• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - dsmol19

#6976
สำนักพรเทวะ ศูนย์รวมวัตถุมงคล เครื่องราง ของขลัง เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์
สนใจติดต่อ
อ.ทองเอก พรเทวะ
โทร 0846623662
Line : teerapat999 
#6977
"ครัวแชวังร้านข้าวแกงอิสลาม" ร้านอาหารดังย่านบางปลา 33 มั่นใจอาหารสดใหม่ สะอาดปลอดภัย

ด้วยรสชาติอาหารเป็นเอกลักษณ์ต้นฉบับฮาลาลแท้ ๆ ที่ไม่ว่าใครได้กินก็ต้องติดใจ อร่อยกลมกล่อม เข้มข้นเข้าถึงเครื่องเทศ หลากหลายด้วยเมนูมากกว่า 100 เมนู!
เพราะเรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่ "ครัวแชวังร้านข้าวแกงอิสลาม" เราจึงใส่ใจเลือกวัตถุดิบสดใหม่ทุกวันให้ลูกค้าได้รับอาหารที่ดีมีประโยชน์ และได้อาหารถูกสุขอนามัยเป็นอย่างดี ชาวมุสลิมสบายได้ไม่ต้องกังวลด้วยกรรมวิธีการทำอาหารแบบฮาลาลแท้ 
"ครัวแชวังร้านข้าวแกงอิสลาม" เป็นร้านอาหารตามสั่งที่มีเมนูมากมายกว่า 100 เมนู!! เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเมนูอาหารตามสั่ง ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ เราก็มีพร้อมทุกเมนู อร่อยลงตัวได้อย่างไม่ซ้ำ เมนูครบจบได้ในร้านเดียว 
"ครัวแชวังร้านข้าวแกงอิสลาม" ขอแนะนำ! เมนูเด็ดสุดเฉพาะของทางร้านเรา 
- กะเพราเนื้อเปื่อย 
- กะเพราลูกชิ้นปลา 
- กะเพราเนื้อสับ  
- สุกี้แห้งเนื้อเปื่อย 
- ต้มยำเนื้อเปื่อยน้ำข้น 
- กะเพราปลากระป๋อง  
- ต้มยำปลากระป๋องน้ำข้น
นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่น ๆ อีกมากมายให้ได้เลือกตามสั่ง โดยที่"ครัวแชวังร้านข้าวแกงอิสลาม"  จะมีบริการทั้งไก่ กุ้ง หมึก เครื่องในไก่  และเนื้อเปื่อย เนื้อสด เช่น
- กะเพราปลาหมึก
- ผัดพริกสดเนื้อ
- กะเพราเครื่องในไก่
- ผัดเขียวหวานเนื้อ
- ลูกชิ้นปลาผัดพริกแกงใต้
- เนื้อผัดขิง
- ผัดพริกแกงเนื้อเปื่อยใส่หน่อไม้เหลือง
คุ้มค่า คุ้มราคา กับ "ครัวแชวังร้านข้าวแกงอิสลาม" เริ่มต้นราคาตั้งแต่ 30 บาทเท่านั้น 
ข้าวราดแกง 1 อย่าง ราคาเพียง 30 บาท, ข้าวราดแกง 2 อย่าง ราคา 35 บาทเท่านั้น
ราคาอาหารตามสั่งกล่องละ 40 บาท ใส่ไข่ดาว 45 บาท
ได้อาหารปรุงสุก สดใหม่ รสชาติอร่อยมีคุณภาพในราตาย่อมเยา บริการจัดส่งถึงที่ไม่ต้องเดินทางมาเอง สามารถสั่งผ่านบริการ Food Delivery ผ่านแอปพริเคชันต่าง ๆ 
.
ทำไม "ครัวแชวังร้านข้าวแกงอิสลาม" จึงได้รับความนิยม
"ครัวแชวังร้านข้าวแกงอิสลาม" เป็นอาหารสไตล์ฮาลาลเน้นรสชาติดั่งเดิมที่ผสมผสานอย่างลงตัวให้เข้ากับยุคสมัย ทำให้เป็นที่นิยมในกลุ่มลูกค้าที่มีความหลากหลายได้เป็นอย่างดี ไม่เพียงแค่เน้นเรื่องความกลมกล่อม อร่อยลงตัว แต่เรายังใส่ใจเรื่องความสด สะอาด และความปลอดภัยในการบริโภคเป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีเมนูมากกว่า 100 เมนูสำหรับอาหาร และเครื่องดื่ม ทำให้ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนเมนูไปในแต่ละวันได้อย่างไม่ซ้ำกัน อีกทั้งการบริการของ "ครัวแชวังร้านข้าวแกงอิสลาม" ที่ใส่ใจลูกค้าเหมือนคนในครอบครัว เรายินดีรับคำติชมเพื่อปรับปรุงและพัฒนา "ครัวแชวังร้านข้าวแกงอิสลาม" ของเราอยู่เสมอ รับรองมาที่นี่ไม่มีผิดหวังอย่างแน่นอน
.
สะอาด ปลอดภัย กับ "ครัวแชวังร้านข้าวแกงอิสลาม"
"ครัวแชวังร้านข้าวแกงอิสลาม" เราคัดสรรวัตถุดิบจากแหล่งที่มีคุณภาพ เชื่อถือได้ ทำให้มั่นใจเรื่องความสะอาดตั้งแต่ต้นทาง รวมทั้งเพิ่มกรรมวิธีการปรุงอาหารให้ปลอดภัยมากขึ้นด้วยการป้องกันตัวเมื่อต้องประกอบอาหาร และเลี่ยงการสัมผัสอาหารปรุงสุกสดใหม่ก่อนถึงมือลูกค้าเป็นอย่างดี ทำให้ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้อาหารที่ยังคงความอร่อยตามฉบับ"ครัวแชวังร้านข้าวแกงอิสลาม" เช่นเดิม และมีความปลอดภัยในการบริโภคได้เป็นอย่างดีแน่นอน การันตีมาตรฐานคุณภาพดีไม่มีตก ไม่ว่าจะสั่งกินผ่านทางร้านหรือ Food Delivery
.
เวลาทำการ: เปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 06.30-17.00
ข้อมูลติดต่อติดต่อสอบถาม: ครัวแชวังร้านข้าวแกงอิสลาม
โทรสายตรง: 087 773 1191, 0846669757 ,0867843638
ที่ตั้ง: จังหวัดสมุทรปราการ ถนนเทพารักษ์กิโล16 บริเวณร้านจะอยู่บางปลา33
Google map: https://g.co/kgs/wcYpd8
id Line   http://line.me/ti/p/~jurassichunters36
.
สั่งอาหาร Online Delivery! 
Grab:  https://bit.ly/3r3Gd4D
Line man:  https://wongn.ai/5bo5
Robinhood:  https://shorturl.asia/a3G2b
Foodpanda   https://shorturl.asia/OwQ3m


























#6979
 
 มากกว่าคำว่ากาแฟ Room Coffee อร่อยดี ไม่มีอ้วน




ประโยชน์เพียบจากสารสกัด 36 ชนิด
เสริมภูมิคุ้มกัน บำรุงร่างกาย ชงง่าย
ชงได้ทั้งน้ำร้อนน้ำเย็น อยากกินต้องได้กิน

มีสารสกัดทั้งหมดมากถึง 36 ชนิด
เช่น โสม ถั่วเช่า เห็ดหลินจือ เมล็ดเจีย คอลลาเจน (สูตรเจ) และอีก...เยอะ
ที่ให้คุณ 5 คุณประโยชน์
Detox ขับสารพิษ
Block บล็อกแป้งและน้ำตาลที่มาใหม่
Burn ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ
Build  ช่วยสร้างเสริมกล้ามเนื้อให้กระชับ
Boost  เพิ่มพลังงานให้กระฉับกระเฉง

และยังช่วยเสริมภูมิต้านทาน ให้ไกลจากโรคหวัดและโรคต่างๆอีกด้วย ทุกอย่างรวมไว้ให้คุณขนาดนี้ บอกเลย คุ้

Room Coffee 1 ห่อ มี 10 ซอง ราคา 299 บาท
สนใจติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ

Tel. 0846623662

Line id : teerapat999
ข้อมูลเพิ่มเติม/รีวิวสินค้า https://teerapat99.iconroomcoffee.com/

#6980
สำนักพรเทวะ ศูนย์รวมวัตถุมงคล เครื่องราง ของขลัง เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์
สนใจติดต่อ
อ.ทองเอก พรเทวะ
โทร 0846623662
Line : teerapat999 
#6981


ในช่วงที่ตลาดผันผวนแบบนี้ จะ Long ซื้อถือระยะยาว หรือ Short ขายเก็งกำไรระยะสั้น ถึงเวลาที่ผู้ลงทุนในตลาดอาจต้องเลือกข้างแล้ว

ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า TFEX ได้จัดงานเวิร์กชอปออนไลน์ TFEX Trading Space 2021 #Workshop From Home ขึ้นมา พร้อมเชิญผู้เชี่ยวชาญพิเศษทั้ง 3 ท่าน ได้แก่ กรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล. โนมูระ พัฒนสิน,  จรณเวท ศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการฝ่ายแนะนำการลงทุน บลป. คลาสสิก ออสสิริส และ  ณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล. หยวนต้า มาร่วมกันแชร์มุมมองและเทคนิคการเทรดในสภาวะตลาดช่วงนี้ ในหัวข้อ "Trend & Trading Strategy: ถึงเวลาเลือกข้าง Long or Short?"

