ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (11 ก.ค.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลง ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในวันนี้ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.24% แตะที่ระดับ 101.7344ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 140.4630 เยน จากระดับ 141.3010 เยนในวันจันทร์ (10 ก.ค.) ขณะเดียวกันก็อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8799 ฟรังก์ จากระดับ 0.8854 ฟรังก์, อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3239 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3279 ดอลลาร์แคนาดา และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.6696 โครนา จากระดับ 10.7647 โครนาส่วนยูโรทรงตัวที่ระดับ 1.0999 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2928 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2856 ดอลลาร์ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีลดลงสู่ระดับ 3.998% เมื่อคืนนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนมิ.ย.ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI เดือนมิ.ย.จะเพิ่มขึ้น 3.1% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวจากระดับ 4.0% ในเดือนพ.ค. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 5.0% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวจากระดับ 5.3% ในเดือนพ.ค.นักลงทุนคาดว่า หากดัชนี CPI ชะลอตัวลงก็จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เฟดยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนซึ่งรวมถึงนางแมรี ดาลี ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก และนางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ ต่างก็ออกมาส่งสัญญาณว่าเฟดใกล้จะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนอกเหนือจากดัชนี CPI แล้ว นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจอีกหลายรายการของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนมิ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนก.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน