• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Jessicas

#2921


บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประกาศแต่งตั้ง "จริยา คูนลินทิพย์" ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารคนใหม่ของ บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ฮ่องกง มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 เป็นต้นไป โดยจะรับหน้าที่ต่อจากมร. ยาค๊อบ ดีเมช ถือเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่งที่ผู้บริหารระดับสูงหญิงไทยคนแรกของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้รับมอบหมายสู่การเป็นผู้บริหารระดับสูงในระดับภูมิภาค

ในโอกาสนี้ มร. บียอร์น แอนทอนส์สัน ประธานกรรมการบริหาร บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย กล่าวว่า "เราขอแสดงความชื่นชมและขอบคุณคุณจริยาสำหรับความทุ่มเทต่อบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา คุณจริยาแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการทำงาน อย่างทุ่มเท และเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตอย่างต่อเนื่องของบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย เราเชื่อว่าในฐานะผู้บริหารของ บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ฮ่องกง คุณจริยาจะเป็นตัวแทนคนไทยที่สร้างความหลากหลาย พร้อมนำความแตกต่างทางวัฒนธรรมรวมถึงประสบการณ์กว่า 10 ปี ในบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย ผสมผสานในการบริหาร บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ฮ่องกง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ด้านผลิตภัณฑ์และบริการ เสริมศักยภาพในการพัฒนาธุรกิจขององค์กรต่อไป"



ทั้งนี้ มิสเชอรีน เรเดอริงฮายส์ จะเข้าดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย ต่อจากจริยา มิสเรเดอริงฮายส์เข้าร่วมงานกับบีเอ็มดับเบิลยูในปี 2538 ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส แอฟริกาใต้ จากนั้น ย้ายไปยังเครือข่ายบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ในประเทศเยอรมนี และสหรัฐอเมริกา ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี มิสเรเดอริงฮายส์จะนำโซลูชั่นและกลยุทธ์ใหม่ๆ เข้ามาบริหารการพัฒนาด้านกลยุทธ์การให้บริการทางการเงินและเครือข่าย พร้อมการพัฒนาด้านการบริการลูกค้าและการประสานการทำงานภายในอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย

"เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับมิสเรเดอริงฮายส์ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย คนใหม่ ด้วยประสบการณ์อันเชี่ยวชาญในด้านไฟแนนเชียล เซอร์วิสจากทั่วโลก เราเชื่อมั่นว่ามิสเรเดอริงฮายส์จะสามารถก้าวเข้าร่วมเป็นหนึ่งในผู้บริหารที่โดดเด่นของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยได้อย่างรวดเร็ว และเราเชื่อมั่นว่ามิสเรเดอริงฮายส์จะนำ บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย ไปสู่ความสำเร็จในธุรกิจด้านต่างๆ ทั้งในการส่งมอบประสบการณ์รูปแบบดิจิตัลสำหรับลูกค้าของเรา และในด้านการพัฒนาต่อยอดเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทฯต่อไป" มร. แอนทอนส์สัน สรุป
#2922


นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าของโครงการชุมชนอัจฉริยะและน่าอยู่อย่างยั่งยืนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น (Smart and Sustainable Community for .ter Well - being : SSC) ว่า การเคหะแห่งชาติได้ดำเนินการเกี่ยวกับ "SSC" มาตั้งแต่ปี 2560 โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ในการนำองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาร่วมสนับสนุนการดำเนินโครงการ "SSC" ในมิติ ที่แตกต่างกัน จนสามารถเดินหน้าโครงการนำร่องที่โครงการบ้านเอื้ออาทรบางโฉลง (นิติ 1) ได้อย่างเป็นรูปธรรม และเป็นแนวทางสำคัญของโครงการบ้านเคหะสุขประชา "บ้านเช่าพร้อมอาชีพ" ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยการเคหะแห่งชาติกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ตามนโยบายของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

นายทวีพงษ์ กล่าวอีกว่า แนวคิดในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Community)ของการเคหะแห่งชาติได้ดำเนินงานร่วมกับภาคีสำคัญข้างต้นครอบคลุมทั้ง 4 มิติ ได้แก่ มิติที่ 1 การมีส่วนร่วมและความรับผิดชอบ มีการเปิดโอกาสให้มีการแสดงความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ให้โอกาสในการตัดสินใจเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของตนเอง และการเข้าถึงข้อมูลสาธารณะ มิติที่ 2 ความมั่นคงของระบบนิเวศ มุ่งดำเนินการใน 5 ด้าน คือ คุณภาพอากาศ น้ำ และพลังงาน การบริหารจัดการขยะ การจัดการน้ำเสีย และการจัดการพื้นที่สีเขียว เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับผู้อยู่อาศัยในชุมชน ขณะที่มิติที่ 3 ความมั่นคงทางเศรษฐกิจได้ดำเนินการให้ความรู้ เพื่อสร้างอาชีพให้กับชุมชนในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรในพื้นที่เพื่อสร้างรายได้ รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ สร้างความตระหนัก และพัฒนาชุมชนให้สามารถประหยัดค่าไฟในครัวเรือน ส่วนมิติที่ 4 สุขภาวะทางสังคม มีการดำเนินการด้านสุขภาพที่เพียงพอให้กับชุมชน ให้ชุมชนมีความปลอดภัยและมีสุขภาวะที่ดี มีสิ่งแวดล้อมที่เป็นมิตร ต่อสุขภาพ รวมถึงความสามารถในการปรับตัวในสภาวะต่างๆ

ทั้งนี้ ตัวอย่างสำคัญของการดำเนินการ ได้แก่ "Sensor for All" ร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้อาศัยในชุมชน สามารถติดตามและป้องกันตนเองจากฝุ่นควันและมลพิษ ทางอากาศที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ปัจจุบันการเคหะแห่งชาติได้ติดตั้งเครื่องเซนเซอร์ตรวจวัดฝุ่นและคุณภาพอากาศแล้ว จำนวน 32 เครื่อง ที่บริเวณสำนักงานใหญ่การเคหะแห่งชาติ จำนวน 2 เครื่อง และติดตั้งบริเวณสำนักงานเคหะนครหลวงและสำนักงานเคหะจังหวัดในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 10 พื้นที่ จำนวน 30 เครื่อง ได้แก่ ร่มเกล้า, หนองจอก, รามคำแหง, นวมินทร์, ออเงิน, บ่อนไก่ นนทบุรี, ปทุมธานี, นครปฐม และสมุทรปราการ

นอกจากนี้ ยังมีการดำเนินการด้านจัดการน้ำเสีย การทดลองปรับพื้นที่เพื่อการใช้ประโยชน์และเพิ่มพื้นที่สีเขียว การส่งเสริมโมเดลการจัดขยะ 3 ประเภท คือ ขยะรีไซเคิล ขยะอาหาร ขยะอันตราย และการทำถังหมักรักษ์โลก (Green Cone) รวมถึงยังมีแนวทางด้านการจัดการพลังงานด้วยการการติดตั้ง Smart Meter (เครื่องมือวัดพลังงานแบบไร้สาย) เพื่อวัดการใช้พลังงานของแต่ละอาคาร โดยแสดงผลการใช้พลังงานผ่านการแสดงผลในรูปแบบ Dashboard ซึ่งทำให้ผู้พักอาศัยภายในโครงการรับรู้ข้อมูล การใช้พลังงานของตน และเกิดการมีส่วนร่วมในการช่วยกันลดการใช้พลังงานผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆ และยังอยู่ระหว่างวางแผนติดตั้ง Solar Powered Pump โดยนำพลังงานไฟฟ้าที่ได้มาใช้ในการสูบน้ำเข้าถังเก็บน้ำ และกรณีที่ไม่มีการทำงานของปั๊มน้ำ พลังงานไฟฟ้าที่ได้จะถูกส่งไปที่ตัวอาคารเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ภายในอาคารต่อไป รวมถึงอยู่ในระหว่างวางแผนจะติดตั้ง Solar Powered Aerator เพื่อเติมอากาศบำบัดบ่อนํ้าเสีย อีกทั้งเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมานี้ การเคหะแห่งชาติ และหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้ร่วมกันจัดงานเสวนาออนไลน์ขึ้น ในหัวข้อ "การพัฒนาความยั่งยืนให้ชุมชน" พร้อมทั้งนำออกเผยแพร่ในรูปแบบนิทรรศการออนไลน์ ซึ่งก็มีทั้งเนื้อหาวิชาการ และสื่อมัลติมีเดียหลายรูปแบบ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและเข้าใจแนวคิด SSC มากยิ่งขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะดำเนินการขยายผลต่อเนื่อง ในปี 2565 อีก 4 ชุมชน ได้แก่ โครงการบ้านเอื้ออาทรบางบัวทอง 2 บ้านเอื้ออาทรรังสิตคลอง 10/2 บ้านเอื้ออาทรราชบุรี 3/2 และบ้านเอื้ออาทรเศรษฐกิจ 3

"การเคหะแห่งชาติมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับภาคีสำคัญในการผลักดันนำพาทุกชุมชนของการเคหะ ก้าวไปสู่ Smart and Sustainable Lottovip Community โดยการบูรณาการด้วยหลัก 3P ได้แก่ Profit ผลกำไร, People คุณภาพชีวิตของประชาชน และ Planet สิ่งแวดล้อม โดยเน้นความสำคัญของการมีส่วนร่วมจากผู้อยู่อาศัยเป็นประเด็นหลัก เพราะท้ายที่สุดแล้วการพัฒนาทุกอย่างก็เพื่อประโยชน์และความสุขอย่างยั่งยืนของพี่น้องประชาชนผู้อยู่ในอาศัยในชุมชนของการเคหะแห่งชาตินั่นเอง" ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติกล่าว

ด้าน นายวิชัย คำบุญเรือง ผู้นำชุมชนโครงการบ้านเอื้ออาทร บางโฉลง นิติ 1 กล่าวว่า การดำเนินการเกี่ยวกับ SSC ที่บางโฉลงในช่วงแรกได้รับความร่วมมือจากกลุ่มเล็กๆ ในชุมชน ต่อมาการเคหะแห่งชาติ และหน่วยงานภาคี เข้ามาสนับสนุนเพิ่มเติมทำให้สามารถขยายกิจกรรมมากขึ้น เมื่อเกิดตัวอย่างที่สร้างประโยชน์ได้จริงอย่างเป็นรูปธรรม ความร่วมมือจากสมาชิกผู้อยู่อาศัยในชุมชนก็เพิ่มมากขึ้น โดยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนโดยใช้พลังกลุ่มเยาวชนซึ่งมุ่งเน้นการสร้างการมีส่วนร่วม

"สิ่งสำคัญอย่างมากคือกลุ่มผู้นำชุมชน ต้องตั้งใจ ทำให้เห็นเป็นตัวอย่างเชิงประจักษ์ เมื่อเราจับมือร่วมกันทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งตนเองและส่วนรวมไปด้วยกัน พลังจากความตั้งใจและการลงมือทำนี้ จะทำให้มีแนวร่วม แล้วในที่สุดการพัฒนาและความสุขที่ยั่งยืนก็จะเกิดขึ้นในชุมชนของเราครับ" นายวิชัยกล่าว
#2923


อองโตนี มาร์กซิอาล กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส ช่วยพังประตูตีเสมอก่อนที่พลพรรค 'ตราไก่' รอดพ้นความพ่ายแพ้ แบ่งแต้มกับ ยูเครน 1-1 ศึกฟุต.โลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป เมื่อคืนวันที่ 4 กันยายน ที่ผ่านมา

ฟุต.โลก 2022 รอบคัดเลือก
ยูเครน 1-1 ฝรั่งเศส

เกมนัดที่ 5 ของกลุ่ม D ยูเครน อันดับ 3 มี 4 แต้ม เปิดบ้านเจอ ฝรั่งเศส จ่าฝูงดีกรีแชมป์โลกมี 8 แต้ม เกมนี้ ยูเครน มี โรมัน ยาเรมชุก กับ อังเดร ยาร์โมเลนโก้ ยืนหน้า ส่วน 'ตราไก่' จัดเต็มมีทั้ง พอล ป๊อกบา, อองตวน กรีซมันน์, คิงสลีย์ โคมอง และ อองโตนี มาร์กซิอาล ลงยิง

เริ่มเกม 9 นาที ยูเครน ทักทาย อังเดร ยาร์โมเลนโก้ เปิดโด่งมา วิคเตอร์ ซีกาคอฟ ขึ้นโหม่งแต่ออกหลัง ขณะที่ นาที 18 เจ้าบ้านมาอีก อังเดร ยาร์โมเลยโก้ แปะต่อให้ โรมัน ยาเร็มชุก ยิงซ้ายเต็มแรงแต่.ก็ข้ามคาน

นาที 27 ฝรั่งเศส สวนคืน อองโตนี มาร์กซิอาล ป้าย.ถึง อองตวน กรีซมันน์ ลองซัดแถวสองแต่ก็หลุดกรอบ แต่แล้ว นาที 43 ยูเครน ขึ้นนำจนได้ จังหวะแนบรับฝรั่งเศส สกัด.พลาดเด้งหา มีโคล่า ชาปาเรนโก้ วิ่งมาตะบันเต็มเท้าตุง 1-0 และจบครึ่งแรกเลย

ครึ่งหลัง นาที 50 ฝรั่งเศส เอาคืนได้ อาเดรียน ราบิโอต์ โหม่งติดบล๊อครอบแรกแต่ อองโตนี มาร์กซิอาล วิ่งมายิงซ้ำเข้า 1-1 ต่อมา นาที 67 ตราไก่ อยากได้เม็ดสอง อองตวน กรีซมันน์ จับ.หน้าเขตโทษแล้วยิงเต็มเท้าแต่ข้ามคานอีก

ท้ายเกม นาที 87 ลูกเตะมุมของฝรั่งเศส อองตวน กรีซมันน์ เปิดโด่งมาให้ อาเดรียน ราบิโอต์ โหม่งแต่ก็ออกข้าง สุดท้ายไม่มีประตูแล้ว จบเกมเสมอแบ่งแต้มกันไป
#2924


วันนี้ (4 ก.ย.) เวลา 10.00 น. นายขจิต ชัชวานิชย์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลเอราวัณ 2 ศูนย์กีฬาบางกอกอารีนา และศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (Community Isolation : CI) เขตหนองจอก บริเวณศูนย์สร้างสุขทุกวัยเขตหนองจอก พร้อมทั้งให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่เสียสละอดทน ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการดูแลรักษาผู้ป่วยอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยหายจากอาการติดเชื้อ สามารถกลับไปใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวได้ตามปกติ โดยมี ผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักการแพทย์ สำนักอนามัย สำนักงานเขตในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้ข้อมูล

สำหรับโรงพยาบาลเอราวัณ 2 ศูนย์กีฬาบางกอกอารีนา เขตหนองจอก สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 400 เตียง ปัจจุบันมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษา 285 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 3 ก.ย.64) โดยมีทีมแพทย์จากโรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์เป็นผู้บริหารจัดการผู้ป่วย ส่วนศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (Community Isolation : CI) เขตหนองจอก บริเวณศูนย์สร้างสุขทุกวัยเขตหนองจอก เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค.64 สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 100 เตียง ปัจจุบันมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษา 63 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 3 ก.ย.64) โดยมีทีมแพทย์จากโรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ และศูนย์บริการสาธารณสุข 44 ลำผักชี เป็นผู้บริหารจัดการผู้ป่วย

ปัจจุบันกรุงเทพมหานครได้จัดตั้งศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (Community Isolation : CI) เพื่อรองรับผู้ป่วยที่มีผลตรวจรับรองว่าติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ 6 กลุ่มเขต รวมทั้งสิ้น 70 แห่ง เพื่อแยกผู้ป่วยโควิด-19 ออกมาจากบ้าน นำมาพักคอยที่ศูนย์ฯ มีการคัดกรองอาการและดูแลเบื้องต้น เพื่อรอการส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาล ลดปัญหาการแพร่ระบาดและติดเชื้อของคนในครอบครัวและชุมชน โดยมีทีมแพทย์จากโรงพยาบาลและศูนย์บริการสาธารณสุขบริหารจัดการผู้ป่วย รวมทั้งเจ้าหน้าที่เทศกิจประสานฝ่ายความมั่นคง ร่วมดูแลความปลอดภัยและความเป็นระเบียบเรียบร้อย
#2925


ทั้งชาวแม่สาย-ผู้คนจากชุมชนใกล้/ไกล ที่มีโอกาสเข้าไปใช้บริการร้านขายส้มตำ "หมอลำตำแหลก" ข้างโรงเรียนบ้านถ้ำ ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ต่างประทับใจกันทุกราย เพราะระหว่างนั่งรอส้มตำ หนุ่มเจ้าของร้านก็โชว์ลีลาร้องเพลงหมอลำพร้อมกับทำส้มตำไปด้วย ซึ่งจากลีลาและทำนองที่ไพเราะจึงทำให้เป็นที่สนใจของลูกค้าที่แวะเวียนมาถ้วนหน้า

นายสุพรรณ แป้งสุวรรณ อายุ 25 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้อาศัยอยู่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี และได้มาอาศัยอยู่กับแฟนชื่อนายฐิติวุฒิ ใจมูล ที่ อ.แม่สาย และร่วมกันเปิดเป็นร้านขายส้มตำ บอกว่าเดิมตนมีอาชีพเป็นนักร้องหมอลำอยู่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา มีรายได้ไม่แน่นอน แต่ก็ทำให้สามารถเลี้ยงดูตัวเองและพ่อแม่ได้ หรือเฉลี่ยวันละประมาณ 3,000 บาท ส่วนนายฐิติวุฒิมีอาชีพเต้นหรือหางเครื่องให้กับวงในร้านเดียวกัน ทำให้มีรายได้ร่วมกันดีมากเพราะมีแม่ยกคล้องพวงมาลัยให้เป็นประจำ

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เริ่มเกิดวิกฤติโควิด-19 ทำให้ร้านปิดชั่วคราว ทำให้ทางร้านต้องปิดบริการ-ต้องหยุดงาน และสลับเปิด-ปิดหลายครั้ง กระทั่งปิดยาวมาตั้งแต่เดือน เม.ย.64 เป็นต้นมา

เมื่อต้องตกงานไม่มีรายได้ ก็คิดมากแทบนอนไม่หลับ เพราะต้องผ่อนจ่ายรถยนต์ ค่าเช่าห้อง ภาระต่างๆ จึงได้ชวนกันกลับมาอยู่บ้านที่แม่สาย เพื่อรอให้ร้านเปิดแต่ก็ไม่คิดว่าจะนานขนาดนี้ เงินที่เก็บสะสมก็เริ่มลดน้อยลง จากเดิมเราได้เงินวันละ 3,000-4,000 บาท บางครั้งเป็นหมื่น เดือนๆเคยได้เป็นแสนกลับกลายเป็นศูนย์ แต่แม่ของแฟนให้สติว่าอย่าเครียดและลองหาอะไรทำดูจึงได้ชักชวนกันทำส้มตำขาย



นายสุพรรณ กล่าวว่าหลังจากเปิดร้านส้มตำเป็นแนวรสชาติอีสาน ได้ประมาณ 1 สัปดาห์ก็เริ่มมีลูกค้า และจากการที่เคยร้องเพลงหมอลำจึงร้องไปด้วยตำไปด้วยทำให้ลูกค้าประทับใจ ซึ่งใครที่อยากลองชิมสามารถแวะเวียนไปได้ที่ร้านข้างโรงเรียนบ้านถ้ำ

นายสุพรรณ กล่าวด้วยว่าอยากฝากไปถึงคนที่ได้รับผลกระทบเหมือนกันว่าเราอาจจะเครียดในช่วงแรกๆ หมือนพวกตนที่เคยมีรายได้ไม่เดือดร้อน ทุกวันคืนเคยอยู่กับแสงสี แต่วันหนึ่งกลับมีรายได้วันละ 0 บาท ก็ต้องลองหาทำอย่างอื่นดู อย่างพวกตนเมื่อมาเปิดร้านขายส้มตำก็พอให้อยู่ได้ และทำให้ไม่ต้องเครียดกับการเสพข่าวโควิด-19 มากจนเกินไป เพื่อที่พวกเราจะได้ผ่านพ้นมันไปด้วยกัน
#2926
ข้าวกล้องอร่อยออร์แกนิค ข้าวหอมมะลิ 100% จังหวัดสุรินทร์ 
ข้าวฮอร์  ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิคคือ ข้าวออร์แกนิคหอมมะลิสุรินทร์ 100%  ข้าวอินทรีย์ส่งทั่วไทย
  ข้าวอินทรีย์หอมมะลิ   ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิค  ข้าวออร์แกนิคหอมมะลิจังหวัดสุรินทร์ ข้าวหอมสุรินทร์ ข้าวหอมอินทรีย์ คัดพิเศษ 100%
"ข้าวฮอร์ ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์"   ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์สุรินทร์ เป็นผลิตผลจากการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ด้วยการปลูกข้าวแบบปลอดสารพิษในทุกขั้นตอน ณ ดินแดนสุรินทร์ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกข้าวที่ดีที่สุดของประเทศไทย ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งดินและน้ำ เหมาะแก่การปลูกข้าวอินทรีย์คุณภาพสูง ประกอบกับกระบวนการผลิตอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมดิน การเตรียมพันธุ์ข้าว การหว่าน การดูแลแปลงนา และการเก็บเกี่ยว โดยครอบครัวชาวนาที่มีประสบการณ์และร่ำรวยความสุขจากการทำนาอินทรีย์แบบปลอดสารพิษ เพื่อให้เมล็ดข้าว  ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ ที่ได้นั้น มีความหอม นุ่ม อร่อย ดีต่อสุขภาพและเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการอย่างครบครัน การมีสุขภาพดี คือ ความสุขที่อยู่ใกล้ตัวเรา นอกจากตนเองแล้ว เราควรแบ่งปันความสุขให้กับคนที่เรารักด้วยข้าวหอมมะลิ   ข้าวกล้องเกษตรอินทรีย์หอมมะลิ ขัดสีไม่ขาวเพื่อคงคุณค่าและใยอาหาร มีกลิ่นหอม นุ่ม ตามเอกลักษณ์ของ ข้าวออร์แกนิคหอมมะลิสุรินทร์ 100%




 ข้าวหอมมะลิสุขภาพ ได้รับมาตราฐานเกษตรอินทรีย์ -มีวิตามินและสารอาหารจากข้าวสูง -สะอาด..บริสุทธิ์..จากธรรมชาติ ทุกขั้นตอน"ข้าวอินทรีย์ (  ข้าวกล้องหอมมะลิออร์แกนิค)" ที่ผ่านกระบวนการเพาะปลูก และบำรุงรักษาทุกขั้นตอน ด้วยวิถีของเกษตรอินทรีย์ -ไม่มีสารเคมีเข้ามาเกี่ยวข้องในทุกขั้นตอนการผลิต"เมล็ดพันธุ์" คัดเลือกเมล็ดพันธุ์ แต่ละชนิด ด้วยความรัก ใส่ใจ ในรายละเอียดทุกเมล็ด -ด้วยกระบวนการปักดำ..อย่างพิถีพิถันจากธรรมชาติ"พื้นที่เพาะปลูก" ในจังหวัดสุรินทร์ - ทำการเพาะปลูก และควบคุมเองทุกขั้นตอน"แหล่งน้ำ"   ข้าวกล้องหอมมะลิออร์แกนิคอาศัยน้ำฝนตามธรรมชาติที่ตกตามฤดูกาล"ปุ๋ยที่ใช้" ไถกลบตอซังหลังเก็บเกี่ยวทุกครั้ง และปลูกพืชตระกูลถั่วเพื่อปรับปรุงบำรุงดิน, -ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ,ปุ๋ยหมักเพื่อเพิ่มธาตุอาหารในดิน"การกำจัดศัตรูพืช" ควบคุมด้วยระบบนิเวศน์หรือใส่สารสกัดจากพืชสมุนไพรแทนการฉีดสารฆ่าแมลง

ขายข้าวหอมมะลิอินทรีย์ เพื่อความมั่นใจถึงความเป็นข้าวออร์แกนิคที่แท้จริงของเรา
ข้าวฮอร์ (HOR) ได้รับมาตรฐาน
1. ใบรับรองมาตรฐานข้าวอินทรีย์ ( Organic Thailand)
2. ใบรับรองเครื่องหมาย "ข้าวพันธุ์แท้" จากกรมการข้าว จาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในประเภทของ
2.1 ข้าวขาวดอกมะลิ 105 (ข้าวขาว)
2.2 ข้าวขาวดอกมะลิ105 (ข้าวกล้อง)
2.3 ข้าวมะลินิลสุรินทร์

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ 
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website :   ข้าวไรซ์เบอรี่อินทรีย์
Facebook : https://www.facebook.com/Surin.Traditional.Rice/
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @ Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.ข้าวหอมสุรินทร์
2.ข้าวกล้องหอมสุรินทร์
3.ข้าวปกาอำปึลอินทรีย์ (#ข้าวพื้นถิ่นสุรินทร์)
4.ข้าวผสมห้าสายพันธุ์อินทรีย์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิค
6.  ปลูกข้าวกล้องหอมมะลินิลอินทรีย์
7.  ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์

ข้าว Hor พร้อมขายแล้วที่ Shopee & Lazada
https://shopee.co.th/hor.boutique
https://www.lazada.co.th/shop/horboutique/

#ข้าวหอมมะลิ #ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ #ข้าวหอมมะลิปลอดสาร #ข้าวหอมมะลิเพื่อสุขภาพ #ข้าวหอมมะลิออร์แกนิก #ข้าวหอมสุรินทร์ #ข้าวหอมมะลิออร์แกนิค
 

 

 

 

 

 
 
#2927


วันนี้ (3 ก.ย.) ที่ศูนย์แถลงข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงข่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ของไทย มีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อลดลง จำนวนผู้ป่วยรักษาหายสูงกว่ารายใหม่ต่อเนื่อง วันนี้หายป่วย 18,262 ราย รายใหม่ 14,653 ราย เสียชีวิต 271 ราย ส่วนวัคซีนทั้งแอสตร้าเซนเนก้า ซิโนแวค และไฟเซอร์ วานนี้ ฉีดได้เพิ่มขึ้น 865,074 โดส รวมสะสม 34,292,537 โดส เป็นผู้ได้รับเข็ม 1 รวม 24,542,140 ราย คิดเป็นร้อยละ 34.1 ได้รับครบ 2 เข็ม 9,152,799 ราย คิดเป็นร้อยละ 12.7 และเข็มกระตุ้น 597,598 ราย

นายแพทย์โสภณ กล่าวต่อว่า จากการแพร่ระบาดของเชื้อสายพันธุ์เดลตา ทำให้วัคซีนทุกตัวที่ใช้ มีประสิทธิภาพลดลง จึงมีการวิจัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพวัคซีนและกระตุ้นภูมิคุ้มกันเพื่อสู้กับสายพันธุ์เดลตา โดยการวิจัยของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ผลสอดคล้องกันว่า การฉีดวัคซีนสูตรไขว้ซิโนแวคตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้า ทำให้ภูมิคุ้มกันสูงในเวลารวดเร็ว ต่อสู้กับสายพันธุ์เดลตาได้ ซึ่งหลายประเทศ เช่น เยอรมนี และอิตาลี ก็มีการฉีดสูตรไขว้แอสตร้าเซนเนก้า ตามด้วยไฟเซอร์

สำหรับการฉีดไขว้ในประเทศไทยนั้น วันนี้ ที่กระทรวงสาธารณสุข มีการประชุมคณะกรรมการอำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด-19 หรือ ศบค.สธ. ได้เห็นชอบการฉีดวัคซีนสูตรไขว้ คือ 1. วัคซีนสูตรไขว้ซิโนแวค และแอสตร้าเซนเนก้า ระยะห่าง 3-4 สัปดาห์ เป็นสูตรหลักของประเทศไทย และเพิ่มสูตรไขว้แอสตร้าเซนเนก้าตามด้วยไฟเซอร์ ระยะห่าง 4-12 สัปดาห์ ซึ่งสูตรนี้จะใช้แพร่หลายในเดือนตุลาคมเป็นต้นไป เนื่องจากจะมีวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าและไฟเซอร์ จำนวนมาก 2. การฉีดกระตุ้นในผู้ที่ฉีดซิโนแวค 2 เข็ม ด้วยแอสตร้าเซนเนก้า และ 3. ผู้ที่หายป่วยโควิดในช่วง 1-3 เดือน ซึ่งยังไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือฉีดวัคซีนยังไม่ครบ 2 เข็ม หรือครบ 2 เข็ม แต่ไม่ถึง 14 วันแล้วติดเชื้อ ให้ฉีดกระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยแอสตร้าเซนเนก้า หรือไฟเซอร์ 1 เข็ม

นายแพทย์โสภณ กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ให้ประชาชนในประเทศไทยตามความสมัครใจตามนโยบายรัฐบาลตั้งแต่ปี 2563 ได้ติดต่อกับบริษัทต่างๆ เพื่อสั่งจองซื้อวัคซีน ขณะนั้นยังไม่มีวัคซีนชนิดใดที่ผลิตได้สำเร็จ การจัดซื้อวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ามีการลงนามสัญญาจองซื้อตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่ยังไม่มีมีวัคซีนออกมา จึงไม่ได้กำหนดเวลาส่งมอบชัดเจน แต่มีการหารือมาเป็นระยะ และจากการที่โรงงานผลิตวัคซีนอยู่ในประเทศไทย เมื่อผลิตสำเร็จจึงมีการส่งมอบให้ประเทศไทยเป็นประเทศแรกและได้รับอย่างต่อเนื่องตามที่ตกลงกัน โดยเดือนกันยายนนี้ส่งมอบอย่างน้อย 7.3 ล้านโดส ตุลาคม 10 ล้านโดส และพฤศจิกายน-ธันวาคมเดือนละ 13 ล้านโดส

ส่วนวัคซีนไฟเซอร์นั้น กรมควบคุมโรค และสถาบันวัคซีนแห่งชาติ มีการติดต่อประสานงานพูดคุยกับตัวแทนของทางไฟเซอร์เป็นระยะอย่างต่อเนื่อง จนมีการลงนามในสัญญา 2 ฉบับ รวมวัคซีน 30 ล้านโดส ส่งมอบล็อตแรกปลายกันยายน 2 ล้านโดส ตุลาคม ประมาณ 8 ล้านโดส และพฤศจิกายน-ธันวาคม เดือนละ 10 ล้านโดส จนครบ และก่อนหน้านี้ ได้รับบริจาค 1.5 ล้านโดสจากสหรัฐอเมริกาได้กระจายให้กลุ่มเป้าหมายแล้ว ซึ่งทำให้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าและไฟเซอร์จะเป็นวัคซีนที่มีมากที่สุดใน 3-4 เดือนข้างหน้า ทำให้เกิดความมั่นคงของวัคซีนที่มีเพียงพอและคนไทยเข้าถึงวัคซีนอย่างทั่วถึง
#2928


วันนี้ (3 ก.ย.) เวลา 15.08 น. ตามเวลาประเทศไทย (ซึ่งตรงกับเวลา 18.08 น. ของเมือง Vladivostok) ณ มหาวิทยาลัย Far Eastern Federal เมือง Vladivostok สหพันธรัฐรัสเซีย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถ้อยแถลงในการประชุม Eastern Economic Forum (EEF) ครั้งที่ 6 ในช่วงการประชุมเต็มคณะ (Plenary Session) ภายใต้หัวข้อ "Through crisis towards rejuvenation" A search for ways of growth in a post-pandemic period ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล โดย นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเกียรติที่ได้เข้าร่วมการประชุม EEF ในครั้งนี้ ซึ่งเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนทัศนะระหว่างผู้นำร่วมกันหาแนวทางสู่การฟื้นตัวและเติบโตอย่างยั่งยืนภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ทางออกจากวิกฤตโควิด-19 ที่หลายประเทศกำลังเผชิญรวมทั้งไทย คือ การที่ทุกประเทศสามารถเข้าถึงและมีการกระจายวัคซีนได้อย่างครอบคลุมโดยเร็วที่สุด ซึ่งนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำและเรียกร้องให้วัคซีนโควิด-19 เป็นสินค้าสาธารณะของโลก และขอให้ประเทศที่มีวัคซีนเพียงพอแล้ว แบ่งปันและเร่งกระจายวัคซีนให้ทั่วถึงทุกภูมิภาคโดยเร็ว

สำหรับประเทศไทย รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อจัดหาวัคซีนให้เพียงพอกับประชากรในประเทศ โดยคาดว่าจะสามารถฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรอย่างน้อยร้อยละ 70 ภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ ไทยยังอยู่ระหว่างพัฒนาวัคซีนชนิดต่างๆ ซึ่งบางโครงการอยู่ในขั้นตอนทดลองในมนุษย์ มีผลที่น่าพอใจ จึงเห็นได้ว่า ไทยมีศักยภาพและความพร้อมในการเป็นฐานการผลิตและศูนย์กลางการกระจายวัคซีนของภูมิภาค

จากสถานการณ์โควิด-19 IMF และธนาคารโลกได้รายงานตัวเลขคนยากจนทั่วโลกเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 100 ล้านคน ในปี 2020 ตอกย้ำความท้าทายที่กำลังเกิดขึ้นและจะดำเนินต่อไปถึงยุคหลังโควิด-19 โดยเฉพาะประเด็นช่องว่างของการพัฒนาและความเหลื่อมล้ำที่เพิ่มมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ ทุกประเทศจึงต้องร่วมกันยึดมั่นระบบพหุภาคีนิยมและเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างกันให้มากขึ้นบนพื้นฐานของการพัฒนาที่ยั่งยืน โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เสนอมุมมองของไทยเกี่ยวกับกุญแจสำคัญ 3 ดอก ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ เพื่อนำไปสู่การฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19 ภายใต้วิถีปกติใหม่ ดังนี้
กุญแจสำคัญดอกแรก คือ การส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยการรักษาสมดุลระหว่างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ความเท่าเทียมทางสังคม และความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม โดยไทยได้ประยุกต์ใช้ "หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง" และขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจใหม่ Bio-Circular-Green Economy (BCG) โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ในการต่อยอดความเข้มแข็งของไทยในด้านเกษตรกรรม ความหลากหลายทางชีวภาพ และความหลากหลายทางวัฒนธรรม ซึ่งไทยยินดีแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับทุกประเทศ

กุญแจสำคัญดอกที่สอง คือ การเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในภาคอุตสาหกรรมและแรงงาน รวมถึงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ห่วงโซ่อุปทานระหว่างภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม MSMEs โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลเปลี่ยนการค้ารูปแบบเดิมให้เป็นการค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ภายใต้สภาพแวดล้อมระหว่างประเทศที่เอื้ออำนวย โดยเฉพาะการปรับกฎระเบียบของภาครัฐให้รองรับการค้าแบบดิจิทัล การปรับโครงสร้างภาคแรงงานที่มีความยืดหยุ่นและปรับตัวเข้าสู่ตลาดแรงงานใหม่ได้ ซึ่งรวมถึงการ upskill และ reskill ตลอดจนเร่งจัดทำความตกลงการค้าเสรีระหว่างภูมิภาคเพิ่มเติม รวมถึงสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซียซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพ ทั้งนี้ ไทยจะเดินหน้าหารือกับประเทศสมาชิก EAEU รวมทั้งรัสเซีย และคาซัคสถานต่อไป

กุญแจสำคัญดอกที่สาม คือ การสร้างความเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน การค้าการลงทุน การท่องเที่ยว และการแลกเปลี่ยนแนวความคิดในการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษร่วมกัน ซึ่งไทยอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งมีที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ เครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมโยงกันอย่างดีเลิศ และมาตรการส่งเสริมการลงทุนที่ทันสมัย พร้อมเชิญชวนนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนใน EEC โดยเฉพาะในสาขาที่ไทยส่งเสริม นอกจากนี้ การเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยวซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนัก ไทยได้ดำเนินโครงการ Phuket Sandbox และ Samui Plus พร้อมเสนอให้มีการหารือเพื่อจัดทำแนวปฏิบัติด้านการเดินทาง และการใช้เอกสารรับรองการฉีดวัคซีนร่วมกัน เพื่ออำนวยความสะดวกและกระตุ้นการเดินทางและการท่องเที่ยวระหว่างประเทศที่จะมีขึ้นในอนาคต

วิกฤตโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจโลกถดถอยรุนแรง การจะกลับมาเข้มแข็งกว่าเดิมได้นั้น ต้องอาศัยการร่วมแรงร่วมใจอย่างจริงจังในทุกระดับซึ่งไทยได้มีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน ทั้งในกรอบ UN และองค์กรระดับภูมิภาค โดยในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม APEC ในปีหน้า ไทยจะผลักดันวาระที่มุ่งไปสู่การฟื้นตัวหลังโควิด-19 โดยเฉพาะการเดินทางและการท่องเที่ยว และการส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ยั่งยืนและครอบคลุม ซึ่งต้องขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ไทยหวังจะขับเคลื่อนภูมิภาคให้เติบโตอย่างยั่งยืน มีภูมิคุ้มกัน และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

อนึ่ง EEF เป็นเวทีหารือด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่ตั้งขึ้นเมื่อปี 2558 เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนและพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออกไกลของสหพันธรัฐรัสเซียด้วยการเชื่อมโยงเศรษฐกิจของสหพันธรัฐรัสเซียเข้ากับเอเชียแปซิฟิก โดยในการประชุมครั้งนี้ นายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีสหพันธรัฐรัสเซีย เป็นผู้กล่าวสุนทรพจน์เปิดการประชุม และมีผู้นำระหว่างประเทศ อาทิ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน และ นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ร่วมส่งวีดิทัศน์ด้วย
#2929


หุ้นบริษัท สยามแมคโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO ร้อนฉ่าขึ้นมาทันที หลังประกาศซื้อหุ้น บริษัท ซี.พี. รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด เจ้าของ บริษัท โลตัสส์ สโตร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และโลตัสส์ มาเลเซีย โดยราคาพุ่งทะยานขึ้นเกือบ 20% ผิดปกติวิสัยหุ้นที่มักจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ

MAKRO จะรับโอนกิจการโลตัสส์ ทั้งประเทศไทยและมาเลเชีย โดยการซื้อหุ้น บริษัท ซี.พี.รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด จากบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด และ บริษัท ซี.พี. เมอร์แชนไดซิ่ง จำกัด ในราคาหุ้นละ 43.50 บาท

การซื้อหุ้นจะไม่ชำระด้วยเงิน แต่ MAKRO จะออกหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 5,010.32 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 50 สตางค์ คิดเป็นมูลค่า 217,949.07 ล้านบาท เพื่อชำระแทน

การรับโอนกิจการโลตัสส์ จะทำให้ MAKRO ก้าวเป็นยักษ์ใหญ่ในธุรกิจค้าปลีก ไม่เฉพาะในประเทศไทย แต่จะเป็นบริษัทค้าปลีกใหญ่ใหญ่ในเอเชีย ยกเว้นญี่ปุ่น และมีแผนขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียด้วย

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ โบรกเกอร์แต่ละสำนัก ประเมินว่า การซื้อโลตัสส์ จะส่งผลดีต่อการดำเนินงานของ MAKRO และกำหนดราคาเป้าหมายหุ้นอยู่แถวประมาณ 46 บาท

แต่ราคาหุ้นบนกระดานกลับพุ่งทะยานไปไกลกว่าราคาเป้าหมายที่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ประเมินไว้ โดยเมื่อวันพุธที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากประกาศการซื้อกิจการโลตัสส์ ราคาหุ้นปิดที่ 50 บาท เพิ่มขึ้น 8 บาท หรือเพิ่มขึ้น 19.05% มูลค่าซื้อขาย 7,571.88 ล้านบาท และเป็นหุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุดประจำวัน

MAKRO จัดอยู่ในหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี เป็นที่สนใจของนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งมักจะซื้อเพื่อการลงทุนระยะยาว โดยจ่ายเงินปันผลในอัตราสูงกว่า 2% อย่างสม่ำเสมอ มีค่า พี/อี เรโช 35 เท่า

แต่ปัญหาของ MAKRO ไม่มีสภาพคล่องในการซื้อขาย เพราะฟรีโฟลทหรือหุ้นที่นักลงทุนรายย่อยถือมีจำนวนต่ำ โดยจำนวนผู้ถือหุ้นรายใหญ่มี 11,032 ราย แต่ถือหุ้นรวมกันในสัดส่วน 6.92% ของทุนจดทะเบียนเท่านั้น

ทุนจดทะเบียนทั้งหมดของ MAKRO มีจำนวน 4,800 ล้านหุ้น มีมาร์เก็ตแคปหรือหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม 240,000 ล้านบาท โดยจัดเป็นหุ้นขนาดใหญ่ แต่ไม่ได้ถูกบรรจุคำนวณในดัชนี SET100 เนื่องจากปัญหาฟรีโฟลท

แต่ MAKRO มีแผนออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน เพื่อเสนอขายประชาชนผู้ลงทุนทั่วไป เพื่อเพิ่มฟรีโฟลทเป็น 15% โดยทุนจดทะเบียนปัจจุบันมี 4,800 ล้านหุ้น และจะออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนอีก 5,010.32 ล้านหุ้น เพื่อแลกซื้อโลตัสส์ รวมจะมีทุนเป็น 9,810.32 ล้านหุ้น

ถ้าจะเพิ่มฟรีโฟลทเป็น 15% MAKRO จะต้องออกหุ้นเพิ่มทุนอีกไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขายประชาชนผู้ลงทุนทั่วไป

ยังไม่มีการเปิดเผยว่า MAKRO จะออกหุ้นใหม่เสนอขายประชาชนในราคาเท่าไหร่ แต่เมื่อการเพิ่มทุนครั้งใหญ่เสร็จสมบูรณ์ MAKRO จะมีทุนจดทะเบียนประมาณ 11,000 ล้านหุ้น

มาร์เก็ตแคปจะพุ่งพรวดสู่ระดับ 550,000 ล้านบาท โดยคำนวณจากราคาหุ้น 50 บาท ซึ่งไม่เป็นเพียงหุ้นขนาดยักษ์เท่านั้น แต่ยังเป็นหุ้นที่ไม่ติดเงื่อนไขฟรีโฟลท และสามารถถูกบรรจุเข้าคำนวณในดัชนี SET50 ในทันที

และถ้าอยู่ใน SET50 บรรดานักลงทุนสถาบันหรือกองทุนทั้งในและต่างประเทศ จะต้องเพิ่มน้ำหนักหุ้น MAKRO ในพอร์ต

ราคาหุ้น MAKRO ที่พุ่งทะยานเหนือคำทำนายของนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ในขณะนี้ เป็นไปได้หรือไม่ว่า จะมีแรงซื้อของกองทุนทะลักข้ามา นอกเหนือจากแรงซื้อของนักเก็งกำไรระยะสั้น

เพราะเมื่อประเมินแล้วว่า จำเป็นต้องซื้อ MAKRO เข้าพอร์ต ทำไมจะต้องรอจน MAKRO เข้า SET50

ทำไมไม่ชิงจังหวะเก็บเสียแต่ตอนนี้ ในขณะที่ราคายังไม่แรงเกินไป และไม่ต้องแย่งกันซื้อเท่าไหร่

เบื้องหลังความร้อนฉ่าของหุ้น MAKRO อาจเกิดจากกองทุนเข้ามาลุยเก็บก็ได้
#2930


นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT เปิดเผย แนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องหลังครึ่งปีแรกของปี 2564 บริษัทมีรายได้รวมกว่า 3,905 ล้านบาท ปัจจุบัน AIT มีมูลค่างานในมือ (Backlog) ณ วันที่ 23 สิงหาคม 2564 อยู่ที่ 7,800 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยส่งมอบอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ยังมีงานที่อยู่ระหว่างรอคำสั่งซื้อจากลูกค้า (Huay Waiting for P/O) อีกประมาณ 480 ล้านบาท โดยยังคงมุ่งเน้นเข้าร่วมประมูลงานทางด้านเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ตามนโยบายรัฐที่เร่งขับเคลื่อนออกมา ส่งผลดีต่อภาพรวมทั้งปีคาดว่าทำรายได้แตะ6,500 ล้านบาทได้ตามเป้าหมาย

 

ทั้งนี้ AITได้ปรับตัวและพัฒนารูปแบบการให้บริการใหม่ๆที่รองรับกับกระแสดิจิทัลมากขึ้น อาทิ อุปกรณ์ใน Data Center และระบบ Cloud เพื่อขยายขอบเขตการให้บริการต่อยอดจากฐานลูกค้าเดิม และการเตรียมพร้อมรองรับการเติบโตตามการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ICTซึ่งภาครัฐได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาเป็นอย่างยิ่งรวมถึงรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าประจำที่มียาวนาน โดยบริษัทฯ ยังเน้นงานวางระบบเนื่องจากมีความเชี่ยวชาญสูง โดยเริ่มตั้งแต่กระบวนการให้คำปรึกษา การวางแผนงานโครงการ การออกแบบระบบ การดำเนินการติดตั้ง การฝึกอบรม และการซ่อมบำรุงรักษาแบบครบวงจร ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของ AIT
#2931


นายสมชาย เมฆะสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)  หรือ IIG  รายงานมติอนุมัติการเข้าทำรายการซื้อหุ้น สามัญของ บริษัท ดิจิเนทีฟ จำกัด ("Diginative") ซึ่งมิใช่บุคคลที่เกี่ยวโยงกัน ซึ่งในวันที่คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติมีความไม่แน่นอนในการเข้าทำรายการซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจา

ทั้งนี้จึงขอแจ้งให้ทราบว่าในวันที่ 1 กันยายน 2564 บริษัทฯ ได้เข้าทำรายการ เรียบร้อยแล้ว โดยได้เข้าซื้อหุ้นสามัญของ Diginative จำนวน 6,000 หุ้น หรือ คิดเป็นร้อยละ 60 ของหุ้นสามัญทั้งหมดของ Diginative มูลค่าเงินลงทุน 39,000,000 บาท มาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท  ส่งผลให้ Diginative มีสภาพเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ

บริษัทดังกล่าวประกอบธุรกิจให้คำปรึกษาและจัดแผนงานกลยุทธ์ด้านต่าง ๆ อาทิ การตลาด,โฆษณา และ ดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง  มีทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ100 บาท
#2932


ความต้องการน้ำในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นและมีโอกาสที่จะเข้าสู่ภาวะขาดแคลน โดยปัจจุบันมีต้นทุนน้ำรวม 1,537 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่มีความต้องการน้ำรวม 2,190 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยเป็นความต้องการภาคอุตสาหกรรมเท่ากับ 625.31 ล้านลูกบาศก์เมตร

วีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า เพื่อให้การบริการจัดการน้ำในอีอีซีมีประสิทธิภาพ เพราะเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่และเป็นฐานสำคัญที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ โดย กนอ.ลงนามสัญญาซื้อขายน้ำดิบกับ บริษัท วาย.เอส.เอส.พี.แอกกริเกต จำกัด เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการด้านน้ำภาคอุตสาหกรรม และรองรับการขยายตัวภาคอุตสาหกรรมในอีอีซี รวมถึงสร้างความมั่นคงด้านน้ำให้นิคมอุตสาหกรรมในอีอีซี

ทั้งนี้ มีการพยากรณ์ความต้องการน้ำใน 5 ปี ข้างหน้า เท่ากับ 2,481 ล้านลูกบาศก์เมตร ใน 10 ปีข้างหน้าเท่ากับ 2,615 ล้านลูกบาศก์เมตร และใน 20 ปีข้างหน้า 2,722 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งแสดงถึงความเสี่ยงของการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคในอนาคต

ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณารายจังหวัดจะเห็นว่า จังหวัดชลบุรี ปริมาณความต้องการน้ำภาคอุตสาหกรรม 247.02 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่ปริมาณน้ำต้นทุนของจังหวัดมีเพียง 291.63 ล้านลูกบาศก์เมตร และจังหวัดระยอง ปริมาณความต้องการน้ำภาคอุตสาหกรรมมี 307.3 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยที่ปริมาณน้ำต้นทุนของจังหวัดมีเพียง 757.77 ล้านลูกบาศก์เมตร

"จากความต้องการใช้น้ำที่จะเพิ่มต่อเนื่อง กนอ.ต้องพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อสร้างความมั่นคงให้ภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้กระบวนการผลิตต่อเนื่อง สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ประกอบการ"


สำหรับปัจจุบันนิคมอุตสาหกรรมทั้ง 2 แห่ง มีโรงงาน 303 แห่ง แบ่งเป็น นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง 221 แห่ง ในปีนี้ต้องการใช้น้ำ 740,000 ลูกบาศก์เมตรต่อเดือน และ นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด 82 แห่ง ต้องการใช้น้ำ 6.4 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อเดือน และแต่ละปีเพิ่มขึ้น 1% โดยปี 2566 คาดว่าจะมีปริมาณการใช้น้ำ 74-75 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เพราะมีโรงงานใช้การผลิตเยอะขึ้น

ทั้งนี้ จากปริมาณการใช้น้ำที่ค่อนข้างสูงจึงต้องสรรหาแหล่งน้ำเพิ่มเติม เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ ขณะเดียวกันยังป้องกันการขาดแคลนน้ำช่วงฤดูแล้งที่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งของการลงนามในสัญญาซื้อขายน้ำดิบ เพื่อให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมไม่สะดุด และรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมในอีอีซี

ส่วนแหล่งน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปาของนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังมาจาก บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ โดยจ่ายน้ำจากอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล 80% และจากอ่างหนองค้อหรืออ่างบางพระ 20% ขณะที่แหล่งน้ำดิบของนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด มาจากอ่างเก็บน้ำดอกกราย อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล และอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่

สำหรับบริษัท วาย.เอส.เอส.พี.แอกกริเกต จำกัด มีแหล่งน้ำคุณภาพและจ่ายน้ำให้นิคมอุตสาหกรรมในราคาเหมาะสม โดยจัดหาและจ่ายน้ำดิบให้ กนอ.เพื่อใช้บริหารจัดการน้ำนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังไม่น้อยกว่า 15,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน และนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ไม่น้อยกว่า 200,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน

สำหรับการลงนามซื้อขายน้ำดิบครั้งนี้ มีอายุสัญญา 20 ปี โดยเป็นราคาซื้อขายที่ถูกกว่าแหล่งน้ำหลักที่ขายให้ปัจจุบัน อีกสัญญายังระบุว่าอนาคตหากมีการเปลี่ยนแปลงจะโดนปรับกี่เปอร์เซ็นต์ ทำให้ กนอ.มั่นใจว่าจะบริหารจัดการน้ำได้ยั่งยืน

"การลงนามกับเอกชนครั้งนี้ ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าเกิดจากปี 2562-2563 มีน้ำให้เราไม่พอจึงต้องการหาความมั่นคงให้ผู้ประกอบการในภาคตะวันออก เราพยายามหาหลายที่จนมาเจอบริษัทนี้ อนาคตจะดูต่อไปหากน้ำมีเพียงพอที่จะซัพพลายให้ที่อื่น เชื่อว่านิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ร่วมกับเราคงสนใจ"

ส่วนแผนแก้ไขปัญหาภัยแล้ง กนอ.ประเมินว่า เมื่อบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ได้ยั่งยืนเพียงพอต่อความต้องการของภาคอุตสาหกรรมแล้ว การจัดเตรียมแหล่งน้ำเพื่อรองรับน้ำฝนให้มากขึ้นจะเป็นส่วนหนึ่งของการกักเก็บน้ำไว้ใช้ ดังนั้นการลงนามครั้งนี้จะแก้ปัญหาภัยแล้งได้ในระยะเวลา 5-10 ปี
#2933


นายอธิป พีชานนท์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า แม้การคลายล็อกดาวน์จะเป็นสัญญาณบวกของภาคธุรกิจ แต่มีปัจจัยลบจากการแพร่ระบาดของโควิดที่ยังมีความไม่แน่นอนว่าจะยุติลงอย่างไร กระทบต่อความมั่นใจของผู้ซื้อที่อยู่อาศัย รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว กำลังซื้อผู้บริโภคซบเซา ขณะที่สถาบันการเงินยังเข้มงวดในการให้สินเชื่อ มีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อสูง

รวมถึง ตัวเลขลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชมโครงการ (Walk in) ก็ยังไม่ดีขึ้น แม้จะมีการใช้ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งมากขึ้นสามารถช่วยได้ระดับหนึ่ง ที่สำคัญลูกค้าที่จะตัดสินใจซื้อบ้าน คอนโดมิเนียมยังต้องการมาดูโครงการด้วยตนเอง ไม่ใช่ดูผ่านออนไลน์แล้วจะตัดสินใจซื้อ 100% ทันที