โดยงานเวิร์กชอปออนไลน์ครั้งนี้เริ่มจากการร่วมแชร์ความคิดเห็นเกี่ยวมุมมองโดยรวมของตลาด ซึ่งทั้ง 3 ท่านมีความเห็นตรงกันว่า ภาพรวมของตลาดหุ้นไทยตอนนี้เป็น Sideway คือไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจน หุ้นใหญ่ในตลาดไทย Underperform มาสักพักใหญ่ แต่ยังมีหุ้นขนาดกลางและเล็กคอยหนุนอยู่ จึงส่งผลให้ค่อนข้างเป็น Sideway ด้าน Downside ก็มีกรอบค่อนข้างจำกัด ส่วนตลาดทองคำที่แม้จะมีการฟื้นตัวกลับมาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ก็ยังอยู่ในช่วงที่ต้องระมัดระวังและควรจับตาดูเป็นพิเศษ เพราะหากมีการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อาจส่งผลกับเรื่องสภาพคล่องได้ ปริมาณเงินที่อัดฉีดเข้ามาจะทยอยหายไป ซึ่งทั้ง 3 ท่านให้จับตาไปที่ 2 ปัจจัยใกล้ ๆ นี้ ที่จะส่งผลกระทบกับตลาดอนุพันธ์ในช่วงไตรมาสที่เหลือของปีก็คือ งานสัมมนา Jackson Hole Symposium ที่จะจัดขึ้นปลายเดือนสิงหาคมนี้ และการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

กลยุทธ์รับมือกับภาวะผันผวนของตลาดในช่วงนี้ ด้วย 3 สินค้าอนุพันธ์ใน TFEX

1. SET50 Futures : "Sideway" ภาพในปัจจุบันมีปัจจัยลบค่อนข้างมากตามภาวะตลาดโลก แต่การที่ยังไม่หลุดแนวรับสำคัญทำให้มีแรงซื้อกลับมาบ้างท่ามกลางข่าวด้านลบในระยะสั้น แต่ทิศทางตลาดทุนโลกจะมีแรงกดดันมากขึ้นในช่วงอีก 1 เดือนข้างหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากการคาดการณ์ในมุมมองนโยบายการเงินช่วงถัดไปของ Fed, ความเสี่ยง Regulatory Risk ของตลาดหุ้นจีน และปัจจัยภายในสำคัญอย่างเรื่องการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เราได้ผ่านช่วงพีคของตัวเลขผู้ติดเชื้อมาหรือยัง รวมทั้งอัตราการฉีดวัคซีนที่โดยรวมอาจจะยังไม่ค่อยได้ตามเป้าที่วางไว้ จะสามารถเปิดประเทศได้ตามแผนหรือไม่ ซึ่งคาดว่าผลประกอบการรายไตรมาส 3 ของแต่ละบริษัทก็น่าจะออกมาไม่ดีเช่นกัน ในด้านราคาตอนนี้ตลาดอยู่ในช่วงค้นหาฐาน ลุ้นแนวรับหลักที่ 900 จุดเอาอยู่ไหม ถ้าไม่อยู่ตลาดจะปรับลึก

กลยุทธ์แนะนำ Trading ช่วงนี้คือ - หาจังหวะ Short ได้

2. Gold Online Futures และ Gold Futures : "Sideway Down" ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาทองคำฟื้นตัว Rebound ขึ้นมา เกิดจากแรงซื้อเพื่อเก็งกำไรเป็นส่วนใหญ่ ท่ามกลางการทยอยขายของกองทุน SPDR มาตลอดตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว การที่ผู้เล่นรายใหญ่เริ่มถอน Position ประกอบกับ USD Dollar ยังแข็งค่าต่อเนื่อง ทำให้ทองคำยังมีปัจจัยเชิงลบกดดันมากกว่า คาดการณ์ว่าการปรับตัวขึ้นของทองคำจะเริ่มจำกัด อยู่ที่บริเวณกรอบ Sideway อีกทั้งยังมีเรื่องของ Inflation ที่ต้องจับตาด้วย ส่วนปัจจัยเรื่องสงครามตอนนี้ยังอยู่ในวงค่อนข้างเล็กไม่น่าจะสร้างความผันผวนด้านราคาเท่าไรนัก ความชัดเจนจะเกิดขึ้นหลังงานประชุม Jackson Hole Symposium วันที่ 26-28 สิงหาคมนี้ ซึ่งการที่ราคาทองคำหลุดแนวรับ $1,780-$1,800 ลงมาทำให้การเคลื่อนไหวของภาพใหญ่เริ่มเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาลงแล้ว

กลยุทธ์แนะนำ Trading ช่วงนี้คือ - เลือกฝั่ง Short

3. USD Futures : "Sideways Up" ค่าเงินบาทอยู่ในแนวโน้มอ่อนค่า มีโอกาสอ่อนค่าเหนือ 33.50 บาท จากปัจจัยภายในที่ยังกดดันจากเรื่องโควิด-19 ส่วนตัวเลข GDP ยังคงไม่ฟื้นตัวทำให้ไม่ได้เป็นปัจจัยหนุนเรื่องเงินบาทนัก โดยมีอัตราอ่อนค่ามากสุดในภูมิภาคทีเดียว ซึ่งเงินบาทที่อ่อนค่าลงนี้ช่วยพยุงหรือหนุนราคาทองคำในไทยไว้อยู่ ตามทิศทาง Dollar Index ที่ยังค่อนข้างแข็งค่า ซึ่งยังคงต้องจับตาดูในงานสัมมนา Jackson Hole Symposium ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ว่าจะมีทิศทางเรื่องนโยบายอย่างไร ประกอบกับ Fed อาจจะประกาศทำ QE Tapering หรือการปรับลดเม็ดเงินที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการ QE ในการประชุมปลายปีนี้ด้วย นอกจากนี้ตลาดได้คาดการณ์ไว้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงปลายปี 2022 ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อค่าเงินดอลลาร์

กลยุทธ์แนะนำ Trading ช่วงนี้คือ - เลือกฝั่ง Long

นอกจากนี้ แนวโน้ม Fund Flow ต่างชาติ ยังเป็นทิศทางไหลออกอย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่มีประเด็นหรือปัญหาทางการเมือง มักจะทำให้เกิด Flow ไหลออกจากประเทศ ส่งผลให้ค่าเงินบาทยิ่งอ่อนค่า ดังนั้นแม้ว่าตอนนี้ตลาดทุนในไทยจะยังไม่ได้อยู่จุดที่น่าเป็นห่วงและได้รับผลจากปัจจัยลบมากนัก แต่หากต้องการที่จะเดินหน้าเปิดประเทศและฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจให้ดีขึ้น สิ่งที่ต้องทำให้ได้ก็คือการบริหารรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 โดยการเร่งอัตราการฉีดวัคซีนให้เร็วขึ้นและทั่วถึงได้มากที่สุด ซึ่งแต่ละท่านได้ทิ้งท้ายสั้น ๆ ไว้ดังนี้

กรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการลงทุน บล. โนมูระ พัฒนสิน "ฝากถึงนักลงทุนมือใหม่ เราอิงปัจจัยพื้นฐานเพื่อลงทุนระยะยาว มองเป้า 3-5 ปี อาจแบ่งมูลค่าพอร์ตซัก 10% มาใช้ TFEX เป็นเครื่องมือเพื่อบริหารความเสี่ยงในสภาวะที่ไม่แน่นอนอย่างช่วงนี้ได้ และสุดท้ายวัคซีนคือความหวังของตลาดทุนไทย"

จรณเวท ศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการฝ่ายแนะนำการลงทุน บลป. คลาสสิก ออสสิริส "หลาย ๆ คนเข้าตลาดมาเพื่อเก็งกำไรโดยหวังถึง 10-20 เท่า ซึ่งต้องพึงระลึกเสมอว่าถ้าเราผิดทาง จากที่หวังมาทั้งหมดอาจสูญเปล่าได้ ต้องมองความเสี่ยงก่อน แล้วคำนวณว่าเราควรเล่นกี่สัญญา พอร์ตเรารับได้เท่าไหร่ ไม่งั้นเรานี่แหละจะกลายเป็นผู้ออกจากตลาดไป"

ณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า "ต้องเข้าใจ Mindset การลงทุน มองการลงทุนเป็น Financial Tool เพื่อลดความเสี่ยง คนที่เข้าใจจะใช้ Leverage เพื่อเพิ่มอัตราทดหรือเพิ่มทางเลือกให้ตัวเองได้ ในตลาดนี้เราผิดทางได้ ถอยได้ ไม่ไหวอย่าฝืนเพื่อเอาคืนเด็ดขาด"
#6982
เครื่องประดับแฮนเมดแซนดีสุจิตรา  ต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมด-โดยแซนดีสุจิตรา ราคาย่อมเยาว์


Handman Earing By Sandysujittra ต่างหูแฮนเมดBy Sandysujittra
ต่างหูแฮนเมดBy Sandysujittra   ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา เครื่องประดับแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา ต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมด ราคาย่อมเยาว์ โดย แซนดีสุจิตรา แนะนำผลิตภัณฑ์ที่สวยงาม เป็นผลงานศิลปะในตัวเอง และ เป็นงานฝีมืออย่างพิถีพิถันโดยศิลปินท้องถิ่น

By Sandysujittต่างหูแฮนเมด ราคาย่อมเยาว์
ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา เครื่องประดับแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา ต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมด ราคาย่อมเยาว์ มีของฝากมากมายให้ซื้อในประเทศไทย หัวของคุณจะหมุนแน่นอนเมื่อตัดสินใจว่าจะซื้ออะไร คุณภาพในราคาที่ไม่แพงนอกจากนี้คุณยังพบกับการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งจะทำให้คุณประหลาดใจว่าศิลปะไทยมีความพิเศษอย่างไร แนะนำ ชิ้นนี้ ต่างหูแฮนเมด-โดยแซนดีสุจิตรา Trust Pearl & Rose Quartz

https://www.sandysujittra.com/product/37954/trust

เครื่องประดับแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา และสินค้าอืนๆมากมาย แนะนำ สินค้าอืนๆอีกมาก https://www.sandysujittra.com/
The most beautiful product that we prod of and recommend, Handman Earing By Sandysujittrahandcrafted by local artist
ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา 

Handman Earing By Sandysujittra

One of the most beautiful product that we proud of and recommend, These beautiful products are works of art in themselves and are painstakingly handcrafted by local artist.

