• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Hanako5

#4321
ไฟเบอร์ปรับสมดุลลำไส้ด้วยมิสเอเส้นใย เพียงแต่ 1 แก้วต่อวัน ช่วยควบคุมน้ำหนัก ลดระดับคลอเรสเตอรอล
ลดปริมาณน้ำตาลภายใน
เลือด กำจัดพิษในลำไส้ 
ไฟเบอร์ปรับสมดุลลำไส้เพิ่มความละมุนเนียนนุ่ม และกระจ่างใสให้กับผิว กระตุ้นสุขภาพผิวให้แข็งแรง 
ไฟเบอร์ปรับสมดุลลำไส้มองมีชีวิตชีวา ผิวเรีบบเนียนไม่มีสะดุด หยุดทุกสายตา สร้างเสริมองค์ประกอบของผิวให้มองอ่อนโยนละมุนละมัย ไม่
ไฟเบอร์ปรับสมดุลลำไส้{หยาบกร้าน|
กระด้าhttps://bit.ly/3LbADGk


https://bit.ly/36OOnI9
#4323
องค์การยายุโรปไฟเขียวใช้ยา 'เอวูเชลด์' ของแอสตร้าฯป้องกันโควิด-19

องค์การยาแห่งยุโรป (EMA) ประกาศเมื่อวานนี้ (24 มี.ค) เกี่ยวกับคำแนะนำให้ใช้ยา 'เอวูเชลด์' (Evusheld) ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ขณะที่ยุโรปกำลังเผชิญกับยอดผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้น และอัตราการฉีดวัคซีนในผู้ใหญ่ที่ไม่คืบหน้า

ข้อมูลล่าสุดระบุว่า อัตราการติดเชื้อในยุโรปพุ่งสูงขึ้นอีกครั้งในเดือนนี้ ขณะที่อัตราการฉีดวัคซีนในผู้ใหญ่หยุดนิ่งอยู่ที่ระดับเหนือ 83% เพียงเล็กน้อย

ทั้งนี้ EMA แนะนำว่า ควรใช้ยาเอวูเชลด์ในกลุ่มผู้ใหญ่และวัยรุ่นอายุ 12 ปีขึ้นไปที่ยังไม่เคยติดเชื้อโควิด-19

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ยาแอนติบอดีของบริษัทอื่น ๆ เช่น รีเจเนอรอน ฟาร์มาซูติคอล (Regeneron Pharmaceuticals), อิไล ลิลลี่ (Eli Lilly), แกล็กโซสมิธไคลน์ (GSK) และเวียร์ ไบโอเทคโนโลยี (Vir Biotechnology) ได้รับการอนุมัติสำหรับใช้กับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 แล้ว โดยรายงานระบุว่า ยาแอนติบอดีของรีเจเนอรอนก็สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ได้

ทั้งนี้ คาดว่ายาเอวูลเชลด์จะมีการนำไปใช้กับกลุ่มที่มีระบบภูมิคุ้มกันร่างกายที่อ่อนแอเพื่อแบ่งเบาภาระของระบบสาธารณสุข เนื่องจากวัคซีนทั่วไปจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างแอนติบอดีและเซลล์ต้านไวรัสที่ต้องการขึ้นมาซึ่งระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแออาจไม่สามารถทำได้ ในขณะที่ยาเอวูเชลด์นั้นมีแอนติบอดีสังเคราะห์ที่สามารถคงอยู่ในร่างกายได้หลายเดือนเพื่อควบคุมไวรัสในกรณีที่ติดเชื้อ
#4324


ตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานและตรวจร่างกายก่อนเริ่มงาน

ราคาสบายกระเป๋า สะดวก รวดเร็ว

แพ็กเกจที่หลากหลาย คุ้มค่า

ถูกต้อง ครบถ้วน ทันเวลา ไม่ต้องรอคิวหลายขั้นตอน ดูผลออนไลน์ได้

คำนวณค่าใช้จ่ายก่อนรับบริการได้ ตอบไว ตอบเร็ว

มั่นใจในคุณภาพบริการ เป็นกันเอง อธิบายชัดเจน

ราคาสบายกระเป๋า พร้อมช่วยเหลือหลังรับบริการ

Tags :: ตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน,ตรวจร่างกายก่อนเริ่มงาน,ตรวจสุขภาพร่างกายก่อนเริ่มงาน
#4325
เดอะคลาสคลินิก เป็นสถานพยาบาลเวชกรรมเฉพาะทางด้านศัลยศาสตร์ตกแต่ง ที่ได้รับ เสริมหน้าอก ใต้กล้ามเนื้อ เหนือกล้ามเนื้อ
การรับรองประสิทธิภาพให้เป็นคลินิกที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์  เสริมหน้าอก ใต้กล้ามเนื้อ เหนือกล้ามเนื้อ
ที่มีห้องผ่าตัดขนาดใหญ่เสมอกันโรงหมอโดยกระทรวงสาธารณสุข เปิดให้บริการด้านศัลยกรรมตกแต่งโดยหมอ  เสริมหน้าอก ใต้กล้ามเนื้อ เหนือกล้ามเนื้อ
จบกระดานเฉพาะทาง และก็ เสริมความงาม
ด้านผิวพรรณ ภายใต้การดูแลโดย พันตรีแพทย์ ธีรภัทร์ จิตใจประสาท คุณครูหมอ  เสริมหน้าอก ใต้กล้ามเนื้อ เหนือกล้ามเนื้อ
เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง มีความตั้งอกตั้งใจให้บริการทุกท่านภายใต้หลักความนึกคิดที่ว่า

"คนป่วยทุกคนต้องได้ผลดีที่สุดในแบบที่เป็นคุณ"


https://bit.ly/3NgZfiS
#4326
เดอะคลาสคลินิก เป็นคลินิกเวชศาสตร์เฉพาะทางด้านศัลยศาสตร์ตกแต่ง ที่ได้รับ เสริมหน้าอก พังผืด
การรับรองคุณภาพให้เป็นคลินิกที่ได้มาตรฐานด้านการแพทย์  เสริมหน้าอก พังผืด
ที่มีห้องผ่าตัดขนาดใหญ่เท่ากันโรงพยาบาลโดยกระทรวงสาธารณสุข เปิดให้บริการด้านศัลยกรรมตกแต่งโดยแพทย์  เสริมหน้าอก พังผืด
จบบอร์ดเฉพาะทาง และก็ เสริมความงาม
ด้านผิวพรรณ ภายใต้การดูแลโดย พันตรีแพทย์ ธีรภัทร์ ดวงใจประสาท คุณครูแพทย์  เสริมหน้าอก พังผืด
เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง มีความตั้งใจให้บริการทุกคนภายใต้หลักความคิดที่ว่า

"คนป่วยทุกคนจำต้องได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในแบบที่เป็นคุณ"


https://bit.ly/3IIDLrA
#4327
จำหน่ายเครื่องออกกําลังกาย อุปกรณ์ฟิตเนส ดัมเบล ม้าดัมเบล ชุดดัมเบลปรับน้ำหนัก บาร์เบล แผ่นเหล็กน้ำหนัก จักรยานออกกําลังกาย ลู่วิ่งไฟฟ้า