"สิ่งที่กังวลช่วงเวลานี้ คือภาพรวมเศรษฐกิจยังไม่ดีและไม่มีความชัดเจนว่าจะดีขึ้น ทั้งในและต่างประเทศ ปัญหาโควิดยังไม่รู้ว่าจะไปอย่างไรต่อ จะวนกลับมาระลอก 5 ระลอก 6 หรือไม่ ไม่มีใครตอบได้ ส่งผลต่อความไม่เชื่อมั่นที่สะสมตัวอยู่ ทำให้คนกลัวไม่กล้าจับจ่ายเพราะไม่อยากสร้างหนี้ ชะลอการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย รวมทั้งสินค้าต่าง ๆ ยิ่งความไม่สงบทางการเมือง คนรู้สึกไม่มั่นใจ ทำให้ชะลอการซื้อเพื่อลงทุน รอดูสถานการณ์ (wait and see) หากเป็นเช่นนี้ตลาดอสังหาฯ ซบเซา"

ความกังวลหลัก 3 ด้าน คือ เศรษฐกิจ โรคระบาด และการเมือง เป็นตัวแปรต่อการปรับตัวของผู้ประกอบการอสังหาฯ ในช่วง 4 เดือนสุดท้ายนี้ ทั้งการจัดโปรโมชั่น พร้อมปรับแผนการลงทุนใหม่ ระมัดระวังการขยายธุรกิจ สังเกตได้ว่า มีการเปิดตัวโครงการใหม่น้อยลงจนถึงไม่มี ส่วนใหญ่เน้นระบายสต็อกเก่า

"หนทางที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาทุกภาคส่วนต้องพยายามทำให้ภาครวมของเศรษฐกิจดีขึ้น เพราะอสังหาฯ เป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งของภาคเศรษฐกิจ หากเศรษฐกิจรวมไม่ฟื้น อสังหาฯ ไม่สามารถฟื้นตัวเองได้"


สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาฯ ปีนี้ ประเมินว่าตลาดคอนโดมิเนียมตัวเลข "ติดลบ" ไม่ต่ำกว่า 30% จากปีก่อน ส่วนบ้านจัดสรร คาดการณ์ติดลบเป็นตัวเลขหลักเดียว ไม่ถึง 10% หากนำตัวเลขสองตลาดนี้มารวมกัน ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยปีนี้ น่าจะติดลบประมาณ 15% เมื่อเทียบกับปี 2563 อยู่ในสถานการณ์ที่แย่กว่า แต่จะมากหรือน้อยระดับไหนต้องพิจารณาช่วงเวลาที่เหลือ 4 เดือนสุดท้ายนี้ หาก สถานการณ์จะดีขึ้นหรือว่าสถานการณ์จะแย่ลงกว่าเดิม

ทั้งนี้ หากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดไม่เกิดระลอกใหม่ ไม่มีการติดเชื้อจำนวนมาก ไม่มีการปิดแคมป์ก่อสร้าง กระทบต่อตลาด จะทำให้ 4 เดือนจากนี้สถานการณ์จะไม่เลวร้ายมากนัก และไต่ระดับกลับมาอยู่ในภาวะทรงตัว อย่างไรก็ตาม ตลาดบ้านจัดสรร จะยังคงไปได้แต่ตลาดคอนโดมิเนียมยังคงอยู่ในภาวะลำบากต่อเนื่อง
#2934
 
ข้าวออร์แกนิคสำหรับมารดาตั้งครรภ์
กลุ่มข้าวอินทรีย์สุรินทร์ การทำนาข้าวอินทรีย์   การปลูกข้าวอินทรีย์  ปรับเปลี่ยนปลูกข้าวออร์แกนิค

9 เหตุผลที่คุณแม่ตั้งครรภ์ .....ควรรับประทานข้าวกล้องออร์แกนิค ( ข้าวไรซ์เบอรี่อินทรีย์ )
        การรับประทาน "#ข้าวกล้องออร์แกนิค หรือ ข้าวอินทรีย์กรมการข้าว " ส่งผลดีต่อลูกน้อยในครรภ์และสุขภาพคุณแม่มากมาย ถือเป็นหนึ่งในอาหารกลุ่มให้พลังงาน ข้าวกล้องเป็นข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี จึงยังคงไว้ด้วยคุณค่าสารอาหารมากกว่าขาวที่ถูกขัดสีแล้ว  เรามากันทำไมคุณแม่ตั้งครรภ์ควรกิน  "#ข้าวกล้องออร์แกนิค"  ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้




1.ข้าวมะลินิลอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีเส้นใยอาหาร ซึ่งช่วยในเรื่องของอาการท้องผูกและมะเร็งลำไส้
2.  ข้าวกล้องหอมมะลินิลเพื่อสุขภาพ, ข้าวกล้องออร์แกนิคเมื่อรับประทานข้าวกล้องเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ป้องกันการเกิดปากนกกระจอก เนื่องจากมีวิตามินบี 2
3.   ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิค, ข้าวกล้องออร์แกนิคบรรเทาอาการอ่อนเพลีย อาการปวดแสบและเสียวในขา ปวดน่อง ปวดกล้ามเนื้อ
4.  ข้าวกล้องหอมมะลิสุขภาพ, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีฟอสฟอรัส ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน และเส้นผม
5.  ข้าวปะกาอำปึลออร์แกนิค, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีธาตุเหล็กมากเป็น 2 เท่า ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
6.  ข้าวสุขภาพปะกาอำปึล, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีเกลือแร่ และวิตามินรวมกันกว่า 20ชนิด ซึ่งช่วยให้ระบบการทำงานของร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
7. ข้าวผกาอำปึลเพื่อสุขภาพ , ข้าวกล้องออร์แกนิกมีโปรตีนมากกว่า 20-30% ช่วยเสริมสร้างร่างกาย ซ่อมแซมเซลล์ส่วนที่สึกหรอ
8.   ปลูกข้าวหอมมะลิแดงออแกนิค, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแคลเซียมจำเป็นที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับ ช่วยให้กระดูกแข็งแรง และยังช่วยป้องกันการเกิดตะคริว ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์กว่า 90% ต้องเผชิญ
9.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงสุขภาพ, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแป้งมีน้อยกว่าข้าวขาว ช่วยลดความอ้วน เนื่องจากได้รับสารอาหารต่างๆ ที่มีประโยชน์เพิ่มขึ้น มีผลทำให้สุขภาพจิตใจของคุณแม่ตั้งครรภ์ดีขึ้น เพราะสุขภาพร่างกายแข็งแรง สดชื่น แจ่มใส

หลังจากรู้คุณค่าของ "ข้าวกล้องออร์แกนิค"  กันแล้ว อย่าลืมซื้อ "ข้าวกล้องออร์แกนิก"  มาทานกันนะคะ

ข้าว Hor.Boutique ข้าวไรซ์เบอรี่ หรือ ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่   ข้าวอินทรีย์
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : ข้าวหอมมะลิอินทรีย์
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.  ข้าวกล้องหอมมะลิออร์แกนิค
2.  ปลูกข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์
3.   ข้าวปะกาอำปึลอินทรีย์  ข้าวผกาอำปึลorganic(ข้าวพื้นถิ่นออแกนิกสุรินทร์) 4.  ข้าวอินทรีย์ผสมหลายสายพันธุ์ สุรินทร์
5.  ข้าวกล้องอินทรีย์หอมมะลิแดง 6.  ข้าวกล้องเกษตรอินทรีย์หอมมะลินิล
7.  ข้าวไรซ์เบอรี่อินทรีย์  กลุ่มข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์

#ข้าวคนท้อง  #ข้าวสำหรับคนท้อง   #ข้าวคนตั้งครรภ์   #ข้าวสำหรับคนตั้งครรภ์  #คนท้องกินข้าวกล้อง  #คุณแม่ตั้งครรภ์
 

 

 

 

 

 

 

 

 
 
#2935


บริษัท มันนิกซ์ จำกัด ผู้ให้บริการสินเชื่อออนไลน์ถูกกฎหมายสำหรับลูกค้ารายย่อยเปิดตัว "ฟินนิกซ์ (FINNIX)" แอปเงินกู้คู่คนทำมาหากินที่ให้บริการสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ อย่างเป็นทางการ เผยเปิดให้บริการมานานกว่า 1 ปี จนในปัจจุบันมียอดการดาวน์โหลดมากกว่า 3.5 ล้านครั้ง ปล่อยสินเชื่อแล้วมากกว่า 3 พันล้านบาท พร้อมตั้งเป้า 5 พันล้านบาทภายในสิ้นปี 2564 และมุ่งสู่การเป็นแอปพลิเคชันทางการเงินอันดับ 1 ของไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เผยจุดเด่นสามารถกู้เงินผ่านแอปพลิเคชันได้ตลอด 24 ชั่วโมง อนุมัติปั๊บรับเงินไวสุดใน 5 นาที วงเงินสูงสุด 1 แสนบาท ดอกเบี้ยต่ำเพียง 2.75% ต่อเดือน แบบลดต้นลดดอก ช่วยลดปัญหาหนี้นอกระบบที่ไม่เป็นธรรม

นางสาวถิรนันท์ อรุณวัฒนกูล ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท มันนิกซ์ จำกัด กล่าวว่า มันนิกซ์เป็นแอปพลิเคชั่นที่ทำธุรกิจปล่อยสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ผ่านช่องทางดิจิทัล 100% ซึ่งเรามองว่า จากการสำรวจที่ผ่านมาพบว่ายังกลุ่มคนที่ยังเข้าถึงเงินกู้ในระบบได้ค่อนข้างน้อย โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่มีเอกสารรายได้ หรือกลุ่มคนที่มีรายได้ต่ำกว่า 20,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมีรวมกันอยู่ถึง 36 ล้านคน ขณะที่หนี้ครัวเรือนที่มีสัดส่วนต่อจีดีพีที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 80% มาที่ 90% ในช่วงสถานการณ์โควิด 19 สะท้อนให้เห็นว่ายังมีผู้ที่ขาดสภาพคล่องอยู่มาก และหากไม่สามารถเข้าระบบสถาบันการเงินได้ ก็จะต้องไปสู่การกู้เงินนอกระบบที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงมาก มันนิกซ์จึงเห็นถึงโอกาสตรงนี้ที่จะเข้ามาเติมเต็มให้กับผู้กู้กลุ่มนี้

