• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - PostDD

#2101
Nike Air Jordan 1 low Game royal
ภาวะผลิตภัณฑ์ที่จำหน่าย :
มือหนึ่ง
มือสอง
6,890 ฿
ราคาขายต่ำสุด
6,000 ฿
ราคารับซื้อสูงสุด
---
ราคาปัจจุบัน  Nike Air Jordan 1 low Game royal

ซิ้อหรือตั้งรับ

ขายหรือตั้งขาย
ค้ำประกันของจริง 100%
คุ้มครองปกป้องการโดนโกงออนไลน์
img-how-to-sell
แนวทางการขายของ ?
img-how-to-buy
กระบวนการซื้อสินค้า ?
img-how-to-bid
กรรมวิธีตั้งรับ ?
img-how-to-offer  Nike Air Jordan 1 low Game royal
วิธีการต่อราคา ?
รายการขายล่าสุด
12 เดือนย้อนไป  Nike Air Jordan 1 low Game royal
ปริมาณออเดอร์
0
ราคาขายเฉลี่ย
~ ---
ลงทะเบียนเป็นสมาชิก หรือเข้าสู่ระบบเพื่อมองข้อมูลวิธีขาย


แอร์จอร์แดน รุ่นที่ 1 ได้มีการเปิดตัวครั้งแรกในปีพ.ศ. 2528 บนเท้าของผู้เล่นบาสเกต.ระดับตำนานไมเคิล จอร์แดน ด้วยดีไซน์ที่งาม ดูเรียบง่ายบวกกับปักสัญลักษณ์จอร์แดนที่ข้อเท้า ทำให้ แอร์จอร์แดน รุ่นที่ 1 เป็นหนึ่งในรุ่นที่ถูกสอบถามหาแล้วก็เป็นที่นิยมสูงสุดตลอดการในโลกสนีกเกอร์  Nike Air Jordan 1 low Game royal


https://bit.ly/3s11AWv
#2102
รัสเซียแสดงแสนยานุภาพซ้อมรบนิวเคลียร์พรุ่งนี้ 'ปูติน' ร่วมสังเกตการณ์ด้วย

กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย จะเข้าสังเกตการณ์ซ้อมรบด้วยอาวุธนิวเคลียร์ของกองทัพรัสเซียในวันพรุ่งนี้ โดยจะมีการยิงขีปนาวุธแบบทิ้งตัว (ballistic missile) และขีปนาวุธร่อน (cruise missile) ซึ่งถือเป็นการแสดงแสนยานุภาพทางทหารของรัสเซีย ท่ามกลางช่วงเวลาวิกฤตในความขัดแย้งกับชาติตะวันตกในกรณียูเครน

กระทรวงฯระบุว่าการซ้อมรบดังกล่าวเป็นการทดสอบความพร้อมของศูนย์บัญชาการทางทหาร, หน่วยปฏิบัติการสู้รบ, เรือรบ และประสิทธิภาพของอาวุธนิวเคลียร์และไม่ใช่นิวเคลียร์

ทางด้านนายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า การซ้อมรบในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการฝึกทางทหารที่มีการดำเนินการเป็นประจำ และไม่ได้บ่งชี้ถึงความขัดแย้งที่เพิ่มขึ้นกับชาติตะวันตก

นอกจากนี้ นายเพสคอฟกล่าวว่า บทบาทของปธน.ปูตินในการซ้อมรบดังกล่าวถือว่ามีความสำคัญ โดยปธน.ปูตินจะทำการสังเกตการณ์จาก'ศูนย์ตรวจสอบสถานการณ์'แห่งหนึ่ง

การซ้อมรบดังกล่าวมีขึ้น ท่ามกลางความตึงเครียดบริเวณชายแดนรัสเซีย-ยูเครน ขณะที่สหรัฐเตือนว่ารัสเซียอาจบุกโจมตียูเครนได้ทุกขณะ หลังจากที่สหรัฐและองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องด้านความมั่นคงของรัสเซียที่ต้องการให้มีการรับประกันว่า นาโตจะไม่รับยูเครนและประเทศซึ่งเคยอยู่ในอดีตสหภาพโซเวียตเข้าเป็นสมาชิก, ยุติการติดตั้งอาวุธใกล้ชายแดนรัสเซีย ขณะที่สหรัฐและพันธมิตรจะต้องถอนกำลังทหารออกจากกลุ่มประเทศอดีตสหภาพโซเวียต
#2103
การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค ครั้งที่ ๑ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน

การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค ครั้งที่ ๑ เริ่มขึ้นแล้วเมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ โดยในช่วงสองวันแรก คณะผู้แทนไทยได้ร่วมหารือแลกเปลี่ยนความเห็นกับผู้แทนเขตเศรษฐกิจสมาชิกเอเปคในการประชุมคณะทำงานต่าง ๆ รวม ๘ กลุ่ม ครอบคลุมประเด็นสำคัญ อาทิ ความมั่นคงทางอาหาร การประมงและทรัพยากรทางทะเล ทรัพย์สินทางปัญญา พิธีการศุลกากร และการส่งเสริมการลงทุน เป็นต้น

ประเด็นหารือที่สำคัญในช่วงสองวันแรกคือ การส่งเสริมการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่คำนึงถึง มิติการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างสมดุลและยั่งยืน เช่น การประชุมคณะทำงานด้านมหาสมุทรและการประมง ได้หารือแนวทางการต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (Illegal, Unreported and Unregulated Fishing - IUU) และการลดขยะทะเลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมทั้งการจัดทำแผนงานการส่งเสริมการทำประมงพื้นบ้าน ซึ่งไทยได้นำเสนอโครงการการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการจัดการข้อมูลการทำประมงพื้นบ้านอย่างยั่งยืนในภูมิภาค และการอบรมเชิงเทคนิคด้านการจัดการขยะทะเล รวมถึงการประชุมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อต้านการค้าไม้ผิดกฎหมายและการค้าที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีการหารือผลกระทบของสถานการณ์โควิด-๑๙ ต่อการค้าไม้ผิดกฎหมายและแนวทางการรับมือ การนำนวัตกรรมมาส่งเสริมการค้าไม้ถูกกฏหมาย รวมทั้งเตรียมการจัดการประชุมรัฐมนตรีเอเปคด้านป่าไม้ ครั้งที่ ๕ ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพในเดือนสิงหาคม ๒๕๖๕ โดยไทยมีแผนจะนำเสนอประเด็นการส่งเสริมการค้าไม้ที่ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยนำนวัตกรรมมาใช้ในการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ และการอำนวยความสะดวกการค้าไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ สร้างชุมชนเข้มแข็งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืนตามหลักเศรษฐกิจ BCG

ในช่วงการประชุมสองวันแรกนี้ มีการประชุมที่ไทยทำหน้าที่เป็นประธานคณะทำงาน เช่น การประชุมหุ้นส่วนเชิงนโยบายความมั่นคงทางอาหาร ได้หารือเรื่องการจัดทำแผนปฏิบัติการของแผนงานความมั่นคงอาหารเอเปคมุ่งสู่ปี ค.ศ. ๒๐๓๐ และปฏิญญาว่าด้วยความมั่นคงทางอาหารซึ่งจะเป็นผลลัพธ์ของการประชุมรัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปคในช่วงเดือนสิงหาคมต่อไปด้วย โดยการประชุมฯ จะเน้นการนำแนวคิด BCG และนโยบาย 3S (Security, Safety, Sustainability) มาส่งเสริมการสร้างความมั่นคงทางอาหารในภูมิภาค

การส่งเสริมการพัฒนาอย่างสมดุล ครอบคลุม และยั่งยืน เป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่ไทยผลักดันในฐานะเจ้าภาพเอเปค โดยตลอดทั้งปี ไทยจะผลักดันการนำแนวคิด BCG มาขับเคลื่อนการทำงานของเอเปคเพื่อมุ่งสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจยุคหลังโควิด-๑๙ ที่คำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมและความสมดุลควบคู่กันไป การประชุมคณะทำงานต่าง ๆ ในห้วงการประชุมนี้ จึงถือเป็นบันไดสำคัญเพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์การประชุมที่เป็นรูปธรรมที่จะให้ผู้นำเขตเศรษฐกิจสมาชิกเอเปคร่วมกันรับรองในที่ประชุมผู้นำฯ ช่วงเดือนพฤศจิกายนต่อไป

ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ
#2104
BBLAM ส่งกองทุนหุ้นไทยน้องใหม่ B-SMEQ เสนอขาย IPO 21-25 ก.พ. นี้ มุ่งลงทุนหุ้นขนาดกลางและเล็กที่เป็นดาวเด่นเติบโตระยะยาว

นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพการฟื้นตัวของเศษฐกิจไทย โดยในปีนี้การบริโภคภายในประเทศและการลงทุนภาครัฐจะเป็นปัจจัยผลักดันที่สำคัญ ผนวกด้วยภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มจะกลับมา ขณะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจภายใต้มาตรฐานด้านสาธารณสุขของประเทศที่วางแนวปฏิบัติไว้ก็ดำเนินไปได้ดี ซึ่งในสภาวะเช่นนี้เกื้อหนุนให้บริษัทจดทะเบียนมีแนวโน้มเติบโต จึงเป็นจังหวะที่ดีสำหรับการเข้าลงทุนในหุ้นไทย โดยเฉพาะหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กซึ่งมีจุดเด่นและน่าสนใจหลายประการ ด้วยเป็นธุรกิจมีโอกาสเติบโตสูง ขนาดองค์กรมีความคล่องตัว ผู้บริหารรุ่นใหม่มีวิสัยทัศน์เปิดรับยุคดิจิทัล จึงรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วได้ดี มีช่องทางจับมือบริษัทขนาดใหญ่เพื่อต่อยอดธุรกิจ

ด้านผลตอบแทนการลงทุน หากเปรียบเทียบข้อมูลจะพบว่าในระยะหลัง FTSE SET Mid/Small Cap ซึ่งเป็นตัวแทนหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า SET Index และ SET50 ซึ่งเป็นตัวแทนหุ้นขนาดใหญ่ มาอย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงปี 2563 - 2564 ที่ทั่วโลกเผชิญกับสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ดังนั้นการลงทุนในหุ้นขนาดกลางหรือขนาดเล็กที่สามารถเติบโตได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยของ GDP จึงถือเป็นเป้าหมายการลงทุนที่คาดหวังผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาดในระยะยาว

ด้วยมุมมองดังกล่าว BBLAM จึงพิจารณาจัดตั้ง กองทุนเปิดบัวหลวง Small Mid Equity (B-SMEQ) กองทุนรวมหุ้นไทย ที่ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล ใช้กลยุทธ์การบริหารเชิงรุกเพื่อคาดหวังผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีหุ้นไทย โดยคัดเลือกลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนขนาดกลางและขนาดเล็ก และมีมูลค่าตามราคาตลาด (Market Cap) ไม่เกิน 80,000 ล้านบาท ซึ่ง ณ สิ้นปี 2564 มีจำนวนมากกว่า 767 บริษัท ทำให้มีทางเลือกลงทุนที่หลากหลาย ไม่กระจุกตัวในอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง

B-SMEQ เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์และเหมาะกับนักลงทุนผู้มองหาการลงทุนในหุ้นไทยซึ่งเชื่อในความสามารถการเติบโตของบริษัทจดทะเบียนขนาดกลางและขนาดเล็ก เน้นเพิ่มมูลค่าการเติบโตให้เงินลงทุนในระยะยาว และยอมรับความผันผวนจากการลงทุนในหุ้นได้ โดย B-SMEQ จะเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 21-25 กุมภาพันธ์ 2565 ราคาเสนอขาย 10 บาทต่อหน่วยลงทุน มูลค่าการซื้อขั้นต่ำ 500 บาท พิเศษช่วง IPO คิดค่าธรรมเนียมการขายในอัตรา 0.50% จากปกติ 1.00%

ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลรายละเอียดกองทุน B-SMEQ หรือติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนและคู่มือการลงทุนได้ที่ BBLAM โทร. 02-674-6488 กด 8 ดูข้อมูลได้ที่ www.bblam.co.th หรือผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ได้แก่ บมจ.ธนาคารกรุงเทพ บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต บมจ.หลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส บมจ.หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) บมจ.หลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร บจ.หลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) บมจ.หลักทรัพย์ กรุงศรี บจ.หลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา บจ.หลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ และ บมจ.หลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย)

นอกจากนี้ ยังสามารถลงทุนได้ง่ายด้วยตนเองผ่าน Mobile Banking application จากธนาคารกรุงเทพ หรือตัวแทนขายอื่นๆ ที่ได้รับการแต่งตั้ง รวมถึง BF Fund Trading application ของ BBLAM ซึ่งเปิดตัวล่าสุดเมื่อ 24 มกราคมที่ผ่านมา ง่าย ครบ จบในแอปเดียว
#2105
INSET วางเป้าปี 65 รายได้โต 15-20% หลังปี 64 กำไรพุ่ง 25.8% นิวไฮ WFH หนุน

นายศักดิ์บวร พุกกะณะสุต กรรมการผู้จัดการ บมจ.อินฟราเซท (INSET) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 64 มีกำไรสุทธิ 170.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.05 ล้านบาท หรือ 25.87% เทียบปีที่ผ่านมามีกำไรสุทธิ 135.49 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่นับตั้งแต่จัดตั้งบริษัทฯ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการส่งมอบงานโครงข่ายโทรคมนาคมรองรับ (5G) เพิ่มขึ้น เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ ทำให้ประชาชนที่ทำงานเวิร์คฟอร์มโฮม (Work from home) ต้องการใช้ Cloud เพิ่มสูงขึ้น และผู้ประกอบการหรือองค์การต่างๆ มีความต้องการที่จะลงทุนขยาย Data Center กันมากขึ้นด้วย

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 65 บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 15-20% จากปีก่อน ผลักดันรายได้และกำไรสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) ที่มีราว 2,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2568 ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปีนี้กว่า 1,000 ล้านบาท อีกทั้งยังมีรายได้ประจำ (Recurring Income) ที่จะมีการรับรู้รายได้ต่อเนื่องประมาณ 200 ล้านบาท

ในปีนี้บริษัทฯยังคงเดินหน้าเข้าร่วมประมูลโครงการภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะงานด้านการสร้างศูนย์ Data Center ที่มีความต้องการใช้งานมากขึ้นซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้ลงนามบันทึกข้อตกลงเบื้องต้น (MOU) ในงาน Data Center ในโครงการ EEC Data Center เพื่อรองรับการใช้งาน Data และคลาวด์ที่สูงมากขึ้น และอยู่ระหว่างรองานประมูลไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท ในปีนี้ และโอกาสได้งานอีกหลายโครงการ ผลักดันให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯเติบโตอย่างแข็งแกร่งสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องตามแผนงานที่วางไว้

 
#2106
โชค77 เว็บแทงหวยออนไลน์ หวยออนไลน์ อัตราการจ่ายสูงที่สุด ฝากถอนรวดเร็ว จ่ายจริงจ่ายไวไม่มีโกง เปิดให้บริการมาแล้วอย่างยาวนาน.

มีทั้งหวยฮานอยปกติ(ออกผลเวลา18:00-18:30) ,หวยฮานอยพิเศษ(ออกผลเวลา17:00-17:30),หวยฮานอยVIP (ออกผลเวลา19:00-19:30) เปิดรับแทงหวยทั้ง3ฮานอย

หวยหุ้นวันนี้ หุ้นต่างประเทศ เวลาในการออกผลหวยและปิดรับแทงหวยก็จะแตกต่างกันออกไปในแต่ละหุ้น ออกผลทุกวันจันทร์-วันศุกร์ หุ้นบางตัวมีออกทั้งเช้าบ่าย หุ้นไทย,หุ้นนิเคอิ(เช้า-บ่าย),หุ้นฮั่งเส็ง(เช้า-บ่าย),หุ้นจีน(เช้า-บ่าย),หุ้นดาวโจน,หุ้นอังกฤษ,หุ้นเยอรมัน,หุ้นไต้หวัน,หุ้นเกาหลี,หุ้นสิงคโปร์,หุ้นอินเดีย,หุ้นอียิปต์,หุ้นรัสเซีย

สนับสนุนที่มา: lucky vip77
#2107
BC เผย NFT ชุด CannaThai420 ขายเกลี้ยงบนบล็อกเชน Ethereum กวาดเงิน 4.15 ลบ.

นายปรับ ทักราล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.บูทิค คอร์ปอเรชั่น (BC) กล่าวว่า บริษัท บีสโปค ไลฟ์ ไซเอนซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ BC ได้วางจำหน่าย Non-Fungible Token (NFTs) ของ CannaThai420 ที่ไม่ซ้ำกัน สามารถขายหมดทั้ง 99 แบบเพียง 48 วันนับตั้งแต่เริ่มโครงการ โดย Seed Plant NFT แต่ละชิ้นงานวางจำหน่ายในราคา 0.42 Ethereum (ETH) สร้างรายได้รวม 41.58 ETH หรือราว 4.15 ล้านบาท

Seed Plant NFT ชุดดังกล่าวที่ได้จำหน่ายไปได้เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค. 65 บนบล็อกเชนของ Ethereum ทำให้ผู้ซื้อประทับใจกับ NFT ที่มีความหลากหลาย ออกแบบมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงจุดเริ่มต้นของการเพาะปลูกกัญชาในประเทศไทย อีกทั้ง CannaThai420 ยังเป็นโครงการที่จะแสดงให้เห็นถึงวงจรชีวิตของกัญชาผ่านการเปิดตัวคอลเลกชัน NFT พร้อมสิทธิพิเศษและแนวทางการใช้งานที่มีความพิเศษ

ปัจจุบัน Seed Plant NFT ทั้งหมดวางจำหน่ายบน OpenSea ซึ่งเป็นตลาดซื้อขาย NFT ที่ใหญ่ที่สุด ด้วยราคาตั้งต้น 0.49 ETH ซึ่งผู้ถือครอง CannaThai420 NFT ยังได้สร้างและร่วมเป็นส่วนหนึ่งชุมชนที่แข็งแกร่งผ่านการเข้าร่วม CannaThai420 Cannabis Club (Triple C) อีกด้วย โดยผู้ที่เข้าร่วมนั้นได้รับสิทธิประโยชน์หลายประการ เช่น การอัปเดตพิเศษในดิสคอร์ดเกี่ยวกับวงจรชีวิตของกัญชา ได้รับการเชิญให้เข้าร่วมกิจกรรมพิเศษและเสวนาต่างๆ ตลอดจนสิทธิประโยชน์อื่นๆที่บีสโปคกำลังจะเปิดตัวกัญชาและคลินิกสุขภาพในเร็วๆนี้ โดยคลินิกดังกล่าวจะเปิดให้บริการภายในปีนี้ที่ชั้นล่างของอาคารซัมเมอร์พอยท์ (Summer Point) ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการของ BC ติดสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสพระโขนง

CannaThai420 กำลังพัฒนา NFT ชุดต่อไปที่จะเปิดตัวในระบบนิเวศ คือ Mother Plant NFTs ที่จะเลียนแบบวัฏจักรการเติบโตของการเพาะปลูกกัญชาในชีวิตจริง และจะประกอบด้วย NFT ที่ไม่ซ้ำกันประมาณ 2,000 รายการพร้อมสิทธิพิเศษและสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ที่ไม่เหมือนใคร สำหรับการขาย Mother Plant NFTs นั้นจะประกาศให้ทราบในคราวต่อไป โดยผู้ถือครอง Seed Plant NFTs จะได้รับสิทธิพิเศษในการซื้ออีกด้วย

"NFT ชุดแรกของเราขายหมด และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากชุมชน NFT และชุมชนกัญชาในประเทศไทย เราได้เป็นส่วนหนึ่งกับแบรนด์ต่าง ๆ ทั่วโลกที่นำเสนอ NFT ด้วยวิธีที่ไม่ซ้ำใครให้ผู้ที่สนใจได้เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทาง ก้าวที่สำคัญนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเราบนเส้นทางบล็อกเชน Ethereum และในขณะเดียวกัน เรายังคงพัฒนาแนวปฏิบัติทางธุรกิจของเราและขยายข้อเสนอของเราต่อไป ไม่เพียงแต่ในวงการอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการวิจัยและพัฒนากัญชาซึ่งเราจะขายทอดตลาดภายในปีนี้" นายปรับ กล่าว
#2108
รัสเซียยันไม่มีแผนโจมตียูเครนพรุ่งนี้

นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ปฏิเสธคำกล่าวของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ที่ว่า รัสเซียเตรียมโจมตียูเครนในวันพรุ่งนี้ (16 ก.พ.) ว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และคำกล่าวนี้เป็นแผนการที่สร้างความตึงเครียดในยุโรป

"นี่เป็นสิ่งที่สร้างความกังวลไปทั่วโลก และเป็นแผนการรณรงค์เพื่อยั่วยุ และสร้างความตึงเครียดในยุโรป" นายเพสคอฟกล่าว
หนังสือพิมพ์เดอะ มิร์เรอร์ ของอังกฤษ รายงานโดยอ้างข่าวกรองระบุว่า รัสเซียเตรียมโจมตียูเครนในวันพรุ่งนี้ (16 ก.พ.) แม้มีรายงานว่ารัสเซียได้ถอนกำลังทหารบางส่วนที่ติดกับชายแดนยูเครนแล้ว

ข่าวกรองระบุว่า รัสเซียจะเริ่มเปิดฉากโจมตียูเครนในวันพรุ่งนี้ เวลา 03.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น โดยจะมีการใช้เครื่องบินรบและขีปนาวุธยิงถล่มฐานทัพของยูเครนในกรุงเคียฟ รวมทั้งที่ทำการของรัฐบาล ก่อนที่จะส่งหน่วยรถถังบุกข้ามพรมแดนยูเครน ขณะที่เรือรบสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกของรัสเซียจะรุกคืบจากชายฝั่งทางใต้ของประเทศ

