เมนูอาหารอเมริกัน

[Tawanida]

  เมนูอาหารอเมริกัน ที่เราได้รวบรวมมาในวันนี้ จึงเป็นการผสมผสานระหว่างอาหารอเมริกันต้นตำรับ และ อาหารอเมริกันที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน 




 1. พิซซ่าสไตล์ชิคาโก (Chicago Deep Dish Pizza)

มากันที่เมนูแรกนั่นคือ เมนู Deep Dish Pizza ซึ่งแม้ว่าจานนี้ จะมีหน้าตา และ รสชาติคล้ายคลึงกับพิซซ่าขจองประเทศอิตาลี แต่ในความเป็นจริงแล้ว จานนี้คืออาหารอเมริกันอย่างแท้จริง ซึ่ง Deep Dish Pizza เป็นเมนูอาหารที่คิดค้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เมืองชิคาโก้ในปี ค.ศ 1943 โดยคุณ Ike Sewell และ Ric Riccardo ที่ได้รวมกันเปิดร้านพิซซ่าที่ชื่อว่า Pizzaria Uno โดยมีเมนูพิซซ่าซิกเนเจอร์ที่ได้รับการผสมผสานระหว่างความเป็นอาหารอิตาเลียน และ อาหารอเมริกันอย่างลงตัว โดยจานนี้จะแตกต่างจากเมนูพิซซ่าทั่วไปที่ตัวขอบ หรือ บริเวณ Crust ที่มีความหนามากกว่าพิซซ่าอิตาเลียนทั่วไป โดยไส้ด้านในประกอบไปด้วยไส้ชีสเยิ้มๆ เนื้อแน่นๆ และ มะเขือเทศแบบเต็มคำ ซึ่งส่วนประกอบเหล่านี้ สามารถบ่งบอกถึงความเป็นอาหารอเมริกันได้อย่างแท้จริงนั่นเอง 

และเอกลักษณ์ของอาหารจานนี้ ที่นอกจากรสชาติที่อร่อยเหอะ และหากินได้ยากที่ประเทศไทยแล้ว พิซซ่า Deep Dish Pizza ยังเป็นอาหารอเมริกัน สไตล์ Neapolitan ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น "UNESCO Heritage Protection" อีกด้วย ซึ่งนักท่องเที่ยวคนไหนที่อยากลิ้มลองรสชาติของพิซซ่าสไตล์ชิคาโก้แบบต้นตำรับ เราขอแนะนำ ร้าน Lou Malnati's ร้านพิซซ่าชื่อดังที่โด่งดังมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของเมืองชิคาโก้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมนูอาหารอเมริกัน Chicago Deep Dish Pizza นั่นเอง



2. พายแอปเปิ้ล (Apple Pie)

เมื่อพูดถึงอาหารอเมริกัน เชื่อว่านักท่องเที่ยวหลายคนมักจะมองข้ามเมนูขนมหวาน (Desert) และ เมนูเรียกน้ำย่อย (Appatizer) โดยการไปโฟกัสกันที่เมนูอาหารหลัก และ ของทอดกันซะมากกว่า แต่เชื่อหรือไม่ว่าอีกหนึ่งเมนูอาหารอเมริกัน MUST TRY ที่พลาดไม่ได้หากคุณมีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศอเมริกานั่น ได้แก่ เมนูอาหารอเมริกัน Apple Pie ซึ่งเมนูนี้ มาพร้อมกับแป้งทาร์ตหวานๆ อบอวลไปด้วยกลิ่นเนยในทุกคำ และสอดไส้ด้วยแอปเปิ้ลหวานกรอบ เสิร์ฟร้อนๆ นิยมรับประทานคู่กับไอศกรีมวานิลลาเพื่อดับเลี่ยนนั่นเอง 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าชาวอเมริกันจะนิยมรับประทาน Apple Pie ในเทศกาลเฉลิมฉลองต่างๆ ตั้งแต่เทศกาล Forth of July ไปจนถึง เทศกาลวัน Thanksgiving จนทำให้เมนูนี้ถูกมองว่าเป็นอาหารอเมริกัน ซึ่งสัญลักษณ์ของเทศกาลแห่งความสุขไปในที่สุด แต่ในความเป็นจริงแล้วเมนู Apple Pie นั้น มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นอาหารที่ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ และ จักรวรรดิออตโตมัน 



3. โปเก โบลว์  (Poke Bowl)

อาหารอเมริกัน หน้าตาคล้ายคลึงกับข้าวหน้าปลาดิบของประเทศญี่ปุ่นจานนี้ มีชื่อว่า โปเก หรือ Poke ซึ่งเป็นอาหารอเมริกันฮาวายแบบดั้งเดิม ซึ่งได้รับความนิยมอย่างยิ่งในหมู่พ่อค้าชาวประมง ซึ่งพวกเขาจะนำเอาปลาทะเลสดๆ ที่จับได้ มาปรุงรสเพื่อดับกลิ่นคาว และมีรสชาติที่อร่อย จากนั้นจึงนำมามรับประรับทานคู่กับผักชนิดต่างๆ และ ข้าวสวยร้อนๆ ซึ่งเมนูโเกแบบต้นฉบับฮาวายนั้น จะใช้วัตถุดิบหลักเป็นปลาทูน่าครีบเหลือง และ ปลาหมึก อย่างไรก็ตามในปัจจุบันได้มีการดัดแปลง โดยได้เพิ่มส่วนผสมหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ปลาแซลมอน, กุ้งสด, ปูทะเล, หอยแมลงภู่ และ พืชผักนานาชนิด เช่น แครอท, หอมแดง, ต้นหอม, มันหวาน, กระเทียม, สาหร่ายลิมู (สาหร่ายสีน้ำตาล) , ถั่วเทียน และ วัตถุดิบที่ได้รับความนิยม มากที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้น อาโวคาโด ซึ่งสำหรับคนไทยอย่างเราๆ แล้ว อาจจะมองว่าเอาอาโวคาโดมาทานคู่กับข้าวจะเข้ากันได้หรอ แต่เมื่อได้ลองแล้ว รับรองว่าจานนี้จะต้องกลายเป็นอาหารอเมริกัน อีกหนึ่งจานที่ติดใจอย่างแน่นอน 