ทั้งนี้ จุดเด่นของมันนิกซ์นั้น ผู้กู้ไม่จำเป็นต้องมีเอกสารแสดงรายได้แต่จะต้องมีรายการเดินบัญชีจากธนาคารใดก็ได้กรณีที่ไม่ใช่ลูกค้าของธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB EASY ในวงเงิน 2,000-100,000 บาท อนุมัติเร็วแค่ 5 นาที อัตราดอกเบี้ย 2.75%ต่อเดือนตามเกณฑ์ของสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ มีความปลอดภัยด้านข้อมูลต่างๆสูงเนื่องจากเป็นบริษัทที่ถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมทั้งให้เลือกวิธีชำระสินเชื่อคืนได้ถึง 3 สไตล์ได้ตามกำลัง ได้แก่ จ่ายขั้นต่ำแค่ดอกเบี้ย จ่ายโปะมากน้อยตามใจ และผ่อนจ่ายนานสูงสุด 12 เดือน และหากผู้กู้มีการชำระเงินตรงต่อเนื่อง 3 เดือนก็จะได้รับสิทธิ์เพิ่มวงเงินกู้อีกด้วย

ด้านสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)นั้น บริษัทได้ตั้งเป้าหมายบริหารไว้ไม่เกินตัวเลข 1 หลัก ซึ่งปัจจุบันก็ยังสามารถทำได้อยู่ และเชื่อว่ายังดูแลให้อยู่ในระดับเป้าหมายได้ต่อไป โดยมันนิกซ์มีจุดแข็ง คือ ระบบปฏิบัติการที่ผสานพลังดิจิทัลของเทคโนโลยีเอไอ (AI) และแมชชีนเลิร์นนิ่ง (ML) ทำให้ประเมินความเสี่ยงของลูกค้าได้รวดเร็ว ครอบคลุม และแม่นยำ นอกจากนี้ ระบบยังปลอดภัยด้วยมาตรฐานระดับโลก ตอบสนองต่อความต้องการลูกค้าที่หลากหลายได้ทันใจ จึงสามารถให้บริการแอปสินเชื่อในรูปแบบออนไลน์ได้โดยไม่ต้องมีสาขา

"ในช่วงโควิดระลอก 3 ที่ผ่านมา ผลกระทบค่อนข้างหนัก เราเองก็เห็นสัญญาณของลูกค้าที่เริ่มจะผ่อนชำระได้ลดลง หรือผิดนัดชำระมากขึ้นเข่นกัน แต่ด้วยระบบการชำระที่ยืดหยุ่นสามารถเลือกได้ตามความสะดวกของลูกค้าทำช่วยให้สถานะผิดนัดชำระหนี้เกิดน้อยลง ขณะที่ระบบพิจารณาความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพก็เริ่มมีการพิจารณาที่รัดกุขึ้นทำให้เราน่าจะรักษาระดับเอ็นพีแอลไว้ได้ตามที่วางไว้ โดยปัจจุบันเรามีอัตราการอนุมัติสินเชื่ออยู่ที่ 25%ซึ่งถือว่าสูงเมื่อเทียบกับนาโนไฟแนนซ์ทั้งระบบ"

ทั้งนี้ หลังจากเปิดดำเนินธุรกิจมาประมาณ 14 เดือน มันนิกซ์มียอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นแล้ว 3.5 ล้านบัญชี มีจำนวนผู้ใช้งานจริง 250,000 ราย มียอดสินเชื่อรวม 3,000 ล้านบาท และคาดว่า ณ สิ้นปีนี้จะมียอดผู้ใช้งาน 300,000 ราย มียอดสินเชื่อรวม 5,000 ล้านบาท โดยบริษัทมองว่าในตลาดนาโนไฟแนนซ์ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก จากตลาดนาโนไฟแนนซ์รวมที่ 200,000 ล้านบาทนั้น เป็นส่วนของบริษัทที่ทำนาโนไฟแนนซ์อย่างถูกกฎหมายเพียง 70,000 ล้านบาทเท่านั้น ขณะที่การปล่อยสินเชื่อในช่องทางดิจิทัลก็ยังไปได้ดีจากแรงหนุนพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนมาใช้ช่องทางนี้มากขึ้นจากสถานการณ์โควิด 19 และด้านต้นทุนที่ต่ำทำให้สามารถเข้สถคฃลูกค้าได้มากขึ้น

"เราถามตัวเองว่าผลิตภัณฑ์ใดจะช่วยแก้ปัญหาให้คนไทยได้มากที่สุด ซึ่งเราพบว่าในปีที่แล้วโดยเฉพาะตั้งแต่ช่วงโควิด หนี้ครัวเรือนของคนไทยสูงขึ้นมาก อย่างไตรมาสแรกปีนี้ที่พุ่งสูงถึง 90% ต่อจีดีพี ซึ่งทำให้เราเห็นว่าคนไทยกำลังขาดสภาพคล่องทางด้านการเงินอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อยหรือไม่มีเอกสารยืนยันบัญชีการเงินยิ่งไม่สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการของธนาคารและสถาบันการเงินได้ จากผลข้อมูลพบว่ามีคนทำมาหากินราว 36 ล้านคนที่ประสบปัญหาดังกล่าว เราจึงมองเห็นโอกาสที่มันนิกซ์จะเข้ามาช่วยเหลือตรงนี้ได้และตัดสินใจว่าจะทำผลิตภัณฑ์แรกในรูปแบบสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ โดยตั้งเป้าช่วยเหลือคนทำมาหากินให้ได้อย่างน้อย 7.2 ล้านคนในช่วงเริ่มต้น"

ทั้งนี้ ภายในงานเปิดตัวแอปพลิเคชันฟินนิกซ์ (FINNIX) ยังได้รับเกียรติจากเจ้แขกแหกปาก เจ้าของวลีเด็ด "ชีวิตต้องสู้!! เพราะกู้ร้อยละ 20" มาเล่าถึงอดีตการเป็นลูกหนี้นอกระบบผู้ปลดหนี้ได้สำเร็จ พร้อมกับคุณฟ้า-กนกพรรณ หมวกไสว ผู้ก่อตั้งเพจมือปราบหนี้นอกระบบ-แอพเงินกู้ บอกเล่าประเด็นในสังคมที่น่าสนใจ อาทิ กรณีศึกษาจากการช่วยเหลือเหยื่อจากภัยร้ายของแอปเงินกู้นอกระบบ และวิธีรับมือแก้ไขให้หลุดพ้นจากวังวนแอปเหล่านี้เมื่อพลาดไปแล้วอีกด้วย
#2936
newnormal ในยุค โควิด ต้องนี่เลย สเปรย์แอลกอฮอล์ สูตรออแกร์นิค 40ml

ฟรี #สบู่แผ่น ล้างมือ (ใช้ได้50ครั้ง)
-กลิ่นมิ้นต์หอมสดชื่น -กลิ่นแคนดี้หอมหวาน
เซตละ 99 บาท (ส่งฟรีจ้า *ของแถมจำนวนจำกัด) คุ้มมากกกกกกกกกแถมน่ารักมากกกกอีกด้วย แค่หยิบมาใช้ใครๆก็มอง บอกเลยแม่...
IG : littlejinny_shop 
ID : @littlejinny 
Tel : 0859092391

รับตัวแทน สต้อคแน่น ฮิตสุดๆ แพคเกจไม่เหมือนใคร






























#2937

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น U วานนี้ (1ก.ย.)ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่2 โดยราคาเพิ่มขึ้นแรงในช่วงบ่ายชนซิลลิ่งที่30% หรือ เพิ่มขึ้น0.33 บาท อยู่ที่ 1.43 บาทต่อหุ้น สูงสุดในรอบ 7 เดือน ซึ่งเป็นระดับราคาปิดตลาด

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้นUปรับตัวขึ้นแรงจะมาจากสองปัจจัยหนุน คือ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รายงานการได้มาหุ้น U โดย ASM CONNAUGHT Huay HOUSE (MASTER) FUND III LP ซึ่งเป็นการได้มา เมื่อวันที่ 27 ส.ค.64 จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มา คิดเป็น 15.7137% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ส่งผลถือหุ้นรวม 16.6249% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

รวมถึงก่อนหน้านี้ U ประกาศรุกธุรกิจการเงิน ด้วยการเข้าซื้อหุ้น JMART 9.9% และ SINGER 24.9% มีโอกาสทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้นในอนาคต จากการที่บริษัทตั้งเป้าปีหน้าคาดเริ่มเห็นกำไรสุทธิ

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า จากการที่บริษัทเปลี่ยนขาธุรกิจจากอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด -19 อย่างมากมาสู่ธุรกิจการเงิน ด้วยการเข้าซื้อหุ้น JMART และ SINGER ที่คาดว่าในปี2565 จะมีกำไรราว 1,500 ล้านบาทและ 1,000 ล้านบาท จะช่วยลดผลการขาดทุนสะสม อาจมีโอกาสกลับมามีกำไรในอนาคต ทำให้กลายเป็นหุ้นเก็งกำไรตัวหนึ่งที่มีความสนใจและน่าจับตาพอสมควร ดังนั้น จึงเห็นตลาดตอบรับเร็วและส่งผลดีต่อการจ่ายปันผลของ U ด้วย


ทั้งนี้ ปัจจุบันราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงจาก 0.9 บาท มาอยู่เหนือ 1.4 บาท แนะว่า ผู้ลงทุนคงต้องรอจังหวะราคาย่อลงทยอยสะสมเพิ่มได้ ส่วนที่มีอยู่แล้วสามารถถือต่อไปได้

"แม้ว่าบริษัทต้องทำกำไรเข้ามาค่อนข้างมากเพื่อล้างขาดทุนสะสมและการจ่ายปันผลสะสม หลังจากนั้นจะเป็นกำไรสะสมที่แท้จริงซึ่งจะเกิดขึ้นได้เร็วแค่ไหน ในปีหน้าหรือไม่ยังต้องติดตาม แต่มองว่า บริษัทเข้าถือซื้อหุ้นธุรกิจการเงินเปลี่ยนขาธุรกิจครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเคลียบ้านที่ดีมีโอกาสกลับมาเทิร์นอะลาวด์ได้ในอนาคต"

----------------------
ตลท.สั่ง U ติดแคชบาลานซ์ พร้อมขยายมาตรการกำกับขั้นสูงสุด XPG

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยหลักทรัพย์เข้าข่ายกำกับการซื้อขาย ระดับ 1 โดยให้ซื้อขายด้วยบัญชีเงินสด (Cash Balance) ได้แก่ บมจ.ยู ซิตี้ (U) หุ้นบุริมสิทธิของบริษัท (U-P) และใบสำคัญแสดงสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญของบริษัท (U-W4) มีผลตั้งแต่ 2-22 ก.ย. 2564

รวมถึงขยายช่วงดำเนินการห้าม Net Settlement ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย และ Cash Balance บมจ.เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล (XPG) และใบสำคัญแสดงสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญของบริษัท (XPG-W4) มีผล 2-22 ก.ย.2564
 