บทความนี้อาจจะเป็นเหมือนการแนะนำตัวของบริษัทเราเกี่ยวกับการ จำหน่ายเครื่องออกกําลังกาย อุปกรณ์ฟิตเนส ดัมเบล ม้าดัมเบล ชุดดัมเบลปรับน้ำหนัก บาร์เบล แผ่นเหล็กน้ำหนัก จักรยานออกกําลังกาย ลู่วิ่งไฟฟ้า และอุปกรณ์การออกกำลังกายทุกชนิดเลยก็ว่านี้ สินค้าของเราจะเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ  จำหน่ายเครื่องออกกำลังกาย ฟิตเนส คุณภาพต้องดีเพื่อไม่ให้เสียชื่อของบริษัทและที่สำคัญราคาเป็นมิตรไม่แพงจนเกินไป สำหรับบทความนี้ถ้าหากท่านใดเป็นผู้อ่านสายสุขภาพและชื่นชอบการออกกำลังกายไม่ควรพลาดเลยทีเดียว โดยเราได้เตรียมเรื่องราวดีๆเกี่ยวกับการออกกำลังกายและอุปกรณ์ที่บอกได้เลยว่า จำหน่ายเครื่องออกกำลังกายฟิตเนส เครื่องไหนที่ใช้สำหรับคุณเรามีมาแนะนำกันอย่างแน่นอน ซึ่งเราได้แบ่งเป็นหมวดหมู่สำหรับกลุ่มคนที่อยากออกกำลังกายตามไลฟ์สไตล์ต่างๆ ซึ่งจะมีรูปแบบไหนบ้างต้องมาอ่านกันในบทความนี้แล้ว

Facebook : CCT Fitness นำเข้าเครื่องออกกำลังกาย
Tel: 089-750-7380
สนใจชมตัวอย่างสินค้า >> https://goo.gl/maps/RBNaNTLmk8LD3T2A8 
#4328
Anonymous ยันสามารถแฮกข้อมูลลับแบงก์ชาติรัสเซีย เตรียมแฉใน 48 ชั่วโมง

Anonymous ซึ่งเป็นกลุ่มแฮกเกอร์นิรนาม ระบุในวันนี้ว่า ทางกลุ่มสามารถทำการโจมตีธนาคารกลางรัสเซีย และจะมีการเปิดเผยไฟล์ข้อมูลลับจำนวน 35,000 ฉบับภายใน 48 ชั่วโมง ซึ่งจะรวมถึง "ข้อตกลงลับ" จำนวนมาก

อย่างไรก็ดี Anonymous ยังไม่ได้แสดงหลักฐานว่าทางกลุ่มประสบความสำเร็จในการแฮกข้อมูลดังกล่าว หรือสามารถเข้าถึงเอกสารที่มีการระบุ

ก่อนหน้านี้ Anonymous ได้ทำการโจมตีหน่วยงานของรัสเซียหลายแห่งเพื่อตอบโต้ต่อการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน

ขณะเดียวกัน Anonymous ยืนยันว่าได้ทำการโจมตีจำนวน 2,500 ครั้งต่อหน่วยงานรัฐบาลของรัสเซียและเบลารุส รวมทั้งธนาคาร โรงพยาบาล สนามบิน และบริษัทต่างๆ
#4329
สิงคโปร์เปิดรับนักท่องเที่ยวฉีดวัคซีนแล้วไม่ต้องกักตัวตั้งแต่ 1 เม.ย.

นายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ได้ออกแถลงการณ์ในวันนี้ว่า สิงคโปร์จะผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งรวมถึงการยกเลิกมาตรการเข้มงวดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วและต้องการเดินทางเข้าสิงคโปร์ รวมทั้งการยกเลิกข้อกำหนดให้สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่นอกอาคารด้วย

กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์รายงานในวันนี้เช่นกันว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.นี้ สิงคโปร์จะอนุญาตให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสแล้วเดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัว นอกจากนี้ รัฐบาลกำลังพิจารณาเรื่องการยกเลิกข้อกำหนดการตรวจเชื้อโควิด-19 ก่อนการเดินทางด้วยวิธีสวอป

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สิงคโปร์เป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศแรก ๆ ที่เปลี่ยนไปใช้กลยุทธ์การอยู่ร่วมกับโควิด-19 แต่เมื่อไม่นานมานี้ สิงคโปร์ได้ชะลอแผนการผ่อนคลายการควบคุม เนื่องจากโควิด-19 ได้กลับมาแพร่ระบาดอีกครั้ง

