนทานและมีฟังก์ชั่นแบบชุดกีฬา เน้นการออกแบบที่เรียกว่า Performance Wear ที่มีความเบาสบาย แถมยังใช้ "ผ้าที่แห้งเร็วมาก" แต่สีไม่จางไปตามกาลเวลา



องค์ประกอบอย่างที่สองคือ การมีอัตลักษ์ด้านดีไซน์ชัดเจน การออกแบบลวดลายที่เหมือนการนำอตีดกับอนาคตมาบรรจบกัน แบบที่ไม่เคยมีแบรนด์ไหนทำมาก่อน อาทิ ลวดลายรูปทรงเรขาคณิตแบบคลาสสิกโบราณ มาปรับให้กลายเป็นลายมินิมอล ดูมีทั้งความคลาสสิกและล้ำสมัยในตัวเดียวแบบไม่มีวันตกยุค รวมทั้งการร่วมมือออกแบบกับศิลปินดังทั่วโลก ไปจนถึงการออกแบบร่วมกับเด็กออทิสติก หรือการให้โอกาสตรีในทัณฑสถาน ได้มีส่วนร่วมในการผลิตสินค้า หากใครอยากจะดูโดดเด่นในกางเกงว่ายน้ำขาสั้น ลายที่เท่ทรงพลังของทีโม่จะเป็นที่ถูกใจอย่างแน่นอน

องค์ประกอบที่สามคือ การสร้างสินค้าแบบบูรณาการ ด้วยการผลิตสินค้าที่ช่วยลดคาร์บอนฟุตพรินต์ (Carbon Footprint) หรือเรียกได้ว่าการผลิตที่ช่วยให้โลกยั่งยืน

เมื่อทีโม่ขยับพลิกโฉมวงการชุดว่ายน้ำชาย ด้วยการพัฒนาสินค้าชั้นเยี่ยมสุดพิถีพิถัน ครบฟังก์ชั่นแบบกีฬา สร้างสรรค์ระดับแนวหน้าแฟชั่นระดับอินเตอร์ และการผลิตแบบใส่ใจโลก ทั้งหมดเป็นการสร้างแบบฉบับมาตรฐานใหม่ ให้แก่วงการชุดว่ายน้ำของโลก ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า นี่คือชุดว่ายน้ำแห่งอนาคตอย่างแท้จริง โดยคอลเลกชันใหม่ของทีโม่ ได้เผยโฉมกางเกงว่ายน้ำแบบสั้นเข้ากับรูปทรงเต็มตัว (Square-Cut Brief) ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากแฟชั่นยุค 1970s และกางเกงโต้คลื่นที่มีความล้ำอนาคต พร้อมเผยความมุ่งมั่นกับการตั้งฐานการผลิตใกล้จุดขาย เพื่อลดคาร์บอนฟูตพรินต์ และเจาะลึกว่าอะไรที่เป็นเทคนิคการสร้างสินค้า ที่จะมีพลังสามารถดึงดูดความสนใจจากกลุ่มลูกค้าผู้ชาย ที่เรียกได้ว่าเป็นตลาดสินค้าแฟชั่นที่หินมาก



ด้าน "เป๋า สรรพสิทธิ์" ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการสร้างสรรคทีโม่ เปิดเผยว่า "ผมพัฒนาและออกแบบโรงแรม รีสอร์ต มาแล้วหลายแห่ง ในช่วงเวลาหลายปีนั้น ผมเดินทางไปท่องเที่ยวตามเกาะต่างๆ หลายที่ แต่ยังไม่เจอชุดว่ายน้ำแบบที่ผมชอบเลย ดังนั้น ผมจึงตัดสินใจว่าจะเป็นผู้ผลิตสินค้าแฟชั่นด้านนี้เอง โดยเน้นเอกลักษณ์ของแบรนด์ไปที่การสร้างลวดลาย โดยแต่ละซีซันส์ ทีโม่จะออกแบบลายผ้าที่คิดว่าสวยและใหม่ที่สุดมากถึง 30 ลาย แต่จะมีเพียง 12 ลายที่ดีที่สุดเท่านั้น ที่ถูกเลือกเข้ามาอยู่ในคอลเลกชันนี้ จึงทำให้เราเรียกได้ว่าเป็น "นวัตกรรมแฟชั่น" ระดับโลกอย่างแท้จริง"

"เราเลือกเฉพาะลายที่ใหม่ที่สุด และลายที่ไม่เคยมีใครในโลกทำมาก่อน ปัจจุบันเราได้นำเสนอลวดลายใหม่ๆ ออกสู่ตลาดไปแล้วหลายร้อยลวดลาย จนถึงขั้นต้องจัดทำคลังเก็บลวดลายผ้าไว้ในศูนย์ ฐานข้อมูลที่สตูดิโอ ซึ่งผู้ชายจะไม่เหมือนกับผู้หญิง ตรงที่เวลาไปเที่ยวทะเลจะต้องมีชุดว่ายน้ำหลากหลายแบบ แต่ผู้ชายจะไม่ได้ซื้อชุดว่ายน้ำใหม่กันบ่อยๆ จึงจะใส่ชุดว่ายน้ำตัวเดิมซ้ำๆ กัน ดังนั้น การจะดึงดูดความสนใจของผู้ชาย จึงต้องมีลวดลายที่ไม่เพียงสะดุดตาเท่านั้น แต่จะต้องเป็นลวดลายที่เข้าใจถึงความชอบของเขาอย่างลึกซึ้ง ชนิดที่เห็นแล้วต้องซื้อทันที"