ทั้งนี้ แม้ว่ารัสเซียได้ถอนกำลังทหารบางส่วนจากชายแดนยูเครนแล้ว แต่ก็ยังคงมีกำลังทหารมากกว่า 126,000 นายประจำการอยู่ในขณะนี้ ขณะที่เบลารุส ซึ่งเป็นพันธมิตรเหนียวแน่นของรัสเซีย ก็พร้อมส่งกำลังทหาร 80,000 นายตีโอบยูเครนจากตอนเหนือ และนาวิกโยธินรัสเซียหลายพันนายจากกองเรือรบในทะเลดำก็พร้อมเคลื่อนพลขึ้นฝั่งทางใต้ของยูเครน

นางลิซ ทรูส รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ กล่าวเตือนว่า รัสเซียยังคงมีแนวโน้มอย่างมากที่จะโจมตียูเครน จนกว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย สั่งถอนกำลังทหาร "ทั้งหมด" จากชายแดนยูเครน

แม้มีรายงานว่าทหารรัสเซียบางส่วนได้ถอนกำลังจากชายแดนยูเครนแล้ว แต่นางทรูสกล่าวว่า ชาติตะวันตกต้องการเห็นการกระทำของรัสเซีย มากกว่าสัญญาที่เป็นลมปาก

"ข่าวกรองล่าสุดของเราบอกว่า รัสเซียใกล้เริ่มปฏิบัติการโจมตียูเครนแล้ว และเราเห็นทหารรัสเซียราว 100,000 นายประจำการใกล้ชายแดนยูเครน เราต้องการเห็นรัสเซียถอนกำลังทหารทั้งหมดเพื่อแสดงความจริงใจว่าพวกเขาไม่มีแผนโจมตียูเครน" นางทรูสกล่าว
ทางด้านนายบ็อบ ซีลี สมาชิกคณะกรรมาธิการฝ่ายกิจการต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษ กล่าวว่า รายงานที่ว่ารัสเซียได้ถอนกำลังทหารบางส่วนไม่ควรถูกตีความว่านี่เป็นจุดจบของวิกฤตยูเครน เพราะปธน.ปูตินยังคงสามารถระดมกำลังทหารจำนวนมากในเวลาอันสั้น

กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ทหารรัสเซียบางส่วนทางตอนใต้และตะวันตกที่ติดกับชายแดนยูเครนได้ถอนกำลังเพื่อกลับสู่ฐานทัพแล้ว หลังเสร็จสิ้นภารกิจซ้อมรบ โดยก่อนหน้านี้รัสเซียได้ตรึงกำลังทหารกว่า 100,000 นายตามแนวชายแดนยูเครน ทำให้เกิดความหวั่นวิตกว่ารัสเซียจะบุกโจมตียูเครนในไม่ช้า ท่ามกลางข่าวลือว่ารัสเซียจะทำการโจมตียูเครนในวันพรุ่งนี้ (16 ก.พ.)
#2109
นครนิวยอร์กเลิกจ้างพนักงานเกือบ 1,430 ราย ฐานไม่ยอมฉีดวัคซีน

หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานว่า นครนิวยอร์กได้สั่งปลดพนักงานเกือบ 1,430 รายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (11 ก.พ.) เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดการฉีดวัคซีนโควิด-19 ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 1% ของพนักงานทั้งหมดของนครนิวยอร์ก

นายเอริก อดัมส์ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ประกาศในวันจันทร์ (14 ก.พ.) ว่า พนักงาน 1,428 รายได้รับหนังสือแจ้งการเลิกจ้าง หลังจากที่ได้ลาหยุดแบบไม่รับค่าจ้างมาเป็นเวลาหลายเดือน และไม่ยอมเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรกตามเวลาที่กำหนด

อย่างไรก็ดี พนักงานส่วนใหญ่จากทั้งหมดราว 370,000 รายได้รับการฉีดวัคซีนตามกำหนดเวลา โดยพนักงานราว 95% ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 84% เมื่อมีการประกาศข้อกำหนดการฉีดวัคซีนครั้งแรกเมื่อเดือนต.ค.

นายอดัมส์ระบุว่า "เป้าหมายของเราคือการฉีดวัคซีน ไม่ใช่การเลิกจ้าง และพนักงานก็ต้องทำตามเป้าหมายที่เรากำหนดไว้"

น้ำมันดิบ WTI ร่วงจากระดับสูงสุดรอบ 7 ปี หลังมีข่าวรัสเซียถอนกำลังกลับฐาน
 
ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงจากระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีที่ราว 94 ดอลลาร์/บาร์เรลในวันนี้ โดยถูกกดดันจากรายงานที่ว่า ทหารบางส่วนในเขตทหารของรัสเซียที่อยู่ติดกับชายแดนของยูเครนได้เดินทางกลับสู่ฐานทัพ ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่อาจช่วยลดความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตก

ณ เวลา 16.33 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 2.54 ดอลลาร์ หรือ 2.66% สู่ระดับ 92.92 ดอลลาร์/บาร์เรล

ทองฟิวเจอร์ลบกว่า 13 ดอลล์ หลังมีข่าวรัสเซียถอนทหารจากชายแดนยูเครน
 
ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวลงในวันนี้ หลังมีรายงานข่าวว่ากระทรวงกลาโหมรัสเซียได้สั่งให้ทหารบางส่วนเริ่มถอนกำลังออกจากพรมแดนยูเครนเพื่อกลับไปประจำฐานทัพแล้ว หลังเสร็จสิ้นภารกิจซ้อมรบใกล้กับแนวชายแดนที่ติดกับยูเครน

ณ เวลา 16.49 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 13.10 ดอลลาร์ หรือ -0.70% สู่ระดับ 1,856.30 ดอลลาร์/ออนซ์
#2110
ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดลบ 13.2 ดอลล์ หลังคลายวิตกความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันอังคาร (15 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน หลังมีรายงานข่าวว่า รัสเซียได้สั่งถอนทหารบางส่วนออกจากพื้นที่ชายแดนที่ติดกับยูเครนให้เดินทางกลับสู่ฐานทัพในประเทศ

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 13.2 ดอลลาร์ หรือ 0.71% ปิดที่ 1,856.2 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 50.6 เซนต์ หรือ 2.12% ปิดที่ 23.342 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 7.6 ดอลลาร์ หรือ 0.74% ปิดที่ 1,020.4 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 93.70 ดอลลาร์ หรือ 4% ปิดที่ 2,252.30 ดอลลาร์/ออนซ์

นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลังตลาดคลายกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน หลังจากที่กระทรวงกลาโหมของรัสเซียเปิดเผยว่าได้สั่งถอนทหารบางส่วนจากชายแดนที่ติดกับยูเครนกลับสู่ฐานทัพในประเทศ

อย่างไรก็ตาม ราคาทองได้ลดช่วงติดลบลงบางส่วน โดยนักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองเพื่อประกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันอังคารว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต พุ่งขึ้น 9.7% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.1% หลังจากดีดตัวขึ้น 9.8% ในเดือนธ.ค.

นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.1 ในเดือนก.พ. แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 11.0 จากระดับ -0.7 ในเดือนม.ค.
#2111
ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดบวก 16.76 จุด ดีกว่าคาดหลังรัสเซีย-ยูเครนคลายตึงเครียด,เก็ง EV หนุน

ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,701.45 จุด เพิ่มขึ้น 16.76 จุด (+0.99%) มูลค่าการซื้อขาย 91,607.43 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นดีกว่าคาด โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,702.74 จุด และระดับต่ำสุด 1,687.18 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 1,171 หลักทรัพย์ ลดลง 703 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 447 หลัก ทรัพย์

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นดีกว่าที่คาด โดยกลับมาทะลุ 1,700 จุดอีกครั้ง จากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนคลี่คลายลง หลังจากล่าสุดรัสเซียได้ถอนทหารบางส่วนออกจากชายแดนยูเครนกลับเข้าฐานทัพในประเทศ

รวมถึงยังมีแรงเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มขนาดใหญ่ โดยเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และอิเล็กทรอนิกส์ จากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุม้ติมาตรการสนับสนุนรถ EV

ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบสลับกัน

แนวโน้มการลงทุนวันพฤหัสบดี (17 ก.พ.) นายกรภัทร กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกประเทศว่าจะมีประเด็นใหม่ๆ เข้ามากระทบตลาดหรือไม่ ซึ่งวันพรุ่งนี้ (16 ก.พ.) ตลาดบ้านเราจะหยุดทำการเนื่องในวันมาฆบูชา

ให้แนวต้านที่ 1,710-1,714 จุด และแนวรับที่ 1,680 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

BBL มูลค่าการซื้อขาย 5,554.24 ล้านบาท ปิดที่ 145.00 บาท ลดลง 1.00 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,034.36 ล้านบาท ปิดที่ 170.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท

EA มูลค่าการซื้อขาย 3,921.35 ล้านบาท ปิดที่ 95.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท

PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 3,287.91 ล้านบาท ปิดที่ 56.50 บาท ลดลง 0.75 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,297.95 ล้านบาท ปิดที่ 40.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
#2112
ดัชนี SET ภาคบ่ายพุ่งกว่า 10 จุด ตอบรับ ครม.ผ่านมาตรการส่งเสริมรถ EV

การใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ทั้งมาตรการภาษีและไม่ใช่ภาษี โดยจะครอบคลุมการนำเข้า-ผลิตในประเทศ ทำให้มีแรงซื้อเข้ามามากในหุ้นที่มีธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับ EV อาทิ EA, GPSC, NEX และ KCE

เมื่อเวลา 15.14 น. ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,694.91 จุด เพิ่มขึ้น 10.22 จุด (+0.61%)

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.27 น. ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,697.86 จุด เพิ่มขึ้น 13.17 จุด (+0.78%)

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยบ่ายนี้ปรับตัวขึ้นกว่า 10 จุด คาดตลาดตอบรับปัจจัยลบไปพอสมควร ทั้งการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ และสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน เนื่องจากนักลงทุนมองว่าอาจมีการเจรจากันได้ ทำให้ตลาดผ่อนคลายลงบ้าง ขณะเดียวกันตลาดภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ โดยประเทศใกล้เคียง เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย ก็ยังบวกได้ดี

ส่วนปัจจัยในประเทศ ได้รับปัจจัยบวกหลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติมาตรการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ทำให้เป็นบวกต่อหุ้นที่เกี่ยวข้อง เช่น บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA), บมจ.โกล. เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) เป็นต้น

ให้แนวรับ 1,680 จุด แนวต้าน 1,700 จุด

 
#2113
ตลท.เปิดเฮียริ่งปรับเกณฑ์รับหุ้นสามัญบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดรับฟังความคิดเห็น "การปรับปรุงหลักเกณฑ์การรับหุ้นสามัญสำหรับบริษัทในกลุ่ม อุตสาหกรรมเป้าหมาย" ตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ.-8 มี.ค.65 โดยมีประเด็นดังนี้

1. การปรับปรุงหลักเกณฑ์คุณสมบัติของบริษัทที่มีการประกอบธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย เพื่อสนับสนุนการเข้าจด ทะเบียนทั้งบริษัทไทยขนาดใหญ่และขนาดกลาง รวมถึงบริษัทต่างประเทศขนาดใหญ่ที่มี Economic Value ต่อประเทศไทย โดยพิจารณา จากเงินลงทุน การจ้างงาน การใช้วัตถุดิบ หรือการใช้งานของประชากรในประเทศไทย เป็นต้น รวมถึงขยายให้บริษัทดังกล่าวสามารถ เข้าจดทะเบียนได้โดยไม่จำกัดเฉพาะบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจาก BOI ซึ่งต้องมีขนาดและรายได้ขั้นต่ำ ดังนี้

1.SET (บริษัทไทย หรือบริษัทต่างประเทศที่มี Economic Value ต่อไทย)

            Market Cap.                           :  7,500 ลบ.
มี Track Record และรายได้จากการดำเนินงาน : > 3 ปี โดยมีรายได้จากการดำเนินงานปีล่าสุดส่วนใหญ่ภายใต้กลุ่ม

อุตสาหกรรมเป้าหมาย > หรือ = 5,000 ลบ. และ Growth

Rate เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 2 ปีล่าสุดเฉลี่ย > หรือ = 20%

ยกเว้นการพิจารณารายได้กรณีได้รับการสนับสนุนจาก BOI ใน

ระดับสูง

2. mai (ปัจจุบัน: ไม่มีหลักเกณฑ์รองรับ)

           Market Cap                             : 2,000 ลบ.
มี Track Record และรายได้จากการดำเนินงาน : > หรือ = 2 ปี โดยมีรายได้จากการดำเนินงานปีล่าสุด >

หรือ = 1,000 ลบ. (ค่า median ของ บริษัท Top

Quartile ของ mai) และ Growth Rate เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 2

ปีล่าสุดเฉลี่ย > หรือ = 20% (หรือพิจารณา Growth Rate

1 ปี > หรือ = 20% หากบริษัทมี Track Record 2 ปี)

ยกเว้นการพิจารณารายได้กรณีได้รับการสนับสนุนจาก BOI ใน

ระดับสูง

สำหรับหลักเกณฑ์อื่นๆ รวมถึงแนวทางการพิจารณาคุณสมบัติ เช่น ทุนชำระแล้ว ฐานะการเงิน การกระจายการถือหุ้นราย ย่อย การบริหารงาน และ silent period เป็นต้น ยังคงเป็นไปตามหลักเกณฑ์ปัจจุบัน

กรณีบริษัทต่างประเทศ ตลท.จะกำหนดแนวทางการพิจรณาว่า บริษัทมี Economic Value ที่มีนัยสำคัญระดับหนึ่งสำหรับ ประเทศไทยในปีที่ผ่านมา โดยสามารถแสดงข้อมูลอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างประกอบกัน โดยใช้ข้อมูลจากงบการเงินล่าสุด ดังนี้

มีประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ โดยพิจารณาจากเงินลงทุน การจ้างงาน การใช้วัตถุดิบ เป็นต้น เมื่อเทียบกับตัว
เลขของบริษัทไม่น้อยกว่า 10% และต้องไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท
มีประชากรในประเทศไทยใช้สินค้าหรือบริการของบริษัทในจำนวนที่มีนัยสำคัญ โดยพิจารณาจากรายได้จากประเทศไทยเมื่อ
เทียบกับรายได้ทั้งหมดของบริษัทไม่น้อยกว่า 10% และต้องไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท หรือจำนวนผู้ใช้สินค้าหรือบริการในไทยเมื่อเทียบกับ
ประชากรไทยไม่น้อยกว่า 10%
ด้านวัตถุประสงค์การระดมทุน ให้บริษัทนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นต่อประชาชน (IPO) ส่วนใหญ่ไปใช้ในการดำเนิน ธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่บริษัทมีการดำเนินการจนเริ่มรับรู้รายได้แล้ว โดยอาจนำไปใช้พัฒนา ต่อยอด หรือเสริมศักยภาพธุรกิจ เพื่อให้อุตสาหกรรมดังกล่าวเป็นธุรกิจหลักของบริษัทต่อไป

การเปิดเผยข้อมูล เพื่อให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลเพียงพอเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของบริษัท ให้บริษัทผู้ยื่นคำขอจดทะเบียนและที่ ปรึกษาทางการเงินจัดทำแบบประเมินการประกอบธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย (Self-Assessment) และเปิดเผยในแบบ Filing ที่แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมเป้าหมายเป็นหรือมีนโยบายที่จะเป็นธุรกิจหลักของบริษัท โดยมีตัวอย่างข้อมูล ดังนี้

ภาพรวมของธุรกิจ อุตสาหกรรมที่เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย, ความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
ผลิตภัณฑ์และบริการ เทคโนโลยีที่ใช้, การสร้างมูลค่าเพิ่ม, ความสามารถในการแข่งขัน, การวิจัยและพัฒนา
ผลการดำเนินงานโดยรวม รายได้เชิงพาณิชย์, ตัวชี้วัดความสำเร็จ, แหล่งเงินทุน, ทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ
กรณีบริษัทต่างประเทศ : Economic Value ต่อประเทศไทย
ทั้งนี้ ภายหลังเข้าจดทะเบียนให้บริษัทเปิดเผยสัดส่วนรายได้จากการดำเนินงานในอุตสาหกรรมเป้าหมาย พร้อมการนำส่งงบ การเงินประจำปี จนกว่าอุตสาหกรรมดังกล่าวจะเป็นธุรกิจหลักของบริษัท คือ มีรายได้จากการดำเนินงานส่วนใหญ่มาจากอุตสาหกรรมเป้า หมาย

2. ตลท.ยังได้การปรับปรุงกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายเพิ่มเติม ตามที่คณะรัฐมนตรีเมื่อเดือนก.ค.64 ได้มีมติเห็นชอบการขับ เคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG (BcG Model) เป็นวาระแห่งชาติ (ปี 64-70) เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายดัง กล่าวที่เน้นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการประกอบธุรกิจมากขึ้นภายใต้ BCG Model

3. ตลท.จะจัดตั้งคณะทำงาน New Listing เพื่อพิจารณาให้ความเห็นเกี่ยวกับกลุ่มอุดสาหกรรมเป้าหมาย โดยมีหน้าที่ให้ ความเห็นหรือข้อแนะนำเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด รวมถึงให้ความเห็นเกี่ยวกับ Economic Value ในกรณีที่ผู้ยื่นคำขอเป็นบริษัทต่างประเทศ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณารับหุ้นสามัญเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน

ทั้งนี้ คณะทำงานดังกล่าวจะประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ทรงคุณวุฒิที่ไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียทางตรง จำนวน 5-7 ท่าน

สำหรับข้อเสนอปรับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ ได้แก่

1. การเกษตรและอาหารขั้นสูง (Advanced Agriculture & Food)

2. เชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ (Biofuels & Biochemical)

3. การต่อยอดทางการแพทย์และสุขภาพ (Medical for Future)

4. การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ (Creative Tourism)

5. ยานยนต์สมัยใหม่ (Next-Generation Automotive)

6. การบินและโลจิสติกส์ (Aviation & Logistics Total Solution)

7. ดิจิทัลและพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Digital & E-Commerce)

8. อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ (Smart Electronics)

9. หุ่นยนต์ (Robotics)

10. การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ได้แก่ Biotechnology, Nanotechnology,Digital Technology, Advanced Material Technology
#2114
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบ สถานการณ์ตึงเครียดรัสเซีย-ยูเครนฉุดตลาด

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดในแดนลบเช้านี้ เนื่องจากนักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐยืนยันว่ารัสเซียพร้อมที่จะบุกโจมตียูเครนทุกขณะ

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 26,895.16 จุด ลดลง 337.71 จุด หรือ -1.24%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,633.66 จุด ลดลง 159.11 จุด หรือ -0.64 จุด และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,451.63 จุด ลดลง 16.41 จุด หรือ -0.47%

นักลงทุนยังคงวิตกกังวลถึงความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะบุกโจมตียูเครน ซึ่งจะส่งผลให้ชาติตะวันตกที่รวมถึงสหรัฐใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย โดยนายไบรอัน โอทูล อดีตที่ปรึกษาระดับอาวุโสของผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมทรัพย์สินในต่างประเทศ (OFAC) ของกระทรวงการคลังสหรัฐกล่าวว่า มาตรการลงโทษขั้นรุนแรงที่สุดที่องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) จะตอบโต้รัสเซียในกรณียกพลบุกโจมตียูเครนก็คือ การออกมาตรการคว่ำบาตรภาคธนาคารของรัสเซียไม่ให้เข้าถึงสกุลเงินดอลลาร์ของสหรัฐ ซึ่งจะทำให้ธนาคารรัสเซียไม่สามารถทำธุรกรรมด้วยเงินสกุลดอลลาร์ได้

ภาพถ่ายดาวเทียมจากบริษัทแม็กซาร์ เทคโนโลยีของสหรัฐเปิดเผยให้เห็นว่า กองทัพรัสเซียได้เคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์บางส่วนออกจากชายแดนยูเครนแล้ว แต่ก็มีการขนส่งอาวุธใหม่เข้ามา โดยหลักฐานดังกล่าวบ่งชี้ว่า รัสเซียยังคงตรึงกำลังทหารและมียุทโธปกรณ์จำนวนมากตามแนวชายแดนยูเครน แม้กองทัพรัสเซียกล่าวอ้างก่อนหน้านี้ว่ามีการถอนกำลังทหารบางส่วนออกไปก็ตาม

นอกจากนี้ รัฐบาลรัสเซียยังได้สั่งขับนายบาร์เทิล กอร์แมน ผู้ช่วยเอกอัครราชทูตสหรัฐออกจากประเทศ ขณะที่นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐกล่าวในการประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) วานนี้ว่า รัสเซียเตรียมการโจมตียูเครน โดยจะมีการใช้อาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาคที่รายงานวันนี้ กระทรวงกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารสดซึ่งมีความผันผวน เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อจากราคาพลังงานที่สูงขึ้น และเงินเยนที่ยังอ่อนค่าลง
#2115
ญี่ปุ่นเล็งผ่อนคลายคำสั่งห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศหลังถูกวิพากษ์หนัก

นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า รัฐบาลจะพิจารณาผ่อนปรนคำสั่งห้ามเข้าประเทศของชาวต่างชาติที่ไม่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศซึ่งกำหนดขึ้นเมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมาเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์มากขึ้นจากวงการธุรกิจและวิชาการ

อย่างไรก็ตาม นายคิชิดะไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่า ญี่ปุ่นจะผ่อนปรนมาตรการควบคุมชายแดนเมื่อใด โดยมาตรการที่ใช้อยู่ในปัจจุบันจะสิ้นสุดลงในวันที่ 28 ก.พ.นี้

นายคิชิดะเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่กรุงโตเกียวว่า "เราจะพิจารณาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน, การเปลี่ยนแปลงของภาวะการติดเชื้อภายในและภายนอกญี่ปุ่น รวมถึงมาตรการควบคุมชายแดนของประเทศอื่น ๆ "

แหล่งข่าวรัฐบาลเปิดเผยว่า รัฐบาลกำลังเตรียมที่จะประกาศรายละเอียดเรื่องนี้อย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ นายคิชิดะแสดงความเห็นดังกล่าว หลังผู้นำในแวดวงธุรกิจและวิชาการจำนวนมากวิพากษ์วิจารณ์คำสั่งห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศ โดยมาตรการดังกล่าวทำให้นักศึกษาต่างชาติไม่สามารถเดินทางเข้าสู่ญี่ปุ่น และทำให้บางส่วนย้ายไปศึกษายังประเทศอื่น ๆ อาทิ เกาหลีใต้

ขณะที่วงการธุรกิจซึ่งเผชิญกับภาวะขาดแคลนแรงงานนั้น ได้เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกคำสั่งห้ามชาวต่างประเทศเข้าประเทศ

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ญี่ปุ่นกำหนดคำสั่งห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. 2564 หลังยืนยันการตรวจพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนเป็นรายแรก
#2116
ราคาทองฟิวเจอร์พุ่งกว่า 20 ดอลลาร์ ใกล้แตะ $1,870 จับตาสถานการณ์ยูเครน

ราคาทองฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 20 ดอลลาร์ ใกล้แตะ 1,870 ดอลลาร์ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาสถานการณ์ในยูเครน และแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ณ เวลา 22.25 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ดีดตัวขึ้น 27.0 ดอลลาร์ หรือ 1.47% สู่ระดับ 1,869.10 ดอลลาร์/ออนซ์

เจ้าหน้าที่สหรัฐเตือนว่ารัสเซียอาจโจมตียูเครนได้ทุกเมื่อ รวมทั้งในช่วงที่กำลังมีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ส่วนการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังคงไม่มีความคืบหน้าในการแก้ไขวิกฤตยูเครน

นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 7 ครั้งในปีนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี รวมทั้งเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ง

ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 55% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 7 ครั้งในปีนี้ โดยคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมทั้ง 7 ครั้งที่เหลือในปีนี้ เริ่มตั้งแต่เดือนมี.ค.

นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 88% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค. รวมทั้งให้น้ำหนัก 95% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 1.00% ภายในเดือนมิ.ย.

นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาเชื่อว่าเฟดยังคงสามารถขึ้นอัตราดอกเบี้ย "ได้อีกมาก" โดยไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงาน

นักวิเคราะห์จากหลายสำนักต่างพากันปรับเพิ่มคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งสูงสุดในรอบ 40 ปี

โกลด์แมน แซคส์คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 7 ครั้งในปีนี้ โดยปรับขึ้นครั้งละ 0.25% จากเดิมที่คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 5 ครั้ง

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 7 ครั้งดังกล่าวจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดพุ่งแตะ 1.75-2.00% ในปลายปีนี้ จากปัจจุบันที่ระดับ 0.00-0.25%

ทางด้านแบงก์ ออฟ อเมริกาคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 7 ครั้งในปีนี้เช่นกัน โดยปรับขึ้นครั้งละ 0.25%

ทั้งนี้ แบงก์ ออฟ อเมริกานับเป็นสถาบันการเงินแห่งแรกที่คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 7 ครั้งในปีนี้

ส่วนเอชเอสบีซีคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค. และปรับขึ้นอีก 4 ครั้งหลังจากนั้น โดยปรับขึ้นครั้งละ 0.25% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดพุ่งแตะ 1.50-1.75% ในปลายปีนี้

ทางด้านดอยซ์แบงก์คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค. และปรับขึ้นอีก 5 ครั้งหลังจากนั้น โดยปรับขึ้นครั้งละ 0.25% ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 1.75% ในปีนี้
#2117
ออสเตรเลียเตือนปชช.ระวังถูกต้มตุ๋นในวันวาเลนไทน์จาก 'โรแมนซ์สแกม'

คณะกรรมาธิการด้านการบริโภคและการแข่งขันของออสเตรเลีย (ACCC) ได้ออกมาเปิดเผยว่า ปัญหาการต้มตุ๋นผ่านทางออนไลน์มีจำนวนเพิ่มขึ้นในปี 2564 โดยส่วนมากเป็นฝีมือของกลุ่ม 'โรแมนซ์สแกม' (Romance scam) ที่หลอกให้เหยื่อเกิดความรัก ก่อนที่จะลวงให้โอนเงิน

สำนักข่าวซินหัวรายงานอ้างอิงโครงการเฝ้าระวังการต้มตุ๋นของ ACCC ในวันนี้ว่า เหตุต้มตุ๋นเพิ่มขึ้น 44% ในปี 2564 พร้อมเตือนให้ชาวออสเตรเลียระมัดระวังการต้มตุ๋นโดยใช้ประโยชน์จากการหาคู่

ในปี 2564 มีรายงานการสูญเงิน 56 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากการต้มตุ๋นที่เกี่ยวข้องกับการหาคู่ อย่างไรก็ดี ACCC ระบุว่า นี่มีแนวโน้มเป็นเพียงส่วนยอดของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้นและตัวเลขที่แท้จริงอาจสูงกว่านี้เกือบ 10 เท่า

'ทุกคนควรให้ความสำคัญกับการสอดส่องดูแลเพื่อนฝูงและสมาชิกครอบครัวที่ใช้แอปพลิเคชันหาคู่ออนไลน์ และพูดคุยกันเกี่ยวกับวิธีสังเกตการต้มตุ๋นโดยใช้ความรักเป็นเหยื่อล่อ' นางดีเลีย ริกคาร์ด รองประธาน ACCC ระบุในแถลงการณ์

นายเลนนอน ชาน ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และวิทยากรด้านอาชญาวิทยาประจำมหาวิทยาลัยโมนาช กล่าวต่อสำนักข่าวซินหัวว่า เขาไม่แปลกใจเลยที่ตัวเลขรายงานการฉ้อโกงผ่านทางออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น

'มีข้อมูลที่น่าสนใจแสดงให้เห็นว่าอาชญากรรมทางร่างกายลดลง...แต่อาชญากรรมทางไซเบอร์ โดยเฉพาะการฉ้อโกงผ่านออนไลน์ เพิ่มสูงขึ้น ...โดยกรณีดังกล่าวเกี่ยวพันกับสถานการณ์โควิด' นายชานกล่าว
นอกจากนี้ รายงานฉบับดังกล่าวยังเน้นย้ำถึงข้อเท็จจริงว่า ผู้ใหญ่วัยเกษียณที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป คิดเป็นสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งที่ต้องสูญเงินไปในการต้มตุ๋นโดยใช้ความรักเป็นเหยื่อล่อ โดยผู้หญิงเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงมากกว่าผู้ชาย
#2118
รัฐบาลอินเดียสั่งแบน 54 แอปฯจีน อ้างเหตุผลความมั่นคง