แม้หน้าตาอาหารอเมริกันจานนี้จะดูจืด แต่ไม่ได้จืดอย่างที่คิดเลย เพราะทุกร้านจะมาพร้อมกับตัวเลือกซอส ไม่ว่าจะเป็นซอส Ponzu sauce, Wasabi aioli, Sweet chili, Teriyaki และ ซอสที่ผู้เขียนชื่นชอบเมื่อนำมาทานคู่กับโปเกมากที่สุดนั้น ได้แก่ ซอส Sriracha mayo ที่จะให้รสชาติ หวานๆ เผ็ด กำลังดี 



4. ซุปครีมหอยลาย (Clam Chowder)

อย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้น เมนูอาหารอเมริกันนั้น มีความหลากหลาย และ ได้อิทธิพลมาจากหลากหลายเชื้อชาติ โดยหนึ่งในเมนูอาหารอเมริกันที่ได้รับความนิยมรับประทานอย่างแพร่หลายในประเทศสหรัฐอเมริกาจนได้รับยกย่องให้เป็นหนึ่งในอาหารอเมริกัน แต่แท้ที่จริงแล้วมีต้นกำเนิดมาจากประเทศเพื่อนบ้านนั้น คือ เมนู Clam Chowder หรือ เมนูซุปหอยลาย ซึ่งเมนูนี้ เดิมทีมีต้นกำเนิดมาจากประเทศฝรั่งเศส อย่างไรก็ตามก็ได้มีข้อถกเถียงจากกลุ่มชาวประมงบางกลุ่มว่าจริงๆ แล้วเมนู Clam Chowder เป็นอาหารอเมริกันอย่างแท้จริง และมีต้นกำเนิดมาจาก New England ซึ่งเป็นภูมิภาคทางตอนเหนือของประเทศสหรัฐอเมริกา ถูกเสิร์ฟเป็นครั้งแรกที่เมือง Boston ณ ร้านอาหารที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศที่ชื่อว่า Ye Olde Union Oyster House นั่นเอง

longbet69.life/]ในปัจจุบัน หน้าตาของเมนูอาหารอเมริกันจานนี้ มีหลายรูปแบบ แต่รูปแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดนั้น มีอยู่ 2 สไตล์ด้วยกัน ได้แก่ New England-style Clam Chowder และ Manhattan-style Clam Chowder ซึ่งรูปแบบนิวอิงแลนด์นั้น จะมาพร้อมกับตัวซอสสีครีมขาว รสชาติกลมกล่อมนุ่มลิ้น ในขณะที่สไตล์แมนแฮตตัน มากับซอสสีแดง ซึ่งมีรสชาติเข้มข้น ออกไปทางเผ็ดหน่อยๆ[/url]



5. ปีกไก่ทอด Buffalo Wings

เมื่อได้ยินคำถามที่ว่า "อาหารอเมริกัน มีอะไรบ้าง" เมนูไก่ทอดทั้งหลายเป็นเมนูอาหารอเมริกันขึ้นชื่อ ที่ไม่ว่าคุณจะเคยไปเที่ยวอเมริกา หรือ ไม่ก็ตาม จะต้องเคยได้ลิ้มลองกันทุกคน เพราะเพียงแค่คุณเดินออกไปหน้าปากซอย เชื่อเลยว่าคุณจะต้องเห็นร้านไก่ทอดสไตล์อเมริกันอย่างน้อย 2-3 ร้าน อย่างไรก็ตาม เมนูไก่ทอดสุดไอคอนิกที่ชาวอเมริกันนิยมรับประทานคู่กับเบียร์เย็นๆ ในขณะดูบอลกับเพื่อนฝูงนั้น ไม่ใช่ไก่ทอดจากร้านอาหาร Chain ชื่อดังอย่าง KFC, McDonald's หรือ Texas Chicken แต่อย่างใด แต่กลับเป็นเมนู ปีกไก่ทอด Buffalo Wings ที่มาพร้อมกับรสชาติที่หอมนุ่มจากเนย และ ซอสที่ออกหวานปนเผ็ดร้อนเล็กของซอส ซึ่งแต่ละร้อนจะมีการใช้สูตรซอสที่แตกต่างกันออกไปนั่นเอง 

ชื่อ Buffalo Wings นั้น มาจากชื่อเมือง Buffalo ในรัฐ New York ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของเมนูอาหารอเมริกันขึ้นชื่อจานนี้ โดย Buffalo Wings เป็นอาหารอเมริกันที่อยู่คู่กับชาวอเมริกันมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี  ค.ศ 1964 ทำให้เมื่อเวลาผ่านไป เมนูนี้ได้มีการผสมผสานเครื่องปรุง และ ได้มีการพัฒนารสชาติซอสให้มีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ซอสสไตล์ BBQ, Asian รวมไปจนถึงในรูปแบบ cheese-topped นั่นเอง