ส่วนในขณะนี้การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในสิงคโปร์ได้เริ่มบรรเทาลงแล้ว โดยในช่วงที่การแพร่ระบาดรุนแรงถึงขีดสุดนั้น สิงคโปร์รายงานพบผู้ติดเชื้อสูงเป็นประวัติการณ์เกือบ 26,000 รายในเดือนก.พ. แต่เมื่อวานนี้จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันได้ลดลงมาอยู่ที่ 9,000 ราย

รายงานระบุว่า ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ในสิงคโปร์มีอาการป่วยเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีอาการ และขณะนี้มีชาวสิงคโปร์ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วประมาณ 92% ของจำนวนประชากร 5.5 ล้านคนในประเทศ ส่วนผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มบูสเตอร์แล้วมีประมาณ 71%
#4330
เดอะคลาสคลินิก เป็นสถานพยาบาลเวชศาสตร์เฉพาะทางด้านศัลยศาสตร์ตกแต่ง ที่ได้รับ ดูดไขมันเซ็กซี่ไลน์
การรับรองประสิทธิภาพให้เป็นสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานทางด้านการแพทย์  ดูดไขมันเซ็กซี่ไลน์
ที่มีห้องผ่าตัดขนาดใหญ่เท่ากันโรงหมอโดยกระทรวงสาธารณสุข เปิดให้บริการด้านศัลยกรรมตกแต่งโดยแพทย์  ดูดไขมันเซ็กซี่ไลน์
จบบอร์ดเฉพาะทาง รวมทั้ง เสริมความงาม
ด้านผิวพรรณ ภายใต้การดูแลโดย พันตรีแพทย์ ธีรภัทร์ ใจประสาท คุณครูแพทย์  ดูดไขมันเซ็กซี่ไลน์
เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง มีความตั้งใจให้บริการทุกท่านภายใต้หลักความคิดที่ว่า

"คนไข้ทุกคนจะต้องได้ผลดีที่สุดในแบบที่เป็นคุณ"


https://bit.ly/3tG8KR5
#4332
ไอแบงก์ปล่อยของ ทรัพย์สินรอการขายลดราคาพิเศษ พร้อมเปิดยื่นสินเชื่อกับไอแบงก์ได้


ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ประกาศขายทรัพย์สินรอการขายของธนาคาร ทรัพย์สวย ทำเลดี ราคาโดนใจหลายรายการ ทั้งบ้านเดี่ยว ทาว์นเฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ คอนโดมิเนียม ที่ดินเปล่า ฯลฯ พร้อมมอบส่วนลดราคาพิเศษหากลูกค้าสนใจ

โอกาสทองของผู้ที่กำลังมองหาทรัพย์มือสองมาถึงแล้ว เมื่อไอแบงก์นำทรัพย์สินรอการขายคุณภาพดีกว่า 140 รายการมาขายในราคาพิเศษ โดยทรัพย์ส่วนใหญ่มีที่ตั้งในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ กรุงเทพฯ ปริมณฑล และตามจังหวัดใหญ่ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งธนาคารพร้อมเปิดให้ลูกค้าเสนอราคาและมอบส่วนลดราคาพิเศษให้กับลูกค้าที่สนใจ นอกจากนี้ผู้ที่สนใจสามารถขอสินเชื่อกับ ไอแบงก์เพื่อซื้อทรัพย์ได้อีกด้วย

ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิปรับตัวลงเช้านี้ จากแรงขายทำกำไรหลังทะยาน 8 วันติด
 
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปรับตัวลงในช่วงเช้านี้ เนื่องจากนักลงทุนขายหุ้นออกมาเพื่อทำกำไร หลังจากดัชนีนิกเกอิพุ่งขึ้นเกือบ 3,000 จุดในการทะยานขึ้น 8 วันที่ผ่านมาจนถึงเมื่อวานนี้

หลังจากเปิดตลาด 15 นาที ดัชนีนิกเกอิ ลดลง 63.65 จุด หรือ -0.23% สู่ระดับ 28,046.74 จุด

ทั้งนี้ ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 28,338.81 จุด เพิ่มขึ้น 228.42 จุด หรือ +0.81%