There are a lot of souvenir items to buy in Thailand.Your head will surely spin when trying to decide on what to buy.here are selected items which is unique and will surely remind you of your wonderful time at Thailand.

Handman Earing By Sandysujittra

Recommend, product

https://www.sandysujittra.com/product/37954/trust

Thai Souvenirs Shop Welcome To Thai Souvenir Shop These beautiful products are works of art in themselves and are painstakingly handcrafted by local artist.
Our products have made by thai local people who love art & have much experience
Please visit Thai Souvenirs Shop Welcome To Thai Souvenir Shop
https://www.sandysujittra.com/


รายละเอียดเพิ่มเติม
https://kaaiduan.com/เครื่องประดับ/ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุ/


คำค้น
ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา, ต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา, Handman Earing By Sandysujittra
 
#6983


เกาะติดผลวิเคราะห์ล่าสุดจากกรณีที่บริการ "โอลี่แฟนส์" (OnlyFans) ประกาศห้ามเผยแพร่เนื้อหาโป๊เปลือยทุกประเภทที่เข้าข่าย "ไม่ปลอดภัยสำหรับชมในที่ทำงาน" บางสายวิเคราะห์ว่าอาจจะมีการแจ้งเกิดเงินคริปโตสกุลใหม่ในทำนอง "OnlyFans Crypto" เพื่อให้ OnlyFans อยู่นอกเหนือระบบธนาคารหรือผู้ให้บริการชำระเงินดั้งเดิม ขณะที่อีกสายมองว่า OnlyFans กำลังเข้าเฟสใหม่ของจริงที่จะดึงคนหลายวงการเข้าสู่แพลตฟอร์มได้ หลังจากใช้ "คนทำงานด้านเพศ" เป็นแรงงานก่อร่างสร้างฐานแพลตฟอร์มมานาน

งานวิเคราะห์ทั้ง 2 สายนี้มาจากต้นเรื่องคือ OnlyFans ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะแบนหรือห้ามเผยแพร่เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่หรือคอนเทนต์ประเภท NSFW (ไม่ปลอดภัยสำหรับชมในที่ทำงาน) โดยการแบนจะมีผลบังคับใช้ในช่วงเดือนตุลาคม 64

เหตุผลที่ข่าวนี้ได้รับความสนใจกันมาก เพราะแอปยอดนิยม OnlyFans ที่ก่อตั้งโดยทิโมธี สโตคลีย์ (Timothy Stokely) ในปี 2559 นั้นเคยอนุญาตให้ผู้สร้างเนื้อหา สร้างรายได้โดยใช้ภาพถ่ายและวิดีโอของตัวเอง ตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมา OnlyFans ทำให้หลายคนสามารถขายวิดีโอและรูปภาพ NSFW ชวนสยิวแล้วรับทรัพย์จากผู้ติดตามที่ชำระค่าสมัครรายเดือน อย่างไรก็ตาม แผนธุรกิจนี้กำลังเจอก้างขวางคอ เพราะผู้ให้บริการชำระเงินของแพลตฟอร์ม และพันธมิตรด้านการธนาคารกำลังพยายามเปลี่ยนแปลงให้ OnlyFans ให้มีภาพที่ขาวสะอาดยิ่งขึ้น

ในเวลาไม่กี่ปี OnlyFans กลายเป็นโอกาสในการสร้างรายได้ให้ครีเอเตอร์และผู้ให้บริการทางเพศ วันนี้มีผู้ใช้มากกว่า 130 ล้านคน ท่ามกลางครีเอเตอร์มากกว่า 2 ล้านคน รวมแล้วมีรายได้มากกว่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐบนแพลตฟอร์ม

***มาไหม? OnlyFans Crypto

ขณะนี้ นักวิจารณ์บางคนมองว่าเมื่อมีการแบนเนื้อหา NSFW อย่างสมบูรณ์แล้ว แอปอาจจะพิจารณาใช้การชำระเงินเป็นเงินคริปโตแทนวิธีการทำธุรกรรมปกติ

เรเชล โดเรซาล (Rachel Dolezal)
เรเชล โดเรซาล (Rachel Dolezal)

เรื่องนี้ สำนักข่าวเทคครินช์ (Tech Crunch) วิเคราะห์ว่าการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันใน OnlyFans อาจนำไปสู่การปรับเปลี่ยนได้ทุกรูปแบบ ดังนั้น OnlyFans Crypto จึงอาจเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น ขณะที่สำนักข่าวเดอะซัน (The Sun) ยังรายงานว่าถ้า OnlyFans ตัดสินใจใช้สกุลเงินดิจิทัลสำหรับการทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์ม OnlyFans ก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาผู้ให้บริการชำระเงินอีกต่อไป

นักวิเคราะห์สายนี้เชื่อว่า เงินคริปโตของ OnlyFans จะทำให้แพลตฟอร์มยังสามารถนำเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ที่โจ่งแจ้งกลับมาได้ เนื่องจากจะไม่มีบริษัทใดออกมาเรียกร้องขอให้ OnlyFans ต้องชุบตัวใหม่ให้ขาวสะอาดอีกต่อไป เช่นเดียวกับหลายเว็บไซต์ที่ตัดสินใจโบกมือลาพันธมิตรธนาคารของตัวเอง ไปอาศัยการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลแทน

ประเด็นนี้นักวิจารณ์อธิบายว่าอาจต้องใช้เวลานานกว่าที่ OnlyFans จะสามารถรับชำระเงินด้วยเงินคริปโต เพราะทุกอย่างจะเริ่มต้นได้ก็ต่อเมื่อ "อินฟลูเอนเซอร์" หรือผู้มีอิทธิพลที่สร้างคอนเทนต์เสียวบน OnlyFans เริ่มเชื่อมต่อกับบิตคอยน์ หรือเป็นผู้ใช้สกุลเงินดิจิทัลแล้ว ซึ่งยังไม่มีใครมีข้อมูลว่าอินฟลูเอนเซอร์เหล่านี้เชื่อมั่นในเงินคริปโตมากแค่ไหน?

***นักการศึกษาเริ่มเข้า OnlyFans

นอกจากกระแส OnlyFans Crypto นักวิเคราะห์อีกสายกำลังเห็นการขยับตัวของบุคคลหลายวงการที่สนใจอยากสร้างอาณาจักรบน OnlyFans หนึ่งในนั้นคือเรเชล โดเรซาล (Rachel Dolezal) นักการศึกษาที่มีผู้ติดตามบนอินสตาแกรมกว่า 50,000 คนนั้นเริ่มสมัครบัญชี OnlyFans แล้วหลังจากการประกาศนโยบายแบนคอนเทนต์โป๊

Dolezal เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะนักเขียนและอาจารย์หญิงจากมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นวอชิงตัน (Eastern Washington) ที่ปลอมตัวเป็นคนผิวดำ เพื่อเผยแพร่เรื่องราวที่เกี่ยวกับแอฟริกันศึกษา ความเคลื่อนไหวของเธอสะท้อนชัดเจนว่าคำสั่งแบนเนื้อหาทางเพศทำให้ OnlyFans มีฐานผู้ใช้ใหม่จำนวนมากที่แห่กันไปสมัครสมาชิก เพราะเชื่อว่าจะสิ่งที่น่าสนใจอื่นเป็นพิเศษ


ในโพสต์ Instagram สาว Dolezal เขียนแผนว่าจะแบ่งปันเนื้อหาอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์พร้อม "เนื้อหาโบนัส" บางอย่าง โดยวันจันทร์อาจเป็นเนื้อหาสร้างแรงบันดาลใจเช่นการออกกำลังกาย หรือวันพุธจะมีบทสัมภาษณ์ฟังสนุก อาจมีการสอนตกแต่งทรงผมด้วย รวมถึงการพูดคุยเรื่องงานศิลปะรวมถึงเรื่องอื่นๆที่จะถูกนำเสนอแบบสุ่มขึ้นมา กำหนดการเปิดตัวช่องคือวันที่ 1 กันยายน 64

การดึงผู้ใช้ใหม่ได้อย่างชัดเจนทำให้มีผู้วิจารณ์บนทวิตเตอร์ ว่า Onlyfans เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการที่แพลตฟอร์มขนาดใหญ่เลือกใช้ผู้ให้บริการทางเพศเป็นเครื่องมือสร้างฐานผู้ชม แล้วก็เขี่ยคนกลุ่มนี้ทิ้งไปเมื่อไม่เห็นประโยชน์