#2938


วันที่ 1 ก.ย. 64 นายสกนธ์ วรัญญูวัฒนา ประธานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า(กขค.)หรือบอร์ดแข่งขันทางการค้า เปิดเผยว่า ได้รับทราบข่าวการโอนกิจการของบริษัท ซี.พี.รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด หรือกลุ่มซีพีไปยังบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)  ที่เป็นการรับโอนกิจการทั้งหมดของบริษัท ซี.พี.รีเทล โฮลดิ้ง ซึ่งรวมถึงทรัพย์สิน หนี้สิน สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดทั้งหมดของที่มีอยู่ในปัจจุบันแล้ว โดยเรื่องนี้ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายของสำนักงานการแข่งขันทางการค้าไปการพิจารณาดูว่า การโอนกิจการดังกล่าวเป็นจะขัดเงื่อนไขที่คณะกรรมการแข่งขันทางการค้ากำหนดไว้หรือไม่ หลังจากที่เห็นชอบให้กลุ่มซีพีควบรวมกับบริษัท เทสโก้ สโตร์ส จำกัด และได้กำหนด 7 เงื่อนไขให้ต้องปฏิบัติตาม โดยได้กำชับให้ฝ่ายกฏหมายดำเนินการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด คาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้

"คงต้องพิจารณาว่าการปรับโครงสร้างของกลุ่มซีพี โดยการโอนกิจการของโลตัสทั้งหมดให้สยามแมคโคร ซึ่งเป็นธุรกิจค้าปลีกจะเข้าข่ายผิดเงื่อนไข 7 ข้อ หรือไม่ ซึ่งต้องพิจารณารายละเอียดอย่างรอบคอบ" นายสกนธ์ กล่าว

    
สำหรับ 7 เงื่อนไขที่กลุ่มซีพีต้องปฏิบัติ ประกอบด้วย


1. ห้ามธุรกิจในเครือควบรวมธุรกิจค้าปลีกค้าส่งรายอื่นนาน 3 ปี ไม่รวมธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

2. หลังควบรวมแล้วให้เพิ่มสัดส่วนสินค้าจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไม่น้อยกว่า 10% ต่อปี เป็นระยะเวลา 5 ปี

3. หลังควบรวมแล้วห้ามมิให้ใช้หรือแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการตลาด

4. ให้คงสัญญาที่ทำไว้กับซัพพลายเออร์ 2 ปี

5. กำหนดระยะเวลาเครดิตเทอม กลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เป็นเวลา 30-45 วัน เป็นเวลา 3 ปี

6. ให้รายงานผลประกอบการต่อ กขค. เป็นเวลา 3 ปี

7. หลังควบรวมแล้วให้จัดทำ code of conduct เผยแพร่ต่อสาธารณะ
 
#2939


รีล มาดริด ยักษ์ใหญ่แห่งศึกลาลีกา สเปน ถอนตัวที่จะเซ็นสัญญากับ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ในตลาดซัมเมอร์นี้ หลังจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ไม่ตอบรับข้อเสนอจำนวน 170 ล้านยูโรที่ทีมยื่นไปให้ 

ตามการรายงานจาก 'สกาย สปอร์ตส' สื่อกีฬาชั้นนำ ระบุว่า 'ราชันชุดขาว' ยอมถอยจากดีลดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย เพราะไม่สามารถเจรจาค่าตัวกับ 'เปแอสเช' ได้ โดยยอดทีมจากลีกเอิง ฝรั่งเศส ตัดสินใจที่จะไม่ตอบรับข้อเสนอจำนวน 170 ล้านยูโรพร้อมแอดออน และพยายามโก่งราคาขึ้นไปเป็น 200 ล้านยูโร ซึ่งยักษ์ใหญ่ลาลีกา สเปน ไม่เล่นด้วย 

อย่างไรก็ตาม รีล มาดริด จะรอจนถึงช่วงเดือนมกราคม 2565 หรือตลาดซื้อขายหน้าหนาว จะทำการเจรจากับ คีเลียน เอ็มบัปเป้ อีกครั้ง ถึงโอกาสความเป็นไปได้ที่จะคว้าตัวมาร่วมทีมแบบฟรีๆ ในช่วงซัมเมอร์หน้า

ทั้งนี้ 'ราชันชุดขาว' ค่อนข้างมั่นใจว่าทีมจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับหัวหอกทีมชาติฝรั่งเศสรายนี้ได้ในช่วงตลาดซื้อขายเดือนมกราคม ซึ่งเจ้าตัวน่าจะไม่จรดปากกาต่อสัญญาฉบับใหม่กับ 'เปแอสเช' อย่างแน่นอน โดยจะทำให้ เอ็มบัปเป้ สามารถคุยกับสโมสรใดก็ได้ในตลาดหน้าหนาวนี้

โดยในเวลานี้ คีเลียน เอ็มบัปเป้ กำลังเดินทางไปยังแคมป์เก็บตัวทีมชาติฝรั่งเศส เพื่อช่วยทัพ 'ตราไก่' ลงเล่นฟุต.โลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป ที่จะพบกับ บอสเนียฯ, ยูเครน และฟินแลนด์ ในช่วงปฏิทินฟีฟ่าเดย์
#2940
การรับประทานข้าวเพื่อสุขภาพกินแทนยา

ข้าวหอมมะลิอินทรีย์   ข้าวออแกนิคสำหรับทารกส่งทั่วไทย   ข้าวสุขภาพสุรินทร์ ต้นข้าวปลอดสาร   นโยบายส่งเสริมการผลิตข้าวปลอดสาร   วิธีปลูกข้าวปลอดสาร   ถ้าไม่อยากกินยาตลอดชีวิตให้กิน "ข้าวกล้อง" เป็นยาการที่ข้าวเปลือกอินทรีย์ถูกขัดสี ทำให้สูญเสียสารอาหารที่จำเป็นออกไปเป็นจำนวนมาก ยิ่งขัดสีเป็นข้าวขาวหลายครั้งเท่าไร สารอาหารยิ่งเหลือน้อยลงไป การหันกลับมากินข้าวกล้อง เหมือนบรรพบุรุษของเรา จึงเป็นวิถีชีวิตที่ถูกต้อง ช่วยไม่ให้เป็นโรคอันไม่ควรจะเป็น เนื่องจากขาดสารอาหาร


การฝึกกินข้าวกล้องออแกนิค ( เกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ปลูกข้าวอินทรีย์ )
1. คนที่เพิ่งหัดกินข้าวกล้อง ( ข้าวออร์แกนิคไทยมีราคาแพง
) อาจใช้วิธีง่ายๆ คือนำข้าวกล้องผสมกับข้าวขาวในอัตราส่วน 1 : 2 โดยแช่ข้าวกล้องก่อนนำไปหุงรวมกับข้าวขาว เพื่อจะได้สุกพร้อมๆ กัน และค่อยๆ เพิ่มปริมาณข้าวกล้อง จนเปลี่ยนเป็นข้าวกล้องทั้งหมด ท่านก็จะกินข้าวที่ได้คุณค่าอาหารอย่างเต็มที่ 
2. การกินข้าวกล้องก็คือควรกินขณะยังอุ่นๆ โดยทั่วไป พอข้าวสุก ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุประมาณ 5-10 นาทีแล้วควรรีบกิน ข้าวจะนุ่มกินได้ง่าย และให้ค่อยๆ เคี้ยวพอละเอียด จะได้รสชาติหวานอร่อยของข้าวกล้อง ตาม  ปลูกข้าวออร์แกนิค กันมั้ย  
3. ควรกินข้าวกล้องที่สุกแล้วให้หมดในมื้ออาหารนั้น เพราะข้าวกล้องบูดเสียได้ง่ายกว่าข้าวขาวทั่วๆ ไป

วิธีหุงข้าวกล้องอินทรีย์  การผลิตข้าวออร์แกนิคต้นทุนต่ำ

1. ก่อนซาวข้าวควรเก็บสิ่งแปลกปลอมออกเสียก่อน และซาวข้าวเบาๆ ด้วยเวลาสั้นๆ เพียงครั้งเดียว เพื่อไม่ให้วิตามินสูญเสียไปกับน้ำซาวข้าว
2. การหุงข้าวกล้องนั้น ต้องใส่น้ำมากกว่าหุงข้าวขาว การหุงข้าวกล้อง 1 ส่วนจึงควรเติมน้ำประมาณ 2-3 เท่า ถ้าจะให้ประหยัดเวลาหุง ควรแช่ข้าวกล้องก่อนประมาณครึ่งชั่วโมง วิธีนี้อาจทำให้สูญเสียวิตามินบางอย่างที่ละลายน้ำไปบ้าง แต่ไม่แนะนำให้แช่ข้าวเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะข้าวที่มีสี แต่ถ้าจำเป็นต้องแช่ข้าว แนะนำให้ใช้น้ำที่แช่ข้าวนำกลับไปใช้ในการหุ้ง เพื่อลดการสูญเสียสารต้านอนุมูลอิสระในข้าว โดยเฉพาะข้าวสี
3. สำหรับข้าวใหม่หรือข้าวเก่านั้น จะมีผลต่อการหุงต้มเช่นกัน เพราะข้าวใหม่เมื่อหุงสุกจะมีลักษณะเมล็ดข้าวติดกันมาก ส่วนข้าวเก่าเมื่อหุงสุกการติดกันของเมล็ดข้าวจะน้อย เนื่องจากข้าวเก่าเมล็ดข้าวจะแห้งกว่าข้าวใหม่
เหตุนี้จึงทำให้บางท่านหุงข้าวแล้วบอกว่าใช้น้ำมากเท่าเดิมทำไมข้าวจึงแฉะหรือร่วน ซึ่งก็ต้องถามผู้ขายว่า เป็นข้าวเก่าหรือข้าวใหม่ ส่วนจะให้แฉะหรือร่วนแล้วแต่จะชอบ ผู้หุงข้าวจึงต้องใส่น้ำให้เหมาะสมหรือต้องใช้ศิลปะในการหุงเช่นกัน


ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  ทำไมต้องเป็นข้าวอินทรีย์

277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : https://www.hor.boutique
Facebook : https://www.facebook.com/Rice.For.Infant/
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutique ตลาดข้าวอินทรีย์

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ1.ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ 2.ข้าวกล้องหอมมะลิสุรินทร์   ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิค 3.ข้าวปกาอำปึลอินทรีย์ (#ข้าวพื้นถิ่นจังหวัดสุรินทร์) 4.ข้าวผสมห้าสายพันธุ์อินทรีย์ 5.ข้าวกล้องมะลิแดงอินทรีย์ 6.ข้าวมะลินิลอินทรีย์สุรินทร์ 7. ข้าวไรซ์เบอรี่

#ข้าวกล้องอินทรีย์สุรินทร์ #ข้าวกล้องออแกนิคสุรินทร์ #ข้าวกล้องปลอดสารสุรินทร์ #ข้าวกล้องเพื่อสุขภาพสุรินทร์ #ข้าวกล้องหอมมะลิสุรินทร์ #ข้าวกล้องเมืองสุรินทร์