รัฐบาลอินเดียสั่งแบนการใช้งานแอปพลิเคชันจากจีนจำนวน 54 แอปพลิเคชัน เนื่องจากวิตกกังวลในด้านความมั่นคงของชาติ ซึ่งถือเป็นความตึงเครียดล่าสุดระหว่าง 2 ประเทศ ท่ามกลางข้อพิพาทด้านดินแดนที่ยืดเยื้อ จนส่งผลกระทบต่อการเจรจาทางธุรกิจ

หนังสือพิมพ์อีโคโนมิกส์ ไทม์ส รายงานว่า กระทรวงอิเล็กทรอนิกส์และไอทีของอินเดียได้แบนการใช้งานแอปพลิเคชันหลายแอปฯ ซึ่งมีบางส่วนที่เป็นของบริษัทเทคโนโลยีจากจีนอาทิ เทนเซ็นต์ อาลีบาบา และเน็ตอีส

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศ โดยก่อนหน้านี้เมื่อช่วงกลางเดือนมิ.ย. 2563 เกิดเหตุปะทะกันอย่างไม่คาดคิดระหว่างทหารจีนกับทหารอินเดียบริเวณหุบเขากาลวาน ในภูมิภาคลาดักห์ ซึ่งเป็นดินแดนพิพาทของ 2 ประเทศ ส่งผลให้ทหารอินเดียเสียชีวิตอย่างน้อย 20 นาย และนับเป็นการปะทะกันครั้งแรกระหว่าง 2 ประเทศในรอบ 45 ปี อันเนื่องมาจากการอ้างสิทธิ์พื้นที่บริเวณพรมแดนติดต่อกัน ส่งผลให้อินเดียออกกฎหมายที่เข้มงวดเกี่ยวกับการลงทุนจากจีน ซึ่งรวมถึงการสั่งแบนแอปพลิเคชันด้วย

อนึ่ง จีนและอินเดียมีพรมแดนติดกันยาว 3,488 กิโลเมตรตามแนวเทือกเขาหิมาลัย โดยทั้งสองชาติได้ส่งทหารตรึงกำลังบริเวณพื้นที่พิพาท และความตึงเครียดระหว่างทั้งสองฝ่ายก็คุกรุ่นมาโดยตลอด

อย่างไรก็ดี โฆษกกระทรวงมหาดไทยของอินเดียยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว
#2119
เกาหลีใต้จ่ออพยพพลเมืองออกจากยูเครน หวั่นรัสเซียบุกโจมตี

กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ระบุในวันนี้ว่า เกาหลีใต้วางแผนอพยพพลเมืองออกจากยูเครนในอีก 2-3 วัน ท่ามกลางความหวั่นวิตกว่ารัสเซียอาจยกพลบุกยูเครนได้ทุกเมื่อ โดยขณะนี้มีชาวเกาหลีทั้งหมด 281 คน รวมถึงนักการทูต พำนักอยู่ในยูเครน และชาวเกาหลีประมาณ 100 คนวางแผนเดินทางออกจากยูเครนภายในวันอังคาร (15 ก.พ.)
"รัฐบาลเกาหลีใต้ขอให้ชาวเกาหลีเดินทางออกจากยูเครนโดยเร็วที่สุด โดยเดินทางผ่านทางอากาศหรือทางบก หลังมีการออกคำแนะนำด้านการเดินทางระดับ 4 ทั่วประเทศยูเครนในวันอาทิตย์ที่ 13 ก.พ." กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ระบุในแถลงการณ์

สำนักข่าวยอนฮัปเปิดเผยข้อมูลของกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ว่า ชาวเกาหลีประมาณ 60 คนเดินทางออกจากยูเครนนับตั้งแต่วันศุกร์ที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังสหรัฐยกระดับคำเตือนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะยกพลบุกโจมตียูเครนเร็ว ๆ นี้

นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ระบุด้วยว่า สายการบินส่วนใหญ่เปิดให้บริการเที่ยวบินเส้นทางจากยูเครนตามปกติและสถานทูตเกาหลีวางแผนจัดเตรียมรถโดยสารระหว่างกรุงเคียฟและเมืองลวิว ซึ่งตั้งอยู่ใกล้พรมแดนโปแลนด์จนถึงวันศุกร์ที่ 18 ก.พ. เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการอพยพของพลเมือง
#2120
BlockFi จ่อโดนปรับกว่า 100 ล้านดอลล์ ฐานจ่ายดอกเบี้ยเงินฝากคริปโทฯสูงกว่ากม.กำหนด

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า บล็อกฟาย (BlockFi) แพลตฟอร์มให้กู้ยืมสกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซี อาจต้องจ่ายค่าปรับสูงถึง 100 ล้านดอลลาร์ให้กับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) และหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐ ฐานนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่จ่ายดอกเบี้ยให้กับลูกค้าสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

ทั้งนี้ บล็อกฟายอาจจะต้องจ่ายเงินค่าปรับจำนวน 50 ล้านดอลลาร์ให้กับ SEC และอีก 50 ล้านดอลลาร์ให้กับหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐต่าง ๆ

แหล่งข่าวเปิดเผยกับบลูมเบิร์กว่า สหรัฐอาจประกาศบทลงโทษดังกล่าวอย่างเป็นทางการภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งถือเป็นการลงดาบด้วยการสั่งบริษัทคริปโทฯจ่ายค่าปรับที่เข้มงวดมากที่สุด ท่ามกลางความพยายามของสหรัฐที่กำลังเดินหน้าควบคุมอุตสาหกรรมคริปโทฯ ซึ่ง SEC และหน่วยงานกำกับดูแลได้พิจารณาว่า บัญชีของบล็อกฟายนั้นมีลักษณะเป็นหลักทรัพย์ที่ควรต้องมีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง

การตรวจสอบดังกล่าวมีขึ้นหลังบล็อกฟายสามารถดึงดูดเงินฝากได้หลายหมื่นล้านดอลลาร์จากนักลงทุนรายย่อย ด้วยการเสนอมอบดอกเบี้ยเงินฝากคริปโทฯ ในอัตราที่สูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไปอย่างมาก ซึ่งบางครั้งมีการจ่ายผลตอบแทนสูงเกินกว่า 10% และหากมีการตัดสินลงโทษตามรายงาน บล็อกฟายก็จะต้องยุติการเปิดบัญชีใหม่ให้กับชาวสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม เมดาลิน แมคฮิว โฆษกของบล็อกฟาย เปิดเผยว่า "เราได้หารือกับหน่วยงานกำกับดูแลทั้งในระดับหน่วยงานรัฐบาลกลางและระดับรัฐมาโดยตลอด เราขอไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวลือในตลาด อย่างไรก็ตาม เราขอยืนยันว่าทรัพย์สินของลูกค้าทั้งหมดนั้นได้รับการปกป้องอย่างเข้มงวดภายใต้แพลตฟอร์มของบล็อกฟาย และลูกค้าบัญชีเงินฝากของบล็อกฟายจะยังคงได้รับดอกเบี้ยเป็นสกุลเงินคริปโทฯ เช่นเดิม"

ด้านนายแกรี เกนสเลอร์ ประธาน SEC ได้ออกโรงเตือนอุตสาหกรรมคริปโทฯ อยู่บ่อยครั้ง โดยระบุว่า ผู้ให้บริการหลายรายได้เสนอผลิตภัณฑ์การเงินโดยไม่เป็นไปตามกฎเกณฑ์การคุ้มครองนักลงทุนที่ธนาคาร, โบรกเกอร์ และสถาบันการเงินยึดถือมาโดยตลอด