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่มีคำแก้ตัวจาก Onlyfans มีเพียงถ้อยแถลงที่ระบุว่า "ครีเอเตอร์จะยังคงได้รับอนุญาตให้โพสต์เนื้อหาที่มีภาพเปลือย ตราบใดที่สอดคล้องกับนโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้ของเรา" ข้อความนี้อาจเป็นไม้กระดานแผ่นเดียวที่ "sex workers" จะยังเกาะไปได้ แต่คงจะต้องหาช่องทางปรับเปลี่ยนกลยุทธ์นำเสนอครั้งใหญ่เพื่อให้อยู่รอดได้.
#6984
 
 มากกว่าคำว่ากาแฟ Room Coffee อร่อยดี ไม่มีอ้วน




ประโยชน์เพียบจากสารสกัด 36 ชนิด
เสริมภูมิคุ้มกัน บำรุงร่างกาย ชงง่าย
ชงได้ทั้งน้ำร้อนน้ำเย็น อยากกินต้องได้กิน

มีสารสกัดทั้งหมดมากถึง 36 ชนิด
เช่น โสม ถั่วเช่า เห็ดหลินจือ เมล็ดเจีย คอลลาเจน (สูตรเจ) และอีก...เยอะ
ที่ให้คุณ 5 คุณประโยชน์
Detox ขับสารพิษ
Block บล็อกแป้งและน้ำตาลที่มาใหม่
Burn ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ
Build  ช่วยสร้างเสริมกล้ามเนื้อให้กระชับ
Boost  เพิ่มพลังงานให้กระฉับกระเฉง

และยังช่วยเสริมภูมิต้านทาน ให้ไกลจากโรคหวัดและโรคต่างๆอีกด้วย ทุกอย่างรวมไว้ให้คุณขนาดนี้ บอกเลย คุ้

Room Coffee 1 ห่อ มี 10 ซอง ราคา 299 บาท
สนใจติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ

Tel. 0846623662

Line id : teerapat999
ข้อมูลเพิ่มเติม/รีวิวสินค้า https://teerapat99.iconroomcoffee.com/

#6986
สำนักพรเทวะ ศูนย์รวมวัตถุมงคล เครื่องราง ของขลัง เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์
สนใจติดต่อ
อ.ทองเอก พรเทวะ
โทร 0846623662
Line : teerapat999 
#6987


นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ติดตามผลการจัดโครงการ "เพิ่มศักยภาพเกษตรกรในยุคการค้าเสรี" กรณีช่วยสร้างโอกาสทางการค้าให้สินค้าแมลงทอดอบกรอบภายใต้แบรนด์ "แมลงรวย" จาก จ.อุดรธานี ที่ได้ลงพื้นที่ไปแนะนำเรื่องการต่อยอดธุรกิจและการใช้ประโยชน์จาก FTA พบว่าล่าสุดประสบความสำเร็จในการจับคู่ทำธุรกิจทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยในประเทศได้วางจำหน่ายสินค้าแมลงทอดอบกรอบในซูเปอร์มาร์เกตเอกภาพ สาขาสระบุรี และตลาดไทได้แล้ว และในเดือน ก.ย. 2564 มีกำหนดวางจำหน่ายแมลงทอดอบกรอบในร้านสะดวกซื้อ 7-11 ทั่วประเทศ และแมลงแช่แข็งในห้างแม็คโครปลายปีนี้

ส่วนตลาดต่างประเทศ แมลงรวยเตรียมขยายการส่งออกไปยังตลาดสหภาพยุโรป (อียู) สหรัฐฯ เม็กซิโก จีน และอาเซียน ซึ่งแมลงรวยได้ติดต่อทำตลาดแล้ว มีผู้สนใจนำเข้าจำนวนมาก เนื่องจากเป็นสินค้าใหม่ที่ยังไม่มีคู่แข่งในตลาด และมีโอกาสเติบโตสูง เช่น ตลาดคุนหมิง ฮ่องกง และกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมา สปป.ลาว กัมพูชา เวียดนาม ที่ผู้บริโภคมีความคุ้นเคยกับการบริโภคสินค้าแมลงอยู่แล้ว แต่บางตลาด เช่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ผู้บริโภคแมลงมีจำนวนจำกัด เนื่องจากไม่นิยมบริโภค แต่ก็มีโอกาส หากเพิ่มการทำการตลาดและประชาสัมพันธ์สินค้าให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น

ทั้งนี้ ในการทำตลาดส่งออก กรมฯ ได้แนะนำให้ผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จาก FTA เพื่อสร้างข้อได้เปรียบทางการค้าให้กับสินค้าไทย เพราะคู่ค้าที่มี FTA กับไทย 13 ฉบับกับ 18 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย เปรู และชิลี และอยู่ระหว่างรอการบังคับใช้ความตกลง RCEP ในปี 2565 ไม่มีการเรียกเก็บภาษีศุลกากรนำเข้าจากสินค้าแมลงเพื่อบริโภคที่ส่งออกจากไทยแล้ว การใช้ FTA สร้างแต้มต่อก็จะทำให้สินค้าไทยแข่งขันได้ดีขึ้น และลดต้นทุนได้มากขึ้น

นางอรมนกล่าวว่า สินค้าแมลงรวยสามารถขยายตลาดได้ทั้งในและต่างประเทศเนื่องจากเป็นสินค้าแมลงทอดอบกรอบเป็นรายเดียวในประเทศ เป็นสินค้าที่ได้รับรองมาตรฐานในเรื่องความปลอดภัยและกระบวนการผลิต โดยได้รับเครื่องหมาย อย. GMP, HACCP, CODEX และมาตรฐานวัตถุดิบฟาร์ม GAP และยังมีการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่มีความสวยงาม สีสันสะดุดตา ทันสมัย สะดวกต่อการพกพา และรับประทานง่าย รวมทั้งนำเสนอสินค้าในรูปแบบแปลกใหม่และหลากหลาย มีแมลงทอดอบกรอบทั้งดักแด้ จิ้งหรีด และสะดิ้ง แมลงแช่แข็ง น้ำพริกแมลงละลายน้ำ และผงจิ้งหรีดเพื่อใช้เป็นส่วนผสมในเบเกอรี คุกกี้ ในการเพิ่มโปรตีน เจาะตลาดกลุ่มผู้รักสุขภาพและเป็นทางเลือกใหม่ของผู้บริโภคที่ต้องการเริ่มต้นกินแมลง โดยผงจิ้งหรีดมีโปรตีนสูงถึง 75% มีธาตุเหล็กมากกว่านม 3 เท่า และอุดมไปด้วยกากใย วิตามิน แร่ธาตุต่างๆ ทั้งเหล็ก สังกะสี แคลเซียม รวมทั้งกรดไขมันโอเมกา 3 ที่จำเป็นต่อร่างกาย

นอกจากนี้ แมลงรวยยังอยู่ระหว่างการใช้นวัตกรรมในการพัฒนาเป็นสินค้าเวย์โปรตีนสกัดจากจิ้งหรีด เป็นอาหารเสริมที่มุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักกีฬา
#6988


จากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ต่อเนื่องยาวนานมาร่วม 1 ปีครึ่ง โดยการระบาดในช่วงแรก มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมกองทุนรวมไทยอย่างมาก โดย มีเงินไหลออกจาก "กองทุนรวมตราสารหนี้" สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากตลาดตราสารหนี้ทั่วโลกประสบกับภาวะสภาพคล่องที่ไม่ปกติ จนทำมาสู่มีการไถ่ถอนหน่วยลงทุนรายวันเป็นมูลค่าสูง เป็นเหตุให้ธนาคารแห่งประเทศไทย  (ธปท.)ออกมาตรการดูแล ทำให้หยุดการแพนิกของนักลงทุนและตลาดค่อยๆฟื้นตัวหลังจากนั้น โดยใช้เวลาราว1ปีครึ่งกลับมาฟื้นตัวจากโควิด-19ได้ 

บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) รายงานว่า  ณ ไตรมาส1 ปี2563 มูลค่าทรัพย์สินสุทธิกองทุนรวมไทย (เฉพาะกองทุนเปิด ไม่รวมกองทุนปิด, ETF, REIT, Infrastructure fund)อยู่ที่ 3.6 ล้านล้านบาท ลดลง17.1% จากสิ้นปี 2562 โดยมีเงินไหลออกสุทธิ 3.9 แสนล้านบาท โดยเงินไหลออกจากกองทุนรวมตราสารหนี้ถึง 4.5 แสนล้านบาท 

โดยในช่วงตลอดปี 2563 อุตสาหกรรมกองทุนรวมไทยค่อยๆ เริ่มฟื้นตัวกลับมา การหดตัวของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเริ่มชะลอตังลง จากเงินลงทุนไหลเข้าสู่กองทุนตลาดเงินและตราสารทุนในไตรมาส2ปี2563 และในช่วงครึ่งปีหลัง2563 การลงทุนเปลี่ยนโหมด เป็นเงินลงทุนไหลเข้ากองทุนตราสารทุนแทน ส่วนใหญ่เป็นกองทุนที่ไปลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศมากขึ้น