หุ้นที่ปรับตัวขึ้นในช่วงเช้านี้นำโดยกลุ่มขนส่งทางทะเล, กลุ่มข้อมูลและการสื่อสาร และกลุ่มประกัน
#4333
ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร "บ. ปริญสิริ" ที่ "BBB-" แนวโน้ม "Stable"

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ ?BBB-? พร้อมแนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? โดยอันดับเครดิตองค์กรสะท้อนถึงฐานรายได้ของบริษัทที่มีขนาดค่อนข้างเล็ก ความสามารถในการทำกำไรที่น่าพอใจ ภาระหนี้ที่ปรับตัวสูงขึ้น และสภาพคล่องที่เพียงพอ นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงความกังวลของทริสเรทติ้งเกี่ยวกับหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับค่อนข้างสูงและอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นซึ่งอาจส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้ซื้อบ้านในระยะปานกลาง

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

ฐานรายได้ค่อนข้างเล็ก

ฐานรายได้ของบริษัทมีขนาดค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตรายอื่น รายได้ของบริษัทอยู่ระหว่าง 1.8-2.5 พันล้านบาทต่อปีในระหว่างปี 2561-2564 คิดเป็น 1% ของรายได้รวมของผู้ประกอบการทั้ง 24 รายที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตโดยทริสเรทติ้ง ยอดผู้ติดเชื้อระลอกใหม่จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19)ที่เพิ่มขึ้นและการปิดไซต์ก่อสร้างในกรุงเทพฯ และปริมณฑลในปี 2564 เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้บริษัทต้องเลื่อนเปิดโครงการใหม่และเกิดความล่าช้าในการโอนกรรมสิทธิ์แก่ผู้ซื้อบ้าน ส่งผลให้รายได้ของบริษัทอยู่ที่ระดับ 2.28 พันล้านบาท ลดลง 4.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน บริษัทเปิดโครงการทาวน์เฮ้าส์เพียง 2 โครงการมูลค่า 1.9 พันล้านบาทน้อยกว่าที่ตั้งเป้าตอนแรกที่ 2.6 พันล้านบาท

ภายใต้สมมติฐานพื้นฐานของทริสเรทติ้ง คาดว่ารายได้ของบริษัทจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 2.4 พันล้านบาทในปี 2565 และ 2.8-3.2 พันล้านบาทต่อปีในปี 2566-2567 ภายใต้สมมติฐานที่บริษัทจะเปิดโครงการที่อยู่อาศัยมากขึ้นมูลค่าประมาณ 3.7-5 พันล้านบาทต่อปีในช่วง 3 ปีข้างหน้า โครงการใหม่ของบริษัทยังคงเน้นโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ โดยทาวน์เฮ้าส์จะอยู่ที่ระดับราคาหลังละ 2-4 ล้านบาท และบ้านจัดสรรประเภทบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดอยู่ที่ระดับราคาหลังละ 4-7 ล้านบาท

ณ เดือนธันวาคม 2564 บริษัทมีโครงการที่อยู่อาศัยเหลือขายจำนวน 18 โครงการ โดยมีมูลค่ารวมทั้งหมด (รวมทั้งที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและยังไม่ได้ก่อสร้าง) ประมาณ 7.43 พันล้านบาท ซึ่งประกอบไปด้วยโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดในสัดส่วน 46% โครงการทาวน์เฮ้าส์ 34% และโครงการคอนโดมิเนียมเตี้ยอีก 20% ยอดขายรอการรับรู้รายได้ ณ สิ้นปี 2564 อยู่ที่ 229 ล้านบาท ดังนั้น รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยของบริษัทจึงขึ้นอยู่กับความสามารถในการสร้างยอดขายใหม่และยอดโอนในปีนั้น ๆ