สำหรับปัจจัยที่ทำให้ยังคงพยายามขับเคลื่อนการลดคาร์บอนฟูตพรินต์ต่อไปนั้น เป๋า สรรพสิทธิ์ เผยว่า "เราเดินหน้าผลิตสินค้าของ TIMO ในโซนที่เรามีการจัดจำหน่ายสินค้าแบบรีเทล ยกตัวอย่างเช่น ตลาดในสหภาพยุโรป เราเริ่มจับมือเป็นพันธมิตรกับผู้ผลิตในอิตาลี โดยมีแผนที่จะผลิตกางเกงว่ายน้ำ มุ่งหน้าลดคาร์บอนฟุตพรินต์ ที่เลือกวัสดุสินค้าที่ไม่จำเป็นต้องขนส่งไปรอบโลกหลายครั้ง กว่าจะถึงมือลูกค้าเหมือนแต่ก่อน โดยตั้งแต่คอลเลกชัน 2023 เป็นต้นไป สินค้าที่จะจัดจำหน่ายในตลาดสหภาพยุโรป ก็จะผลิตในภูมิภาคนั้น หรือสินค้าที่จะจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา เราก็จะตั้งฐานการผลิตที่นั่นเลย ส่วนตลาดเอเชียสินค้าของเราทั้งหมดจะใช้ฐานการผลิตในประเทศไทย"

เมื่อถามถึงสไตล์ที่อินเทรนด์กับโทนสีของฤดูกาลนี้ ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ TIMO มองว่า ลวดลายรูปทรงเรขาคณิตและมินิมัลยังคงเป็นสินค้ายอดฮิตเหมือนเช่นฤดูกาลก่อนๆ "นอกจากนี้ เรายังใช้เทคนิคพื้นเมือง อย่างเช่น การมัดย้อมแบบญี่ปุ่นในสีแบบดั้งเดิมสำหรับการผลิต ที่เห็นได้ชัดว่าผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับฟังก์ชั่นแบบกีฬา ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงมากขึ้น เน้นการใช้งานและความทนทานไปพร้อมๆ กับสไตล์ ด้วยเหตุนี้เราถึงเปิดตัวคอลเลกชันกางเกงว่ายน้ำแบบบรีฟ (Brief) ที่มีความแนบเนื้อ ปลายขาตรงแบบเต็มตัว ที่ออกแบบมาสำหรับคนที่ว่ายน้ำแบบกีฬาในสระโดยเฉพาะ

รวมทั้งยังมีคอลเลกชัน ทีโม่ เซิร์ฟ (TIMO Surf) ที่นำเสนอกางเกงขาสั้นสำหรับเล่นกระดานโต้คลื่นอันทันสมัย พร้อมกลิ่นอายสุดคลาสสิกของยุค 1970s ตลอดจนเสื้อกีฬาอันล้ำสมัย และลวดลายเด็ดๆ แห่งอนาคต" เป๋า สรรพสิทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย
#3058


นายแพทย์แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาวและผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ (เอ็นไอเอไอดี) เปิดเผยในวันพุธ (4 ส.ค.) ว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาในสหรัฐอาจเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจนแตะที่ 200,000 รายต่อวันในช่วงฤดูใบไม้ร่วง

"จำได้ไหมครับว่า เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เรามีผู้ติดเชื้อ 10,000 รายต่อวัน ผมคิดว่ามีแนวโน้มที่เราจะได้เห็นจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 100,000-200,000 ราย" นายแพทย์เฟาชีกล่าว

นายแพทย์เฟาชียังกล่าวว่า "ยอดผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตากำลังพุ่งสูงขึ้นทั่วสหรัฐ และสถานการณ์อาจเลวร้ายเมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง เว้นเสียแต่ว่าชาวอเมริกันที่ยังไม่ฉีดวัคซีนซึ่งมีอยู่มากจะตัดสินใจไปฉีดวัคซีน"

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

"สถานการณ์ที่เราเห็นกันอยู่ตอนนี้เกิดขึ้นเพราะอัตราการติดเชื้อที่รวดเร็ว และยังมีคนที่มีสิทธิ์ฉีดวัคซีนแต่ยังไม่ไปฉีดอีกประมาณ 93 ล้านคนทั่วประเทศ คนกลุ่มนี้จึงเป็นกลุ่มใหญ่ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูง"

นายแพทย์ใหญ่ยังแสดงความกังวลถึงจำนวนผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดไวรัสกลายพันธุ์ที่ต้านทานต่อวัคซีนได้มากขึ้น