แต่อย่างไรก็ตาม ภาพอุตสาหกรรมกองทุนรวมไทยที่นักลงทุนแพนิกเทขายกองทุนตราสารหนี้ช่วงต้นปีนั้น ยังทำให้ ณ สิ้นปี2563 มูลค่าทรัพย์สินสุทธิกองทุนรวมไทย แม้ในช่วงไตรมาส4ปี2563 ปรับตัวสูงขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า เพิ่มขึ้น 5.8% ไปอยู่ที่ 4.0 ล้านล้านบาท แต่ทั้งปี2563 ยังลดลด 7.3% จากสิ้นปี2562 โดยมีเงินไหลออกสุทธิทั้งปีรวมทั้งสิ้น 2.8 แสนล้านบาท

หลังจากนั้นในปี2564 อุตสาหกรรมกองทุนรวมไทยเริ่มฟื้นตัวจากโควิด-19  มูลค่าทรัพย์สินสุทธิกองทุนรวมไทย อยู่ที่ 4.1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.6% จากสิ้นปี2563 และสูงกว่ามี.ค. ราว 15% แต่ยังต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด-19 ที่เคยอยู่ระดับสูงสุดช่วงธ.ค. 2562 ที่เกือบ 4.3 ล้านล้านบาทโดยในไตรมาสแรกปีนี้มีเงินไหลเข้าสุทธิ 3.3 หมื่นล้านบาท เน้นไปที่เงินไหลเข้าสุทธิกองทุนรวมตราสารทุน 

จนกระทั้งครึ่งปีแรก 2564 จึงฟื้นตัวจากโควิด-19 ได้ มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 4.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.7%จากไตรมาสแรกปีนี้ หรือ 5.4% จากสิ้นปี2563 จากการเพิ่มขึ้นนี้ทำให้มูลค่าทรัพย์สินเข้าใกล้ระดับก่อนการระบาดของโควิด-19 ที่ 4.3 ล้านล้านบาท หรือต่างกันราว 1 แสนล้านบาท โดยในรอบครี่งปีแรกมีเงินไหลเข้าสุทธิรวม 9.3 หมื่นล้านบาท

ขณะที่แนวโน้มครึ่งปีหลัง2564 อุตสาหกรรมกองทุนรวมไทย ยังมีเทรนด์การเติบโตที่ดี ทั้งจากอานิสงกส์ ลดคุ้มครองเงินฝากเหลือ1ล้านบาท ทำให้มีเงินฝากไหลเข้ามาทะลักมาสู่กองทุนตราสารหนี้

และบลจ.ต่างๆยังคงแนะนำนักลงทุนไทย กระจายเงินลงทุนไปทั่วโลก  เพื่อเพิ่มผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาดหุ้นไทย อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในปีนี้ที่ภาวะการลงทุนมีความผันผวนมาก ทั้งสถานการณ์โควิด-19ที่รุนแรงขึ้นและยาวนานขึ้น เฟดมีสัญญาณลดคิวอีภายในปีนี้ รวมถึงการเมืองในประเทศกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง ซึ่งยังเป็นเทรนด์การลงทุนต่อเนื่องในปีนี้ 

ลองมาดูกันว่า การเติบโตของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ในช่วงวิกฤติโควิดรอบ1ปีครึ่งที่ผ่านมานี้ บลจ.ที่มีการเติบโตสูงสุด5อันดับ ดังนี้ 

1.บลจ.กสิกรไทย มูลค่าทรัพย์สิน 1.06 ล้านล้านบาท มีส่วนแบ่งตลาด 25.2%

2.บลจ.ไทยพาณิชย์ มูลค่าทรัพย์สิน 6.9 แสนล้านบาท มีส่วนแบ่งตลาด16.4%

3.บลจ.บัวหลวง มูลค่าทรัพย์สิน 5.8 แสนล้านบาท มีส่วนแบ่งตลาด 13.7%

4.บลจ.กรุงไทย มูลค่าทรัพย์สิน 4.1 แสนล้านบาท มีส่วนแบ่งตลาด 9.8% 

5.บลจ.กรุงศรี มูลค่าทรัพย์สิน 4 แสนล้านบาท มีส่วนแบ่งตลาด 9.4%

"ชญานี จึงมานนท์"  นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในภาพรวมอุตสาหกรรมกองทุนรวมไทยมีบลจ.กสิกรไทย เป็นผู้นำด้วยมูลค่าทรัพย์สินสูงสุด 1.06 ล้านล้านบาท หรือสัดส่วน 1 ใน 4 ของทั้งอุตสาหกรรม และเป็นเพียงบลจ.แห่งเดียวที่มีมูลค่าทรัพย์สินมากกว่า 1 ล้านล้านบาท การเติบโตนั้นมีส่วนมาจากทั้งกองทุนตราสารหนี้และกองทุนหุ้นต่างประเทศ กองทุนที่มีเงินไหลเข้ามากที่สุดในช่วง 1 ปีครึ่งที่ผ่านมาคือกองทุน K SF Plus รวมเกือบ 4 หมื่นล้านบาท

"บลจ.ไทยพาณิชย์"ที่มีส่วนแบ่งตลาดอันดับสองราว 16.4% จากมูลค่าทรัพย์สิน 6.9 แสนล้านบาท หรือมูลค่าทรัพย์สินลดลงจากช่วงก่อนโควิด 11.5% โดยมีส่วนมาจากมูลค่ากองทุน term fund และกองทุนผสมที่ลดลงอย่างมากหรือรวมกันมากกว่า 1 แสนล้านบาท กองทุนที่มีเงินไหลเข้ามากที่สุดในช่วง 1 ปีครึ่งที่ผ่านมาคือSCB Short Term Fixed Income Plus A ที่ 2.7 หมื่นล้านบาท

"บลจ.บัวหลวง"ยังคงมีมูลค่าทรัพย์สินสูงสุดเป็นอันดับสามด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 5.8 แสนล้านบาท หรือเท่ากับสัดส่วน 13.7% ซึ่งถือว่าค่อนข้างทรงตัวจากปี 2562 โดยกองทุนบัวหลวงมีมูลค่าทรัพย์สินขนาดใหญ่อยู่ในกลุ่มหุ้นไทยที่เป็นกองทุน LTF แม้ว่าเงินลงทุนในส่วนนี้จะค่อย ๆ ลดลง แต่การขายกองทุนต่างประเทศในกลุ่ม Global Equity, China Equity หรือ Global Technology หรือกองทุนตราสารตลาดเงิน ก็ยังช่วยให้มีกระแสเงินไหลเข้าสุทธิ รวมเป็นมากกว่า 4 หมื่นล้านบาทตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา กองทุนที่มีเงินไหลเข้ามากที่สุดในช่วง 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา (ไม่รวมกองทุน term fund) คือ Bualuang Treasury 1.5 หมื่นล้านบาท

"บลจ.กรุงไทย" มีส่วนแบ่งตลาด 9.8% ด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวม 4.1 แสนล้านบาท หรือเติบโต 17.2% จากสิ้นปี 2562 โดยมีการเติบโตจากกองทุนหุ้นจีนที่เคยมีมูลค่าราว 2 พันล้านบาทในปี 2562 และเพิ่มขึ้นเป็น 3.1 หมื่นล้านบาทในปัจจุบัน ประกอบกับการเติบโตจากกองทุน Asia Pacific ex-Japan Equity รวมไปถึงกองทุนเพื่อความยั่งยืน ทำให้บลจ.กรุงไทยที่เคยมีมูลค่าทรัพย์สินที่อันดับ 6 ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 4 กองทุนที่มีเงินไหลเข้ามากที่สุดในช่วง 1 ปีครึ่งที่ผ่านมาคือ KTAM China A Shares Equity A ที่ 1.9 หมื่นล้านบาท

"บลจ.กรุงศรี" มีมูลค่าทรัพย์สินรวมเกือบ 4 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.4% จากสิ้นปี 2562 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากกองทุนตราสารทุนเช่นกองทุนหุ้นจีน กองทุนหุ้นทั่วโลกเช่นเดียวกับบลจ.รายอื่น มีส่วนแบ่งตลาดที่ 9.4% เพิ่มขึ้นจากเดิมเล็กน้อยที่ 9.0% กองทุนที่มีเงินไหลเข้ามากที่สุดในช่วง 1 ปีครึ่งที่ผ่านมาคือ Krungsri Smart Fixed Income ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท

"การเติบโตของบลจ.รายใหญ่ 5 อันดับแรกมีความคล้ายกันคือมีการเติบโตของมูลค่าการลงทุนต่างประเทศ โดยเฉพาะตราสารทุน เช่น กองทุนหุ้นจีน หุ้นทั่วโลก และการเติบโตในลักษณะเดียวกันนี้เองทำให้ส่วนแบ่งตลาดส่วนใหญ่หรือราว 75% ยังอยู่ในบลจ. 5 อันดับแรกเช่นเดิม"

"ชญานี" กล่าวว่า  ขณะที่ บลจ.รายอื่นที่มีการเติบโตดี ได้แก่ "บลจ.ทิสโก้" มีมูลค่าทรัพย์สินสูงขึ้น 46.0% มาอยู่ที่ระดับ 7 หมื่นล้านบาท ทำให้ขยับขึ้นมาเป็นหนึ่งในบลจ.ขนาดใหญ่ที่สุด 10 อันดับแรก