ความสามารถในการทำกำไรอยู่ในระดับน่าพอใจ

ทริสเรทติ้งคาดหมายว่าบริษัทจะสามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจไว้ได้ในอีก 3 ปีข้างหน้า แม้ว่ารายได้ของบริษัทจะลดลงในปี 2564 แต่ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจจากการควบคุมต้นทุนการก่อสร้างที่ดีขึ้นและต้นทุนที่ดินที่ต่ำในบางโครงการ อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 37.5% ในปี 2564 จากระดับ 32%-35% ในระหว่างปี 2561-2563 อัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ของบริษัทก็เพิ่มขึ้นเช่นกันโดยอยู่ที่ระดับ 29% ในปี 2564 จากระดับ 23%-27% ในปี 2561-2563

ในอนาคต ทริสเรทติ้งคาดว่าความสามารถในการทำกำไรจะลดลงแต่ยังคงอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับอุตสาหกรรม การแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมและต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้นคาดว่าจะส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น และอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้อยู่ที่ระดับ 32% และ 24% ตามลำดับ ในปี 2565-2567 ดังนั้น คาดว่ากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทจะอยู่ที่ระดับประมาณ 550-780 ล้านบาทต่อปีในช่วงเวลาเดียวกัน

เป็นปีที่มีความท้าทายสำหรับอุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย

ทริสเรทติ้งคาดว่าอุปสงค์ที่อยู่อาศัยในปี 2565 จะเติบโตที่ระดับ 5%-10% จากปีก่อนหน้าโดยมีปัจจัยสนับสนุนคือแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคโควิด 19 ที่มีสัญญาณบรรเทาเบาบางลง นอกจากนี้ การขยายระยะเวลาผ่อนคลายหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยโดยยังคงเพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (Loan-to-value Ratio -- LTV) ให้อยู่ที่ระดับ 100% จาก 70%-90% สำหรับที่อยู่อาศัยทุกประเภทและการลดค่าโอนและค่าจดจำนองสำหรับบ้านที่มีราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทไปจนถึงสิ้นปี 2565 นั้นน่าจะช่วยกระตุ้นอุปสงค์ที่อยู่อาศัยให้เติบโตขึ้นได้ในปีนี้

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีประเด็นที่ท้าทายสำหรับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์อีกหลายประการในระยะสั้นถึงปานกลางนี้ โดยการแข่งขันในกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยจะยังคงรุนแรงต่อไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อยู่อาศัยในระดับราคาที่ไม่แพง ดังนั้น บริษัทจึงจำเป็นต้องมีการปรับปรุงพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดคล้องกับอุปสงค์ของตลาดเพื่อให้ยังคงสถานะการแข่งขันได้ในตลาด นอกจากนี้ หนี้ครัวเรือนที่ค่อนข้างสูงและอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นก็อาจส่งผลทำให้กำลังซื้อของผู้ซื้อบ้านลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มสินค้าบ้านระดับราคาปานกลางถึงต่ำ ในขณะที่การปล่อยสินเชื่อของธนาคารที่เข้มงวดยิ่งขึ้นก็ยังคงเป็นประเด็นท้าทายสำหรับผู้ประกอบการ

ภาระหนี้ปรับตัวสูงขึ้น

ทริสเรทติ้งคาดว่าภาระหนี้ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแต่ยังคงอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 50% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า ภายใต้สมมติฐานพื้นฐานของทริสเรทติ้ง คาดว่าบริษัทจะเปิดโครงการที่อยู่อาศัยมากขึ้น โดยที่งบประมาณซื้อที่ดินจะอยู่ที่ระดับราว ๆ 1 พันล้านบาทต่อปี อีกทั้ง เมื่อเร็ว ๆ นี้บริษัทได้จัดตั้ง บริษัท ปริญอินเวสท์ เพื่อหาโอกาสในการลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีในต่างประเทศ โดยเงินลงทุนเริ่มแรกในปี 2565 อยู่ที่ราว 100 ล้านบาท ภายใต้แผนการลงทุนของบริษัท ทริสเรทติ้งจึงคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนของบริษัทจะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 48%-49% ในปี 2565-2567 จากระดับ 45% ณ สิ้นปี 2564 เมื่อพิจารณากำไรที่คาดว่าจะอ่อนตัวลงและภาระหนี้ที่ปรับตัวสูงขึ้น ทริสเรทติ้งจึงคาดว่าอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินของบริษัทจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 5%-7% ในช่วงปีประมาณการ

ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2564 บริษัทมีหนี้สินทางการเงินรวมจำนวน 5.27 พันล้านบาทซึ่งประกอบด้วยตั๋วแลกเงินจำนวน 190 ล้านบาท เงินกู้โครงการจำนวน 1.73 พันล้านบาท และหุ้นกู้จำนวน 3.35 พันล้านบาท ทั้งนี้ หนี้ประมาณ 1.73 พันล้านบาทของภาระหนี้ทั้งหมดของบริษัทเป็นหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อน เนื่องจากอัตราส่วนหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อนต่อหนี้สินทางการเงินรวมของบริษัทมีสัดส่วนอยู่ที่ 33% ซึ่งต่ำกว่าอัตราส่วน 50% ตาม ?เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้? ของทริสเรทติ้ง ดังนั้น ทริสเรทติ้งจึงมองว่าเจ้าหนี้ไม่มีหลักประกันของบริษัทไม่มีความเสียเปรียบในด้านลำดับสิทธิเรียกร้องเหนือสินทรัพย์อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับเจ้าหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อน

สภาพคล่องเพียงพอ

ทริสเรทติ้งประเมินว่าบริษัทมีสภาพคล่องอยู่ในระดับที่เพียงพอที่จะคืนหนี้จนถึงสิ้นปี 2565 ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2564 สภาพคล่องทางการเงินของบริษัทประกอบด้วยเงินสดในมือจำนวน 566 ล้านบาท เงินลงทุนในกองทุนตราสารหนี้จำนวน 931 ล้านบาท และวงเงินจากธนาคารที่ยังไม่ได้เบิกใช้อีก 175 ล้านบาท ทริสเรทติ้งคาดว่าเงินทุนจากการดำเนินงานในช่วง 12 เดือนข้างหน้าจะอยู่ที่ประมาณ 240 ล้านบาท อีกทั้งบริษัทยังมีที่ดินที่ไม่ติดภาระเป็นหลักประกันคิดเป็นมูลค่าทางบัญชีอยู่ที่จำนวน 2.62 พันล้านบาทซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นหลักประกันสำหรับขอวงเงินสินเชื่อใหม่ได้หากจำเป็น บริษัทมีภาระหนี้ที่จะครบกำหนดชำระในช่วง 12 เดือนข้างหน้า จำนวน 1.01 พันล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยตั๋วแลกเงินจำนวน 190 ล้านบาท และหุ้นกู้จำนวน 821 ล้านบาท บริษัทได้ชำระหุ้นกู้จำนวน 500 ล้านบาทที่ครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนมกราคม 2565 และตั๋วแลกเงินที่ครบกำหนดทั้งหมดด้วยหุ้นกู้ใหม่ บริษัทมีแผนจะรีไฟแนนซ์หุ้นกู้ที่เหลือที่จะครบกำหนดไถ่ถอนด้วยการออกหุ้นกู้ชุดใหม่

ตามข้อกำหนดทางการเงินที่ระบุให้บริษัทต้องดำรงอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน และอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนที่ระดับไม่เกิน 2 เท่า ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2564 บริษัทมีอัตราส่วนดังกล่าวอยู่ที่ 1.1 เท่า และ 1.3 เท่าตามลำดับ ทริสเรทติ้งเชื่อว่าบริษัทจะสามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขทางการเงินดังกล่าวได้ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

? รายได้จากการดำเนินงานของบริษัทจะอยู่ที่ระดับประมาณ 2.4-3.2 พันล้านบาทต่อปีในช่วง 3 ปีข้างหน้า

? อัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ที่ระดับประมาณ 32% และอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายจะอยู่ที่ระดับประมาณ 24% ในปี 2565-2567