"หากเราไม่หยุดยั้งการแพร่ระบาดด้วยการระดมฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรส่วนใหญ่ สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาก็คือ ไวรัสจะระบาดในฤดูใบไม้ร่วงต่อเนื่องไปจนถึงฤดูหนาว ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้ไวรัสกลายพันธุ์ได้"

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ของสหรัฐเมื่อวันที่ 2 ส.ค.ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของสหรัฐเฉลี่ยรายวันในรอบ 7 วันอยู่ที่ 84,389 ราย
#3059


บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล(ไฟลิ่ง)ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในการออกและเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2564 จำนวน 5 ชุด มูลค่ารวมไม่เกิน 47,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ชุดที่ 1 มูลค่าไม่เกิน 4,000 ล้านบาท เป็นหุ้นกู้ไม่มีประกันประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัวอ้างอิงอัตราดอกเบี้ย THOR ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2564 อายุ 1 ปี 6 เดือน ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2566 อัตราดอกเบี้ยลอยตัว โดยใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง Compounded THOR + ร้อยละ 0.18 ต่อปี ชำระดอกเบี้ยครั้งเดียว ณ วันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้

ชุดที่ 2 เป็นหุ้นกู้ไม่มีประกัน เสนอขายไม่เกิน 15,000 ล้านบาท อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2567 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 0.96% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ชุดที่ 3 เป็นหุ้นกู้ไม่มีประกัน เสนอขายไม่เกิน 15,000 ล้านบาท อายุ 5 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2569 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 1.31% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้

ชุดที่ 4 เป็นหุ้นกู้ไม่มีประกัน เสนอขายไม่เกิน 5,000 ล้านบาท อายุ 7 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2571 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 1.79% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ และชุดที่ 5 เป็นหุ้นกู้ไม่มีประกัน เสนอขายไม่เกิน 8,000 ล้านบาท อายุ 10 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2574 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.37% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้

ทั้งนี้ เสนอขายหุ้นกู้ ระหว่างวันที่ 3-5 ส.ค.2564  ปตท.จะเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าวให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ ผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ คือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ โดยบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ที่ระดับ "AAA(tha)" เมื่อวันที่ 12 ก.ค.2564

สำหรับเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ไปใช้ในการลงทุน และหรือเป็นเงินทุนหมุนเวียนทั่วไป และหรือเพื่อทดแทนหนี้ที่ครบกำหนดชำระ โดยจะนำเงินมาใช้ภายในวันที่ 31 ธ.ค.2564
#3060


ดูสถานะของเตียงและอัปเดตสถานะของเตียงในโรงพยาบาลสนามได้ฟรีสำหรับ IQ Hospital ระบบเว็บแอปพลิเคชันที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ต้องบริหารจัดการเตียงสนาม เพื่อให้วางแผนการจัดการเตียงได้อย่างทันท่วงทีเมื่อมีผู้ป่วยเข้ามา เจ้าหน้าที่จะสามารถป้อนข้อมูลในระบบเพื่อบันทึกว่าคนไข้ใช้เตียงไหน และอัปเดตปรับสถานะของเตียงในระบบส่วนกลาง ซึ่งจะสามารถดูผลสรุปของข้อมูลได้แบบ Real Time โดยที่ไม่ต้องตรวจสอบข้อมูลไปมาผ่านกระดาษ 

นายพัศพงศ์ เจริญพันธ์ จากบริษัทไอโอทีแดช กล่าวว่า หากมีการนำระบบนี้ไปใช้งาน แพร่หลายในโรงพยาบาลสนามต่างๆ จะทำให้เกิดการบูรณาการข้อมูล ซึ่งจะทำให้เห็นภาพรวมของการให้บริการ

"จะเป็นประโยชน์แก่การให้บริการต่อพี่น้องประชาชน เจ้าหน้าที่จะเห็นภาพรวมเลยว่าโรงพยาบาลไหนว่างอยู่บ้าง จะได้ไม่ต้องให้ประชาชนกางเต็นท์นอนรอ และไม่รู้ว่ามีเตียงที่ไหนว่าง"



เว็บแอปนี้เกิดจากการผนึกกำลังของทีม Startup นักพัฒนาแอปมืออาชีพ นายชานน จรัสสุทธิกุล เจ้าของแพลตฟอร์ม DeFi Forward และบริษัท ไอโอทีแดช จำกัด ด้วยเห็นปัญหาของการบริหารจัดการเตียงของบางโรงพยาบาลสนามในสถานการณ์โควิค-19 ที่อาจจะต้องใช้วิธีการจดมือ หรือวาดลงบนกระดาษ/กระดานดำ ทำให้ยากแก่การคำนวณ หรือดูผลสรุปข้อมูลการจัดการเตียงในโรงพยาบาล ซึ่งทีมได้ใช้เวลาในการพัฒนาแอปอย่างเร่งด่วน แล้วเสร็จในเวลา 3 วัน และได้นำไปใช้งานจริงแล้วในโรงพยาบาลสนามบุรีรัมย์ 

โรงพยาบาลสนามที่สนใจสามารถติดต่อเพื่อขอใช้ได้ฟรีที่ chanon@forward.market และ patsapong@iotdash.io