นอกจากนี้ยังมีบลจ.ที่มีการเติบโตมากกว่า 100% โดยจะเป็นบลจ.ขนาดเล็กลงมาเช่น "บลจ.วรรณ" เติบโต 106.2% มูลค่าทรัพย์สินล่าสุด 7.1 หมื่นล้านบาท "บลจ.บางกอกแคปปิตอล" 318.6% มูลค่าทรัพย์สินล่าสุด 1.4 หมื่นล้านบาท และ "บลจ.เอ็กซ์สปริง" เติบโต 213% มูลค่าทรัพย์สิน 75.2 ล้านบาท
#6989


โดย พชร ธนภัทรกุล

ชาวแต้จิ๋วเรียกวันนี้ว่า ชิก-ง้วย-ปั่ว-โจ่ย (七月半节) แปลว่าวันสารทกลางเดือนเจ็ด มีบ้างที่เรียกว่า กุยโจ่ย (鬼) คือวันงานของผี ซึ่งตามปฏิทินจันทรคติจีนแล้ว จะตรงกับวันที่ 15 เดือนเจ็ดของทุกปี

ปกติแล้ว ไม่ว่าเทศกาลไหนของจีน ก็จะมีของกินที่เป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลนั้นๆ เช่น ตรุษจีน มีขนมเข่งขนมฟู วันเช็งเม้ง ชาวแต้จิ๋วในจีนมี จี-พก-ก้วย(积朴粿) แต่ชาวแต้จิ๋วในไทย ดูเหมือนจะไม่มีของกินประจำเทศกาลนี้ เทศกาลตวนอู่หรือวันไหว้บ๊ะจ่าง ก็มีบ๊ะจ่าง เทศกาลตังโจ่ยหรือขนมอี๊ ก็จะมีขนมอี๊ (คล้ายบัวลอย)

แต่เทศกาลสารทจีน สำหรับชาวแต้จิ๋วทั้งในจีนและในไทย ดูจะไม่มีของกินประจำเทศกาล คงมีเพียงของกินที่เป็นของเซ่นเครื่องไหว้เท่านั้น ซึ่งก็เป็นอะไรที่คล้ายๆกับของเซ่นเครื่องไหว้ในเทศกาลอื่น ไม่มีอะไรเด่นเป็นพิเศษ

ชาวจีนเชื่อกันว่า ตลอดเดือนเจ็ดของทุกปีตามปฏิทินจีน ประตูเมืองผีจะเปิดตั้งแต่วันแรกไปจนถึงวันสิ้นเดือน เพื่อให้บรรดาผีทั้งหลายได้มีโอกาสออกจากเมืองนรกกลับมายังโลกมนุษย์เป็นเวลาหนึ่งเดือน เพื่อมา "เยี่ยม" ลูกหลาน มาดูว่า ในรอบปีที่ผ่านมา พวกเขาทำดีทำชั่วอะไรไว้ และอยู่ดีมีสุขกันไหม

การไหว้ผีไม่มีญาติ (ไม่จัดโต๊ะ) ขอบคุณภาพจาก http://www.chinalanguages.org/show_cy_lei.aspx?idxiaolei=%E4%B8%83%E6%9C%88%E5%8D%81%E4%BA%94
การไหว้ผีไม่มีญาติ (ไม่จัดโต๊ะ) ขอบคุณภาพจาก http://www.chinalanguages.org/show_cy_lei.aspx?idxiaolei=%E4%B8%83%E6%9C%88%E5%8D%81%E4%BA%94

เมื่อบรรดาผีบรรพชนอุตส่าห์เดินทางจากเมืองผี มา "เยี่ยม" ทั้งที คนบนโลกก็ควรมีพิธีต้อนรับขับสู้กันหน่อย ลูกหลานชาวจีนจึงเลือกเอาวันที่ 15 ของเดือนนี้ จัดเครื่องเซ่นของไหว้ มาเซ่นไหว้บรรพชน

แต่หากไม่มีการเซ่นไหว้ และพ้นวันนี้ไปแล้ว ผีบรรพชนที่ไม่ได้รับการเซ่นไหว้ ก็จะต้องกลายเป็นผีเร่ร่อนติดอยู่บนโลกมนุษย์ กลับไปเมืองผีไม่ได้ ต้องรอไปอีกหนึ่งปี เมื่อมีการเซ่นไหว้แล้วนั่นแหละ ถึงจะได้กลับไปเมืองผีกัน

ส่วนที่เลือกเซ่นไหว้ผีบรรพชนในวันที่ 15 เดือนเจ็ด ก็เพราะเป็นช่วงที่เริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง พืชผลบางชนิด เช่น ข้าวโพด มันเทศ งาและถั่วต่างๆ พุดซาจีน สาลี่ ลูกท้อ ลูกพลับ แม้แต่ฝ้าย ก็เริ่มสุกแก่เก็บเกี่ยวได้แล้ว เพื่อบอกกล่าวถึงผลเก็บเกี่ยวที่ได้ให้บรรพชนได้รับทราบ

ที่เล่ามานี้ เป็นเค้าลางบอกที่มาของวันสารทจีนว่า มาจากอิทธิพลคำสอนของขงจื๊อที่สอนให้ชาวจีนยึดถือความกตัญญูกตเวทิตาเป็นที่ตั้ง คือรู้คุณและแทนคุณ

ต่อมา ทั้งฝ่ายเต๋าและฝ่ายพุทธ ได้มองเห็นว่า ชาวจีนให้ความสำคัญกับวันนี้กันมาก จึงได้กำหนดให้วันนี้เป็นวันสำคัญของฝ่ายตนบ้าง กล่าวคือ

ของเซ่นเต้าหู้ (จานตรงกลาง) ขอบคุณภาพจากhttp://blog.sina.com.cn/s/blog_4d9d9ecd0102wvht.html?tj=1
ของเซ่นเต้าหู้ (จานตรงกลาง) ขอบคุณภาพจากhttp://blog.sina.com.cn/s/blog_4d9d9ecd0102wvht.html?tj=1

ฝ่ายเต๋ากำหนดให้เป็นวันเกิดของเทพเจ้าผู้ดูแลเมืองผี มีชื่อยาวเหยียดว่า 中元二品七炁赦罪地官洞灵清虚大帝青灵帝君 (ขอไม่ถอดเสียงอ่าน เพราะมันยาวเยิ่นเย้อ) แต่ชาวจีนเรียกกันสั้นๆว่า "จง-หยวน-ตี้-กวน" (中元地官) จึงเรียกวันนี้ว่า จง-หยวน-เจี๋ย (中元节)

ไหนๆเป็นวันเกิดทั้งที ท่านเทพเจ้าแห่งเมืองผีเลยใจดี อภัยโทษชั่วคราวแก่ผีทั้งหลาย พร้อมเปิดประตูเมืองผี ให้บรรดาผีไม่มีญาติได้มีโอกาสไป "เที่ยว" บนโลกมนุษย์ ยาวนานถึงหนึ่งเดือนเต็ม กลายเป็นวันหยุดยาวของบรรดาผีทั้งหลาย แล้วเกิดเป็นประเพณีเซ่นไหว้ผีไม่มีญาติขึ้น แยกต่างหากจากการเซ่นไหว้ผีบรรพชน

ส่วนทางฝ่ายพุทธ (มหายาน) ก็กำหนดให้วันนี้เป็นวัน "หวี-หลัน-ผึน (盂兰盆节) หรืออุลลัมพัน (ullambana) บอกเล่าเรื่องราวที่ภิกขุมู่เหลียน (目莲) บุกเมืองผีช่วยแม่ให้พ้นจากขุมนรก มาเป็นต้นเรื่อง กลายมาเป็นงานประเพณี ที่ชื่อว่า หวี-หลัน-ผึน-หุ้ย (盂兰盆会) ที่ชาวแต้จิ๋วในไทยเรียก หู่-หลั่ง-เส่ง-หวย (盂兰盛会-เสียงแต้จิ๋ว) โดยในงานจะมีพิธี "โพว-โต่ว-ซิ-โกว" (普度施孤) หรือที่เรารู้จักกันว่า งานประเพณีทิ้งกระจาด จุดประสงค์เดิม คือการแจกทานแก่ผีไม่มีญาติ เพื่อนำพาผีเหล่านี้ให้พ้นจากห้วงทุกข์ ต่อมาก็เลยแจกทานให้ทั้งผีทั้งคน (เน้นคนจน)

จากที่เล่ามา ชาวจีนมีการเซ่นไหว้ผีสองกลุ่ม คือกลุ่มผีไม่มีญาติ กับกลุ่มผีบรรพชนของตัวเอง ซึ่งก็เซ่นไหว้ต่างกัน มาเริ่มกันที่การเซ่นไหว้ผีไม่มีญาติกันก่อน

ชาวแต้จิ๋วเลี่ยงไม่เรียกผีไม่มีญาติทั้งหลายว่า กุ้ย (鬼) ที่แปลว่า ผี โดยตรง แต่เลี่ยงไปใช้คำที่มีความหมายดีกว่า เช่น โกวเอี๊ย (孤爷) อันเป็นการเรียกยกย่องเปรียบผีไม่มีญาติเหล่านี้ เป็นเจ้าใหญ่นายโต หรือ ฮอเฮียตี๋ (好兄弟) ซึ่งเป็นการเรียกที่แสดงความสนิทชิดเชื้อความเป็นกันเอง และความนับถือพวกเขาเสมือนพี่น้องเครือญาติ ดังนั้น จึงเรียกพิธีเซ่นไหว้ผีไม่มีญาติเหล่านี้ว่า "ไป้โกวเอี๊ย" (拜孤爷) หรือ"ไป้ฮอเฮียตี๋" (拜好兄弟)