? เปิดโครงการที่อยู่อาศัยมูลค่าประมาณ 3.7-5 พันล้านบาทต่อปี โดยงบประมาณซื้อที่ดินจะอยู่ที่ระดับ 1 พันล้านบาทต่อปีในช่วง 3 ปีข้างหน้า

? เงินลงทุนในต่างประเทศอยู่ที่ระดับ 100 ล้านบาท ในปี 2565

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? สะท้อนถึงความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถรักษาผลการดำเนินงานและสถานะทางการเงินเอาไว้ได้ตามเป้าหมาย ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะสร้างรายได้ที่ระดับ 2.4-3.2 พันล้านบาทและจะคงอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายไว้ที่ระดับ 24% ในปี 2565-2567 โดยที่อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนจะคงอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 50% และอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินจะอยู่ที่ระดับเกินกว่า 5% ในช่วงปีประมาณการ

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

อันดับเครดิตหรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากบริษัทสามารถขยายฐานรายได้และผลกำไรได้อย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่ยังคงสถานะทางการเงินที่ระดับปัจจุบันเอาไว้ได้ ในทางตรงกันข้าม อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับลดลงหากผลการดำเนินงานและ/หรือสถานะทางการเงินของบริษัทอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญจากระดับที่ทริสเรทติ้งคาดการณ์ไว้

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงินสำหรับธุรกิจทั่วไป, 11 มกราคม 2565

- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 26 กรกฎาคม 2562

บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) (PRIN)

อันดับเครดิตองค์กร: BBB-

แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2564 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว
#4334
ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ตามภูมิภาคไร้ปัจจัยใหม่-ราคาน้ำมันอ่อนตัว

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์อาจผันผวนทั้งในแดนบวกและลบ เป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย หลังจากยังไร้ปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นได้ส่วนหนึ่งมาจากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดี ทั้งดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) และตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานออกมาต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ย.2512 เป็นปัจจัยหนุนสำคัญ

ส่วนบ้านเราคาดเคลื่อนไหวสลับบวก-ลบ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงหลังสหภาพยุโรป (EU) ยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับแผนการคว่ำบาตรน้ำมันของรัสเซีย จึงคาดว่าจะมีแรงขายในฝั่งของพลังงานต้นน้ำ แต่อาจมีแรงซื้อเข้ามาในกลุ่มโรงกลั่นแทน เช่น TOP, SPRC เป็นต้น เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากค่าการกลั่นที่ปรับตัวขึ้น 17.53 ดอลลาร์/บาร์เรล สูงสุดในรอบกว่า 10 ปี

แนะนักลงทุนให้ติดตามสถานการณ์ความไม่แน่นอนของรัสเซียและยูเครนอย่างต่อเนื่อง และทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมเดือนพ.ค. คาดปรับขึ้น 0.5% และงบการดำเนินงานในไตรมาส 1/65 ของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 1/65 ที่จะเริ่มทยอยประกาศหลังเทศกาลสงกรานต์เป็นต้นไป

ให้แนวรับไว้ที่ 1,670 และ 1,675 จุด ส่วนแนวต่าน 1,686 และ 1,690 จุด
#4335
ภาวะตลาดหุ้นเกาหลีใต้: หุ้นโซลปิดบวกเล็กน้อย แม้วิตกเกาหลีเหนือและสงครามยูเครน
 
ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดทรงตัวในวันนี้ แม้จะมีความกังวลจากการที่เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) และสงครามรัสเซีย-ยูเครน ขณะที่สกุลเงินวอนไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ปิดวันนี้ที่ 2,729.98 จุด เพิ่มขึ้น 0.32 จุด หรือ +0.01% โดยมีปริมาณการซื้อขายปานกลาง 590 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 10.7 ล้านล้านวอน (8.8 พันล้านดอลลาร์) และมีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในสัดส่วน 503 ต่อ 343 ตัว

หุ้น SK hynix ปรับตัวลง 2.07% และหุ้น Naver ปรับตัวลง 2.06% ขณะที่หุ้น Samsung Electronics ไม่เปลี่ยนแปลง