การเซ่นไหว้ผีไม่มีญาติจะทำกันหลังเที่ยงวันไปแล้ว มีบ้างที่ไหว้หลังบ่ายสามโมงหรือหลังห้าโมงเย็น ต่างกันตามประเพณีของแต่ละถิ่น ชาวแต้จิ๋วในไทยมักไหว้ผีไม่มีญาติกันหลังเที่ยงวัน

ขนมโซวเกี้ยว หรือเกี๊ยวกรอบ (คล้ายกะหรี่ปับ) ขอบคุณภาพจาก http://blog.sina.com.cn/s/blog_4d9d9ecd0102wvht.html?tj=1
ขนมโซวเกี้ยว หรือเกี๊ยวกรอบ (คล้ายกะหรี่ปับ) ขอบคุณภาพจาก http://blog.sina.com.cn/s/blog_4d9d9ecd0102wvht.html?tj=1

ข้อสำคัญในพิธีเซ่นไหว้ คือไม่จัดโต๊ะไหว้ แค่ปูเสื่อปูผ้าวางอาหาร ผลไม้และของเซ่นไหว้ไว้บริเวณริมทางหน้าประตูบ้านนอกตัวอาคารก็พอ

เวลาไหว้ให้หันหน้าออกนอกอาคาร ไม่หันหน้าเข้าหาอาคาร เพื่อไม่เป็นการเชื้อเชิญผีไม่มีญาติเหล่านี้เข้าบ้าน

กระถางธูปให้ใช้กระป๋องหรือกระบอกไม้ไผ่ ใส่ข้าวสารไว้สัก 7 ส่วนทำเป็น "กระถางลอย" คือไม่ต้องเขียนชื่อใดๆติดไว้ คงตั้งลอยไว้อย่างนั้น ตั้งเทียนจีนไว้สองข้างกระถาง พร้อมกะละมังใบใหม่ใส่น้ำครึ่งหนึ่งและผ้าใหม่หนึ่งผืนไว้ให้ "ผี" ล้างหน้าล้างตา และล้างมือก่อนรับอาหารเครื่องเซ่นไหว้

เครื่องเซ่นไหว้ให้จัดอาหารปรุงจากเนื้อเป็ด เนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อปลา และผัก รวม 5 อย่าง ทำเป็นอาหารต่างๆราว 6-10-12 ชาม บ้างก็เพิ่มชุดเนื้อสัตว์ 3 อย่างที่เรียกว่า ซาแซ (三牲) มีห่าน (หรือเป็ดไก่) 1 ตัว เนื้อหมูต้มสุก 1 ชิ้น ปลานึ่งสุก 1 ตัว เหล้า 3-5-7-9-11 จอก น้ำชา 3 จอก ข้าวสวยตามจำนวนจอกเหล้า ขนมโก๋ ขนมเปี้ย ขนมโซวเกี้ยว (คล้ายกะหรี่ปับ) ขนมอิ่วจุ๋ง (คล้ายขนมกรอบเกลียว) เส้นหมี่ ข้าวของเครื่องใช้ชุดใหม่ ของแห้ง เช่น เครื่องกระป๋อง น้ำขวด น้ำอัดลม ข้าวสาร และอื่นๆ ที่ขาดไม่ได้คือ เฮียงหู่ (香腐) หรือเต้าหู้แข็ง นัยว่าเต้าหู้นี้เป็นเสมือนพาสปอร์ตวีซ่าใช้ผ่านประตูผีกลับไปเมืองผีได้

ขนมอิ่วจุ๋ง (คล้ายขนมกรอบเกลียว) ขอบคุณภาพจาก http://blog.sina.com.cn/s/blog_4d9d9ecd0102wvht.html?tj=1
ขนมอิ่วจุ๋ง (คล้ายขนมกรอบเกลียว) ขอบคุณภาพจาก http://blog.sina.com.cn/s/blog_4d9d9ecd0102wvht.html?tj=1

สำหรับผลไม้ เลือกใช้ผลไม้ต่างๆตามฤดูกาล ยกเว้นกล้วย ลูกไหน สาลี่ ฝรั่ง มังคุด น้อยหน่า มะเขือเทศ ที่เป็นผลไม้ต้องห้าม เหตุผลน่าจะมาจากชื่อจีนของผลไม้เหล่านี้ ที่ผู้ไหว้คิดว่าไม่เป็นมงคลหรือไม่อยากให้เกิดผลตามชื่อนั้นๆ จึงงดเสียไม่นำมาไหว้ เรื่องของต้องห้ามเหล่านี้แตกต่างกันไปตามประเพณีแต่ละท้องถิ่น จึงเกิดสสภาพที่ ผลไม้อย่างเดียวกัน จีนถิ่นนี้ห้ามนาเซ่นไหว้ แต่จีนถิ่นโน้น เอามาเซ่นไหว้ได้ คือไม่มีข้อห้ามร่วมกันชัดเจน

สิ่งที่ต้องเตรียมอีกรายการคือ กระดาษไหว้ ที่คนแต้จิ๋วเรียกว่า จั๋วจี๊ /จั๊วงึ่ง (纸钱/纸银) ซึ่งเมื่อไหว้เสร็จจะเผาส่งไปให้ผีไม่มีญาติเหล่านี้นำกลับไปใช้ยังเมืองผี ที่ต้องเตรียมมีเสียงึ้ง (小银) เป็นกระดาษติดเงินเปลวใบเล็ก

โกวอี (孤衣) คือกระดาษไหว้พิมพ์ลายหรือตัดพับเป็นรูปข้าวของเครื่องใช้ต่างๆในชีวิตประจำวัน เช่น เสื้อผ้า รองเท้า หมวก เป็นต้น

อวงแซจั้ว (往生钱) เป็นกระดาษไหว้ที่พิมพ์บทสวดให้กลับชาติไปเกิดใหม่ สี่มุมพิมพ์คำว่า แดนสุขาวดีตามความเชื่อของพุทธมหายาน

กิมงึ้งไฉ่ป้อ (金银财宝) เป็นกระดาษไหว้ที่พับเป็นเงินก้อนบ้าง ทองแท่งบ้าง

การไหว้เริ่มจากจัดวางตะเกียบให้ครบตามจำนวนจอกเหล้าและชามข้าวสวย จุดเทียนจีน รินน้ำชา รินเหล้า จุดธูปตามจำนวนของเซ่นไหว้บวกเพิ่มอีก 3 ดอก ไหว้แล้วปักธูป 3 ดอกไว้ในกระถางลอย ธูปที่เหลือปักไว้บนของเซ่นไหว้ให้ครบทุกที่ จากนั้นเผากระดาษไหว้โกวอีก่อน เสมือนหนึ่งให้ผีได้ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนมากินของเซ่น พอธูปหมดไปครึ่งดอก ให้เผากระดาษไหว้ "เสียงึ้ง" และ"กิมงึ้งไฉ่ป้อ" เรียงลำดับจากใหญ่ไปเล็ก เผาเสร็จ เอาเหล้าที่เซ่นไหว้เทใส่เถ้ากระดาษไหว้ บ้างมีการโปรยข้าวสารโปรยเกลือไปตามทางเดิน เพื่อขับไล่ความโชคร้าย แล้วไหว้ลา เสร็จพิธี

ผลไม้และขนม ขอบคุณภาพจาก http://blog.sina.com.cn/s/blog_4d9d9ecd0102wvht.html?tj=1
ผลไม้และขนม ขอบคุณภาพจาก http://blog.sina.com.cn/s/blog_4d9d9ecd0102wvht.html?tj=1

พิธีไหว้บรรพชนก็ทำคล้ายคลึงกัน ต่างกันที่ต้องจัดโต๊ะวางของเซ่นไหว้ มีป้ายชื่อบรรพชน และกระถางไหว้ประจำตระกูล (ไม่ใช่กระถางลอย) จำนวนกับข้าวจะมี 6-8-12 ชาม เวลาไหว้ต้องเริ่มก่อนเที่ยงราว 11 โมงเช้า ในระหว่างไหว้ อาจทอดเวลาออกไปได้ไม่เกินบ่ายโมง ขั้นตอนการไหว้นั้นเหมือนกัน เพียงไม่ต้องปักธูปไว้บนของเซ่นไหว้ กระดาษไหว้ใช้เหมือนกัน แต่ให้เปลี่ยนใช้ตั่วงึ้ง (กระดาษเงินใหญ่) แทนเสียงึ้ง และเพิ่มกิมจั้ว ส่วนธนบัตรกงเต๊กและของมีค่าอื่นๆจะเพิ่มด้วยหรือไม่ก็ได้ พอธูปหมดไปครึ่งดอก ให้จุดธูปไหว้รอบสองและสาม พอธูปรอบสามหมดไปหนึ่งในสามดอก ให้ยกกระดาษไหว้ขึ้นลา การเผาก็ไล่ลำดับเริ่มจากเผาโกวอี กิมจั้ว ตั่วงึ้ง และกิมงึ้งไฉ่ป้อ จากใหญ่ไปหาเล็ก เทเหล้าใส่เถ้ากระดาษไหว้ เก็บของเซ่นไหว้ เสร็จพิธีไหว้บรรพชน

วัฒนธรรมในเรื่องผีของชาวจีนมากด้วยเนื้อหา คงไม่อาจสรุปเอาง่ายๆว่าเป็นเรื่องงมงาย มีเรื่องราวเกี่ยวกับคุณธรรมจริยธรรมหยั่งรากลึกอยู่ในนั้น สอนในเรื่องทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วจากทั้งฝ่ายเต๋าและฝ่ายพุทธ รวมทั้งความกตัญญูรู้คุณจากคำสอนของขงจื๊อ ซึ่งมีบทบาทอย่างสำคัญยิ่งในการจรรโลงคุณธรรมของสังคมชุมชนชาวจีน และช่วยสร้างคนดีให้กับครอบครัว สังคมชาวจีน และบ้านเมืองโดยรวม

ดังนั้น เมื่อละเนื้อหาส่วนที่งมงายเสีย ประเพณีสารทจีนจึงเป็นประเพณีที่ดีงามที่สมควรได้รับการสืบทอดต่อๆไปตราบนานเท่านาน
#6990


เพื่อให้คลังเวชภัณฑ์ทำงานอัตโนมัติ, สร้างระบบเก็บ-รับ-ส่ง-ประมวล-แสดงผลข้อมูลการเข้า-ออก และตำแหน่งปัจจุบันของเวชภัณฑ์แต่ละชนิดอย่างละเอียด เรียลไทม์ ในรูปแบบดิจิทัล ทำให้โรงพยาบาลสามารถวางแผนและจัดเตรียมเวชภัณฑ์ให้เพียงพอต่อการใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพ

ผศ.กานดา บุญโสธรสถิตย์ หัวหน้าศูนย์นวัตกรรมโลจิสติกส์ บัณฑิตวิทยาลัยการจัดการและนวัตกรรม มจธ. และหัวหน้าโครงการวิจัยและพัฒนาคลังเวชภัณฑ์อัจฉริยะฯ กล่าวว่า หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เวชภัณฑ์ในโรงพยาบาล โดยเฉพาะชุด PPE, หน้ากาก N95 และเวชภัณฑ์อื่นๆ ที่มีกว่า 130 ชนิด (SKU) ซึ่งจำเป็นต่อการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 มีไม่เพียงพอ หรือ ขาดสต๊อก มาจากปัญหาข้อมูลเวชภัณฑ์ในระบบไม่อัปเดต เพราะต้องใช้แรงงานคนในการติดตามการใช้งานและนับสต็อก ก่อนการคีย์ข้อมูลเข้าระบบจำนวนมาก ใช้เวลานาน

และไม่สามารถอัปเดตได้ตลอดเวลา ข้อมูลปริมาณการใช้งานและจำนวนคงเหลือที่มีอยู่ในระบบจึงไม่สะท้อนความจริง ทำให้กระทรวงสาธารณสุขไม่สามารถจัดสรรจำนวนเวชภัณฑ์ให้โรงพยาบาลได้อย่างเหมาะสม รวมถึงประชาชนที่ต้องการบริจาคเวชภัณฑ์เพื่อช่วยสนับสนุนการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ก็ไม่สามารถบริจาคได้ตามความขาดแคลนที่แท้จริง นี่จึงเป็นที่มาของโครงการพัฒนาคลังเวชภัณฑ์อัจฉริยะ ที่เชื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้

"เรานำนวัตกรรมโลจิสติกส์มาพัฒนาคลังเวชภัณฑ์ที่มีอยู่เดิมให้ทันสมัยขึ้น โดยอัปเกรดอุปกรณ์ในคลัง เช่น รถเข็น, ตะกร้า, กล่องรักษา-ควบคุมอุณหภูมิ, ชั้นวางของ, ตู้แช่เย็น ด้วยกลุ่มเทคโนโลยี IoT ได้แก่ เทคโนโลยี RFID ที่ติดตั้งแท็กบนเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ ทำให้สามารถรับและส่งข้อมูลเวชภัณฑ์ได้อัตโนมัติ เช่น ประเภทของเวชภัณฑ์ หมายเลขล็อตหรือแบ็ทช์, สถานที่ผลิต, วันผลิต, วันหมดอายุ, ตำแหน่งการวางและหยิบเวชภัณฑ์ในคลัง เป็นต้น ทดแทนการใช้คนจดบันทึกและคีย์ข้อมูลเข้าระบบ โดยโรงพยาบาลสามารถนำไปเชื่อมต่อเข้ากับระบบสารสนเทศของโรงพยาบาล (Hospital Information System: HIS) สำหรับการจัดการเวชภัณฑ์คงคลัง ด้วย Economic Order Quantity (EOQ) เพื่อมาคำนวณว่า ควรสั่งเวชภัณฑ์แต่ละประเภทปริมาณเท่าใด และเมื่อไหร่ ทั้งนี้ ข้อมูลเวชภัณฑ์จะอัปเดตทันทีเมื่อมีการนำเวชภัณฑ์เข้าและออกจากคลัง ช่วยให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายสามารถเช็คข้อมูลสต๊อกได้ถูกต้อง ตรงกัน และสั่งเวชภัณฑ์ได้ทันเวลา"


โดย ทีมวิจัยฯ เลือกใช้เทคโนโลยีแบบผสมผสาน เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งาน แก้ปัญหาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ กำลังเผชิญ ด้วยงบประมาณที่สมเหตุสมผล เช่น การบันทึกปริมาณการใช้เวชภัณฑ์ สามารถเลือกใช้การติดตั้งตราชั่ง หรือ โหลดเซลล์ บนอุปกรณ์ ร่วมกับแท็ก RFID บนชั้นวางสำหรับเวชภัณฑ์ราคาสูงและ/หรือมีขนาดเล็ก เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่มีราคาแพง ส่วนเวชภัณฑ์อื่นๆ สามารถเลือกใช้เทคโนโลยีคิวอาร์โค้ดหรือบาร์โค้ด ซึ่งมีราคาย่อมเยากว่าได้

 ด้าน รศ.นพ. พฤหัส ต่ออุดม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า ปัจจุบันระบบการเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างคลังเวชภัณฑ์ใหญ่ กับคลังย่อยของวอร์ดต่างๆในโรงพยาบาลยังไม่เชื่อมต่อกัน ทำให้การตรวจสอบปริมาณที่แท้จริงของเวชภัณฑ์แต่ละชนิดที่มีและใช้อยู่เป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะช่วงสถานการณ์โควิด-19 เวชภัณฑ์อย่างชุด PPE, หน้ากาก N95 เป็นเวชภัณฑ์ป้องกันที่จำเป็นและขาดไม่ได้ การพัฒนาคลังเวชภัณฑ์อัจฉริยะ จะเข้ามาช่วยให้การบริหารจัดการเวชภัณฑ์ทั้งระบบดีขึ้น ทำให้รับรู้ปริมาณของที่มีถูกต้อง และช่วงเวลาที่ควรสั่งซื้อ จนถึงความเหมาะสมในการนำเวชภัณฑ์แต่ละชนิดไปใช้ ซึ่งหากระบบนี้สำเร็จจะช่วยป้องกันปัญหาเวชภัณฑ์ขาดแคลนได้ เป็นประโยชน์โดยตรงต่อการรักษาผู้ป่วย และการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์
"นอกจากประโยชน์โดยตรงต่อการรักษาและความปลอดภัยของผู้ป่วย ซึ่งเป็นพันธกิจหลักของโรงพยาบาล คลังอัจฉริยะยังส่งผลดีต่อการบริหารจัดการภายในโรงพยาบาล ช่วยลดภาระงานของบุคลากรในงานด้านข้อมูล หมดปัญหาเวชภัณฑ์หมดอายุ เพราะมีการบันทึกวันเข้าและวันออกจากคลังแบบเรียลไทม์ ขณะเดียวกันก็ยังเชื่อมโยงสู่ระบบโลจิสติกส์ เพราะภายในโรงพยาบาลจะมีคลังย่อยต่างๆ แต่การบริหารจัดการแบบภาครัฐ จะให้ความสำคัญกับคลังใหญ่เป็นหลัก มีการเช็คข้อมูลสต๊อก ของเข้าและออกในคลังใหญ่ แต่ยังไม่มีระบบจัดการข้อมูลในคลังย่อย หากเป็นไปได้ก็อยากเห็นทุกโรงพยาบาลในประเทศไทยมีระบบคลังอัจฉริยะที่เชื่อมโยงข้อมูลไปถึงคลังย่อยแบบครบวงจร สามารถดูภาพรวมของที่มีอยู่ในโรงพยาบาลได้ทั้งหมด จะทำให้เห็นภาพได้ชัดเจน" รศ.นพ. พฤหัส กล่าวเพิ่มเติม 

โครงการพัฒนาคลังเวชภัณฑ์อัจฉริยะ เป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ร่วมกับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และบริษัททำน้อยได้มากจำกัด ผู้ให้บริการด้านระบบการจัดการคลังสินค้า และผู้ให้คำปรึกษาด้านลีน ที่มาร่วมกันพัฒนาคลังเวชภัณฑ์เพื่อรองรับการทำงานของโรงพยาบาลต่อการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 โดยขณะนี้ยังอยู่ในช่วงหาทุนสนับสนุนวิจัย เมื่อได้รับทุนแล้วก็พร้อมลงมือพัฒนาคลังเวชภัณฑ์อัจฉริยะได้ทันที